NovelToon NovelToon

My Boss บอสซุปตาร์กับเลขาแฟนคลับ

แรกเริ่ม

ประเทศไทย

ปี2031

"เฮ้ยมึง!!!" เสียงของหญิงสาวคนนึงพูดขึ้นเสียงดัง

"อะไรของมึงวะ อยู่ใกล้แค่นี้ จะตะโกนเพื่อ"ฟอร์ยูพูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองซันช่ายเพื่อนสาวของตนด้วยความสงสัย

"พูด เรียกทำไม กูกำลังดูเฮีย(แจ็คสัน เจ)ไลฟ์อยู่เลย"ฟอร์ยูถามย้ำอีกครั้งแล้วกอดอกยืนฟังคำตอบของเธอ

"คือ คือมึงงงงง มึง มึง มรึ๊งงงง"ซันช่ายตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจอะไรสักอย่าง

"โอ้ยอะไรของมึงว่ะ อีช่าย ลีลาว่ะเฮ้ย มีอะไรก็รีบๆพูดมาดิ กูรอฟังนานละ"ฟอร์ยูด่าเพื่อนของเธอพร้อมกับมองบนแล้วเดินมาดูสิ่งที่เพื่อนของเธอกำลังจ้องมองอยู่

"มึงดูนี่ดิ"ซันช่ายชี้ให้เพื่อนสาวของเธอดูในหน้าจอคอมที่มีผลประกาศรายชื่อพนักงานใหม่ของบริษัท มาร์คสตูดิโอ

"ไหน ประกาศรายชื่อหัวหน้าฝ่ายบัญชีคนใหม่ คุณซันช่าย ขอให้รีบมารายงานตัวภายใน2เดือน เฮ้ย นี่มึงได้เป็นหัวหน้าเลยหรอ"เมื่อฟอร์ยูได้อ่านใบประกาศจบก็ทำให้เธอตกใจเป็นอย่างมาก

"เออดิ ต้องหัวหน้าอยู่แล้วป่ะ มาร์คผัวกูเลยนะมึง ก็งี้แหละ"ซันช่ายหันมายิ้มตอบเพื่อนสาวของเธอ

"อ่ะจ้ะๆ แต่ว่ามึงต้องไปรายงานตัวภายใน2เดือนที่เกาหลีนะเว้ย"ฟอร์ยูคิดรายละเอียดต่างๆแล้วหันไปบอกเพื่อนของเธอ

"เออว่ะมึง พาสสปอร์ต วีซ่า กูยังไม่ได้เตรียมเลยอ่ะ งั้นกูขอไปเตรียมตัวก่อนนะเว้ยมึง อาทิตย์หน้ากูจะบินล่ะ ส่วนมึงก็รอ แจ็คสันอยู่ที่นี่ไปนะจ๊ะ เขาคงไม่อยากให้มึงไปทำงานลำบากแหละเพื่อนเลยไม่รับมึงเข้างี้"ซันช่ายพูดกับเพื่อนพร้อมกับเดินยิ้มออกไปอย่างร่าเริง

"ชิ้ ขิงเข้าไปเถอะ เฮ้อออ ทำไมเฮียแจ็คเขาไม่รับเราเข้าไปทำงานน่ะ ศักยภาพไม่พอหรอ น่าอิจฉาชะมัดเลย อีช่ายก็ได้ไปสมใจละ ก็เหลือแต่แกนี่แหละยัยพัชเอ้ย"ฟอร์ยูบ่นพึมพำกับตัวเอง (พัชคือชื่อไทยของฟอร์ยู) (ช่ายคือชื่อไทยของซันช่าย)

*ขออธิบายเพิ่มเติมนะค่ะ ฟอร์ยูกับซันช่ายเนี่ย เขาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนปวช.1 สาขาบัญชี ด้วยความชอบศิลปินวงเดียวกันเลยทำให้พวกเขาสนิทกันมาก อย่างฟอร์ยูเธอชอบแจ็คสัน เจ(อายุห่างกับฟอร์ยูถึง12ปี) ส่วนซันช่ายเพื่อนของเธอก็ชอบมาร์คคึ(อายุห่างกัน12ปี) พวกเธอสองคนก็เลยมาเรียนภาษาเกาหลีเสริมด้วยกันเพื่อที่จะไปหาศิลปินที่ตนเองชื่นชอบแต่แล้วเมื่อพวกเธอเรียนจบ อายุได้26ปี ซันช่ายกับฟอร์ยูก็มีความคิดที่จะสมัครเข้าไปทำงานบริษัทของแจ็คสันและมาร์ค

