NovelToon NovelToon

นายความตายไม่มีชื่อX?!?

บทที่"1"ความทรงจำที่รางเลือน

กล้องวงจรปิดด้านบนอยู่ในองศาที่พอดี เลนส์กลมจับจ้อง เฝ้ามองชายหนุ่มผู้สูญเสียความทรงจำอย่างเงียบๆ ตรงกองขยะ ทว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้มันกลายเป็นแค่วัตถุที่ใช้การไม่ได้ เลนส์ของมันมีรอยร้าว สายที่เชื่อมต่อหลุดไม่เหลือชิ้นดีเหมือน ถูกฟาดด้วยของแข็ง ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงแสร้งทำเหมือนว่ากำลัง

จับตามองบางสิ่งบางอย่างอยู่ และชายหนุ่มผู้ซึ่งเพิ่งฟื้นตื่นจากฝันก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นมัน เขาหยุดอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าควรจะก้าวขาไปทางไหน สายลมพัดวูบให้ กลิ่นคาวคละคลุ้งโชยเข้ามาแตะจมูก ที่นี่ทั้งเหม็นและชื้นแฉะ

ชายหนุ่มกวาดตามองไปทั่ว บริเวณโดยรอบโอบล้อมด้วยบรรยากาศ อึมครึม อบอ้าว พอมองผ่านช่องว่างระหว่างผนังตึกเก่าไปก็เห็นตึกสูงตั้ง ตระหง่านเช่นเดียวกับตึกนี้ สภาพเก่าทรุดโทรมราวกับขาดการดูแลมาช้านานไม่ต่างกัน เสียงของผู้คนเริ่มดังแว่วมา แต่มันห่างไกลและเบาบางมากราวกับ ไม่มีใครอยากออกมาเดินในเวลาเช่นนี้

มวลเมฆสีดำเริ่มจับเป็นก้อนใหญ่ อีกไม่นานฝนคงตกลงมา นั่นเป็นสัญญาณให้เขาต้องไปไหนสักที่เพื่อหลบฝน แต่เขาไม่รู้เลยว่า จะไปที่ใด จึงหวนนึกถึงความฝันเมื่อสักครู่ เขามีใครสักคนที่รู้จัก คนคนนั้นอยู่ใน ความฝัน คนที่พยายามพูดอะไรกับเขาบางอย่าง

นึกให้ออกสิ...

ยิ่งพยายามเค้นภาพนั้นขึ้นมาก็พบแต่ภาพเลือนรางที่ไร้โฟกัส ทุกอย่าง ยังคงวนเวียนไม่มีสิ้นสุด มีเพียงภาพเดิมๆ ในความฝันที่ปรากฏขึ้นมา ไม่มี อะไรนอกเหนือจากนั้น ไม่เหลือความทรงจำอื่นเลย เขาพยายามนึกจนรู้สึก เหมือนศีรษะจะระเบิด

"โอ๊ย"

ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมหัวก่อนสัมผัสที่มือจะเรียกให้เขาหวนดูฝ่ามือ ของตัวเอง ชายหนุ่มก้มลงมองฝ่ามือหนาหยาบ ไล่สายตามองขึ้นยังแขน ทั้งสองข้าง สายตาสะดุดเข้ากับรอยแผลเป็นรูปร่างแปลกประหลาดบนแขนขวา มันยาวตั้งแต่ศอกไปจนถึงข้อมือ เขาลูบไล้มันราวกับถูกดึงดูด รูปร่างของมัน ช่างเหมือนกับ

ไม้กางเขน

ตัวของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้าสีขาวหม่น รัดรอบตัวและพาดขึ้นไปที่โหล่ ข้างหนึ่งจนถึงคอ เสื้อแขนยาวที่สวมอยู่ตอนนี้ดูเก่า คอเสื้อขาดลุ่ยจนเผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีเข็มด้านในที่ตัดกับสีผิว เขาสัมผัสร่างกายผ่านผ้าพันแผล เหล่านั้น ก่อนจะพบว่ามันไม่มีความเจ็บหลงเหลืออยู่ เขาขมวดคิ้วอย่างงุนงง

เราเป็นใคร?

