“ ความตายมันก็ไม่ได้เจ็บปวดเท่าไหร่” ร่างของชายหนุ่มออกเสียงแผ่วเบา ขณะที่ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว เขามองไปที่สัตว์ประหลาดสีดำข้างหน้าก่อนจะก้มลงสำรวจตัวเอง
ร่างกายที่นอนพิงซากปรักหักพังของเขาเต็มไปด้วยด้วยสีม่วงส่องประกายไปทั่วร่างกาย ขณะที่เลือดสีม่วงไหลออกจากบาดแผล มันค่อยๆส่งกลิ่นเหม็นสังกะสีก่อนที่ความเป็นประกายของมันจะเริ่มหม่นลงกลายเป็นสีดำ
ความเจ็บปวดไล่ขึ้นมาจากปลายเท้าสู่แขนขาและร่างกายที่ไม่สมประกอบ
ชุดรบสีดำแดงที่ขาดรุ่งริ่ง เกราะที่ดูเหมือนเศษขยะ เขามองไปที่แขนขวาที่ไม่มีอยู่จริงอีกต่อไป ไม่ทราบว่ามันตกไปอยู่ในท้องของสัตว์ประหลาดสีดำที่กำลังย่างกายเข้ามาพร้อมความหิวโหยหรือกระเด็นไปตกอยู่ส่วนในของสนามรบ เช่นเดียวกับขาทั้งสองข้างที่หลังจากความเจ็บเข้าครอบงำก็รู้สึกเพียงความชา เขาแทบขยับร่างกายไม่ได้อย่างสมบูรณ์
“ถ้าเพียงแต่ไม่เชื่อเรื่องบ้าๆนี่!” เขาสบถอย่างหัวเสียด้วยเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่
กรรร..
“อ่า… โทษทีนะคู่หู” เสียงคำรามต่ำได้ยินอยู่ไม่ไกลจากเขา มันพยายามลุกขึ้นมา ทว่าสิ่งที่มันเหลือมีเพียงร่างกายที่ไม่มีแขนขา ปีกข้างหนึ่งถูกฉีกขาด ที่ดวงตาของมันแสงสีม่วงประกายที่เคยเจิดจรัสใกล้ดับแสงลง
“มนุษย์” เสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหัวของเขา สัตว์ประหลาดสีดำตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาในที่สุด เสียงนี้ไม่ได้ออกมาจากอวัยวะที่เหมือนปากของมัน แต่กลับดังขึ้นในหัวของเขาโดยตรง
“ว่าไงไอ้สัตว์ประห…” เขาตอบโต้กลับไป แต่ก่อนจะจบประโยค เขาไอเป็นเลือดออกมาก่อน
“นักรบจากเผ่าพันธุ์ชั้นต่ำที่ถูกทอดทิ้ง พวกเจ้าซ่อนมันไว้ที่ไหน”
“ฮ่าๆ เจ้าหมายถึงสิ่งนี้” เขาใช้แขนข้างที่เหลืออยู่หยิบบางอย่างออกมา มันเป็นกล่องเหล็กสีเงินที่รอบๆมีพลังงานที่โกลาหล เขาปลดสลักด้วยคำสั่งเสียงก่อนที่สิ่งที่อยู่ด้านในจะปรากฏขึ้น
สัตว์ประหลาดสีดำแสดงท่าทางบ้าคลั่งทันทีที่เห็นมัน กรงเล็บที่แข็งแกร่งแทงลงมาทันที่หวังฆ่าชายหนุ่มให้ตาย ทว่ากลับต้องหันไปด้านข้างรีบป้องกันลำแสงสีม่วงที่โจมตีเข้ามา
“หึ่ม!! เดรฉานชั้นต่ำนอกคอก” มันปัดลำแสงออกไปอย่างง่ายดายด้วยโล่ที่เกาะติดบนแขน ก่อนจะดึงขวานขนาดมหึมาของมันออกมาจากด้านหลัง ทุบเข้าใส่ร่างที่อยู่ด้านข้างของชายหนุ่ม
ดวงตาของเขามองคู่หูที่ร่างถูกแยกออกมาอย่างไม่กะพริบตา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ ต่อศัตรูตรงหน้า ต่อตัวเขาเอง และเผ่าพันธุ์ของเขาก็เช่นกัน
“ถ้าเพียงไม่โลภสิ่งบ้าๆที่ไม่รู้จักนี่!” ชายหนุ่มสบถด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนที่สัตว์ประหลาดสีดำจะทันตั้งตัว เขาโยนมันเข้าไปในปากก่อนจะกลืนมันลงไป
“ไม่! มนุษย์” เสียงคร่ำครวญของสัตว์ประหลาดดังขึ้น
ทว่าร่างกายที่ระเบิดออกของชายหนุ่มไฉนเลยจะได้ยินมัน
‘แบบนี้ก็ดีแล้ว ได้พักผ่อนสักที’ ความคิดสุดท้ายของเขาดังสะท้อนอยู่ในความว่างเปล่า ทว่าก่อนที่ความปรารถนาของเขาจะเป็นจริง ความเจ็บปวดรวดร้าวก็เข้ามาพร้อมเสียงดัง
“ตื่น! ไท ตื่น! เทศกิจมาแล้วโว้ย รีบเก็บของ”
“หื้ม!” เขาลืมตาตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน แสงที่สาดเข้ามาทำให้เขาไม่สามารถปรับโฟกัสได้ในทันที ทว่าไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัว ความเจ็บปวดก็แล่นเข้าสู่หัวของเขาอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะน้ำตาของเขาไหลจากความเจ็บที่หัว ทำให้ในที่สุดเขาก็มองไปรอบๆได้ชัดเจน เขารีบหันไปทางที่สิ่งที่โจมตีเขาเมื่อสักครู่
“อะไร! พวกมิมิค? แต่…” เขาตายแล้วนี่ หรือนรกเป็นที่อยู่ของพวกมัน
“มิมิค? มิมิคบ้านป้าเอ็งซิโว้ย พ่อเอ็งมาแล้ว รีบเก็บของ ข้าไม่รอแล้วนะโว้ย” ชายวัยกลางคนตะโกนอย่างรีบร้อน
“เอ๊ะ! ลุง…” สมองของเขาเหมือนกับเบลอไปในทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า
“ลุงก็ตกนรกเหมือนกันเหรอ?” เขาอุทานด้วยความตกใจ ทว่าชายวัยกลางคนไม่ได้อยู่ฟังแต่มีเสียงตะโกนตอบกลับมา
“นรกบ้านเอ็งสิ ถ้าเอ็งยังไม่หนีเอ็งได้ตกนรกจริงๆแน่ถ้าของเอ็งถูกพวกมันเอาไป”
ชายหนุ่มแสดงสีหน้างุนงงก่อนจะรีบหันไปสำรวจรอบข้าง
“ที่นี่มัน?” เขาอุทานออกมาก่อนจะลุกพรวดขึ้นเหมือนไฟฟ้าช็อต เขาเห็นตำรวจในชุดเทศกิจพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับภาพของพ่อค้าแม่ค้าที่รวบของหนีกันวุ่นวาย
“จับเขา!” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังก่อนที่เขาจะรู้สึกตัวแขนสองข้างก็ถูกรวบอย่างแน่นหนา
“เอ่อ คือ?”
“ยังไม่ต้องพูดไอ้หนุ่ม ตามไปที่สถานี”
“ไม่ ผมไม่ได้จะอะไร แต่ขอถามได้ไหม” เมื่อเห็นว่าแขนทั้งสองข้างที่ถูกจับนั้นมาจากชายชุดเทศกิจสองคนหาใช่จากสิ่งที่เขาคิด เขาไม่ได้แสดงอาการขัดขืนว่ากลับถามคำถามแทน
“มีอะไรไปคุยกันที่สถานี”
“ไม่ๆ ผมแค่จะถามว่านี่ปีอะไร”
“บ้าอะไรเนี้ย กลัวจนสมองกลับรึไงถ้าไม่ใช่ 2023!”
