...บทนำ...
.......
.......
.......
ต้นกำเนิดของมนุษย์หมาป่ามาจากตำนานกรีก ณ กรุงอาร์คาเดีย ที่ถูกปกครองโดยกษัตริย์ Lycaon ที่ชื่นชอบในการทานเลือดเนื้อมนุษย์เป็นอย่างมาก จนชาวเมืองต่างหวาดกลัวในความโหดร้ายเกินมนุษย์มนานี้ ทำให้เรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงหูของเทพซุสเข้า เทพซุสจึงปลอมตัวเป็นแขกเพื่อมารับประทานอาหารร่วมกับกษัตริย์Lycaon แต่ทว่าการหลอกปลอมตัวนั้นไม่สำเร็จ กษัตริย์ Lycaon ทราบว่าผู้ที่ร่วมโต๊ะกับตนนั้นคือเทพเจ้ามา จึงท้าทายด้วยการนำเนื้อมนุษย์มารับรองเสียเลย เป็นเหตุให้เทพซุสพิโรธอย่างยิ่งและสาปให้กษัตริย์และลูกหลานในตระกูลกว่าห้าสิบคนเป็นหมาป่ากันทั้งหมดและไม่มีทางหายจากคำสาปนี้นับแต่นั้นมา
.
.
.
มนุษย์หมาป่าแบ่งออกได้เป็น 2 สายพันธุ์ด้วยกัน
แวร์วูลฟ์ (warewolf)
มีลักษณะตัวใหญ่มีพละกำลังมาก มีขนสีน้ำตาลออกดำ การเกิดของแวร์วูล์ฟนั้นกำเนิดจากการโดนแวร์วูลฟ์ด้วยกันกัด จะแปลงร่างเป็นหมาป่าได้เฉพาะคืนพระจันทร์เต็มดวงและเมื่ออยู่ในร่างหมาป่าก็จะสูญสิ้นสามัญสำนึกของมนุษย์ ทำให้กระหายเลือดและคุ้มคลั่ง
ไลแคน (lycan)
เป็นมนุษย์หมาป่าสายเลือดบริสุทธิ์ที่สืบทอดเผ่าพันธุ์ผ่านทางสายเลือด ซึ่งเชื่อว่าไลแคนเป็นลูกหลานของกษัตริย์Lycaon ไลแคนมีขนสีเทาออกเงินมีรูปร่างปราดเปรียว สามารถแปลงร่างได้ตามใจนึก เมื่ออยู่ในร่างหมาป่าก็มีสติครบถ้วน ควบคุมตัวเองได้เสมือนร่างมนุษย์
การปราบเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่านั้นต้องใช้อาวุธที่ทำจากเงินแท้ แต่ไลแคนจะพิเศษกว่าตรงที่อาวุธเงินต้องผ่านการปลุกเสกก่อนจึงจะเห็นผล......
ฮ่า.....
มันเป็นเพียงแค่ตำนาน.....
ก็แค่นิทานหลอกเด็ก.....
... ...
...^^^——————————^^^...
...กฎแห่งป่า 3 ข้อ......
...ข้อแรก หาที่ซ่อนก่อนฟ้ามืด...
...ข้อสอง ห้ามอยู่คนเดียว...
...ข้อสาม ห้ามเข้าป่าในคืนพระจันทร์เต็มดวง...
...(ชู่ว...ความเงียบนั้นปลอดภัยที่สุด)...
-เวเรนท์-
:นักล่าสัตว์ป่า(?) เวเรนท์เป็นเด็กหนุ่มกำพร้าที่เกิดและอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนเผ่า รักอิสระ หลงใหลในการเดินทางออกผจญภัยไปในที่แห่งใหม่ เพื่อตามล่าและสืบหาตัวตนของตัวเอง..
