NovelToon NovelToon

ลิขิตรักเสน่หา

บทที่ 1 ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง !!

“โอ้ย ทำไมเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้เนี่ย”

 “โอ้ย เจ็บ!”

ปลายฟ้า หญิงสาวเอเชียผิวสีน้ำผึ้งรูปร่างเล็ก

ลืมตาขึ้นในยามเช้ากำลังจะพลิกตัวได้แต่บ่นมุบมิบอยู่บนเตียง เพราะความรู้สึกเมื่อยไปทั้งตัวรวมถึงใจกลางความเป็นสาวที่รู้สึกเจ็บแปล๊บ

แต่พอเธอพลิกตัวหันหน้าไปอีกข้างหนึ่งของเตียง เธอต้องรีบเอามือปิดปากตัวเองกลั้นเสียงกรีดร้องแทบจะไม่ทัน

ก่อนที่จะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าภาพที่เธอเห็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ความฝัน

‘ไม่จริง!’ เธอได้แต่พึมพำในใจ

“อืม” เสียงหนุ่มปริศนาข้างๆ

ที่ทำให้เธอเกือบหลุดเสียงกรีดร้องออกมา

เธอได้มองเขาตาไม่กระพริบ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นบิดไปมาไล่ความขี้เกียจยามเช้า

และค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาเช่นกัน

ตอนนี้ทั้งปลายฟ้าและหนุ่มปริศนากำลังมองหน้ากันอย่างไม่ลดละ

ไม่มีการกระพริบตา ไม่มีการขยับ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น

ไม่มีแม้กระทั่งเสียงหายใจ

จะมีก็เพียงแต่เพียงเสียงหัวใจของปลายฟ้าที่ดังออกมาชัดเจน

“นี่คุณมานอนห้องของผมได้ยังไง” เสียงหนุ่มต่างชาติในตาสีฮาเซลนัท

ใบหน้าหล่อเหลาตามสไตล์ตะวันตก ถามขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ

“นั่นสิ ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ปลายฟ้าก็อุทานขึ้นเป็นภาษาไทยเช่นกัน

“ไม่! / ไม่!” อยู่ๆ

เสียงของชายหญิงบนเตียงที่นอนเปลือยเปล่าโดยมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวกันเท่านั้นคลุมร่างไว้อุทานขึ้น

ก่อนที่ภาพความเร่าร้อนทั้งหลายของเมื่อคืนเริ่มพรั่งพรูเข้ามาในหัวทั้งสองคน

‘ตายแล้วปลายฟ้า โอ้ย! ฉันจะอยากตาย

ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย’ ปลายฟ้าได้แต่พร่ำบ่นอยู่ในใจ

แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกของเธอที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้ชาย แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด

ก็ชายหนุ่มปริศนาที่นอนอยู่ข้างๆ เธอนั้นคือชายในฝันที่เธอเฝ้ามองเขาผ่านสื่อออนไลน์มานานนับแรมปีและไม่เคยคิดว่าชาตินี้จะได้พบตัวจริง

ในที่สุดเธอก็ได้เจอเขาจนได้ แต่ในสภาพที่เธอเองก็แทบจะแทรกแผ่นดินหนี

‘แล้วทีนี้จะเอายังไงต่อดีว่ะเนี่ย! ปลายฟ้า’ ปลายฟ้าได้แต่นอนคิดอุบอิบคนเดียวบนเตียง

แต่เธอก็ต้องสะดุ้งเมื่ออยู่ดีๆ ชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างเธอเกิดลุกขึ้นพรวดพราด จนหญิงสาวที่นั่งอยู่บนเตียงต้องกลืนน้ำลายพรวด

เมื่อร่างเปลือยป่าวสมส่วนปรากฏให้เห็นต่อหน้าแบบที่เธอเองก็ไม่ทันตั้งตัว

“ว้าย” ปลายฟ้าได้สติร้องเสียงหลงขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อเห็นภาพตรงหน้าจนต้องยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงไว้ทันที

“นี่คุณ คุณจะโวยวายทำไม

ทำยังกับไม่เคยเห็นไปได้” ชายหนุ่มทักขึ้นเพราะรู้สึกรำคาญเสียงแหลมของหญิงบนเตียง

เมื่อคืนก็น่าจะหลายรอบอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะดูจากเรี่ยวแรงของเขาที่เหลืออยู่ตอนนี้

แต่ก็อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์สุราด้วยก็เป็นได้เลยทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียไปหมด แค่นึกถึงปัญหาที่อาจจะตามมา

ชายหนุ่มก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

ก๊อก ...

“ไมค์ ไอไมค์ แกอยู่ในห้องหรือป่าวว่ะ” เสียงเรียกของดอกเตอร์แอนดรู หมอศัลยกรรมกระดูกเบอร์สองของโรงพยาบาลแมนฮัตตัน

ประเทศสหรัฐอเมริกา

เรียกเพื่อนซี้ให้ตื่นเพราะเลยเวลาทานอาหารเช้ามาครึ่งค่อนวันแล้ว

ไมค์ที่ตอนนี้ยืนด้วยร่างเปลือยเปล่ารีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหาผ้าเช็ดตัวมาคลุมท่อนล่างไว้

จากนั้นจึงวิ่งไปทางประตูหน้าห้องนอนหมายที่จะออกไปเปิดประตูให้เพื่อนรัก ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้คนเดียว

จึงรีบวิ่งกลับมาที่เตียงภายในห้องนอนอีกครั้ง

“นี่คุณ คุณอยู่ที่นี่ไปก่อน ห้ามทำเสียงดัง

หรือโวกเวกโวยวายให้เพื่อนผมได้ยินเข้าใจมั้ย” ไมค์รีบเดินมากำชับหญิงสาวที่นั่งคลุมโปงอยู่บนเตียงในห้องนอน

ไมค์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาเลือกเปิดห้องสูทในโรงแรม

ไม่อย่างนั้นเขาคงได้ตอบคำถามเพื่อนบ้านี่ทั้งวันแน่

“อืม ฉันรู้แล้วน่ะ” ปลายฟ้ารีบรับคำ

ก่อนที่จะสั่งให้เขารีบๆ ออกไปเพราะเธอก็ต้องการจะใส่เสื้อผ้าแล้วเช่นกัน

ไมค์เดินออกจากห้องนอนและกดล๊อคไว้ประตูเรียบร้อย

ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูบานใหญ่ซึ่งเป็นประตูห้องพักเพื่อให้เพื่อนรักเข้ามา

“ว่าไง มาเรียกแต่เช้าเลยนะไอแอนดรู” เสียงไมค์รีบทักเพื่อนรักเพื่อกลบเกลื่อน แต่ไม่ได้ชวนเข้าห้อง

“เช้าบ้านแกสิ ดูเวลาบ้างมั้ย บ่ายจนจะเย็นแล้วนะเว้ย

ใจคอแกจะเฮ๊งจนไม่กินอะไรเลยหรือไงว่ะ” แอนดรูรีบถามเพื่อนรักพลางเดินแทรกเพื่อนที่พิงประตูเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะและนั่งลงบนโซฟายาวในห้องรับแขก

ก่อนที่ไมค์จะปิดประตูและตามเข้ามาด้วยแต่ยืนข้างๆ

โซฟาโดยใช้ตัวเองบังประตูห้องจากสายตาเพื่อน สายตาลุกลี้ลุกลนจะหันไปทางห้องนอนอยู่ตลอดเวลา

