คำโปรย
"หะ..หากเกิดชาติหน้า ตัวข้าผู้นี้จะไม่ขอรักท่านอีก ท่านพี่" นางใช้แรงเฮือกสุดท้ายเพื่อเอ่ยประโยคนี้กับเขาคนที่เป็นทั้งสามี คนรักและที่พึ่งหนึ่งเดียวของนาง
"หากเกิดชาติหน้า...ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอและจะได้ชดใช้ในสิ่งที่ข้าทำผิดต่อเจ้า ข้าผู้นี้ขอสาบานว่าไม่ว่าจะกี่ชาติภพข้าจะขอตามรักเพียงเจ้าผู้เดียว"เขาเอ่ยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินและมองหน้าหญิงสาวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของตนที่นอนหลับอย่างไม่หวนคืนกลับมา
ตอนที่1
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนู" ลี่ลี่สาวใช้คนสนิทของอันหนิงเอ๋อคุณหนูคนเดียวแห่งจวนราชครูเอ่ยเรียกเจ้านายสาวของตน
"อือออ ลี่ลี่มีอะไรหรือเรียกข้าแต่เช้าเชียว"
"คุณชายกลับมาแล้วเจ้าค่ะ" น้ำเสียงตื่นเต้นปลุกหญิงสาวได้ทันดี
"พี่ใหญ่ พี่ใหญ่กลับมาแล้วหรือ ทำไมไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้เล่าลี่ลี่"นางเอดสาวใช้ของตน
"ยัง ยังไม่มาช่วยข้าแต่งตัวอีก"
"เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ"
หน้าจวนราชครู
"ท่านพ่อ พี่ใหญ่ล่ะ" ทันทีที่เห็นบิดาก็เอ่ยถามทันที
"เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่เห็นพ่ออยู่ในสายตาแล้วกระมัง"ผู้เป็นพ่อเอ่ยกับบุตรสาวอย่างน้อยใจ
"อ้อ คารวะเจ้าค่ะท่านพ่อ"
"เฮ้อ เจ้าจะได้แต่งออกไปไหมนี่ แล้วข้าจะได้เป็นตาอย่างเช่นคนอื่นเขาบ้างหรือไม่" เสียงตัดพ้อจากผู้เป็นพ่อดังเข้าโสตประสาทของนางเต็มๆ
"โถ่ ท่านพ่อก็ " นางมุ่ยหน้าหนีไปอีกทาง
"ยังรอเขาอยู่อีกหรือ"ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามแต่ไร้คำตอบ
"นั่น พี่ใหญ่กลับมาแล้ว ท่านพ่อท่านเห็นไหม"น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจหลังจากที่ไม่ได้เจอพี่ชายมาเกือบห้าปีในที่สุดก็ได้เจอพี่ชายตนสักที
"พี่เจ้าสง่างามมากยามอยู่หลังอาชา"เขาอดปลื้มใจไม่ได้
"นั่นเขา เขาผู้นั้นที่ข้ารอ" นางรอเขามาถึงสิบปีเต็มด้วยคำสัญญาในวัยเด็ก
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อน ตอนนั้นนางอายุเพียงเจ็ดปี
"ฮึบ ฮึบ ดอกไม้เจ้าขาท่านยอมให้ข้าได้เด็ดท่านเถิดเจ้าค่ะ " นางพยายามกระโดดเด็ดดอกไม้แต่ทำอย่างไรก็ไม่ได้เสียที
"เจ้าทำอะไรน่ะ" เขาผู้เป็นบุตรชายสหายคนสนิทของท่านพ่อนามว่าอี้เทียนหมิง
"ข้าอยากได้ดอกไม้ อะฮึบ" นางกระโดดไปตอบคำถามไป
"มา ข้าเด็ดให้" เขายื่นมือออกไปเด็ดดอกไม้ให้นาง
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ว่าแต่ท่านมีนามว่าอะไรหรือ"
"ก่อนจะถามนามผู้อื่น ควรแนะนำตัวเองก่อนไหม คุณหนู"
"ข้ามีนามว่าอันหนิงเอ๋อ เป็นบุตรสาวคนเดียวแห่งจวนราชครูอันโหย่งเจียงและเป็นน้องสาวของท่านพี่อันโหย่งเหิง แล้วท่านเล่า" นางบอกกล่าวอย่างถือดีว่าตนนั้นคงเหนือกว่าบุรุษตรงหน้าแน่นอน
