NovelToon NovelToon

The Perspective Of Resasonace (Thai Ver.)

บทที่๑

การแสดงออกของชนกลุ่มน้อยที่มีฝันอันยิ่งใหญ่หวังว่าจะมีที่ยืนและการยอมรับสักครั้งในสังคม จากตอนปลายของยุคกลางถึงปี๒๕๒๓ เกิดการประท้วงของกลุ่มคนเพศทางเลือกเมื่อกลุ่มคนส่วนใหญ่ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านความคิดและความเข้าใจเป็นอย่างมาก พวกเข้าไม่เห็นความสวยงามตลอดกาลกำลัวมาถึง

พวกเขาไม่มีการยอมรับหรืออิสระใดๆแม้แต่พื้นที่ในสังคม กลุ่มวัยรุ่นของเพศทางเลือกไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมหรือครอบครัวของเขาก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มคนผิวสีที่มีความแตกต่างเป็นอย่างมากที่สังคมจะยอมรับพวกเขาเพราะความแตกต่างของผิวสีและเพศ พวกเขามีพื้นที่ที่เข้าใจพวกเขาซึ่งมีที่พึงพิ่งจากกลุ่มคนเดียวกันที่เรียกตนว่าคุณแม่ของแต่ละบ้านที่เข้าใจดังครอบครัวแท้ๆของเด็กๆพวกนั้น

“หมวดหมู่ในครั้งนี้คือ--” เสียงกังวานไปทั่วนฤตยศาลา โฆษกชายวัยกลางคนใส่เสื้อสีสันสดใสที่ดูออกว่าเป็นงานมือที่สวยงามเหมือนในร้านเสื้อผ้าในห้างชั้นนำและแว่นสี่เหลี่ยมกรอบทองที่เขาใส่เป็นประจำทุกๆวันที่มา เสียงพูดทามกลางกลุ่มคนที่กำลังจดจ่อสิ่งที่เขาพูดอยู่ “—สวยเล่อค่าดังเจ้าหญิงและเจ้าชายในปราสาทแห่งในยุคของเจ้าหญิงอลิซซาเบธที่๑!” เสียงแห่งความสุขของผู้คนในนฤตยศาลาดังขึ้นและต่อด้วยเพลงดังที่สุดในยุคนั้น หนุ่มสาวเดินออกมากับชุดที่หรูหราและมาพร้อมกับความมั่นใจ คะแนนจากกรรมการสู่บ้านแต่ละบ้านอย่างรื่นเริง “มีใครอีกมั้ย?”โฆษกของงานได้กล่าวถามทุกคนในนฤตยศาลา เด็กหญิงหน้าตาสระสวยและมีผิวสีเดินออกมาด้วยมันใจเต็มอก “สาวน้อยคนนี้เป็นใครกัน” โฆษกเอ่ยอย่างประหลาดใจกับทุกคน เด็กหญิงหน้าตาสระสวยออกลีลาการเดินแบบด้วยความสุขและท้วงท่าที่สวยงามดั่งมืออาชีพเหมือนเจ้าหญิงในปราสาทใหญ่กับเจ้าชายในฝันของใครหลายๆคน “โอ้!เธอเหมือนเจ้าหญิงออกมาจากการ์ตูนดิสนี่ย์ทั้งสร้อยคอวิคตอเรียแวววาวอันสวยงามพร้อมกับมงกุฏอันทรงพลังบนหัวของเธอและเดรสสีเขียวอ่อนที่พริ้วไหวบนตัวเธอช่างเหมาะสมกันมาก!” โฆษกบรรยายความสวยงามของเธอระหว่างที่ทุกคนกำลังหลงละเริงกับความสวยของเธอ “เอาล่ะๆ!เราจะไม่เสียเวลาไปมากกว่านี้ ฉันขอคะแนนให้เธอได้มั้ย?” โฆษกถามกับกรรมการทั้ง๕ขัดจังหวะความสนุกสนานของผู้คนในนฤตยศาลา “๑๐!๑๐!๑๐!๑๐!๑๐! ให้กับเธอในค่ำคืนนี้!” โฆษกกล่าวท่ามกลางพร้อมกับความสุขจากผู้คนในนฤตยศาลาแห่งนี้ “นี้เป็นของเธอแล้วนะ” หนึ่งในกรรมการยินดีกับเด็กหญิงและมอบถ้วยรางวัลอันใหญ่ให้ นี้เป็นแค่ความฝันที่ไม่เป็นดรื่องจริง ฉันอยากเป็นดีไซน์เนอร์ที่โด่งดัง เป็นผู้หญิงที่สวยและมีที่ยืนในสังคม — ใช่,ฉันเป็นวัยรุ่นผิวสีคนหนึ่งและเป็นเกย์