แต่ซันช่ายกลับถูกเรียกให้ไปเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชี เนื่องจากบริษัทของมาร์คเนี่ย ขาดพนักงานด้านบัญชีพอดี

แต่ฟอร์ยูสาเหตุที่เธอไม่ได้รับเลือกก็เพราะว่าบริษัทของแจ็คสัน เจ พนักงานฝ่ายบัญชีได้เต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กลับมาที่ปัจจุบัน

1อาทิตย์ต่อมา

"แล้วคือกูต้องอยู่คนเดียวหรอมึง มึงรีบไปขนาดนั้นเชียว"ฟอร์ยูที่นั่งมองเพื่อนของเธอเก็บกระเป๋าเดินทางอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วถามคำถามออกไปอย่างเศร้าๆ

"เออน่า มึงอยู่ได้เชื่อกู พอดีว่ามาร์ครอกูอยู่ ไม่ต้องทำหน้าเศร้าเลยมึงเนี่ยตอแหลมากเพื่อน คิดถึงก็ไปหากูก็แค่นั้นเองมึง"ซันช่ายหันมาตอบเพื่อนของเธอแล้วลุกขึ้นมาตบไหล่เบาๆ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ

"แต่มึง...ทำไมเฮียเขาไม่เลือกกูว่ะ นี่กูเรียนภาษาจีนไปคุยกับเขากูยังยอมลงทุนเรียนภาษาเกาหลีเพิ่มไปอีกนะเว้ย แบบคือคุณสมบัติขนาดนี้อ่ะมึง แต่เขาไม่เลือกกู"ฟอร์ยูตัดพ้ออกมาอย่างเซ็งๆ

"เอาน่ามึง อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวเขาเปิดรับสมัครพนักใหม่ มึงก็สมัครไปสิ เขาก็คงจะเห็นหน้ามึงบ่อยจนเลือกก็ได้"ซันช่ายพูดเชิงให้กำลังใจเพื่อนอย่างติดตลก

"เออๆ ไปเก็บของมึงให้เสร็จเถอะเดี๋ยวกูช่วย ไปพรุ่งนี้ละ เดี๋ยวกูไปส่งที่สนามบิน"ฟอร์ยูพูดกับซันช่ายด้วยน้ำเสียงที่ปกติ

"หู้ยย ซารางเฮโย"ซันช่ายทำมือรูปหัวส่งให้ฟอร์ยูพร้อมกับยิ้มแล้วพูดเสียงสองเสียงสามเสียงสี่เสียงห้าใส่เพื่อนของเธอ

"ไม่ต้องมารักกู กูงอน ชอบทิ้งกูไว้คนเดียว"ฟอร์ยูตอบเพื่อนของเธอด้วยน้ำเสียงงอนๆแต่เธอก็ไม่ได้งอนเพื่อนของเธอจริงๆหรอก มันเป็นแค่นิสัยที่พวกเธอสองคนชอบทำใส่กันก็เท่านั้น

"ขอโทษ อะเดี๋ยวกูเลี้ยงขนม"ซันช่ายพูดขอโทษพร้อมกับทำมือเหมือนร้องไห้ แล้วเธอก็เปลี่ยนน้ำเสียงและสีหน้าอัตโนมัติโดยบอกว่าจะเลี้ยงขนมตามนิสัยเดิม

"เค งั้นกูไม่งอนล่ะ"ฟอร์ยูตอบเพื่อนของเธอแล้วก็เข้าไปช่วยซันช่ายเก็บกระเป๋า

"อีเหี้ย เหี้ยมากนะ นิสัยไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่16ยัน26เลยนะมึง"ซันช่ายพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนๆ

"ยูทู"ฟอร์ยูตอบพร้อมกับเลิกคิ้วใส่เพื่อนของเธอ การกระทำนี้มันทำให้ทั้งคู่ยิ้มออกมาไม่น้อย

.

.

.

