NovelToon NovelToon

กระต่ายดุของพี่มังกร

ดุครั้งที่ 1

ณ โรงประมูลทาสใต้ดิน

"เราเคลียร์ทาสไปได้เกือบหมดแล้ว เหลือกรงสุดท้ายด้านหน้านี้แล้วล่ะ นายคอยดูต้นทางไว้นะเซฟิล" ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีแดงใช้สายตามองสอดส่องห้องกรงขังทั้งสองข้างว่ายังมีทาสที่ถูกทิ้งหลงเหลืออยู่บ้างหรือไม่ พอมองเช็คจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีตนจึงหันไปบอกเพื่อนสนิทของตนที่เป็นคนคิดดำเนินเเผนการณ์ขึ้นมา

"...." ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของชื่อทำเพียงพยักหน้ารับรู้พลางเดินตามเพื่อนเข้ามายังกรงขังทาสที่จะนำมาประมูลอย่างผิดกฎหมายในคืนนี้

"เด็กๆปลอดภัยแล้วนะ พวกฉันมาชะ--อั้ก!!"

ตึง!!

เสียงทุ้มดูทะเล้นขาดห้วงไปพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ล้มตึง มีรอยฝ่าเท้าเล็กๆประทับลงบนใบหน้าคมตรงกลางอย่างพอดิบพอดี เป็นเพราะทำแบบทีเล่นทีจริงมากจนเกินไป แถมยังชะล่าใจที่อีกฝ่ายเป็นเด็กๆ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

"....ตายหรือยัง?" เซฟิโล่ก้มมองไปยังร่างของเพื่อนที่โดนถีบจนหงายหลังล้มลงมาตรงเท้าของตนพอดี พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แล้วละสายตาไปมองเด็กชายร่างเล็กเรือนผมสีฟ้าอมเขียวมิ้นนัยตาสีทับทิมเจ้าของฝ่าเท้าที่เตะเพื่อนของเขาจนล้ม

"อย่าเข้ามานะ!!...เด็กๆ หลบหลังพี่เอาไว้" เสียงหวานที่พยามทำให้ดูน่าเกรงขามของใครบางคนที่อยู่ด้านในนั้นตะโกนออกมา เมื่อมองเข้าไปด้านในจะพบเด็กหนุ่มที่ดูโตกว่าเด็กๆ ข้างหลังมากๆ กำลังตั้งท่าเตรียมจะเข้าไปบวกกับทุกคนที่คิดจะเเย่งน้องๆ ของตนไป เหมือนที่ก่อนหน้านี้ในทุกครั้งที่มีคนเปิดประตูห้องขังก็มักจะมีเด็กที่ถูกเอาไปขึ้นเวทีประมูลอยู่ร่ำไป

"..พวกเราไม่ได้จะทำร้ายพวกเธอ" น้ำเสียงเรียบเอ่ยบอกกับร่างเล็กที่สั่นกลัวพร้อมกับเดินถอยออกมาเพื่อแสดงว่าตนไม่ได้มาทำร้าย

Rrr~~

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรมากกว่านั้นก็มีสายเรียกเข้าจากคนสนิทเข้ามารายงานสถานะการเสียก่อน

"..."

'เตรียมพร้อมแล้วครับ'

"ทางนี้ก็เรียบร้อยแล้ว รอฉันให้สัญญาณ แล้วทำตามแผนต่อไปได้เลย ....อ้อแล้วก็เตรียมสถานที่ให้กับเหยื่อด้วย"

'รับทราบครับบอส'

หลังจากวางสายแล้วใบหน้าคมก็หันมาทางเพื่อนร่างใหญ่พลางพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าต้องออกไปจากที่นี่กันแล้ว ก่อนจะปรายตามองเด็กหนุ่มที่ยืนตัวสั่นกางแขนปกป้องเด็กคนอื่นๆ เล็กน้อยแล้วพูดออกมาด้วยเสียงเรียบๆ

"ถ้ายังอยากมีชีวิตรอดก็ตามฉันมา แต่ถ้าอยากตายอยู่ที่นี่พร้อมกับเด็กพวกนั้นก็อยู่ที่นี่ต่อไปละกัน" เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไปดูต้นทางให้ทิ้งให้เพื่อนเป็นคนจัดการที่เหลือต่อ

"อึก..เด็กๆ ไปกับพี่นะ" ใบหน้าหวานชะงักค้างไปหลังได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า ก่อนที่เขาจะตัดสินใจหันมาย่อตัวลงพูดกับเด็กๆ แล้วหันไปมองชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีแดงที่ตนพึ่งจะถีบไป

"ช่วยปลดโซ่ล่ามที"

"อู่ยยย..อ่า ได้ๆ เธอนี่แรงดีชะมัด เอาซะฉันล้มตึงเลย5555"

ร่างสูงค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งพร้อมทั้งลูบรอยที่โดนประทับตีนไปมา ก่อนจะหยิบกุญแจไปไขโซ่ที่ล่ามเอาไว้ของเด็กแต่ละคนออกจะได้รีบๆ พากันหนีออกไปซักที

"เด็กๆ จับมือกันไว้นะ" ร่างบางในชุดเสื้อผ้าเก่าๆ อุ้มเด็กที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มขึ้นแนบอกก่อนจะบอกให้เด็กจับมือกันไว้แล้วพากันรีบออกไปจากที่นี่พร้อมกับร่างสูงเรือนผมสีแดง

เมื่อออกมาด้านนอกตนก็พาเด็กๆ เดินไปรวมกลุ่มกับทาสคนอื่นๆ พร้อมกับวางเด็กที่อุ้มมาลง

"พวกคุณจะทำยังไงต่อ" เจ้าของนัยห์ตาทับทิมที่ตอนนี้เปรียบเสมือนพี่ใหญ่ของเหล่าเด็กๆ ไปแล้วนั้น เอ่ยถามร่างสูงทั้งสองที่เข้ามาช่วยเอาไว้ด้วยน้ำเสียงจริงจังพยามไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวออกไป เพราะในตอนนี้มีแค่เขาเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งและเกราะกำบังให้เด็กๆ เหล่านี้ได้

"ทำความสะอาด" เซฟิโล่ปลายตามองเด็กหนุ่มเล็กน้อยแล้วหันไปมองต้นทางต่อ พลางตอบคำถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง

"ตามมา" ก่อนจะพูดต่อและวิ่งนำทุกคนออกมาเมื่อเห็นว่าทางโล่งแล้ว โดยมีเพื่อนของเขาตามมาปิดท้ายเพื่อคอยระวังหลัง

"รถเตรียมพร้อมแล้วครับบอส"

เมื่อเดินตามร่างสูงออกมาก็พบกับรถตู้สีดำสนิทที่จอดรออยู่จำนวนหนึ่งซึ่งเพียงพอที่จะขนพวกเขาได้ทั้งหมด พร้อมกับชายรูปร่างสูงใหญ่สวมสูทสีและแว่นสีดำท่าทางหน้ากลัวยืนอยู่ข้างรถแต่ละคันและอีกคนที่อยู่ภายในรถในตำแหน่งคนขับ

เซฟิโล่พยักหน้ารับรู้ที่ลูกน้องรายงานก่อนจะหันมาทางเด็กชายร่างเล็กที่เป็นเหมือนผู้นำของเหล่าเด็กๆ ที่ถูกจับมาประมูล แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แฝงด้วยคำสั่ง

"ขึ้นรถ"

"....ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณจะไม่ทำแบบคนพวกนั้น"

ใบหน้าหวานเชิ่ดขึ้นแสดงถึงความไม่ยินยอมที่จะให้เด็กๆ ด้านหลังตนขึ้นไปบนรถตู้หากยังไม่ได้ความมั่นใจว่าจะปลอดภัย ถึงแม้สถานะของเขาในตอนนี้จะไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไรใดๆ ทั้งสิ้น แต่เขาก็อยากจะให้เด็กๆ ปลอดภัยจริงๆ

'เอายังไงดี ถึงจะบอกให้เด็กๆ วิ่งหนีตอนนี้ก็คงจะไม่รอด แต่เราก็ไม่อยากให้เด็กๆ กลับไปเจอเรื่องแบบนั้นอีก'

คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด เด็กๆ ด้านหลังเริ่มสั่นกลัวพวกบอดี้การ์ดร่างใหญ่ บางคนเริ่มสะอื้นเดินมาเกาะเเขน เกาะเอวของพี่ใหญ่อย่างร่างบางเพื่อเป็นที่พึ่งพิง

"อยากตายอยู่ที่นี่ก็ตามใจ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะแสบพอตัว

"เธอจะเลือกตายอยู่ที่นี่พร้อมกับเด็กพวกนั้น หรือจะตามพวกฉันที่เสี่ยงไปช่วยพวกเธอ เลือกเอานะ" เซฟิโล่เอ่ยออกมาอีกครั้งนัยห์ตาสีอเมทิสมองไปยังพวกเด็กๆ และเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาที่เรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความจริงใจที่ตั้งใจจะช่วยจริงๆ

"......"

"ผมจะเชื่อ...ผมจะเชื่อคุณ หวังว่าผมจะไม่ไว้ใจคนผิด"

ร่างบางเงียบไปซักพักก่อนจะมองสบตากับร่างสูงอย่างตรงไปตรงมาเช่นกัน แววตาของร่างบางนั้นก็สื่อว่าจะยอมไว้ใจร่างสูงอย่างจริงใจ

"เด็กๆ พวกเขาอาจจะน่ากลัว แต่พวกเขามาดีแน่นอน ขึ้นรถกันนะครับ"

เจ้าของเรือนผมสีเขียวอมฟ้าหันหลังกลับไปหาเหล่าเด็กๆ ก่อนจะนั่งลงยองๆ แล้วพูดเสียงอ่อนโยนเพื่อปลอมปโลมเด็กๆ ให้หายกลัว มือเรียวลูบหัวเด็กน้อยก่อนจะจับจูงเด็กๆ ให้เดินตามกันขึ้นไปรถตู้ทีละคนๆ เมื่อส่งคนสุดท้ายขึ้นรถเสร็จ ร่างบางก็หันมาพยักหน้าให้ร่างสูงเป็นการบอกว่าเด็กๆ ขึ้นกันไปครบแล้ว

"เด็กๆ ขึ้นไปครบแล้ว..พวกคุณรีบออกรถเทอะไม่ต้องห่วงผม อย่างน้อยๆ ผมก็โตกว่าพวกเขาผมคงเอาตัวรอดได้อยู่" มือเรียวยกขึ้นมากอดตัวเองหลวมๆ พลางก้มหน้าซ่อนความกังวลไม่ให้ร่างสูงเห็น

"บอสครับจับตัวการไว้หมดแล้วครับ...ตอนนี้พวกนั้นอยู่กับทางตำรวจแล้วครับ" ชายชุดดำที่อยู่ในรถรายงานหลังจากที่วางสายจากฝ่ายที่รับผิดชอบอีกส่วนนึง ซึ่งร่างสูงก็พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันมามองร่างบาง

"ไม่ไป?" เมื่อเห็นว่าเด็กๆขึ้นไปกันครบแล้ว เหลือเพียงร่างบางที่ยังไม่ขึ้นเพราะที่บนรถตู้นั้นเต็มหมดแล้ว และดูเหมือนเด็กหนุ่มคิดที่จะเสียสละอยู่ที่นี่

ป๊อก!

นิ้วเรียวดีดเข้าไปที่หน้าผากน้อยๆเบาๆเพื่อเรียกสติเมื่อเห็นว่าร่างบางจะคิดไปไกลแล้ว พร้อมกับถือวิสาสะจูงมือเล็กๆให้ตามมากับตัวเองไปที่รถคันหรูที่มีคนสนิทของเขานั่งอยู่ประจำที่คนขับพลางดันร่างเล็กให้เข้าไปภายในรถ

"อึก!! นี่แก--อ้ะ! จะ จะพาไปไหน!?"

ใบหน้าหวานเบ้ลงเพราะความเจ็บที่หน้าผาก แต่ยังไม่ทันจะได้โวยวายอะไรก็ถูกอีกฝ่ายลากไปขึ้นรถคันใหม่แถมยังโดนดันเข้าไปแบบที่ขัดขืนไม่ได้อีกด้วย

"ฉันไม่ชอบทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามแผน....ออกรถ"

เสียงทุ้มออกดุเล็กๆ แล้วเข้ามานั่งข้างๆ กับร่างบางเพื่อไม่ให้เขาได้ลุกหนี ก่อนจะหันไปสั่งคนสนิทให้ออกรถได้ ในมือหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อจุดระเบิดที่ติดตั้งไว้ในสถานที่ประมูล

ติ้ด!

ตู้ม!

เสียงระเบิดดังขึ้นคล้อยหลังรถสปอร์ตคันหรูที่เคลื่อนที่อยู่บนท้องถนนหลังจากที่ขับห่างจากจุดเกิดเหตุได้ไกลพอสมควร

"แกมันเอาแต่จะ--"

ฟึ่บ!

ร่างบางที่ถูกยัดเข้ามาด้านในรถนั้นกำลังหันไปโวยวายใส่ร่างสูงที่เข้าตามเขานั่งข้างเขา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเสียงดังสนั่นของระเบิดก็ทำเอาใบหูยาวๆตั้งขึ้นก่อนที่ร่างเล็กๆ จะพุ่งเข้าไปซุกอกร่างสูงด้วยร่างอันสั่นเทา เพราะตกใจกับเสียงระเบิดที่ด้านหลังจนไม่กล้าที่จะส่งเสียง

"...!!"

