NovelToon NovelToon

" พระเจ้าช่าง (ไม่) ยุติธรรม "

ฝัน?.....

25/7/2019

"คุณหนูคะ ตื่นรึยังคะ" เสียงของพี่ พาน แม่บ้านที่กำลังเคาะประตูเพื่อปลุกฉัน ดังขึ้นขณะที่ฉันกำลังหลับตานอนอยู่ที่เตียงของฉัน "ก๊อกๆๆๆ" เสียงประตูสีขาวถูกเคาะ

"อืม...ฮ้าวว ซานตื่นแล้วค่ะ" ฉันตอบออกไปพร้อมกับตาที่ยังลืมไม่ขึ้น "วันนี้คุณหนูต้องเตรียมตัวเพื่อไปซื้อของขวัญ กับคุณท่านนะคะ" พี่พานกำลังบอกฉันอยู่ที่หน้าประตูสีขาว

"ของขวัญ....."

"อืม.............."

ฉันคิดอยู่กับตัวเองสักครู่ ก่อนจะตอบออกไป

"ค่าา" ฉันรีบลุกไปเตรียมตัวเพื่อที่จะออกไปข้างนอกกับคุณพ่อและคุณแม่ของฉัน

...09:47 น....

"ตึก ตึก ตึก" เสียงรองเท้าของฉัน ที่กำลังเดินลงบันได มาจากชั้นสอง เพื่อมาทานข้าวอย่างพร้อมหน้ากับครอบครัว

"วันนี้ลูกอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ.....ซานน้อยของพ่อ"

คุณพ่อพูดพร้อมกับเอามือมาลูบที่หัวของฉัน

"อะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่มีคุณพ่อกับคุณแม่อยู่กับหนูไปแบบนี้นานๆก็พอค่ะ" ฉันพูดด้วยรอยยิ้มที่ส่งออกไปหา คุณแม่และคุณพ่อของฉัน ท่านดูจะอารมณ์ดีมากเลย ในวันนี้

วันนี้เป็นวันครบรอบ วันเกิดของฉันเอง ฉันดีใจมากที่ในที่สุด

ฉันก็อายุครบ 15 ปี และใช่ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ก็ดีใจมากเช่นกัน ในทุกปี คุณพ่อและคุณแม่ จะพาฉันไปซื้อของขวัญที่อยากได้ และปีนี้ก็ด้วย....

"เดี๋ยวเราทานข้าวกันก่อนที่จะไปซื้อของขวัญนะคะ"

แม่พูดกับฉันด้วยรอยยิ้มที่สวยงามของแม่

"ค่ะ..แม่"

ฉันตอบออกไปพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก...

"หืมมม....อร่อยมากเลยค่ะ"

อาหารที่แม่ฉันทำเป็นอาหารที่กินแล้ว

ต้องแสงออกปากทุกครั้งเลยล่ะ....

...14:54 น....

"ป่ะ ไปกัน" คุณพ่อออกปากชวนฉันและเเม่เดินออกไปรอรถที่หน้าบ้าน

รถหรูสำหรับครอบครัว จอดอยู่ตรงหน้าของฉัน ฉันดีใจมากที่จะได้ไปซื้อของขวัญที่ตัวเองอยากได้ ฉันอดใจไม่ไหวจึงขึ้นไปเลือกที่นั่งก่อนใครเลยล่ะ

"ตรู๊ด~ ตรู๊ด~" เสียงโทรศัพท์ของคุณพ่อดังขึ้นและ.....

"อืม..ผมรู้แล้ว เดี๋ยวไป"

คุณพ่อกดวางสายโทรศัพท์พร้อมกับทำหน้าตาที่ผิดหวังนิดหน่อย

"คุณกับลูก ขึ้นรถล่วงหน้าไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวผมจะตามไปทีหลัง" คุณพ่อบอกกับคุณแม่ว่าอย่างงั้น

"ได้ค่ะ" "ซาน เดี๋ยวเราไปกันสองคนก่อนนะคะ"

คุณแม่ตอบคุณพ่อ ก่อนจะหันมาพูดกับฉัน

"ค่ะ😊" ฉันตอบคุณแม่ไป ก่อนที่ประตูรถจะถูกปิดและรถก็เคลื่อนตัวออกไป

พอถึงห้างสรรพสินค้า คุณแม่ก็พาฉันเดินไปดูของต่างๆนาๆ มากมายลายตาไปหมด ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเอาอะไรดี

จนในที่สุด...

"เอาอันนี้ค่ะ" ฉันชี้ไปที่เปียโนสีดำตัวนึง มันสวยมากจนฉันต้องตกตะลึงอยู่พักใหญ่ก่อนจะเลือก เจ้านี่

"งั้นช่วยส่งอันนี้มาที่บ้านเราทีนะคะ นี่ค่ะบัตรเครดิต"

คุณแม่พูดกับพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรเครดิตสีดำให้

"ได้ค่ะ คุณนาย"

"ซานอยากได้อะไรอีกมั้ยคะ" แม่ถามฉัน

"ไม่เเล้วค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณพ่อคุณแม่แล้ว"

หลังจากฉันตอบ คุณแม่ก็ขำเล็กๆในลำคอ

หลังจากนั้น เราสองคนก็ไปหาของกินและ ของเล็กๆน้อยๆ มากมาย เรามีความสุขกันมาก แต่เสียดายที่คุณพ่อไม่ได้มาด้วยไม่งั้นเราอาจจะมีความสุขกันมากกว่านี้.....

...17:35 น....

ตอนนี้เรากำลังเดินทางกลับจากห้างสรรพสินค้า ซึ่งคุณพ่อที่บอกว่าจะมาก็ยังไม่มา และยังขาดการติดต่อไปเลย

ฉันถามคุณแม่ไปหลายรอบว่าคุณพ่อไปไหน

คุณแม่ก็ตอบกลับมาเพียงว่า "คุณพ่อคงติดงานน่ะค่ะ"

ฉันก็เข้าใจดีว่าคุณพ่อคงติดงานจริงๆ ถึงมาไม่ได้...

ปั้ง!! ปั้ง ปั้ง!!

เสียงปืนดังขึ้น!! มันมาจากทิศทางไหนฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน

"อร๊าย!!! อะไรน่ะ" คุณแม่ที่กำลังกอดฉันอย่างแน่นพรอมกับถามกับบอดี้การ์ดที่มาด้วย ว่ามันคืออะไร

"คงจะเป็นพวกที่พยายามรอบสังหารครับ คุณหญิง! "

รอบสังหาร!! ฉันคิดไม่ผิดแน่ๆ พวกเรากำลังจะโดนฆ่า ในตอนนั้นฉันสติแตกมาก และกำลังจะร้องไห้ออกมา แต่...

"ไม่เป็นไรนะคะ แม่อยู่นี่แล้ว ไม่ร้องนะ" เสียงของคุณแม่ที่อ่อนโยนกับฉัน ทำให้ฉันไม่ร้องไห้ และจิตใจสงบลงได้

...19:00 น....

ปั้ง!! ปั้ง!! เสียงปืนมันยังดังมาอย่างต่อเนื่อง แต่แล้ว เหล่าบอดี้การ์ด ก็พาฉันกับคุณแม่หนีออกมาได้ อย่างหวุดหวิด

พวกเรากำลังขับตรงไปยังเส้นทางที่พากลับบ้าน ฉันคิดว่ามันจะจบแล้ว.....แต่

เอี๊ยด!!!!! โครม!!!

..........

ภาพที่ฉันเห็น...ในตอนนี้....ทุกคนภายในรถกำลังสลบขณะมีเลือดท่วมตัวเต็มไปหมด.....ภาพมัน....เลือน..ลา-.....

.......

26/7/2019

...11:37 น....

ฉันลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ที่ ห้องคนไข้ของ

โรงพยาบาลแห่งนึง ตอนนี้ฉันมองไปรอบๆห้อง

เห็นแต่พี่พานที่กำลังเฝ้าฉันอยู่คนเดียว....ฉันมองผ่านกระจกที่ประตู เห็นพยาบาล และหมอ วิ่งกันทั่วไปหมด

"คุณหนู!! คุณหนูฟื้นแล้ว!! " พี่พานดีใจมากที่เห็นฉันฟื้นแล้วจนน้ำตาไหลออกมา

"คุณพ่อ...ล่ะคะ"

..... พี่พานเงียบไป เเละ ไม่กล้ามองหน้าฉัน

ในตอนนั้นฉันไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนนี้ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ภาพมันตัดไปเลย จนฉันสับสนไปหมด

"คุณท่าน...ยังไม่กลับมาเลยค่ะ" พี่พานพูดออกมาด้วยท่าทีที่ประหม่า

".........จริงหรอคะ....." ฉันพูดออกไป ด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อ ว่าคุณพ่อจะยังไม่กลับมาจนถึงตอนนี้ คุณพ่อรู้รึเปล่า ว่าฉันกับแม่เกือบจะตายเลยนะ..............

