"กลับมาแล้วครับ" คำเดิมๆในแต่ละวันนี่มันน่าเบื่อจังนะ ชีวิตของผมมันก็ไม่มีอะไรมากนักหรอก เช้าออกจากบ้านไปเรียน พอตกเย็นก็กลับบ้าน พรุ่งนี้วันเสาร์จะนอนทั้งวันเลยคอยดู
"ไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวเถอะวันนี้ชั้นมีเรื่องอยากจะตกลงกับแกหน่อย" ตกลง? เรื่องอะไรอีกล่ะทีนี้ ถึงจะอยากรู้ซะตอนนี้เลยแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ลงมานั่งรอคุณแม่อยู่ที่ห้องครัวได้สักพักท่านก็เปิดประตูห้องแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับใครบางคน
"นั่นใครครับ?"ผมถามออกไปทันทีด้วยความสงสัย แต่คุณแม่กลับไม่ได้ตอบผม ท่านสั่งให้คนคนนั้นมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่อยู่ข้างๆผม
"นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ?" ผมยังคงสับสนกับการกระทำของคุณแม่ก่อนที่ท่านจะพูดขึ้น
"รู้รึเปล่าว่าตอนนี้แกอายุ16ปีแล้วนะ แล้วผลการเรียนของแกตอนนี้มันเป็นยังไง?" ท่านได้ทิ้งคำถามเอาไว้ให้ผม ทั้งๆที่รู้คำตอบนั้นดีอยู่แล้ว
"ชั้นมีงานที่ต่างประเทศจะออกเดินทางพรุ่งนี้ ตั้งแต่วันนี้ไปเอ็มจะมาเป็นติวเตอร์ให้กับแก และเขามีสิทธิ์ที่จะสั่งแกได้ทุกอย่างเหมือนกับชั้น!"
นี่มันบ้าไปแล้ว!!! คุณแม่คิดจะให้ใครก็ไม่รู้มาดูแลเราเนี่ยนะ!!! หลังจากนั้นผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องไปให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอได้มาอยู่ในที่เงียบๆเราก็สงบลงไปเยอะเลยแฮะ ไม่นานนักอยู่ๆประตูห้องของผมมันก็เปิดออก "มีอะไรอีกล่ะครับ!!"
"นายยัง..ไม่ได้กินข้าว" ไม่ใช่คุณแม่!? ในวินาทีนั้นผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ คุณแม่คงจะให้กุญแจสำรองกับเขาไว้ เพราะว่าเริ่มจะเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาก็เลยพอจะตั้งสติกลับมาได้อีกครั้ง
"ออกไป..ชั้นอยากอยู่คนเดียว" ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสิ้นหวัง พอรู้สึกตัวอีกครั้งหมอนั่นก็มาอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว
"เรย์ซังเป็นอะไรไปงั้นหรอ?" เรย์ซังหรอ!? รู้ชื่อของเรามาจากคุณแม่สินะ ชื่อของชั้นคือ เรย์ ต่างหากล่ะ!!!!
"นายคิดว่าชั้นจะรู้สึกยังไงล่ะ คุณแม่ไม่อยู่บ้าน แถมยังให้คนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน ไม่ซ่ำยังให้กุญแจบ้านอีก!!!" ผมได้ระบายความรู้สึกออกไปด้วยคำพูดเหล่านั้น รู้สึกน่าสมเพชเป็นบ้าเลย!!
"ชั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าซะหน่อย" หมอนั่นทำสีหน้าราวกับว่ารู้สึกเจ็บปวดมากจากสิ่งที่ผมพูดออกไปเมื่อคู่
"งั้นหรอ เรย์ซังคงจะลืมไปแล้วสินะ" สีหน้าหงอยยังกับหมาขาดสารอาหารแหนะ
"มึงใครฟะ!!" ผมถามออกไปในทันที ก่อนที่หมอนั่นจะเข้ามาใกล้ตัวผมมากขึ้นพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูซ้ายของผมเบาๆ
"ทั้งๆที่เอ็มม่าอยากจะเจอเรย์ซังมาโดยตลอด พอได้มาเจอกันแล้วเรย์ซังกลับจำเอ็มม่าไม่ได้ แบบนี้น่ะเอ็มม่าเสียใจมากเลยนะ.."