-คาลายด์-
:องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักร city of iron คาลายด์เป็นบุตรคนเล็ก ฉลาดหลักแหลมและมีไหวพริบดี เป็นคนเกลียดโลก แม้จะโลภมากแต่ก็รังเกียจในอำนาจที่ตนมี
in the kingdom of prosperity
.
อาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ ดินแดนแห่งใหม่ที่ก่อตั้งมาเกือบสามร้อยปีจนมาถึงปัจจุบันนี้ ความรุ่งเรืองในดินแดนแห่งนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยสินค้าเกี่ยวกับเพชรนิลจินดามากมาย การทำเหมืองใหญ่ตรงหลังกำแพงนั้นช่างยิ่งใหญ่ สินค้าเหล่านี้ถูกนำส่งค้าขายไปทั่วทุกสารทิศ ด้วยเหตุนี้อาณาจักรจึงได้มีชื่อว่า อาณาจักรแห่งความเจริญรุ่งเรือง และอีกชื่อคือ city of iron แต่ชื่อนี้มีแค่คนในอาณาจักรและคนในท้องถิ่นที่เรียกเท่านั้น คนต่างแดนที่ได้ยินต่างมึนงงแต่ไม่ได้สนใจชื่อเรียกเสียเท่าไหร่
อาณาจักรแห่งนี้มีกษัตริย์ปกครองและเป็นผู้นำดูแลมาตลอดสามร้อยปี ตกทอดต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน การปกครองในยุคนี้ โดยกษัตริย์Believe Wendel(บีลีฟ เวนเดล) ท่านเป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ มีความฉลาดหลักแหลม ความสามารถด้านการต่อสู้เป็นเลิศ แต่ที่น่าเสียดายท่านบีลิฟพบรักกับชาวต่างถิ่น ถ้าเรียกให้ถูกคือสตรีสาวงามจากอาณาจักรที่แสนห่างไกล เป็นองค์หญิงที่หลบหนีมาจากสงครามที่ไม่รู้แน่ชัดว่าผู้ใดเป็นคนโจมตี ทั้งกษัตริย์บีลีฟและองค์หญิงต่างมีใจให้กันเป็นหนึ่งเดียว
ต่อให้โดนคัดค้านจากเมืองเพื่อนบ้านก็ตาม แต่กษัตริย์มีความคิดและตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกับองค์หญิงและให้คำสัญญาว่าจะทำงานเกี่ยวกับการส่งสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว ซึ่งเป็นผลดีต่อการค้าขายเป็นอย่างมาก กษัตริย์เมืองอื่นก็ต่างเห็นดีเห็นงาม จนปัจจุบันนี้ในทุกๆดินแดนต่างมีแต่ความรุ่งโรจน์และมั่งคั่ง
" ข้า! คือเจ้าหญิงแห่งดินแดนไอรอน! ข้ามีนามว่าบีลีฟ ซาเวียร์! ข้าจะปกครองดินแดนนี้ต่อจากท่านพ่อ เหอะ! "
บีลีฟ ซาเวียร์ บุตรสาวของกษัตริย์บีลีฟ เป็นบุตรคนที่สองต่อจากบุตรชายคนพี่ที่ชื่อ บีลีฟ วิลเลจ บุตรชายคนโตมีอายุครบสิบห้าปีก็ถูกส่งตัวย้ายไปรับตำแหน่งของอาณาจักรเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้เจ้าหญิงซาเวียร์จึงฝึกฝนเพื่อรับตำแหน่งต่อจากผู้เป็นพ่อ ซาเวียร์มีอายุเพียงเจ็ดปี ยังห่างไกลจากตำแหน่งมาก หลายคนคัดค้านเจ้าหญิงซาเวียร์เพราะว่าเป็นบุตรสาว แต่เจ้าหญิงไม่เคยสนผู้ใดนอกจากผู้เป็นพ่อและพี่ชายของตนเท่านั้น
แต่แล้วความฝันก็สลาย.....