-ติ๊ด-

"ข่าวด่วนนะคะ เมื่อคืนนี้ เวลา 19:23 น. พบรถหรูสีแดง พลิกคว่ำอยู่กลางถนน เบื้องต้น ทราบว่าเป็นรถของตระกูล มหาเศรษฐีรายใหญ่ค่ะ ในขณะนี้มีรายงานมาว่า เป็นอุบัติเหตุที่ถูกชนแล้วหนีค่ะ ตอนนี้ก็ยังตามจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้เลยนะคะ

ชน...แล้วหนี...ฉันได้แต่คิดในใจ...และมีคำถามในใจมากมาย เมื่อคืนฉันกับคุณแม่พึ่งจะเกือบตายเพราะเกือบโดนรอบสังหารแล้วนะ.....

...........

ขออภัยค่ะ

เมื่อสักครู่ มีคนรายงานความเคลื่อนไหวมาเพิ่มนะคะว่า

ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บ และ ผู้เสียชีวิต รวมผู้ที่ได้ประสบเหตุทั้งหมด 4 รายค่ะ

ผู้บาดเจ็บคือ ด.ญ. ซาน นามสมมุติ ลูกสาวเศรษฐีรายหนึ่ง และผู้เสียชีวิต คือ นางสาว คิม นามสมมุติ ภรรยา ของเศรษฐีรายหนึ่ง

นาย ปกรณ์ และ นาย ไทเท คาดว่าน่าจะเป็น บอดี้การ์ดส่วนตัว ของครอบครัวนี้ค่ะ ในขณะนี้ ถือว่า ครอบครัวนี้มีอิทธิพลต่อ สังคมในประเทศของเราอย่างมากเลยนะคะ เราก็ขอแสดงความเสียใจด้วยกับผู้เสียชีวิตในเหตการณ์ครั้งนี้ค่ะ......."

ฉันมองดูโทรทัศน์ภายในห้องที่กำลังแจ้งข่าว พร้อมกับใบหน้า ที่ช็อคจนซีดเผือด ในข่าวนั้นคือครอบครัวของฉันที่ประสบอุบัติเหตุ และใช่.....นักข่าวคนนั้นแจ้งว่า แม่ของฉัน ตายแล้ว...... ฉันไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง.... ฉัน....คิด...อะไรไม่ออกเลยสักอย่าง

ฉัน......

.....จะ.....

.........ทำยังไงดี....

"ไม่จริงใช่มั้ย ไม่สิ คงไม่จริงหรอก" ฉันถามตัวซ้ำๆ

" ไม่จริง.....ไม่สิ!! ไม่!! ไม่!!!!!!! " ฉันตะโกนออกมาด้วยความเสียใจจนแทบจะขาดใจให้ตายตรงนั้น ฉันพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ แต่มันทำไม่ได้เลย ฉันเสียใจและตะโกนออกมาอย่างดัง จนพยาบาล และหมอต้องเข้ามาช่วยห้ามไว้

ฉันไม่ยอมหยุดดิ้นและจะออกจากห้องไปหาคุณแม่ให้ได้

จนคุณหมอต้องฉีดยาสลบให้ฉัน.........

มันค่อยๆมืดลงอีกครั้งหนึ่ง จนฉัน.....

ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่บนเตียงเหมือนเดิม

แต่ครั้งนี้มันเงียบ.....เงียบมาก พี่พานที่กำลังนั่งมองฉัน ก็ลุกพรวดขึ้นมา และพยายามที่จะกลั้นน้ำตาไว้ พร้อมกับบอกฉันว่า

"คุณหนูคะ....คุณหญิง เสีย-........ ... " ฉันไม่รู้ว่าหลังจากนั้นพี่พาน พูดว่าอะไร หูมันอื้อไปหมด ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยสักอย่าง อยู่ๆน้ำตาเเห่งความเจ็บปวดก็ไหลลงบนแก้มของฉันอีกครั้ง แต่มันไม่เหมือน ครั้งก่อนที่ฉันโวยวายและไม่ยอมอะไรเลย แต่ทำไม? ครั้งนี้ มันเงียบ เงียบมากเกินไป ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

ฉันนอนน้ำตาไหลอยู่บนที่นอนเป็นเวลากว่า 10 นาที น้ำตามันไหลออกมาโดยที่ฉัน ไม่ได้มีเเม้แต่เสียงร้องไห้....

มันคืออะไรกันเเน่ ความรู้สึกนี้ ?.....

" ผลั่ก " เสียงเปิดประตู พร้อมกับ คุณหมอเดินเข้ามาบอกกับฉันว่า อะไรสักอย่าง ก่อนที่พยาบาล จะอุ้มฉันใส่รถเข็น และเข็นฉันออกมาจากห้องนั้น

"คุณหนูคะ...คุณหนู!! " พี่พานตะโกนเรียกฉัน

"..........คะ" ฉันมองหน้าพี่พานแล้ว ตอบกลับไปแบบช้าๆ

"เดี๋ยวพี่จะพาคุณหนูไปทานข้าว ก่อนนะคะ"

............. ฉันไม่ตอบอะไร ได้แต่พยักหน้า เเละนั่งเงียบไป

ฉันนั่งรถเข็นและเหม่อมองพื้นอยู่นาน จนกระทั่ง.......

"ซาน ซานหรอลูก" เสียงผู้หญิงดังขึ้นแว่วๆ

ฉันดีใจมาก นั่นอาจจะเป็นเสียงแม่ก็ได้ ฉันหันไปตามเสียงที่เรียก!!....

"ซานจริงๆ ด้วย" เสียงของคุณย่าที่เรียกฉันอย่างประหม่า

"ซานเป็นอะไรมั้ยลูก เจ็บตรงไหนมั้ย" คุณย่าถามฉันด้วยความเป็นห่วง

"ไม่...ใช่..คุณแม่" ฉันนั่งน้ำตาตกอีกครั้ง หลังจากที่รู้ว่าเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เสียงของคุณแม่

คุณย่าที่เห็นฉันกำลังร้องไห้ ก็ไม่พูดอะไรต่อ คุณย่าได้แต่นั่งลงและกอดปลอบใจฉันว่า

"แม่ของหนู เขาไปอยู่ที่ สวรรค์แล้วนะ ไม่ต้องห่วงหรอกนะ"

คุณย่าปลอบใจฉันทั้งน้ำตา

สักพัก ก็มีเหล่านักข่าวพากันวิ่งกรูเข้ามาทางนี้ เพื่อจะขอสัมภาษณ์ แต่คุณย่าสั่งให้ บอดี้การ์ด กันเอาไว้

ก่อนจะพาฉันขึ้นรถไปส่งที่บ้าน

...16:20น....

"ซานลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้ย่าจะมารับหนูเพื่อไปงานศพของแม่หนูนะ อย่าลืมกินยาและนอนให้พอด้วยล่ะ" ย่าพูดก่อนลูบหัวฉัน

........

ฉันไม่ได้ตอบอะไรและนั่งเงียบอยู่ตลอด

ตอนนี้ ในสมองของฉัน มีคำถามมากมายไปหมด

ฉันจะทำยังไงต่อ?

คุณแม่ตายแล้วจริงๆหรอ?

นี่เป็นความฝันใช่มั้ย?

แต่คำถามที่ฉันต้องการคำตอบที่สุด.......

"คุณพ่อ ..ไปไหน?" นั่นเป็นคำถามที่ฉันต้องการคำตอบที่สุด

ฉันพูดออกมาโดยที่ฉันไม่รู้ตัว คุณย่าได้

แต่มองหน้าฉัน และถามกับพี่พาน

"เบน ยังไม่กลับมาอีกหรอ พาน"

"ใช่ค่ะ คุณหญิง"

"เฮ้อ...ไม่ต้องไปห่วงพ่อเขาหรอกนะลูก ตอนนี้หนูควรห่วงตัวเองก่อนนะคะ"

ฉันอยากจะบอกคุณย่าออกไปว่า ฉันไม่ได้ห่วง แต่ฉันอยากจะรู้มากกว่า ว่าทำไม! ทำไมกัน! ทำไมคุณพ่อ ถึงหายไปทั้งๆที่ ทั้งคุณแม่และฉัน ต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย!!