"ข้า อี้เทียนหมิง บุตรชายเพียงคนเดียวของแม่ทัพอี้เทียนจวิน"
"อ๋าาาา ที่แท้ท่านก็คือคนผู้นั้น" น้ำเสียงต่างจากเมื่อกี๊อย่างสิ้นเชิง
"คนผู้นั้นอะไรของเจ้า" เขาเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"ว่าที่สามีข้าอย่างไรเล่าฮ่าฮ่าฮ่า" ใช่ นางชอบเขา รักแรกพบอะนะ
"เหลวไหล บุตรีจวนราชครูเขาพูดจาอย่างนี้กันรึ"ฟังจากเสียงก็รู้แล้วว่ากำลังเขินอายและเดินหนีไป
"โตขึ้นข้าจะแต่งกับท่าน ท่านรอข้าด้วยนะ" นางตะโกนตามหลังเขา
"ถวายบังคมฝ่าบาท" ขุนนางทั้งหลายต่างโค้งคำนับผู้เป็นใหญ่แห่งแคว้นฉิน
"ลุกขึ้น" ฮ่องเต้ผายมือส่งสัญญาณให้ลุกขึ้น
"ทูลฝ่าบาท ตอนนี้ชนะศึกแล้ว แคว้นโจวพ่ายแพ้และได้สถาปนาฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นเป็นฮ่องเต้โจวจื่อจินและยังไม่ส่งบรรณาการมาให้กับองค์หญิงห้าโจวจื่ออิงให้กับแคว้นเราพะย่ะค่ะ"แม่ทัพอี้เทียนจวินกล่าวรายงาน
"ดี ดีมาก อีกสามจัดงานเลี้ยงต้อนรับกลับแคว้น ส่วนบ้านใดที่เสาหลักตายในสนามรบ เจิ่นจะให้นำชื่อไปเขียนติดไว้บนศิลาเป็นอนุสรณ์แห่งความภาคภูมิสู่รุ่นหลาน"
"น้อมรับด้วยเกล้าพะย่ะค่ะ"
จวนราชครู
"พี่ใหญ่ ในที่สุดท่านก็กลับมา ท่านเป็นอันใดหรือไม่ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปลา" นางหมุนร่างกายพี่ใหญ่พร้อมถามอย่างเป็นห่วง
"น้องพี่ พอก่อนพี่เวียนหัว"พี่ใหญ่ผู้แสนดีรีบเอ่ยปราม
"อ้อ น้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ พี่บาดเจ็บหรือไม่
"พี่ไม่เป็นไร อีกอย่างกุนซืออย่างพี่ไม่ต้องเข้าสนามรบหรอก ว่าแต่เจ้าคงไม่ได้..."เขาเอ่ยอย่างรู้ทัน
"ขอเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง เขาสบายดีหรือไม่ เขาได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าแล้วมีหญิงอื่นหรือไม่" นางยิงคำถามรัวใส่พี่ใหญ่
"ทีละคำถามนะน้องหญิง ข้อแรกเขาสบายดี ข้อสองเขาไม่ได้รับบาดเจ็บส่วนข้อสามเจ้าตัดใจเสียเถิด" นางเจ็บแปล๊บที่หัวใจเหมือนมีมีดนับล้านมาทิ่มแทง
"พิ..พี่ใหญ่ ท่านบอกว่าให้ข้าตัดใจอย่างนั้นหรือ" นางถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ใช่" (เขาให้พี่มาบอกเช่นนี้กับเจ้า เขาเองก็รักเจ้าเพียงแต่เขาอยู่แต่สนามรบหากแต่งเจ้าเข้าไปแล้วถ้าวันนึงเขาไม่มีวันหวนกลับคืนมาเจ้าจะเป็นหม้ายเอาได้)ประโยคหลังเขาไม่ได้เอ่ยออกไป
"พี่ใหญ่ ข้าอยากแต่งกับเขาท่านต้องช่วยข้านะ"นางขอด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน น้ำตาคลอเบ้าพร้อมไหลตลอดเวลา อันโหย่งเหิงหัวไปมองทางต้นไม้ใหญ่มีร่างสูงกำยำหลบอยู่ตรงนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด อยากกอดนางแต่ทำไม่ได้ ต้องหักห้ามใจตัวเอง
"หึหึ ข้าควรช่วยเจ้าดีไหมนะ เจ้าเพื่อนน่าตาย"
งานเลี้ยงฉลองชัยชนะ
"วันนี้น้องงามมาก"อันโหย่งเหิงเอ่ยชมน้องสาวของตน
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านพี่"นางยิ้มตอบ
...