คำถามนั้นยังสร้างความสงสัยไม่รู้จบ มือหนาของเขายกขึ้นสูบใบหน้า ด้วยความอยากรู้ตัวตนแล้วจึงเลื่อนไปยีผมซึ่งหยักศกเล็กน้อยและยาวยุ่งเหยิง บดบังหน้าผาก

จี๊ด...จี๊ด...

หนูตัวโตกำลังวิ่งผ่านขาของเขาไป ชายหนุ่มใส่ตามองมันอย่างไม่ตั้งใจ ราวกับถูกมันเชิญชวนให้เขาดูอะไรบางอย่าง ก่อนจะเห็นหนูตัวโตวิ่งไป รวมฝูงของมันโดยเร็ว ฝูงหนูกำลังกัดกินอย่างในมุมตึกไม่ไกลนัก บางอย่างที่น่าขนลุก

พวกมันกำลังกินสิ่งที่เคยมีชีวิต.....

ศพ!?!

ศพของชายวัยรุ่นคนหนึ่งในท่านั่งหลังพิงกำแพง ดวงตาโปนออกมา นอกเบ้า สมองและใหลกระจายเต็มพื้น ใบหน้าหลุดแหว่งเป็นชิ้นๆ แขนข้างหนึ่ง ถูกกระชากหลุด ตั้งแต่อกไปถึงหน้าท้องเหวอะหวะ มองเห็นอวัยวะภายใน ที่แห้งกรังดำสนิทส่งกลิ่นเหม็นเน่าคลั่ง ใบหน้าที่เละนั่นหันมาทางเขาพอดี ชายหนุ่มผงะพึ่งเข้ากับกำแพง ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองรู้สึกอย่างไร ในหัว

มีแต่ความสงสัยและสับสน ทำไมถึงมีคนตายอยู่ตรงนี้ และทำไมถึงอยู่ใน สภาพนี้ได้?

"1.2"«ความทรงจำที่รางเลือน»

ถึงจะบอกว่ารีบเร่งแต่ท่าทางของทุกคนก็ดูปกติเหมือนปฏิบัติกันเป็น กิจวัตร ไม่มีใครสนใจใคร ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตนเอง แม้เขาจะวิ่งออกมา จากตรอกแคบด้วยสภาพที่แปลกแยกจากคนอื่น แต่คนเหล่านั้นก็ทำเพียงมอง แล้วรีบทำในสิ่งที่ตนตั้งใจแค่นั้น

บรรยากาศช่างแตกต่างจากภาพความฝันอันสวยงามของเขา ชายหนุ่ม มั่นใจว่าโลกที่เขาเคยรู้จัก ต้องไม่ใช่แบบนี้

วี้ วอ วี้ วอ...

เสียงไซเรนดังลั่นเป็นสัญญาณเตือนของอะไรบางอย่าง บางอย่าง ที่เลวร้าย ชายหนุ่มหันไปมองทางต้นเสียง ก่อนจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ผู้คนที่กำลังรีบเร่งอยู่ยิ่งรีบมากขึ้นไปอีก กลุ่มคนแตกฮือเหมือนเจ้าหนูพวกนั้น ไม่มีผิด หลายคนเพิ่งลงจากรถโดยสารที่หยุดให้บริการชั่วขณะก็มี บางคน ที่คล้ายจะคุมสติไม่ได้เลือกที่จะกรีดร้องและวิ่งหาที่หลบยังมุมต่างๆ แม้แต่ สุนัขยังถูกเจ้าของต้อนเข้าบ้าน ทุกคนล้วนหาจุดที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่สำหรับชายหนุ่ม เขาไม่รู้ว่าเขาต้องทำอย่างไร จึงทำได้เพียงถอย กลับไปปากตรอกที่เพิ่งวิ่งออกมา เขาก็แค่ตั้งหลักเพื่อดูเหตุการณ์ที่เป็นไป ในโลกที่เขาไม่คุ้นเคย

เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?

