NovelToon NovelToon

หญิงสาวผู้หลงทาง

ตอนที่ 1 บุหรี่มวนนั้นมันทำให้ฉันเป็นอิสระ

ในปีพุทธศักราช 2540 ได้มีหญิงสาวผู้หนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นเธอถูกตั้งชื่อว่า เอริกะ เธอนั้นได้ถูกตั้งความหวังจากครอบครัวเป็นอย่างมากถูกปลูกฝังให้เชื่อว่าเธอจะไม่ผิดพลาดจะไม่ยอมแพ้จนทำให้เธอจะต้องไม่พลาดเลยแม้แต่น้อย ครอบครัวของเธอนั้น "ค่อนข้าง" รำรวยและมีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อยเธอเลยจะต้องยิ่งต้องห้ามพลาดเข้าไปใหญ่แต่เธอก็ค่อนข้างจะมีจิตใจที่บอบบางเลยทำให้เธอค่อนค้างจะเม่อลอย เธออยู่แบบนี้มากว่า 13 ปีแล้วและในปีพุทธศักราชที่ 2555 วันที่ 15 สิงหาคม ในช่วงเที่ยงของวันนึง เธอกำลังนั่งเหม่อลอยตามปกติของเธอและในช่วงนั้นอาจารย์ ศาสนาท่านนึงได้เรียกเธอเข้าห้องตอนนั้นเธอยังเหม่อลอยอยู่แต่เธอก็ยังไม่สติเธอเผลอตะคอกใส่อาจารย์แต่เธอก็ผึ้งได้สติเธอไม่รู้เลยว่าเมื่อกี้เธอพูดอะไรลงไปแต่เธอพอจะรู้ว่าเธอทำอะไรลงไปแทนที่เธอจะขอโทษและอธิบายให้อาจารย์เข้าใจเธอกับทำมันต่อไปถึงไม่รู้พูดอะไรไปแต่เธอก็บ่นออกมาว่าชอบยุ่งจริงๆเลยไอ้เหี้ยเธอได้เผลอหลุดพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เธอก็ยังไม่ยอมรับเธอได้รีบบ่ายเบี่ยงเลือกที่จะไม่ตอบอะไรและเดินกลับห้องไปเธอไปยังไม่ถึงโต๊ะแต่ก็ถูกเรียกโดยอาจารย์คนนั้นเธอได้หันกลับไปแล้วถามว่า "อะไร" อาจารย์คนนั้นได้มองไปที่หน้าอกทางซ้ายมือของเธอเธอได้มองไปยังจุดนั้นและจุดนั้นก็คือป้ายชื่อของเธอ แทนที่เธอจะพยายามปิดเธอดันอ่านคำสุดท้ายที่คุณครูกำลังพึมพำ กะ ชื่อของหนูชื่อ เอริกะ แมคเวล ค่ะอาจารย์แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นไปในใจของเธอสั่นระรัวเธอรู้เลยจะต้องเข้าห้องปกครองอย่างแน่นอนแต่ว่าเธอก็ยังไม่ได้คิดคำพูดอะไรเลยที่จะแก้ตัวเธอได้นั่งเครียดและนึกไปถึงวีรกรรมทั้งหมดที่เธอเคยทำทั้งด่าครูอบรมและการประชดประชันครูวิชาภาษา...และยังบ่นครูวิท อึยย~~ ฉันเนี่ยวีกรรมเยอะจริงๆและหลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเพื่อนคนอื่นๆ ได้สุบสิบนินทาเธอว่าวันนี้เธอห้าวเป็นพิเศษเลย ตายแล้วเธอได้เข้าห้องปกครองแน่เลยนี่เอริ(ชื่อเล่นที่เพื่อนตั้ง)เธอทำแบบนั้นไปทำไมนี้คลาวหลัง อย่าไปทำอย่างนั้นกับครูสิ เอริกะที่ได้ยินอย่างนั้นก็ได้ยิมออกมาเธอได้พูดว่า

