Blood รักฉันสิ ยัยตัวกินเลือด
แนะนำตัว
ผู้กองโป๊บ
ไม่อย่างนั้นฉันเป่าสมองเธอกระจายแน่!
ผู้กองโป๊บ
นางฆ่าตกรโรคจิต
โมนา
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ โมนา
ชื่อเต็ม โมนาลิซ่า แค่นั้นไม่มีนามสกุล ไม่มีอะไรนำหน้าหรือต่อหลัง ตั้งแต่ลืมตาดูโลกฉันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเป็นแม่ โมนาลิซ่า คือ กุหลาบสีแดงเลือดนก คงเหมือนฉันมั่งค่ะ ความงามที่ต้องใช่เลือดหล่อเลี้ยง
โป็บจอร์น เพียว
ผมเป็นตำรวจสายสืบในเมืองแคปิตอล เมืองที่กำลังมีฆาตกรต่อเนื่องออกอาละวาดฆ่าเหยื่อในคืนเดือนดับ...โดยแต่ละรายจะโดนสูบเลือดไปจนหมดตัว...ผมต้องตามหาไอ้ฆ่าตกรให้ได้ก่อนที่จะมีใครตายไปมากกว่านี้ โป๊บจอร์น คือกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ คงเหมือนอาชีพผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของผมมั่งครับที่จะต้องเที่ยงตรง และโปร่งใส...
ยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่แคปปิตอล เมืองแห่งสายเลือด
blood 1
โมนา
คำก็ฆาตกร สองคำก็ฆาตกร
โมนา
คุณอย่ามากล่าวหาฉันมั่วๆ
ผู้กองโป๊บ
อย่ามาทำเป็นเนียน...
คุณตำรวจขู่ฟ่ออีกครั้ง ก่อนจะหยิบแก้วที่ฉันดื่มเมื่อกี้ไปดมแล้วเบ้หน้าอย่างรุนแรง
ผู้กองโป๊บ
นี่มันเลือดชัดๆ
ผู้กองโป๊บ
แกฆ่าคนแล้วกินเลือดใช่ไหม?
โมนา
จริงอยู่ที่พฤติกรรมฉันมันน่าสงสัยไปบ้าง ที่มานั่งดื่มในสวนสาธารณะกลางดึกคนเดียว
โมนา
ก็ตรงนี้มันสบายกว่าในห้องแคบๆของฉันนี่
โมนา
อีกอย่างฉันก็แค่ดื่ม ไม่ได้ฆ่าใครสักหน่อย
ผู้กองโป๊บ
ตอบไม่ได้เพราะว่าเธอฆ่าคนแล้วกินเลือดจริงๆ ใช่ไหม
ผู้กองโป๊บ
ไปโรงพักกันเดี๋ยวนี้เลย
คุณตำรวจเดินเข้ามาพร้อมกับกุญแจมือ มันทำให้ฉันเห็นภาพตัวเองในชุดลายขาวดำลอยขึ้นมารำไร สมองเลยตั้งคำถามทันทีว่า...ความลับที่กำลังปกป้องคุ้มกับการต้องเข้าไปนอนในคุกรึเปล่า
ผู้กองโป๊บ
ไอ้ตัวดูดเลือดนะรึ?
โมนา
หว่าผิดหวังน่ะเนี่ย...นึกว่าจะตกใจแบบในหนัง ต้องโทษสื่อที่ชอบเอาเผ่าพันธุ์ฉันมาล่อเล่นบ่อยๆ
โมนา
จบสิ้นแล้วความน่าเกรงขามของเผ่าพันธุ์...
ผู้กองโป๊บ
ว่าแต่แวมไพร์ มันอยู่แถวยุโรปไม่ใช่หรอ...
โมนา
นี่... เดี๋ยวนี้เค้ามีสิ่งที่เรียกว่าเครื่องบินแล้วนะรู้ยังคุณตำรวจ
ผู้กองโป๊บ
เธอพูดเหมือนไม่กลัวปืนในมือฉันเลย...