เซฟิโล่ตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆร่างเล็กก็พุเข้ามาซุกกับอกแกร่งพร้อมกับร่างที่สั่นเทาด้วยความตกใจจากเสียงระเบิด แต่เขาก็ไม่ได้ดันออกแต่อย่างใด กลับกันมือแกร่งก็เอื้อมมาลูบหัวเล็กๆ เสียงทุ้มก็เอ่ยปลอบประโลมไปด้วย

"เธอเป็นกระต่ายสินะ...เสียงคงจะดังไปขอโทษด้วย"

ร่างที่กำลังสั่นเทานั้นค่อยๆ เบาลงเมื่อถูกร่างสูงที่ตนไม่ได้ตั้งใจจะพุ่งเข้าไปซุกแต่เป็นเพราะสัญชาตญาณจึงทำไปอย่างไปรู้ตัวนั้นลูบพร้อมกับประโยคที่เอ่ยขอโทษทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของร่างสูงเลย

"ขอบคุณ..." เสียงหวานเอ่ยขอบคุณแผ่วเบา

"คุณชายครับคุณเฟียร์แจ้งมาว่าเด็กๆ ถึงบ้านพักที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วครับ"

ลูกน้องคนสนิทที่กำลังขับรถอยู่รายงานกับเจ้านายตามที่ได้รับแจ้งมาว่ารถทั้งสองคันที่เด็กๆ ขึ้นไปนั้นไปถึงที่หมายเรียบร้อยแล้ว

"พรุ่งนี้เตรียมคนมาดูแลเด็กๆ ด้วย ทั้งการ์ดและแม่บ้าน ส่วนคืนนี้ส่งคนของคฤหาสน์ใหญ่ไปดูแลพวกเด็กๆ แทนก่อน" ร่างสูงพยักหน้ารับรู้พร้อมกับสั่งงานต่อไป มือแกร่งหยุดลูบหัวที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีฟ้าอมเขียวนุ่มเมื่อเห็นว่าร่างบางหายสั่นแล้ว

"คุณไม่ต้องห่วงว่าเด็กๆ จะดื้อนะครับ เดี๋ยวผมจะคุมพวกเขาเอง" ร่างเล็กๆ ค่อยๆ ขยับกระเถิบออกมาจากร่างสูงเพื่อเว้นระยะห่างให้เหมาะสมก่อนจะหันกลับมาพูดกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นการบอกกลายๆ ว่าตนจะเป็นคนดูเเลเด็กๆ เอง

"ตอนนี้พวกเธออยู่ในความดูแลของฉัน ให้คนของฉันดูแลน่ะดีแล้ว"

เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียบๆ โดยที่ไม่ได้มองไปทางร่างเล็กข้างๆ ก่อนจะเอ่ยต่อโดยที่ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูก

"ถ้าให้เธอเป็นคนดูเองก็คงจะไม่ไหว"

แก้มนุ่มพองออกอย่างไม่พอใจเเต่ตนก็ไม่ได้พูดอะไรทำเพียงนั่งหูกระดิกฟังร่างสูงไม่ได้เอ่ยขัดเเต่อย่างใด

Rrr

เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น ทำให้การสนทนาของทั้งคู่ต้องหยุดลงก่อน นิ้วแกร่งกดรับสายเพื่อพูดคุยกับปลายสายที่โทรมา

'เซฟิล~ ได้ข่าวว่ารับเหยื่อในคดีนี้มาดูแลหรอ~' ทันทีที่กดรับสายเสียงหวานจากปลายสายก็ดังขึ้นทันที

"..ครับ" ซึ่งเสียงทุ้มก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

'ให้ฉันช่วยหาคนรับเลี้ยงเด็กๆ ให้เอาไหมจ้ะ~~ ฉันก็อยากมีเด็กมาวิ่งเล่นในบ้านสักคนสองคนพอดี'

"...เธอว่ายังไง"

เซฟิโล่ยกหูออกจากเครื่องมือสื่อสารแล้วเอ่ยถามความเห็นของร่างบางข้างๆ เพราะรู้ว่ายังไงอีกฝ่ายก็ได้ยิน

"...ผม..ผมไม่รู้ ต้องถามเด็กๆ และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าคนที่คุณคุยด้วยจะไว้ใจได้มากแค่ไหน"

ร่างบางนิ่งไปซักพักเพื่อขบคิดก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่มั่นใจ ใบหน้าหวานฉายแววความกังวลอย่างไม่ปิดบัง ใบหูเรียวลู่ลงแนบไปกับเส้นผมสีเขียวอมฟ้า

"ผมรู้ว่ามันอาจจะเป็นการขอมากไปแต่..ช่วยดูแลเด็กๆ จนกว่าพวกเขาจะแข็งแรงกว่านี้ก่อนได้มั้ยครับ พวกเขาตัวเล็กและก็ไม่ได้กินอาหารที่มากพอ ตอนนี้พวกเขายังไม่แข็งแรง"

เจ้าของนัยห์ตาทับทิมหลุบตาลงอย่าละอายใจก่อนจะก้มหัวให้ร่างสูงและพูดขอร้องด้วยน้ำเสียงหนักเเน่น พวกเขาไม่เคยได้กินอาหารดีๆ และไม่เคยไปรับในปริมาณที่พอเพียง ตลอดมาพวกเขาเคยได้กินแต่ขนมปังแข็งๆ เขาเป็นพี่ใหญ่ถ้าน้องๆ หิว เขาก็มักจะเป็นคนสละให้ตลอด หากสังเกตุจะเห็นว่าร่างบางนั้นตัวเล็กเกินไปไม่ถึงเกณฑ์ตามอายุ นอกจากนี้ยังตัวลีบเอามากๆ ถึงแม้ว่าจะพยามทำตัวเข้มแข็งก็ตามที

ใบหน้าคมพยักหน้ารับฟังความเห็นจากเด็กน้อยที่นั่งข้างๆก่อนจะตอบคำถามเมื่อครู่ของปลายสายพร้อมทั้งอธิบายเหตุผลไปด้วย

"..ตอนนี้คงยังไม่ได้ครับ...เด็กๆ คงยังไม่พร้อม..ไว้ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ผมจะให้คนติดต่อไปนะครับ"

'ว้า~~ เสียดายจัง งั้นว่างๆ ฉันจะเอาขนมไปฝากพวกเด็กๆ ละกันน้า~~ บายจ้า~~'

ติ้ด

"ไม่ต้องห่วง ฉันคัดคนที่จะรับพวกเด็กๆ ไปอย่างดี แต่ถ้าเธอยังไม่มั่นใจฉันจะเลื่อนออกไปก่อนตามที่เธอขอ และเด็กๆ จะได้รับการดูแลอย่างดีทั้งเรื่องอาหารและความเป็นอยู่ รวมทั้งเธอด้วย" หลังจากวางสายไป ก็หันมาพูดกับร่างเล็กข้างกายซึ่งพยายามจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ในสายตาของเขา พร้อมกับพูดปลอบไปด้วย

"ส่วนตอนนี้ฉันว่าเธอน่าจะไปอาบน้ำล้างตัวสักหน่อยนะเจอเรื่องมาทั้งวัน คงจะไม่ดีถ้าเด็กๆ เห็นเธออยู่ในสภาพแบบนี้" เอาจริงๆ เซฟิโล่เองก็แปลกใจที่ตัวเองพูดมากกว่าปกติ และดูใส่ใจเด็กคนนี้มากกว่าคนอื่นๆ

หงึกๆ

ร่างบางสะดุ้งโหยงเหมือนคนพึ่งคิดได้ จึงทำเพียงพยักหน้านิดๆ เห็นด้วยกับร่างสูง

'ก่อนหน้านี้เราพุ่งเข้าไปซุกเขาด้วยสิ ทำไงดี ชุดเปื้อนด้วย เขาจะโกรธมั้ยนะ...'

ตลอดทางนั้นนัยห์ตาสีทับทิมก็แอบลอบมองใบหน้าคมเป็นพักๆ เพื่อสังเกตุว่าอีกฝ่ายจะไม่โมโหจนถึงขั้นโยนเขาลงจากรถใช่มั้ย

....

ผ่านไปซักพักรถคันหรูก็มาจอดอยู่ที่คฤหาสถ์หลังใหญ่พร้อมกับมีบอดี้การ์ดเดินมาเปิดประตูให้กับผู้เป็นนาย

"บอกแม่บ้านเตรียมชุดสำหรับเด็กคนนี้ไว้ด้วย....มาสิ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับบอดี้การ์ดที่มารอรับ ก่อนจะหันมาหาร่างบางที่ยังนั่งอยู่ในรถ

"เอ้ะ อ่า ครับๆ" ร่างบางที่จ้องใบหน้าคมมาตลอดทางนั้นสะดุ้งโหยงก่อนจะคิดหันไปเปิดประตูทางฝั่งตนเอง แต่ก็ติดปัญหาใหญ่คือ..

ไอนี่มันเปิดยังไง???

"ฮึบ..อือ..ฮึบ เหวอ!"

ตุ้บ!

มือเล็กๆพยามกดๆดันๆประตูจนสุดท้ายก็เป็นบอดี้การ์ดที่มายืนรออยู่ข้างรถเป็นคนเปิดประตู จนทำให้ร่างบางที่กำลังออกแรงดันทรงตัวไม่อยู่จนกลิ้งตกลงไปกองอยู่บนพื้นข้างล่าง

"อูย..." มือเล็กๆลูบจมูกตัวเองที่ขึ้นสีระเรื่อปอยๆก่อนจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปหาร่างสูงโดยที่เว้นระยะห่างเอาไว้ จมูกโด่งเชิ่ดรั้นขึ้นสีระเรื่อจากการตกลงไปกระแทกพื้นเมื่อซักครู่

"เป็นอะไรไหม..." เซฟิโล่ปรายตามองร่างเล็กที่เดินตามหลังเขามาด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง มุมปากมีรอยยิ้มประดับนิดๆ ตอนเห็นท่าทางของเด็กหนุ่มตอนออกมาจากรถ ก่อนจะปรับสีหน้าเรียบเฉยดังเดิมและถามออกไปด้วยความเอ็นดู

"คะ แค่นี้ไม่เจ็บซักนิด!!" น้ำเสียงที่เเสดงถึงความไม่พอใจตอบคำถามร่างสูง ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บตรงจมูกแต่ก็ไม่อยากแสดงท่าทีอ่อนแอให้ร่างสูงตรงหน้าเห็นเลยซักนิด

'ไอท่าทางน่าหมั่นไส้นั่นมันอะไรกัน ฮึ่มๆ!'

ได้แต่คาดโทษอยู่ในใจ..

ร่างสูงสมส่วนเดินนำเด็กหนุ่มมาถึงยังห้องน้ำภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ ภายในห้องน้ำมีทั้งอ่างจากุชชี่และโซนที่เป็นฝักบัว มีแม้กระทั่งโซนที่ไว้สำหรับอบซาวน่า ซึ่งเซฟิลเลือกที่จะพาร่างบางมายังโซนที่เป็นฝักบัวเพื่อให้ง่ายต่อการอาบน้ำที่สุด

"อาบเองได้ไหม?"

ใบหน้าคมหันมาถามกับเด็กหนุ่มตัวน้อยที่เดินตามเขามาต้อยๆ จากที่เห็นปฎิกิริยาตอนลงจากรถ ทำให้เขาไม่มั่นใจว่าเด็กคนนี้จะใช้อุปกรณ์พวกนี้เป็นไหม และดูจากส่วนสูงของร่างเล็กแล้วแทบจะเอื้อมไม่ถึงฝักบัวที่แขวนอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าหัวไหล่ของเขาเล็กน้อยเสียด้วย

"แค่อาบน้ำใครจะทำไม่เป็นกัน!"

ถึงร่างบางจะทำเป็นพูดดีอย่างมั่นใจก็เทอะ แต่เขาก็พยามจะเดินไปเอื้อมมือหยิบฝักบัวที่ดูท่าแล้วว่าคงจะต้องหาอะไรมาต่อขาจึงจะหยิบถึง

ร่างบางถอดใจแล้วเริ่มมองหาอย่างอื่นแทนจนกระทั่งเห็นอ่างล้างหน้าจึงฉีกยิ้มดีใจแล้ววิ่งไปยืนตรงอ่างล้างหน้าแทนทันที ร่างเล็กๆปีนขึ้นไปนั่งบนอ่างพร้อมกับหมุนๆก้อกน้ำอย่างงงๆ เมื่อเห็นว่าน้ำไหลแล้วจึงถอดเสื้อผ้าขาดๆออกแล้วเปลี่ยนร่างเป็นร่างกระต่ายสีเขียวอมฟ้าแทน

ปุ้ง! จ๋อม!...เจ้ากระต่ายตัวน้อยโดดลงไปในอ่างน้ำแล้วเเช่อย่างสบายใจแถมยังเชิ่ดใบหน้ารั้นๆขึ้นเหมือนจะสื่อว่าเป็นไงล่ะ แค่นี้ก็อาบน้ำได้แล้ว

"หึ..."

ร่างสูงมองกระต่ายตัวเล็กที่ทำเป็นเก่งจนกระทั่งหาวิธีอาบน้ำให้ตัวเองจนได้เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปยังอ่างล้างหน้าที่มีน้ำเกือบจะท่วมกระต่ายขนปุยอยู่แล้ว ถ้าเปลี่ยนร่างแบบนี้แล้วจะฟอกสบู่ยังไงล่ะ

มือแกร่งบิดก๊อกเพื่อปิดก่อนจะกดสบูเหลวกลิ่นหอมที่วางอยู่แถวนั้นใส่มือแล้วค่อยๆ ขยี้เบาๆ ลงบนก้อนขนที่กำลังแช่น้ำอยู่สบายใจ

"งี้ด!! งี้ดๆๆๆ"

"อยู่เฉยๆ"

เซฟิโล่ดุเจ้ากระต่ายที่ดิ้นต่อต้านเขาตอนที่มาอาบน้ำให้ มือแกร่งค่อยๆเกาๆขยี้ขนนุ่มเบาๆสลับกับนวดไปด้วยเบาๆสักพัก ก่อนจะเปิดน้ำอีกรอบเพื่อล้างสบู่ออกจากเจ้าก้อนขน

เจ้ากระต่ายตัวน้อยที่กำลังภูมิใจกับการอาบน้ำเองของตนอยู่นั้นเป็นอันต้องสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ก็ถูกมือใหญ่จับลงบนขนนุ่ม เท้าเล็กพยามถีบๆ มือใหญ่พร้อมทั้งยังดิ้นไปมา เเต่พอถูกเสียงทุ้มดุใส่ก็ยอมอยู่นิ่งๆ ไม่ดิ้นอีก

โดนขยี้โดนเกาไปซักพักใบหน้าเล็กๆ ก็แสดงถึงความพึงพอใจเคลิ้มไปกับสัมผัสของร่างสูง ในตอนที่ถูกผ้าเช็ดตัวห่อเอาไว้นั้น ใบหน้าเล็กแสดงถึงความเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้ถูกเกาแล้วแต่ก็ยอมเปลี่ยนร่างกลับแต่โดยโดยดี

ก๊อกๆ

"คุณชายป้าเอาผ้าเช็ดตัวกับชุดของคุณหนูมาให้ค่ะ" เสียงของหญิงสาววัยกลางคนดังขึ้นที่หลังบานประตูห้องน้ำ พอดีกับที่ร่างสูงล้างสบู่ออกให้เจ้าตัวน้อยเสร็จพอดี

"เอาเข้ามา...เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง ป้าไปพักเถอะ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคนด้านหลังประตู ก่อนที่ร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนจะเดินเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัว มือแกร่งหยิบผ้าเช็ดตัวมาห่อเจ้ากระต่ายน้อยเอาไว้ ส่วนเสื้อผ้าแม่บ้านคนนั้นก็วางเอาไว้ใกล้ๆ เขาในจุดที่ไม่เปียกแล้วเดินออกไป

"เช็ดตัว..แล้วก็แต่งตัวให้เรียบร้อย...แค่นี้คงทำเป็น" เสียงทุ้มเอ่ยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป

"ใครบ้างทำไม่เป็น! ปกติผมเป็นคนใส่ให้น้องๆด้วยซ้ำ!" นอกจากจะไม่ยอมแพ้แล้วยังอวดสรรพคุณตัวเองกลายๆด้วย มือเรียวพยามเอาผ้าเช็ดตัวนุ่มๆเช็ดตัวให้แห้งก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้ามาดู

เสื้อคอกลมสีขาวและกกน.นั้นสามารถใส่ได้เองอย่างง่ายดาย แต่พอมองเอี้ยมสีฟ้าที่อยู่ตรงหน้านั้นร่างบางทำได้แค่เอียงคอมองอย่างงุนงุง

มันใส่ยังไง???

ร่างบางพยามจะใส่เองแต่พอใส่แล้วก็ร่วงลงไปอยู่ตรงข้อเท้าเหมือนเดิม ส่วนสายเอี้ยมนั้นตนไม่รู้จะทำยังไงจึงเอามาผูกกันแล้วมัดผูกปมให้เเน่นๆกางเกงจะได้ไม่หลุดอีก

"เสร็จแล้ว!"