และอาการผิดปกติทั้งหมดก็คงไม่สามารถรอดสายตาเพื่อนรักอย่างแอนดรูไปได้ แต่เขาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

“เอ่อ แล้วปาร์ตี้ฟูลมูนเมื่อคืนอยู่ดีๆ แกก็หายไป

แกหายไปไหนว่ะ” แอนดรูลองถามหยั่งเชิงเพื่อนดู

เพราะดูจากท่าทีลุกลี้ลุกลนตอนนี้เขาคิดว่าเมื่อคืนหนุ่มหล่ออย่างไมค์คงจะหอบหิ้วสาวขึ้นมาด้วยอย่างแน่นอน

“ก็ฉันเมา ฉันก็เลยขึ้นมาก่อน” ไมค์ตอบอย่างขอไปที

“แค่นั้น” แอนดรูถามขึ้นพลางยกคิ้วอย่างสงสัยแล้วมองหน้าเพื่อนซี้กลับ

“ใช่ แค่นั้น หรือแกคิดว่าไง” ไมค์รีบตอบอย่างเร็ว

พร้อมกับยักไหล่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ

“เมาก็เมา ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรแกนี่” แอนดรูตอบรับเพื่อนอย่างยิ้มๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ

ทำให้ไมค์รีบหันมาหาหน้าตามไปทันที เพราะเขาไม่สามารถให้เพื่อนรักตัวแสบคลาดสายตาได้

“ฉันลืมไปว่าตอนนี้แกมีนางแบบสาวสวยสุดเซ็กซี่อย่างโมนี่แล้วทั้งคน

คงไม่มีใครมาทำให้แกไขว้เขวได้หรอก” แอนดรูพูดพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตูทางออกของห้อง แต่สายตากลับไปสะดุดกับอะไรบางอย่างสีขาวที่โผล่ออกมาจากใต้โต๊ะข้างประตูห้อง

 “ฉันไปรอแกที่ห้องอาหารก่อน

จัดการตัวเองให้เสร็จแล้วกัน” แอนดรูยักคิ้ว

และเดินออกไปทันที

ไมค์เห็นเพื่อนปิดประตูห้องสนิทแล้ว

เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ และรีบวิ่งไปล๊อคประตูอย่างเร็วเพราะกลัวเจ้าเพื่อนตัวดีจะกลับมาอีก

‘โอ้ย แล้วตัวต้นเรื่องในห้องจะเอาไงดีว่ะเนี่ย’ ไมค์ที่ตอนนี้สับสนจนไม่รู้จะทำยังไงได้แต่บ่นพึมพำ แต่ยังไงวันนี้เขาก็ต้องพูดกับเธอให้จบ

ถ้าโมนี่รู้เรื่องนี้เข้ามีหวังได้เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้แน่

เขาเพิ่งจีบเธอได้ไม่ถึงสัปดาห์เลย

นี่ถ้าแม่สาวที่อยู่ในห้องตอนนี้เป็นสาวตะวันตกนี่เขาจะไม่คิดมากแบบนี้เลย

เพราะเรื่องแบบนี้มันธรรมดามากวินๆ กันทั้งสองฝ่าย

แต่หญิงสาวที่อยู่ในห้องตอนนี้เป็นสาวเอเชียนี่สิ

เขาได้แต่ภาวนาให้เธอเป็นสาวเอเชียยุคใหม่ที่ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องแบบนี้มากนักให้มันแล้วๆ

ไปทีเถอะ

“นี่คุณแต่งตัวเสร็จหรือยัง” ไมค์รีบตะโกนถามหญิงสาวในห้องด้านหน้าประตู

เพราะตอนนี้เขาต้องการจะเข้าไปคุยกับเธอให้รู้เรื่องจะแย่อยู่แล้ว

“ยัง คือว่า...” ปลายฟ้าพูดไม่ทันจบก็มีน้ำเสียงอึกอัก

“คือว่าอะไรคุณ จะพูดอะไรก็รีบๆ พูดมา

เราจะได้ออกมาคุยเรื่องที่มันเกิดขึ้นเมื่อคืนให้รู้เรื่อง” ไมค์รีบถามกลับอย่างร้อนใจ

“คือว่า... ฉันหาเสื้อในฉันไม่เจอ” ปลายฟ้าตอบแบบอ้อมแอ้ม

ก่อนที่จะเว้นวรรคไปพักหนึ่งและถามสิ่งที่สงสัยออกไป

“เอ่อ... คุณเห็นมันข้างนอกบ้างไหม”

“แปปนะ” ไมค์รีบตอบก่อนที่เดินค้นหาดูรอบๆ

ห้องจนเห็นมันตกอยู่ใต้โต๊ะข้างประตูห้อง

และรีบหยิบไปให้หญิงสาวในห้องอย่างรวดเร็ว

“เอาคุณเปิดสิ ผมเจอแล้ว”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวในห้องแง้มประตูเพียงเล็กน้อย

จากนั้นก็เอื้อมแต่มือออกมารับเสื้อในของเธอไปใส่ให้เรียบร้อย

ปลายฟ้ารีบสวมเสื้อด้วยหัวใจที่เต้นเร็วรัวแรงไม่หยุด ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง!’ ผู้ชายที่เธอเฝ้าติดตามเขาทางสื่อออนไลน์มาเกือบปี

มาอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ แถมเรื่องเมื่อคืนที่เกิดขึ้นอีก

นี่เธอควรจะทำยังไงกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นดีเนี่ย

หรือเธอจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ไปแต่งเป็นพล๊อตนิยายเรื่องใหม่ของเธอดี

‘โอ๊ย ชีวิตผู้หญิงโสดทึนทึกอย่างฉัน

จะเสียสาวทั้งทีทำไมไม่ให้ง่ายกว่านี้เนี่ย โอ้ย พระเจ้าแกล้งกันชัดๆ

ฉันจะออกไปเจอหน้าเขาได้ยังไงเนี่ย’

“นี่คุณ ยังไม่เสร็จอีกหรือไง” เสียงไมค์ตะโกนถามปลายฟ้าอีกครั้ง

เมื่อเขารู้สึกว่าตัวเองรอนานแล้ว

“ใกล้เสร็จแล้ว รอแปปนะ” ปลายฟ้าตะโกนตอบ

ขาก็เดินไปมาภายในห้องอย่างกับหนูติดจั่น

‘เอาล่ะ ปลายฟ้าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เธอเก่ง เธอทำได้’ ปลายฟ้านึกได้แค่นี้ก็เปิดประตูห้องนอนออกไปเผชิญหน้ากับไมค์ทันที

ดอกเตอร์ไมค์ มิคาเอล อาเบล วาร์ชาฟสกี้

หมอหนุ่มศัลยกรรมกระดูกอันดับหนึ่งในแมนฮัตตัน หมอเซเลบคนดังพื้นฐานเป็นชาวรัสเซียที่พ่อแม่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่อเมริกา

ไมค์โด่งมากในสื่อออนไลน์ เรียกได้ว่าเป็นหมอที่เป็นเน็ตไอดอลเลยทีเดียว เขายังเคยได้รับรางวัลหนุ่มฮอตของนิตยสารชื่อดังในอเมริกาเมื่อปีสองพันสิบหก

หลังจากเขาไปถ่ายแบบให้นิตยสารเล่มนั้น และด้วยรูปร่างสูงสัดสันตามแบบชาวตะวันตก

กล้ามแขนและกล้ามอกมัดใหญ่ๆ ตามแบบฉบับของชายที่รักการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเป็นชีวิตจิตใจ