โมนา
ก็จริงว่าเมืองแคปปิตอลไม่เหมาะกับการดำรงชีวิตของพวกฉัน
โมนา
แต่คุณตำรวจรู้จักทฤษฎีการคัดเลือกตามธรรมชาติของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน ไหมค่ะ
โมนา
ตามธรรมชาติสิ่งมีชีวิตมีความสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าพวกอื่น
โมนา
จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ และถ่ายทอดลักษณะที่เหมาะสมต่อไป ผู้แข็งแกร่งและรู้จักปรับตัวเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ แวมไพร์ก็เช่นกัน
โมนา
คุณตำรวจรู้ไหมสภาพอากาศแบบนี้ทำให้เผ่าพันธุ์ของฉันแต่ละคนถ้าไม่หมกตัวทำงานในออฟฟิศทั้งวัน ก็ต้องกลายเป็นยามกะกลางคืนไปเลย
โมนา
นี่แหละชีวิตเรียลแวมไพร์แบบที่ในหนังไม่เคยบอก...
ผู้กองโป๊บ
อย่างนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว
ผู้กองโป๊บ
งั้นเปลี่ยนจากโรงพักเป็นโรงพยาบาลบ้าแทนเถอะ
โมนา
อะไรกันคุณตำรวจ ฉันอุส่าห์เล่าตั้งนาน
ผู้กองโป๊บ
นี่ก็อุตส่าห์ฟังตั้งนานแล้วไง
ผู้กองโป๊บ
ใครจะไปเชื่อเรื่องแวมไพร์บ้าบอของเธอ
แล้วไอ้เรื่องฆาตกรฆ่าคนแล้วกินเลือดนี่น่าเชื่อมากหรือไง? ฉันอยากถามกลับแบบนั้น แต่ขืนพูดไปคงได้กินกระสุนปืนสักนัดสองนัดแน่ ฉันยิ่งเป็นภูมิแพ้กระสุนปืนอยู่ด้วย โดนเมื่อไหร่คาดว่าต้องตายเมื่อนั้น
โมนา
ฉันพูดจริงนะคุณตำรวจ ให้สาบานวัดไหนก็ได้
ผู้กองโป๊บ
เดี๋ยวนี้แวมไพร์อ้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือ?
ผู้กองโป๊บ
555///หัวเราะเยาะ
ผู้กองโป๊บ
นี่..เป็นฆาตกรก็เป็นฆาตกรสิมีศักดิ์ศรีหน่อย
ผู้กองโป๊บ
ไม่ใช่พอถูกจับก็แต่งเรื่องมั่วซั่วเสียเครดิตฆาตกรโรคจิตหมด
โมนา
เอ่อ...มันใช่หรือคุณตำรวจ
โมนา
ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้โรคจิต ฉันเป็นแวมไพร์
โมนา
และแวมไพร์ก็กินเลือดเป็นเรื่องธรรมชาติ
โมนา
ก็เหมือนกับคนที่ฆ่าสัตว์เป็นอาหาร คุณตำรวจเคยจับพ่อค้าขายหมูข้อหาทารุณกรรมสัตว์รึเปล่าละ?
โมนา
ฉันพูดตามความจริงนี่ การทำตามสัญชาตญาณที่ธรรมชาติสร้างมามันผิดตรงไหน
โมนา
หรือต้องให้ฉันจัดบรรยายเรื่องห่วงโซ่อาหารชุดใหญ่
โมนา
ว่าด้วยพฤติกรรมสัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก ปรสิตต้องพึ่งพาอีกหนึ่งชีวิตเพื่ออยู่รอด
ผู้กองโป๊บ
มันผิดตรงมีคนตายไง!!!
โมนา
แล้วนี่มีใครตายละคุณตำรวจ?!
blood 2
ฉัน...โมนาลิซ่า ฉันเป็นแวมไพร์จริงๆนะ คุณเชื่อไหม?แต่ที่แน่ๆคุณตำรวจตรงหน้า เขาไม่เชื่อฉัน แถมยังบอกว่าฉันเป็นฆาตกรโรคจิตฆ่าคนแล้วกินเลือด ไปกันใหญ่ไหมละ ใจเต้นดังคุกๆๆๆเลย
โมนา
ฉันเป็นแวมไพร์จริงๆนะคุณตำรวจ
โมนา
การที่กินเลือดตามสัญชาตญาณมันผิดตรงไหน?
ผู้กองโป๊บ
มันผิดตรงที่มีคนตายไง!
ผู้กองโป๊บ
จะสัญชาตญาณวงจรชีวิตสัตว์บ้าบออะไรก็เรื่องหนึ่งแต่นี้มันชีวิตคน มันคนละเรื่องกัน
โมนา
แล้วนี่มันมีใครตายละคุณตำรวจ!