“2023!! ค.ศ.เก่า?”
“รับพาตัวไปพร้อมของ อย่ามัวแต่คุย!”
“รับทราบ” เทศกิจที่ล็อคตัวเขาไว้โต้ตอบกันไปมา
ทว่าในหัวของชายหนุ่ม ไม่สิ!ในหัวของเด็กหนุ่มตอนนี้นั้นว่างเปล่า ความรู้สึกเหมือนถูกกนะแสไฟฟ้าสายน้อยแล่นเข้าสู่ร่างกาย
‘นะ นี่! การย้อนเวลา??’
ไม่นานเขาถูกส่งตัวในรถตำรวจพร้อมกับพ่อค้าแม่ค้าคนอื่นๆที่หนีไม่ทันสี่ห้าคน
เสียงพร่ำบ่นเซ็งแซ่ของพวกเขาดังอยู่ข้างๆ เขาพบว่ามีใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่ในความทรงจำของเขา แม้จะยินดีที่ได้พบกันใหม่แต่จิตใจของเขาตอนนี้กลับไม่ได้โฟกัสอยู่ที่มัน ถ้าเขาจำไม่ผิดวันที่เทศกิจได้จับกุมพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของผิดกฏหมาย เช่นพวกซากของสัตว์แปลก เขี้ยวและเล็บของพวกมัน
เป็นเวลาสามปีกว่าแล้วที่พวกสัตว์แปลกๆปรากฏขึ้นทั่วโลก รัฐบาลออกแถลงถึงการกลายพันธุ์ของสัตว์ธรรมดาตั้งแต่ปี 2020 พวกมันดุร้ายขึ้นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขนาดที่ต้องมีการปราบปราม ชิ้นส่วนของพวกมันพบว่ามีคุณค่ามหาศาลต่อการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ พวกมันถูกมนุษย์ล่าด้วยความโลภและอยากรู้อยากเห็นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้สกว่าของมนุษย์ เช่นอาวุธปืนยังสามารถจัดการพวหมันอย่งง่ายดาย ตั้งแต่นั้นอุตสาหกรรมหลายอย่างก็ก่อตัวขึ้นตั้งแต่เล็กๆไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ร่วมมือกับทั้งรัฐบาลและเอกชน แม่กระทั้งลักลอบ
ในช่วงเวลานี้เขาเป็นเด็กหนุ่มอายุ 16 ปีที่อาศัยในย่านสลัมหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพ่อค้าที่นำชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์กลายพันธุ์ที่ผิดกฏหมายมาขายในตลาดมืด
ระหว่างที่กำลังรำลึกถึงความทรงจำเก่าๆของเขา รถได้มาถึงสถานีตำรวจ พวกเขาถูกพาตัวไปฝากขังไว้ในห้องต่างๆ
“ไท?” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนดังขึ้น
“คุณ?”
“อะไร วันนี้เอ็งกินยาผิดขนาดหรือยังไง นี่มันรอบที่เท่าไหร่แล้วที่เอ็งถูกจับมา” นายตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาก่อนฝ่ามือของเขาจะตกลงหวังฟาดหัวของเด็กหนุ่ม
ทว่าต่างจากความคิดที่นายตำรวจคิดว่ามันจะเหมือนทุกครั้งที่เขาตีหัวเด็กหนุ่มเพื่อสั่งสอน ฝ่ามือของเขาทำได้เพียงหวดไปในอากาศ
“เอ๊ะ!”
“สวัสดีครับหมวด นานแล้วนะครับที่ไม่ได้พบกัน” ชายหนุ่มตอบ
“อุ๊บ๊ะ ไอ้ไทเดี๋ยวนี้เอ็งหลบเก่งรึ หึ รอบนี้สามวัน อย่าคิดว่าจะได้ปล่อยตัวง่ายๆถึงแม้จะมีกฎหมายคุ้มครองเยาวชน”
ชายหนุ่มทำเพียงขดยิ้มตอบก่อนจะถูกพาตัวไป เขาต้องการเวลาในการทำความเข้าใจและนึกถึงความทรงจำในอดีต
เสียงดังแก๊ง! ห้องฝากขังถูกล็อค
ไท เด็กหนุ่มถูกนำมาขังไว้ในห้องแยกด้วยเหตุที่ตำรวจไม่อยากให้เยาวชนถูกขังรวมกับผู้ต้องขังผู้ใหญ่รายอื่น
ไทมองสำรวจไปรอบๆ ชิ้นส่วนความทรงจำที่ขาดหายเริ่มปะจอดปะต่อกันในที่สุดหลังจากพยายามนคกถึงเหตุการณ์ต่างๆ
ไมเหลือบมองที่กระดานในห้อง ก่อนจะพบว่ามันเป็นวันที่ 3 มกราคม ปี 2023 หลังวันขึ้นปีใหม่ได้เพียงสองวัน
‘เดี๋ยวก่อน!! วันที่ 3 มกราคม!’ ในตอนนี้เองเขารีบหันไปหานาฬิกาแขวน
18 นาฬิกา 50 นาที!
‘บ้าจริง! ทำไมถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ตอนนี้ อีกสิบนาที อีกแค่สิบนาที!!’
เขาไม่คิดอย่างอื่น ร่างกายของเขาบิดจัวก่อนที่จะฟาดขาของเขาเข้าใส่กรงห้องฝากขัง
ปัง!!
กรงห้องฝากขังสั่นสะเทือนเล็กน้อยเท่านั้น ทว่าขาของเขากลับรู้สึกได่ถึงความเจ็บปวด
ไม่นานเสียงเอะอะก็ดังขึ้นพร้อมกับนายตำรวจคนเดิมที่เขารู้จักเดินเข้ามาด้วยใบหน้าอึมครึม
“ไท ไอ้เด็กบ้านี่ วันนี้เงเป็นอะไร กล้าถึงกับจะแหกห้องขังรึไง”
ไทกำลังอยูากับอาการเจ็บขา เขาเพิ่งคิดได้ว่าร่างกายนี้เป็นร่างกายของเขาตอนกาอนเกิดภัยพิบัติ
“หมวดเร็ว ไม่มีเวลาแล้ว ปล่อยผม!!”
“ปล่อยบ้านเอ็งสิ อยู่เงียบๆอย่ารบกวนผู้ใหญ่กำลังทำงาน”
“หมวด ไม่ ปล่อยผม ภัยพิบัติกำลังมา หมวด!!” ไทตะโกน
ทว่านายตำรวจคนดังกล่าวกลับทำเพียงหัวเราะเสียงดังก่อนจะโบกมือให้เขาแล้วเดินจากไป
“โถ่ หมวด จำไว้ จับหินเรืองแสงให้ได้เข้าใจไหมหมวด จับหอนเรืองแสง!” ไทตะโกนตามหลังไป เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสนใจคำพูดเขาไหม แต่เขาได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว อย่างน้อยอีกฝ่ายต้องได้ยิน
ใบหน้าตื่นตระหนกของเขากลับมาสู่ความสุขุมอีกคนั้งก่อนที่จะนั่งลงกับพื้น
เขาหลับตาลง ถ้าหากไม่อาจออกไปได้ เขาทำได้เพียงภาวนาอยู่ภายใน
‘ขอแค่มันปรากฏออกมา’
เวลาบนหน้าปัดดิจิตอลเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง
19 นาฬิกา
มันเป็นเวลาที่โลกทั้งใบดับแสงจมลงสู่ความมืด
ในตอนนี้เองที่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอย่างฉับพลันพร้อมกับละอองของแสงสว่างสีขาวค่อยๆผุดขึ้นจากพื้น
ไทลืมตาขึ้นมา เขาเพ่งมองไปที่ละอองสีขาว ขณะที่เสียงเอะอะดังขึ้นทั้วทั้งสถานีตำรวจ ในใจของเขาได้แต่ภาวนา ภาวนาว่ามันจะปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาเหมือนครั้งก่อน
‘หากแต่ตอนนั้นเอื้อมมือไปหยิบมัน เพียงแค่ตอนนั้นหยิบมันขึ้นมา!’