รอยยิ้มกระชากใจบนริมฝีปากรูปกระจับบาง รวมถึงดวงตากลมโตสีฮาเซลนัท เรียกได้ว่าทั้งหมดที่รวมกันเป็นผู้ชายคนนี้สวรรค์ได้สรรค์สร้างขึ้นมาอย่างประณีต

จนเขาเป็นสามีในฝันของหญิงสาวหลายๆ คนทั่วโลก รวมถึงเธอด้วยเช่นกัน

ปลายฟ้า ณปลายฟ้า วรรธนานนท์ นักเขียนนิยาย

และบทความอิสระ สาวรุ่นลายครามอายุสามสิบสามปี

จนป่านนี้เข้าไปแล้วแต่ไร้วี่แววจะแต่งงาน ไม่ใช่เพราะเธอไม่มีใครมาจีบหรอกนะ

แต่คงเพราะความเรื่องมากของเธอนี่เอง ยิ่งแก่แทนที่สเปคผู้ชายจะลดลง

กลับกลายเป็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนคนมาขายขนมจีบพากันถอยหนีไปหมด

ถ้าจะว่าไปแล้วปลายฟ้าสวยไม่ใช่น้อย ด้วยรูปร่างสมส่วน ผิวสีน้ำผึ้ง

ตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนรับกับผมหยักศกสีน้ำตาลของเธอเป็นอย่างมาก ยิ่งปากจิ้มลิ้มรับกับจมูกโด่งบนใบหน้ารูปไข่เรียวสวยส่งให้ใบหน้าเธอดูหน้ามองยิ่งขึ้น

แต่ด้วยความที่ปลายฟ้าเป็นผู้หญิงทำงานเลยทำให้ดูเป็นผู้หญิงเก่งและมีใบหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลาผู้ชายที่จะมาจีบเธอนั้นต้องมีจิตใจแข็งแกร่งพอสมควร

แต่บัดนี้หญิงสาวที่ดูเข้มแข็งเริ่มจะมีอาการสั่นและประหม่าเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูห้องออกมาพบกับแผ่นหลังและไหล่หนาของไมค์ที่เปลือยเปล่าอยู่ในขณะนี้

ไมค์ที่ตอนนี้รับรู้ได้ว่าหญิงสาวที่เขาต้องการจะสะสางเรื่องต่างๆ

มาหยุดอยู่เบื้องหลังเขาแล้ว เขาจึงหันหลังกลับไป

แต่สภาพเธอที่เห็นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ดูเลวร้ายซะทีเดียว ถือว่าเธอก็หน้าตาใช้ได้แม้จะไร้เครื่องสำอางค์บนใบหน้า

แต่ใบหน้าหวานแบบเรียบๆ ของเธอก็ดูแปลกตาสำหรับเขาดี

แต่เมื่อชายหนุ่มมองเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่ก็ได้แต่ถอนหายใจ

‘ไมค์เอ้ยไมค์

ผู้ชายอย่างแกจะหาผู้หญิงนุ่งบิกินี่มาอยู่บนเตียงกี่คนก็ได้แต่กลับดันหิ้วยายแม่ชีขึ้นมาเนี่ยนะ’ ไมค์หยุดพึมพำและหันไปตกลงกับหญิงสาวตรงหน้าทันที

 “นี่คุณ ผมเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ คือผมอยากให้เรื่องเมื่อคืนระหว่างเรามันแล้วๆ

กันไป” ไมค์เลือกจะพูดสิ่งที่ต้องการออกไปตรงๆ

โดยไม่อ้อมค้อม

“ค๊ะ?” เสียงปลายฟ้าเอามือกำชายกระโปรงแน่นตอบกลับอย่างแผ่วเบา

บัดนี้ภาพชายในฝันของเธอแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

‘นี่คือคำแรกที่เธอได้ยินจากจากผู้ชายที่ดูหล่อเหลา  รอยยิ้มอบอุ่นคนนั้นเหรอ ทำไมชีวิตฉันถึงไม่เหมือนในนิยาย’

ปลายฟ้าได้เห็นไมค์ครั้งแรกผ่านอินสตาแกรมเพราะต้องการหาพระเอกในฝันเพื่อมาเขียนนิยาย

และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเธอ เธอเปิดภาพหาผู้ชายในรูปที่คิดว่าถูกใจไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งสะดุดเข้ากับรอยยิ้มของผู้ชายคนหนึ่งในบรรดาภาพผู้ชายหล่อเหลามากมายบนหน้าจอ

เธอจึงเอาชื่อเขามาค้นหาในอินเตอร์เน็ต และเปิดเข้าไปดูเรื่อยๆ

จนกลายเป็นว่าเธอเสพติดรอยยิ้มของผู้ชายคนนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

เขาดูเป็นผู้ชายอบอุ่นแถมยังมีหมาคู่ใจตัวใหญ่เหมือนที่เธอชอบ เกือบทุกเช้าที่เธอตื่นมาเปิดดูรูปเขาทุกวัน

ทุกครั้งที่เธอเห็นเขายิ้ม เธอก็อดที่จะยิ้มตามเขาไม่ได้ เธอติดตามเขามาเรื่อยๆ

เกือบปี จนกระทั่งวันนี้วันที่เธอได้ยืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายที่เธอไม่วันได้เจอแน่ๆ

ในชีวิตจริง

“นี่คุณ คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย” ไมค์ถามขึ้นอีกครั้งด้วยภาษาอังกฤษเช่นเดิม เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเงียบ

หรือเขาพูดเร็วไปจนเธอฟังภาษาอังกฤษของเขาไม่เข้าใจ ก็ที่พูดกันก่อนหน้านี้เขาพูดเร็วแล้วก็ยาวกว่านี้เธอยังเข้าใจและสื่อสารได้ทุกคำเลย

“นี่คุณ” ไมค์เรียกขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้ายังเงียบอยู่

“ค่ะ” เธอตอบเพียงสั้นๆ

เพราะไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่านี้จริงๆ

“ตกลงคุณจะพูดแค่คำว่า คะ เท่านั้นเหรอครับ แล้วเราสองคนจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยครับ” ไมค์ย้อนถามอย่างเหลืออด ถามอะไรก็แค่ ‘คะ’ ถามอะไรก็แค่ ‘คะ’ แล้วจะคุยกันเข้าใจมั้ย

หรือจะให้เขาทำยังไงก็บอกมา แต่ที่แน่ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนมันคือ

อุบัติเหตุ ชัดๆ และเขาไม่สามารถรับผิดชอบเธอได้อย่างแน่นอน

“อุบัติเหตุ!” หญิงสาวพูดขึ้นมาลอยๆ

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ” ไมค์ถามขึ้นอีกครั้งเพราะเขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่เธอพูดขึ้นมา

หรือเธออ่านใจเขาออก ‘ยายแม่ชีนี่แอบน่ากลัวจริงๆ’

“ฉันบอกว่ามันเป็น อุบัติเหตุ นะคะ

ยังไงเราสองคนก็ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว

เราก็คงต้องปล่อยให้มันแล้วๆ ไป

ยังไงไม่ว่าทั้งคุณหรือฉันก็ไม่มีใครบุบสลายจากเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”