ร่างบางในชุดเสื้อคอกลมกับเอี้ยมที่สายโดนใช้เป็นเชือกผูกเอวนั้นเดินออกมาหาร่างสูงที่รออยู่ด้านนอกห้องน้ำ พร้อมทั้งอ้าแขนโชว์ให้ร่างสูงเห็นการแต่งตัวเองของเขาอย่างเต็มตาด้วยท่าทางอวดดี

'หึ แค่ใส่เสื้อผ้าง่ายจะตาย'

เมื่อได้ยินเสียงใสเล็กๆ ดังขึ้น เซฟิโล่จึงหันไปมองทางประตูห้องน้ำ พอเห็นสภาพของร่างเล็ก ก็นึกเอ็นดูในใจ ตรงข้ามกับคำพูดที่พูดออกมา"ไหนว่าใส่เป็น แล้วจะดูแลเด็กๆ ได้ยังไง"

เซฟิโล่ใช้ร่างที่สูงใหญ่กว่าต้อนให้เด็กหนุ่มตัวน้อยกลับเข้าไปในห้องน้ำ แล้วนั่งลงเพื่อจะได้แต่งตัวให้ร่างบางได้ถนัด มือแกร่งแก้สายเอี้ยมที่มัดเป็นปมอยู่ตรงเอวออก แล้วแต่งให้ใหม่อย่างถูกต้องเสียงทุ้มก็เอ่ยสอนไปด้วย

"อันนี้ต้องใส่แบบนี้....อ่ะเสร็จแล้ว เธอทำไม่ได้ก็บอกไม่ได้ ไม่ต้องทำเก่งต่อหน้าฉันก็ได้ ยังไงเธอก็ยังเด็กอยู่ดีจะขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครว่าเธอหรอกนะ"

"อึก.."

เมื่อโดนพูดเรื่องดูเเลเด็กๆ ก็ดูเหมือนว่าใบหน้าหวานจะดูหม่นลง เขายอมยืนนิ่งๆ ให้ร่างสูงจัดเสื้อผ้าให้ใหม่พร้อมทั้งจดจำวิธีใส่ที่ถูกต้องเอาไว้ ใบหน้าหวานยังคงฉายแววกังวลอยู่ แต่พอได้ยินประโยคสุดท้ายของร่างสูง ใบหน้าหวานที่ก้มงุดอยู่ก็ค่อยๆ เงยหน้ามองใบหน้าคมอย่างอึ้งๆ เพราะไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับตนมาก่อน

"อื้อ..." ใบหน้าหวานพยักหน้ารับเงียบๆ

หลังจากที่แก้สายเอี้ยมเสร็จร่างสูงก็เดินนำเด็กหนุ่มออกมาจากห้องน้ำแล้วจับร่างเล็กนั้นนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ร่างบางเองก็เดินตามแผ่นหลังกว้างของร่างสูงไปอย่างว่าง่ายเมื่อนั่งลงก็มองสภาพตัวเองในกระจกอย่างอึ้งๆ เพราะเขาไม่เห็นตัวเองชัดๆ แบบนี้มาก่อน

มือแกร่งหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าเส้นผมสีเขียวมิ้นให้แห้ง ลมอุ่นๆ ที่ถูกเป่าลงบนเส้นผมทำให้ใบหน้าหวานดูเคลิ้มคล้ายจะหลับ ร่างสูงค่อยๆ หวีเบาๆ ให้ไม่พันกัน ระหว่างนั้นก็ถามคำถามที่ควรจะถามตั้งแต่แรกๆ นานแล้ว

"เธอชื่ออะไร?" เสียงทุ้มเอ่ยถามเด็กชายร่างผอมที่นั่งอยู่ตรงหน้า

"....327" เด็กน้อยเงียบไปซักพักก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา

"มันเป็นชื่อเรียกลำดับทาสน่ะ.." เสียงเล็กๆพูดอธิบายอย่างเศร้าหมองเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูสงสัยของร่างสูงที่สะท้อนจากบานกระจกด้านหน้า มือเล็กๆกำเอี้ยมของตนแน่น หยาดสีใสคลอหน่วยที่หางตา

"...งั้นต่อไปนี้ฉันจะเรียกนายว่า 'นีล' ตกลงไหม"

เซฟิโล่พอได้รับคำตอบจากร่างเล็กตรงหน้าก็ชะงักไปนิดนึง แล้วเริ่มหวีผมให้กับเด็กหนุ่มต่อพร้อมกับตั้งชื่อใหม่ให้ ส่วนในหัวก็เริ่มคิดที่จะส่งพวกเด็กๆ ให้ได้เข้าเรียนเพื่อที่จะสามารถเอาตัวรอดได้เมื่อโตขึ้น รวมถึงนีลด้วย

"ส่วนชื่อของเด็กคนอื่นๆ ฉันจะให้เธอเป็นคนตั้งให้ พวกเขาคงจะดีใจมากกว่าแต่ถ้าคิดไม่ออกก็ให้เฟียร์ช่วยคิด หมอนั่นน่ะเชี่ยวชาญเรื่องนี้พอสมควร"

พอหวีผมเสร็จเขามือแกร่งก็เผลอลูบหัวน้อยๆ โดยที่ไม่รู้ตัว เสียงทุ้มเอ่ยถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงด้วยความอ่อนโยน

"ไปหาเด็กๆ กันเลยไหม"

"อื้อ ตกลง..ขอบคุณนะครับ..."

ใบหน้าหวานหันกลับไปมองใบหน้าคมก่อนจะยิ้มหวานอีกฝ่ายอย่างดีใจราวกับเด็กๆ

...

หลังจากที่เดินทางมาถึงบ้านพักร่างบางก็รีบลงจากรถเองอย่างรวดเร็วเพราะร่างสูงสอนวิธีเปิดปิดให้แล้ว เมื่อไปลงไปก็พบกับเหล่าเด็กๆที่ใบหน้าดูสดใสขึ้นแถมยังได้ใส่ชุดใหม่น่ารักๆกันทุกคนเลย

"เด็กๆ!!"

"พี่ฮะ/พี่จ๋า"

เหล่าเด็กๆวิ่งมาหาร่างบางที่ก็วิ่งไปหาพวกเด็กๆเช่นกัน มือเรียวรวบตัวเด็กๆเข้ามากอดเท่าที่จะทำได้พร้อมทั้งลูบหัวพวกตัวเล็กให้ครบทุกคน

"เป็นเด็กดีกันใช่มั้ย ไม่ดื้อกันนะ เก่งมากครับ.."

"ขอบคุณที่ดูเเลเด็กๆให้นะครับ"

เสียงหวานเอ่ยถามไถ่พวกตัวเล็กก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วหันไปก้มหัวให้เหล่าพ่อบ้านแม่บ้านและบอดี้การ์ดหน้าโหดทั้งหลาย พวกเด็กๆเองก็ก้มหัวขอบคุณตามร่างเล็กกันอย่างขยันขันแข็งดูราวกับแม่เป็ดในดงลูกเป็ดที่เดินตามกัน

เหล่าพ่อบ้านและแม่บ้านที่คอยมาดูแลพวกเด็กๆ เผยรอยยิ้มเอ็นดูออกมา ส่วนเหล่าบอดี้การ์ดก็มีความรู้สึกเดียวกันแต่ด้วยสถานะจึงทำได้แค่อมยิ้มมุมปากเท่านั้น

"เอาล่ะๆ ...ทุกคนนี่ก็ดึกแล้ว และพี่ของพวกเธอก็มาแล้ว...เพราะฉะนั้นเราไปกินข้าวแล้วก็เข้านอนกันดีกว่าเนอะ~~"

"ค้าบ~/ค่า~

ชายหนุ่มผมแดงที่ระหว่างรอเซฟิลก็ได้ทำความคุ้นเคยกับเด็กๆ มาระดับนึงแล้ว เด็กๆ จึงไม่กลัวเขาเท่าตอนแรก ส่วนพวกแม่บ้านพ่อบ้านเมื่อมาถึงก็แบ่งทีมกัน ทีมหนึ่งพาพวกเด็กๆ ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ส่วนอีกทีมก็ทำอาหารเตรียมไว้

"เซฟิล~~~"

ระหว่างที่พวกเด็กๆ ไปทานข้าวกันชายหนุ่มร่างสูงสองคนก็ยืนมองดูความเรียบร้อยอยู่ข้างหลัง ชายหนุ่มผมแดงก็เอ่ยแซวขึ้นด้วยน้ำเสียงทะเล้น ซึ่งเจ้าของชื่อก็ทำเพียงปรายตามองด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

"..."

"นายชอบกระต่ายน้อยตัวนั้นหรอ~...ทำไมมาด้วยกันได้ล่ะะะ :) "

"เรื่องของฉัน" เสียงทุ้มเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เช่นเดิมพร้อมกับเดินหนีออกมาด้วยความรำคาญ

"แหมๆ"

ชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีแดงมองตามแผ่นหลังของเพื่อนตัวเองด้วยสายตากรุ้มกริ่มก่อนจะไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ

.....

"เด็กๆค่อยๆกินนะ..หือ?.."

"เอ่อ...ขอโทษนะครับ คนที่มาส่งผมไปไหนแล้วหรอครับ?"

ในระหว่างที่ระหว่างช่วยเหล่าแม่บ้านยกจานอาหารมาให้เด็กๆจนครบนั้น ร่างบางก็พึ่งสังเกตุว่าคนที่มาส่งตนนั้นไม่ได้ตามเข้ามาด้านในด้วย จึงเดินไปถามพี่ๆบอดี้การ์ดแถวๆนั้นเอา

"นายท่านอยู่ที่รถด้านนอกครับ กำลังเตรียมตัวกลับคฤหาสน์"

"ขอบคุณครับ!!"

ร่างบางรีบก้มหัวขอบคุณบอดี้การ์ดหน้าโหดก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากบ้านพักเพื่อจะขอบคุณผู้มีพระคุณของตนอีกครั้ง

"เดี๋ยว รอก่อน!" เสียงหวานพยามตะโกนร้องเรียกหวังให้คนบนรถได้ยินทว่าระยะมันห่างเกินไป

'ไม่ทันแน่...เอาไงดี..อ้ะ ไอนั่นไง!!'

ปุ้ง!

นัยห์ตาว่องไวมองไปยังแผ่นไม้ที่ถูกวางเอาไว้ก่อนจะวิ่งไปเหยียบแผ่นไม้แล้วดีดตัวไปหาร่างสูงที่กำลังจะปิดประตู เปลี่ยนร่างกลางอากาศกลายเป็นกระต่ายตัวเล็กๆพอที่จะลอดผ่านช่องของประตูรถเข้ามาไปอย่างหวุดหวิด

ตุบ!!

ก่อนจะล่วงลงบนตักแกร่งของร่างสูง

"..นีล?" เซฟิลที่เห็นว่ามีก้อนขนอะไรบางอย่างหล่นลงมาบนตักก็แปลกใจเพราะเป็นเจ้ากระต่ายตัวน้อยที่คุ้นตา

"ทำไมมาอยู่ที่นี่?...ไม่อยู่กับพวกเด็กๆหรอ?" ในขณะที่ถามมือแกร่งก็ลูบหัวและตัวของเจ้ากระต่ายตัวน้อยบนตักไปด้วยอย่างเพลินมือ

ปุ้ง!

"คือว่า...คือผม..ผมคิดว่าในระหว่างที่เด็กๆ ยังไม่แข็งแรง ผมควรที่จะช่วยเหลือคุณในระหว่างนั้นตอบแทน...ถึงจะยังไม่รู้ว่าตัวเองจะช่วยอะไรได้บ้าง.." ร่างกระต่ายเล็กๆ เปลี่ยนไปแทนที่ด้วยร่างบางอ้อนแอ้นลู่ลมเเทน ใบหน้าหวานนั้นแสดงสีหน้าทั้งจริงจังและกังวล

เรือนร่างเปลือยเปล่านั้นนั่งคร่อมอยู่บนตักแกร่งอย่างหมิ่นเหม่ แถมมือแกร่งที่ในตอนแรกกำลังลูบขนนุ่มอย่างเพลินมือนั้น กลับถูกวางอยู่บนแผ่นอกบางและบั้นท้ายนุ่มอย่างพอดิบพอดี

"ช่วย..ชะ ชะ ช่วย..ช่วย.." ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อเมื่อเริ่มสังเกตุเห็นว่าสภาพของเขาและร่างสูงในตอนนี้นั้นช่างดูน่าเข้าใจผิดเสียเหลือเกิน ดูเหมือนว่าร่างเล็กนั้นจะเริ่มพูดไม่ออกเสียแล้ว และร่างขาวๆ ก็เริ่มขึ้นสีชมพูจางๆจากอาการเขินแล้วด้วย

"เธอจะช่วยฉันยังไงล่ะ...หืม" เสียงทุ้มแหบกระซิบอยู่ใกล้ๆ หูยาวของร่างบางบนตัก ในขณะที่มือแกร่งก็ลูบไล้ไปตามผิวเนียนนุ่ม โดยเฉพาะบริเวณใกล้ๆ บั้นท้าย ทั้งๆ ที่ผ่านเรื่องมามากมายแต่กลับมีผิวพรรณที่ดีมากกว่าลูกคุณหนูหลายๆ คนเสียอีก

"เริ่มจากตอนนี้เลยดีไหม.."

"ช่วย อึก..มะ ไม่เอา.."

นัยห์ตาสีทับทิมเริ่มพล่าเบลอเพราะเสียงทุ้มเเหบกระซิบที่ข้างหูยาวๆ จนมันตั้งตรงอย่างตื่นตระหนกแถมยังมีท่าทีที่คิดจะทำอะไรๆ มากกว่าเดิมทำให้ใบหน้าหวานเริ่มส่ายหน้าไปมาอย่างหวั่นๆ แต่เเล้วกลับกลายเป็นว่าเสื้อสูทตัวใหญ่นั้นถูกคลุมลงบนไหล่ของเขาทำเอาร่างที่เริ่มสั่นหยุดลงอย่างง่ายดาย

เมื่อแกล้งร่างเล็กจนพอใจเซฟิลก็ถอดเสื้อนอก ออกทำทีเหมือนจะทำมากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ทำเพียงแค่เอามาคลุมตัวร่างบางไว้เพื่อไม่ให้ใครเห็นไปมากดว่านี้ แล้วอุ้มลงมาวางตรงเบาะด้านข้างตนแทน

"ถ้าเธออยากจะทำตัวให้มีประโยชน์กับฉัน เธอแค่คอยดูแลพวกเด็กๆ เหมือนที่ผ่านมาก็พอ แต่เธอต้องมาเรียนที่คฤหาสน์ใหญ่ ฉันจะให้ครูมาสอนหนังสือพวกเด็กๆ รวมทั้งเธอด้วยแต่เธอจะต้องเรียนหนักกว่าคนอื่น"

"ตกลงไหม" เสียงทุ้มเอ่ยเสนอออกมายาวๆ นิ้วเรียวเชยคางเล็กให้สบสายตากับนัยตาสีอเมทิสในระหว่างที่อธิบาย

"ตะ ตกลง! จะเรียนหรือว่าอะไรก็มาเทอะ! เรื่องแค่นี้สบายมาก!"