" ท่านพี่ช่วยเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อยได้หรือไม่ "
" ข้าไม่ว่าง เจ้าไปเล่นกับแม่นมเสียเถอะ คาลายด์ "
" แต่ แต่ว่า "
" เหอะ! "
เฟลส์ คาลายด์ บุตรชายคนสุดท้องที่ปัจจุบันนี้มีอายุเพียงหกขวบ เป็นการกำเนิดที่ไม่มีใครคาดคิด ราชินีมีอาการป่วยรุนแรงในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์บุตรอย่างคาลายด์ แต่ก็รอดมาได้ ที่น่าเศร้าคือราชีนีร่างกายอ่อนแรงมากกว่าเก่า ต่อให้หาหมอยาที่เก่งและชำนาญที่สุดมารักษาก็ตาม แต่หมอทุกคนต่างส่ายหน้าเป็นคำตอบเดียวกันว่าไม่สามารถรักษาอาการเหล่านี้ได้ ราชินีส่งยิ้มเพื่อปลอบประโลมกษัตริย์และบุตรสาวของตน คงเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว...
เฟลส์ คาลายด์ ได้ใช้นามสกุลของผู้เป็นแม่อย่างที่ผู้เป็นแม่ต้องการ เด็กน้อยที่มีหน้าตาน่ารักมาแต่กำเนิด รูปร่างดูดี ผิวพรรณนุ่มนิ่มน่าสัมผัส สีผิวขาวดั่งน้ำนม ทรงผมตรงสีดำสนิทที่ได้มาจากผู้เป็นแม่และคนเป็นพี่สาวที่หน้าคล้ายกันยังกับแฝด เฟลส์ คาลายด์กลายเป็นแสงสว่างของอาณาจักร ทุกคนต่างหลงใหลและเอ็นดู แน่นอนว่าถ้าอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ เฟลส์ คาลายด์ จะได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์
ขึ้นครอง...เป็น......กษัตริย์...
เจ้าหญิงซาเวียร์ได้ยินเรื่องราวทุกอย่างและรับรู้จากคำบอกกล่าวของผู้เป็นพ่อ ซาเวียร์ทำได้เพียงกำหมัดอย่างโกรธเกรี้ยว ความพยายามฝึกฝนให้ตัวเขาได้เป็นเจ้าหญิงที่ยิ่งใหญ่กำลังจะพังลง ซาเวียร์พยายามทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นใหญ่และปกครองอาณาจักรต่อจากผู้เป็นพ่อ แต่กลับมีน้องชายในสายเลือดที่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดมา ตัวเขาถูกยึดอำนาจทั้งหมดไป...
น้องชายที่แสนน่ารังเกียจ...
" ท่านพี่ซาเวียร์ ข้าเก็บดอกไม้จากสวนที่ท่านแม่ปลูกมาให้ ท่านพี่ ท่านพี่ซาเวียร์ "
" เลิกตามข้ามาเสียที! "
คาลายด์ทำสีหน้าบูดงอเพราะโดนคนพี่หันมาทำหน้าดุใส่ ซาเวียร์มีท่าทางไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินไปต่อ แต่คาลายด์ยังคงวิ่งตามมาตัดหน้าแล้วยื่นดอกไม้ให้ ดวงตาสีฟ้ากลมโตทอประกาย สายตาออดอ้อนอย่างถึงที่สุด ซาเวียร์มีท่าทีเกร็งๆแอบยกยิ้มอยู่ในใจแต่ก็ทำหน้านิ่งแล้วใช้มือปัดดอกไม้ตรงหน้าทิ้ง
" อย่ามายุ่งกับข้าอีก เจ้ามันคนน่ารังเกียจ "
" ท่านพี่ซาเวียร์ไม่ชอบดอกไม้ของท่านแม่เหรอ ท่านพี่ ท่านพี่ซาเวียร์ ข้าจะ- "
" หุบปาก! ข้ารักดอกไม้ของท่านแม่ แต่เจ้ากลับเด็ดดอกไม้ที่แสนสำคัญของท่านแม่มาแบบนี้ คิดเหรอว่าท่านแม่จะไม่โกรธเจ้า! "