บริษัทมาร์คสตูดิโอ ประเทศเกาหลี

ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องของท่านประธานดังขึ้น

"เชิญ"

"ท่านประธานครับ คือว่า คุณรับพนักงานฝ่ายบัญชีมาใหม่หรอครับ"เสียงชายคนนึงถามขึ้น

"ป่าวหรอกคุณหัวหน้ายู(หัวหน้าฝ่ายบัญชี) ผมรับหัวหน้าฝ่ายบัญชีเข้ามาใหม่ต่างหาก"มาร์คพูดพร้อมกับทำหน้าเข้มแล้วค่อยๆมองตั้งแต่เท้าขึ้นมาถึงบนหัวของหัวหน้ายู

"ทำไม ทำไมถึงจ้างหัวหน้าใหม่ละครับ ตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่นี้อยู่ไม่ใช่หรอ "หัวหน้ายูถามขึ้นอย่างสงสัยพร้อมกับหลบตาของท่านประธานที่มองมาไม่กระพริบตา

"หัวหน้ายู คุณยังมีหน้ามาถามอีกหรอ!!!"มาร์คลุกขึ้นทุบโต๊ะเสียงดังลั่น พร้อมกับตะคอกใส่หัวหน้ายู

"ผะ ผม อธิบายได้"หัวหน้ายูพูดด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักด้วยความกลัว

"ผู้จัดการปาร์ค เข้ามา"มาร์คตะโกนเรียกผู้จัดการส่วนตัวของเขาที่ยืนรออยู่ข้างนอกพร้อมกับหันกลับมามองที่หัวหน้ายูด้วยสายตาที่ดุดัน

"ผมไม่ต้องการคำอธิบายของคุณหรอกครับ หัวหน้ายู เจอกับที่ศาลนะครับ"มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่แฝงไปด้วยความโกรธและความน่ากลัวสำหรับคนที่ได้ฟัง พร้อมกับหยิบเอกสารจากมือของผู้จัดการปาร์คมาปาใส่หน้า หัวหน้ายูด้วยความโมโห พร้อมกับเดินออกจากห้องประธานไป

"นี่ๆๆ มาร์คคึของเรา มีมุมน่ากลัวขนาดนี้เลยหรอ"เสียงของชายคนนึงเดินเข้ามาพร้อมกับปรบมือเสียงดังแล้วมาหยุดเดินที่หน้ามาร์ค

"มีสิ นายอยากลองเจอดูมั้ย แจ็คสัน"มาร์คตอบด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว

"ก็ลองดูสิ "แจ็คสันพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ท้าทายปนหาเรื่อง พร้อมกับสายตาพร้อมบวกใส่มาร์ค

"นี่ พอแล้วน้า ฉันก็แค่โมโห ฉันน่ะใจดีจะตายใช่มั้ยล่ะ พวกเรารีบไปเถอะจะใกล้เวลาอีเว้นท์แล้ว"มาร์คเปลี่ยนมาพูดน้ำเสียงมาพูดปกติกับแจ็คสัน

"ครับๆๆ พี่กลัวผมละสิ"

"ป่าว"

"ผมรู้ว่าพี่กลัว"

"นี่ ไปๆรีบไปได้แล้ว"มาร์คพูดตัดบทพร้อมกับรีบเดินนำไป

ไม่ได้ดั่งใจ

และที่มาร์ครีบเดินนำหน้าเเจ็คสันไปนั้น มันก็เป็นเพราะว่าเขากลัวเวลาที่แจ็คสันโหดจริงๆ มันไม่เคยมีใครได้เห็นความโหดของแจ็คสันมาก่อน เพราะแจ็คสันนั้น เป็นคนที่ตลก ร่าเริง สดใส เป็นที่รักของใครหลายๆคน เป็นคนที่ให้เกียรติคนอื่นมาก ด้วยนิสัยแบบนี้ของเขา คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่า สกิลความโหดของแจ็คสันก็ไม่ได้น้อยไปกว่าความสดใสของเขาเลย

"พี่มาร์ค ผมได้ข่าวว่าพี่รับพนักงานเข้ามาใหม่หรอ"แจ็คสันถามขณะที่นั่งรถไปยังสถานที่จัดงานอีเว้นท์

"ใช่นะสิ นายก็ควรรับเลขาเข้ามาได้แล้วนะ ให้ผู้จัดการพัคทำสองอย่างคงเหนื่อยแย่"มาร์คหันกลับไปตอบแจ็คสันพร้อมเสนอแนะ

"เรื่องเลขาผม ไม่จำเป็นหรอก ผู้จัดการพัคไหวอยู่แล้ว ใช่ไหม.."แจ็คสันพูดตอบมาร์คพร้อมกับหันไปมองผู้จัดการพัคที่เบาะหลัง แต่ผู้จัดการพัคก็ได้หลับไปแล้วเพราะความเหนื่อยที่ควบสองหน้าที่ไว้คนเดียว