ผ่านไปไม่ถึงห้าวินาทีละอองแสงตรงหน้าเขาค่อยๆหลอมรวม มันกลายเป็นหินสีเหลี่ยมขนมเปียกปูนชิ้นเล็กขนาดเท่าเม็ดถั่ว จากนั้นก็ขยายใหญาขึ้น
‘สำเร็จ!’ ไทมองไปที่หินเรืองแสงตรงหน้า เขาไม่ได้รีบหยิบมันในทันที แต่กลับยังคงรอต่อไปเมื่อเห็นว่ามันยังขยายใหญ่ขึ้น
ในตอนนี้เองที่แผ่นดินไหวอีกครั้ง มันไม่ได้เหมือนครั้งก่อน คราวนี้แผ่นดินไหวเกิดจากการกระแทกของบางอย่าง ทั่วโลก อุกกาบาตสีดำจำนวนมากฝ่าชั้นบรรยากาศก่อนตกกระทบพื้นดิน
‘พวกมันมาแล้ว’
ไทสงบนิ่งผิดปกติ ในตอนนี้เขายังเริ่มได้ยินเสียงเอะอะโวยวายด้านนอก พร้อมกับเสียงคำรามต่ำของบางสิ่ง
ปัง! เสียงปืนดังขึ้น
ไทไม่สนใจเล็กน้อย เขาจดจ่ออยู่กับหอนเรืองแสงตรงหน้าของเขาที่ตอนนี้ขยายขนาดจากเมล็ดถั่วเท่ากับลูกปิงปอง
“ไม่น่าเชื่อว่ามันจะขยายใหญ่ขนาดนี้!”
กรรร!! เสียงคำรามต่ำของสัตว์ประหลาดสีดำดังขึ้นจากด้านหลัง มันมีขนาดใหญ่กว่าแมวบ้านทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้ย แต่จำนวนของมัน!!
“หนึ่ง..สี่..แปด..สิบเอ็ดตัว” เขามองไปที่พวกมันด้วยสีหน้าเรียบเฉยทว่าหากใครที่รู้จักเขาในอดีต จะรู้ได้จากแสงเย็นในดวงตาของเขาว่ามันสั่งสมความโกรธมากมายขนาดไหน
“พวกแกสนใจอีเธอร์พวกนี้ใช่ไหม แต่ขอโทษด้วย”
มันเหมือนกับว่าพวกสัตว์ประหลาดเข้าใจเขา พวกมันรีบกระโจนเข้ามาอย่างเร่งรีบ
แขนของไทคว้าไปที่หินอีเธอร์ตรงหน้าของเขา ขณะที่ดวงตาของเขายังจ้องมองพวกมัน ร่างกายของเขาค่อยๆหายไป
“แล้วเจอกันมิมิค!”
ไทลืมตาของเขาขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าจะบอกว่าลืมตาก็ไม่เชิงเพราะตัวเขาพบว่าตัวเองในตอนนี้ไม่มีร่างกายของเขาอยู่ ร่างกายที่เป็นมนุษย์ของเขาในตอนนี้เป็นเพียงจุดแสงหนึ่งที่มีขนาดเท่ากับลูกปิงปอง
นอกจากจิตสำนึกที่เหลืออยู่ ความคิดและการมองเห็น เขาขยับร่างกายของเขาไม่ได้ เขาพบว่าประสบการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่
‘ในชีวิตก่อนตัวเราไม่ได้เลือกที่จะหยิบมัน เราเลยได้แต่ฟังคนอื่นพูดถึงสิ่งนี้ มันคือข้อผิดพลาด!!’
หลังจากที่สำรวจตัวเองเสร็จ เขาเพิ่งจะพบว่ารอบข้างอันมืดมิดนี้ยังมีจุดแสงนอกจากเขาอยู่ ขนาดของมันมีทั้งเล็กใหญ่ต่างกันไป เล็กที่สุดนั้นมีขนาดเพียงเมล็ดข้าวจนไปถึงขนาดเท่ากับกำปั้น มันอยู่ห่างกันไม่ไกลนัก จากการมองเห็นของเขา มันมีจุดแสงอยู่นับไม่ถ้วน ไม่สามารถประเมินได้ว่าจำนวนของจุดแสงนี้ไม่จำนวนมากเท่าไหร่ แต่จากความทรงจำของเขาที่เคยผ่านมา ผู้คนที่เคยเข้ามาบอกว่ามันคือโลกทั้งใบ จำนวนจุดแสงคือตัวแทนของผู้คนทั่วโลกที่เลือกที่จะหยิบมัน ผลึกอีเธอร์!
ทันใดนั้นโลกทั้งใบพลันสั่นสะเทือน ไทรู้สึกถึงแรงกดดันต่อตัวเของเขาที่กดทับลงมาจนเขาหายใจแทบไม่ออก
ลำแสงสีขาวขนาดมหึมาสาดส่องลงมาจากความมืดมิดที่ว่างเปล่า ภายในลำแสงนั้น ร่างที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ที่มีปีกสองปีกค่อยๆปรากฏตัวขึ้นในลำแสง
ร่างที่เปล่งประกายด้วยแสงหลากสีเรืองรองไม่อาจมองเห็นรายละเอียดได้ ค่อยๆคลายปีกที่ห่อหุ้มตัวเองออก
“ในที่สุดเราก็ได้พบกันเหล่ามนุษย์โลกของเรา”
“ทุกคนคงสงสัยในตอนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าที่เราจะอธิบายสิ่งต่างๆนั้นเหลือไม่มากแล้ว”
ไทมองไปที่ร่างในลำแสง เขารู้สึกว่าถึงการปรากฏตัวนี้ภายนอกดูสูงส่ง แต่กลับมีความรู้สึกร้อนรนและอ่อนแอปะปนอยู่
แน่นอนว่าเขารู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร มันคือโลก! แก่นแท้วิญญาณของโลกทั้งใบที่กำลังวิวัฒนาการและอยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุด
“เราคือโลกของท่าน หรือจะให้พูดให้เข้าใจคือเราคือแก่นของโลก คล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีหัวใจ เราคือหัวใจของโลกใบนี้ เราคือวิญญาณแก่นแท้ของโลกนี้!”
“เรา ตัวเราในจักรวาลนี้กำลังวิวัฒนาการ เราไม่อาจที่จะห้ามหรือหยุดมันได้ สิ่งนี้ทำได้เพียงดำเนินต่อไป มันคือกฏของธรรมชาติ กฏของจักรวาล!”
“นี่คือต้นเหตุทั้งหมด ทันทีที่ตัวเรากำลังจะวิวัฒนาการ พลังของโลกจะเปลี่ยนแปลง โลกจะแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่ดูดซับพลังจากเรา สสารชนิดใหม่ แร่ชนิดใหม่ พลังงานใหม่จะถือกำเนิดขึ้น หนึ่งในสิ่งที่ทรงพลังและมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงโลกมากที่สุด คือมัน ‘อีเธอร์’ บนโลกสิ่งนี้คล้ายกับเวทมนตร์ เหมือนกับคำว่า ‘มานา’ที่มนุษย์มักใช้สร้างจินตนาการและสร้างสรรค์ขึ้น เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับอีเธอร์ สิ่งมีชีวิตจะปรับตัวและสามารถดูดซับมันได้เพื่อทำลายขีดจำกัดของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์”
“ทว่าสิ่งนี้จะใช้เวลานานและโลกนี้ไม่อาจรอได้อีกต่อไป”
“โลกกำลังอยู่ในภาวะสูญสิ้น ในจักรวาลอื่นมีเผ่าพันธุ์ที่ตามล่าอีเธอร์เพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของมัน สิ่งที่มากับอุกกาบาตที่ชนโลกครั้งนี้เป็นเพียงการสำรวจของพวกมัน เมื่อพบสิ่งที่ต้องการ เผ่าพันธุ์ของมันจะลงมายังโลกอีกมากขึ้น สิ่งนี้เรียกกันว่า ‘มิมิค’ มันทำลายเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของตัวเอง นี่คือศัตรูของพวกคุณ!”