(มันจะไม่มีคราวแล้วล่ะ) เอริกะได้ไปน้ำตาซึมไปแต่ก็ใช่ผมหน้าม้าของเธอปิดเอาไว้เพื่อนทุกคนไม่เห็นแต่มีเพื่อนคนนึงและญาติอีก 2 คนเห็นนั้นก็คือเพื่อนที่พูดอย่างนั้นยังไงหล่ะ เธอรู้ตัวดีว่าการกระทำในครั้งนี้มันไม่ถึงกับโดนใล้ออกแต่แค่อาจจะถูกหักคะแนนจิตวิสัยแค่นั้นแต่ว่าสำหรับเธอมันพลาดมามากพอแล้วและวันนั้นเธอก็พร้อมที่จะถูกลงโทษแล้วแต่ในใจลึกๆแล้วเธอก็ยังกลัวอยู่เพราะเธอยังมีปู่ย่าและคุณท่วดที่ยังหวังผึ้งเธอแต่สำหรับพ่อแม่แล้วยังมีน้องสาวของเธอที่ยังหวังผึ้งได้อยู่เธอไม่ได้อยากจะทำให้พ่อแม่ผิดหวังแต่เธอก็เจ็บมามากพอแล้วถึงมันจะน้อยนิดถึงแม้ว่าพ่อแม่จะเคยเจอเรื่องแย้ๆมาเหมือนกัน แต่เธอโดนไปแค่นี้ก็จะตายอยู่แล้วเวลาได้ผ่านไปถึงช่วงกลับตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แต่เวลาเนี่ยสำหรับโรงเรียนเธอยังกลับบ้านไม่ได้ต้องไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาก่อนและในเวลานั้นเธอก็ได้ระแวงไปถึงขั้นสุดเพราะในห้องที่แออัดแบบนี้จะมีอาจารย์อยู่เป็นจำนวนมากเธอไม่สามารถหยุดความกลัวของเธอไว้ได้เลยมันทำเอาท้องของเธอปันป่วน เธอต้องรีบออกจากบรรยากาศมาคุนี้ให้เร็วที่สุดเธอได้รีบทำพิธีกรรมให้เสร็จและเธอออกมาจากโบสถ์อย่างรวดเร็ว เธอได้รีบขึ้นรถตู้รับส่งของเธอและพอขึ้นรถได้เธอก็หาโทรศัพท์มือถือของเธอบนรถเธอรีบเอาหูฝันบรูทูดขึ้นมา ใส่หูและเชื่อมต่อมันเข้ากับมือถือและเธอได้เปิดเพลงชาติโซเวียตขึ้นมา เพื่อกลบความโกลาหลในจิตใจเพื่อสร้างความหึกเหิมเธอได้ทำแต่นั่งฝังเพลงอย่างเดียวโดยไม่พูดกับแต่ก็ไม่มีใครถามเพราะปกติ เธอมักจะไม่พูดกับใครอยู่แล้วและเวลาก็ได้ร่วงโรยไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เธอได้ลงจากรถที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่ประจำที่รถรับส่งจะมารับและส่งเธอที่นี่และ เธอก็เข้าไปยังร้านสะดวกซื้อและได้ซื้อ น้ำอัดลมกระป๋องรสใหม่มันมีชื่อว่า mass manlo white soft drink แต่เธอเรียกมันว่าน้ำอัดลมรสบูมเบอรี่กระป๋องสีขาว แห่งแบลนมาศแมนโล มาและก็เปิดโทรศัพท์ขึ้นมาปิดเน็ตปิดเครื่องปิดการเชื่อมต่อกับหูฟังและปิดหูฝัง เธอเก็บมันไว้ในกระเป๋านักเรียนของเธอ เธอนั้นโชคดีที่ไม่ได้โดนเรียกไปที่ห้องปกครองแต่ไม่รู้ว่า ทางโรงเรียนได้แจ้งให้กับทางบ้านรึยัง ว่าเธอไปทำอะไรเอาไว้ เธอได้เดินมาถึงบ้านหลังใหญ่ของเธอสวัสดีครับคุณหนู สวัสดีค่ะคุณลุง (รปภ) ประจำบ้านของเธอได้เข้ามาเรียกและเปิดประตูให้กับเธอเธอได้เดินเข้าไปสักพักเธอก็ได้ภพเข้ากับ คุณปู่ของเธอที่ออกมาเดินเล่น แต่เธอก็ระแวงมากแต่เธอก็ยังทำตัวตาม