จบตอนที่ 1
ถ้าเราเขียนผิดตรงไหนก็ขอโทษด้วยจริงๆ เราพึ่งหัดเขียนนิยายน่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้าาา
"เอ็มม่า?" พอได้ยินชื่อนี้ผมก็นึกขึ้นได้ เอ็มม่า ก็คือชื่อของเพื่อนสมัยเด็กคนหนึ่ง รูปร่างภาพนอกเขาดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงเลยแต่จริงๆแล้วเขาเป็นผู้ชาย เพราะรูปร่างที่ดูอ่อนแอ ทั้งยังใสสื่อ และไร้เดียงสา ก็เลยถูกเพื่อนๆแกล้งอยู่บ่อยครั้ง
ในตอนนั้นผมอายุแค่7ขวบเอง ในขณะที่พักเที่ยงหมอนั่นก็ถูกเพื่อนในห้องรังเเกเข้าด้วยการถอดกางเกงของเขาออกแล้ววิ่งพร้อมกับส่งเสียงน่ารำคาญไปทั่วโรงอาหาร ชั้นที่ทนเห็นผู้ที่เหนือกว่ามารังแกผู้ที่ด้อยกว่าไม่ได้นั้นก็เลยเข้าไปห้าม
แต่เจ้าพวกนั้นก็ไม่ฟังชั้น ก็เลยต้องจัดการด้วยกำลังจนได้มีเรื่องกับผู้ปกครองของทั้งสามฝ่าย แน่นอนว่าความถูกต้องจะเหนือกว่าทุกสิ่ง ตั้งแต่วันนั้นหมอนั่นก็ตามติดชีวิตผมมาโดยตลอดแต่ว่าสุดท้ายแล้วหมอนั่นก็ได้ย้ายโรงเรียนเหตุผลก็เพราะต้องไปอยู่กับคุณพ่อ
"นายคือเอ็มม่าจริงๆหรอ!?" เปลี่ยนไปมากซะจนผมจำไม่ได้เลยว่านี่จะเป็นคนคนเดียวกันกับในตอนนั้น
"จะว่าไปแล้ว" ผมได้จ้องเอ็มอยู่สักพักก่อนจะเริ่มสำรวจร่างกายของเขาด้วยความตื่นเต้น สุดยอดไปเลยทั้งๆที่เมื่อก่อนดูอ่อนแอสุดๆ แต่ว่าตอนนี้หุ่นดีสุดๆไปเลยล่ะ จริงสิหน้าตาของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าไหร่เลย
ผมได้ลองสัมผัสกับส่วนต่างๆของร่างกายเอ็มด้วยความสงสัย เอ็มเองก็ยอมให้จับอย่างว่าง่าย ผิวของเขายังกับผู้หญิงเลยขาวเนียนสุดๆ นุ่มมากๆเลยด้วย ผมเส้นเล็กๆของเอ็มเองก็ทั้งนุ่มแล้วก็ลื่นสุดๆไปเลย นี่มันผู้หญิงในร่างชายชัดๆ
"ตื่นเต้นหรอ จับเอาใหญ่เลยนะ" เอ็มยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน คงจะดีใจมากสินะที่ผมยังคงจำเค้าได้
"ของมันแน่อยู่แล้วล่ะ!! ทำไมไม่บอกว่าเป็นนายตั้งแต่แรกกันล่ะ?" จริงสิถ้าเราอยู่ต่อคุณแม่ก็คงจะพูดอะไรอีกแน่นอน แต่ดันออกมาก่อนสินะ
"ว่าแต่เอ็มแล้วคุณแม่ล่ะ" เอ็มทำสีหน้าเหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อยพร้อมกับให้คำตอบกับผม
"คงจะจัดเติมความพร้อมอยู่นั่นแหละ เรย์ซังไม่เรียกว่าเอ็มม่าแล้วหรอ?"