“เพื่อให้มนุษย์มีความหวัง เราได้ใช้พลังแห่งการวิวัฒนาการเร่งกระบวณการควบแน่นอีเธอร์ให้ตกผลึก มันคือตัวกลางที่นำทุกคนมายังใจกลางแก่นแท้ของโลกในครั้งนี้”
“เพื่อให้มนุษย์ปรับตัวเข้ากับพลังใหม่นี้ให้เร็วที่ เราจะใช้ผลึกอีเธอร์นี้ในการหลอมรวมและสร้างการซิงโครไนซ์กับร่างกายของทุกคนโดยมีพลังของเราเป็นตัวนำ เราจะส่งต่อมรดกของโลกในยุคอดีตกาลที่ผ่านมาหลายล้านล้านปีให้ทุกคน แต่จะสามารถรับไปได้มากแค่ไหนก็อยู่ที่ตัวของพวกคุณเอง มันอาจจะเจ็บปวด ทรมาณในการเร่งปฏิกิริยานี้ แต่จงจำไว้ว่าอนาคตของโลกนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่า”
ยิ่งแก่นแท้ของโลกอธิบายไปนานเท่าไหร่ ร่างกายของเขาก็ยิ่งเจือจางลงเท่านั้น และเหมือนวิญญาณแก่นแท้ก็ทราบสิ่งนี้ดี
“ถึงเวลาแล้ว และขอโทษที่ไม่สามารถนำมนุษย์ทุกคนบนโลกเข้ามาสู่กระบวณการได้ ตอนนี้ก่อนที่เราจะหลับไปในกระบวณการวิวัฒนาการเราจะส่งต่อมรดกความทรงจำและช่วยพวกคุณทุกคนปรับตัวเข้ากับอีเธอร์”
วิญญาณแก่นแท้ค่อยๆหลับตาลงก่อนจะผายมือทั้งสองออกมา คลื่นลำแสงสีขาวที่หนาแน่นกระจายเป็นละอองแสงจำนวนนับไม่ถ้วน กระจายออกไปยังโลกที่มืดมิดนี้
ไทมองไปที่ละอองแสงที่ค่อยๆตกลงมาบนผลึกอีเธอร์ของเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ค่อยๆพุ่งพล่าน
‘ผู้ย้อนเวลาเอ๋ย’
‘หืม?’
‘อย่าตกใจไป เรารู้สึกได้ถึงสิ่งที่คล้ายกับเราในตัวของคุณแม้มันจะเล็กน้อยก็ตามที’
‘พลังที่เหมือนกับคุณ?’
‘ใช่ เศษของวิญญาณแก่นแท้ คุณคงได้รับมัน’
‘แต่ ได้ยังไง’ ไทนึกไปถึงภารกิจของเขา เขาได้รับสิ่งนั้นโดยบังเอิญก่อนจะกลืนมันลงท้องและระเบิดตาย!
‘มันไม่ใช่ตัวเรา แต่ก็คือตัวเราเช่นกัน อาจอธิบายได้ว่าเป็นตัวเราในระนาบอื่น’
‘มิติอื่น?’
‘ใช่ มีจักรวาลในมิติอื่นอีกมากมาย และตัวเราแก่นแท้ของโลกสามารถเชื่อมโยงกับตัวเราในมิติอื่นๆตลอดเวลา’
‘งั้นแล้วผม ผมยังอยู่ในโลกเดิมไหม’
‘ใช่ วิญญาณของคุณอยู่กับเราเสมอ อาจเป็นเพราะในอนาคตที่ผ่านมาของคุณไปพบเข้ากับเศษของแก่นแท้ของโลกที่ถูกส่งผ่านมิติมาจากระนาบอื่น หรือจะบอกว่าสิ่งที่คุณได้รับคือเศษของแก่นแท้โลกที่ดับสูญ มันตายไปแล้ว’
‘ผมเข้าใจ’
‘ดีที่คุณเข้าใจ เพราะเราเองหลังจากใช้พลังทั้งหมดในครั้งนี้เราใกล้จะหลับใหลแล้ว การตื่นอีกครั้งของเรา คือหลังจากที่การวิวัฒนาการเสร็จสิ้น หรือถ้ามนุษย์ถึงจุดจบและมิมิคดึงพลังของอีเธอร์ไปทั้งหมดเราอาจไม่ตื่นอีกตลอดกาล เราในมิตินี้จะเข้าสู่การหลับใหลชั่วนิรันดร์’
‘ผมจะช่วยคุณได้ยังไง’ ไทถามออกไป ไม่มีทางที่อยู่ดีๆตัวละครที่ไม่สำคัญอย่างเขาจะได้คุยกับแก่นแท้ของโลกเป็นการส่วนตัว
‘เราต้องการมัน และอีกนัยหนึ่งมันเป็นการช่วยคุณไปในตัว’
‘คุณหมายถึงเศษของแก่นแท้? มันยังคงอยู่ในตัวผมเหรอ ผมไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้’
‘แน่นอนสำหรับตอนนี้ ทว่าหลังจากที่คุณทำการปรับตัวเข้ากับอีเธอร์ ในระหว่างการปรับตัวนี้ คุณจะรู้สึกถึงมันแน่นอน ถึงแม้มันจะเหลือพลังไม่มากแล้วหลังจากพาคุณย้อนเวลากลับมา แต่พลังที่เป็นของโลกนี้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะรับไว้ได้ เราแน่ใจว่าคุณไม่อยากสัมผัสกับการระเบิดตัวเองอีกครั้ง’
ถึงแม้ไม่มีร่างกายในตอนนี้ ไทกับรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงดวงวิญญาณทันทีที่นึกถึงการระเบิดตัวเองของเขา
‘ผมต้องทำยังไง’
‘คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เราจะดึงพลังนี้ออกมาเอง ถึงมันไม่มีประโยชน์กับคุณแล้ว แต่พลังที่เหลือนี้จะช่วยในการวิวัฒนาการของเรา แม้จะเล็กน้อยก็ตาม’
‘ทำตามที่คุณเห็นสมควร ขอบคุณ’
วิญญาณแก้นแท้มองไปที่ไท เงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยอีกครั้ง
‘มันอาจจะถูกลิขิตเอาไว้ โชคชะตาไม่เคยแน่นอน เราจะไม่เอาสิ่งนี้ไปจากคุณฝ่ายเดียว ในกระบวณการนี้เราจะใช้พลังส่วนหนึ่งที่หลงเหลือของมันเพื่อช่วยในการปรับตัวของคุณให้ดียิ่งขึ้น’
‘นะ นี่คือนิ้วทองคำ???’
‘หึๆ คุณช่างมีอารมณ์ขัน แต่จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เราไม่อาจมอบระบบแปลกๆที่ไม่มีอยู่จริงเหมือนในสิ่งที่มนุษย์เรียกมันว่านิยาย แต่จะบอกว่าสิ่งนี้คือนิ้วทองคำของคุณก็ไม่ผิด เวลาเหลือน้อยแล้ว เราจะเริ่มจัดการกับสิ่งนี้ทันที’
‘ขอบคุณ’ ไทตอบกลับไปอย่างตื่นเต้น
นึกไปถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตก่อนของเขา เขารู้สึกว่าการตายของเขาคือ โชคดี!!!
เสียงของแก่นแท้ของโลกเงียบหายไปแล้ว ในระหว่างนี้ละอองแสงนับไม่ถ้วนยังคงตกลงมาจากบำแสงจนาดมหึมาอน่าวต่อเนื่อง มันถูกส่งไปยังผลึกอีเธอร์ทุกตัวในโลกอันมืดมิด
ทันใดนั้น ไทรู้สึกว่ามีพลังบางอย่างปะทุขึ้นจากตัวของเขาก่อนจะค่อยๆถูกดึงออกไป แทนที่เขาจะรู้สึกอึดอัดกับมันที่ต้องเสียพลังอันยิ่งใหญ่นี้ไปแต่เขากลับรู้สึกโล่งใจแทน
ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ตายอีกรอบ!! แถมรอบนี้เขามีความรู้สึกว่า เขาจะตายจริงๆ ไม่มีการคืนชีพ ไม่มีการย้อนเวลา!!