ปกติแล้วก็ทักออกไปด้วยความยิมแย้มจอมปลอมตามปกติ และเธอก็ได้เดินมาจนถึงหน้าบ้านของเธอก็พบเข้ากับ คุณย่าของเธออ้าว โดมินิก้า (ชื่อเล่นของนาง) ของย้านี้นาสวัสดีค่ะย่า มาเรีย ของหนู "ดูเหมือนว่าคลอบครัวจะยังไม่รูเรื้องในโรงเรียนตอนนี้น่ะ" จะว่าไปหลานรักวันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้างล่ะหลาน แล้วก็อย่ากินน้ำอัดลมมากไปสิหลานมันไม่ดีต่อสุขภาพนะ อึก!! เอริกะได้สะดุ้งไปเพียงเล็กน้อยแต่ก็กลับมา ตอบไปแบบส่งๆไปเหมือนทุกครั้ง ก็ดีค่ะไม่มีการบ้านค่ะแล้วก็เดินกลับขึ้นห้องของนางไป ทำไมวันนี้คุณหนูโดมินิก ถึงได้ดูแปลกไปกัน (ชื่อเล่นที่ถูกย่อคำของเธอ) นั้นสิ เอรี่ ดูแปลกๆไปจริงๆน่าาา~~~ (ชื่อ เอริกะ ที่เป็นการย่อคำ) นั้นสิเอริกะของย่าแปลกไปนะวันนี้เนี่ยแต่ เดี๋ยวค่อยถามเธอแล้วกัน ทางด้านของเอริกะนั้นเธอกำลังเล่นมือถืออยู่เธอพยายามลืมทุกสิ่งทุกอย่างไว้และมาดูมุขตลกๆในอินเตอร์เน็ตมีมทำให้เธอหัวเราะมาแล้วหลายมีมเธอพยายามกลบเกลื่อนความเศร้าทั้งหมดเพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเธอจะไม่ไปปรึกษาใครอีกแล้วและจะ ไม่ระบายความเศร้าให้ใครฟังอีกแล้วเพราะสุดท้ายไม่ว่าจะ อธิบายยังไงก็จะไม่มีใครฟังอีกแล้วเธอจะล่ะทิ้ง อนาคตของเธอไว้แค่นี้เธอจะไม่สัญญากับใครและ จะไม่ดิ้นรนที่จะมีชีวิตที่สุขสบายอีกแล้ว เธอได้เตรียมใจสำหรับชีวิตที่ย้ากลำบากใว้แล้วไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เธอได้เตรียมใจไว้เป็นที่เรียบร้อยแต่ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอเริ่มระแวงขึ้นมาอีกครั้งเธอกลัวจนตัวสั่นเธอได้บอกกับคนที่เคาะประตูว่าเขามาได้ ทันใดนั้นก็ได้มีหญิงสาวคนนึงได้เดินเข้ามาเธอคือ น้าของเอริกะเอิ่มเอรี่เธอ ok ไหม้และเอริกะก็พยักหน้ารับแต่จริงๆ แล้วเธอนะโครตไม่ ok เลยตอนนี้เธอยังกลัว อยู่ว่าน้า อัลโยนา จะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้วและก็เป็นไปตามนั้น น้าของเธอได้ถามขึ้นมาว่า มันเกิดอะไรขึ้นที่โรงเรียนไม่ต้องห่วงนะ อัลนา (ชื่อของน้าแบบย่อ) จะไม่เข้าข้างใครเลย ถึงน้าจะพูดแบบนั้น "แต่หนูก็ไม่อาจจะพูดอะไรออกไปได้อีกแล้วล่ะหนูไม่อยากกลับไปที่นั่นและหนูก็ไม่ อยากจะเจอหน้าคนในบ้านอีกแล้วแต่ทันใดนั้น อัลโยน้า ก็พุ่งเข้ามากอดเธอเอาไว้ตอนนี้เอริกะได้แอบ มีน้ำตาไหลออกมานิดๆแล้วแต่เธอจะไม่ร้องเพราะถ้าร้องออกไปก็จะทำให้พวกเขาเห็นความอ่อนแอ ของฉันยังไงล่ะฉันเบื่อที่จะต้องคอยไห้พวกเข้าต้องมาสอนปลัชยาแห่งชีวิตอีกแล้ว