ฉันโกรธมาก จนต้องนั่งกำหมัดของตัวเองไว้

"งั้น ย่ากลับก่อนนะคะ" ย่าบอกกับฉัน

"...ค่ะ คุณย่า"

รถของคุณย่า ถูกขับออกไป.....และฉันก็ถูกเข็นรถเข็นเข้ามาภายในบ้าน

ไม่ว่าจะเข็นไปตรงไหน ภาพในหัวของฉัน ที่ยังมีคุณแม่อยู่ มันจะหวนนึกขึ้นมาเสมอเลย

" อึก.....ปวด..หัวจัง...อึก " จนฉันปวดหัวอย่างรุนแรง

พี่พานจึงให้ฉันนั่งพักสักครู่ ก่อนจะพามานั่งกินข้าว....

ฉันกินข้าวทั้งน้ำตา

อาบน้ำทั้งน้ำตา

และนอนทั้งน้ำตา

ฉันทุกข์ใจขนาดนี้ แต่คุณพ่อ! หายไปไหนก็ไม่มีใครรู้เลย

ฉันถูกเข็นมานอนที่บนเตียง.......

ฉันหลับตาลง พร้อมพูดกับตัวเองว่า..........

"ขอให้....มันเป็นฝันซะเถอะนะ"

...จบ...

ชีวิตใหม่.......

27/7/2019

...08:12 น....

"อะ...อ้าว คุณหนูตื่นแล้วหรอคะ" เสียงของพี่พาน ที่กำลังจัดห้องให้ฉันขณะที่ฉันนอนอยู่บนเตียง ในเวลา 8 โมงเช้ากว่าๆ

เช้านี้ ฉันหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ขณะที่ยังนอนบนเตียง ที่แสงแดดยามเช้ากำลังส่องมาหาฉัน มันดูเป็นวันที่สดใส...........งั้นหรอ? .......ความคิดในหัวของฉันมันตีกันไปหมดอีกครั้ง

"เดี๋ยวพี่ จะพาคุณหนู ไปทานข้าวข้างล่างนะคะ" ...................

.

.

ข้าว?.........

.

.

ข้าวหรอ? ฉันจะกินมันกับใครล่ะ ในเมื่อ...เฮ้อ...ช่างเถอะ

".....ค่ะ" ฉันตอบพี่พานออกไปด้วยประโยค สั้นๆ

สีหน้าของพี่พานดูกังวลใจอย่างมาก ที่เห็นฉันเงียบผิดปกติ จากทุกวัน วันนี้มันดูวุ่นวายมากจริงๆ บอดี้การ์ดสองคนต้องมาอุ้มให้ฉันนั่งรถเข็น เพื่อที่จะไปอาบน้ำ และแต่งตัว ก่อนจะลงไปชั้นล่างของบ้าน

มันน่าอาย ที่เด็กอายุ 15 จะต้องมาให้คนอื่นทำแบบนี้ให้ แต่ทำไงได้ล่ะ.........

พี่พาน พาฉันไปอาบน้ำ และแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทานข้าว

"วันนี้ คุณหนูแต่งตัวสวยจังนะคะ แต่ทำไม ถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ.....หืม..ยิ้มให้พี่ดูหน่อยสิคะ" พี่พานบอกกับฉันก่อนที่จะจับใบหน้าฉันด้วยความอ่อนโยน......

บรรยากาศแบบนี้.......ฉันคิดถึงคุณแม่....อีกแล้ว

ฉันมองหน้าพี่พานไปซักพัก และก็ยิ้มให้พี่พาน ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

เพราะอะไรน่ะหรอ ?...........

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน

...09:34 น....

พี่พานเข็นฉันไปที่ลิฟท์ และกดลิฟท์ลงไปยังชั้นล่างเพื่อทานข้าวรอคุณย่าที่จะมารับฉันเพื่อไป...

งานศพของ......คุณแม่

ฉันนั่งทานข้าวไปพร้อมกับนึกอะไรมากมาย วันนี้ฉันคุยกับคนอื่นไปแค่ 1 คำ คือคำ ว่า " ค่ะ " ที่ฉันตอบพี่พานไปเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อนหน้า

ปกติ....ฉันไม่ใช่คนแบบนี้นี่ คนที่นิ่งเงียบ คนที่ไม่พูดอะไรเลย นี่มันไม่ใช่ฉัน!! ทำไม!! ทำไมกัน!

...........

บรรยากาศภายในบ้าน ที่มีแค่ ฉัน พี่พาน และคนรับใช้อีกหลายคน ดูๆแล้ว ทุกคนก็อยู่กันมากกว่า 10 คนภายในบ้าน

แต่ทำไม......มันถึงไม่ครึกครื้นเลยนะ ทุกคนดูจะว้าเหว่ และเศร้าโศกกันไม่น้อยถึงการจากไปของคุณแม่ เฮ้ออออ....

วันนี้.....เป็นวันแรกที่ฉันรู้สึกว่า ไม่ควรคาดหวังกับอะไรทั้งนั้น

คุณพ่อที่ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ท่านหายไปเลยแบบไร้ร่องรอยมากว่า 2 วันแล้ว

ฉันนั่งคิดอยู่ที่ใต้ร่มของต้นซากุระที่ไม่มีใบที่หน้าบ้านอยู่นาน และแล้วคุณย่าก็มาถึง ท่านเดินลงมาหาฉันแล้วกอดฉันอย่างแน่น

พร้อมกับพูดว่า

"วันนี้ เป็นวันสุดท้ายแล้วนะ ที่หลานจะได้อยู่กับแม่เป็นครั้งสุดท้าย....."

หลังจากคุณย่าพูดจบ ท่านก็เข็นฉันไปที่รถ และพาฉันขึ้นไปนั่ง และรถก็ถูกขับเคลื่อนออกไป ช้าๆ

ที่งานศพของคุณแม่ถูกจัดวันเดียวก็เพราะ คุณย่ากลัวว่า จะเกิดอะไรขึ้นอีกในขณะที่ฉันอยู่บ้านคนเพียงคนเดียวแบบนั้น...

หลังจากงานของคุณแม่...คุณย่าเป็นอาสาจะมาดูแลฉันสักพักจนกว่า คุณพ่อจะกลับมา....แต่...ตอนไหนล่ะ ที่เขาจะกลับมา

ระหว่างทางไปที่ที่จัดงานศพของคุณแม่ ต้นดอกเดเลียสีชมพูที่เป็นต้นไม้ใหญ่ตามข้างทาง กำลังร่วงโรย ทำให้ท้องถนนแถวนั้น กลายเป็นสีชมพูเต็มไปหมด มันสวยงามมากจริงๆ.......

...11:11 น....

ตอนนี้ ฉันมาถึงที่งานศพของคุณแม่แล้ว ฉันถูกอุ้มลงมาที่รถเข็น และเข็นเข้างานไป ฉันมองไปรอบๆ เจอเเต่คนใหญ่คนโต ทั้งเศรษฐี ทั้งนักธุรกิจจากหลายประเทศ มาร่วมในงานศพของคุณแม่ของฉัน

ทุกคนจับตามองมาที่ฉันขณะที่ฉันกำลังถูกเข็นเข้าไปในงาน

"นั่น...ลูกประธานเบน ไม่ใช่หรอ"

"น่าสงสารจังนะ กำลังเป็นวัยรุ่นเลยด้วย"

"น่าสงสารจริงๆเลยนะคะ คุณ"

"หนูซาน ไม่ใช่หรอ น่าสงสารจังแม่ต้องมาตายตั้งแต่อายุน้อยๆ

.........

ทุกคนมองฉันด้วยหน้าตาที่มีแต่ความเศร้า บางคนก็ร้องไห้ออกมา บางคนก็พูดซุบซิบสงสารฉัน บางคนก็มาพูดแสดงความเสียใจแก่ฉัน

แต่ทำไมกัน?.....

ทำไม........

ฉันถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ ทั้งๆที่ฉันเสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันพูดไม่ออก ตอนนี้ฉันไม่มีความรู้สึกอะไรเลย....

"หนูซานจ๊ะ แล้วประธานเบนไปไหนล่ะ? "

........คำถามนี้......ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหนเหมือนกัน....

"ซานก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ...." ฉันได้แต่ตอบทุกคนที่ถามหาคุณพ่อไปแบบนั้น จนกระทั่งพิธีเริ่มถูกดำเนินการณ์

โดย ฉันเอง.....