หลังจากที่วิญญาณแก่นแท้ดึงพลังนี้ออกไป ตัวของไทเองก็เริ่มเข้าสู่กระบวณการปรับปรุงของเขาทันที ผลึกอีเธอร์ค่อยๆเปลี่ยนไป ผลึกขนาดลูกปิงปองค่อยๆเปลี้ยนแปลงขนาดของมัน มันมีแขน และขาปรากฏขึ้นก่อนจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นมนุษย์ ใช่ เป็นรูปร่างของตัวไทเอง
ทว่าในกระบวณการนี้ เขาไม่สามารถมองเห็นตัวเองได้อีกต่อไป แทนที่จะรู่สึกเจ็บปวด เขารู้สึกถึงกระแสพลังอันอบอุ่นค่อยๆรากฏขึ้น ตอนแรกมันมีขนาดเล็กยิ่งกว่าเส้นด้าย ทว่ายิ่งนานวัน ขนาดของมันกลับขยายใหญ่ขึ้น ขนาดของเส้นด้าย …เท่ากับเส้นเอ็น ..ขนาดไหมพรม…จนจวบจนบัดนี้ มันมีขนาดเท่ากับเชือกเส้นใหญ่!!
เขาจมลงสู่ความอบอุ่น รู้สึกสบายไปทั้งร่างกาย
ไทไม่รู้เวลาเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ทว่าในตอนนี้เอง ภาพความทรงจำบางอย่างค่อยๆไหลเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย ภาพแรกเป็นแบบของหมู่บ้านเล็กๆ มีผู้คนไม่มากนักแต่ละคนสวมเสื้อผ้าที่ทำด้วยในหนังสัตว์ มีเกราะขนาดต่างๆอยู่บนร่างกาย พวกเขาเหมือนนักรบคนเถื่อน!! โดยเฉพาะกับอาวุธขนาดใหญ่ที่เขาเห็น ดาบใหญ่สีดำที่ดูเหมือนทำจากกระดูกสัตว์ร้าย หอกยาวขนาดมหึมา ธนูเขี้ยวสัตว์ร้ายที่นักรบถือ
ไทไม่เคยเห็นมันมาก่อน แต่ทันทีที่ความทรงจำนี้แล่นเข้ามา เขากลับรู้สึกว่าเขาเคยอยู่ในช่วงเวลานี้ ถ้าเขาพยายามเพ่งรายละเอียดดีๆ เขารู้สึกว่าเขารู้ได้แม้กระทั่งว่าดาบใหญ่เล่มนั้นทำมากจากสัตว์ชนิดใด
มังกร!! ดาบเล่มนั้นทำจากเขี้ยวมังกรบินกลายพันธุ์ ถึงจะเป็นมังกรพันธุ์ทาง แต่ก็ยังเป็นมังกร มังกรจริงๆ !
จากนั้นก็เป็นภาพอื่น ภาพของเมืองที่เจริญรุ่งเรืองกำบังพังทลาย กลุ่มคนในชุดผ้าคลุมดำปรากฏตัวขึ้น ในมือของแต่ละคนมีกระบอกปืนที่ดูไม่คุ้นเคยแต่การออกแบบกลับดูปราณีตสง่างาม หนึ่งในนั้นยิงลำแสงออกมาจากปืนยาวไปยังพวกสัตว์ประหลาดสีดำ ….มิมิค!!
เขาไม่มีทางลืมพวกมันที่เขาต่อสู้อย่างอยากลำบากมาเกือบยี่สิบปีเต็ม
นี่คือช่วงเวลาของอีกโลกหนึ่งที่กำลังทำสงครามกับพวกมิมิค!
หลังจากภาพที่ไทเห็นเหล่านี้ ความทรงจำอื่นๆก็ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มันกลายเป็นความทรงจำจากภาพถ่าย ค้อยๆซ้อนเรียงกันเหมือนเป็นแฟ้มหนาที่คอยให้เขามาเปิดอ่าน
ไทรู้สึกตื่นเต้น!
เหล่านี้คือมรดกที่แก่นแท้โลกส่งผ่านให้กับมนุษย์ในโลกอันมืดมิดนี้
เจาจำได้อย่าวแม่นยำว่าสิ่งนี้เคยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตกาล เป็นเรื่องราวของโลกที่เจริญรุ่งเรืองและล่มสลายผ่านกาลเวลาจากอดีตสู่อนาคต เป็นสิ่งที่วิญญาณแก่นแท้ของโลกได้ประสบพบเจอ และเลือกที่จะส่งผ่านมันในหายนะครั้งนี้
อย่างที่แก่นแท้ของโลกได้บอกเอาไว้ ใครจะได้มากได้น้อยก็อยู่ที่ตัวของแต่ละคนเอง
ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไทไม่รู้ ระหว่างที่เขาพยกับการปรับปรุงอย่างสงบสุข ในผลึกอีเธอร์อื่นๆนับไม่ถ้วน มนุษย์แต่ละคนมีสีหน้าบิดเบี้ยวทรมานต่างกันออกไป การจะหาช่วงเวลาอันอบอุ่นอย่างไท อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในหมื่น
แม้ช่วงแรกๆจะผ่านไปด้วยดี แต่ยิ่งนานเข้าความรู้สึกเจ็บปวดจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และในระหว่างความเจ็บปวดนี้ ยังต้องทำความเข้าใจต่อมรดกที่ไหลผ่านความทรงจำ พูดได้ว่าใครที่สบายเท่าไท ไม่มี!!
เวลาค่อยๆผ่านไป ร่างของมนุษย์ที่ซิงโครไนซ์เจ้ากับพบังของอีเธอร์เสร็จสิ้น ร่างกายนั้นพลันไปจากโลกนี้ทันที
ร่างแล้วร่างเล่า ตื่นขึ้นและหายไป!
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ร่างกายของไทในตอนนี้ชัดเจนขึ้นแม้จะอยู่ในแสงสว่าง ผมสีดำที่งอกยาวถึงกลางหลัง ร่างกายสมส่วนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่เรียงกันอย่างสมบูรณ์ปรากฏขึ้น ผิวของเขาที่สร้างใหม่นั้นขาวราวกับผิวเด็กทารก
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะถือได้ว่าเป็นเพียงมาตราฐานกลางๆของผู้ชาย แต่กับร่างกายนี้ ไม่มีใครกบ้าปฏิเสธว่ามันช่างดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ระหว่างที่ไทกำลังจมอยู่กับความทรงจำมหาศาล ร่างกายของเขาก็ปรับตัวเข้ากับอีเธอร์ได้สำเร็จ
เปลือกตาของเขาขยับ เขาจึงลืมตาของเขาขึ้น
ยังคงเป็นโลกแก้นแท้อันมืดมิด อย่างแรกเขาทำการสำรวจร่างกายของเขาเอง มันแตกต่างจากอดีต เขารู้สึกได้ถึงพลังงานจำนวนมาก แม้จะยังห่างไกลจากช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต แต่ต้องรู้ว่าตอนนี้ เขาเพิ่งเริ่มต้น!!!
สามดาว??
“หรือสี่ดาว?” ไทสงสัย
ในชีวิตก่อน การแบ่งระดับของมนุษย์ถูกแบ่งออกเป็นระดับดาวเพื่อแสดงถึงศักยภาพของนักรบแต่ละคน
ต่ำสุดคือนักรบหนึ่งดาวสูงสุดในชีวิตที่แล้วของเขามนุษย์ชาติไต่ระดับไปถึง 8 ดาวในระยะเวลายี่สิบปี
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือในความทรงจำของเขา จากอีกโลกหนึ่ง
มีมากกว่าระดับดาว!!