เธอไม่ชอบคนที่ทำเป็นรูดีว่าเข้าคิดอะไรอยู่เธาไม่ค่อยบอกอะไรกับน้าไปมาก เพราะไม่อยากจะมาอธิบายอะไรแล้วขอพอไว้แค่นี้ และน้าก็ได้ถามไปว่ายังอยากจะเรียนอยู่ไหมแต่เธอก็บอกว่าไม่ฉันไม่อยาก ไปแล้วและน้าก็ได้ไปบอกเรื่องนี้กับกับคุณย่าแล้วซักพักเอริกะก็ได้ เผลอหลับไปเธอถูกปลุกมาด้วยแม่ของเธอแต่เธอก็ไม่ค่อยตอบอะไรที่แม่ถามเลยเพราะคนที่นางเจ็บและเกียจมากที่สุดรองจากคุณย่า เคยคือคุณแม่เพราะมีหลายครั้งที่นางเคยขอให้ผู้เป็นแม่ที่ควรจะเป็นที่หวังผึ้งของเธอมาพูด คำพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจของเธอมาบ่อยมาก เช่นตอนที่เธอรู้สึกเหมือนตัวเธอเป็นโรคซึมเศร้าแล้วได้ขอให้แม่พาเธอไปรักษา แต่แม่กับพูดแทงใจดำกับเธอออกไปว่า "เรื่องของลูก" มันทำให้เธอนั้นไม่อยากจะผึ้งแม่อีก และยังเคยมีอีกนึงความทรงจำที่แสนเลวร้ายที่เธอไม่อาจจะลืมมันได้ลง ตอนนั้นเธอได้เอาคลิปมาจากอินเตอร์เน็ต คลิปนั้นเป็นคลิปที่เขาพูดว่าที่ชอบเล่นเกมติดเกมติดมือถือเพราะโลกแห่งความเป็นจริงมันโหดร่ายเลยหนีมายังโลกแห่งอินเตอร์เน็ตยังไงหล่ะ และสงไปให้แม่ดูเพราะนั่นเป็นตอนที่เธอจะอธิบาย 1 ในความทุก ที่เธอไม่รู้ว่าจะพูดไปยังไงดีแต่ คำที่เธอได้กลับมาคือคำว่า เพ้อเจ้อ มันทำให้เธอเจ็บมากและกลัวการแสดงความทุกออกมาให้ใครฟัง เธอเลยเก็บกดมากกว่าที่เธอเคยเก็บมันไว้ เธอนึกย้อนไปยังตอน ป4 เธอเคยถูกรังแก เธอเคยเอามาพูดให้แม่ฟังเธอพูดว่าเธอถูกรังแกมามากจนเป็นปมไปแล้วและแม่ก็พูดว่าปมนะลูกคิดเอาเองหรือเปล่าแล้วเธอก็เลยต้องพูดแค่สิ่งที่จำเป็นเท่านั้น กลับมายังปัจจุบันที่แม่มาปลุกเธอเพื่อถามเธอในเรื่องที่เกิดขึ้นแต่แม่ดูพูดจาดีเป็นพิเศษแต่ เอริกะ ไม่ได้หลงกลแม่เธอง่ายๆหรอกเธอรู้ว่าแม่ทำตามที่คุณน้า แนะนำมาเท่านั้นและเธอก็ตอบแบบบ่ายเบี่ยงไปว่าตอนนี้ง่วงไม่อยากจะพูดอะไรทั้งนั้นไว้ค่อยมาพูดกันทีหลังเอริกะพูดออกไปพางนอนลงแต่เธอยังไม่หลับรอให้แม่ออกไปเธอมีความทรงจำแย่ๆที่เธอไม่อาจจะทนไหวอีกหลายเรื่องแต่เธอก็ไม่อยากจะพูดอะไรออกไปทั้งนั้น เธอทำได้แค่สร้างคุณหมอจิตแพทย์ในจินตนาการขึ้นมาเท่านั้นถึงรู้ว่าที่คุยด้วยไม่ใช่ของจริงเป็นแค่ จินตนาการที่เธอสร้างขึ้นเท่านั้นเธอได้ระบายทุกอย่างที่เธอจำได้ออกไปเพราะเธอเป็นคนความจำสั้นเธอจะจำได้แค่ข้อมูลที่น่าจดจำที่มีความสุขและความทรงจำที่ฟังใจ เท่านั้นที่เธอจำได้ที่เหลือต้องรื้อความทรงจำออกมาเธอนั้นก็อยากจะพูดทุกอย่างออกไปอยู่ แต่พูดไปมันไม่เคยมีอะไรดีขึ้นทำได้แค่เก็บมันไว้ในใจและไม่สามารถระบายมันออกมาได้เลย ปกติเธอมักจะชอบกละซิบกับตนเอง ไม่อาจจะพูดได้อีกเธอไม่ไว้ใจใครได้อีกความพารานอยด์ ที่อยู่ในใจมันกำลังพูดกับเธอว่าไม่มีใครที่เธอสามารถไว้ใจ และระบายความทุกให้กับใครได้อีกแล้ว วันเวลาผ่านไปเธอไม่ออกไปเรียนอีกเลย และเธอไม่มีทีท่าจะทำอะไรเลยตอนนี้เธอมัวแต่ขั้นตัวเองไว้ในห้องจนมาถึง

วันเกิดอายุ 14 เธอในตอนนี้เธอเริ่มตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอะไร เธอได้เอาเงินที่เธอได้มาจากแม่ไปที่ร้านขายของชำและซื้อบุหรี่มาเธอไม่ได้อ้างอะไรมากอ้างไปว่าแฟนเธอมาฝากซื้อบุหรี่ทั้งที่แฟนของเธอนั้นยังไม่มีใครรู้จักเลยแต่พ่อค้าก็ยอมขายให้ไปและในระหว่างนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าเธอลืมซื้อไฟแช็คแต่ไม่ต้องกลับไปแล้วหละเพราะมีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งใด้จุดไฟแช็คขึ้นให้เธอแล้วก็พูดขึ้นว่าอะนี้ไฟ เธอได้สูบมันเข้าไปครั้งแรกทำให้เธอมัคควันนิดๆแต่สุดท้ายก็ชอบมันมันทำให้เธอหายเครียดเธอขอบใจคนพวกนั้นมากและก็กลับบ้านไปโดยที่กลิ่นยังอยู่ทำให้คนในบ้านเริ่มไม่พอใจและก็ได้เตือนไปแต่ผ่านมาอีกวันเธอก็ยังสูบและคราวนี้เธอซื้อมา 2 มวนเพราะเธอไม่อยากเดินออกไปซื้อบอยๆแล้วคุณแม่บ้านคนนั้นก็มาพบบุหรี่ในกระเป๋าปีนเขาของ เอริกะแล้วก็เอาไปให้คุณพ่อของ เอริกะ ดูและพ่อของเอริกะที่หลอกตัวเองมาว่าเอริกะแค่เดินผ่านคนสูบบุหรี่เฉยๆแต่ตอนนี้ได้บังคับให้เอริกะอยู่แต่ในห้องไม่ให้ออกไปใหนและเธอก็เตรียมพร้อมสำหรับวันนี้แล้วเธอได้เปลี่ยนชุดในทันทีที่พ่อไล่ให้ไปอยู่ในห้อง ก็รีบใส่ชุดฮูดสีดำชุดข้างในก็เป็นเสื้อยืดสีดำกางเกงขายาวสีดำและหน้ากากไว้พร้อมแล้ว เธอได้เอาไฟฉายโซล่าเซลล์เข้าไปในกระเป๋าปีนเขาปืน"เถื่อน!!"และบัตรประชาชนกับบัตรต่างๆที่ใช้สำหรับทุรกรรมเอาไว้ในกระเป๋าปีนเขาของนางและมีดนายพรานกับสมุด diary และดินสอใส่สิบลอคเอาไว้รวมถึงของทุกอย่างด้วยกันถูกใส่เข้าไปในสิบล้อคด้วย และได้กระโดดลงจากชั้น 2 และหนีออกจากบ้านไป และความรู้สึกแรกที่กระโดดลงจากหน้าตางแทนที่นางจะรู้สึกเจ็บแต่นางกับรู้สึกโล่งๆและเหมือนมีอะไรที่ค้ำเธออยู่ถูกดึงออกจากอกเธอ รู้สึกเป็นอิสระและมีความสุข เธอได้รีบปีนรั้วหนีออกไปจากบ้านหลังนั้นและเรื่องราวของการเดินทางอันแสนยาวไกลของหญิงสาวที่มีชื่อว่า เอริกะ จุดเริ่มต้นของการเดินทางที่จะมีแต่อุปสรรคที่เธอจะต้องผ่านไปให้ได้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!