NovelToon NovelToon

ฉันเกลียด(รัก)เธอ

รักสนุก

ณ งานเปิดตัว

19:34

ท่ามกลางฝูงชนที่ลายล้อมไปทั่วบริเวณทางเข้างานเลี้ยงสุดหรูขนาดใหญ่ มีทั้งนักข่าว นักธุรกิจและเซเลปดาราดังอีกมากมายที่มาร่วมงานเลี้ยง ล้วนเต็มไปด้วยผู้คนที่มีถานะและหน้าตาทางสังคม เนื่องด้วยว่าค่ำคืนนี้คือวันสำคัญของทายาทบริษัทดังแห่งอเมริกาอย่างเจกรุ๊ป ที่จะได้ขึ้นนั่งเป็นประธานคนใหม่ต่อจากผู้เป็นอาที่ก่อนหน้านี้รับผิดชอบบริหารงานต่อจากเจค็อบ วัดเตอร์สันพี่ชายของเขาที่ได้เป็นคนก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ขึ้นมาโดยการส่งออกและผลิตสินค้าทางเทคโนโลยีที่เรื่องลือด้านความอัจฉริยะไม่ซ้ำใคร จนกลายเป็นที่จับตามองของผู้คน เขาเป็นยอดนักประดิษฐ์ที่เก่งกาจ ทว่าโรคร้ายก็ได้คาดชีวิตของเขาไปในวัยเพียง35ปีเท่านั้นบริษัทจึงตกอยู่ภายใต้การดูแลของหุ้นส่วนอย่างเจสันผู้เป็นน้องเนื่องจากว่าลูกชายของเขานั้นยังไม่โตพอที่จะดูแลบริษัทได้ เจสันจึงต้องรับหน้าที่บริหารงานทั้งหมดจนกว่าที่ลูกชายของเจค็อบจะโตพอที่พิสูจน์ให้คนเห็นได้ว่าเขาคู่ควรกับสิ่งที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้

กาลเวลาได้ผ่านไปจนลูกชายของเขาเติบโตและได้พิสูจน์ตัวเองให้ฝูงชนเห็นว่าเขานั้นมีศักยภาพมากพอที่จัดูแลกิจการแทนอาได้ด้วยการประดิษฐ์อุปกรณ์ไฮเทคขึ้นมาจนสามารถทำการส่งออกขายเป็นสินค้าตัวใหม่ได้ และในวันนี้สิ่งที่เขาทำมันจึงได้ตัดสินแล้วว่าเขานั้นสมควรที่จะขึ้นเป็นประธานบริษัทตัวจริงแทนที่เจสันอาของเขาแล้ว

“ขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่เป็นเกิยรติมาร่วมงานเปิดตัวประธานคนใหม่ของเรา นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับการมอบตำแหน่งในครั้งนี้”

ทุกๆสายตาในงานต่างจับจ้องมายังชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่กำลังยืนกล่าวขอบคุณแขกในงานบนเวที

“มันก็คุ้มค่าแก่เวลาแล้วที่อำนาจทุกอย่างจะตกเป็นของ เจเดน วัดเตอร์สัน ลูกชายเพียงคนเดียวของประธานเจค็อบที่เคารพ ในนามของผม เวย์นิค ฟิวลี่ รองประธานแห่งเจกรุ๊ป ขอเรียนเชิญทุกท่านตบมือต้อนรับให้กับประธานคนใหม่ของเราด้วยนะครับ”

สิ้นคำกล่าวของพิธีกรหนุ่ม เสียงตบมือต้อนรับของแขกในงานก็ดังขึ้น ทว่ามันกลับไร้ร่องรอยของทายาทเจ้าของงานที่ควรจะมาปรากฏตัวให้เห็น ทำเอาทั่วทั้งงานเกิดเสียงชุบชิบขึ้น

ขณะเดียวกันเวย์นิค รองประธานหนุ่มผู้รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานก็ได้กวาดสายตามองไปยังโต๊ะที่จัดไว้ต้อนรับแขกคนสำคัญของงานนี้ หรือ พูดได้ว่าตัวเอกของงานอย่างเจเดน วัดเตอร์สันซึ่งเขาควรจะมาก่อนเวลาเริ่มงานสองชั่วโมงเสียอีก และมันก็เป็นอย่างที่เขาคิดไม่มีผิด เพื่อนตัวดีของเขาเทงานนี้ เวย์นิค รู้สึกหน้าเสียในทันที เขาวุ่นอยู่กับการเตรียมงานทั้งวันและคอยโทรไปกำซับกับผู้เป็นเพื่อนอยู่ตลอดเรื่องงานสำคัญในค่ำคืนนี้ แต่จนแล้วจนรอดผู้เป็นเพื่อนก็ยังทำเป็นหูทวนลมและเบี้ยวงานจนได้