วี้ วอ วี้ วอ...

เสียงไซเรนยังคงดังต่อเนื่อง ก่อนจะมีรถแวนสีดำสนิทวิ่งเฉียดผ่าน แรงลมจากการเคลื่อนไหวของลูกล้อ พัดพาฝันให้ลอยคว้างเป็นวงเล็กๆ ก่อนสลายไปในอากาศ

ชายหนุ่มมองตาม

ก่อนรถแวนสีดำสนิทกันใหญ่ทั้งสามต้นจะจอดลงพร้อมกับชายฉกรรจ์ จุดสีดำยมเทามีผ้ารัดแขนสีเทาอ่อนจำนวนหลายคนออกมาจากรถ ใบหน้า ของพวกเขาจึงยังจริงจัง ในมือของทุกคนมีเป็นคนละกระบอก เป็นปืนยาวบ้าง ปืนสั้นบ้าง

สายตาของพวกเขาจับจ้องบางสิ่งไปโดยรอบ ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึง

อำนาจของพวกเขาเหล่านั้นจึงลองกวาดตามองบ้าง เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหลบมุมกอดเด็กตัวเล็กๆ ทั้งคู่สั่นไปทั้งตัว เธอคงกำลังกลับบ้านแล้วมาเจอเหตุการณ์นี้เสียก่อน ชายหนุ่มนึกแปลกใจ ที่ไม่มีใครคิดจะหาที่ให้เธอหลบ ได้แต่ปิดบ้านหายกันไปหมด กระทั่งผู้คน ที่มุดตัวหลบตามรอยต่างๆ ก็ไม่คิดจะโผล่หน้าออกมาดึงเธอเข้าไปหลบด้วย

สักคน

อีกด้านชายวัยสี่สิบ สติไม่ดีถือไม้หน้าสามพูดออกมาอย่างท้าทาย “มาสิ ไอ้พวกบ้า จะใช้ไม้ตีให้หัวแบะเลยคอยดู!

แต่คำพูดขึงขังของลุงคนนั้นช่างขัดแย้งกับท่าทางโดยสิ้นเชิง มือไม้ ของเขาสั่นไปด้วยความกลัวระคนตื่นเต้น

ชายหนุ่มไม่รู้ว่า "ไอ้พวกบ้า” ที่ลุงคนนั้นพูดหมายถึงใคร หรือจะเป็น ชายฉกรรจ์เหล่านี้ พวกมาเฟียอย่างนั้นหรือ? เขาไม่รู้อะไรสักอย่าง อีกด้านเด็กสาวในชุดนักเรียนนั่งยองๆ กอดเขา กำจี้ที่สร้อยคอไว้แน่น

ตรงมุมกำแพง เธอคงไม่รู้ว่าตรงนั้นมันไม่ปลอดภัยมากพอ แล้วยังมีเด็กชายที่กำลังเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งอยู่ ซึ่งไม่ว่าจะเคาะ

เท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าเจ้าของบ้านจะเปิดให้เขาเข้าไปเลย หลายคนกระจายไปให้ห่างจากรัศมีที่กลุ่มชายฉกรรจ์เหล่านั้นจอดรถ

ราวกับนี่คือสงครามที่น่ากลัวที่สุด

เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยครับ!หนึ่งในชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นพร้อมโบกมือกวาดให้ทุกคนหลบ

“กรุณาออกจากบริเวณนี้ให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นจะไม่มีการรับรอง ความปลอดภัย! เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วย!!

เจ้าหน้าที่อย่างนั้นเหรอ?

ปัง!