"นี่ รับสมัครเถอะน่า พัคจินกยอม เขาไม่ไหวแล้ว ไม่เห็นหรอ"มาร์คพูดออกไปพร้อมกับมองไปที่ผู้จัดการพัค

"ครับๆ ผมจะลองคิดดู แต่ว่าทำไมพี่ถึงไล่หัวหน้ายูออกล่ะ"แจ็คสันหันมาถามมาร์คด้วยสีหน้าจริงจัง

"เห้อ หัวหน้ายูน่ะ ยักยอกเงินในบริษัทหลายรอบแล้ว ฉันรู้มาตลอดแหละ แต่ที่เงียบเพราะฉันเกรงใจพ่อฉัน ที่ฝากหัวหน้ายูมาทำงาน พวกเขาเป็นเพื่อนกันนี่ แต่ครั้งนี้ฉันไม่ไหวจริงๆ"มาร์คอธิบายด้วยน้ำเสียเซ็งๆพร้อมกับส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา

"แล้วคนที่จ้างมาใหม่ ไว้ใจได้หรอ"แจ็คสันถามพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด

"ฉันไม่รู้ละ เห็นเขาสมัครมาหลายรอบ ฉันเลยรับไว้ รอดูไปก่อนแล้วกัน ไม่ต้องชวนคุยแล้วนะ ฉันจะพักสายตาสักหน่อย"มาร์คพูดตัดบท

แจ็คสันก็ได้แต่ยักไหล่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอะไรบ้างอย่าง

"ฟอร์ยู น่าเสียดายที่สมัครตำแหน่งที่มันเต็มแล้ว"แจ็คสันนั่งอ่านประวัติของฟอร์ยูพร้อมกับบ่นออกมาเบาๆ

.

.

.

.

.

ประเทศไทย

สนามบิน

"ใจหายว่ะ"ฟอร์ยูพูดขึ้นขณะช่วยซันช่ายลากกระเป๋ามาที่สนามบิน

"แหนะ อะไรของมึงอีกละ คิดถึงก็สมัครบริษัทเฮียให้ติดดิ่ว่ะ"ซันช่ายหันมาพูดกับเพื่อน

"เออๆๆ"ฟอร์ยูตอบแบบส่งๆ

"เดินทางปลอดภัยนะมึงอีช่าย เอ้ย เมียมาร์ค"ฟอร์ยูพูดกับเพื่อนด้วยใบหน้าที่ยินดี

"ค่ะ เมียแจ็คสันก็รีบตามมานะ ไปละ กูขึ้นเครื่องละมึง"ซันช่ายเตรียมลากกระเป๋าไปวางแล้วเตรียมจะเดินไปขึ้นเครื่อง

"เห้ยมึง ถึงแล้วโทรหากูด้วยนะ"ฟอร์ยูตะโกนไล่หลังพร้อมกับทำมือเป็นท่าโทรศัพท์ ส่วนซันช่ายก็หันมาคำนับให้เพื่อนของเธอทีนึงพร้อมกับโบกมือบ๊ายบาย

.

.

.

.

3เดือนต่อมา

ประเทศเกาหลี

"แจ็คสัน ฉันน่ะหาเลขาให้นายตั้งหลายคนแล้วน่ะยังไม่ถูกใจอีกหรอ รีบหาได้แล้วน่า ฉันเหนื่อย"ผู้จัดการพัคเดินเข้ามาโวยวายในห้องท่านประธาน

"นายหาไม่ดี มีแต่แฟนคลับฉันทั้งนั้น ฉันไม่อยากเอาแฟนคลับมาทำงาน มันจะไม่ดีต่อตัวเเฟนคลับด้วยแทนที่ทำงานอาจจะมาค่อยจับจ้องฉัน งานก็ไม่เดินน่ะสิ ทำไมไม่หาคนที่ไม่ใช่แฟนคลับฉันล่ะ"แจ็คสันพูดบ่นอย่างเซ็งๆ เพราะเขาพูดแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว

"ครับๆๆ ผมผิดเอง จะไปหาแบบที่ถูกใจมาให้เดี๋ยวนี้แหละ"ผู้ช่วยพัคพูดอย่างเซ็งๆพร้อมกับหันหลังเดินคอตกออกจากห้องไป

"ฮัลโหล เป็นไงบ้างมึง ได้เจอมาร์คบ้างมั้ย"ฟอร์ยูกดรับสายพร้อมกับยิงคำถามใส่เพื่อนเธออย่างไม่ยั้ง