ในตอนท้ายก่อนพิธีจะจบ จะต้องมีคนออกไปพูด ปราศรัย

เพื่อกล่าวคำขอบคุณแขกที่มาในวันนี้

ซึ่งใช่....

นั่นควรจะเป็นหน้าที่ของคุณพ่อสิ?

แต่........

13:52 น.

"และในช่วงท้ายของพิธี ขอเชิญท่านประธานเบน ขึ้นมากล่าวคำ ปราศรัย แก่แขกทุกท่านครับ" สิ้นเสียง เสียงปรบมือก็ดังขึ้น จนไร้เสียงปรบมือ คุณพ่อก็ยังไม่มาสักที............

"ฉันขอพูดเองค่ะ...." ฉันบอกกับ พิธีกรไปแบบนั้น

.

.

.

.

ฉันถูกเข็นขึ้นไปบนแท่น กล่าวคำปราศรัย

"ฉัน......ซาน....ลูกสาวคนเดียว ของ คุณเเม่ และคุณพ่อ

วันนี้...นับว่าฉันได้สูญเสียคนที่รักที่สุดไปแล้ว และใช่ค่ะ ฉันไม่มีโอกาส ได้ลากับคุณแม่เลย แต่ฉันก็ยังคิดว่าขอแค่คุณแม่จากไปอย่างสงบก็พอค่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่า คุณพ่อไปอยู่ที่ไหน และเป็นอย่างไรบ้าง

แต่ฉัน ก็ขอขอบคุณแขกทุกคน

ที่มาร่วมงานศพของคุณแม่ของฉันในวันนี้ ฉันขอขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณค่ะ"

หลังจากฉันพูดกล่าวคำปราศรัยเสร็จ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น

บางคนปรบมือให้ฉัน แต่บางคนก็ตั้งคำถามว่า คุณพ่อไปไหน?

มันเป็นคำถามที่มันมักจะวนอยู่กับทุกคนเสมอเลย

.......

"ท่านประธานมาแล้วครับ!!! " เสียงของบอดี้การ์ด หน้าประตูทางเข้าตะโกนขึ้นมา ฉันหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่า เป็นคุณพ่อ ที่เดินเข้ามาในงาน

.............?

คุณพ่อ? ........มา........กับใคร......

ข้างหลังของคุณพ่อ มีผู้หญิงรูปร่างหน้าตา สวยหุ่นดีคนหนึ่งเดินตามมาด้วย?

"ใคร......" ฉันพูดออกไปในขณะที่กำลังมองผู้หญิงคนนั้น

คุณพ่อวิ่งมาคุกเขาอยู่ข้างหน้าฉันที่กำลังนั่งรถเข็น

"ซาน!! ซานลูกรักของพ่อ เป็นอะไรมากรึเปล่า"

"ลูกตอบพ่อสิ เป็นอะไรมั้ย"

คุณพ่อเอาแต่ถามฉันอยู่ซ้ำๆ ......

ส่วนฉัน....สายตามันกำลังมองผู้หญิงคนนั้น อย่างไม่ละสายตาเลย และรวมถึงทุกคนในงานก็เช่นกัน

"เธอคือใคร" คุณย่าของฉัน ถามคำถามที่ฉันอยากรู้มากที่สุดกับเธอคนนั้น.....

" ริน ค่ะ " เธอคนนั้นตอบกลับมาแค่สั้นๆ

" เธอเป็นอะไรกับลูกชายฉัน ทำไมต้องคอยตามเค้าไปไหนมาไหนตลอดด้วย! "คุณย่าถามออกไปอีกครั้ง

" รินเป็น ภรรยาค่ะ...... "

ฉันช็อคไปเลย เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้นออกมาจากเธอ

คุณพ่อได้แต่ยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรเลย ส่วนคุณย่าก็ถูกพาตัวกลับบ้านไปก่อนแล้ว เนื่องจากเป็นลมล้มพับลงไป เพราะเรื่องที่ตนเองได้ยิน

ทุกคนภายในงาน อยู่ในความเงียบ และเริ่มมีเสียงซุบซิบมากมาย .........

"ในตอนนี้ ผมขอประกาศไว้เลยแล้วกันนะครับ ว่า ผู้หญิงคนนี้

หรือ ริน คือภรรยา ของผม ในตอนนี้ครับ "

อยู่ๆ คุณพ่อก็เดินไปประกาศที่ข้างหน้างาน ทำให้ทุกคนในงานตกใจอย่างมาก......

"มัน...หมายความว่ายังไงคะ.....คุณพ่อ....."

ฉันถามคุณพ่อออกไปด้วยความช็อค และพูดแทบจะไม่ออก

ึคุณพ่อนั่งลงยองและคุยกับฉัน

"นี่คือ แม่ใหม่หนูไงซาน เข้าใจใช่มั้ยลู- "

"ซาน มีแม่คนเดียว!....และจะไม่!! มีผู้หญิงคนไหน มาแทนเเม่ของซานได้ ถ้าอยากจะให้ซานเรียกว่าแม่ งั้น15 ปีก่อนก็ไปคลอดซานมาซะเถอะค่ะ!! "

เพี๊ยะ!!

เสียงมือของคุณพ่อ ที่กระทบมาที่หน้าของฉัน ดังสนั่นไปทั่วงาน

"นังลูกไม่รักดี!! แกพูดออกมาจากปากของแกได้นะ!! ฉันไม่เคยสอนให้ลูกของฉันเป็นแบบนี้!! ไปติดนิสัยแย่ๆแบบนี้มากจากใคร!! "

คุณพ่อตบหน้าฉันท่ามกลางทุกคนในงาน ทุกคนตกใจมากและพยายามที่จะห้ามปรามคุณพ่อไม่ให้ ด่าฉัน หรือทำร้ายร่างกายฉันต่อ

น่าสมเพชจัง.........ทำไม.....ชีวิตของฉัน ต้องมาถูกพังทลายลงเพราะ เหตุการณ์ไม่กี่เหตุการณ์ด้วย!!

"คุณพ่อเลิกโทษคนอื่นสักทีเถอะค่ะ!! มีแต่คุณพ่อเองนั่นแหละ ที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงทุกวัน!! "

"ในเมื่อคุณพ่อผลักใส ซานขนาดนั้น เราอย่ามารู้จักกันอีกเลยจะดีกว่านะคะ" ฉันระบายมันออกมาในที่สุด แต่ทำไมนั่นทำให้ฉันยิ่งเครียดนะ

"พี่ ริว คะ ช่วยพาซานกลับบ้านทีค่ะ "

"อะ...เอ่อ...ครับ คุณหนู"

ฉันบอกกลับ พี่ริว บอดี้การ์ดส่วนตัวของฉัน ให้พาฉันกลับไปบ้าน

ในระหว่างทางที่พี่ ริว เข็นฉันออกจากงาน ฉันเห็นเด็กผู้ชายคนนึง กำลังยืนมองฉันอยู่ที่หน้างาน ฉันพอจะเดาออกว่า เด็กคนนั้น

ก็คือลูกของเมียน้อยของพ่อฉันเอง ที่ในตอนนี้ กำลังจะกลายเป็นแม่ของฉัน?............

ที่บ้าน.

...15:56 น....

พี่ริวพาฉันมาส่งให้พี่พานถึงที่ห้องของฉัน พี่พานคงรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเลยพยายามทำให้ฉันสบายใจ

แต่......ฉันก็ขอพี่พานอยู่คนเดียวซักพัก

มันทั้งเจ็บใจและเจ็บหน้า ที่ฉันมาถูกพ่อที่เคยเเสนดีต่อฉันตบ! มิหนำซ้ำยังเป็นกลางงานศพของคุณแม่ด้วย.....

ฉันนอนอ่านหนังสือ และฟังเพลงไปพร้อมๆกันบนเตียง อ่านได้ไม่นานฉันก็กลับไปคิดถึงเรื่องเดิมๆ ฉันพยายามบอกตัวเองให้ลืมเรื่องทั้งหมดไปซะ

แต่....ฉันลืม....มันไม่ได้หรอก.......

ฉันจึงข่มตาหลับ พร้อมกับรอยแดงที่หน้า ในคืนนั้นไป

และฉันก็ยังต้อง ใช้ชีวิตแบบน่าสมเพชแบบนั้น

ไปทุกๆวัน.....

^^^3 ปีผ่านไป^^^

23/7/2022

...05:36น....

ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น แบบนี้ ...... ใช่ มันคือเสียงของพี่พาน แม่บ้านของบ้านหลังนี้ ที่คอยมาปลุกฉันในทุกวัน

ปีนี้ฉันอายุ 17 จริงๆก็จะ 18 แล้วในอีกไม่กี่วันน่ะนะ

"คุณหนูคะ ตื่นรึยังคะ" พี่พานพูดคุยกับฉันผ่านประตูสีขาว

"อื้อ ตื่นแล้วค่ะ" ฉันตอบออกไป

...........

"เดี๋ยวพี่ จะทำอาหารเช้าไว้ให้ที่ห้องครัวนะคะ แต่งตัวเสร็จแล้วจะได้ลงมาทานได้เลยค่ะ"

"ค่ะ" ฉันตอบกลับพี่พานไป

วันนี้เป็นวันเปิดเทอม วันแรกของฉันกับ โรงเรียนใหม่

ฉันจึงต้อง ทำอะไรหลายอย่างมากมายไปหมด........ในแต่ละวันของฉันมันช่าง น่าเบื่อ ......จริงๆนะ

...06:30 น....

ฉันเดินออกมาจากลิฟท์ ที่ลงมายังชั้นล่าง เพื่อมากินอาหารเช้า แสนอร่อยจากฝีมือของ พี่พาน

"วันนี้มีต้มผักกาดดอง ที่คุณหนูชอบด้วยนะคะ"

พี่พานมักทำอาหารที่ฉันชอบทาน ให้ทานอยู่บ่อยๆ และวันนี้ก็เช่นกัน

เพราะมันเป็นมื้อสุดท้ายที่คุณแม่ทำให้กิน

ก่อนที่คุณแม่จะเสียไป..........มันจึงกลายเป็นอาหารโปรดของฉัน

"หืมม อร่อยมากเลยค่ะ พี่พาน" ฉันชมฝีมือพี่พาน เพราะมันอร่อยมากจริงๆ

ไม่นานฉันก็อิ่มจากการทานอาหารเช้า

ฉันเตรียมตัวเรียบร้อยเเล้วเพื่อที่จะไปซื้อของก่อนไปที่ โรงเรียนใหม่ ฉันเดินถือกระเป๋าเป้สุดรักของฉัน ตรงไปยังหน้าบ้าน แต่แล้ว.....

ผู้หญิงคนนั้น......มายืนขวางเอาไว้ ?

"เอ่อ.. หนูซานจ๊ะ เอานี่ไปกินด้วยสิ เผื่อว่าจะหิวระหว่างทางไป โรงเรียนนะ" เธอพยายาม พูดกับฉัน

"ขอบคุณค่ะ แต่ทีหลังไม่ต้องค่ะ" ฉันตอบออกไปอย่างเด็ดขาด

"อะ....เอ่อ รับไว้เถอะจ่ะ น้าทำแล้วมันเยอะเกินไป เลยห่อใส่กระปุกข้าวไว้ให้แล้วจ่ะ"

เธอพยายามจะให้ฉันรับกระปุกข้าวนั้นมาให้ได้

"ก็บอกว่าไม่เอาไง!!! ทำไมต้องมายุ่งกับฉันด้วย!! "

ฉันตะโกนออกไป พร้อมกับปัดกระปุกข้าวของเธอ

"เอะอะ อะไรกันแต่เช้าเนี่ยคุณ" เสียงของคุณพ่อ เดินออกมาจากห้องนอน

".........." ฉันไม่อยากจะเจอหน้าของคุณพ่อเอาซะเลย

ตลอด 3-4 ปีมานี้ ตั้งแต่คุณแม่ตายไป ฉันพูดกับคุณพ่อเพียงแค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น

"ซานก็ รับของไปหน่อยไม่ได้หรอลูก ทำไมต้องใจร้ายใจดำกับคนในบ้านด้วยกัน ขนาดนั้นล่ะ"

"เห็นแก่พ่อบ้างได้มั้ยลูก"

คุณพ่อพยายามที่จะคุยกับฉัน......

"ความสัมพันธ์พ่อแม่ลูก ของเรามันจบไปหลายปีแล้วค่ะ คุณพ่อ"

ฉันเดินออกมาจากตรงนั้น และตรงไปยังรถที่พี่ริวจะไปส่งฉันที่โรงเรียนทันที

"ออกรถไปเลยค่ะ พี่ริว เดี๋ยวช่วยแวะที่ ห้างก่อนด้วยนะคะ" ฉันจะต้องซื้อของบางอย่างที่ห้าง ก่อนไปยัง โรงเรียน ก่อนรถจะออกฉันเห็น น้องของฉัน " ชิน " กำลังเดินลงมาจากชั้นสอง

แต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

"ถึงแล้วครับ~"

ห้างสรรพสินค้า

...07:45 น....

"เดี๋ยวพี่ริว รอซานสักพักนะคะ " ฉันบอกกับพี่ริว กลัวว่าจะรอนาน

"ได้ครับ" พี่ริวนั่งรอฉันอยู่ที่รถ อยู่พักใหญ่

ฉันเดินกลับมาพร้อมกับ ของมากมายเมื่อไปถึง โรงเรียน ฉันเห็นคุณพ่อ และ ริน มาส่ง น้องชายของฉันมาเรียน

ชินที่ว่า คือ น้องชายของฉัน ชื่อ ชิน อายุ 17 กำลังจะ 18 พอๆกันกับฉัน เพราะ ในตอนที่ฉันเกิด ได้ 1วัน เขาก็เกิด ซึ่งคือวันที่

26/7/2004 ส่วนของฉัน 25/7/2004

หรือพูดง่ายๆก็คือ พ่อแอบมีผู้หญิงคนใหม่ นี้มาตลอดหลายปี จนกระทั่งท้องและคลอด ชินออกมา แต่ที่ฉันตกใจคือ

แม่......รู้เรื่องทั้งหมดว่าพ่อมีชู้ แม่รู้ทุกเหตุการณ์ ระหว่างพ่อและผู้หญิง คนนั้น........

ต่อ

ฉันเห็นพวกเขามาส่งน้องชายต่างแม่ของฉัน พวกเขาก็เห็นฉันเหมือนกัน จึงเดินมาทัก

"ซาน ไปกับน้องหน่อยสิลูก ถือว่าพ่อขอ" คุณพ่อพยายามโน้มน้าวใจฉัน

ฉันถอนหายใจก่อนจะตอบ "ก็ได้ค่ะ แต่ทุกๆอย่างก็เพื่อ"น้อง" ฉันย้ำคำๆนี้ไปกับคุณพ่อ และ ริน ที่เป็นแม่ใหม่ของฉัน

ถึง ชิน จะเป็นน้องต่างเเม่ของฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้อะไรกับเขา เนื่องจาก ยังไงเขาก็เป็นน้องชาย ทางสายเลือดของ ฉัน...

และพวกเราสองคนก็เดินตรงเข้าไปใน โรงเรียนใหม่ และไปยังห้องพักครูเพื่อที่จะได้ เข้าห้องไปเรียน

.

.

.

.

.

.

.

.

...จบ...

คุณน้า....

ฉันเดินมากับชิน และตรงไปยังห้องพักครูทันที ที่เข้ามาในโรงเรียนใหม่ ฉันเคาะประตูไปสามถึงสี่ครั้ง ก็มีคนหนึง

เดินมาเปิดประตูให้ฉัน ซึ่งนั่นคือ ครูใหญ่ของโรงเรียนนี้นี่เอง

"อ้าว หนูซานมาถึงสินะ มาเร็วครูจะนำไปพบเพื่อนๆในห้อง"

ฉันกับน้องชายต่างแม่ จึงเดินตามคุณครูใหญ่ไป หลังครูพูดจบแล้ว

.

.

.

.

.

09:45 น.

ห้อง first class vvp.1

ฉันเดินมาถึงที่หน้าห้องและอ่านชื่อป้ายของห้องดู ชื่อมันแปลกๆ หรือฉันคิดไปเองนะ

"ชิน ชินว่า ชื่อบนป้ายห้อง มันแปลกๆมั้ย ชินคิดเหมือนซานรึเปล่า" ฉันถามชินออกไป

"อืม....อาจจะใช่นะครับ" ชินเงยหน้ามองป้ายและตอบกลับฉันมา

ฉันยืนคิดซักพัก คุณครูก็เรียกตัวฉันและชินเดินเข้าไปในห้องเรียนห้องนั้น

คุณครูเดินเข้าไปในห้องและหันไปพูดกับนักเรียนในห้องว่า

"วันนี้ มีนักเรียนย้ายมาใหม่สองคนนะ ทุกคน ขอให้ช่วยดูแลเพื่อนๆหน่อยละกันนะ สองคนนั้นเข้ามาเลย"

คุณครูเรียกฉันสองคนเข้าไป

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก .........