ไมค์ที่ได้ยินประโยคนี้จากหญิงสาวแปลกหน้าถอนหายใจขึ้นมาเฮือกใหญ่

โชคดีที่เขาและเธอตกลงกันได้ไม่งั้นงานนี้เขาจะกลับไปคุยกับโมนี่ยังไง

ส่วนหญิงสาวที่ตอนนี้พูดประโยคที่คิดว่าชายหนุ่มอยากได้ยินออกไปจบแล้ว

ก็ได้แต่ยืนขยุ้มกระโปรงด้านข้างจนยับยู่ยี่

เธอเสียใจไม่ใช่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ต่อให้เธอเซ้าซี้อยากจะให้เขารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นก็คงจะไม่มีอะไรดีขึ้นมา

ให้เรื่องมันเป็นไปตามน้ำแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว

อีกอย่างโลกของเธอกับเขามันก็ต่างกันสุดขั้วจนไม่มีทางมาบรรจบกันได้

นับจากวันนี้ไปเธอก็คงจะไม่ได้เจอกับเขาอีก

“ฉันถามอะไรคุณสักอย่างได้มั้ย” ปลายฟ้าเอ่ยออกไป

“ได้สิ ถ้าผมตอบได้ผมจะตอบ”

“คือว่า...” ปลายฟ้าทำท่าลังเลว่าจะถามสิ่งที่เธอสงสัยออกไปดีมั้ย

แต่ถ้าไม่ถามแล้วเธอจะรู้ได้ยังไงว่าเธอควรจะจัดการกับชีวิตเธออย่างไรต่อดี

“คือว่าอะไรคุณ ถ้าคุณจะถามอะไรผมก็ถามมาเถอะ

ไม่ต้องเกรงใจ” ไมค์ตอบออกไปเพราะเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าคำถามของผู้หญิงคนนี้คืออะไร

“คือว่า...” ปลายฟ้าหันไปมองหน้าไมค์ที่ดูลุ้นซะเหรอเกินอีกครั้งก่อนที่จะพูดต่อ

“คือว่า... ฉันอยากรู้ว่า... เมื่อคืน... เอ่อ...” ปลายฟ้าเอ่ยไม่ทันจบ

ไมค์ที่ลุ้นจนแทบจะขาดใจกับคำพูดแต่ละคำที่ออกจากปากเธอ จนหัวแม่เท้าเขาจิกกับพื้นจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว

“นี่คุณ คุณจะพูดอะไรก็ช่วยรีบๆ พูดได้มั้ย

คุณเอ่ออยู่นั่นแหละ ผมนี่ลุ้นจนปวดขาไปหมดแล้ว”

“เมื่อคืนคุณใส่ถุงยางหรือป่าว” พอไมค์พูดจบ

ปลายฟ้าถือโอกาสรัวคำถามจนคนที่ได้ยินก็ชะงักเช่นกัน

“คุณว่าอะไรนะ” ไมค์ถามย้ำอีกครั้ง

“ฉันถามว่าเมื่อคืนคุณได้ป้องกันหรือป่าว” ปลายฟ้าถามอย่างเร็ว

‘บ้าเอ้ย นั่นดิ

เมื่อคืนเขาได้ป้องกันหรือป่าวว่ะเนี่ย’

‘งานเข้าแล้วมั้ยกู นึกสิไอไมค์ นึก นึก นึกให้ออก’ ไมค์พยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืนแต่จับต้นชนปลายอะไรไม่ได้เลย

นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เขาจึงรีบวิ่งเข้าห้องนอนอย่างเร็ว จนเธอต้องวิ่งตามเข้าไป

ไมค์พยายามรื้อค้นถังขยะหรือพื้นที่บริเวณรอบๆ เตียงแต่เขาไม่พบอะไรเลย

‘ไอไมค์เอ้ย งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ’ ไมค์นึกในใจก่อนที่จะหันไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่

“ผมว่าเมื่อคืนเราไม่ได้ป้องกัน” ไมค์รีบตอบหญิงสาวออกไป

“อะไรนะ คุณไม่ได้ป้องกัน” หญิงสาวที่ได้ยินคำตอบหน้าซีดเหลือสองนิ้ว

“ก็เมื่อคืนเราเมากันทั้งคู่ ผมจำอะไรไม่ได้

และคุณก็จำอะไรไม่ได้ แล้วเราจะเอาสติที่ไหนมาคิดถึงเรื่องพวกนี้กันล่ะ” ไมค์รีบแก้ตัวออกไป

นี่เขาเพิ่งเข้าใจคนไข้ตัวเองที่ท้องแบบไม่ได้ตั้งใจก็คราวนี้ล่ะ

‘ไม่ๆ เป็นไปไม่ได้ ยังไงเธอต้องไม่ท้องเด็ดขาด’ปลายฟ้าได้แต่ภาวนา

ในขณะที่ไมค์หันไปมองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้ทำหน้าครุ่นคิด

ปลายฟ้าที่เริ่มมีสติอีกครั้งรื้อเตียงเหมือนหาอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่เจอ

จนเธอวิ่งออกมานอกห้องรื้อเบาะโซฟาทุกตัวขึ้นและพบโทรศัพท์กับกระเป๋าคล้องคอใบเล็กตกอยู่ใกล้กัน

เธอเห็นสิ่งที่เธอต้องการครบแล้วก็รีบหยิบสิ่งของ และวิ่งไปที่ประตูทางออกอย่างรวดเร็ว

“นั่นคุณจะทำอะไร แล้วคุณจะไปไหน” ไมค์รีบถามขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวจะวิ่งออกไปนอกห้อง

ปลายฟ้าที่ตอนนี้หัวกำลังแล่นไม่ได้ตอบคำถามของไมค์ออกไปได้แต่ปลดล๊อกประตูแล้ววิ่งออกไปทันที

เธอเห็นลิฟท์กำลังจะปิดจึงเอาตัวเข้าเบียด และกดปุ่มปิดประตูลิฟท์ย้ำๆ

แบบคนรีบร้อน จนไมค์สงสัยจึงรีบวิ่งตามไปจนถึงลิฟท์ที่กำลังจะปิดอยู่พอดี

เขาจึงเอามือขวางประตูไว้และรีบแทรกตัวเข้ามาได้ทันก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลง

“นั่นคุณจะไปไหน นี่เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” ไมค์รีบค้านขึ้น

“ฉันจะไปซื้อยาคุมฉุกเฉินนะสิ

นี่คุณเป็นหมอคุณไม่รู้หรือยังไง” ปลายฟ้ากำลังอารมณ์เสียกับคำถามของไมค์ตอบขึ้น

“ใช่ คุณนี่ฉลาดจริงๆ” ไมค์รีบชมเธอทันที

ติ้ง ...