ใบหน้าหวานที่ไม่หลงเหลือความตกใจแล้วนั้นกอดอกเชิ่ดหน้าขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจเต็มที่ มันช่างดูน่าหมั่นเขี้ยวเสียเหลือเกิน

"อ้อ ถ้ารอบหน้าคุณคิดจะทำตัวเป็นปลาหมึกอีก ต่อให้เป็นผู้มีพระคุณ ผมก็จะต่อยแน่"

นัยห์ตาทับทิมตวัดมองใบหน้าคมพร้อมทั้งหรี่ตามองด้วยสายตาคมกริบ พูดขู่ไม่พอยังยกมือที่กำแน่นขึ้นมาให้ดูเป็นการขู่เพิ่มไปอีก

"ผมไปล่ะ คุณก็กลับบ้านดีๆนะ ระวังตัวด้วย"

มือเล็กหันไปเปิดประตูรถก่อนจะลงไปยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มแฉ่งราวกับเด็กๆก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบเสื้อผ้าของตนที่วางอยู่บนพื้นไปแอบแต่งตัวหลังต้นไม้แล้วรีบวิ่งกลับเข้าบ้านพักไปพร้อมกับเสื้อสูทของร่างสูง

"หึ....เธอมาอ่อยฉันก่อนเอง....ถ้าเป็นคนอื่นเธอไม่ได้มานั่งขู่ฉันหรอกนะ"

เซฟิลหัวเราะในลำคอ กับท่าทางที่น่ารักมากกว่าน่ากลัวนั่นของร่างบาง อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเล็กน้อย

หลังที่ร่างเล็กลงไปแล้ว เซฟิลก็สั่งให้คนสนิทขับรถกลับคฤหาสน์ใหญ่ แล้วสั่งให้จัดการเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อย

....

พอกลับมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ก็สั่งแม่บ้านให้เตรียมจัดข้าวของไว้สำหรับคนตัวเล็ก

แกร๊ก

ร่างสูงสมส่วนเดินเข้ามาภายในห้องกว้างและเดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียง มือแกร่งยกขึ้นมาในระดับสายตา ภาพเรือนร่างเล็กขาวเนียนเข้ามาในความคิดสัมผัสนุ่มลื่นยังติดอยู่ที่มือ

แวบนึงมีความคิดบางอย่างผุดเข้ามาในหัว แต่เขาก็สะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกไปก่อนจะลุกไปอาบน้ำแล้วมานั่งเคลียเอกสารของบริษัทต่อสักพักแล้วจึงเข้านอน..

ดุครั้งที่2

เช้าวันต่อมา หลังจากที่ร่างบางตื่นขึ้นมาก็พาน้องๆอาบน้ำพร้อมทั้งเรียนรู้วิธีใช้ห้องน้ำไปพร้อมกับน้องๆ พาไปทานข้าวเช้าให้เรียบร้อยก่อนจะส่งต่อให้เหล่าแม่บ้านดูแลเด็กๆต่อ ตอนนี้เขาได้ทำการตั้งชื่อให้กับน้องๆจนครบทุกคนแล้วโดยมีเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านและบางครั้งก็ไปถามพี่บอดี้การ์ดหน้าโหดแต่ใจดีช่วยเหลือในการตั้งชื่อน้องๆของเขา

"เด็กๆดูแลตัวเองน้า ห้ามดื้อกับพี่ๆเขานะ"

"คร้าบบ/ค่าา"

เสียงเด็กๆขานรับกันอย่างขยันขันแข็งก่อนจะพากันโบกมือยืนส่งพี่ชายร่างบางที่ขึ้นรถไปกับพี่บอดี้การ์ดหน้าโหด

....

"ถึงจะเคยมาแล้วครั้งนึงก็เทอะนะ...พอมองดูดีๆแล้วใหญ่ชะมัดเลย" ร่างบางที่ลงมาจากรถเงยหน้ามองสิ่งปลูกสร้างตรงหน้าที่ชื่อว่าคฤหาสน์พร้อมทั้งบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินตามแม่บ้านเข้าไปด้านใน สายตาก็มองไปรอบๆอย่างสำรวจและสนอกสนใจ

"นายท่านคะ คุณหนูนีลมาแล้วค่ะ"

"คะ คุณหนู!?"

เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นพร้อมกับเสียงแม่บ้านที่บอกธุระ ในระหว่างนั้นก็มีเสียงเล็กๆแลดูตกใจแทรกขึ้นมาด้วย

"เข้ามา..." เสียงทุ้มเอ่ยอนุญาตแต่เจ้าของห้องไม่ได้เงยหน้าออกจากเอกสารกองโตเลยซักนิด

"พานีลไปเดินดูรอบๆ แล้วก็ทำตามที่สั่งไว้เมื่อวานเลย" เซฟิลเอ่ยสั่งงานอย่างชัดเจน อีกครั้งแล้วเงยหน้ามามองร่างบางก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเมื่อกี้นิดหน่อย

"อย่าดื้อล่ะ สงสัยอะไรก็ถามแม่บ้าน ถ้ามีคนมารายงานฉันว่าเธอดื้อ เธอจะโดนลงโทษ"

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ!!"

ฮึ่ม!

เสียงหวานเอ่ยตอบกลับร่างสูงอย่างลืมตัวพร้อมทั้งยังชูกำปั้นขึ้นมาระดับเดียวกับหน้าของตนเองคาดโทษร่างสูงไปด้วย

"หึ ไปได้" เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะเอ่ยสั่งกับแม่บ้านแล้วก้มลงไปอ่านเอกสารบนโต๊ะต่อ

"ค่ะนายท่าน...ทางนี้เลยค่ะคุณหนู"

แม่บ้านโค้งรับคำสั่งแล้วผายมือเป็นการเชื้อเชิญให้เด็กหนุ่มเดินตามตนมา ร่างบางที่พึ่งรู้สึกตัวว่าทำกิริยาไม่น่ารักก็ลุกลี้ลุกลนแล้วรีบวิ่งหนีตามคุณแม่บ้านไปแทนในทันที โดยไม่ลืมปิดประตูให้ร่างสูงเสียงดัง จากนั้นแม่บ้านก็พานีลไปเดินดูรอบๆ คฤหาสน์ตามคำสั่งของนายท่าน พร้อมกับคอยสอนไปด้วยว่าอะไรเรียกว่าอย่างไรใช้งานแบบไหน เมื่อลงมาด้านล่างการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ก็เริ่มขึ้น สิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยสัมผัสทำให้ใบหูยาวของเจ้ากระต่ายตั้งอยู่เเทบจะตลอดเวลาเพราะความตื่นตระหนก ยิ่งของในห้องครัวก็เผลอไปหมุนเตาเกือบหวิดจะไฟไหม้บ้าน ทำเอาร่างบางที่เดินตามคุณแม่บ้านมาทั้งวันเหนื่อยแทบหนังตาจะปิด

...

พอพาเดินประมาณ 1/4 ของคฤหาสน์ก็เริ่มที่จะเย็นมากแล้ว แม่บ้านจึงพาร่างบางมาส่งยังห้องนอนของเซฟิโล่ แต่ตัวเจ้าของห้องนั้นยังนั่งทำงานอยู่ที่ห้องทำงานข้างๆ ห้องนอนอยู่

"ขอบคุณนะครับที่ช่วยสอนผมวันนี้"

"ยินดีค่ะคุณหนู ดิฉันขอตัว"

ถึงแม้จะง่วงมาจนอยากทิ้งตัวลงนอนตรงพื้นนี้เลย แต่ร่างบางก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้คุณแม่บ้านพร้อมทั้งก้มหัวขอบคุณ นั่นทำให้คุณแม่บ้านรู้สึกเอ็นดูร่างบางมากยิ่งขึ้น

เธอเอื้อมมือไปเปิดประตูให้ร่างบางเดินเข้าไปด้านในห้องนอนก่อนจะปิดลงเบาๆ เมื่อร่างบางเข้าไปด้านในเรียบร้อยแล้ว

"เหนื่อยชะมัด...นุ่ม" ร่างบางที่เดินมาจนถึงเตียงก่อนจะทิ้งตัวลงไปทั้งๆ แบบนั้น เสียงสุดท้ายหายไปพร้อมกับสติ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอเป็นตัวบอกอย่างดีว่าคนบนเตียงเข้าห้วงฝันไปเสียแล้ว

แกร๊ก

แอด~

หลังจากที่นีลหลับไปสักพัก ประตูห้องก็ได้เปิดออกพร้อมกับร่างของเจ้าของตัวจริงที่เดินเข้ามา

"..." เซฟิโล่เดินมาดูเจ้ากระต่ายที่หลับปุ๋ยอยู่บนเตียงใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น

เขาเลือกที่จะเดินไปอาบน้ำให้สบายตัว เสร็จแล้วจึงมาที่เตียงขนาดคิงไซส์ แล้วจึงอุ้มร่างเล็กบนที่นอนให้นอนสบายที่สุด ห่มผ้าให้แล้วจึงขึ้นไปนอนบนที่นอนเหมือนปกติ โดยที่ไม่ไปเบียดร่างบางให้อึดอัด

"อือ...อุ่น.." ร่างเล็กๆ ที่หลับปุ๋ยไปแล้วขยับเล็กน้อยตอนที่พื้นที่ข้างๆ ยุบลง ก่อนที่เจ้าของร่างนั้นจะขยับผลิกมาหาคนข้างตัวแทน

ใบหน้าหวานซุกเข้ากับอกแกร่งอย่างเผลอไผลมือและขาเล็กๆ ยกขึ้นกอดก่ายอีกฝ่ายเหมือนกับว่าเป็นหมอนข้าง และเสียงหวานที่งัวเงียพึมพำเบาๆ ก่อนจะเงียบไปเหลือแต่เสียงหายใจเหมือนเดิม

เซฟิลที่เห็นปฎิกิริยาของคนที่หลับไปแล้วก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้ร่างเล็กใช่เขาเป็นหมอนข้างต่อไป แล้วจึงเข้าสู่ห้วงนิทราไป

...

เช้าวันต่อมา

เซฟิลตื่นมาสักพักแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ขยับไปไหนเพราะกลัวร่างเล็กที่กำลังซุกอกแล้วกอดเขาอยู่เพราะคิดว่าเป็นหมอนข้าง ตอนนี้เขากำลังนอนมองเจ้ากระต่ายน้อยที่ตอนนี้ก็ดูน่ารักไม่มีพิษภัยอะไร แต่พอตื่นจะกลายเป็นเจ้ากระต่ายแสนซนที่ค่อนข้างจะแสบพอตัว

เนื่องจากเป็นการเรียนแบบส่วนตัวจึงไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาเรียน ตอนนี้เขาเลยปล่อยให้เจ้ากระต่ายนอนหลับต่อไปผ่านไปสักพักเมื่อเห็นว่าร่างเล็กนั้นรู้สึกตัวตื่นแล้วเขาจึงทำเป็นยังหลับอยู่เพื่อดูปฏิกิริยาของเจ้ากระต่ายน้อย

"อือ...งืมๆ งื้อออ~" ร่างเล็กเริ่มขยับตัวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังจะตื่น เจ้ากระต่ายตัวนุ่มพยามยืดตัวบิดขี้เกียจแต่พอเริ่มยืดเเขนยืดขาก็ติดเข้ากับอะไรบางอย่างจนทำให้คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างรู้สึกไม่พอใจราวกับเด็กที่ถูกขัดใจ

"หือ?..." เปลือกตาสีไข่มุกค่อยๆเปิดขึ้นช้าๆ ดวงตากลมโตสีทับทิมมองร่างที่อยู่ตรงหน้าซักพักด้วยใบหน้าที่ทั้งงุนงงและง่วงงุน

"นี่..นี่แก!! ทำไมแกถึงมานอนอยู่ในห้องของฉันได้กันห้ะ!!?" เมื่อตาเริ่มสว่างความง่วงเริ่มค่อยๆหายไป ใบหน้าหวานก็เปลี่ยนเป็นทั้งหงุดหงิดและตกใจแทน น้ำเสียงหวานตะโกนอย่างเเข็งกร้าวพร้อมทั้งร่างเล็กๆที่ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ก้มมองร่างกายตัวเองว่าเสื้อผ้ายังอยู่ครบหรือไม่พร้อมทั้งจ้องเขม็งใบหน้าคมของร่างสูงที่นอนตรงหน้า

"อือ..." ร่างสูงที่ทำเป็นแกล้งหลับอยู่นั้นทำทีว่าพึ่งตื่นตอนที่ได้ยินเสียงหวานตะโกน ก่อนจะพูดแกล้งต่อ ด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า

"...เธอมานอนห้องฉันเองต่างหาก"

"แล้วก็ฉันอายุมากกว่าเธอหลายปีนะ...สุภาพหน่อยสิ เมื่อวานครูไม่สอนหรอ"

นิ้วแกร่งเชยคางน้อยๆ นั่นขึ้นมา ริมฝีปากได้รูปมีรอยยิ้มประดับนิดๆ เพราะกำลังสนุกที่ได้แกล้งเจ้าตัวน้อย เสียงทุ้มที่แฝงด้วยน้ำเสียงตำหนิกับพฤติกรรมของเด็กหนุ่มตรงหน้า

"ฉันควรจะลงโทษครูที่มาสอนพวกเธอ หรือควรลงโทษเธอดีล่ะ...หืม" ในระหว่างที่พูด ใบหน้าคมก็ค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าหวานจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจของกันและกัน นัยห์ตาสีอเมทิสจ้องเข้าไปในดวงตาสีทับทิมสวย

"ว่าไงล่ะ..."

"อึก คะ คือ ผม ฉัน..อย่ามาลุ่มล่ามนะ!!!"

เพี้ย!

ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีแดงขึ้นเรื่อยๆจนกลัวว่าจะระเบิด สุดท้ายมือเรียวก็เปลี่ยนจากกำมือเป็นฟาดมือปัดมือใหญ่ให้ออกห่างแทน คนตัวเล็กรีบกุลีกุจอลงจากเตียงอย่างลนลาน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างไว

คนบ้า!

ร่างบางกร่นด่าในใจพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออก เเต่พอเดินเข้าไปด้านในก็ลืมนึกไปว่าตนเอื้อมไม่ถึงฝักบัวนี่หว่า..

"เฮ้อ..จบที่อ่างล้างหน้าเหมือนเดิมสินะ" เสียงถอนหายใจอย่างปลงตกดังขึ้น เจ้าของเรือนผมสีเขียวอมฟ้าเอาผ้าเช็ดตัวไปวางปูไว้ข้างอ่างล้่างหน้าก่อนจะเปิดน้ำใส่แล้วเปลี่ยนร่างเป็นกระต่ายลงไปแช่เหมือนเดิม

...

"หึ…ชักจะสนใจแล้วสิ" ริมฝีปากได้รูปมีรอยยิ้มประดับอยู่ที่มุมปาก สายตาก็มองตามร่างเล็กที่เข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะเดินตามร่างเล็กนั้นเข้าไปในห้องน้ำเพื่อช่วยอาบน้ำ

แอ๊ด...