ทันทีที่ชายหนุ่มคิด เสียงปืนก็ดังเปิดฉาก พวกชายฉกรรจ์ เริ่ม เคลื่อนไหว พวกเขายิงไปยังตรอกหนึ่งซึ่งชายหนุ่มผมยุ่งเหยิงไม่มีทางรู้ ว่ามีอะไรอยู่ เขาจ้องมองด้วยความสงสัย แต่ทันทีที่กระสุนสาดเข้าไปในนั้น คนที่หลบอยู่ตามมุมต่างๆ ก็แตกฮือเหมือนรับรู้แล้วว่าจุดที่มี “ความน่ากลัว อยู่ คือจุดไหน

ชายหนุ่มเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวหนึ่งเกิดขึ้น กลุ่มคนจำนวนหนึ่ง เดินด้วยท่าทางโอนเอนออกมาจากตรอกซอยที่พวกกลุ่มชายอาวุธครบมือ สาดกระสุนเข้าไป

คนเหล่านั้นรับรู้ถึงการบุกรุก และกำลังออกมาต่อสู้

นี่มัน....อะไรกันนะ?

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเข้าใจสถานการณ์นี้ได้เหมือนกับผู้คนในเมืองนี้ ชายหนุ่มเพ่งสายตามองพวกคนเหล่านั้นก่อนพบว่าพวกเขาแตกต่าง จากคนทั่วๆ ไปเล็กน้อย ตัวซีดเผือด มีแผลเปื่อยส่งกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง บางคนไม่มีแขน บางคนไม่มีตา บางคนหน้าแหว่ง บางคนมีแผลเหวอะหวะ

ที่ท้อง ที่ไหล่ ที่ขา แม้บางคนจะดูสมประกอบแต่เพราะผิวหนังที่แห้งและเริ่ม หลุดร่อนก็ทำให้แยกแยะได้ว่าพวกเขาแตกต่าง ดูแล้วเหมือนไม่มีชีวิต เหมือน ศพที่เดินได้

กลุ่มคนประหลาดเหล่านั้นเดินเข้าหาลูกปืนอย่างไร้สติ

...ปัง! ปัง! ปัง!.......

"1.3"«ความทรงจำที่รางเลือน»

เสียงปืนดังเป็นระลอกๆ เสียงร้องของผู้คนบริเวณใกล้เคียงก็ดังตาม

เสียงปืนด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่คนท่าทางแปลกๆ เหล่านั้นพยายาม จะวิ่งเข้าใส่พวกชายฉกรรจ์พร้อมอ้าปากกว้าง แต่แล้วก็ถูกยิงศีรษะจน สมองกระจายก่อนส้มลง ความน่าหวาดเสียวทวีคูณขึ้น เมื่อคนพวกนั้นวิ่งเข้าใส่ชายฉกรรจ์คนหนึ่ง

อย่างเร็ว ชายหนุ่มผู้เฝ้ามองนึกว่าคนคนนั้นจะตกเป็นเหยื่อเสียแล้ว แต่ กระสุนจากปืนอีกคนก็พุ่งมาสกัดไว้ใต้ทัน ชายคนที่เกือบเป็นเหยื่อหันไปเตะ ให้ซากศพกระเด็นออกห่างตัว แล้วเล็งไปยังเป้าหมายต่อไป

ชายหนุ่มเจ้าของผมยุ่งเหยิงตะลึงกับสิ่งใหม่ที่ได้รับรู้ เหตุผลที่ไม่มีใคร กล้าออกไปเสี่ยงเด่นชัดตรงหน้า ชายหนุ่มหลับตาแน่นชั่วขณะตั้งสติกับตัวเอง ก่อนจะลืมตาขึ้น เพราะอย่างไรก็หลบไปจากภาพความจริงไม่ได้ เขามองเห็น เหล่าคนไร้สติอีกหนึ่งคนเดินดื่มไปยังเด็กชายที่เพียรเคาะประตูบ้านหลังหนึ่ง

ว้ากกก!!"

ปัง!

เสียงปืนดังปกป้องเด็กชายไว้ได้ทันเวลา หัวและสมองของผู้ปองร้าย กระจายเลอะใบหน้าเด็กชายผู้รอดชีวิต

"หนีเร็ว!"

เจ้าหน้าที่คนที่ช่วยเหลือตะโกนบอก แต่....

ปัง! ปัง!