หลังจากนั้นก็มีเสียงประตูลิฟท์เปิดดังขึ้นเรียกความสนใจจากทั้งสองคนให้หันไปทางประตูลิฟท์ที่ถูกเปิดออก

แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เสียงอุทานที่ดังขึ้นนอกลิฟท์

“ไอไมค์ แกทำอะไรของแกว่ะ ทำไมนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกจากห้องมาแบบนี้ว่ะ” ก่อนที่เจ้าของคำพูดจะหันไปหาหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ลงลิฟท์มากับเพื่อนเขาเช่นเดียวกัน

แต่ไม่มีทีท่าตกใจเพื่อนเขาที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาเลยสักนิด

แต่กลับตกใจเขาที่รู้จักไมค์มากกว่า ก่อนที่เธอจะผลักเขาให้พ้นทางและะวิ่งพรวดออกไปนอกประตูโรงแรม

“เฮ้ย เดี๋ยวคุณ” ไมค์รีบเรียกหญิงสาวที่วิ่งพรวดพราดออกไปจากลิฟท์อย่างเร็ว

และหายไปทางหน้าประตูโรงแรมเรียบร้อย

“โอ้ย เอาไงว่ะทีนี้ ชื่อก็ไม่รู้จัก อะไรก็ไม่รู้จัก

แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเธอจะทำตามที่เธอพูดว่ะ บรรลัยแล้วชีวิตคราวนี้” ไมค์ที่กำลังหัวเสียอุทานขึ้นจนแอนดรูที่กำลังยืนอยู่สงสัยขึ้นมา

“ยังไง เล่ามา... กับสาวเอเชียนั่น

ไม่งั้นก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันอีกเลย” แอนดรูรีบข่มขู่เพื่อเค้นเอาความจริงทันที

และไม่ลืมปิดประตูลิฟท์เพื่อกลับไปยังห้องเพื่อนที่ดูจะร้อนรน

ถ้าวันนี้เขาไม่ได้คำตอบเขาจะไม่กลับห้องตัวเองเด็ดขาด

“ถามซักไซ้ยังกับเมียเชียวนะไอแอนดรู” ไมค์พูดอย่างรำคาญเพื่อนตัวดี

ก่อนจะหุนหันรีบออกจากลิฟท์เมื่อถึงชั้นที่ห้องเขาพักอยู่

“เห้ย แกพูดอย่างงั้นได้ยังไงว่ะ ฉันขนลุกเลยนะเว้ย” แอนดรูตะโกนไล่หลัง และรีบคว้าเพื่อนตัวดีไว้อย่างรู้ทัน

“เดี๋ยว หยุดเลยไอไมค์อย่าเบี่ยงประเด็น

บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเกิดมีปัญหาอะไรขึ้นหลังจากนี้ฉันจะไม่ช่วยแกเด็ดขาด” แอนดรูรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ กับสาวเอเชียคนนี้

เขารู้สึกว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาต้องกลับมาเจอเธออีกแน่นอน

“เออ ๆ อยากรู้ก็ตามมา เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง” ไมค์รีบตอบออกไปเพื่อตัดรำคาญ

แอนดรูแอบขำเพื่อนที่ดูร้อนรนผิดปกติ

แต่การมาเที่ยวครั้งนี้ก็ดูจะคุ้มค่ากว่าที่เขาคิดไว้เยอะ

น่าจะมีอะไรตื่นเต้นสนุกๆ ให้ทำแน่ๆ และผู้หญิงคนเมื่อครู่ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย

แม้เขาจะเห็นหน้าเธอไม่ชัด

ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาจนถึงตอนนี้

มีผู้หญิงเข้าออกห้องเขาตั้งกี่คน ไอเพื่อนนี่ก็ไม่เคยสงสัย

ทำไมวันนี้มันถึงอยากรู้เรื่องผู้หญิงคนนี้นักว่ะ

ห้องนอนไมค์ในโรงแรม

“ห๊ะ ชิบหายแล้วไอไมค์ ฉันจะมีหลานมั้ยว่ะ” แอนดรูถึงขั้นอุทานเสียงดังเมื่อได้ยินไมค์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจบ

เพราะทั้งสองคนเป็นหมอจึงรู้ว่าโอกาสที่จะตั้งท้องมีสูงมาก

แล้วถ้าเธอเกิดไม่ได้ไปกินยาคุมฉุกเฉินตามที่เธอพูดจริงรับลองงานนี้เขาได้เป็นลุงแอนดรูอย่างแน่นอน

“เอาว่ะ ยังไงฉันก็คงไม่ซวยขนาดนั้นหรอก” ไมค์พูดแบบปลอบใจตัวเอง

“เออ ว่าแต่เธอชื่ออะไรว่ะ” แอนดรูถามไมค์ออกไป

ก็เพื่อเขาไม่เคยพูดถึงชื่อเธอเลยสักครั้ง

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ฉันไม่ได้ถาม”

“ให้มันได้อย่างนี้สิว่ะ เสือผู้หญิงขนานแท้จริงๆ

ชื่อแซ่ก็ไม่ถาม

นี่ถ้าบรรดาแฟนคลับที่ตามกรี๊ดแกกันอยู่ได้รู้เรื่องนี้รับรองภาพผู้ชายอ่อนโยนอบอุ่นได้หายไปในพริบตาแน่นอน” แอนดรูพูดแล้วก็ขำ บางครั้งเพื่อนเขาก็มีความแมนแบบแบดบอยบ้างตามภาษาผู้ชายจะว่ามันสร้างภาพทั้งหมดก็คงไม่ใช่

เพราะเพื่อนเขาก็เป็นพวกยิ้มง่าย แถมหล่ออีกต่างหาก โปรไฟล์ก็ดี การจะมีสาวๆ บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

แต่ก็ไม่เคยเห็นจริงจังกับใคร ยกเว้นสาวคนล่าสุดที่เพิ่งคบกันหมาดๆ

อย่างนางแบบสาวที่ชื่อโมนี่

แอนดรูที่เห็นเพื่อนนั่งกลุ้มใจอยู่ก็อดที่จะขำขึ้นมาไม่ได้

แต่หลังจากที่เขาเห็นผู้หญิงในลิฟท์คนนั้นเขาเชื่อว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงหิวเงินที่ต้องการจับผู้ชายแน่ๆ

ฝ่ายหญิงสาวที่วิ่งออกจากโรงแรม

เธอพยามวิ่งหาร้านยาที่ใกล้ที่สุดเท่าที่เธอจะหาได้ จนถึงตรงหัวมุมถนนเธอก็เจอร้านขายยาร้านใหญ่อยู่

เธอรีบวิ่งเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว

“สวัสดีครับ ไม่ทราบมาซื้อยาอะไรครับ” เภสัชกรชายที่เหลืออยู่ในร้านเพียงคนเดียวถามขึ้น

‘โอ๊ย ทำไมต้องเหลือแค่เภสัชชายเนี่ย

ผู้หญิงเขาไม่เรียนเภสัชกันหรือไง’ ปลายฟ้าพึมพำในใจ

“เอ่อ คือว่าฉันจะมาซื้อ เอ่อ...” ปลายฟ้าอึกอักเพราะไม่รู้จะใช้คำไหน

นี่ถ้ามาซื้อยาคุมธรรมดาเธอจะไม่อายเท่านี้เลยจริงๆ

“ครับ ซื้ออะไรครับ” เภสัชกรชายถามด้วยใบหน้าสงสัยเมื่อหญิงสาวไม่ยอมพูดสักที

“เอ่อ คือ... มาซื้อยา... เอ่อ... ยาคุม...” ปลายฟ้าเอ่ยออกไป

“ปกติทานแบบนับวันใช่มั้ยครับ

ใช้ของยี่ห้ออะไรเป็นพิเศษหรือป่าวครับ”

“คือ ไม่ใช่ยาคุมแบบนั้นนะค่ะ”

“งั้นจะรับแบบไหนครับ”

“คือ... ขอยาคุมฉุกเฉินค่ะ” ปลายฟ้าเสยะยิ้ม

“ได้ครับ สักครู่นะครับ” เภสัชรรีบไปจัดแจงจัดยาที่เธอต้องการ

และส่งให้หญิงสาวตรงหน้า ก่อนที่เธอจะรับมาและรีบนำมันเข้าปากอย่างรวดเร็ว

“ขอโทษนะค่ะ ขอน้ำสักแก้วด้วยได้มั้ยค่ะ”

“ได้ครับ นี่ครับน้ำ” เภสัชกรหนุ่มรีบยื่นน้ำให้หญิงสาวตรงหน้า

ก่อนที่เธอจะกล่าวขอบคุณและรีบเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว

 

..................................................