เสียงประตูห้องน้ำดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงสมส่วนที่ตอนนี้มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบเอวอยู่ เผยให้เห็นกล้ามหน้าท้องเป็นลอนอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำขาเรียวก้าวไปยังอ่างล้างหน้าที่มีเจ้าก้อนขนแช่อยู่เหมือนเมื่อวาน อย่างสบายอารมณ์

ด้วยความอยากรู้ว่าเจ้ากระต่ายน้อยจะอาบน้ำอย่างไรในร่างนี้ จึงยืนดูอยู่เงียบๆ โดยที่เจ้าตัวน้อยไม่รู้สึกตัว ผ่านไปสักพักก็เห็นว่าเจ้ากระต่ายที่แช่น้ำจนพอใจก็ กระโดดขึ้นมาจากอ่างล้างหน้า สบัดขนให้พอหมาดๆ แล้วกลิ้งลงบนผ้าเช็ดตัวเพื่อซับน้ำบนขนที่เหลือ

"แบบนั้นเขาไม่เรียกว่าอาบน้ำหรอกนะ หรือว่าตอนเธออาบน้ำให้น้องๆ เธอก็ทำแบบนี้เหมือนกัน" เซฟิโล่ที่ยืนเงียบมานานเดินเข้ามาอุ้มเจ้าตัวน้อยออกจากผ้าเช็ดตัวไปใส่ไว้ในอ่างเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าเจ้าก้อนขนจะดิ้นเพราะขัดขืน แต่เขาก็จับไว้อยู่หมัดได้เพียงมือเดียว

"เปียว~..เปียวๆ~ เปียว!? เปียวๆๆๆๆๆ!!" ในตอนที่กำลังกลิ้งไปกลิ้งมาบนผ้าเช็ดตัวอย่างสนุกอยู่นั้นจู่ๆ ก็ถูกมือของใครบางคนที่มาพร้อมเสียงทุ้มดุๆ อุ้มขึ้นไปซะงั้น กระต่ายน้อยแข็งค้างไปซักพักก่อนจะเริ่มดิ้นไปมาเเต่ก็ไม่สามรถหลุดจากมือคีมเหล็กนั่นได้

"การอาบน้ำน่ะคือการล้างสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย แค่น้ำอย่างเดียวน่ะล้างไม่หมดหรอก ถึงต้องมีสบู่ช่วยด้วย" เสียงทุ้มเอ่ยสอนไปด้วย ส่วนมือก็เกาขนปุยไปพลาง นวดไปพลาง จากนั้งจึงล้างสบู่ออก พร้อมกับเช็ดตัวให้แห้งพอหมาดๆ แล้วจึงอุ้มเจ้ากระต่ายออกไปด้านนอกวางไว้ข้างๆ กองเสื้อผ้าที่แม่บ้านเอามาให้เปลี่ยนวันนี้

"หึฟ!" สุดท้ายเจ้ากระต่ายน้อยก็ถูกร่างสูงอาบน้ำให้อีกครั้งเสียแล้ว แถมยังถูกบ่นตลอดเวลาเลยด้วย ใบหน้าเล็กๆ เชิ่ดหนีทำเป็นไม่ฟังอีกฝ่าย แต่ในใจก็พยามจดจำสิ่งที่ร่างสูงสอนเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะเจ็บใจแต่สิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นก็เป็นเรื่องจริง

"แค่แต่งตัวคงได้นะ ถ้าไม่ได้ก็เรียกป้าแม่บ้านมาช่วยแต่ง หรือไม่ก็อยู่ในร่างกระต่ายไปก่อน รอฉันอาบน้ำเสร็จจะออกมาแต่งให้"

ปุ้ง!

"แค่นี้ผมแต่งเองได้อยู่แล้ว หึ!" เจ้ากระต่ายตัวน้อยกลับมาเป็นเด็กหนุ่มร่างบางเหมือนเดิม นัยห์ตาทับทิมมองเสื้อผ้าที่ถูกพับวางเอาไว้อย่างสนอกสนใจก่อนจะหยิบขึ้นมาใส่

"อันนี้...เอ้ะ?..น่าจะ...อือ...เชือก??..งืม.." มือเล็กๆพยามติดกระดุมเสื้อเชิ้ตแต่ก็ติดแบบถูกๆผิดๆช่อง พอใส่เสื้อได้แล้ว (แบบไม่เรียบร้อย) ก็หันมาใส่เอี้ยมสีน้ำตาลออกส้มซึ่งรอบนี้เจ้าของเรือนผมสีเขียวผมฟ้าสามารถใส่มันได้อย่างถูกต้อง ก่อนจะหันไปเห็นผ้ายาวๆสีดำ เพราะไม่รู้ว่ามันคือไทด์สำหรับผูกเป็นโบว์จึงเลือกที่จะมัดเอาไว้ที่เชือกตรงเอี้ยมข้างนึงแทน

"เรานี่ก็เก่งใช้ได้นี่!" เมื่อเเต่งตัวเสร็จร่างบางก็ยืนเท้าเอวยืดอกอย่างภูมิใจในตัวเอง ช่างเป็นภาพที่น่าหยิกน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน

ร่างสูงที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยมาตรประธานบริษัทน่าเกรงขาม สูทสีดำสนิทกับเสื้อเชิ้ตสีขาวผูกไทด์ยาวสีน้ำเงินเข้มลายทาง พร้อมกับทรงผมที่เซตลวกๆ แต่ขับให้ใบหน้าที่หล่ออยู่แล้วดูดีมากขึ้นไปอีก

"กะแล้วเชียว" ใบหน้าคมส่ายไปมาอย่างเอ็นดู เสียงทุ้มพึมพำเบาๆ เมื่อเห็นสภาพเด็กหนุ่มที่กำลังภูมิใจกับการแต่งตัวของตัวเอง ถึงแม้จะใส่เอี้ยมได้ถูกต้อง แต่เสื้อเชิ้ตกลับติดกระดุมเสื้อไม่ตรง ไม่พอไทด์ที่เอาไว้ผูกตรงคอยังเอาไปผูกกับสายเอี้ยมอีก เซฟิโล่ไม่รอช้าเดินเข้าไปแต่งตัวให้เด็กหนุ่มใหม่ทันที พร้อมกับอธิบายเป็นการสอนแต่งตัวไปด้วย

"ฉันคงประเมินเธอสูงไปหน่อย..เสื้อต้องติดกระดุมแบบนี้ ดูให้ทั้งสองฝั่งเท่ากันแล้วติดแบบนี้ ส่วนอันนี้เป็นไทด์ต้องเอามาผูกแบบนี้ "

"อึก ฮึ่ม...หึ!" ความมั่นใจของเจ้ากระต่ายย้อยถูกร่างสูงพังลงอย่างง่ายดาย แก้มใสพองออกอย่างไม่พอใจสะบัดหน้าหนีไม่ฟังร่างสูง

....

"ไปกันเลยไหม ฉันจะไปส่งเธอที่บ้านพัก" เสียงทุ้มเอ่ยถามออกไปหลังจากที่หวีผมให้เด็กหนุ่มพร้อมกับมัดรวบไว้ต่ำๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว

"เอ้ะ วันนี้ไม่มีเรียนหรอ?" ร่างบางที่กำลังแง่งอนคนร่างสูงอยู่เมื่อครู่เป็นอันต้องแปลกใจเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย มือเล็กๆเอื้อมไปจับเเขนเสื้อของคู่สนทนาเอาไว้ก่อนจะเอ่ยถามพร้อมกับเอียงคออย่างสงสัย

'ไม่สอนแล้วหรอ???'

"มีสิ… ฉันจะไปส่งเธอนี่ไง ไปเรียนพร้อมพวกน้องๆ เหมือนเมื่อวานนี้น่ะ" เซฟิโล่อธิบายระหว่างที่กำลังเดินไปที่รถ ที่ให้ลูกน้องเอามาจอดไว้หน้าคฤหาสน์ เพราะวันนี้เขาจะเป็นคนขับเอง

"ถ้าวันนี้งานฉันเสร็จเร็วทันเวลาเธอเลิกเรียน ฉันจะไปรับแล้วพาไปทานข้าวข้างนอก..."

Rrr

ยังไม่ทันที่เซฟิลจะได้พูดจบก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาขัดซะก่อน ทำให้เขาต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอแล้วมารับโทรศัพท์แทน หลังจากที่ดันร่างเล็กให้เข้าไปนั่งในรถแล้ว ส่วนตัวเองก็อ้อมไปนั่งฝั่งคนขับ

"..."

'เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นครับบอส...'

"เดี๋ยวรีบฉันไป.."

ติ้ด

"สงสัยว่าวันนี้เธอคงต้องไปเรียนรู้นอกสถานที่กับฉันแล้วล่ะนะ" หลังจากที่วางสายของลูกน้องใบหน้าคมก็หันมาพูดกับเด็กน้อยที่นั่งงงอยู่บนรถ

"กะ เกิดอะไรขึ้น!?" หูยาวๆตั้งขึ้นอย่างตื่นตระหนกเมื่อถูกร่างสูงยัดเข้ามาด้านในรถอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย แถมเขายังได้ยินเรื่องที่ร่างสูงคุยกับคนในสายด้วย ไหนจะเปลี่ยนแผนพาเขาไปไหนก็ไม่รู้ด้วย

"เวลาขึ้นรถทุกครั้งต้องคาดเข็มขัดตลอดนะ อาจจะอึดอัดนิดหน่อยแต่ต้องคาด เพื่อความปลอดภัย" มือแกร่งเอื้อมมือมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับร่างเล็กอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่ลืมสอนไปด้วยพอคาดเข็มขัดให้ร่างเล็กและตัวเองเสร็จแล้วก็เหยียบคันเร่งจนเกือบสุดเพื่อไปยังสถานที่ ที่ลูกน้องบอกมา

"งานฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะ " เสียงทุ้มเอ่ยออกมาแต่ตาก็มองถนน เท้าก็เหยียบคันเร่งจนเกือบมิดแต่ยังรักษาระดับตามกฏหมายกำหนดอยู่ ถึงเพื่อนของเขาจะเป็นตำรวจที่มีตำแหน่งใหญ่ และยังมีเส้นสายอีกมาก แต่สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดคือการเอาเปรียบคนอื่น

"คะ คงไม่ได้โกรธเรืองเมื่อเช้าจนคิดจะเอาผมไปถ่วงน้ำใช่มั้ย!?" จากหูตั้งๆเปลี่ยนมาเป็นหุบลงอย่างขลาดกลัว มือเรียวกำสายคาดแน่นพลางขยับตัวไปชิดประตูจนแทบจะสิงเข้าไปรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

'เอาไงดี เปิดหน้าต่างแล้วโดดหนีออกไปดีมั้ย...'

"หึ...ถ้าเธอดื้อกับฉันก็ไม่แน่นะ แต่ฉันจะไม่จับเธอถ่วงน้ำหรอกแต่จะทำอย่างอื่นแทน"

จากที่เครียดกับเรื่องที่ลูกน้องแจ้งมาก็ลดลงไปเยอะเพราะความคิดไปเองของร่างเล็ก ไม่พูดเปล่ายังเหลือบตาไปมองคนข้างๆ ด้วยสายตาที่แฝงอะไรบางอย่างไว้กับคำพูด

"อึก!!.." ยิ่งถูกร่างสูงพุดขู่แบบนั้นความคิดแปลกๆ เท่าที่สมองน้อยๆ ของคนตัวเล็กก็เริ่มจินตนาการไปไกลมากยิ่งขึ้น ยิ่งเห็นว่าระยะทางไกลมากเท่าไหร่ความคิดยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ใบหน้าหวานเองก็เริ่มซีดลงเรื่อยๆ

...

ผ่านไปสักพักรถคันหรู ก็มาถึงยังโกดังแห่งหนึ่งที่ตอนนี้ไหม้เกรียมพร้อมกับควันที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า บ่งบอกได้ว่าพึ่งจะมีเหตุเพลิงไหม้และพึ่งดับไฟไปไม่นานมานี้

"รอนี่นะ...อยู่เฉยๆ ..ถ้าเธอไม่ฟังฉันไม่รับประกันความปลอดภัยของเธอ" นัยห์ตาสีอเมทิสจ้องเข้าไปในดวงตาสีทับทิมสวยด้วยสายตาเหมือนเวลาที่ใช้มองเหยื่ออันโอชะ ประกอบกับคำพูดเป็นการบอกว่าเขาเอาจริง แล้วละสายตาเพื่อออกไปจัดการกับปัญหาตรงที่เกิดขึ้น

"ครับ!!" เมื่อรถหยุดลงยังไม่ทันที่นัยห์ตาทับทิมสีสวยจะเริมสอดส่องบริเวณรอบๆก็เป็นอันต้องสะดุ้งโหยงกับคำขู่ของร่างสูงจึงขานรับเสียงดังฟังชัดด้วยท่าทีเกร็งๆและใบหูที่ตั้งขึ้น ช่างดูน่าขบขันเสียจริง

...

"เสียหายแค่ไหน" เสียงทุ้มเย็นเรียบนิ่งผิดจากน้ำเสียงที่คุยกับร่างบางเมื่อครู่ (เมื่อกี้ถึงจะขู่แต่ใช้เสียงที่อ่อนกว่าปกติขู่) เอ่ยถามกับลูกน้องคนหนึ่งที่เดินออกมาเพื่อรายงานเขา

"1/4 ของโกดังครับบอส ตอนนี้กำลังให้คนดูความเสียหายเพิ่มเติมครับ" ชายคนนั้นรายงานด้วยน้ำเสียงที่แอบสั่นกลัวนิดๆ แต่ก็ต้องทำใจกล้ารายงานต่อ ไม่งั้นอาจจะเจอสิ่งที่น่ากลัวกว่านี้ก็ได้

"บอสครับ ทราบตัวคนที่วางเพลิงแล้วครับ ตอนนี้กำลังตามจับอยู่ครับ" ชายอีกคนเดินเข้ามารายงานเพิ่มเติม ซึ่งเซฟิโล่ก็ทำเพียงแค่หันไปมองคนที่เข้ามาใหม่ แต่ยังไม่พูดอะไร คนสนิทของเขาก็เดินเข้ามาพอดี

"บอสครับ จับตัวคนที่วางเพลิงได้แล้วครับ บอสจะเค้นด้วยตัวเองไหมครับ"

"นายจัดการ...อย่าให้เหลือร่องรอย...ส่วนสินค้าที่เสียหาย สั่งมาใหม่ให้เร็วที่สุด แล้วเบิกที่ฉัน"

"ครับบอส!!" ชายทั้งสามคนขานรับคำสั่งพร้อมกันแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน

ทางเซฟิลเองก็เดินกลับมายังรถที่จอดทิ้งเอาไว้

"หิวหรือยัง?" เสียงทุ้มเอ่ยถามร่างบางที่นั่งอยู่ในรถมาสักพักแล้ว พร้อมกับเข้ามานั่งในรถ เตรียมจะออกรถ

"...ยัง..ครับ"

โคร่กกก...

อึก..