คนไร้สติอีกคนวิ่งจู่โจมเข้ามาทำร้ายเด็กคนนั้น ความเร็วของมัน กับกระสุนจากเจ้าหน้าที่ทันกันพอดี แต่โชคร้ายที่ศีรษะอันเปื่อยยุ่ยของซากศพ เดินได้ทำให้ลูกกระสุนเจาะทะลวงศีรษะของมัน ก่อนเจาะเข้ากลางหน้าผาก ของเด็กผู้โชคร้ายคนนั้นพอดิบพอดี เด็กชายล้มลง แต่เจ้าหน้าที่กลับหันไป เล็งปืนยังคนไร้สติคนต่อไป ไม่สนใจร่างอันไร้วิญญาณที่นอนจมกองเลือด อยู่ข้างๆ คนประหลาดนั้นเลย

แบบนี้เลยเหรอ!?!

“อย่านะ! กรี๊ดดดดด!!!

เสียงกรีดร้องของแม่ลูกอ่อนดังลั่น ทั้งๆ ที่คิดว่าหลบอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่เพราะอะไรบางอย่าง ทำให้พวกคนประหลาดไว้ซึ่งสติค้นพบตัวเธอและ พุ่งเข้ามาหา พวกมันหวังกระชากเธอให้ออกมาจากที่ซ่อนจึงดึงด้วยแขนเน่าๆ สุดแรง เธอยื้อเด็กที่อยู่ในมือเอาไว้แล้วกระชากกลับ ฟันของมันจ้างเข้ามาใกล้ เพื่อขู่ หญิงสาวยกมือปัดป้อง

ปัง! ปัง!

ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น สองแม่ลูกปลอดภัย แต่ใช่ว่าจะถูกทั้งหมด มือของคนเป็นแม่มีแผลเลือดไหลซิบๆ เธอนั่งลงตัวสั่น โดยเฉพาะมือของเธอ สั้นมากเป็นพิเศษ มันควบคุมไม่ได้ เธอพึมพำ....

“ฉันถูกกัด ฉันถูกกัด ไม่นะ ไม่!!!”

เธอกอดลูกน้อยแนบกายแน่นแล้วร้องให้คล้ายกับหมดอาลัยตายอยาก

ในชีวิต

ชายหนุ่มมองภาพเหล่านั้นด้วยความหวาดหวั่น คนเหล่านั้นเริ่ม เพิ่มจำนวน ไม่รู้ว่าเขาจะตกเป็นเหยื่อไปอีกคนเมื่อไร ใช่....เขาควรจะหลบไป ให้ไกลกว่านี้ แต่จะที่ไหนล่ะ? และโดยที่เขายังไม่ทันระวังตัว...

จู่ๆ หญิงร่างผอมหน้าหายไปเกือบครึ่งก็พุ่งเข้ามาหาชายหนุ่มเจ้าของ ผมยุ่งเหยิงอย่างไม่ให้ตั้งตัว ปากของเธออ้ากว้าง มือไขว่คว้ากลางอากาศ พอในหัวสั่งให้ขยับหนี เสียงหนึ่งก็ดังตามมาในทันที

ปัง!

เสียงปืนดังขึ้นก่อนที่หญิงคนนั้นจะพุ่งเข้ามาถึงตัวเขาในระยะไม่กี่ เซนติเมตร เขาหลับตาทันทีเมื่อสัมผัสถึงน้ำเหลืองเยิ้มๆ และเศษเนื้อเน่าๆ ที่สาดกระจายเต็มหน้า

"เหวอออ หึ้ย”

เขาร้องขึ้นมา คิ้วขมวดแน่น บ่งบอกว่ากำลังขยะแขยงอย่างที่สุด “นี่มันตัวบ้าอะไรกันน่ะ นี่มันเรื่องบ้าอะไร?!"