"เป็นไงล่ะ อยากจะมาเจอมาร์ค มาร์คก็ดันมีงานที่LAสลับกับที่เกาหลีเยอะเหลือเกิน กูไม่เห็นเขาจะเข้าบริษัทเลย เฮ้ยเซ็งว่ะมึง"ซันช่ายบ่นตัดพ้อกับเพื่อนของเธอ

"จริงอ่ะ สมน้ำหน้ามึงอ่ะ รีบไปก่อนกูไง ก็ยังไม่ได้เจอ รู้สึกมีความสุขว่ะ"ฟอร์ยูพูดพร้อมกับหัวเราะซะใจอยู่คนเดียว

"โห่ นี่มึงมีความสุขในความทุกข์ของเพื่อนหรอว่ะ กูงอน"ซันช่ายพูดขึ้นอย่างงอนๆ

"อ่ะๆๆๆ กูง้อ"ฟอร์ยูพูดอย่างกวนๆ

"เออๆๆ"

"ละมึงมีไรอีกป่ะกูจะไปทำงานต่อละ"ฟอร์ยูพูดขึ้น

"ไม่มีหรอก กูแค่เหงา คิดถึงไรงี้"ซันช่ายตอบอย่างยิ้มๆ

"อ่ะจ้ะๆๆ เอาเงินมาดิเดี๋ยวกูบินไปหาเลย"ฟอร์ยูตอบเพื่อนอย่างจริงจัง

"งั้นกูไม่คิดถึงล่ะ แค่นี้แหละ บายยยย"ซันช่ายพูดจบก็กดวางสายทันที

ติ๊ง เสียงข้อความของเธอเด้งขึ้น

"อีเหี้ย..."พบว่าเป็นข้อความจากฟอร์ยูที่ทักมาด่าเธอเล่นๆ

"อุ้ยแรงนะ"ซันช่ายตอบกลับ

1ปีผ่านไป

"แจ็คสัน ประธานชเวมาขอเข้าพบ"ผู้จัดการพัคเอ่ยขึ้น

"นี่ ตอนนี้อยู่ที่บริษัทนะ ฉันเป็นท่านประธานนะ เรียกท่านประธานสิ"แจ็คสันพูดใส่ผู้ช่วยพัคอย่างจริงจังปนติดตลก

"ครับๆท่านประธาน แต่ว่านะฉันสมัครมาเป็นผู้จัดการนาย ไม่ได้จะมาเป็นเลขา ทำไมจะต้องเลือกเลขามีเงื่อนไขเยอะขนาดนี้ มันไม่ได้หาง่ายๆนะเว้ย เห้ออ"ผู้จัดการพัคบ่นออกมาอย่างหัวเสียให้แจ็คสันฟังแล้วเดินออกไปทันที

"เอ่อ ฉันเป็นเจ้านายแกนะเว้ย ทำ ทำไมพูดจากับฉันแบบนี้ว่ะ"แจ็คสันลุกขึ้นยืนแล้วพูดเบาๆอย่างหงุดหงิด

"ประธานเจ ไม่เจอกันนายเลยนะครับ"แจฮยองเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับทักแจ็คสันขึ้น

"ใช่ ประธานชเวแจฮยอง"แจ็คสันตอบกลับพร้อมกับเดินมายืนประจันหน้าแจฮยอง

จากนั้นทั้งคู่ก็เดินเข้าหากันแล้วกอดทักทายกันเบาๆตามประสาคนรู้จัก

"นี่ ไม่เจอกันนานจริงๆ เป็นยังไงบ้าง กลับมาอยู่เกาหลีถาวรเลยหรอ"หลังจากที่กอดเสร็จแจ็คสันก็ถามคำถามแจฮยองไม่น้อยด้วยความคิดถึง

"พี่ ค่อยๆถามก็ได้ครับ ผมน่ะมาดูแลกิจการที่นี่แล้ว คงอยู่ยาวเลยแหละ ที่มานี่ก็เพราะว่ามีสินค้าตัวใหม่จะมาเสนอร่วมงานกับพี่นี่แหละ"แจฮยองตอบด้วยรอยยิ้ม

"อ่อ ได้สิ ไว้ฉันจะตรวจดูนะ"แจ็คสันตอบรับคำ

.

.

.