หมอนี้!! คิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงรึไงกัน!?
"เอ็มนายน่ะโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กผู้หญิงในวันนั้นแล้ว ถ้ามีผู้หญิงที่แอบชอบนายมาได้ยินชื่อเอ็มม้าเข้าเค้าจะคิดยังไงล่ะ" เอ็มเงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูน้อยใจ
"งั้นหรอ..ขอโทษนะ จะไม่เรียกว่าเรย์ซังแล้วล่ะ เรย์เองก็คงจะมีผู้หญิงที่แอบชอบอยู่ด้วย ถ้าแบบนั้นมันก็คงจะไม่ดีใช่ไหมล่ะ" หลังจากจบคำพูดสุดท้าย เอ็มก็ขอตัวออกไปก่อน
จะไม่พอใจอยู่รึเปล่านะแต่ก็ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกัน "หรือว่าเราจะไปพูดอะไรที่มันแทงใจดำหมอนั่นรึเปล่านะ"
"เป็นเช้าที่สดใสดีจังเลยนะ" กลิ่นอาหารเช้าหอมหวานน่ากินจังเลย ว่าแล้วผมก็ไปทำกิจกรรมยามเช้าพอเสร็จกิจทุกอย่างผมก็ไปที่ห้องครัวก่อนจะเห็นว่าเอ็มกำลังจัดเติมอาหารใส่จานอยู่อย่างปราณีต
"นายทำอาหารเป็นด้วยหรอ" ผมไม่รอช้าที่จะถามออกไป จำได้ว่าเมื่อก่อนหมอนั่นน่ะกลัวการทำอาหารสุดๆเลยล่ะ
"คุณพ่อสอนให้น่ะ มาทานด้วยกันเถอะเมื่อคืนเรย์เองก็ไม่ได้ทานอะไรเลยหนิ" ไม่เรียก เรย์ซัง แล้วสินะ
"อืม.." คุณพ่องั้นหรอ? ระหว่างที่ผมกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นเหมือนกับว่าจะได้ยินเสียงของเอ็มเรียก ทำให้ผมได้สติกลับมาอีกครั้ง
"เรย์ เรย์ เรย์นายได้ยินรึเปล่า?"
"อ่ะ..อ๋อ ได้ยินๆ" สีหน้าของเค้าดูเป็นห่วงเราอย่างเห็นได้ชัด
"พอทานข้าวเสร็จแล้วมาติวหนังสือกันนะ" ผมเงียบนิ่งไปสักพักก่อนจะนึกขึ้นได้ คุณแม่ท่านจ้างเอ็มมาเป็นติวเตอร์ให้กับเรานี่นา!!!!
"หึหึ..ถ้าคิดว่านายจะสามารถสอนชั้นได้ก็ลองดูสิ"
คิดจริงๆหรอว่าอย่างนายจะเอาชั้นลงได้ ขนาดอาจารย์สอนพิเศษที่คุณแม่จ้างมายังต้องขอถอนตัวถายในวันแรกที่เข้ามาสอนชั้น จะทำให้นายรู้ซึ้งเลยล่ะ
"คุณท่านบอกว่าถ้าผลคะแนนการเรียนของเรย์ดีขึ้นท่านจะให้อิสระกับเรย์ให้มากกว่านี้" นี่สินะข้อตกลงที่คุณแม่เสนอให้กับเรา
"ไปเอาหนังสือมาให้ไวชั้นจะเรียน!!" จิ๊..จะดูถูกกันเกินไปแล้วนะ
หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเราก็ติวหนังสือกันไปประมาณ3ชั่วโมงได้ แน่นอนว่าผมไม่มีปัญหาในระหว่างการติวเลยแม้แต่น้อย
"งั้นพักกันก่อนเถอะนะครับ" ไม่เคยคิดเลยว่าเอ็มจะฉลาดถึงขนาดนี้
"นี่เอ็มไปข้างนอกกันไหม" ถ้าต้องอยู่ติวหนังสือทั้งวันแบบนี้ชั้นได้ใจขาดตายกันพอดี!!!