บทที่๒

สวัสดีทุกคน ผมชื่อทีโอ ในทุกๆวันผมจะกลับจากโรงเรียนเร็วอยู่เสมอเพื่อจะได้ไปเรียนแฟร์ชั่นไม่ก็บัลเล่ต์ด้วยการออมเงินจากเบี้ยเลี้ยงจากการที่พ่อให้มา แต่ในบางครั้งผมต้องออกไปทำงานตามร้านอาหารในระแวกบ้านเพื่อตบตาพ่อแม่ ฉันวิ่งกลับบ้านมาก่อนที่พ่อจะกลับมาเห็นผมในสภาพที่ผมวิ่งออกมาจากโรงเรียนสอนเต้นใกล้ๆบ้าน ผมโยนชุดบัลเล่ต์และรองเท้าเข้าไปในใต้เตียงและคลุมด้วยผ้าอีกทีอย่างรีบร้อนหลังจากนั้นผมก็รีบเอาการบ้านออกมาจากกระเป๋าพร้อมกับเปิดเพลงโปรดบนเทปคาสเซ็ตหลังจากที่ได้ยินเสียงรถพ่อมาจากไกลๆ “สวัสดีครับพ่อ มีอะไรเหรอครับ? ผมกำลังจะเริ่มทำการบ้านเลย” พ่อกับผมไม่ค่อยสนิทกันมากเท่าไรเป็นเพราะพ่อไปทำงานตลอดเวลา “นี้คืออะไร? หนังสือโป๊เกย์เหรอ! กูอุส่าห์เลี้ยงดูมึงมาให้เป็นชายแท้! แต่ตอนนี้มึงไม่ใช่ลูกกูอีกแล้ว! เก็บของแล้วไสหัวแล้วไม่ต้องกลับมาอีก!” พ่อด่าฉันด้วยความผิดหวังระหว่างตีฉันด้วยเข็มขัดอย่างแรง ที่พึงที่ดีที่สุดของผมได้เข้ามาในห้องเพราะเสียงโวยวายของพ่อและผม แม่ผมเอง “ทำไมคุณถึงตีลูกโดยไม่สาเหตุล่ะ?” เธอห้ามปรามพ่อที่กำลังตีผมอยู่ “ไม่มีสาเหตุเหรอ? แล้วนี้คืออะไร?” พ่อตะโกนด้วยความโกรธแค้น “พ่อ! อย่า!” ผมพยายามห้ามพ่อทั้งน้ำตา แต่ไม่ได้ผล แม่ผมร้องไห้ซึ่งผมก็รู้ว่าเธอยอมรับไม่ได้กับ ตัวตนจริงๆของผม “แม่รักลูกเสมอ แต่แม่ขอโทษด้วย แม่รับไม่ได้จริงๆ”แม่พูดพร้อมน้ำตา “มึงไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีก!” พ่อผมตะโกนไล่หลังผมหลังจากพ่อแตะผมมออกจากบ้าน มันเป็นการจาก ลาที่แย่ที่สุดในชีวิต แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดีเหมือนกัน

ผมต้องเปิดโลกใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหลายปีตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้ โชคยังอยู่ข้างผมเสมอ ผมมีเงินพอที่จะเช่าอพาร์ทเม้นถูกๆและร้านมุมถนน ผมตัดเย็บเสื้อผ้าและเดรสขายเพื่ออยู่รอดไปวันๆ “ความฝันของเรา” ผมคิดลอยๆอย่างภูมิใจก่อนจะปิดร้าน หลายเดือนต่อมา ผมสามารถขายเสื้อผ้าได้มากขึ้นและมากขึ้นมากกว่าที่คาดหวังไว้ “ไง เธอเอาเสื้อผ้ามาจากไหนน่ะ”หญิงแปลกหน้าท่าทางมีฐานะที่ร่ำรวยในย่านนี้ “ผมทำขึ้นมาเองทั้งหมดรวมถึงเครื่องประดับด้วยค่ะ” ผมตอบด้วยความภาคภูมิใจและเป็นตัวเอง “ฉันทีโอค่ะ เรียกว่าเทียน่าก็ได้” ผมแนะนำตัวเอง “ฉันโดมินิค ฉันเป็นคุณแม่ของบ้านอีวานเจลิสตา” โดมินิคแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ “เราจะรวบรวมวัยรุ่นที่โดนพ่อแม่แตะออกมาจากบ้านเพียงเพราะมีสิ่งที่แตกต่างจากคนปกติและพวกเขามีของดีอยู่ในตัวแบบเราไง” เธออธิบาย ในตอนแรกผมไม่เข้าใจมัน ผมจึงตอบด้วยความลังเลไม่น้อย “มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยนะคะ แต่ฉันขอกลับเอาไปคิดก่อนนะ”

“ไม่เป็นไร เมื่อไหร่ที่เธอว่าง เธอสามารถมาหาฉันได้เสมอ” โดมินิคยืนเศษกระดาษที่มีที่อยู่

บทที่๓

ไม่กี่วันต่อมา เมืองใต้แสงจันทร์ได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง แสงสลัวๆจากไฟถนนและไฟตามผับหรือร้านอาหารที่แทรกประตูออกมาจากอาคาร ฉันเดินเข้าไปในตึกที่สภาพหรูหราที่สุดในย่านสลัมเล็กๆแห่งนี้ มันดูคัดหูคัดตากะไรกัน ฉันรวบรวมความกล้าที่จะเคาะประตูสองสามนาทีก่อนที่จะเคาะมัน หลังจากนั้นไม่นานประตูได้เปิดขึ้น “ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่นี้” โดมินิกพูดด้วยความประหลาดใจ “เข้ามาก่อนสิ” เธอเชิญฉันอย่างเป็นกันเอง “ไงค่ะ!” ทุกคนในห้องพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร ในอพาร์ตเมนต์นี้มีสี่คนพวกเขาเป็นเหมือนครอบครัวที่อบอุ่น เราทานอาหารเย็นและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับชีวิตที่ตกระกรรมลำบากของเรา ฉันไม่รู้เลยว่ามันผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว “เธอเปลี่ยนใจหรือยัง?” มิลลี่ถามฉันอย่างตื่นเต้น “ฉันต้องคิดเรื่องนี้ด้วยเหรอ? ฉันอยากอยู่ที่นี่มันเหมือนบ้านของฉันและฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของพวกเธอ!” ฉันอุทานด้วยความดีใจ “ฉันดีใจที่เธออยู่ที่นี่กับเราและยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว!” โดมินิกตะโกนและกอดฉันแน่นด้วยความสุขเต็มอก “เราอยากชวนเธอมานฤตยศาลาคืนพรุ่งนี้” มิ๊กซี่กล่าว “เราต้องเตรียมชุดก่อนไปนฤตยศาลาในธีมคือราชวงศ์” โรซาเรียสมทบ “ฉันมีชุดให้พวกเธอทุกคน” ฉันพูดอย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้น ฉันเปิดอัลบั้มเสื้อของฉันด้วยการออกแบบของฉัน พวกเขาดูประหลาดใจและตกหลุมรักเสื้อผ้าของฉันเป็นอย่างมาก