"โอ๊ะ บริษัทเฮียประกาศรับสมัครเลขาของเฮียนี่ ไหนดูสิ"ฟอร์ยูที่กำลังเลื่อนเฟสเรื่อยเปื่อยก็เลื่อนไปเจอกับประกาศรับสมัครงานตำแหน่งเลขาของท่านประธานบริษัทเจสัน

"โอ๊ะ ไม่รับแฟนคลับ ต้องอายุน้อยกว่า30 ไม่มีภาระอื่น มีเวลาให้งานตลอด เรียกใช้ได้ตลอดเวลา มีความคิดเชิงบวก ขยัน ตรงต่อเวลา และซื่อสัตย์ เงื่อนไขนี่ ฉันน่าจะรับไหวอยู่นะ แต่ว่าแฟนคลับนี่สิ เอายังไงดี"ฟอร์ยูที่นั่งอ่านใบประกาศก็นั่งคิดนั่งถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าจะเอายังไง

"อ่า คิดออกแล้ว แค่ไม่บอกว่าเป็นแฟนคลับก็ได้นี่ คงจับไม่ได้หรอกมั้ง เอาว่ะยัยพัชลองเสี่ยงดูสักตั้ง ตำแหน่งเลขาก็แค่งานๆนึง เธอทำได้"ฟอร์ยูพูดกับตัวเองด้วยความมั่นใจ พร้อมกับกรอกใบสมัครไปอย่างอารมณ์ดี

.

.

ติ๊ง

"โอ๊ะ มีคนมาสมัครแล้ว ฉันจะรอดตายแล้วสินะ"ผู้จัดการพัคพูดขึ้นด้วยความโล่งใจหลังจากได้รับใบสมัครทางอีเมล์จากฟอร์ยู

.

.

เหมือนฝันเลยอ่ะ

"โทรไปบอกอีช่ายดีมั้ยนะ"ฟอร์ยูครุ่นคิดหลังจากที่ส่งใบสมัครเรียบร้อย

.

.

.

"คุณมาร์คคึครับ คุณจะไม่ไปดูหัวหน้าบัญชีคนใหม่เลยหรอครับ"ผู้ช่วยปาร์คถามอย่างสงสัยในขณะที่กำลังขับรถพามาร์คกลับไปที่คอนโด

"อืม เอาไว้ก่อน อาทิตย์หน้าผมต้องเตรียมบินไปทำงานที่ญี่ปุ่นกับวงแล้ว ไม่มีเวลาไป ไว้หลังกลับจากญี่ปุ่นฉันจะเข้าไปดู"มาร์คตอบด้วยน้ำเสียงที่เฉยๆแล้วหันหน้าไปดูวิวที่ด้านนอกของรถ

.

.

.

ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

"เข้ามา"แจ็คสันพูดขึ้นหลังจากได้ยินเสียงเคาะประตู

"ท่านประธานครับ มีเลขามาสมัครเป็นเลขาของคุณแล้วนะครับ นี่ประวัติของเธอ"ผู้ช่วยพัคพูดพร้อมกับยื่นเอกสารให้แจ็คสันดู

"อืม ฟอร์ยู เป็นคนไทย ไทยแท้ๆเนี่ยนะ"แจ็คสันถามขึ้นเมื่อเห็นประวัติคร่าวๆของฟอร์ยู

"ครับ อย่างพึ่งรีบตัดสินสิครับ ดูประวัติเธอให้มันหมดซะก่อน"ผู้ช่วยพัคพูดพร้อมกับพยักหน้าขึ้นบนเป็นเชิงบอกว่าให้ไปอ่านให้จบ

"พูดภาษาจีนได้ ภาษาเกาหลีได้ ภาษาไทยได้ วุฒิปริญญาตรีสาขาบัญชี อายุ26ปี ไม่ใช่แฟนคลับฉัน"แจ็คสันอ่านจบก็หันไปมองหน้าผู้ช่วยพัคแล้วทำหน้ากำลังคิดอะไรสักอย่าง

"พี่แจ็ค รับเลขาคนใหม่เข้ามาเถอะครับ สงสารผู้จัดการพัคเขา"แจฮยองเดินเข้ามาพร้อมกับพูดขึ้นพรางเอามือไปจับไหล่ของผู้ช่วยพัค

"อื้มๆๆๆ รับคนนี้นี่แหละ รับเข้ามาก็สอนงานเธอด้วยล่ะ"แจ็คสันพูดตัดบทพร้อมกับโยนเอกสารคืนให้ผู้จัดการพัค

"ครับ!!" ผู้จัดการพัคตอบพร้อมกับเดินออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

"มาหาฉัน มีอะไรงั้นหรอ"แจ็คสันถามแจฮยองขึ้น

"อ่อ ผมมาชวนพี่ไปงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ของผมน่ะ"แจฮยองพูดขึ้น

"วันไหน!"