เพราะกลัวว่าจะพูดจาไม่เข้าหูร่างสูงจนถูกเอาไปทำกระต่ายย่าง ร่างบางจึงตอบไปด้วยเสียงที่เบามาก แต่เสียงท้องร้องที่จู่ๆ ก็ดังสวนขึ้นมานั้นก็ทำเอาใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ

"หึ..." ริมฝีปากได้รูปมีรอยยิ้มประดับจางๆ หลังจากที่ได้ยินเสียงท้องน้อยๆ โวยวายประท้วงกับคำพูดของร่างบาง ดวงตาคมเหล่มองที่มาของเสียงเล็กน้อย

"อย่าหัวเราะนะ!!" เมื่อเห็นว่าร่างสูงยกยิ้มมองท้องตน เสียงหวานก็แหวเสียงดังขึ้นมาทันที แถมยังยื่นมือไปกำคอเสื้อของร่างสูงด้วยใบหน้าหาเรื่อง ทั้งโมโหทั้งอับอายและก็เขินจนหน้าดำหน้าแดง

"อ้ะ อะ เอ่อ...แหะๆ มี มีด้ายติดนะครับ..." ซักพักเจ้ากระต่ายตื่นตูมก็พึ่งนึกได้ว่าเมื่อ5นาทีที่แล้วยังกลัวเขาอยู่เลย ใบหน้าซีดๆที่มีออฟชั่นเป็นรอยยิ้มเกร็งๆกับหูที่ลู่ลงกลับมาอีกครั้ง มือเรียวทำทีเป็นปัดๆคอเสื้อร่างสูงราวกับว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่บนนั้นจริงๆ

"เป็นอะไร...กลัวฉันหรอ?" เซฟิโล่ที่เห็นท่าทางแปลกๆของร่างบาง ที่ตอนแรกเกรี้ยวกราดตามนิสัยของตัวเอง ซึ่งเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร มันออกจะดูน่ารักเสียด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ ก็เหมือนจะเกรงใจเขาขึ้นมาแถมยังพูดมีหางเสียงกับเขาทั้งที่ปกติไม่เคยเลยสักครั้ง เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับเอามือไปลูบหัวน้อยๆ เบาๆ อย่างอ่อนโยน

"ขอโทษ...ที่ดุเธอก่อนหน้านี้นะ"

"มีอะไรที่อยากกินเป็นพิเศษไหม ถือเป็นการไถ่โทษ"

"...กะ ก็คุณบอกว่าจะลงโทษผมนี่นาถ้าทำตัวไม่ดี ผมก็กลัวว่าคุณจะจับผมไปมัดกับเสาแล้วเผาทั้งเป็นกลายเป็นกระต่ายย่าง.." เมื่อได้รับความอ่อนโยนเเละคำขอโทษ เจ้ากระต่ายที่ก้มหน้างุดๆ อยู่ก็ยกมือขึ้นมาเอานิ้วชี้จิ้มเข้าหากันจึกๆ แบบว่าเขินๆ กับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเอง

"ผะ ผมก็ต้องขอโทษที่พูดจาไม่ดีแล้วก็ที่ตีมือคุณเมื่อเช้าด้วยนะครับ" เจ้าของเรือนผมสีเขียวอมฟ้าก้มหัวขอโทษร่างสูงก่อนจะค่อยๆช้อนตามองอีกฝ่ายดวงนัยห์ตาที่มีหยาดใสคลอหน่วย

"คุณไม่โกรธใช่มั้ยฮะ?"

"ฉันไม่โกรธเธอหรอก...ที่ต้องขู่แบบนั้นเพราะฉันกลัวเธอจะเป็นอันตรายถ้าเกิดอะไรขึ้นมา" เซฟิลส่งยิ้มอบอุ่นให้ร่างบาง นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจากดวงตากลมอย่างอ่อนโยน แล้วเนียนวางไว้ที่ข้างแก้มนุ่มนิ่ม

"แล้วก็นะ...เธอเห็นฉันเป็นคนใจร้ายถึงขนาดจะจับกระต่ายตัวน้อยๆ เผาทั้งเป็นได้ลงคอเลยหรือไง"

ป๊อก!

นิ้วแกร่งดีดหน้าผากมนเบาๆ เป็นการลงโทษกับการคิดไปเองที่ดูจะโหดร้ายเกินไปหน่อย ก่อนจะลูบหัวปลอบอย่างเอ็นดู

"อ้ะ...งื้อ!.." ใบหน้าหวานมีสีหน้าที่ดีขึ้นกำลังจะกระดิกหูอย่างดีใจที่ได้ยินประโยคที่พูดเหมือนเป็นห่วงตน เป็นอันต้องชะงักเพราะโดนดีดหน้าผาก กลายเป็นพองแก้มถลึงตาใส่ร่างสูงอย่างเเง่งอน

"ก็ดูใช่อยู่นะครับ หึ!" ภาพของเจ้ากระต่ายที่เบะปากเหม็นเบื่อใส่ร่างสูงนั้นช่างดูน่าขบขันและหมั่นเขี้ยวจนอยากบีบให้แก้มแตก

"ถ้าฉันจะลงโทษเธอจริงๆฉันไม่ทำอะไรที่มันยุ่งยากแบบนั้นหรอก" นัยตาสีอเมทิส ส่องประกายแฝงอะไรบางอย่างไว้ ก่อนจะผละออกมาเพื่อทำหน้าที่ขับรถ ก่อนที่เจ้ากระต่ายน้อยจะโมโหหิวซะก่อน

"เราไปหาอะไรทานกันดีกว่า....เธออยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"

"ผมอยากกินแครอท✨" แน่นอนว่าเจ้ากระต่ายน้อยที่เคยเป็นทาสมาก่อนก็คงจะไม่ชวนร่างสูงไปกินอาหารหรูอย่างแน่นอน

"หึ...เป็นกระต่ายจริงๆ สินะเธอน่ะ" เซฟิลยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู ตาก็มองทางไปเรื่อยๆ เพื่อพากระต่ายน้อยไปหาอะไรกิน ช่วงระหว่างที่ติดไฟแดงเขาก็โทรหาเลขาเพื่อแจ้งว่าจะลาครึ่งวัน

ดุครั้งที่3

รถคันหรูเคลื่อนมาจอดที่ยังที่จอดระดับวีไอพีของห้างดังที่มีชื่อเสียงอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ

ร่างสูงสมส่วนเดินลงมาจากรถคันหรูเพื่อเปิดประตูให้กับร่างบางที่ยังนั่งอยู่ในรถ ไม่ลืมที่จะปลดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อน แล้วมายืนอยู่ข้างรถคันหรู ก่อนจะโค้งให้ทำเหมือนกับตนเป็นพ่อบ้าน และร่างบางนั้นเป็นคุณหนูผู้สูงส่ง

"เชิญครับ...คุณหนูนีล"

"งื้อ..หึ! ทำได้ดีมาก ไว้ผมจะให้คุณพ่อเพิ่มเงินเดือนให้นะครับ คิกๆๆ"

แก้มใสพองออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นเชิ่ดขึ้นแล้วลงจากรถด้วยท่าทีที่คิดว่าเหมือนลูกคุณหนูสุดๆ นัยห์ตาทับทิบปลายตามองร่างสูงด้วยหางตานิ่งๆแต่สุดท้ายก็หลุดขำออกมาจนได้ เสียงหัวเราะใสๆของเจ้ากระต่ายน้อยดังเป็นครั้งแรก มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตา ก่อนจะยื่นไปกอดเเขนแกร่งของร่างสูงอย่างสนิทสนมแล้วดึงให้รีบเดินไปอย่างร่าเริง

"ไปเร็วครับคุณบอดี้การ์ด นีลหิวเเล้ว อิอิ"

"…หึ…ทราบแล้วครับคุณหนู"

เซฟิลอึ้งไปแวบนึงเพราะไม่คิดว่าร่างบางจะเล่นตามเขา เมื่อได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของร่างบางหัวใจก็กระตุกผิดจังหวะ ก่อนจะมีรอยยิ้มบางประดับที่มุมปากด้วยความเอ็นดู

ขาแกร่งก้าวตามร่างเล็กไปอย่างว่าง่ายทั้งที่ตัวเองไม่เคยมาแท้ๆ แต่กลับทำเหมือนรู้ทางไปซะหมด แต่จริงๆ แล้วเขานี่แหละที่คอยกระซิบบอกทางเบาๆ แต่รู้ว่าร่างบางนั้นได้ยิน

ทั้งสองเดินเข้าไปในร้านบุฟเฟ่เจ้าดังและไปนั่งโต๊ะตามที่พนักงานแนะนำแล้วเริ่มสอนนีลสั่งอาหารผ่านจอที่ติดเอาไว้ตรงริมโต๊ะ

"อยากกินอะไรเธอสั่งจากตรงนี้ได้เลย แล้วก็สั่งเพิ่มได้ตลอด…"

"อื้อ!..อะ เอิ่ม..."

ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ นั้นพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนที่มันจะหุบลงเมื่อกางสมุดเมนูดูด้านใน

"คุณ..ผมอ่านไม่ออก" มือเล็กถือสมุดเมนูอย่างสั่นๆ ใบหน้าหวานขยับมากระซิบใกล้ๆ ร่างสูง จนอีกนิดแทบจะซบเกยไหล่แกร่ง

ใบหูยาวๆ ลู่ลงอย่างกังวลแถมมองรอบๆ อย่างหวาดกลัวด้วยนัยห์ตาทับทิมที่สั่นระริกกลัวว่าจะทำอะไรเด๋อด๋าๆ ลงไปจนทำให้ร่างสูงข้างๆ ต้องขายขี้หน้า

"…โทษที … ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไล่อ่านให้ฟัง…อันนี้เป็นเซตผัก จะมี……"

ใบหน้าคมส่งยิ้มบางๆ ให้กับเด็กน้อยตรงหน้า พร้อมกับลูบหัวเบาๆ อย่างอ่อนโยนแล้วก็ชี้รูปในเมนูพร้อมกับแนะนำไปด้วยว่าอันนี้คืออะไร

"ผม ผมเอาแค่แครอทได้มั้ย..." เสียงสั่นๆ เอ่ยถามร่างสูงอย่างออดอ้อน

"กินแค่แครอทจะอิ่มหรอ มันไม่ค่อยได้สารอาหารนะ ลองกินอันนี้ดูไหม…"

เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเป็นห่วง เปิดดูเมนูไปเรื่อยๆ ก็เจอกับพวกอาหารเบาๆ เช่นลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นปลา ไม่รอช้าเขากดสั่งทางจอมอนิเตอร์ทันที มีเซ็ตผักต่างๆ ที่รีเควสไปว่าขอเน้นที่แครอท ไม่ลืมสั่งไข่เพื่อเพิ่มโปรตีนไปด้วย

หลังจากที่บอกร่างสูงไปหมดแล้วว่าอยากกินอะไร ก็ถึงเวลานั่งรอของมาเสิร์ฟ

"ผมตื่นเต้นจังคุณ ผมไม่เคยเข้าที่แบบนี้มาก่อนเลย"

ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงรัวๆ แถมนัยห์ตาทับทิมยังเปล่งประกายวิ้งวับอย่างรู้สึกสนอกสนใจในสถานที่แปลกใหม่นี้ โดยลืมความกลัวก่อนหน้านี้ไปจนหมด

"คุณดูนั่นสิ มันลอยได้ด้วย"

น้ำเสียงตื่นเต้นกระตือรือล้นเรียกคนข้างๆ พร้อมกับมือเรียวที่ดึงๆ แขนเสื้อของร่างสูงมือนึงชี้ไปยังลูกโป่งที่อยู่ด้านนอกร้านมือนึงอย่างตื่นเต้น

แต่อาจจะเพราะเสียงดังหรือไม่ก็ท่าทางที่ดูจะตื่นเต้นกับอะไรธรรมดาๆ จนดูเหมือนพวกบ้านนอกนั้น คงจะไปกระตุ้นความหงุดหงิดของใครบางคนเข้าเสียแล้ว

เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นจากโต๊ะบริเวณรอบๆ นั้นทำเอาร่างบางที่เรียกให้ร่างสูงดูสิ่งแปลกๆ ที่ตนพึ่งเคยเห็นชะงักไปก่อนจะรีบก้มหัวจนแทบจะมุดลงไปใต้โต๊ะ

"ฮึก.." มือเล็กๆ ดึงหูตัวเองลงมาแนบกับแก้มพยามจะปิดหูไม่ให้ได้ยินคำนินทาดูถูกที่ดังอยู่รอบๆ

จากตอนแรกที่กำลังเพลิดเพลินกับความน่าเอ็นดู ตื่นเต้นกับอะไรๆ ที่ได้เห็นเป็นครั้งแรก ริมฝีปากได้รูปประดับด้วยรอยยิ้มบาง

แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อจู่ๆ จากเสียงใสๆ ที่พูดเจื้อยแจ้วก็หยุดลง และท่าทางแปลกๆ ที่เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง เขาจึงถามออกไปพร้อมกับมือที่ลูบหัวน้อยๆ

"…นีล? …เป็นอะไรไป?"

เมื่อลองเงียบแล้วฟังดูดีๆ เซฟิลก็ได้ยินเสียงคนซุบซิบนินทาการกระทำของร่างบางเมื่อกี้ ทำให้เขาเริ่มอารมณ์เสีย ขนาดเขายังได้ยินเลยแล้วร่างเล็กข้างๆ ที่มีหูดี มีหรือจะไม่ได้ยิน

"…ขอเปลี่ยนเป็นห้อง VVIP"

เขารีบเรียกพนักงานมาแล้วยื่นการ์ดสมาชิกVVIP ให้ทันทีเพื่อเปลี่ยนเป็นห้องส่วนตัวที่สามารถเก็บเสียงจากทั้งภายในและภายนอก มีกระจกให้สามารถชมวิวรอบๆ ได้

....

"…อย่าไปสนใจคำพูดคนพวกนั้นเลย…ไม่มีใครทำอะไรเธอได้"

เมื่อมาถึงห้อง vvip ร่างสูงย่อตัวให้อยู่ในระดับสายตาของเด็กหนุ่มตรงหน้าที่เอาแต่ก้มหน้ามาตลอดทาง เสียงทุ้มเอ่ยปลอบประโลมพร้อมกับมือแกร่งที่ลูบหัวน้อยๆ ไปด้วย

"ฮึก..นีลไม่เคยเห็นนี่...ฮึกๆ ...นีลผิดหรอ.."

เสียงสะอื้นของเจ้ากระต่ายน้อยช่างน่าสงสาร ยามปกตินั้นเขาไม่เคยร้องไห้งอแงราวกับเด็กเพราะเขาต้องทำตัวให้เข้มเเข็งเป็นที่พึ่งให้กับน้องๆ แต่พอได้รับความอ่อนโยนและห่วงใยที่ร่างสูงมอบให้ ทำให้เกราะกำบังและกำแพงที่อุส่าสร้างขึ้นมานั้นพังทลายลงอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นเพียงแค่เด็กน้อยที่ต้องการที่พึ่งพิงเช่นคนอื่นๆ

"...นีลไม่ผิดครับ...อย่าเอาคำพูดของคนพวกนั้นมาคิดเลย..." เสียงทุ้มเอ่ยปลอบประโลมพลางลูบหัวน้อยๆ ที่ที่ซบอยู่บนไหล่พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา

"ฮึกๆ ..." มือเรียวยกขึ้นไปกอดคอร่างสูงเอาไว้แน่น ใบหน้าหวานซุกลงบนไหล่แกร่ง ร่างน้อยๆ สะอื้นจนตัวโยน

"ไม่ร้องนะครับ...เดี๋ยวตาบวมนะ...ไหนดูซิ...นีลเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าน้ำตานะครับ" เซฟิลดันร่างเล็กที่กำลังซบไหล่แกร่งอยู่ออกมาเล็กน้อย นิ้วเรียวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตากลมเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้นีลอย่างอบอุ่น

"นีล ฮึก..นีลอยากกลับบ้าน.." เสียงหวานอู้อี้เพราะซุกไหล่แกร่ง ก่อนที่ใบหน้าเล็กๆ จะเอียงมามองสบนัยห์ตาสีอเมทิส นัยห์ตาทับทิมช่ำวาวด้วยหยาดใสจ้องมองมาอย่าร้องขอ

ฟึ่บ!!