ยิ่งมนุษย์มีพลังมากขึ้น อายุขัยของพวกเขาก็มากขึ้นตาม 9ดาวที่มีอายุหลายพันปี
แต่กลับมีระดับที่สูงกว่านั้น ดาวเงิน กับ ดาวทอง
หนึ่งดาวถึงเก้าดาวถูกเรียกว่านักรบ
หนึ่งดาวเงินถึงเก้าดาวเงินถูกเรียกว่าแม่ทัพ
หนึ่งดาวทองถึงเก้าดาวทองถูกเรียกว่าปราชญ์
ที่ทรงพลังยิ่งกว่า นามนั้น ราชัน!!!
ไทรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่นความรู้พวกนี้นอกจากนักรบระดับสูงแล้ว น้อยคนนักที่จะได้รับรู้ ยิ่งนักรบรับจ้างแบบเขาในชีวิตก่อนที่ไม่ได้รับสืบทอดมรดกก็เหมือนกบในบ่อ!!
ไทพบว่ารอบข้างเขาว่างเปล่า ในตอนแรกที่มีผู้คนอยู่นับไม่ถ้วนในตอนนี้เหลือเพียงเขาคนเดียว
ไทมองยังจุดที่แก่นแท้ของโลกเคยอยู่ ตอนนี้เหลือเพียงลูกกลมแสงขนาดใหญ่ลอยอยู่ลำพัง
“คุณยังอยู่ไหม” ไทถามออกไป เขาต้องถาม เพราะเขาไม่รู้ว่าจะออกจากที่นี่ยังไง!
ทว่าแทนคำตอบ แก่นแท้ของโลกกระพริบแสงขึ้นครั้งหนึ่ง ในตอนนี้เองที่เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดร่างกายของเขาถูกน้ำวนที่เกิดขึ้นตรงหน้าดูดหายเข้าไปทันที
‘ทำให้ดีที่สุด เราคงได้พบกันอีกครั้ง’
ไทได้ยินเสียงแก่นแท้ของโลกพูดขึ้นในหัว สติของเขาดับวูบไปในช่วงเวลาหนึ่ง
…
“หนี! หนีไปเร็วเข้า!”
กรร
“ชาน พวกมันตามมาทันแล้ว!”
“บ้าเอ๊ย! ทำไมพวกมันเร็วนัก ตั้งแนวรับดาบโล่อยู่ข้างหน้า ที่เหลือยึดแนวที่สองกับที่สามตามลำดับ”
เสียงตะโกนของชานดัง สั่งการทีมของเขา
ทันใดนั้นชายหญิงทั้งสิบคน รีบจัดแนวรบทันที ชายร่างใหญ่สามคนที่มีโล่เหล็กและดาบในมือวิ่งออกไปก่อนจะจัดตั้งโล่ในมือเอาไว้ด้านหน้า
ชาน ชานหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าทีมอยู่ในแนวรับที่สองในมือของเขามีดาบยาวห้าฟุต ใบดาบกว้างมากกว่าสองนิ้ว
พร้อมกับชายหญิงอีกสองคน พวกเขาจับดาบยืนอยู่เคียงข้างชาน
“มือปืนเตรียมตัวให้พร้อม อย่ายิงโดยเปล่าประโยชน์ ทุกนัดต้องเกิดผลสูงสุด”
“รับทราบ!!” มือปืนสี่คนยืนอยู่แนวรับที่สามด้านหลังสุด
รอบข้างของทั้งกลุ่มเป็นซากปรักหักพังของเมืองเก่า ย่านซึ่งเคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยตอนนี้เหลือเพียงซากเก่า
กี๊สสส
เสียงร้องสูงของสัตว์ประหลาดสีดำดังขึ้น ก่อนร่างกายที่สูงเพียงครึ่งตัวคนจำนวนมากจะหลั่งไหลออกมา
“เยอะเกินไปแล้ว!”
“อย่าสับสน สงบสติอารมณ์ไว้ ความประมาทจะทำให้คุณตายเร็วขึ้นเท่านั้น” ชานพูดขึ้น
ทั้งสองกลุ่มจ้องมองกันอยู่พักหนึ่ง ฝ่ายมนุษย์ พวกเขารู้สึกว่ามีเหงื่อเย็นเปียกชุ่มอยู่กลางหลังขณะที่พวกมิมิคยังคงขู่คำรามเสียงสูง พวกมันไม่รีบโจมตีเข้ามา แต่กระชับวงล้อมจนกลายเป็นรูปครึ่งวงกลม
“ไม่ดี! มีระดับทหารอยู่ในพวกมัน” ชานกระชับดาบในมือแน่นขณะที่สายตาสาดส่องมองหาร่างของสิ่งนั้น
ไม่ช้า เสียงคำรามต่ำดังขึ้นจากด้านหลังพวกมิมิค ร่างของหมาป่าสีดำที่ผิวหนังเป็นหินปรากฏขึ้นพร้อมกัน
“รูปแบบหมาป่า ซวยจริงๆแล้วทีนี้” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นเสียงสั่น
ชานยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่ง เขาดึงสิ่งของที่คล้ายโทรศัพท์ออกมาก่อนใช้โหมดสแกน
[พบเป้าหมาย มิมิคระดับทหารรูปแบบหมาป่า ระดับพลังงานอีเธอร์ 250 ]
[พบเป้าหมาย มิมิคระดับทหารรูปแบบหมาป่า ระดับพลังงานอีเธอร์ 213]
[พบเป้าหมาย มิมิคระดับเบี้ย ระดับพลังงานอีเธอร์ 79]
…
เสียงของเอไอดังขึ้นแจ้งจำนวนศัตรูอย่างต่อเนื่อง หลายคนกลืนน้ำลายลงคอทันที
ระดับพลังงานอีเธอร์เกิน 200!!
“เอายังไงดีชาน” เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลัง
“เฟย์ ดูแลนักเรียนคนอื่นๆด้วย”
“รับทราบ!!”
แท้จริงแล้วนอกจากชานและหญิงสาวชื่อเฟย์ อีกแปดคนล้วนเป็นนักเรียนจบใหม่ที่รับภารกิจลาดตระเวนเป็นครั้งแรก!
หลังจากมิมิครูปแบบหมาป่าปรากฏตัวขึ้น ด้วยเสียงหอนของมันครั้งเดียว มิมิคระดับเบี้ยทุกตัวพุ่งเข้าโจมตีมนุษย์ในทันที
“แนวโล่กันเอาไว้ มือปืนยิงสนับสนุนจากด้านหลัง!” ชานพูดขึ้นเสียงเรียบ
ทันใดนั้นดาบในมือของเขาพลันเรืองแสงขึ้นเล็กน้อย
ปัง!!
นักรบโล่กระแทกโล่เข้าใส่พวกมิมิค ดาบในมืออีกข้างของพวกเขาเรืองแสงอีเธอร์ ทั้งสามใช้ดาบแทงรอดออกไประหว่างช่องว่าง ร่างของมิมิคสามตัวถูกดาบแทงเข้าไป
“เสร็จล่ะ” หนึ่งในนักรบโล่ออกแรงดันดาบมากขึ้นหวังแทงมิมิคให้ตายในครั้งเดียว
“อย่าประมาท มันไม่ตายง่ายขนาดนั้น” เสียงของชานตะโกนดังขึ้น เขามาถึงด้านหลังของนักรบโล่ ดาบยาวของเขาฟันบงมาจากด้านบนสับร่างของมิมิคตัวดังกล่าวจนขาดครึ่ง
“ครู!”
“สมาธิ!”
นักรบโล่ไม่กล้าหย่อยยาน โล่เรืองแสงขึ้นอีกครั้งกระแทกพวกมิมิคให้ถอยไปด้านหลัง เพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างพวกมัน
มือปืนที่อยู่แนวด้านหลังยกปืนของพวกเขาขึ้น ตลับสี่เหลี่ยมที่อยู่ตรงกลางเรืองแสงไปด้วยละอองแสงอีเธอร์ กระสุนหนึ่งนัดที่คล้ายกับเวทมนตร์กระสุนมานาเล็กๆพุ่งออกไปข้างหน้า
มิมิคตัวหนึ่งที่เพิ่งจะพุ่งเข้ามา หัวของมันพลันระเบิดออก!
