ภาพที่อยู่ตรงหน้ามันเบลอไปหมด มืดและหนาว ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ข้ากลับมีความสุข มันคือสิ่งที่ข้ารอคอยมันมาตลอด เท่าที่ข้าพอจะจำได้ มันเรียกว่าความตายสินะ...
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก หัวใจยังเต้นอยู่หรอ? ร้อน..ร่างกายข้ามันร้อน ไม่สิ มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ! ข้ายังมีชีวิตอยู่หรอ? ไม่!ไม่!ไม่! ข้าไม่ต้องการมัน! ข้าไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ข้าเหนื่อยมามากพอแล้ว พอเถอะหยุดทีเถอะ! ปล่อยข้าไปเถอะ นะ ขอร้องหละ...
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
ความทรงจำของข้าค่อยๆเลือนหายไปแต่กลับมีความทรงจำของใครบางคนมาแทนที่ความทรงจำข้าไม่สิข้ารู้จักความทรงจำนั้น ไม่สิ! ข้าไม่ควรจะรู้จักมันสิ "นั่นคือความทรงจำของผมเอง" เสียงที่ได้ยินดังมาจากด้านหลัง ข้ารีบหันหลังกลับไป สิ่งที่ข้าเห็นเป็นเพียงเด็กน้อยที่ยืนอยู่เท่านั้น "เจ้าเป็นใคร!" ข้าตะโกนออกไป "นาร์เมล" นั่นคือชื่อของผม "แล้วข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ที่นี่คือที่ไหน! "
เด็กน้อยคนนั้นชี้ลงที่ขาของตนเอง มันกำลังเลือนหายไป "ผมควรจะมีเวลามากกว่านี้" เอาหละ ช่วยฟังผมหน่อยนะ เพื่อประโยชน์ของเราทั้งคู่ ต่อจากนี้นายจะต้องมีชีวิตในฐานะของผม มันแปลกใช่มั้ยหละ? ผมก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอกนะแต่ผมก็ไม่มีทางเลือกหรอก "ใช้ชีวิต? ไม่มีทางเลือก?" "ฟังที่ผมจะบอกต่อไปนี้ให้ดีนะ" แววตาของเจ้าเด็กนั่นมันจริงจัง จนทำให้ข้าไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าข้าเป็นแค่เด็ก ข้าคงต้องตั้งใจฟังสักหน่อ....
ภาพที่ข้าเห็นมันดับไป...สิ่งที่ข้าจำได้มีเพียงแต่คำพูดทิ้งท้ายของเจ้าเด็กน้อยนั่น
" ฉันขอฝาก ตัวฉันไว้กับนายนะ "
น้ำตาไหล นี่ข้ากำลังร้องไห้อยู่หรอ? เพราะอะไรกัน? เพราะสิ่งที่เจ้าเด็กนั่นบอกกับข้าหรอ? ข้าจำมันไม่ได้ จำไม่ได้เลยนี่ข้าพึ่งคุยกับเจ้าเด็กนั่นไปจริงๆหรอ? นี่เป็นความฝันหรือเรื่องจริง?
เอ๊ะ? ร่างกายของข้าเริ่มเลือนหายไปเหมือนกับเจ้าเด็กนั่น "เหอะ คงเป็นแค่ฝันสินะ" ข้าหวังว่ามันคงจะเป็นแบบนั้น "อืม ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะดี" ภาพตรงหน้าเห็นดับลงอีกครั้ง...
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นเวลาก็ผ่านไปราวๆ3วันแล้ว ความทรงจำของนาเมลด์นั้นคุ้นชินกับตัวผมอย่างแปลกประหลาดราวกับตัวผมนั้นเป็นเจ้าของความทรงจำนั้นเอง
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
จากการที่ผมคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมสามารถสรุปเรื่องที่น่าจะเป็นหลักๆได้3หัวข้อ
เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นภาพลวงตาที่สร้างจากเวทมนตร์
ผมได้ตายไปแล้วจริงๆและนี่คือชีวิตใหม่ของผม
ผมได้เข้ามาสิงร่างของนาเมลด์
โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าที่น่าจะเป็นที่สุดคือข้อ1 แต่นั่นก็แค่ความคิดของผม หากคิดตามเรื่องราวทั้งหมดแล้วคงจะเป็นข้อ3? สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงแต่การเดาไปสุ่มๆเท่านั้น เพราะคนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดนี่ดันหายไปซะแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ของนาเมลด์ มีเพียงแต่ร่างกับความทรงจำเพียงเท่านั้น
****************************************
นี่ก็ผ่านไป7วันแล้ว หลังจากที่ผมได้รับชีวิตใหม่? ไม่มีวี่แววของนาเมลด์เลยเจ้านั่นคงจะหายไปแล้วจริงๆสินะ?