"อีก2วัน"แจฮยองตอบพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าโต๊ะประธาน

"ไม่ว่างมีงานที่ญี่ปุ่นน่ะ แต่ว่าฉันยังไม่ได้เชิญให้นั่งเลยนะ"แจ็คสันพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

"เฮ้อน่าเสียดายเนอะแต่พี่ อย่าทำหน้าดุสิครับ น่ากลัวนะเนี่ย"แจฮยองพูดแล้วยิ้มออกมา แจ็คสันก็ได้แต่ยักไหล่ให้โดยที่ไม่ได้ตอบโต้อะไร

.

.

.

.

"กรี๊ดดดดดดดดดดด"เสียงกรี๊ดของผู้หญิงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นลั่นห้องเมื่อมีอีเมลเด้งให้เธอไปรายงานตัวที่บริษัทเจสัน ใช่แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คือฟอร์ยูนั่นเอง หลังจากที่เธอได้รับอีเมลตอบรับเธอก็ดีใจกระดี้กระด้าเสียงดังลั่นห้อง

ปัง ปัง ปัง

"เห้ย นังหนู เสียงดังเกินไปไหม ช่วยเบาเสียงหน่อยคนอื่นเขาจะหลับจะนอน"เสียงป้าข้างบ้านจากนอกห้องตะโกนดังขึ้น

"ค่ะๆๆ ขอโทษค่ะ"ฟอร์ยูตะโกนตอบด้วยใบหน้าที่กำลังยิ้มดีใจ

"เห้ย นี่กูต้องโทรไปบอกไอ่ช่ายนิ มันจะด่ากูมั้ยว่ะที่สมัครงานไม่บอกมัน แถมยังไม่ใช่งานบัญชีอีก โทรไปต้องโดนมันด่าแน่ๆเลย เอาไงดีว่ะ" หลังจากที่ฟอร์ยูนั่งดีใจอยู่คนเดียวได้ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่เคยบอกเพื่อนสาวของเธอว่าได้สมัครงานในบริษัทเจสัน

"เอาว่ะ ไหนๆก็ไหนๆละ จะโดนด่าก็คุ้มอยู่ดี" ฟอร์ยูพูดกับตัวเองพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซันช่าย

"เออ ว่าไงมึง"เสียงปลายสายดังขึ้นหลังจากที่ฟอร์ยูโทรติดต่อได้ไม่นาน

"มึง คืองี้เว้ย กูมีข่าวดีจะบอก"ฟอร์ยูพูดอย่างตื่นเต้น

"เออ มีอะไรก็พูดมาดิ กูรอฟังอยู่"ซันช่ายตอบอย่างหงุดหงิดเพราะเธอกำลังนั่งเคลียร์เอกสารบัญชีอยู่ที่บริษัท

"คือบริษัทเฮีย เขารับกูเข้าทำงานเลยเว้ยมึง"ฟอร์ยูพูดออกไปอย่างดีใจ

"เห้ย จริงดิมึง หึ้ยดีใจด้วยนะมึงงงงง งี้มึงก็จะบินมาเกาหลีแล้วดิ ใช่ปะ หึ้ยย ดีใจว่ะ"หลังจากที่ซันช่ายได้ฟังเธอก็ดีใจกับเพื่อนสาวของเธอเป็นอย่างมาก

"ใช่มึง อาทิตย์หน้ากูก็จะไปแล้วเว้ย แล้วกูพักกับมึงได้ป่ะว่ะ"ฟอร์ถามกลับด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"เออได้มึง เอ่อละเขารับมึงตำแหน่งอะไร บัญชีป่ะเพื่อน"ซันช่ายถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่อยากรู้สุดใจ