"วันนี้เจิ้นขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจกันรบจนแคว้นฉินชนะ ขอบคุณแม่ทัพใหญ่อี้เทียนจวินและรองแม่ทัพอี้เทียนหมิงและขาดไม่ได้เลยคือกุนซืออันโหย่งเหิงที่ช่วยออกอุบายในการรบให้ทัพแคว้นเราแลพวกเจ้าทหารทุกนาย เจิ้นขอดื่มจอกนี้แด่พวกเจ้า"ผู้เป็นใหญ่เอ่ยจบพร้อมยกจอกเหล้าดื่ม
"ดื่ม"ขุนนางทั้งหมดต่างยกจอกเหล้าดื่มตาม
"ประกาศราชโองการฉบับแรก เจิ้นเห็นแก่คุณความดีของท่านรองแม่ทัพอี้เทียนหมิง เจิ่นจึงมอบสมรสพระราชทานให้กับท่านรองแม่ทัพและคุณหนูตระกูลอัน อันหนิงเอ๋อ สมรสในวันที่เจ็ดเดือนเจ็ด" "ราชโองการฉบับที่สอง มอบเงินชดเชยให้กับตระกูลที่สูญเสียเสาหลักหรือบุตรที่ตายเพื่อบ้านเมือง ครอบครัวละ30ตำลึงทอง และจะนำชื่อผู้คนเหล่านั้นมาจารึกไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความกล้าและภักดี" หลังจากกล่าวราชโองการจบผู้คนต่างตกตะลึงเรื่องงานสมรสของรองแม่ทัพและคุณหนูอันหนิงเอ๋อ
"ขอบพระทัยพะย่ะค่ะฝ่าบาท/ขอบพระทัยเพคะ"ทั้งสองกล่าวขอบคุณผู้เป็นใหญ่
เมื่อสามวันที่แล้วก่อนจะถึงวันงาน อันโหย่งเหิงเดินทางเข้าพบฮ้องเต้เพื่อขอสมรสพระราชทานให้กับน้องสาวของตน
"วันที่เจ็ดเดือนเจ็ดก็เดือนหน้าน่ะสิ ไม่ไวเกินไปหรือเจ้าคะคุณหนู" ลี่ลี่ถามนางด้วยความสงสัย
"ไม่เลย ยังช้าไปด้วยซ้ำ"นางตื่นเต้นดีใจที่จะได้แต่งกับเขาเสียที
"อันหนิงเอ๋อ ข้าขอคุยด้วยหน่อย พอมีเวลาไหม"อี้เทียนหมิงเดินมาถามนาง
"ได้สิ"นางยิ้มตอบกลับ
ณ ตำหนักแสงจันทร์
"ข้าว่าเราล้มงานแต่งนี้เถิด"เริ่มเปิดประเด็นอย่างไม่รีรอ
"ทำไมล่ะ ท่านไม่อยากแต่งกับข้าหรือเจ้าคะ"ใจนางหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม
"ใช่ ข้าไม่อยากแต่งกับเจ้า"เขาตอบอย่างหนักแน่น
"เพราะเหตุใดเจ้าคะ"นางถามด้วยความสงสัย
"ข้ามีคนรักอยู่แล้วและข้าก็สัญญากับนางแล้วว่าข้าจะตกแต่งนางมาเป็นภรรยาคนเดียวของข้า"เขาเอ่ยความจริงกับนาง
"ข้าไม่ล้มเลิกเจ้าค่ะ"นางตอบปฏิเสธและเดินจากไป
อันโหย่งเหิงแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ฟังทั้งคุยกันจนกระทั่งน้องน้อยของเขาเดินจากไป
"ข้าบอกเจ้าแล้วว่านางไม่ยอม"เขาเดินออกมา
"ข้าควรทำอย่างไรดี ข้าไม่อยากให้นางเป็นแม่หม้ายสามีตาย"เขาเอ่ยออกมาอย่างกังวล
"เจ้าก็อย่าตายสิ แค่นี้ทำไม่ได้หรือ"
"อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน"
"ใช่ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ตอนนี้ยังมีเวลาก็รีบทำตามหัวใจตัวเองเสีย"อันโหย่งเหิงเอ่ยเตือน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!