"...เดี๋ยวค่อยกลับนะ...ทานอะไรสักหน่อยก่อน..." แขนแกร่งยกร่างเล็กขึ้นด้วยแขนข้างเดียวพร้อมกับพามานั่งบนโซฟานุ่มในห้อง VVIP ส่วงตัวเขานั้นยังคงย่ออยู่ในระดับสายตาของร่างบาง

"..ดูสิอาหารมาแล้ว...จะทิ้งไว้ก็เสียดายนะ" เสียงทุ้มอ่อนโยนกล่อมให้นีลใจเย็นลงแล้วยอมอยู่ทานอาหารก่อน มือแกร่งก็ยังคงลูบหัวน้อยๆ อย่างแผ่วเบา หวังว่าเด็กน้อยจะยอมฟัง

"ฮึก..นีล..นีลจะกินแครอท" มือเล็กๆ ข้างนึงพยามเช็ดน้ำตา ส่วนอีกข้างก็ชี้ไปยังจานผักที่มีแครอทรูปดอกไม้บนนั้น

"คุณก็ต้อง อึก ทานนะ คุณยังไม่ได้ทาน อึกเหมือนกัน" แม้จะมีสะอื้นอยู่บ้างแต่ร่างบางก็เอ่ยชวนให้ร่างสูงกินด้วยความเป็นห่วง มือเล็กๆ ดึงๆ เเขนเสื้อของอีกฝ่ายพร้อมกับตบลงบนโซฟาข้างๆ เบาๆ

"ครับ ทานกัน" ร่างสูงขยับลุกขึ้นไปนั่งข้างๆร่างบางพร้อมทั้งพูดด้วยเสียงทุ้มนุ่ม

...

หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มจัดการเทเจ้าวัตถุดิบทั้งหลายลงหม้อ อันไหนสุกแล้วก็ตักขึ้นมาใส่ถ้วยชิมเองบ้างผลัดให้อีกฝ่ายชิมบ้าง

"งั่มๆๆ อร่อย!✨ อันนี้อร่อยครับ คุณลองกินสิ"

เจ้ากระต่ายตัวน้อยที่พึ่งเคยได้กินชาบูครั้งแรกนั้น ตาเปล่งประกายทุกครั้งที่ตักอะไรก็ตามเข้าปาก ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะอร่อยมาก แต่เจ้าของเรือนผมสีเขียวอมฟ้าก็ไม่ลืมที่จะเอือมมือไปตักใส่ถ้วยให้ร่างสูงด้วย นัยห์ตาทับทิมช้อนมองร่างสูงอย่างคาดหวังว่าจะตักสิ่งที่ตนเลือกให้ขึ้นมากินอย่างอร่อยเช่นกัน

"หึ...ครับๆ ..."

รอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้นที่มุมปาก เซฟิลนั่งมองร่างบางที่กินชาบูอย่างเอร็ดอร่อย ต่างจากเมื่อกี้ลิบลับ ส่วนตัวเขาก็ทานเรื่อยๆ จนกระทั่งคนตัวเล็กอิ่มจึง ยื่นบัตรให้พนักงานนำไปชำระเงิน จากนั้นก็พาร่างบางไปเดินย่อยอาหารพร้อมกับเดินเที่ยวไปในตัว

ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเดินมาถึงโซนที่เต็มไปด้วยของเล่นและตุ๊กตา ซึ่งตอนแรกเซฟิลก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ร่างบางที่เดินอยู่ข้างๆ ดูจะสนใจเป็นพิเศษ เขาจึงพานีลเข้าไปดูบริเวณนั้น

เจ้ากระต่ายน้อยเดินไปตามทางเรื่อยๆ สายตาก็มองเหล่าตุ๊กตายัดนุ่นทั้งหลายที่มีเต็มชั้นวางด้วยแววตาวิ้งๆตลอดทาง เดินไปได้ซักพักเป็นอันต้องชะงักมองสายตามองสบกับอะไรบางอย่าง

"คุณ นี่ตัวอะไรอ่ะน่ารักจัง" เจ้ากระต่ายน้อยรีบเดินเข้าไปหยิบตุ๊กตามังกรเผือกตัวเอกจากอนิเมชั่นชื่อดังขึ้นมาดูพร้อมทั้งเอ่ยถามร่างสูงโดยที่สายตายังคงจับจ้องเจ้าตุ้กตาอยู่

"ผมขอได้มั้ยๆ" ร่างบางรีบวิ่งกลับมาหาร่างสูงพร้อมทั้งยื่นเจ้าตุ๊กตามังกรเผือกไปตรงหน้าอีกฝ่ายอย่างตื่นเต้น ใบหูยาวๆขยับดุ๊กดิ๊กตลอดเวลาที่ร่างเล็กๆก็กระโดดขึ้นลงไปมาอย่างตื่นเต้น

"เรียกว่ามังกรน่ะ.....อยากได้หรอ?" เสียงทุ้มเอ่ยตอบคำถามร่างบางที่ดูจะถูกใจเจ้ามังกรเผือกตัวนั้นมาก ถึงขนาดที่แสดงออกมาทั้งทางสีหน้าและท่าทาง เมื่อร่างเล็กเดินมาขออนุญาตในหัวพลันคิดอะไรบางอย่างได้

"หึ...ได้สิ....แต่ว่า..." รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่ใบหน้าแวบนึงก่อนจะกลับเป็นใบหน้าเรียบนิ่งที่แฝงด้วยความอ่อนโยนเหมือนเดิม มือแกร่งหยิบตุ๊กตาขนาดพอดีมือในอ้อมกอดของร่างเล็กมาถือเอาไว้ยกให้พ้นมือของคนตรงหน้า แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกล้อว่า

"เธอต้องเรียกฉันว่า....พี่เซฟิล...แล้วแทนตัวเองว่านีล.."

"ง่า!"

เจ้าตัวเล็กแสดงท่าทีไม่พอใจทันทีอย่างเห็นได้ชัด แก้มใสพองออก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน เพราะถูกแย่งเจ้าตุ๊กตาตัวนุ่มไปจากอกแถมอีกฝ่ายยังยกหนีอีก ถึงจะกระโดดจนสุดแรงแล้วก็ยังไม่ถึง

"อึก..พะ...พี่เซฟิล...นีลอยากได้ นีลขอนะฮะ.."

เจ้าของเรือนผมสีเขียวผมฟ้าหยุดกระโดดก่อนจะก้มหน้างุด เสียงหวานๆกับท่าทีขัดเขินอย่างเป็นธรรมชาติ แก้มใสสุกปรั่งราวกับลูกมะเขือเทศ แม้สีหน้าจะดูดื้อรั้นแต่ก็อ้อนขอร่างสูงจากใจจริง

"ฮึบ! ผมขอแล้ว ห้ามคืนคำล่ะ!!"

เมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังยืนเหม่อๆเผลอลดแขนลง เจ้ากระต่ายตัวเเสบก็ใช้จังหวะนั้นกระโดดเต็มแรงเพื่อแย่งเจ้าตุ๊กตาค้น ก่อนจะวิ่งหนีร่างสูงออกจากทางเดินนี้ไปอย่างรวดเร็ว

"อึก!!..."

ใบหน้าหล่อเสมองไปทางอื่นมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือตุ้กตายกขึ้นมาบังใบหน้าที่พยายามอดกลั้นความเขินอยู่ ทำให้เผลอลดมือที่ถือตุ๊กตาลงต่ำพอที่ร่างเล็กสามารถกระโดดคว้าเจ้าตุ๊กตามังกรเผือกไปได้

เซฟิลมองร่างเล็กที่วิ่งหนีไปพร้อมกับตุ๊กตา แต่เขาก็ไม่ได้รีบตามไป ขาเรียวเดินเข้าไปในโซนตุ๊กตาอีกรอบ แล้วหยิบตุ๊กตามังกรเผือกตัวที่ใหญ่ที่สุดมาถือเอาไว้ ก่อนจะเดินตามร่างบางที่วิ่งหนีเขาไปไกล แต่ก็ยังอยู่ภายในระยะสายตา

"นีล..."

ร่างสูงเดินมาข้างหลังนีลด้วยความเงียบ เสียงทุ้มเอ่ยเรียกร่างบางด้วยน้ำเสียงทุ้มเรียบๆ แต่แฝงด้วยความอ่อนโยนแบบที่ไม่ค่อยใช้กับใคร

"หือ? ว้าววว!!"

ร่างเล็กๆหันกลับมามองตามเสียงเรียกก่อนจะเบิกตากว้างด้วยนัยห์ตาทับทิมที่เปล่งประกาย ซึ่งมันช่างวาววับราวกับอัญมณีที่กระทบแสง

"ตัวนั้น..ตัวนั้นจะให้นีลด้วยมั้ย ให้นะๆ ให้นีลนะ"

เจ้าตัวเล็กรีบโผเข้ากอดเอวแกร่งของร่างสูงด้วยมือข้างเดียว อีกข้างยังกอดเจ้าตุ๊กตามังกรเผือกก่อนหน้านี้ได้อยู่ ใบหน้าเล็กๆซุกลงบนหน้าท้องแกร่งอย่างออดอ้อน

"นะฮะพี่เซฟิล น้า~~~"

เสียงหวานใสพยามออดอ้อนให้ดูน่ารักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงตากลมๆช้อนมองอย่างออดอ้อน ใบหูยาวลู่ลงดูหงอยๆน่าสงสาร หางปุกปุยขยับดุ๊กดิ๊กไปมา

"หึ...ให้อยู่แล้วครับ"

ใบหน้าหล่อยิ้มบางๆ ให้กับความน่ารักของเจ้ากระต่ายน้อยที่พยายามออดอ้อนเขาอย่างเต็มที่ แขนแกร่งเอื้อมไปโอบเอวบางแล้วพาเดินไปที่แคชเชียร์คิดเงิน พร้อมกับบอกให้นำตุ๊กตาไปเก็บที่รถให้อีกด้วย

"ไปทานไอติมกันไหมครับ แล้วก็จะได้ซื้ออาหารกลับไปฝากเด็กๆ กัน ดีไหมครับ"

เซฟิลเสนอแล้วจึงพานีลไปทางร้านไอครีมชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทุกห้าง

"อยากกินอันไหนเลือกเลย"

"งืมมม..ผมไม่รู้จะเลือกอันไหนดี..."

เจ้ากระต่ายดื้อเอียงคอไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนจะชี้ไปยังไอศรีมในตู้ที่มีสีขาวๆ นวลๆ

"นีลขออันนั้นไปให้น้องๆ ได้มั้ยครับพี่เซฟิล"

ดูเหมือนว่าเจ้ากระต่ายตัวน้อยจะรู้วิธีอ้อนร่างสูงเสียแล้ว นิ้วเล็กชี้ไปยังก้อนเค้กไอศครีมในตู้เย็น แม้จะดูเหมือนเด็กน้อยที่ออดอ้อนผู้เป็นพ่อ แต่หากมองดูดีๆ จะเห็นแววตากลั่นแกล้งของเจ้ากระต่ายตัวดื้อได้อย่างแน่นอน

"อ้อ น้องนีลขอตุ๊กตาให้น้องๆ ด้วยนะครับ พี่คงไม่ว่าอะไรหรอใช่มั้ย พี่ เซ ฟิล คิก..."

ร่างบางทำทีเป็นนึกก่อนจะพูดขึ้นมาเนิบๆ ท่าทีช่างดูราวกับปีศาจตัวน้อยที่กำลังวางแผนกลั่นแกล้งร่างสูงข้างกายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

"....." ใบหน้าคมแอบมีคิ้วกระตุกเบาๆ กับความแสบของเจ้ากระต่ายน้อย ที่รู้จักแกล้งเขาเป็นแล้ว

แต่ว่า..

แค่นี้มันยังเด็กๆ ไป เขาเป็นทั้งประธานบริษัทใหญ่และบอสมาเฟียในโลกเบื้องหลังเชียวนะ แค่นี้ยังไม่คนามือหรอก ใบหน้าคมมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แวบนึง ก่อนจะเปลี่ยนไปเคลือบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน

"...นีลอยากได้อันไหน..พี่จ่ายให้ได้หมดเลยค่ะ...แต่ว่า..." ใบหน้าคมยื่นเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานกระซิบเบาๆ ข้างๆ แก้มนวล แล้วจรดจมูกลงบนแก้มใสก่อนจะรีบผละออกมา

"...น้องนีลต้องจ่ายอย่างอื่นตอบแทนพี่นะคะ...ฟอด!.."

!!

เจ้ากระต่ายแสนซนเปลี่ยนร่างเป็นกระต่ายตื่นตูมไปในทันทีที่ถูกฉวยโอกาสหอมแก้มใส หูยาวๆตั้งตรงอย่างตื่นตระหนก เท้าเล็กๆดีดตัวหนีห่างร่างสูงไปอย่างรวดเร็วด้วยปฏิกิริยาอัตโนมัติ

"ตะ ตะ ตะๆๆ ตาลุงโรคจิต!!!"

เสียงสั่นๆตะโกนลั่น ใบหน้าใสแดงแปร๊ดจนแทบจะระเบิด ก่อนจะวิ่งเตลิดหนีไปจากตรงนี้อย่างเร็วกลายร่างเป็นกระต่ายลมกรดไปเสียแล้ว

....

"แฮ่กๆๆ...คงจะตามมาไม่ทันแล้วมั้ง ขอเข้าห้องน้ำก่อนล่ะกัน--อุ๊บ!"

ร่างเล็กๆหยุดวิ่งก่อนจะหอบแฮ่กๆหันไปมองด้านหลัง บ่นพึมพำเบาๆกับตัวเองนิดหน่อย พอหันไปเห็นห้องน้ำก่อนคิดที่จะเข้าไปล้างหน้าล้างเหงื่อของตัวเอง

เพียงก้าวเท้าเข้าไปใกล้ประตูห้องน้ำก็มีมือใหญ่ปริศนาเข้ามาปิดปากเล็กก่อนจะลากร่างเล็กๆนั่นเข้าไปด้านในอย่างง่ายดาย

...

Rrrrr

'ขออภัยด้วยครับบอส...เราคลาดสายตาจากคุณหนูไปครับ'

เซฟิลที่กำลังสั่งของหวานตามที่ร่างเล็กอยากได้กลับไปฝากเด็กๆอย่างอารมณ์ดี แต่ก็ต้องโดนขัดด้วยสายเรียกเข้าจากลูกน้องที่เขาสั่งให้คอยตามปกป้องนีลอยู่ห่างๆ เวลาที่ร่างบางไม่ได้อยู่กับเขา

"..หาให้เจอ...ไม่งั้นพวกนายก็เองที่จะเดือดร้อน"

'ครับบอส!!'

ติ้ด

เสียงทุ้มเย็นยะเยือกเอ่ยสั่งลูกน้องเสร็จก็ตัดสายทิ้งทันที ใบหน้าคมที่เคยมีรอยยิ้มอ่อนโยนตอนนี้กลับนิ่งเฉยดูหน้ากลัวจนคนรอบๆไม่กล้าเข้าใกล้ เซฟิลกดโทรสั่งกับคนสนิทของตัวเอง ระหว่างนั้นก็รีบสาวเท้าไปทางทิศทางที่เจ้ากระต่ายน้อยวิ่งไป

"ดักทางเข้าออกทุกทางเอาไว้ ถ้ามีคนน่าสงสัยจับตัวเอาไว้...ตรวจดูกล้องวงจรปิดในห้างไว้ด้วย"

'ทราบแล้วครับบอส'

ติ้ด

.....

ทางด้านเจ้ากระต่ายน้อยที่ถูกจับตัวมานั้นกำลังถูกมัดข้อมือเอาไว้กับที่กดชักโครกโดยคนที่จับตัวมา แต่ใช่ว่าเจ้าตัวเล็กจะยอมอยู่นิ่งๆ

"ปล่อยนะ!!! ไอโรคจิต!"