“ชิบหาย!ประธานแม่งยังไม่มาเลย!”เวย์นิคสบถขึ้นด้วยความตกใจ

“ไอ้เจ๊ก!ไอ้เพื่อนเหี้ย!มึงเล่นกูแล้วไง”

ทันทีที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้แน่นอนว่าคนที่หน้าเสียที่สุดในงานนี้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาและผู้เป็นอาอย่างเจสัน ท่ามกลางสถาการณ์ที่ชุลมุนเสียงชุบชิบนินทาก็ดังหนาหูขึ้นเรื่อยๆ เวย์นิคยืนหน้าเสียไม่รู้จะทำอย่างไรต่อจนผู้เป็นอารีบเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาถามอยู่ข้างๆเวทีโดยมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกันกับเขา “เวย์!เจ๊กไปไหน!ทำไมป่านนี้ยังไม่มา” เจสันเค้นถามอย่างรีบร้อนเมื่อไม่เห็นวี่แววของหลานชายตัวดีจะขึ้นไปบนเวทีตามคำเชิญ

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับอา...ก่อนหน้านี้ผมโทรไปย้ำกับมันแล้วว่าอย่าเทงานนี้”

“ไอ้หลานตัวดี สร้างปัญหาให้กูอีกแล้ว!”

เจสันยืนกุมขมับกับความแสบของหลานชายที่เขาเลือกเทงานสำคัญแบบนี้มันไม่ใช่แค่เขาที่หน้าเสียแต่มันรวมไปถึงหน้าตาทางสังคมของบริษัทด้วยเช่นกัน หลานชายของเขาคนนี้มีสีมือไม่แพ้จากผู้เป็นพ่อแต่เพราะอายุยังน้อยเลยยังรักสนุกไม่สนใจที่จะมางานเลี้ยงหน้าเบื่อที่ผู้เป็นอาจัดขึ้น ที่ผ่านมาเจเดนคอยสร้างปัญหาให้เขาต้องปวดหัวอยู่ตลอดแต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าในงานใหญ่เรียกได้ว่าสำคัญมากๆอย่างนี้เจ้าหลานตัวแสบจะก่อเรื่องให้เขาเป็นเดือดเป็นร้อนอีก

“ผมโทรให้เลขาไปตามแล้ว...ตอนนี้มันอยู่คาสิโน คุณวาเนียบอกว่ามันไม่ยอมมา เห็นทีว่าผมจะต้องไปเองยังไงคุณอาก็อยู่รับหน้าแขกในงานไปก่อนนะครับแล้วเดี๋ยวผมจะรีบลากคอมันมาให้เร็วที่สุด”

หลังจากรับสายของเลขาที่เขาให้ไปตามเพื่อนตัวแสบ เวย์นิคก็ต้องเครียดอีกครั้งกับความหัวดื้อของเพื่อนที่ไม่ว่าแม่เลขาจะพูดยังไงเจเดนก็ไม่ยอมมา จนเขาต้องตัดสินใจที่จะไปเองโดยให้ผู้เป็นอารับหน้าแขกในงานไปก่อน “เออๆ!เร็วๆด้วยล่ะ” เวย์นิครีบวิ่งตรงไปยังลานจอดรถของโรงแรมก่อนจะขึ้นไปนั่งในรถสปอร์ตหรูของเขาแล้วขับออกไปมุ่งตรงสู่คาชิโนใจกลางเมือง อีกหนึ่งในธุรกิจส่วนตัวของเจเดนที่เขาได้ทำขึ้นมาเองตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย เรียกได้ว่าเพื่อนเขาคนนี้เป็นคนที่มีหัวธุรกิจมาตั้งแต่เด็กๆเหมือนๆกับผู้เป็นพ่อแต่ข้อเสียก็มีมากจนเขาไม่อาดที่จะเอ่ยคำชมได้นอกจากคำด่า.