เสียงรองเท้าของ ฉันกับชิน เดินเข้าไปภายในห้องและหลังจากนั้น....

"โหหหหห อะไรจะหล่อจะสวยกันขนาดนั้นน่ะ"

"โหหห ผู้หญิงโคตรสวยเลยว่ะ"

"ให้ตายสิ ฉันอยากได้หน้าตาหล่อๆแบบนั้นบ้างจัง"

"อร้ายยยย แก ผู้ชาย หน้าตาดีฝุดๆ"

เสียงของเหล่านักเรียนที่พูดอยู่ทั่วห้อง และพูดถึงหน้าตาของฉันกับ ชินงั้นหรอ......

(⁠•⁠‿⁠• ⁠) /ฉัน

(⁠´⁠・⁠◡⁠・)/ชิน

ใช่.. หน้าของฉันกับชิน ดูจะยิ้มไม่ค่อยออก แบบนั้นเลยล่ะ

สักพักคุณครูก็ให้พวกเราแนะนำตัว

"ฉันชื่อ ซารีน่า อครสหัษต์ชัย

(ซา-รี-น่า-อะ-คะ-ระ-สะ-หัด-ชัย-) หรือ ซานค่ะ " ฉันแนะนำตัวออกไปกับเพื่อนคนอื่นๆ

"ส่วนผม ชื่อ ชิณณวรรธน์ อครสหัษต์ชัย (ชิน-นะ-วัด-อะ-คะ-ระ-สะ-หัด-ชัย) หรือ ชิน ครับ"

เมื่อ ชินแนะนำตัวเองเสร็จแล้ว

ก็ตามมาด้วยเสียงซุบซิบว่า

"สองคนนั้นเป็นพี่น้องกันหรอ ถึงว่าหน้าตาดีทั้งคู่เลยแฮะ"

"ฮะ! ตอนแรกคิดว่าแฟนกัน ซะอีกนะ"

"เข้าทางฉันดิ! แค่พี่น้องกัน!"

อะไรน่ะ ทุกคนหวังอะไรกับ ฉันและชิน อยู่รึไงกันเนี่ย?

"เอาล่ะๆ หนูซานไปนั่งข้างๆ ที นะที่โต๊ะ หลังสุดทางซ้ายน่ะ"

"ค่ะ" ฉันตอบรับคำของครูและเดินไปยังโต๊ะว่างข้างเด็กผู้ชายที่นอนหลับอยู่

"ส่วน ชิน ไปนั่งข้างๆ แพร นะที่โต๊ะหลังสุดเหมือนกัน แต่ด้านขวา เห็นมั้ย"

"ครับ" ชินตอบเสร็จ ก็เดินไปนั่งที่เหมือนกัน

"เรียบร้อยแล้วนะ ฝากดูเพื่อนๆด้วยล่ะและอย่าไปมีปัญหากับเพื่อนด้วยนะ....และนักเรียนมีคาบว่างทั้งหมด สองชั่วโมง"

หลังจากนั้นครูใหญ่ก็เดินออกไป

ทำให้กลายเป็นห้องที่.....

"นี่! เธอชื่อซานหรอ มีเเฟนรึยังอะ" อยู่ก็มีผู้ชายหน้าตาดีคนนึงเดินมาหาฉัน

"ยังค่ะ..." ฉันตอบออกไปตรงๆ

อีกฝั่งนึง

"เหอะ! ยัยนั่นมีอะไรจริงบ้างก็ไม่รู้ อาจจะหมดมาหลายบาทแล้วก็ได้ จะไปสนใจทำไม่รู้" เสียงของเด็กผู้หญิงคนนึงดังขึ้น ฉันจึงหันไปมอง ปรากฏว่าเป็นเสียงของ แพร ผู้หญิงที่นั่งข้างๆน้องฉัน!! ให้ตายเถอะ!

"ก็จริงของเธอนะ จมูกนี่ฉันไม่ได้ทำเองหรอก เพราะพ่อกับแม่ฉันเป็นคนทำ" สิ้นเสียงของฉันทุกคนก็อึ้งไป และอยู่ๆ เหล่าพวกผู้ชายและผู้หญิงก็หันมาปรบมือให้ฉันอย่างสุขใจ

มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!?

และชินที่นั่งข้างๆ ยัยคนนั้นก็แอบยิ้มเล็กๆไปด้วย

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

เสียงข้อความ? จากใครนะ?

ฉันเปิดข้อความในโทรศัพท์ดู ก็พบว่า

...ฉันรู้ว่าคนที่ฆ่าแม่ของเธอคือใคร...

...มาอ่านสิ!...

...ยัยโง่เอ้ย!...

ห้ะ! มันหมายความว่ายังไง แม่ฉันตายด้วยอุบัติเหตุนี่ มันคืออะไรกัน

ฉันได้แต่คิดอยู่กับตัวเองเเบบนี้ในใจ และตัดสินใจถาม ออกไป

..."หมายความยังไง! "...

..."แม่ของฉันตายด้วยอุบัติเหตุนะ"...

ฉันถามออกไป และคำตอบที่ได้กลับมาคือ

...เธอคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆหรอ...

...ไม่คิดเลยว่า ลูกประธานบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างเธอ...

...จะโง่ขนาดนี้...

...ทั้งๆที่เป็นแม่ตัวเองเเท้ๆแต่กลับอยู่เฉยๆ?...

..."หน้าสมเพชจริงๆ !!...

ห้ะ....อะไรกันเนี่ย เขารู้ข้อมูลฉันได้ยังไงแถมยังส่งข้อความมาหาฉันได้งั้นหรอ.....อะไรกัน..มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่

..."งั้นความจริงคืออะไรล่ะ บอกฉันมาสิ"...

ฉันตอบกลับไป แต่เค้าส่งมาเพียงคำว่า........

...ไว้เจอกัน เด็กน้อย...

ห้ะ........นี่มันอะไรกัน หรือจะเป็นพวกหลอกลวงหรอ

ไม่นะ ไม่ใช่แน่ๆ ไม่มีทางที่พวกหลอกลวงจะส่งข้อความมาหาฉันได้ง่ายๆแน่ .......

ฉันนั่งอ่านข้อความนั้นอยู่นานและพิจารณากับสิ่งที่ได้อ่าน จนเวลาล่วงเลยไป 2 ชั่วโมงและสุดท้ายก็เข้าคาบเรียน....

11:00 น. พักเที่ยง

ฉันนั่งมองแต่โทรศัพท์ จนไม่รู้ว่าชินมายืนอยู่ที่หน้าโต๊ะของฉัน

"พี่ซาน!!"

ฉันตกใจและมองไปยังเขา

"ได้เวลาพักเที่ยงแล้วครับ ไปทานข้าวกันเถอะครับ"

"อ๋อ อื้มๆ " ฉันตอบกลับไปหลังน้องชายชวนไปกินข้าวด้วยกัน

เขาพาฉันเดินไป แต่.. มันไม่ใช่ทางไปโรงอาหารนี่ เขาจะพาฉันไปไหนกันนะ

"ชิน จะพาซานไปไหนเนี่ย ไม่ใช่ทางไปโรงอาหารนี่"

เขาไม่พูดอะไรเอาแต่จับแขนฉันให้เดินไปตามเขา

และเเล้วเขาก็พาฉันมายังดาดฟ้าของอาคารเรียน

....ว้าววววว มันสวยงามมาก ฉันไม่เคยพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้มาก่อนเลย ฉันวิ่งไปดู ตรงระเบียงของดาดฟ้า มันสูงมากก็จริง แต่สามารถเห็นวิวของเมืองสวยๆ ได้แบบนี้ มันดีมากจริงๆนะ

"มานั่งนี่สิครับ" ชินพูดเรียกฉันพร้อมกับ ปูผ้าอะไรบางอย่าง

"อะไรกันเนี่ย ชินพาซานมาแล้วเราจะทานข้าวยังไงล่ะ"

ฉันถามออกไปด้วยความ งงๆ

"ใครบอกว่าผม ไม่มีอาหารมาล่ะครับ" ชินพูดพร้อมกับ ยกถุงผ้าขนาดใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

"โอ้วว อะไรอีกล่ะนั่น" ฉันเห็นถุงผ้าแล้ว ถึงกับตะลึงเลยล่ะ

ไม่นานเขาก็เอาอาหารมาวางไว้และจัดเตรียมพร้อมสำหรับกิน

"เอ๊ะ เดี๋ยวนะ! รู้สึกเหมือนซานลืมอะไรบางอย่าง เดี๋ยวไปเอามาแปปนึงนะ ชิน" ฉันพึ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรบางอย่างจึงต้องกลับไปเอา ที่ห้องเรียน

ฉันรีบวิ่งไปเอาของทันที และรีบกลับขึ้นไปหาชินที่ดาดฟ้า แต่เมื่อเปิดประตูของดาดฟ้าออก

"อ้าว...นาย..ชื่อ...."