ไม่มีหลักฐานใดใดนอกจากแก้วไวน์ของฉัน
ผู้กองโป๊บ
เธอเอาศพไปซ่อนแล้วใช่ไหม
ผู้กองโป๊บ
ถึงได้กล้าท้าทายขนาดนี้..เป็นฆาตกรก็หัดยอมความจริงบ้างสิ
โมนา
ถ้าคิดอย่างนั้นก็เชิญหาศพให้เจอเลยค่ะ
เห็นคุณตำรวจพยายามตั้งสมมุติฐานแบบยอดนักสืบแล้วค้นนั่นค้นนี่ ฉันก็อดขำไม่ได้ บอกว่าไม่มีศพก็ไม่เชื่อ คงได้แต่รอเวลาให้ถ่านหมดไปเองเท่านั้นแหละ
ผู้กองโป๊บ
งั้นผมขอค้นตัวคุณ
โมนา
ไม่อย่างงั้นฉันจะแจ้งความกลับข้อหาคุกคามทางเพศ
ผู้กองโป๊บ
ชิ!! ฉันไม่พิศวาสเธอหรอกน่ะ
โมนา
งั้นก็ระวังมือหน่อยละกัน
ในขณะที่คุณตำรวจกำลังลูบๆคล้ำๆ ฉันก็ชวนเขาคุยฆ่าเวลา
โมนา
ชีวิตของแวมไพร์ไม่ได้ง่ายเหมือนในหนังหรอก
โมนา
ใช่นึกว่าจะดูดเลือดใครก็เอาเขี้ยวไปเจาะคอเขาได้เลย
โมนา
รู้รึเปล่าว่าสมัยนี้โรคเยอะขนาดไหน ไหนจะโรคเอดส์ โรคโน่นนี่ ไอ้การไปดูดเลือดมั่วๆนี่แทนที่จะดีกลายเป็นตัวเองติดโรคไปด้วยได้เลยนะค่ะ
โมนา
คุณตำรวจรู้จัก ทฤษฎีวิวัฒนาการของ ลามาร์คไหม
โมนา
เขาว่าอวัยวะอะไรก็ตามที่ไม่ค่อยได้ใช่งานมันจะค่อยๆเสื่อมไป ส่วนอะไรที่ใช้งานบ่อยก็จะพัฒนาขึ้น
โมนา
แวมไพร์พอดูดเลือดได้ยากกลไกก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป เดี๋ยวนี้แวมไพร์ไม่ได้ต้องการเลือดในฐานะปัจจัยสำคัญในชีวิตอีกแล้ว
โมนา
ตอนนี้เลือดก็แค่เครื่องดื่มที่อร่อยมาก เท่านั้น
ผู้กองโป๊บ
พล่ามมาตั้งนานนี่ตั้งใจจะบอกอะไร
โมนา
แค่จะบอกว่าเดี๋ยวนี้เราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตกระหายเลือดอย่างในหนังแล้ว
โมนา
ยิงฉันฉันก็ตาย เอาเข้าจริงฉันแทบจะหัวใจวายตั้งแต่คุณตำรวจชักปืนออกมาแล้ว
ผู้กองโป๊บ
แล้วยังไง ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย
โมนา
คุณตำรวจนี่หัวช้าจริงๆ บอกขนาดนี้แล้วยังไม่เข้าใจ
โมนา
สองพวกเราไม่ต้องการเลือดในการดำรงชีวิตแล้ว
โมนา
ฉะนั้นข้อสันนิษฐานน่าจะเป็นไปได้ก็คือ...
โมนา
เลือดนี่เป็นของฉันเองค่ะ
ดูเหมือนบบรรยากาศจะดำดิ่งสู้ความพิศวงเข้าไปกันใหญ่ คุณตำรวจที่ค้นตัวฉันไม่เจออะไรก็ได้แต่ทำสีหน้าไม่พอใจ คิ้วแทบจะผูกกันเป็นปม
ผู้กองโป๊บ
แวมไพร์บ้าอะไรกินเลือดตัวเอง จะเพี้ยนก็ให้มันมีขอบเขตหน่อย
โมนา
สมัยนี้หาเลือดกินยาก แถมพวกเราก็ไม่ได้อาศัยเลือดในการดำรงชีวิตแล้ว
โมนา
มีเหตุผลอะไรให้ต้องทำเรื่องเสี่ยงๆ อย่างการดูดเลือดคนอื่นละ
โมนา
เลือดทั้งหมดนี่เป็นของฉันทั้งนั้นแหละค่ะ
โมนา
ฉันก็แค่สะสมวันละเล็กละน้อยแบบไม่กระทบกระเทือนร่างกายเหมือนคนบริจาคเลือด เก็บบ่มไปเรื่อยๆ พอถึงวาระสำคัญก็เอามาดื่มฉลองซักที
โมนา
วิธีนี้ทำให้ฉันสามารถดื่มโดยไม่ต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง แถมยังมั่นใจในความสะอาดปลอดภัยได้อีกด้วย
ผู้กองโป๊บ
เรื่องบ้าๆแบบนี้ใครมันจะเชื่อ
โมนา
เดี๋ยวนี้วิทยาศาสตร์ก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว เอาเลือดพวกนี้ไปตรวจดูก็รู้แล้วว่าใช้เลือดฉันรึเปล่า
โมนา
เก็บหลักฐานไปตรวจได้เลยค่ะฉันยินดี
โมนา
ตอนนี้ฉันแก้ต่างให้ตัวเองหมดแล้วยังเหลือข้อสงสัยอะไรอีกไหมค่ะ?