****

ณ คาสิโน

“ท่านคะ...คือว่าตอนนี้ทุกคนกำลังรอท่านอยู่นะคะ”เลขาสาวเอ่ยทักท้วงขึ้นหลังจากที่ได้เห็นท่าทีอันไม่เป็นเดือดเป็นร้อนใดๆของว่าที่ประธานคนใหม่อีกทั้งนั้นเขาก็ยังเป็นทั้งเจ้านายของเธออีกด้วย นับว่าเป็นเวลาหลายนาทีแล้วที่เธอเข้ามาในคาสิโนแห่งนี้และพยายามพูดกับเขาแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาก็มีเพียงความดื้อรั้นของเขาเท่านั้น วาเนียรู้ดีว่าการที่เธอทำแบบนี้มันไม่มีประโยชน์ยังไงเจ้านายหัวดื้อของเธอก็ไม่สนใจอยู่ดียิ่งในวันนี้เป็นวันเกิดของเขาแล้ว คนรักสนุกอย่างเขาก็คงจะเลือกอยู่ฉลองงานวันเกิดกับสาวๆมากมายในคาสิโนดีกว่าไปร่วมงานเลี้ยงหน้าเบื่อนั้นเป็นแน่ “แล้วยังไงต่อ”เจเดนเอ่ยถามน้ำเสียงเรียบๆก่อนจะกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก

“ท่านจะไม่ไปร่วมงานสักหน่อยหรอคะ...นี่งานสำคัญของท่านนะคะ”

“ขืนไม่ไปมันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับตำแหน่งของผมอยู่แล้วนี่” เขายังคงความดื้อรั้นกับทุกคำพูดที่กล่าวออกมา

“แต่ว่าเราต้องยื้อหน้าตาทางสังคมไว้ด้วยนะคะ การที่ท่านทำอย่างนี้มันถือเป็นการหักหน้าทุกคน”

เจเดนทิ้งตัวลงนั่ง เอนหลังพิงโซฟามือข้างหนึ่งยกขึ้นกอดเอวของหญิงสาวที่ถูกจัดหามาให้ในคืนนี้ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากกระดกเหล้าที่หญิงสาวรินใส่แก้ว เข้าปาก สายตามองไปยังสาวๆที่กำลังยืนเช็ดไม้คิวและจัดลูกบอลบนโต๊ะให้พร้อมแก่การเล่นอีกครั้งโดยไม่ใส่ใจกับเลขาที่ยืนอยู่ข้างๆโซฟาแม้แต่น้อย

“ท่านคะ...ดิฉันขอล่ะ..ไปร่วมงานเถอะนะคะ”วาเนียหันมาขอร้องผู้เป็นเจ้านายเพื่อหวังว่าเขาจะลดความหัวดื้อลงสักนิดแล้วเห็นใจเธอบ้าง

“ผมก็แค่อยากพักผ่อน”

“เรื่องพักผ่อนเอาไว้ทีหลังไม่ได้หรอคะท่าน ตอนนี้ทุกคนกำลังรอท่านอยู่นะคะ”

“รอก็ให้รอไปสิ คุณไม่เห็นหรอว่าผมกำลังยุ่งอยู่”

กล่าวจบเจเดนก็ได้ลุกเดินไปยังโต๊ะสนุกเกอร์โดยมีสาวๆยืนรออยู่

“แต่ท่าน”

“ชู่ว...ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

“....”

วาเนียสิ้นหนทางที่จะพูดกับเขาเธอได้แต่ยืนมองเขาใช้ไม้คิวแทงลูกบอลที่อยู่บนโต๊ะด้วยความร้อนใจและภาวนาให้ใครสักคนมาช่วยเธอพูด เพราะถ้าเขายังไม่ยอมแบบนี้เธออาดจะถูกไล่ออกเป็นแน่ เพราะเจสันจ้างเธอมาเพื่อกำราบหลานชายตัวแสบและถ้าเธอทำไม่ได้แน่นอนว่าเธอก็ต้องเตรียมหางานใหม่ในทันที

“ไอ้เหี้ยเจ๊ก!”