"เลขามึง"ฟอร์ยูตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ

"ห้ะ นี่มึงบ้าป่ะเนี่ยทำอะไรไม่ปรึกษากูก่อน มึงเรียนเอกบัญชีน่ะเว้ยไม่ใช่เลขานุการ แล้วคือยังไงมึงทำงานเลขาเป็นหรอห้ะ นี่มึงคิดอะไรอยู่ว่ะตอนสมัครอ่ะ มึงไหวหรอ ละคือเขาก็รับมึงงี้ เลขาก็ดีอยู่หรอกได้อยู่ใกล้พี่เเจ็คอ่ะ แต่มึงไม่ได้เรียนเลขาเพื่อน มึงกะจะทำวันเดียวแล้วโดนไล่ออกรึไงห้ะ!!!!!"ซันช่ายที่ได้ฟังคำตอบของฟอร์ยูเธอก็ปรี๊ดแตกทันที แต่เพราะเธอเป็นห่วงเพื่อนของเธอกลัวว่าเพื่อนจะทำไม่ไหว เธอถึงจะด่าออกไปแบบนั้น

"เออๆ ใจเย็นดิว่ะ อย่าพึ่งด่ากูได้ป่ะมึง กูไหวน่ามึง เลขาเองจิ๊บๆ ถ้าปรึกษามึงก็ไม่ให้กูสมัครดิ รู้ว่าเป็นห่วงแต่กูไหว เออๆๆมารับกูที่สนามบินด้วยนะอีช่าย รักมึงน้าาา จุ๊บๆๆ วางละบายย"ฟอร์ยูหลังจากที่เธอฟังเพื่อนสาวบ่นจนหูชาก็รีบพูด แล้วรีบวางสายใส่เพื่อนของเธอทันที

"เดี๋ยวมึง ไอ่พัช หืมทีงี้วางสายกูไวเชียวนะ "ซันช่ายตะโกนเรียกเพื่อนแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะฟอร์ยูเธอได้กดวางสายไปเรียบร้อย

.

.

.

1อาทิตย์ต่อมา

ข้อความ

"กำลังขึ้นเครื่องละ"ฟอร์ยูส่งข้อความหาซันช่ายก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่องไป

"เออเดี๋ยวไปรอรับ"

.

.

.

14:00น.

"นี่ เคลียร์ทางอย่าให้แฟนคลับเห็นฉันกับแจ็คนะ ฉันไปถ่ายเอ็มวีลับกันมาที่ญี่ปุ่นถ้าเเฟนคลับรู้เข้าแย่แน่ๆไปเคลียร์ทางด้วย"หลังจากที่มาร์คและแจ็คสันลงเครื่องแล้ว มาร์คก็หันไปบอกผู้จัดการปาร์คด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"ครับ"

"ทำไมยังไม่ถึงอีกนะ รอจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ย"ซันช่ายที่มายืนรอเพื่อนเธอที่สนามบินก็บ่นไปรอไปจนเธอทนไม่ไหว รีบเดินเข้าไปในสนามบินเพื่อนไปหาเพื่อนของเธอทันที

ในขณะที่มาร์คคึกับแจ็คสันกำลังรีบเดินออกมาจากสนามบินอย่างเนียนๆ จู่ๆมาร์คก็เดินชนผู้หญิงคนนึงเข้าอย่างแรง

"โอ้ย ขาฉัน เดินไม่เห็นคนรึไงย่ะ "ซันช่ายที่ถูกชายคนนึงชนก็รีบเงยหน้าขึ้นมาดูทันที

"เป็นอะไรไหมครับ ขอโทษครับพอดีผมรีบ"เสียงผู้ชายก็ตอบกลับพร้อมกับนั่งยองๆมาดูขาให้ซันช่าย

"ก็เจ็บน่ะสิ แต่ว่าเสียงคุณคุ้นๆนะค่ะ มาร์ค มาร์คคึใช่ไหม"ซันช่ายมองตาของมาร์คคึแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นไม่น้อย

เมื่อมาร์คได้ยินแบบนั้นก็หันไปหาเเจ็คสันแล้วพูดว่า

"นายไปก่อน เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง"มาร์คหันไปพูดด้วยสีหน้าที่ปกติ พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆซันช่าย แล้วกระซิบที่ข้างหูว่า

"ผมทั้งใส่แมสใส่หมวกใส่เสื้อแขนยาว คุณยังจำผมได้อีกหรอครับ"

"(หึ้ยย มาร์ค มาร์คจริงๆด้วยอ่ะ อร้ายยยย ใกล้มากแม่ โอ้ยจะเป็นลม ไม่ได้ป่ะซันช่ายแกต้องเก็บอาการเอาไว้ หึ้ยแต่ไหวหรอว่ะ นี่มาร์คเลยนะเว้ย)"ซันช่ายพูดกับตัวเองในใจ ในขณะที่ใจเธอก็เต้นอย่างแรง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!