เช้าวันต่อมา ครอบครัวใหม่มาที่ร้านของฉันและพวกเขาสนุกกับการลองเสื้อผ้าทุกชิ้น คืนนั้นเราไปนฤตยศาลา เราหยุดอยู่หน้าทางเข้าก่อนที่จะลงไป กลิ่นบุหรี่ผสมกับน้ำหอมหลายยี่ห่อกับเสียงเพลงดังเป็นจังหวะ คนที่เชียร์ด้วยความสุข “ฉันทำแบบนี้ไม่ได้นะแม่” ฉันพูดในขณะที่ฉันตัวสั่น “นี้! อย่าเป็นคนขี้ขลาดสิ ทำความฝันให้เป็นจริงก่อนที่มันจะสายเกินไป” โดมินิกให้กำลังใจฉันก่อนจะเดินเข้าไป “ฉันไม่ค่อยเก่งในการให้กำลังใจใครนัก แต่ฉันรู้ว่าไม่มีใครอยากตายก่อนที่ความฝันของพวกเขาจะเป็นจริงหรอก” โรซาเรียจับมือฉันและช่วยฉันถือเสื้อผ้ากับมิกซี่และมิลลี่ไปที่ห้องแต่งตัวขนาดเล็กและมีกลิ่นอับเพราะความเก่า “ชิบหายแล้ว พวกเราจะสายเกินไป เร็วกว่านี้อีก!” โดมินิกพูดอย่างรวดเร็วในขณะที่เธอใส่ชุดของเธอ "มีใครอีกไหม?" โฆษกถามทุกคนในห้อง "เดี๋ยวก่อน! แกลืมเราอีกแล้วดเหรอ เจสซี่" มิลลี่เข้าไปในใจกลางของเวทีโดยมีสปอตไลท์สีขาวส่องอยู่เหนือหัวของเธอ "ฉันเกือบจะลืมไปแล้วที่รัก ยินดีต้อนรับสู่บ้านของอีวานเจลิสตา!" เจสซี่อุทาน การตกแต่งภายในนฤตยศาลาแห่งนี้แตกต่างจากด้านนอกโดยสิ้นเชิง ห้องได้รับการตกแต่งด้วยไม้สีอ่อนเคลือบเงาและประดับประดาด้วยไฟตลอดแนวห้อง ด้านข้างของห้องมีบาร์แยกต่างหากและห้องโถงเล็ก ๆ ในห้อง เราเดินเข้าไปด้วยความมั่นใจกลางห้องและการต้อนรับของทุกคนในนฤตยศาลาระหว่างเพลงโปรดของฉันกำลังเล่น “ทำไมเหมือนฉันฝันเลย” ฉันคิดลอยๆด้วยความประหลาดใจ ฉันแสดงการเดินแคทวอล์กที่ดีที่สุดของฉันเหมือนฉันอยู่บนพรมแดงในงานเดินแบบชาเนล เรากำลังแสดงและเต้นรำเหมือนเจ้าชายหรือเจ้าหญิงในวัง “ว้าว! ดูชุดทั้งหมดนี้สิ มันเป็นงานมือที่ประณีตที่สุดเท่าที่ฉันเคยเห็นมา!” เจสซี่กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เธอขโมยมาจากพิพิธภัณฑ์ข้างๆอีกแล้วใช่ไหมโดมินิก” เจสซีพูดติดตลกในขณะที่หัวเราะไปพร้อมกับคนอื่น ๆ “เด็กคนนี้ทำด้วยมือของเธอเองรวมถึงเครื่องประดับด้วยถ้าไม่เชื่อลองถามเธอเองสิ เจสซี่” โดมินิกมองมาที่ฉันเพื่อบอกทุกคนในสิ่งที่พวกเขาต้องการฟัง “ฉันทำทั้งหมดด้วยตัวเองจริงๆและฉันก็เป็นเจ้าของร้านแถวหัวมุมถนนนี้ด้วยด้วย” ฉันตอบอย่างหวาดกลัว “ว้าว! เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆเราจะไม่เสียเวลาฉันขอคะแนนให้พวกเขาได้ไหม” เจสซี่พูดขัดจังหวะผู้คนในนฤตยศาลาย่างสนุกสนาน “๑๐!๑๐!๑๐!๑๐!๑๐! ให้กับบ้านอีวานเจลิสตาในค่ำคืนนี้!”เจสซี่ประกาศคะแนนด้วยเสียงโห่ดีใจร้องของทุกคนในนฤตยศาลา “ทุกคน!ถ้วยรางวัลนี้เป็นของคุณแล้ว”ผู้ตัดสินคนหนึ่งต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้มขณะจัดการกับถ้วยรางวัลขนาดใหญ่ *ความฝันของฉันเป็นจริงและตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาความสุขที่แท้จริงก็เริ่มขึ้น*

ชีวิตของฉันดีขึ้นอย่างมากตั้งแต่นั้นมาเป็นต้นมา ตอนนี้ฉันเป็นนักออกแบบแฟชั่นที่โด่งดังในหมู่คนทั่วอเมริกาและร้านเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้ามากมายและนี่คืออัตชีวประวัติของฉัน

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!