" ข้าแค่อยาก- "
" ท่านแม่ไม่ชอบเด็กดื้อรั้น โดยเฉพาะเจ้า คาลายด์ "
ซาเวียร์พูดใส่ด้วยใบหน้านิ่งๆ ไม่นานก็ยิ้มเย้ยก่อนจะเดินจากไป คาลายด์ยืนมองคนพี่ด้วยสีหน้าออดอ้อน น้ำตาคลอใส สีหน้าที่แสนจะงอแง เสียงโห่ร้องดังลั่นไปทั่วทุกบริเวณ
" คาลายด์ "
" ฮึก ท่านพ่อ ฮือ "
" บุรุษห้ามร้องไห้หรือเผยความอ่อนแอของตนออกมา "
" ฮึก "
" ตามพ่อมาสิ "
กษัตริย์บีลีฟลูบหัวคาลายด์เบาๆ เดินนำหน้าไปยังห้องสมุดใหญ่ของราชวัง คาลายด์ยังคงทำหน้าบึ้งตึง มือเล็กถูเช็ดน้ำตาและน้ำมูกออก เดินตามผู้เป็นพ่อไปอย่างว่าง่าย
TBC.
.
.
.
" ลูกรู้หรือไม่ว่าอาณาจักรของเราทำไมมีสองชื่อเรียก "
" เป็นชื่อเรียกทางการ กับชื่อเรียกของคนในท้องถิ่น ที่มีสองชื่อก็เพราะความหมายอีกชื่อของคนในท้องถิ่นที่ไม่สามารถให้บุคคลภายนอกรับรู้ถึงความลับในอาณาจักร หรือไม่ก็เป็นชื่อเรียกที่ไม่มีความหมาย เป็นเพียงชื่อถิ่นกับชื่อเรียกทางการค้าเท่านั้น "
" โห.... "
คาลายด์พูดอธิบายพร้อมกับเดินมานั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่ตนกำลังปีนขึ้น ผู้เป็นพ่อทำสีหน้าอึ้งก่อนจะยกยิ้มแล้วอุ้มคาลายด์มานั่งตักแล้วลูบหัว
" เจ้าฉลาดมิใช่เล่น "
" เป็นเรื่องพื้นฐานหนิขอรับ "
" นั่นสิ....แล้วเจ้าอยากรู้ความหมายจริงๆหรือไม่? "
" จำเป็นต้องรู้ด้วยรึ? "
" จำเป็นสิ.... "
" ขอรับ... "
คาลายด์มองหน้าผู้เป็นพ่อสักพัก ก่อนจะหันมองหนังสือที่เป็นตำราเก่าแก่ตรงหน้า ผู้เป็นพ่อค่อยๆเปิดหนังสือทีละหน้าแล้วเริ่มพูดอธิบายสิ่งต่างๆ ใบหน้ามึนงงของคาลายด์ทำผู้เป็นพ่อหลุดหัวเราะเป็นครั้งคราว
" อาณาจักรแห่งความเจริญ เป็นแค่ชื่อเรียกทั่วไปตามสภาพแวดล้อมของอาณาจักรที่เป็นอยู่ ส่วนอีกชื่อคืออาณาจักรแห่งเหล็กไหลหรืออาณาจักรเงิน... "
" เพราะสินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งออกมาจากเหมืองเป็นสินค้าสำคัญที่ถูกส่งออกแล้วทำรายได้มหาศาล แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเหล็กไหลทำไมถึงเป็นสินค้าหลักที่ถูกส่งออกไปมากที่สุด แทนที่จะเป็นเพชรพลอยแท้ๆ ทองคำยังถูกส่งออกน้อยกว่าเหล็กไหลเสียอีก ส่วนเงินแท้จะถูกส่งออกด้วยเครื่องหมายอนุญาติของกษัตริย์เท่านั้น เงินคือชื่อเรียกเก่าโดยมีชื่อเหล็กไหลมาแทนที่ เพราะถูกแทนที่จากการค้าขายและรายได้สินค้า ใช่หรือไม่ขอรับ? "
" ลูกรู้เรื่องนี้ด้วยรึ? "
" ข้าพูดตามความสงสัยของข้า ท่านพ่อช่วยอธิบายต่อได้หรือไม่? "
" อ่า... "
ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลมเสียจริง
แต่เสียดายที่เจ้ายังอ่อนต่อโลกมากเกินไป...