"ที"

เขาตอบออกมา

"อ่าใช่ ที เองสินะ นายมาทำอะไรบนดาดฟ้าหรอ"

"ฉันสิที่ต้องถามเธอ ว่าขึ้นมาทำอะไร ยัยเด็กใหม่"

"เหอะ....ฉันมากินข้าวกับน้องของฉันน่ะ มากินด้วยกันมั้ยดูแล้วนายก็น่าจะมากินข้าวที่นี่เหมือนกันสินะ"

ฉันเห็นเขาถือคิมบับ ในมือ จึงถามออกไป

"อืม ไม่เป็นไรฉันไม่ค่อยหิว" เขาตอบ

"ไม่ค่อย ไม่ได้แปลว่าไม่หิวนี่! มาสิ" ฉันพูดเสร็จก็ลากเขามาด้วย

"ชิน นี่ ที นะ ให้เขามากินกับเราด้วยได้มั้ย ดูแล้วเรากินกันสองคนคงไม่หมดแน่ๆ " ฉันถามกับชินก่อน

"ได้สิครับ ดีนะที่ผมเตรียมถ้วยข้าวเผื่อมาด้วยน่ะ" ชินพูดพร้อมกับ ยกอุปกรณ์กินข้าวออกมา และยื่นให้ฉัน

"อ้าว นั่งลงสิ ที มากินด้วยกัน"ฉันดึงเขาให้นั่งลง และยื่น ช้อนถ้วย และ ตระเกียบ ให้เขา

"อะ กินซะ และไม่ต้องเกรงใจด้วย ของฟรี ตังของชินน่ะ "

"อ้าวพี่ซาน งั้นผมไปเก็บกับพี่ทีหลังนะครับ " ชินรีบตอบกลับฉันมา

"โอเคร๊ "

ส่วน ที.....เขานั่งมองอาหารในท่า ขัดสมาธิสักพัก ก็เริ่มตักอาหารทาน

"อะ ชินพี่ซื้อให้เอง และรับไปด้วย เอาไปเปิดที่บ้านก็ได้"

ฉันยื่นของในถุงสุดหรูให้ชินไป และพูดทิ้งท้ายว่า ต้องรับ

"....ขอบคุณครับ" ชินพูดขอบคุณก่อนจะนำถุงไปวางไว้ด้านข้าง

ติ๊ง ติ๊ง เสียงของข้อความดังขึ้น ฉันจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน และเปิดข้อความดู

ข้อความ

...ไง เด็กน้อย.....เราใกล้จะได้เจอกันแล้วนะ...

...อดใจรอไว้ล่ะ...

..."คุณหมายความว่ายังไง หรือคุณเป็นโรคจิต......

...ใช่มั้ย! "...

...ไปคิดเอาเองสิสาวน้อย...

...5555555555555555555...

...อ้อออจริงสิ ไว้เจอกันแล้วเดี๋ยวฉันจะพูด...

...เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเราละกันนะ...

ฉันอ่านข้อความเสร็จ ก็ปิดโทรศัพท์ลง และคิดว่า ไอบ้านี่ต้องประสาท แน่ๆ เขาคือใครกันแน่นะ และยังบอกกับฉันอีกว่า จะได้เจอกัน......เฮ้อออ

16:45 น. ถึงเวลากลับบ้าน

ฉันเดินออกมาจากประตู โรงเรียน ก็เห็นพี่ริว มายืนรอฉัน กับ ชิน อยู่ที่หน้า โรงเรียนพร้อมกับยืนข้างๆ รถหรูแล้ว

ฉันเดินไปหาพี่ริว พร้อมบอกสวัสดีไป พี่ริวยิ้มให้ฉันกับน้องชาย ก่อนจะเดินไปเปิดประตูด้านหลังให้

"ขึ้นได้เลยครับคุณหนู" พี่ริวเปิดประตูพร้อมกับโค้งบอกฉันกับชิน

"โหย ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยค่ะ พี่ริว แต่ขอบคุณมากนะคะ"

ฉันบอกขอบคุณพร้อมกับขึ้นไปนั่งบนรถ

"ขอบคุณครับพี่ริว"ชินก็เช่นกัน

"เอ๊ะ!? นั่นยัยเด็กใหม่นี่ โหบ้านคงรวยมากแน่ๆเลยอะแก"

"ฉันก็ว่างั้นแหละนะ"

"โหห รถหรูระดับหลายล้านเลยนะ บ้านรวยใช่ย่อยเลยอะ"

"อู้ยยย แกพี่เด็กผู้ชายที่พึ่งขึ้นรถหรูคันนั้นไปหล่อมากกกก"

"พวกเทวดานางฟ้าบนดิน หรอเนี่ย ให้ตาย"

"....หึ ที่เเท้ก็พวกเด็กบ้านรวย"

ที ยืนเอามือจกกระเป๋าอยู่ ตรงประตูของโรงเรียนพร้อมกับมองมาที่รถของฉันและ ชิน

"เฮ้ย ที!! บายนะ" ฉันเห็นทีจึงรีบเปิดกระจกรถ และโบกมือลา

ทันที

ทีเห็นดังนั้นก็เผลอ โบกมือกลับมา แต่ก็ต้องรีบเก็บมือไปเพราะมีสายตาจับจ้องมาที่เขาตลอดเวลา

"อะไรน่ะ....สองคนนั้นกิ๊กกันหรอ"

"เห้ย ไอที ผู้เย็นชา โบกมือกลับด้วยหรอวะ! "

เสียงของนักเรียนที่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนทำให้ทีต้องรีบเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างไว

17:34 น. ที่บ้าน

"กลับมาแล้วนะคะ" ฉันเผลอพูดออกไป โดยที่ลืมว่าฉัน ไม่ชอบคำๆนี้เลย

"ลูกยอมพูดกับพ่อแล้วหรอ ซาน"

"ลูกเปิดใจให้น้าเเล้วหรอลูก"

คุณพ่อ

และ เอ่อ....

คุณแม่?

ทำท่าทางที่ดีใจได้ไม่นาน ก็ต้องหุบยิ้มลงกับคำพูดของฉัน....

"ซาน แค่พูดลอยๆค่ะ" ฉันรีบตัดบทไปก่อนที่คุณพ่อจะเพ้อไปกว่านี้

"คุณหนูคะ พี่ทำอาหารไว้รอแล้วนะคะ จะทานเลยมั้ยคะ"

พี่พานถามฉัน

พี่พาน

"ทานเลยก็ได้ค่ะพี่พาน อาหารจะได้อุ่นๆอยู่ด้วย" ฉันพูดพร้อมกับเดินเข้าไปในครัวขนาดใหญ่ของบ้าน

"เดี๋ยวพี่เอากระเป๋าไปเก็บให้นะคะ "

"ขอบคุณมากนะคะ" พี่พานอาสาจะเอากระเป๋าไปเก็บให้ทุกครั้งที่ฉันกลับมาจาก โรงเรียน ฉันก็ยากที่จะปฏิเสธเพราะ พี่พานมักจะคยั้นคยอเสมอ

กริ๊ง กริ๊ง

ฉันทานอาหารได้ไม่นาน ก็มีเสียงกริ่งที่หน้าบ้านดังขึ้น

....นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่เคยได้ยินเสียงกริ่งของบ้านเราเลย..... แต่ฉันไม่ได้สนใจมากนัก

"ผมขอทานด้วยนะครับ พี่ซาน"

"อื้อ ตามสบายเลย" ชินขอมานั่งทานข้าวกับฉันด้วย ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธไป

กริ๊งงงง

"โอ๊ะ คงจะมาแล้วสินะ" คุณน้า ไม่สิ โอเคร ฉันเรียกเขาว่าแม่

ก็ได้.....เห้อออ

จริงๆ....คุณพ่อ กับ น้าคนนี้ เขาขอโทษฉันไปเมื่อ 2 ปีก่อนเเล้ว ทำใหฉันก็ไม่ค่อยอะไรกับเรื่องนั้นเเล้ว แต่ใช่ว่าฉันจะยอมยกโทษให้ 100%หรอกนะ!