จากที่ผมเดาๆดูร่างนี้คงอายุสัก 7 ขวบกระมัง? เป็นมนุษย์เพศชาย ผมสีดำแซมด้วยขาว นัยน์ตาสีเทา ผิวสีขาว
??? : "นาเมลด์ได้เวลากินข้าวแล้วลูก"
อา เสียงแบบนี้คงเป็นท่านแม่สินะ อืมๆเอาเถอะพักเรื่องน่าปวดหัวไว้ก่อนคงจะดีกว่า อย่างน้อยผมก็ควรจะพักสักหน่อย "กำลังไปฮะ!" ผมตะโกนไปอย่างนั้น จากนั้นจึงเดินออกจากห้องตัวเอง "เด็ก7ขวบมีห้องของตัวเองด้วยแถมบ้านยังบิ๊กเบิ้ม คงเพราะว่าตระกูลนี้เป็นตระกูลขุนนางสินะ" ผมเดินพลางคิดพลาง "อืมๆ ความทรงจำส่วนใหญ่ของเราหายไป และทัศนคติ วิธีคิด วิธีพูด ก็เปลี่ยนไปคงเป็นอิทธิพลของเจ้านั่นสินะ" ขณะที่กำลังเพลินๆอยู่นั้นก็เดินมาถึง "นี่คือห้องอาหารสินะ"
ผมเปิดประตูเข้าไป สิ่งที่ผมเห็นคือห้องอาหารที่โอ่อ่าหรูหรามีโต๊ะอาหารตั้งอยู่กลางห้อง อืม ถ้าขายห้องอาหารนี่ทิ้งคงสร้างบ้านได้สักหลัง
??? : มัวยืนทำอะไรอยู่ มานั่งสิ
เสียงนั้นทำให้ผมหยุดคิดอะไรที่เพ้อเจ้ออย่างการขายบ้านตนเอง ส่วนคนที่พูดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ ไมนด์ เมอเรีย-วาเทอร์ไฮน์ ดยุคแห่งอาณาจักรวาเทอร์ และคือพ่อของผมเอง เขานั่งอยู่ที่มุมหัวสุดของโต๊ะ ดูจากแววตาแล้วเขาคงไม่ใช่ดยุคเพียงแค่ชื่อสินะ
ส่วนท่านแม่เนีย เมอเรีย-วาเทอร์ไฮนด์ นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของเขา ที่นั่งของผมอยู่ติดกับท่านแม่ ส่วนฝั่งตรงข้ามของผมคือที่นั่งของ เพอร์ม่า เมอเรีย-วาเทอร์ไฮน์ พี่ชายของผม และ นีม เมอเรีย-วาเทอร์ไฮน์ พี่สาวของผม เดิมทีผมมีพี่อยู่อีกคนนึง แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ ไม่ได้หมายความว่าเขาตายนะ ตอนนี้รู้สึกว่าเขาน่าจะอยู่ที่อาณาจักรอื่น ตัวผมไม่รู้เกี่ยวกับเขามากนักในความทรงจำก็ไม่มีเรื่องของเขาอยู่ด้วย รู้สึกจะชื่อพาร์อะไรสักอย่างนี่แหละ
ไมนด์ : เอาหละเข้าเรื่องเลยนะ
ไมนด์ : เพอร์เมีย นีม ในฐานะของลูกของดยุคตอนนี้ มีบัตรเชิญจากทางโรงเรียนเวลเฮ็มมาถึงเจ้า
เนีย : นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากนะเนี่ย เวลเฮ็ม เป็นโรงเรียนที่ดีเป็นอันดับต้นๆของทวีปนี้เลยนะ ลูกๆ ไม่ควรปฏิเสธนะ
เพอร์เมีย : ขออภัยท่านแม่ แต่ลูกเกือบจะเอาตัวไม่รอดจากโรงเรียนที่จบมาแล้ว ลูกไม่อยากกลับไปเรียนอีกแล้ว
เนีย : ว้าา น่าเสียดายจังแต่ยังไงก็ต้องเอาตามสะดวกหละเนอะ นีม แล้วลูกหละ
นีม : เหมือนกับพี่เพอร์เมีย หนูจบจากโรงเรียนมาแล้วค่ะ หนูว่าคงไม่เหมาะหากจะให้หนูกลับเข้าไปเรียนอีก
เนีย : แบบนี้คงต้องปฏิเส..
นาเมลด์ : ผมอยากเรียนฮะ!