บทที่ 2 และแล้วโอกาสก็มาถึง

ห้าปีต่อมา

“เฮ้ยอะไรนะ แก” เสียงโซดาตะโกนถามเพื่อนซี้ออกไปเสียงดัง

“ฉันบอกว่ามี บรรณาธิการนิตยสารที่นิวยอร์คโทรให้ฉันไปเขียนบทสัมภาษณ์พิเศษสำหรับโครงการเพื่อช่วยผู้ด้อยโอกาสและได้เซ็นสัญญาหนึ่งปี” ปลายฟ้าตอบเพื่อนซี้กลับอย่างช้าๆ อีกครั้ง

“ว้าว ยายปลายฟ้าเพื่อนฉันทำไมโชคดีอย่างนี้ โอ้ย

ฉันอิจฉาแก” โซดาบ่นมุบมิบพลางเดินไปกอดเพื่อนสาวแน่น

“แล้วนี่ถ้าแกไปอเมริกาแล้ว แล้วฉันจะเล่นกับใคร

แล้วฉันจะกอดใคร” โซดาโอดครวญอีกครั้งเพราะตั้งแต่ทั้งคู่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันก็แทบจะติดกันเป็นปาท่องโก๋ก็ว่าได้

แม้ปลายฟ้ากับโซดาจะเรียนคนละคณะ แต่ทั้งคู่ก็รู้จักกันตั้งแต่ตอนรับน้องใหม่

พออยู่ปีสองก็ย้ายออกมาอยู่หอนอกมหาวิทยาลัยด้วยกัน

จนถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่แยกย้ายกันทำงานก็ยังคงเช่าอพาร์ตเม้นเดียวกันอยู่

แถมทั้งสองสาวสวยยังโสดด้วยกันทั้งคู่ไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมมีแฟนก่อนเลย

        ณ

สนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย

“เฮ้ยแก แกดูบทสัมภาษณ์ของหมอเกรียงไกรในนิตยสารเล่มนี้ยัง

โอ้ย ฉันนิแบบว่ารักเลย ผู้ชายอะไรดีเว่อวัง

เท่านั้นยังไม่พอนะเขายังดูเป็นผู้ชายในฝันที่ธรรมดามากๆ เลยอ่ะแก

ฉันนี่เห็นครั้งแรกยังหลงรักเลย” เสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมา

ก่อนจะมีเสียงเพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ ออกความเห็นร่วมด้วย

“ใช่ๆ ฉันนี่อ่านของหมออันนพนี่ก็รักเลย

ตอนแรกดูหน้าโหดกล้ามใหญ่ ฉันนี่ว่าจะเปิดผ่านล่ะ แต่ไหนๆ ผ่านมาเห็นพาดหัวเปลี่ยนใจมาอ่านต่อเลยแก

แกรู้มั้ยฉันอ่านไปอ่านมาหลงรักซะงั้น ฉันนึกว่าพวกผู้ชายกล้ามใหญ่จะน่ากลัวที่ไหนได้

มีมุมน่ารักกับเขาเหมือนกันนะเนี่ย”

เสียงของสาวได้ยินไปถึงชายหนุ่มตาสีเขียวมรกตคนหนึ่งที่กำลังนั่งรอขึ้นเครื่องกลับอเมริกาอยู่เช่นกัน

เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในมหาวิทยาลัยของไทยมาถึงสามปีเต็มดังนั้นเรื่องการฟังและการอ่านภาษาไทยไม่ต้องพูดถึงเขาสามารถใช้ทักษะด้านนี้ได้อย่างดีเยี่ยม

แดน เดเนียล ควินซ์ บรรณาธิการของแมนแมชแมกกาซีน

แมกกาซีนที่ลงสัมภาษณ์หนุ่มหล่อมากมายทั่วสหรัฐอเมริกา

แม้ยอดขายจะไม่พุ่งปังเหมือนแมกกาซีนทั่วไปแต่แดนก็เน้นการทำแมกกาซีนที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากกว่าทำให้ยอดขายในกลุ่มสาวๆ

ปังขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

ทันทีที่แดนได้ยินสองสาวพูดถึงบทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นในแมกกาซีนหัวหนึ่งของไทย

เขารีบไปซื้อมาเพื่อมาอ่านดูเช่นกัน และทันทีที่แดนอ่านจบสิ่งที่เขาคิดได้คือ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องนำนักเขียนบทความคนนี้มาร่วมงานโปรเจคใหม่กับเขาให้ได้

อพาร์ทเม้นปลายฟ้า

“โซดา ฉันว่าฉันจะปฎิเสธงานนี้

ฉันไม่มั่นใจว่าฉันจะทำได้ เผลอๆ ฉันจะกลายไปเป็นภาระพวกเขา

อีกอย่างทำงานกับชาวต่างชาติก็น่าจะกดดันไม่ใช่น้อย”

“นี่ยายปลายฟ้าเธอจะบ้าหรือไง

ทำยังกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้เขาไม่โขกสับขูดรีดงานแกอย่างนั้นแหละ โอกาสดีๆ

มาถึงแกก็ต้องคว้าไว้สิ อีกอย่างภาษาอังกฤษแกก็เก่งไม่ใช่เล่นแล้วแกจะกลัวอะไร” โซดาอดที่จะบ่นเพื่อนไม่ได้

“แกลองคิดดูดีๆ

ถ้ามันเป็นโอกาสครั้งแรกมันย่อมไม่น่าเสียดาย แต่ถ้ามันเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย

แกจะยอมทิ้งมันไปจริงๆ เหรอ”

“โซดา ฉันรักแกว่ะ” ปลายฟ้าหันไปกอดเพื่อนทั้งน้ำตา

ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนคนนี้

เธอก็ยังคงเป็นนักบัญชีนั่งทำงานที่น่าเบื่อไปทั้งชีวิต

แต่เพราะโซดาทำให้เธอคิดได้ ทำให้เธอกล้าตัดสินใจเลือกทางเดินใหม่แบบที่เธอรัก นั่นคือการเป็นนักเขียน

และนี่คงเป็นโอกาสที่สำคัญสำหรับเธอ และอาจจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

ใช่! มันจะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

ปลายฟ้าตอบรับคำเชิญของแมกกาซีนในอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว

ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บกระเป๋าเพราะบริษัททางนั้นต้องการให้เธอบินไปแมนฮัตตันภายในสัปดาห์นี้

“ปลายฟ้ามั่นใจนะว่าของที่แกจำเป็นต้องใช้ครบแล้ว” โซดารีบถามเพื่อนสาวเมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางขนาดหนึ่งปีใบเท่ากับที่เธอใช้ไปเที่ยวได้แค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น

“นี่โซดาแล้วเธอจะให้ฉันเอาอะไรไปมากมาย

ฉันไปแค่ปีเดียวเสื้อผ้าก็ซักทุกวัน แถมเสื้อหนาวตัวใหญ่ๆ ก็ไม่มี ฉันค่อยเก็บตังซื้อที่นู่น” ปลายฟ้าชักจะสงสัยขึ้นทุกทีว่ายายโซดาคือเพื่อนหรือแม่เธอกันแน่ นี่ขนาดแค่เก็บกระเป๋ายังจู้จี้ได้ซะขนาดนี้