น้ำเสียงอันขุ่นเคืองที่ตระโกนด่าทอมาแต่ไกลนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากเวย์นิคที่เพิ่งจะมาถึงแต่ก็หัวเสียมากๆจนแทบจะระเบิดอารมณ์ใส่ผู้เป็นเพื่อนที่ยังคงใจเย็นไม่มีความเป็นเดือดเป็นร้อนใดๆ

“มึงเอาอีกแล้วนะ!สร้างปัญหาให้กูอีกแล้วไอ้ชิบหาย”

เวย์นิคเดินบุ่มบ่ามเข้ามาในห้องด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเขาไล่สาวๆที่ยืนเกลื่อกล่านคอยปรนนิบัติผู้เป็นเพื่อนออกไปจนหมดก่อนจะเข้าไปแย่งไม้คิวจากมือของว่าที่ประธานหนุ่ม ทำให้เจ้าตัสหันมามองเขาในทันที

“กูบอกว่าไง!อย่าเทงานนี้...กูพูดอยู่แม๊บๆไม่หูฟังเลยไอ้ห่า..มึงรู้บ้างไหมว่ามึงทำกูกับอาขายฟน้ามากขนาดไหน” เวย์นิคจ้องเขม็งผู้เป็นเพื่อนด้วยสายตาที่พร้อมจะบดขยี้เขาให้แหลกคามือ

“ใจเย็นๆ...กูแค่อยากพักผ่อนเองไง” คำตอบของชายหนุ่มยังคงเป็นคำตอบที่ใจเย็นแม้ว่าคนอื่นๆจะวุ่นวายเพราะสิ่งที่เขาก่อมากเพียงใดแต่เขาก็ไม่ได้นึกที่จะสนใจเลยแม้แต่น้อยทำเอาผู้เป็นเพื่อนแทบจะเก็บอารมณ์ความโกรธเอาไว้ไม่อยู่ เจเดนเหลือบมองคนตรงหน้าก็พอจะรับรู้ได้ว่าเขาอยากจะฆ่าตนมากขนาดไหน

“พักผ่อนส้นตีนอะไรเวลานี้ไอ้เวร!”

“กูว่าแล้วว่ามึงต้องเล่นแบบนี้...เหี้ยตลอดเลยนะมึงอะ...ไม่ไว้หน้ากูก็ไว้หน้าอาบ้างเถอะ!เขาอุตส่าห์ตั้งใจจัดงานนี้”

แม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผู้เป็นเพื่อนฉุดคิดขึ้นได้ ซ้ำร้ายเจเดนยังทำเป็นหูทวนลมไม่สนคำด่าทอที่เขาร่ายยาวมาแต่ละคำเลยสักนิด

“นี่มึงไล่น้องๆของกูออกไปทำไม ยังไม่ได้เล่นอะไรสนุกๆเลย”

แทนที่เขาจะสนใจเรื่องงานเจเดนกลับถามถึงเรื่องไม่เป็นเรื่องจนทำให้ผู้เป็นเพื่อนหัวเสียไปมากกว่าเดิม

“มึงจะมาสนุกอะไรเวลานี้!คนอื่นเค้าวุ่นวายกันตามหามึงแทบตาย!หนีมากลบอยู่กับสาวๆที่คาสิโนเฉย!”

“ไม่เอาน่าเพื่อนเวย์...วันนี้วันเกิดกูนะ”

เจเดนกล่าวอย่างเอื่อยๆพร้อมยิ้มให้กับผู้เป็นเพื่อนที่ดูจะไม่สบอารมณ์กับเขาเลยสักนิด

“ก็ใช่ไง!วันเกิดมึง แล้วก็เป็นวันสำคัญของมึงด้วยไอ้ห่า”

“ไหนมึงลองบอกมาสักเหตุผลชิ ทำไมกูต้องเลือกที่จะไปงานเลี้ยงหน้าเบื่อนั่นแทนที่จะมาฉลองวันเกิดกับสาวๆสวยๆ”

“ก็มันคืองานมึงไงไอ้สัส! เหตุผลพอไหมล่ะ”

“ไม่มีกูงานก็ดำเนินไปได้”

เจเดนหยิบไม้คิวอีกหนึ่งอันที่วางอยู่ข้างๆโต๊ะขึ้นมาพลันเดินหามุมที่จะแทงลูกบอลทั้งหมดให้ลงตามรูบนโต๊ะได้โดยมีผู้เป็นเพื่อนเดินตามหลังติดๆ

“กูเหนื่อยนะไอ้เจ๊ก...มึงหยุดสร้างปัญหาให้กูได้แล้ว!”