กรรร
เสียงคำรามต่ำของมิมิคหมาป่า มิมิคหมาป่าที่เหลือด้านหลังพุ่งเข้าโจมตีทันที
เสียงดังปัง กรงเล็บของมันกระแทกเข้าใส่โล่เหล็ก มิมิคหมาป่าผลักดันพวกเบี้ยออกไปโดยไม่สนใจพวกมันไม่ถึงสิบวินาทีเพียงแค่มิมิคหมาป่าสี่ตัว แนวรบโล่ถูกแรงของพวกมันผลักจนล้มลง
ชานรีบเข้าไปช่วยเหลือ เขาเป็นนักรบหนึ่งดาวเท่านั้น ทว่าเขาเองใกล้จะเลื่อนระดับเป็นนักรบสองดาวแล้วทำให้ระดับพลังงานอีเธอร์ในร่างกายของเขาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงสองร้อยแล้ว ยิ่งอัตราซิงโครไนซ์มากเท่าไหร่ ความจุและความหนาแน่นของอีเธอร์นั้นก็มากขึ้นตาม เพราะเฉพาะนั้นแม้ว่ามือปืนที่ชื่อเฟย์จะมีระดับพลังงานอีเธอร์ใกล้เคียงกับเขาแต่ถ้าความหนาแน่นของอีเธอร์ของใครมีความหนาแน่นมากกว่ากัน ระดับการใช้งานของอีกฝ่ายย่อมมีประสิทธิภาพกว่า เช่นเฟย์ มือปืนส่วนใหญ่คือผู้ที่มีระดับซิงโครไนซ์สูงกว่าคนทั่วไป ทำให้อัตราการยิงกระสุนที่สร้างขึ้นจากอีเธอร์มากขึ้นตาม
ทันทีที่นักรบโล่ล้มลง ใบหน้าของชานพลันวิตก เขาพุ่งออกไปกวัดแกว่งในดาบในมือเป็นวงกว้างเพื่อให้มิมิคหมาป่าถอยกลับ
ทว่าในตอนนี้ ชานลืมไปหนึ่งอย่าง พวกมันเจ็บเป็นแต่มันไม่มีความกลัว ในหัวของพวกมันเหมือนกับถูกระบบออกแบบมาเพื่อเดินหน้าโจมตีศัตรูจนกว่าจะหมดแรงหรือตาย
มิมิคตัวหนึ่งใช้ร่างกายของมันรับดาบของชานไว้และอีกสามตัวพร้อมกับพวกเบี้ยส่วนหนึ่งไม่สนใจพวกนักรบโล่ทว่ากลับพุ่งเข้าแนวรับที่สองและสามเพื่อโจมตีทันที
“บ้าเอ๊ย!” ชานโบกดาบใหญ่ไปมา เขาผ่าร่างพวกเบี้ยไปทันทีอีกสองตัวก่อนจะตามพวกมิมิคหมาป่าไป แม้กระสุนปืนจะทำความเสียหายได้รุนแรง แต่ในระดับของนักเรียนที่เพิ่งจบและมือปืน1ดาวก็ยังไม่สามารถเร่งความเร็วได้เท่าระดับ2ดาว
หลังจากยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง แม้จะระเบิดร่างพวกเบี้ยและสร้างรอยแผลขนาดใหญ่ไว้บนมิมิคหมาป่ที่พุ่งเข้ามา แต่อาการเหนื่อยล้าจากการใช้อีเธอร์เองก็ปรากฏขึ้นบนสีหน้าพวกเขาเช่นกัน
มือปืนสามคนที่เพิ่งจบการศึกษาตัวสั่นทันทีที่มิมิคหมาป่าพุ่งเข้ามา ทำให้อัตราการยิงตกต่ำลงจนถึงขีดสุด
เสียงกรีดร้องดังขึ้นที่นักดาบในแถวที่สอง คอของเธอถูกมิมิคหมาป่ากัดก่อนจะกระชากเนื้อส่วนนั้นออกไป ร่างของหญิงสาวพลันนอนกระตุกลงไปกับพื้น
ชานเหลียวไปเห็นดังนั้นเขาใช้อีกมือหนึ่งหยิบปืนพกออกมาก่อนจะลั่นไก
ปัง!! หน้าผากของหญิงสาวเกิดรูขนาดเท่ากำปั้น กระสุนเพียงนัดเดียวส่งวิญญาณของเธอไปสู่ความสงบ
เห็นฉากนี้ นักรบหนึ่งดาวคนอื่นร่างกายสั่นสะท้านทันที
แม้ว่าชานต้องการจะปกป้องทุกคน แต่มันเป็นไปไม่ได้ในที่สุด เบี้ยตัวอื่นๆที่ตามมาทีหลังกระโจนเข้าใส่นักรบโล่ทั้งสามอย่างหิวกระหาย
ทันทีที่หนึ่งในนั้นออกอาการใกล้ตายเบี้ยตัวหนึ่งกระโดดขึ้นเกาะไปที่ใบหน้าของเด็กหนุ่ม ร่างของมันเรืองแสงอีเธอร์สีดำก่อนที่จะหายเข้าไปในร่างของนักรบโล่คนนั้นทันที
กรรรรร
นักรบโล่อีกสองคนก็ประสบชะตากรรมเดียวกัน!!
ร่างของนักรบโล่ทั้งสามกลายเป็นสีดำผิวหนังเริ่มกลายเป็นหิน ก่อนร่างที่เหมือนมนุษย์ค่อยๆก้มตัวต่ำลง จากสองกลายเป็นเดินสี่เท้า จากมนุษย์หินสีดำกลับกลายเป็นมิมิคหมาป่าสีดำที่ร่างกายทำจากหินสีดำเรียบเนียน
ชานเห็นกระบวนการทั้งหมดด้วยตาของตัวเอง เขาคำรามเสียงต่ำก่อนจะถ่ายเทอีเธอร์เข้าไปในดาบจนสุดขีดแล้วพุ่งไปด้นหน้า ฟันไปยังมิมิคหมาป่าที่ใกล้ที่สุด
อาจเพราะความบ้าคลั่งนี้เอง มิมิคหมาป่าถูกแรงของดาบฟันเข้าใส่แยกใบหน้าของมันออกไปครึ่งหนึ่ง
ร่างของมันล้มลง พร้อมกันนั้นร่างกายของชานพลันเรืองแสงขึ้นทันที ความรู้สึกอบอุ่นไหลผ่านไปทั่วร่างกาย
2 ดาว! เจาะทะลวงผ่านเป็นนักรบระดับ 2 ดาว!
ชานรู้สึกถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นในทันที มิมิคหมาป่ารอบๆเองก็เช่นกัน มิมิคหมาป่าที่เคยหยุดอยู่เฉยๆคำราม
มันจะเข้าสู่สนามรบเพื่อล่าแล้ว
ชานกระชับดาบกวาดไปทางด้านหลังช่วยมือปืนอีกสามคน
“ยังไหวอยู่ไหม” ชานเอ่ยถาม
“ไม่ไหวก็ต้องไหว” เฟย์มือปืนสาวตอบ ข้างๆเธอมือปืนหญิง นักดาบหนุ่มอีกคน นักเรียนสามคนสุดท้ายที่ยังรอดอยู่!!
พวกเขาเสียคนห้าคนภายในไม่ถึงห้านาที!
ต่างฝ่ายต่างสร้างแนวประจัญหน้ากันอีกครั้ง ต่อตอนนี้เอง ลำแสงสีขาวพุ่งขึ้นจากพื้นดินขึ้นสู่ท้องฟ้า
จุดที่มันปรากฏบังเอิญอยู่ตรงกึ่งกลางระหว่างทั้งสอง เป็นการแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกันโดยสิ้นเชิง
“หืม?” เสียงอุทานดังขึ้นจากภายในลำแสง
ทันทีที่ลำแสงหายไป สีหน้าของชานและพรรคพวก มองไปที่ชายที่ปรากฏตัวด้วนสีหน้าตกตะลึง
“ลำแสงจากพื้นดินที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า นะ นั่น ไม่จริงน่า!!”