“จ๊ะ เอาที่สบายใจเลย เราไปกินเลี้ยงมื้อสุดท้ายกัน” โซดารีบชวนปลายฟ้าออกไปทานข้าวเพื่อเลี้ยงส่งเพราะพรุ่งนี้ปลายฟ้าเพื่อนรักต้องบินไฟล์เช้าตรู่

ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

“นี่ปลายฟ้า

ถ้าแกอยู่ที่นู่นแล้วมีปัญหาอะไรโทรหาฉันได้ตลอดเวลานะ” โซดาที่มาส่งเพื่อนสาวถึงกับน้ำตาซึม

“ไม่เอานะยายโซดาอย่ามาทำเป็นเด็กขี้แยสิ

ฉันไปที่นู่นนะ ฉันจะโทรหาแกทุกวันจนแกรำคาญเลยดีมั้ย” ปลายฟ้าพูดกับเพื่อนรัก

“อืม อย่าได้ผู้ชายลืมเพื่อนนะ”

“นี่ยายโซดาอยากตายหรือไงแก”

“อ่ะๆ

อย่าลืมว่าโจทย์เก่าแกเมื่อห้าปีก่อนก็อยู่ที่นู่นนะ”

“แมนฮัตตันตั้งใหญ่ อีกอย่างฉันก็ลืมเรื่องแย่ๆ

แบบนั้นไปหมดแล้วๆ ล่ะ”

“ให้มันจริงเถอะ” โซดาที่รู้ทันเพื่อนสาวอดจะแซวออกไปไม่ได้

เป็นเพื่อนกันมาตั้งกี่ปีไม่เคยเห็นเพื่อนเธอจะหลงไหลได้ปลื้มชายคนไหนเท่าหนุ่มในโซเซียลคนนั้นเลย

แถมยังมาเอาความสาวเพื่อนเธอที่ออกจะหวงนักหวงหนาไปอีก

ถ้ายายปลายฟ้าลืมก็คงฟ้าผ่าตอนแดดออกแล้วล่ะ

โซดานึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดสงสารเพื่อนตัวเองไม่ได้จริงๆ

ไอหมอหน้าหล่อนั่นก็กระไรนึกว่าเพื่อนเธอเป็นฝรั่งที่ชอบมีอะไรกับใครไปทั่วหรือไง

.”เฮ้อ” เสียงโซดาถอนหายใจเฮือกใหญ่

“นี่ยายโซดาไว้ไปถึงฉันโทรหาแกแน่ๆ

ไม่ต้องถอนหายใจดังขนาดนี้หรอก” ปลายฟ้าที่เห็นเพื่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่รีบปลอบออกไป

โดยไม่รู้ว่าไอที่เพื่อนกังวลอยู่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจากกันไกลหรอก

“อืม ฉันจะคิดถึงแกนะ” โซดาที่ยืนหน้างอยิ้มให้อย่างหงอยๆ

“โซดา ฉันไปก่อนนะ เขาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว” ปลายฟ้ารีบกอดล่ำลาเพื่อนสาวเพราะใกล้ถึงเวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว

ทั้งปลายฟ้าและโซดาต่างก็รู้สึกเศร้าไม่น้อย ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาสิบกว่าปีไม่มีครั้งไหนเลยที่พวกเธอแยกจะจากกันไปไกลขนาดนี้

ปลายฟ้าขึ้นเครื่องเรียบร้อย ตอนนี้เธอนั่งเหม่อลอยเหมือนคนกำลังคิดไม่ตก

จริงๆ เธอคิดว่าเธอเกือบลืมเรื่องเมื่อห้าปีที่แล้วไปแล้ว

ถ้ายายโซดาเพื่อนตัวดีไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก เพราะตั้งแต่วันนั้นเธอเลิกติดตามเขาทุกทางและเรื่องเกี่ยวกับเขาทุกอย่างเหมือนเธอไม่เคยมีผู้ชายคนนี้เข้ามาเกี่ยวในชีวิต

ไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน

จนถึงวันนี้วันที่อาจจะต้องเผชิญหน้ากับความจริงอีกครั้ง เธอเพิ่งรู้ว่าจริงๆ

เธอยังไม่ลืมเขาเลยตะหาก แถมเขายังอยู่ในหัวใจเธอแน่นแบบไม่ยอมหลุด

............................................................

บทที่ 3 นี่โต๊ะฉัน!!

สนามบินแห่งหนึ่งเพื่อเปลี่ยนเครื่อง

“นี่คุณ!” เสียงเรียกเป็นภาษาอังกฤษปลุกหญิงสาวข้างๆ

“ค่ะ” ปลายฟ้าที่ถูกปลุกขึ้นรีบอุทานอย่างตกใจ

หันไปมองหน้าชายหนุ่มที่เรียกเธอทันที

‘หล่อ’ ปลายฟ้าที่เพิ่งงัวเงียจากการหลับไปหลายชั่วโมงตื่นขึ้นอย่างเพ้อๆ

“นี่คุณ ถึงเวลาเปลี่ยนเครื่องแล้วครับ

คุณจะนั่งยิ้มแบบนี้อีกนานมั้ย” หนุ่มหน้าหล่อเอียงหน้าอย่างสงสัย

“อ่อ ขอโทษค่ะ เชิญค่ะ” เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขานั่งในสุดถ้าเธอไม่ออกแล้วเขาจะออกได้ยังไง

หญิงสาวรีบเดินออกไปก่อนเพื่อให้ชายหนุ่มต่างชาติหน้าตาหล่อเหลาเดินออกไปได้

“ขอบคุณครับ” หนุ่มต่างชาติหน้าตาหล่อเหลาเอ่ยขึ้น

แล้วเดินจากไป

ปลายฟ้าต้องรอเวลาเปลี่ยนเครื่องถึงสามชั่วโมงไม่รู้จะทำอะไรคร่าเวลา

เธอเลยเลือกจะนั่งในร้านกาแฟเล็กๆ ที่มีอินเตอร์เน็ตดูจากภายนอกร้านแล้วตกแต่งได้น่ารักเลยทีเดียว

แต่พอเดินเข้าไปข้างในก็เหลือเพียงที่นั่งโต๊ะเล็กๆ ที่ยังคงว่างอยู่เพียงโต๊ะเดียว

เธอจึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะเอากระเป๋าโน๊ตบุ๊ควางไว้ก่อน แต่พอดีกับชายหนุ่มอีกคนที่วางกระเป๋าของเขาลงบนเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ตรงกันข้ามเช่นกัน

“อ่ะ/อ่ะ” สองเสียงอุทานพร้อม

และจ้องมองอีกฝ่าย

“คุณ” เธอจำเขาได้

“ขอโทษนะค่ะ แต่โต๊ะตัวนี้ฉันเห็นก่อน” ปลายฟ้าบอกชายหนุ่มออกไปเป็นภาษาอังกฤษ

“แต่ว่าตัวนี้ผมก็เห็นมาก่อนเช่นกัน” ชายหนุ่มต่างชาติเถียงกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย

‘เธอจะเอาอะไรมาวัดว่าเธอเห็นโต๊ะตัวนี้ก่อนเขากันเนี่ย’ หนุ่มต่างชาติแอบค่อนขอดอยู่ในใจ