ผู้กองโป๊บ
ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่าจริงก็พิสูจน์สิว่าเธอเป็นแวมไพร์ไม่ใช่แค่ไอ้ฆาตกรโรคจิตธรรมดา
โมนา
พิสูจน์... พิสูจน์ทำไม...
ผู้กองโป๊บ
เธออาจจะเป็นแค่ไอ้โรคจิตธรรมดาก็ได้
ผู้กองโป๊บ
วันนี้เธอกินเลือดตัวเอง พรุ่งนี้เธออาจไปกินเลือดคนอื่น คงต้องพาไปโรงพักแล้วละ
ผู้กองโป๊บ
ถ้าไม่อยากถูกจับก็หาทางพิสูจน์สิแม่แวมไพร์
ข้อหานี้ทำเอาฉันไปไม่ถูกเลยทีเดียว...
การเป็นแวมไพร์มันมีข้อพิสูจน์อย่างเป็นทางการที่ไหนละ มันไม่มีหน่วยงานภาครัฐออกมาละบุคุณสมบัติไว้สักหน่อย
ผู้กองโป๊บ
ถ้าเป็นแวมไพร์ก็แสดงความสามารถสิ
ผู้กองโป๊บ
จะแปลงเป็นค้างคาวปล่อยแสงจากตา จะบินโชว์ หายตัว สะกดจิต หรืออะไรก็ได้
แน่นอนว่าฉันทำเรื่องพวกนั้นไม่ได้หรอก อย่างที่บอกว่าพวกเราวิวัฒนาการมาแล้ว อีกอย่างไอ้ความสามารถที่ว่ามานั่นนะ มีแต่ในหนังแล้วก็นิยายที่เอามาเติมแต่งเท่านั้น ตั้งแต่เดิมพวกเราก็ไม่ได้มีฤทธิ์หวือหวาขนาดนั้นอยู่แล้ว
ผู้กองโป๊บ
ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ก็ติดคุกหัวโตไปเถอะ
แล้ววินาทีนั้นความคิดบางอย่างก็ผุดขึ้นมา วิธีพิสูจน์อันแสนพื้นฐานที่ไม่รู้ว่าฉันลืมได้ยังไง
โมนา
เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณตำรวจเข้ามาใกล้ๆ
โมนา
แล้วก้มหน้ามาใกล้ๆฉันนะ
คุณตำรวจเหมือนไม่ค่อยเข้าใจคำขอของฉันนักทว่าก็ทำตามแต่โดยดี
ทันทีที่เข้ามาในรัศมีฉันก็ฝังเขี้ยวที่ลำคอเขาทันที มือของฉันเกาะเกี่ยวกระชากต้นคอสูงอย่างแน่น เลือดสีข้นไหลออกมาช้าๆ คุณตำรวจพยายามจะดิ้น แต่คงตกใจเกินกว่าจะมีแรง
โมนา
ก็คุณเอาแต่บอกให้ฉันพิสูจน์หนิ
โมนา
นี่แหละวิธีพิสูจน์ที่เบสิกที่สุด
โมนา
///เช็ดคราบเลือดตรงมุมปาก
ผู้กองโป๊บ
เฮือก..///เหมือนกำลังจะสิ้นใจ
โมนา
ฉันไม่ใจดำทำให้คุณตายหรอก...
โมนา
คุณก็แค่เสียเลือดเยอะก็เท่านั้น...ต่างคนต่างอยู่น่ะค่ะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!