“เป็นไปไม่ได้!?” ชายหญิงทั้งห้าลืมมิมิคไปจนหมดสิ้น ในหัวของพวกเขามีประโยคที่แสดงถึงเหตุการณ์ตรงหน้าได้เพียงประโยคเดียวในหัว
‘เป็นไปไม่ได้!!’
“อะไรเป็นไปไม่ได้”
ผู้ที่ปรากฏขึ้นจากลำแสงคือไทที่เพิ่งออกมาจากแก่นแท้ของโลกหลังจากปรับปรุงร่างกายของเขาเสร็จ
เมื่อมนุษย์ถูกพาไปภายในแก่นแท้ เมื่อเขาหรือเธอถูกส่งออกมา พวกเขายังคงอยู่จุดๆเดิม
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือจุดที่ไทยืนอยู่นั้น แต่ก่อนคือสถานีตำรวจเก่าที่เขาเคยถูกจับมาฝากขังไว้
ก่อนที่ไทจะได้พูดคุยกับกลุ่มมนุษย์ที่เพิ่งเจอ กลิ่นที่คุ้นเคยมากว่ายี่สิบปีแตะจมูกเขาทันที
“มิมิค?”
ในตอนนี้เองที่ชานเพิ่งคิดถึงจุดนี้ เขาพุ่งออกไปอยู่ตรงหน้าไททันที
“เด็กหนุ่มขยับไปข้างหลัง ค่อยคุยกันทีหลังว่าคุณมาจากไหน” ชานพูดขึ้น
“เด็กหนุ่ม? อ่อ!” ไทนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้รูปลักษณ์ของเขายังอยู่ในใบหน้าของเด็กอายุสิบหก แม้ว่าเขาจะสูงขึ้นและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยก็ตาม
นักรบคนอื่นๆค่อยๆเดินมาอยู่รอบข้างไท แม้ว่าจะเป็นรองอีกฝ่ายแต่โดยสามัญสำนึก คนที่เพิ่งออกมาจากการสืบทอดมรดกนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ในจุดเริ่มต้นของนักรบหนึ่งดาว อาจมีในประวัติที่ผ่านมาที่ขึ้นไปจนถึงระดับสูงสุดของระดับ1ดาว
แต่คนที่เพิ่งออกมาพบกับพวกมิมิคยังไม่มีทางที่จะปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
เขาต้องปกป้องเด็กคนนี้ นี่คือสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานกว่าห้าปี!!
แม้จะมีเรื่องไม่คาดฝันแต่ทั้งมนุษย์และมิมิคก็เริ่มต่อสู้กันอีกครั้ง ชานยกดาบขึ้นตั้งรับกางเล็บจากมิมิคหมาป่าที่เพิ่งเข้าสู่สนามรบ
หากก่อนที่ชานจะกลายเป็นระดับสองดาวคือความสิ้นหวังของทุกคน ในตอนที่เขากลายเป็นระดับสองดาว พลังงานอีเธอร์ของเขาก็พุ่งขึ้นสู่ระดับสองร้อยทันที มันไปหยุดอยู่ที่สองร้อยสามสิบ!! เป็นรองศัตรูเพียงเล็กน้อย
มิมิคหมาป่คำรามเสียงต่ำทันใดนั้น มันอ้าปากของ ลูกบอลพลังงานสีดำที่เกิดจากการควบแน่นอีเทอร์ถูกยิงออกจากปากของมัน
เสียงดัง เปรี้ยง!! ดาบของชานระเบิดออก มันกระเด็นหลุดมือ ร่างของเขาถูกส่งกลับถอยหลัง ก่อนพ่นเลือดสดออกจากปาก
“มะ มันควบแน่นพลังงานได้!”
“ชาน!”
“ครู”
ไม่มีใครสามารถมาช่วยเขาได้ มิมิคทั้งหมดได้แยกพวกเขาออกจากกัน ชานไม่ได้สังเกตสักนิดว่ามิมิคหมาป่าล่อเข้าออกห่างจากจุดเดิมหลายสิบเมตร
ชานรู้สึกแสบร้อนไปทั่วอก พลังงานสีดำละลายเสื้อผ้าของเขาก่อนจะลามไปถึงผิวหนัง
มิมิคหมาป่าแยกเขี้ยวอ้าปากกว้างกระโจนเข้าหาชาน
“จะ จบแค่นี้เหรอ?” สีหน้าชานว่างเปล่าเมื่อความตายใกล้เข้ามา
ปัง!
ในตอนนี้เองกระสุนอีเธอร์ระเบิดจากใบหน้าของมิมิคหมาป่า หัวของมันระเบิดกระจุยเหลือแต่ร่างกายที่ล้มลงกระแทกพื้นตามโมเมนตั้ม
ดวงตาของขานเบิกกว้าง! เขารีบหันไปดูมือปืนทั้งสามทันที ต้องการดูว่าเป็นใครที่
ช่วยเขาไว้!
ทว่าภาพที่แสดงให้เขาเห็นนั้นเป็นภาพที่ด้านหลังของมือปืนทั้งสามอีกทีหนึ่ง
วันรุ่ยที่เพิ่งปรากฏตัวจากลำแสงอยู่ในท่าเล็งปืนที่ดูจะคุ้นเคยในมือของเขา
แน่นอนว่าไทหยิบมันขึ้นมาจากศพของมือปืนที่เสียชีวิต จิตใจของเขาสั่นระริกด้วยความที่อยากลองร่างกายใหม่ของตัวเองจนเนื้อเต้น
หลังจากเป่าหัวหมาป่าที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ไทไม่หยุดแค่นั้น เมื่อปืนในมือรีโหลดนัดต่อไป เขาเริ่มลั่นไกกระสุนนัดต่อไปทันที
มิมิคตัวอื่นๆรู้ถึงภัยคุกคามใหม่ พวกมันปล่อยทิ้งคนอื่นๆพุ่งเจ้าใส่ไท
เสียงดังปัง ปัง ปัง!! ต่อเนื่อง
“รีโหลดกระสุนในสามวินาที!” เฟย์อ้าปากค้าง
มิมิคหมาป่าที่เหลืออยู่ถูกไทเป่าหัวทีละตัวอย่างแม่นยำ เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆระหว่างรอการรีโหลด
วินาทีต่อมาเขาเหยียบไปที่ดาบยาวสามฟุตที่พื้นก่อนจะใช้ปลายเท้างัดมันขึ้นมา
“อืม…เนื้อเหล็กระดับต่ำ แถมหยาบเกินไป แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี” ไทพิจารณาดาบในมือ
ในวินาทีต่อมาร่างของไทหายไปจากสายตาของมิมิคหมาป่าที่กระโจนเข้ามา
เสียงวาดดาบดังขึ้นประกายไฟระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง ในหนึ่งวินาที ไทฟันดาบใส่ลำตัวของมิมิคหมาป่ามากกว่าเจ็ดครั้ง
ผิวหนังของมิมิคหมาป่าแตกกระจาย ร่างกายของมันถูกผ่าออกเป็นชิ้นๆ เศษร่างของมันตกลงตรงหน้าของเขา
ดวงตาของไทประกายแสงเย็นเมื่อสักครู่เขาเพียงฟันใส่ร่างของมันโดยไม่ได้ใช้อีเธอร์ของเขาแม้แต่น้อย เป็นเพียงความแข็งแกร่งของร่างกายของเขาโดยตรง ประกอบกับความแข็งแกร่งของดาบ
ปล.ขอบคุณที่ติดตามครับ ถ้าถูกใจฝากคอมเมนต์ฝากแชร์นิยายของข้าพเจ้าด้วย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!