“วันนี้เป็นวันสำคัญกูขอร้องล่ะเลิกทำตัวเป็นเด็กสักที ไอ้เรื่องฉลองวันเกิดแล้วค่อยฉลองหลังงานจบก็ได้ มึงจะเอาสักกี่คนมึงว่ามาเดี๋ยวกูจัดการให้”

เวย์นิคยื่นข้อเสนออย่างคนหมดทางเลือก เขาหันไปมองเลขาที่ยืนนิ่งมาพักใหญ่ๆส่งสัญญาณให้เธอช่วยกันพูดแต่แม่เลขาก็ได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของเจเดน

“มึงรู้ไหม!กูเพิ่งจะเลื่อนนัดกินข้าวเย็นกับครอบครัวของลินเชย์ซึ่งมันสำคัญมากกับกูมันจะตัดสินว่าเขาจะยกลูกสาวให้กูไหม เพื่อที่กูจะมากำชับงานของตัวปัญหาแบบมึง ฉะนั้นเห็นใจกูหน่อยไอ้ห่า”

“ไม่เอาน่า...มึงต้องเข้าใจกูบ้างดิ กูไม่ได้ปลดปล่อยมาเป็นเดือนแล้ว อัดอั้นจนคิดอะไรไม่ออกแล้วเนี่ย”

คำพูดของเจเดนยังคงเป็นคำแก้ตัวต่อไป

“มันเกี่ยวเหี้ยไร!มึงเอาหัวล่างคิดแทนหัวบนหรอไอ้สัส”

“เอาหัวบนคิด แต่ก็ใช้หัวล่างระบายความเครียดจากหัวบน”

“ไอ้สัส!กูหมดคำจะพูด”

เวย์นิคตีหัวตัวเองเบาๆด้วยความเบื่อหน่าย

“เอ่อ..ท่านคะมันจะเลยเวลามากแล้วนะคะ”

เลขาสาวที่ยินเงียบมองดูชายหนุ่มทั้งสองคุยกันมาพักหนึ่งแล้วเอ่ยทักท้วงขึ้น

“สรุป!เอาไงมึงจะไปไม่ไป ถ้าไม่ไปกูลาออกนะไอ้สัส”

รองประธานหนุ่มกล่าวอย่างประชดประชันทว่ามันก็แฝงความรู้สึกลึกๆข้างในของเขาเอาไว้ที่อยากจะลาออกอยากเต็มทน

“ครั้งนี้กูขี้เกียจมาแก้ข่าวให้มึงแล้ว”

เวย์นิครูัดีว่าการที่เพื่อนเขาทำอย่างนี้คงไม่วายที่จะเป็นข่าวใหญ่โตที่เขาจะต้องตามแก้โดยที่ตัวคนทำไม่รู้สึกสำนึกใดๆอีกเป็นแน่

“รอบที่แล้วก็ข่าวฉาวกับดารา จนกูกับคุณวาเนียต้องตามกวาดตามเช็ดข่าวเสียๆที่มึงทำไว้”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจเดนก่อเรื่องจนเป็นข่าวใหญ่โตแต่มันคือครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่อาดรู้เพราะเขานั้นขยันสร้างปัญหาให้ผู้เป็นเพื่อนและเลขาต้องคอยตามกวาดตามเช็ดเรื่อยมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็มีข่าวออกเดทกับดาราสาวจนกลายเป็นข่าวช็อกทั้งวงการบันเทิง แต่ท้ายที่สุดเพื่อนของเขาก็ยังสามารถจัดการได้นั่นจึงทำให้เจเดนชั่งใจทำเรื่องให้ผู้เป็นอาและเพื่อนต้องปวดหัวอยู่เรื่อยมา

“กูต้องฝืนธรรมชาติขนาดที่ทำให้เหี้ยดูเป็นคนดีในสังคมได้”

“ฟ้าจะผ่ากูตายวันไหนก็ไม่รู้”

“โอเค!ไปก็ได้วะ บ่นเยอะจริงๆอย่างกับแม่กูเลยนะ”

เมื่อทนรับกับการโน้มน้าวไม่ไหวเจเดนจึงเลือกที่จะยอมไปร่วมงานแต่โดยดี

*****

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!