เนีย : เอ่อ ลูกคงจะเด็กไปนะนาเมลด์
ไมนด์ : ไม่หรอก โรงเรียนเวลเฮ็มเองก็มีสายชั้นสำหรับเด็กอยู่
ไมนด์ : แต่ยังไงก็คงต้องรออีกสัก1ปี ในระหว่างนั้นลูกก็ลองศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองไปก่นละกัน
นาเมลด์ : จะพยายามครับ!
ทำไมผมถึงอยากไปโรงเรียนกันนะเอาเถอะมีที่เรียนก็น่าจะหาข้อมูลได้ดีกว่าที่บ้านนั่นแหละ หลังจากจบมื้ออาหารนั้นผมก็รีบตรงกลับห้องของตนเองโดยทันที
นาเมลด์ : มืดจังเลย ปกติผมไม่กลัวอะไรแบบนี้นะ คงเป็นผลกระทบจากนาเมลด์นั่นแหละ
นาเมลด์ : ว่าแต่ว่าทำไมพวกพี่ๆถึงพยายามบอกถึงความโหดร้าย?ในโรงเรียนกันนะ เอ๊ะ หรือว่านาเมลด์จะหัวไม่ค่อยดีหว่า?
นาเมลด์ : ช่างเถอะๆ เดี๋ยวอ่านหนังสือเยอะๆเดี๋ยวก็เก่งเองแหละ!
ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ด้านหน้าของผมกลับมีเศษกระจกกระจัดกระจายอยู่ เมื่อมองไปที่หน้าต่างข้างๆโถงทางเดินกลับพบว่าหน้าต่างใบนั้นถูกทำลาย ไม่ใช่! นี่มันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงตั้งใจที่จะวิ่งกลับไปทางห้องอาหาร แต่เมื่อผมก้มหน้าลง ผมกลับพบว่ามีเงาของอะไรสักอย่างอยู่ด้านหลังของผม
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
ในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น ด้านหน้าของผมกลับมีเศษกระจกกระจัดกระจายอยู่ เมื่อมองไปที่หน้าต่างข้างๆโถงทางเดินกลับพบว่าหน้าต่างใบนั้นถูกทำลาย ไม่ใช่! นี่มันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงตั้งใจที่จะวิ่งกลับไปทางห้องอาหาร แต่เมื่อผมก้มหน้าลง ผมกลับพบว่ามีเงาของอะไรสักอย่างอยู่ด้านหลังของผม
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
ผมพุ่งกระโจนไปข้างหน้ามันเป็นสิ่งที่ผมทำได้โดยไม่ต้องคิด อะไรบางอย่างนั้นเริ่มเดินมาทางผม เวทย์มนตร์เป็นสิ่งที่ผมถนัดที่สุดในชีวิตเก่าของผมแต่มันจะเป็นอย่างไรหละถ้าผมใช้มันในตอนนี้? เอ็มป์มันคือกลุ่มก้อนพลังงานที่ลอยอยู่ทั่วไปตามอากาศผมจำเป็นต้องรวบรวมมันเพื่อใช้เวทย์มนตร์ แต่ตอนนี้ผมสัมผัสถึงเอ็มป์ไม่ได้สักนิด แย่แล้ว
ร่างนั้นขยับเข้ามาใกล้ผมเมื่อมันกระทบกับแสงจันทร์ผมได้เห็นรูปร่างของมัน ผมโล่งใจในทันทีเขาคือพี่ชายของผมเอง
เพอร์ม่า : ตกใจอะไรขนาดนั้น นี่คิดว่าจะมีคนกล้าบุกเข้าคฤหาสน์ของดยุคหรือไง ฮ่าๆ
นาเมลด์ : อยู่ดีๆก็โผล่มาด้านหลังแล้วใครมันจะไปรู้เล่า!
เพอร์ม่า : นั่นสินะ ขอโทษทีๆ อ๊ะ ระวังเศษกระจกนะพี่เผลอทำมันแตกระหว่างใช้เวทย์มนตร์หนะ
นาเมลด์ : เวทมนตร์? เป็นไปไม่ได้หรอกก็แถวนี้มันไม่มีเอ็มป์เลยนี่!
เพอร์ม่า : เอ็มป์? อะไรหละนั่น ถ้าจะใช้เวทย์มนตร์ก็ต้องใช้มานาสิ เรื่องนี้นายก็น่าจะรู้หนิ
นาเมลด์ : ไม่รู้หรอก!