“เฮ้อ” ปลายฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่

โดยปกติแล้วเธอจะเป็นคนที่ไม่ชอบเถียงใครสักเท่าไหร่ แต่วันนี้เธอเหนื่อยและการหาที่นั่งเพื่อเขียนนิยายที่ค้างต่อให้ได้อีกสักบทก็ยังดี

ยังไงเธอก็ต้องได้นั่งที่ตรงนี้

“คุณค่ะ อย่างน้อยฉันก็เป็นสุภาพสตรี

รบกวนคุณหาที่ตรงอื่นนั่งได้มั้ยค่ะ ฉันจะนั่งตรงนี้”

“คุณครับ ผมก็อยากจะหาที่ตรงอื่นนั่งนะครับ

แต่ตอนนี้ผมต้องรีบทำงาน ดังนั้นรบกวนคุณหาที่ตรงอื่นได้มั้ยครับ

แล้วเดี๋ยวผมเลี้ยงกาแฟคุณเอง” เสียงชายหนุ่มตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน

“ขอโทษนะค่ะ

แต่คุณก็เห็นว่ามันไม่มีที่อื่นจะให้นั่งแล้ว แล้วจะให้นั่งที่ไหนค่ะ” เสียงปลายฟ้าเริ่มเย็นขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากอารมณ์ที่เริ่มเดือดปุดๆ

“โอเค งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน

ในเมื่อมันมีที่นั่งสองที่เราก็นั่งกันคนละที่

แล้วต่างคนต่างทำงานส่วนกาแฟมื้อนี้ผมขอเลี้ยงคุณเอง เพราะผมมารบกวนคุณ

โอเคมั้ยครับ” เสียงชายหนุ่มพูดอย่างประนีประนอมเพื่อที่จะหาข้อยุติให้ได้เพราะตอนนี้เขาจะต้องรีบเช็คงานและส่งงานด่วนไปให้เลขาเพื่อจัดการต่อ

“ก็ได้ค่ะ แต่คุณไม่จำเป็นต้องเลี้ยงกาแฟฉันหรอก” หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบๆ

 “อย่างงั้นก็ได้ครับ

เชิญนั่งครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมขยับเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่งก่อน

‘หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดูมีเงิน แต่ดูท่าทางจะงก

แค่บอกว่าไม่ให้เลี้ยง ก็ไม่เลี้ยงจริงๆ ซะงั้น ไม่น่าปากเร็วเลยเรา’

ตอนนี้ทั้งสองต่างหยิบแลปทอปตัวเองขึ้นมาคนละเครื่องเพื่อที่จะทำงาน

จากนั้นต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเองไป

แต่ดูท่าชายหนุ่มจะมีงานที่เคร่งเครียดต้องสะสางจริงๆ เพราะตั้งแต่เขานั่งลง

เขาก็นั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่กับหน้าจอ ต่างจากหญิงสาวที่มีงานต้องทำเช่นกัน

แต่ดูเธอไม่ค่อยมีสมาธิกับงานตรงหน้าสักเท่าไหร่

ก็มีหนุ่มต่างชาติหน้าตาดีมานั่งตรงหน้าจะให้เธอมีสมาธิได้ยังไงกัน

“นี่คุณจะนั่งจ้องหน้าผมแบบนี้อีกนานมั้ย” เสียงชายหนุ่มต่างชาติถามขึ้นขณะที่หน้าก็ยังคงจ้องหน้าจออยู่

“เอ่อ เอ่อ” เสียงหญิงสาวติดๆ

ขัดขึ้นมาทันที

“ฉันไม่ได้จ้องคุณสักหน่อย ฉันก็แค่มองไปรอบๆ

เท่านั้นเอง” ปลายฟ้าไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เธอเลยแก้ตัวลอยๆ

ไป

 “ครับ

คงจะอย่างงั้น” ชายหนุ่มตอบรับแต่ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉย แต่สายตาก็ยังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอตามเดิม

ปลายฟ้าได้แต่นั่งทำหน้าเขินอายและหันไปจดจ่อกับหน้าจอแลปทอปของตัวเองตามเดิม

แม้จะไม่มีสมาธิทำงานตรงหน้าเลยก็ตาม

ปลายฟ้านั่งทำงานมาได้สักพักใหญ่ จึงดูเวลาอีกทีซึ่งก็ใกล้เวลาต่อเครื่องแล้ว

เธอจึงตัดสินใจหันไปหาชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามเพื่อที่จะบอกเขาว่าเธอได้เวลาต่อเครื่องแล้ว

แต่ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าตอนนี้ทำให้หญิงสาวชะงักไปเล็กน้อย

เขากำลังนั่งหลับตาเอามือเท้าคางอยู่พอดี

เธอไม่รู้ว่าเขากำลังหลับหรือเขาแค่ปิดตาเฉยๆ แต่กลายเป็นว่าเธอได้แต่จ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความพินิจวิเคราะห์ตั้งแต่ขนตางอนยาว

จมูกโด่งเป็นสัน เสี้ยวหน้าได้รูป ผิวหน้าที่ละเอียดยิ่งกว่าผู้หญิง

“จ้องพอหรือยังครับ” เสียงชายหนุ่มที่ยังคงปิดตาอยู่ถามขึ้น

“ฉันไม่ได้จ้องคุณแค่ดูว่าคุณกำลังหลับอยู่หรือป่าว

เพราะฉันจะไปต่อเครื่องแล้วเลยจะบอกเพื่อนนั่งร่วมโต๊ะก็แค่นั้น” หญิงสาวพูดไปก็ยังคงจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ปิดตาอยู่ เมื่ออยู่ๆ ชายหนุ่มที่กำลังปิดตาลืมตาขึ้น

เธอหลบหน้าหนีแทบไม่ทัน

“เอาเป็นว่ายังไงกาแฟมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเองก็แล้วกัน

ไม่ต้องเกรงใจหรอก เพราะดูจากที่คุณนั่งจ้องผมมาสองสามชั่วโมงก็ไม่น่าจะเกรงใจอยู่แล้ว” ชายหนุ่มที่รู้ทันได้ทีจึงพูดแซว

ปลายฟ้าไม่ได้ตอบอะไรได้แต่กรอกตาไปมาทำเหมือนว่ารำคาญ

แต่จริงๆ เธอรู้สึกเขินเพราะเขารู้ทันก็แค่นั้นล่ะ

‘ผู้ชายบ้าอะไรละเอียดทุกเม็ด นี่ขนาดแค่จ้องยังรู้เลย’

เธอรีบเก็บแล็ปท็อปประจำตัวและข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะเข้ากระเป๋าอย่างเรียบร้อยก่อนที่จะลุกขึ้น

และทำท่าจะเดินจากไป

“ยินดีที่ได้พบนะครับ” เสียงของชายหนุ่มที่เธอนั่งจ้องเขามานานเอ่ยขึ้น

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและยื่นมือออกไปเป็นการทักทายตามธรรมเนียมฝรั่ง

“ค่ะ ขอบคุณสำหรับกาแฟเช่นกันนะค่ะ” ปลายฟ้ายื่นมือไปจับมือใหญ่ตรงหน้า

และยิ้มให้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เจอหน้ากัน จากนั้นเธอก็รีบเดินไปขึ้นเครื่องต่อ

เพื่อไปแมนฮัตตันทันที

‘จริงๆ ตาฝรั่งขี้เก๊กนั่นก็ดูจะไม่ได้เลวสักเท่าไหร่นะ’ ปลายฟ้าคิดไปก็เดินอมยิ้มไป

 

...........................................................

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!