คุณแม่พูดพร้อมกับเดินไปเปิดประตูให้กับคนๆนึง

"สวัสดีครับ คุณพี่สุดสวยของผม"เสียงของผู้ชายดังขึ้น พร้อมกับพูดคุยกับ คุณแม่ ด้วยภาษากันเอง

"อ้าว มาแล้วหรอ สิงห์ ไม่ได้เจอกันนานขนาดไหนแล้วนะ"

คุณพ่อ รีบเดินไปหาคนๆนั้น

และถามออกไป

"สิงห์หรอ? "...ใครนะ

อีกฝั่ง

"ใครน่ะ ชิน" ฉันถามชินไปด้วยหน้าตาที่งงงวยอยู่นาน

"นั่น คุณน้าผมเองครับ พึ่งกลับมาจากต่างประเทศ คุณแม่เลยให้มาพักอยู่ที่บ้านเราก่อนครับ"

"อ๋ออ..." ฉันไม่ตกใจหรอกนะที่จะมีคนแปลกหน้ามาพักบ้านเรา เพราะแต่ละเดือนจะมีคนมาแน่นอน ไม่ว่าจะญาติทางฝั่ง คุณแม่ หรือ คุณพ่อ ก็ตาม พวกเขาจะมาพัก เดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ใช่....ฉันไม่รู้จักพวกเขาหรอกนะ

"เข้ามาก่อนสิ" คุณพ่อพูดชวน ผู้ชายคนนั้นเข้ามาในบ้าน

"ขอบคุณครับพี่เขย" หลังจากพูดจบเขาก็เข้ามาในบ้าน

ฉันมองดูจากหน้าเขาแล้ว ยังหนุ่มๆและถือว่าหน้าตาดีใช้ได้ มีการดูแลผิวอย่างดีด้วย และอายุเขาน่าจะไม่เยอะ อาจจะซัก 27-34 ปีได้ ถือว่าอายุน้อยพอสมควรเลยนะ

เพราะคุณแม่(ริน) อายุ 39

ส่วนคุณพ่อ อายุ 42

อายุของเขาคงจะประมาณนี้แหละ

"ซาน มาสวัสดีคุณน้าก่อนสิลูก" เสียงคุณพ่อตะโกนมาจากห้องโถงดังเข้ามาในห้องครัว

"ค่ะ"ฉันตอบออกไปสั้นๆ.....และเดินออกไปพร้อมกับชิน

"สวัสดีครับ น้าสิงห์ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ"

ชินทักทายพร้อมกับยิ้มให้

"สวัสดีค่ะ น้าสิงห์" ฉันทักทายพร้อมกับยิ้มให้เหมือนกับที่ ชินทำ

"จะว่าไปไม่เคยเจอกันเลยใช่มั้ยนะ เธอสองคน"

คุณพ่อพูดพร้อมทั้งถามฉัน และน้า สิงห์

"ใช่ค่ะ"

"งั้นก็ต่อจากนี้รู้จักกันไว้นะ เดี๋ยวน้าสิงห์จะมาอาศัยอยู่กับเราแล้ว" คุณพ่อบอกกับเราว่าอย่างงั้นอะนะ

"ค่ะ ยินดีที่รู้จักนะคะ น้าสิงห์" ฉันพูดพร้อมกับโค้งให้เขาไปทีนึง

"ต่อจากนี้ไปน้าก็ฝากด้วยนะ" น้าสิงห์ พูดพร้อมกับยิ้มให้ฉัน

ฉันดูจากท่าทางของน้าเขาแล้ว ก็ดูไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรเลยนะ เค้าคงจะเป็นคนดีคนนึงนั่นแหละ

จากนั้นเราก็แยกย้ายกัน

22:52 น.

"เอื้ออออ หิวจัง ที่บ้านมีอะไรกินบ้างเนี่ย" ฉันหิวกลางดึกจึงเข้าลิฟท์และลงมาชั้นล่างของบ้าน เพื่อหาอะไรกินในห้องครัว

ติ๊ง เสียงลิฟต์ดังขึ้น ฉันเดินไปพร้อมเล่นโทรศัพท์ไปด้วย

และก็ชนกับคนนึงเข้า

"โอ๊ะ"

"โอ๊ะ อ้าวพี่ซาน มาทำอะไรกลางดึกเนี่ย"

ชินถามฉันด้วยความสงสัย

"ซานมาหาของกินอะ พอดีเกิดหิวกลางดึก"

ฉันตอบเขาไป

"อ๋อครับ ระวังผีหลอกนะ ผมไปละนะครับ"

"อ้าว มาพูดให้กลัวแล้วหนีไปเนี่ยนะ ชิน ชิน! "

เขาหายไปแล้ว ไอน้องบ้า ตอนนี้ฉันสนิทกับชินมากๆเลยแหละ ฉันรีบเดินไปที่ห้องครัวทันทีหลังจากเขาไปแล้ว

"อืมมม มีอะไรกินบ้างนะ"

ฉันค้นหากล่องขนมในชั้นด้านบนเเต่ดันหยิบไม่ถึง เพราะมันสูงมาก แต่ฉันสูงตั้ง 168

เลยนะ ทำไมมันถึงได้สูงจัง หรือเพราะคนบ้านนี้สูงกันหมดเลยนะ...ฉันไม่เข้าใจคนที่บอกให้ช่างสร้างเลยจริงๆ....

"อึบ ไม่ถึงแฮะ ให้ตาย" ฉันคว้านหาอยู่นาน แต่ดันหยิบไม่โดนกล่องขนมเลย

อยู่ๆก็มีมือจากด้านหลังมาหยิบกล่องขนมให้ฉัน

ฉันรีบหมุนตัวมาเพราะความตกใจ แต่ก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิม ที่จมูกฉันดันไปชนกับ แผงอกของคน คนนึงเข้า

ฉันเงยหน้ามองก่อนจะรีบ ผลักตัวคนๆนั้นออกทันที เพราะเขาคือ น้าสิงห์

"หาของกินยามดึกหรอคะ" น้าสิงห์ พูดพร้อมกับยื่นกล่องคุกกี้ที่เขาหยิบมาให้ฉัน

"เอ่อ...ใช่ค่ะ"ฉันตอบออกไป

"อ้อ เมื่อกี้น้าขอโทษนะ ที่เข้าไปใกล้ซานเกินไป"

เขารีบขอโทษฉันทันที

"ไม่เป็นไรค่ะ" ฉันบอกเขาพร้อมกับยิ้มให้

"แล้วคุณน้า มาทำอะไรหรอคะ หรือว่ามาหาของกินเหมือน ซาน" ฉันพูดพร้อมกับขำเล็กน้อย

"555 ป่าวหรอกน้าแค่มาหากาแฟ หรือไม่ก็ ชา กินเพื่อให้มันหลับสบาย น่ะค่ะ"

น้าสิงห์ตอบฉันมา

"ชา...หรอคะ"

"ใช่ค่ะ" เขาตอบกลับ

"งั้นให้ซาน ชงชาให้มั้ยคะ ซานชอบชงให้ ชินบ่อยๆ คุณน้า อาจจะชอบ ก็ได้ค่ะ ลองดูมั้ยคะ"

ฉันถามเค้าไปพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

"เอาสิ น้าจะได้ลองชิมฝีมือ ซานด้วยเลย" เขาพูดพร้อมยิ้มเล็กน้อย

"งั้นรอสักครู่นะคะ" ฉันบอกเขาให้รอสักพักก่อนจะนำชา มาให้เขาลองดื่ม

"หืมม อร่อยมากเลยค่ะ ชาทั้งหอม และก็น่ากินตลอดเวลาเลยค่ะ "

???? หืม.....เขาพูดว่าอะไรนะ แต่ช่างมันเถอะ

ฉันทำหน้าดีใจ ที่เขาบอกว่าชาอร่อย ถึงคำพูดเขาจะดู พึลึกก็เถอะนะ

"งั้นก็เดี๋ยวอา ไปนอนก่อนนะคะ"เขาพูดบอกพร้อมกับลูบหัวฉัน ก่อนะเดินไปพร้อมกับชาแก้วนั้นที่ ฉันชงให้

หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ เดินถือกล่องขนม ขึ้นไปห้องนอน เหมือนกัน มันดึกมากเเล้วด้วย พรุ่งนี้ก็ต้องมีเรียนต่อ

"ฮ้าววววว โอยยยยปวดหัวจัง นอนดีกว่า"

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

...จบ...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!