ผมรีบเดินกลับห้องของตัวเองในทันที "ไม่รู้จักเอ็มป์กันงั้นหรอเป็นไปไม่ได้หรอก"
เพอร์ม่า : อุบัติเหตครั้งนั้นคงทำให้นายลืมไปสินะ ดีแล้วหละนายลืมๆมันไปเถอะ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นลืมมันไปคงจะดีที่สุด
เมื่อมาถึงห้องสิ่งแรกที่ผมทำคือการตั้งสมาธิ "เป็นไปไม่ได้หรอกเอ็มป์ไม่มีวันหายไปหรอก!" ผมตั้งสมาธิอยู่สักครึ่งชั่วโมง "ไม่มีทางน่า" ผมจับสัมผัสของเอ็มป์ไม่ได้เลยแต่ผมกลับพบสิ่งอื่นแทนมันเป็นกลุ่มก้อนของพลังงานเช่นเดียวกันกับเอ็มป์แต่พลังงานของมันจางกว่าเอ็มป์อยู่มากโข คงจะเป็นมานาสินะ? พรุ่งนี้ผมคงต้องไปห้องสมุดสักหน่อย
อ่าา อดีตกับปัจจุบันมันกลับตาลปัตรกันไปหมดเลย กลายเป็นว่าความรู้ที่ผมมีอยู่แทบจะไร้ประโยชน์ทั้งหมดเลย มันใช้ไม่ได้กับที่นี่ ไม่มีหนังสือเล่มไหนกล่าวถึงเอ็มป์เลย แต่สิ่งที่ผมแปลกใจที่สุดไม่ใช่เรื่องของเอ็มป์แต่เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่ถูกบันทึกไว้มีแต่เรื่องของมนุษย์เพียงเท่านั้น ไม่มีปีศาจ ไม่มีเทวดา แต่ยังคงมีเรื่องราวของเผ่าต่างๆแต่มันไม่ได้ถูกเก็บไว้ที่นี่ คงจะอยู่ที่อาณาจักรอื่นหละมั้ง? "นี่ผมอยู่คนละโลกกับชีวิตเก่าหรือเปล่านะ" คงไม่เป็นอย่างนั้นหรอก
ผมคงต้องลองฝึกควบคุมมานาสักหน่อยอย่างน้อยผมก็ควรจะใช้เวทย์มนตร์ให้ได้เร็วที่สุด วิธีการควบคุมมานานั้นไม่ต่างจากเอ็มป์มากนักผมต้องรวบรวมพลังงานที่กระจายอยู่ตามอากาศมารวมไว้ที่จุดจุดหนึ่งจากนั้นก็เสริมพลังธาตุเข้าไป ขนาดของเวทย์มนตร์นั้นจะขึ้นอยู่กับความชำนาญ ถ้าผมใช้เวทย์มนตร์อย่างเต็มที่ผมคงจะเสกน้ำได้สัก1แกลลอนหละมั้ง น้อยไปหน่อยแต่มันก็แค่ตอนนี้ เริ่มปวดหัวแล้วผมคงต้องไปหาอย่างอื่นทำสักหน่อย
ขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสืออยู่นั้น ประตูห้องสมุดก็เปิดออก มีใครเข้ามาหรอ?
นีม : อ๊ะ นาเมลด์มาอ่านหนังสือหรอ? แปลกจัง
นาเมลด์ : แปลกหรอฮะ?
นีม : ก็แปลกหนะสิ เด็กเจ็ดขวบที่ไหนจะมาอ่านหนังสือเป็นปึกๆเล่า
พูดไม่ออกเลยแฮะ มันก็แปลกจริงๆนั่นแหละถ้าผมเป็นเด็กจริงคงไม่มานั่งอ่านหนังสือหรอก
นีม : คงเพราะจะเข้าโรงเรียนสินะ
นีม : ทำไมนายถึงอยากเข้าโรงเรียนหละ มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า?
นาเมลด์ : ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกฮะ ผมแค่อยากมีเพื่อนที่โรงเรียนอะ
ถ้าตอบไปว่าอยากมีความรู้เยอะๆก็คงจะแปลกไปสำหรับเด็กเจ็ดขวบหละนะ เก็บหนังสือเสร็จพอดีเลย
นาเมลด์ : งั้นเดี๋ยวผมไปแล้วนะ พี่ก็อ่านหนังสือตามสบายเลยนะ
นีม : อืม ไว้เจอกัน
ผมเดินออกจากห้องสมุดไป
นีม : นายจำไม่ได้หรอ?เหตุผลที่นายอยากเข้าโรงเรียนหนะทั้งที่ตอนนั้นนายพยายามแทบตายแหนะ เอาเถอะลืมมันไปคงจะดีกับตัวนายที่สุด
\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*\*
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!