เท้าเล็กขยับไปมาก่อนที่มันจะไปประทับอยู่บนหน้าคนร้ายอย่างเต็มเเรง แต่เด็กอย่างเขาก็ยังเป็นเด็ก แถมพึ่งจะได้รับสารอาหารที่เพียงพอได้ไม่กี่วัน

"หึ มีแรงแค่นี้เองหรอ"

กึก!!

"อ๊ากกก!...อึก...ฮึก..."

มือใหญ่รับเท้าเล็กๆของเจ้ากระต่ายน้อยไว้ได้ทันก่อนจะบิดมันอย่างแรงจนเกือบหันไปอีกด้านนึง

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้น ใบหน้าหวานมีน้ำตานองหน้าเพราะความเจ็บที่ข้อเท้าไม่กล้าขยับขาอีก หูยาวๆลู่ลงสั่นระริกอย่างหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"เงียบได้ซะที ทีนี้ตอบสิ..จุดอ่อนของเจ้าเซฟิลโล่คืออะไร แกน่าจะเป็นเด็กของมันนี่ น่าจะได้รู้อะไรเยอะนะ" มือใหญ่ยื่นมาบีบคางเรียวบังคับให้หันมามองหน้าตน ก่อนจะใช้เสียงเย็นต่ำๆ พูดออกมาเพื่อข่มขู่

"อึก..ฉันไม่มี..อะไรจะบอก..แกทั้งนั้น--อุก!!" เสียงหวานเองก็ตอบกลับไปด้วยเสียงสั่นๆที่พยามเค้น แต่ดูเหมือนว่าคำตอบจองร่างเล็กจะไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ หมัดหนักๆซัดเจ้าที่ท้องของเจ้ากระต่ายอย่างแรง

....

เซฟิโล่วิ่งวุ่นตามหาร่างเล็กไปรอบๆ พยายามหาบริเวณที่ดูเป็นจุดลับตาแต่ก็ไม่เจอเลยสักที่ แต่แล้วสวรรค์ก็เป็นใจ

Rrrr

'บอสครับ...กล้องวงจรปิดจับภาพคุณหนูได้ครั้งสุดท้ายแถวๆ ห้องน้ำครับ'

"เดี๋ยวฉันไปดูเอง...เตรียมคนตามฉันมาทีหลังด้วย"

'ทราบแล้วครับบอส'

ติ้ด

หลังจากวางสายลูกน้องขาแกร่งรีบสาวเท้าไปทางห้องน้ำทันที ในหัวก็ภาวนาอย่าให้ร่างบางเป็นอะไรไป แต่เหมือนครั้งนี้เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างเขา เมื่อเดินมาใกล้ห้องน้ำก็ได้ยินเสียงหวานร้องอย่างเจ็บปวด

'อ๊ากกก!....'

"..นีล!!!.."

เซฟิลรีบวิ่งไปยังทิศทางที่มาของเสียงจนกระทั่งมาถึงยังจุดที่ร่างบางอยู่ สภาพของนีลในใจก็เกิดโทสะขึ้นมา มือแกร่งยกปืนขึ้นมาปลดเซฟตี้แล้วจ่อไปยังคนร้าย

กริ๊ก!

"...อยากรู้จุดอ่อนของฉันหรอ...ฉันจะบอกให้ก็ได้..."

เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาชวนให้คนฟังขนลุกวาบ

"....จุดอ่อนของฉันก็คือ...การปล่อยให้นายมีชีวิตแล้วไปรังแกคนอื่นไงล่ะ..."

พลัก!!

มือแกร่งที่ถือปืนอยู่ทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของคนร้ายจนสลบพร้อมกับสั่งลูกน้องที่ตามมาทีหลังเอาตัวไปจัดการทีหลัง

"นีล!!...เป็นอะไรไหมคะ"

มือแกร่งรีบแก้มัดข้อมือบางอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวจะทำให้นีลเจ็บเพิ่มมากขึ้น มือแกร่งจับตัวร่างบางพลิกดูรอบๆ เพื่อหาว่ามีจุดไหนที่บาดเจ็บร้ายแรงบ้างไหม

"ขอโทษที่พี่มาช้านะคะ...."

เสียงทุ้มอ่อนลงจากเมื่อกี้ราวกับคนละคนกัน มือแกร่งลูบใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตากลมไปด้วย

ในตอนที่ถูกต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรงนั้น ร่างบางไม่เหลือแรงจะส่งเสียงอีกต่อไปแล้ว ความหวังว่าจะมีคนมาช่วยตนเริ่มริบหรี่ หยาดสีใสไหลลงไปตามแก้มนุ่ม

แต่ดูเหมือนว่าความหวังของเขานั้นจะยังไม่หมดลงไป ในตอนที่เห็นร่างสูงเข้ามาช่วยนั้นทำให้เขารู้สึกโล่งอกและดีใจที่อีกฝ่ายตามหาคนที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลยอย่างเขา จับสำรวจตัวเขาอย่างอ่อนโยน ถามอย่างห่วงใย

"พี่เซ....ฮึก..พี่เซ.." เจ้ากระต่ายน้อยแสนเปราะบางในยามนี้พยามปรือตามองร่างสูงเพื่อให้แน่ใจว่าตนไม่ได้ฝันไป มือเรียวยกขึ้นมาจับที่หลังมือแกร่งเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว

"ครับพี่เอง....พี่อยู่นี่แล้วนะครับ" เซฟิลดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบ พร้อมกับเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน มือแกร่งลูบกลุ่มผมสีฟ้าอมเขียวเบาๆ

"นีล ฮึก..นีลกลัว..ฮืออ..." เสียงสั่นครือปนสะอื้นเอื้อนเอ่ยราวกับเด็กน้อยฟ้องผู้ใหญ่ ใบหน้าเล็กๆ ที่มักจะดูดื้อรั้น ในบางทีก็ดูตื่นเต้นดีใจอยู่ตลอดเวลานั้น บัดนี้กลับมีแต่ความหวาดกลัวอยู่บนใบหน้าหวาน ร่างเล็กๆ สั่นไม่หยุด

"ไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ...อยู่กับพี่ จะไม่มีใครทำอะไรนีลได้"

ฟึ่บ!

"กลับบ้านกันนะครับคนดี" แขนแกร่งยกร่างบางขึ้นอุ้มเหนือพื้นด้วยมือเดียวโดยให้ใบหน้าหวานซบลงบนไหล่แกร่ง แล้วเดินไปยังลานจอดรถโดยใช้ทางหนีไฟ เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องใหญ่

ระหว่างที่เดินมายังรถร่างบางในอ้อมกอดของเขาก็ร้องไห้จนหลับไปแล้ว เซฟิโล่จึงค่อยๆ วางร่างเล็กลงบนเบาะหลัง จัดท่าให้นอนได้สบายๆ ก่อนจะตามเข้าไปแล้ววางหัวเล็กไว้บนตักแกร่ง ส่วนรถก็ให้คนสนิทเป็นคนมาขับกลับให้

...

เวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งถึงยามดึก

เจ้ากระต่ายน้อยที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มค่อยๆ เปิดเปลือกตาสีไข่มุกอย่างช้าๆ ใบหน้าอิดโรยค่อยๆ ขยับหันมองรอบๆ จนกระทั่งเห็นร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างเตียง

"พี่เซฟิล..."

เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกร่างสูงเบาๆ เขาไม่ร่างลึกขึ้นนั่งเองได้เพราะความเจ็บที่หน้าท้องจากการโดนต่อย ซึ่งตอนนี้คงจะม่วงช้ำไม่น่ามองแล้วแน่นอน

"..นีล!.."

เซฟิโล่ที่กำลังนั่งเซ็นเอกสารของบริษัทที่บอกให้เลขาเอามาให้ที่บ้าน อยู่ข้างๆ เตียงที่นีลนอนอยู่ พอได้ยินเสียงหวานแหบแห้งเอ่ยเรียกก็รีบวางปากกาแล้วตรงมาหาร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงทันที

"...เป็นยังไงบ้างคะ..ยังเจ็บมากไหม.."

เสียงทุ้มเอ่ยด้วยความเป็นห่วง มือแกร่งกุมมือบางเอาไว้ข้างนึง ส่วนอีกข้างก็ค่อยๆ พยุงร่างบอบบางนั่งพิงหัวเตียงโดยมีหมอนรองข้างหลังไว้จะได้ไม่กระทบกับแผลมาก

"...ค่อยๆ นะคะ...จิบน้ำก่อนนะ"

เขาผละออกมายังโต๊ะหัวเตียงที่มีเหยือกน้ำวางไว้คู่กับแก้วน้ำที่มีน้ำเติมไว้รออยู่แล้วพร้อมหลอด มือแกร่งจับหลอดแล้วจ่อไปทางปากเล็ก บริการอย่างดีแบบที่ไม่เคยทำกับใครแม้แต่พ่อแม่ของตัวเอง

"ขอบคุณครับ..." เสียงหวานเอ่ยขอบคุณก่อนจะค่อยๆ จิบน้ำจนกระทั่งหมดแก้ว ก่อนที่จะเอนหลังทิ้งตัวพิงหัวเตียงอย่างอ่อนล้า

"...คุณเซฟิโล่ล..ผมขอโทษที่สร้างปัญหาให้ ได้โปรด..ฮึก อย่าไล่ผมกับน้องๆ ไปเลยนะครับ ให้ผมทำอะไรก็ได้ผมยอมทั้งนั้น ผมขอร้อง..ฮึก อึก.."

เจ้าของเรือนผมสีเขียวอมฟ้านั่งเงียบไปซักพักก่อนจะหันมามองร่างสูงด้วยนัยห์ตาสั่นระริก กลัวว่าเพราะความดื้อรั้นของตนจะทำให้น้องๆ ต้องลำบากเพราะการกระทำไม่คิดหน้าคิดหลังของตน ร่างบางที่ยังไม่ค่อยมีเเรงเสียเท่าไหร่ก้มลงจนหน้าผากติดกับเตียงนุ่ม ถึงแม้จะเจ็บท้องแต่ก็กัดฟันอดทนเอาไว้ อย่างน้อยๆ อาจจะยังพอลดโทษได้บ้าง

"..นีล..."

เซฟิลที่เห็นว่าจู่ๆ ร่างบางก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนักก็ตกใจเล็กน้อย ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียง พร้อมกับค่อยๆ ยกตัวร่างเล็กขึ้นมากอดปลอบ เพื่อจะได้ไม่กระทบกับแผลที่ท้อง

"...ไม่เอาไม่ร้องนะครับเดี๋ยวจะกระทบกับแผลนะ...นีลไม่จำเป็นต้องขอโทษเลยครับ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษที่ดูแลนีลไม่ดี..ทำให้นีลได้รับบาดเจ็บแบบนี้"

เสียงทุ้มเอ่ยปลอบอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับมือแกร่งที่ค่อยๆ ลูบจากเรือนผมสีฟ้าอมเขียวไล่ลงมายังแผ่นหลังบอบบางที่เคยแบกรับหน้าที่คอยดูแลและปกป้องเด็กๆ มามากมาย

"...พี่ไม่ไล่นีลกับเด็กๆ ไปไหนหรอกครับ...ในเมื่อพี่ไปช่วยพวกเราออกมาเพราะอยากให้มีชีวิตที่ดีขึ้น..แล้วพี่จะทิ้งให้ไปมีชีวิตแบบอดๆ อยากๆ อีกทำไม...นีลไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ"

"..ในอนาคตพวกเขาจะได้มีพ่อแม่ที่ดีรับไปเลี้ยงและอยู่อย่างสุขสบาย...ได้มีครอบครัวที่อบอุ่น...แต่ในระหว่างนี้พวกแม่บ้านพ่อบ้านหรือแม้แต่บอดี้การ์ดจะคอยทำหน้าที่ดูแลพวกเขาให้ดีที่สุดเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง.."

"เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปนะครับ แล้วก็ไม่ต้องร้องแล้ว...เดี๋ยวตาจะบวมเอานะครับ"

"ฮึก ขอบคุณครับ..ขอบคุณที่มาช่วยนีลกับน้องๆ ฮึก..ขอบคุณฮะ จุ้บ.."

มือเล็กๆ เอื้อมขึ้นไปกอดคอของร่างสูงเอาไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยว ใบหน้าหวานซุกลงบนไหล่หนาพูดขอบคุณซ้ำไปซ้ำมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ก่อนที่ใบหน้าหวานจะผละออกจากไหล่หนาแล้วหันมายิ้มหวานให้กับร่างสูง แล้วขยับริมฝีปากนุ่มนิ่มประทับลงบนเเก้มสาก

"..!!!.." ใบหน้าคมเหวออย่างหลุดมาดเมื่อโดนริมฝีปากนุ่มจุมพิตเข้าที่แก้มของตน ไหนจะรอยยิ้มหวานนั่นอีก มือหนายกขึ้นมาปิดใบหน้าของตนเองพร้อมกับหันหน้าหนีไม่ให้ร่างบางเห็นว่าเขากำลังเขิน แต่ต่อให้ปิดหน้ามิดแค่ไหนก็ไม่สามารถปิดใบหูที่แดงมากๆ ได้

"ผมดีขึ้นแล้วครับ ไว้ผมหายดีผมจะตั้งใจเรียนเลยครับ อิอิ"

มือเล็กยกขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนที่เจ้ากระต่ายดื้อจะยิ้มซนๆออกมาเหมือนอย่างเคย ดูเหมือนว่าจะกลับมาเป็นเจ้ากระต่ายน้อยคนเดิมได้แล้วสิ

"จริงสิ! ผมหายไปนานแบบนี้น้องๆต้องเป็นห่วงแน่เลย--อ้ะ!"

ตุบ!

หูยาวๆตั้งขึ้นเมื่อนึกได้ว่าน้องๆคงจะเป็นห่วงตนที่หายไปนาน ร่างบางรีบขยับลุกขึ้นจากตักแกร่ง แต่พอลุกขึ้นปุ้บความเจ็บที่ข้อเท้าก็ทำให้เจ้ากระต่ายน้อยล้มลงหน้าทิ่มเตียงโชว์บั้นท้ายกลมกลึงกับพวงหางปุกปุยที่ขยับไปมาต่อหน้าคนที่นั่งอยู่อย่างไม่ทันตั้งตัว

"นีล!!..เจ็บไหมครับ...รู้ว่าเจ็บแล้วยังจะซนอีก...อึก"

เขินได้ไม่นานเซฟิโล่ก็ต้องตั้งสติตัวเองหันมาจับเจ้ากระต่ายที่ไม่รู้จักดูสังขารตัวเอง ร่าเริงเกินไปจนล้มหน้าขมำไปข้างหน้า เขาจึงต้องดึงให้ลุกขึ้นมานั่งพิงหมอนดีๆ เหมือนเดิม

"..คงจะหิวใช่ไหมคะ..เดี๋ยวพี่ไปเอาข้าวมาให้กินก่อนนะ.."

พอจับร่างบางนั่งดีๆ แล้วเซฟิลก็รีบผละออกแล้วรีบออกจากห้องไปเอาอาหารมาให้คนเจ็บทันที อีกเหตุผลนึงคือป้องกันไม่ให้อะไรที่มันไม่ควรตื่นขึ้นได้ตื่นขึ้นมา

"นีลแค่กลัวน้องๆ เป็นห่วงเฉยๆ.."

ใบหน้าหวานเอียงลงเล็กน้อยอย่างงุนงงแต่ก็ยอมเป็นเด็กดีนั่งรอร่างสูง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!