.
.
.
" เหล็กไหลสามารถนำไปทำสินค้าได้หลายอย่าง รวมถึงอาวุธร้ายแรงที่คนต่างแดนสร้างขึ้นเพื่อก่อสงครามครั้งใหญ่ แต่เหล็กไหลมิได้มีประโยชน์เพียงเท่านี้ เงินก็เช่นกัน.. "
" เป็นอาวุธสำคัญที่คนรุ่นก่อนหามาได้ยาก การจะค้นหาเหมืองซึ่งใช้เวลาขุดค้นถึงสิบปีเป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน แต่เหล็กไหลเป็นได้แค่อาวุธและเครื่องใช้เท่านั้น คงมิมีประโยชน์ไปมากกว่านี้หรอกขอรับ ทุกอย่างจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ในยุคช่วงเวลาแต่ละสมัยผันเปลี่ยนความพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น อีกไม่นานเหล็กไหลคงไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าตอนนี้ ส่วนเงินแท้ยังคงมีเห็นได้ทั่วไป "
" หืม...แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าอาวุธสำคัญอย่างเหล็กไหลมิได้มีไว้ทำสงครามเพียงอย่างเดียว เหล็กไหลที่สร้างขึ้นโดยมีเงินแท้เป็นอาวุธที่แสนร้ายแรง "
" ปิดชีวิตผู้คน "
" ....... "
" อาวุธไว้ทำสงครามก็เพื่อปิดชีวิตผู้คนเพื่อผลประโยชน์และล้างแค้น ไม่ว่าจะการปลิดชีพสัตว์เล็กหรือสัตว์ดุร้าย เหตุผลหลักๆในการทำอาวุธก็เพื่อการฆ่า ถึงจะทำเพื่อป้องกันตัวก็ตาม แต่สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่การสังหาร ใช่หรือไม่ท่านพ่อ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าเงินแท้จะสามารถเป็นอาวุธได้ "
คาลายด์พูดอธิบาย หันไปมองหน้าผู้เป็นพ่ออยู่พักใหญ่ ก่อนจะโดนลูบหัวจากฝ่ามือหนา ผู้เป็นพ่อยกยิ้มแล้วเปิดหนังสือมาจนถึงหน้าสุดท้ายของเล่ม
" เหล็กไหลเป็นอาวุธเครื่องมือ เงินแท้มีไว้สังหารสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวเท่านั้น ส่วนสงครามก็มีไว้สู้รบก็จริง แต่หลักๆเลยคือ เงินแท้ที่พ่อบอกเจ้าไปมิได้มีไว้สังหารมนุษย์หรอก "
" สัตว์ป่าหรือขอรับ?"
" ใช่ แต่มิใช่ว่าเป็นสัตว์ป่าเสียทั้งหมดหรอก ไม่ใช่ทั้งมนุษย์ไม่ใช่ทั้งสัตว์ แต่ก็เป็นทั้งมนุษย์และสัตว์เช่นเดียวกัน "
" ข้าไม่เข้าใจที่ท่านพ่อพูด มันหมายความว่าอย่างไรหรือขอรับ"
" เมื่อเจ้าโตขึ้น เจ้าจะรู้ทุกอย่างเอง "
ยังไม่ถึงเวลาของเจ้าหรอกหนา...
ยังไม่ถึงเวลา...
TBC.
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!