จากนั้นผมกับเอ็มก็เดินเที่ยวเล่นกันไปสักพัก รู้สึกเหมือนกับว่ากำลัง เดท กันอยู่เลยแฮะ ทันใดนั้นสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นร้านขายน้ำปั่น
"ดีเลยกำลังอยากได้น้ำเย็นๆอยู่พอดี" แต่ว่าคนเยอะจังเลยแฮะ
"ผมจะไปซื้อมาให้นะ" ฝากจ่ายให้ด้วยน้าาา จะว่าไปจำได้ว่าเอ็มม้ากลัวที่ที่มีผู้คนเยอะนี่นา
ระหว่างนั้น
.
.
"ขอโทษค่ะ คือหนูไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ"
เด็กน้อยได้เดินชนเข้ากับชายร่างโตจนทำให้น้ำปั่นที่เธอซื้อมานั้นหกใส่ขากางเกงของชายคนนั้นจนมันเลอะไปหมด
"อะไรวะ!! นี่แกทำอะไรกับกางเกงสุดรักของชั้น!!"
"ค่ะ..ขอโทษจริงๆค่ะ"
"จ่ายค่าเสียหายมาเลยนะ ถ้าต่ำกว่าหลักพันล่ะก็เราไม่จบกันง่ายๆแน่"
"ชิ..เป็นแค่เด็กตัวเล็กๆที่ไร้ทางสู้แท้ๆแกยังจะ.."
ผมไม่รอช้าที่จะเข้าไปร่วมสนทนาด้วย
"ตาไม่มองรึไงวะ แกก็เห็นที่นังเด็กนี่มันทำไม่ใช่รึไง" เกลียดที่สุด..
"ไม่เป็นไรนะ รีบกลับไปหาคุณแม่เถอะนะทางนี้เดี๋ยวพี่ชายจะจัดการให้เอง" ผมปาดน้ำตาที่ไหลรินให้กับเด็กน้อย เธอยิ้มให้กับผมอย่างไร้เดียงสาก่อนจะวิ่งจากไปหาอ้อมกอดของมารดาผู้เป็นที่รัก
"เดี๋ยวสิเฮ้ย!! แล้วค่าเสียล่ะจะว่าไง!?"
"หึหึ..อย่าว่าแต่หลักพันเลยแค่สตางค์เดียวชั้นยังรู้สึกว่าเอาไปบริจาคให้หมาวัดยังจะมีประโยชน์กว่าจะให้คนยังแกเลยด้วยซ่ำ เพราะแกมันไม่มีค่าพอที่แม้แต่จะเห็นความเป็นมนุษย์ร่วมโลกด้วยกัน"
ด้วยความโกรธจัดชายร่างโตได้ชักมีดออกมาและไม่รอช้าที่จะบั่นคมมีดมาทางผม ระยะใกล้ขนาดนี้ผมคงหลบไม่พ้นแน่!! แต่แล้ว..
"อะ..เอ็ม!! ทำไมนายถึงได้.." เอ็มเอาตัวเองเข้ามาบังผมเอาไว้จนทำให้เขาไปรับบาดเจ็บ
"ไม่เป็นไรครับ" เอ็มได้ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนพร้อมกับเข้าประชิดตัวชายคนนั้นโดยไม่ได้สนใจกับความเจ็บปวดของตนเองเลยแม้แต่น้อย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!