คล้ายว่าชายหนุ่มจะพึมพำกับตัวเอง พลางเอามือลูบหน้าเพื่อเอา เศษสมองเน่าๆ ทิ้ง กลิ่นมันเหม็นจนเขาแทบอยากจะอาเจียนออกมาสายตา ยังกวาดมองเหตุการณ์รอบข้างอย่างหวาดผวาว่าจะเกิดเหตุซ้ำ

เขามองเห็นชายวัยกลางคนท่าทางเพี้ยนถือไม้หน้าสามคนนั้นโยนไม้ทิ้ง แล้ววิ่งหนี ทิ้งให้เด็กสาวในชุดนักเรียนเผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง แต่เด็กสาว ผู้กล้าหาญกลับคว้าไม้นั้นขึ้นมาจากพื้นก่อนกวัดแกว่งไปมาเพื่อป้องกันตัว

“ออกไปนะ ไอ้พวกบ้า ออกไป!”

ส่วนเหล่าชายฉกรรจ์ในเครื่องแบบเองก็กำลังสู้อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย กับคนประหลาดอีกสามคน เท่าที่ชายหนุ่มสังเกต คนพวกนั้นจะหยุด การเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อถูกยิงเข้าที่หัวเท่านั้น

แต่เขาไม่เข้าใจเลยว่าคนพวกนั้นกลายเป็นแบบนั้นได้อย่างไร โลกนี้ ได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เมื่อไร หรือมันเป็นแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง? คำถามหลายอย่างเกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็จบลงเมื่อมันไร้คำตอบ

ชายหนุ่มหลับตาลงเขาไม่รู้จะเริ่มตามหาตัวตนของตนเองได้ที่ไหน

เพราะมาที่หลงเหลืออยู่ในหัวของเขาไม่ใช่ที่นี่ “โอ๊ย” เขารู้สึกปวดหัว ปวดหัวไปหมด

เวลาผ่านไป...

ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่ามันนานเท่าไรแล้ว แต่มันนานพอที่จะทำให้เขารับรู้ ถึงความสงบ ไม่มีเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสน ไม่มีเสียงปืน มันเงียบ จนได้ยินเสียงสะอื้นไห้ดังลอดออกมาจากบ้านเรือนในละแวกนั้น

พวกเขาหวาดกลัว

ชายหนุ่มตระหนักว่าใช่ว่าความเคยชินจะสร้างเกราะคุ้มกันให้คนเหล่านี้ ได้เสียเมื่อไหร่

เสียงไซเรนได้หยุดลง แต่เสียงฟ้าร้องยังคงดังคำราม พายุฝนใกล้เข้ามาแล้ว

ชายหนุ่มกวาดตามอง ศพที่ถูกระเบิดหัวมากมายเกลื่อนถนนไปหมด เขามองเห็นรถขนาดใหญ่สองคันซึ่งมารออยู่แล้ว รถได้เคลื่อนตัวเข้ามา ก่อนจะจอดลงใกล้ๆ ชายฉกรรจ์ที่แต่งตัวคล้ายชายกลุ่มแรก เพียงแต่ผ้ารัดแขน ของพวกเขาเป็นสีขาวปักคำว่า “UL 407 แล้วสวมชุดโปร่งใสทับอีกชั้น ทุกคน ค่อยๆ ทยอยลงมาจากรถ พวกเขาไม่มีปืน นอกจากบางคนจะสะพาย

กระเป๋าขนาดใหญ่ที่มีท่อสายยางสีเงินเชื่อมติด ซึ่งมันมีไอสีขาวถูกพ่น ออกมา มันเป็นยาฆ่าเชื้อ ส่วนบางคนก็กำลังช่วยกันยกร่างของพวกคน ที่อาละวาดเหล่านั้น รวมถึงศพของคนที่เรียกตนเองว่าเจ้าหน้าที่โยนเข้าไป ยังหลังรถบรรทุก

...ผู้คนที่หลบซ่อนอยู่ก็แง้มหน้าต่างออกมาเฝ้ามองเหตุการณ์ ไม่มีใคร กล้าย่างกรายออกมา บางคนแอบดูก่อนจะเบียนหน้าหลบกันไปเพราะภาพ ที่น่ารังเกียจ ไม่มีเสียงซุบซิบ ไม่มีเสียงต่อว่ากัน แม้ว่าพวกเขาจะทำเรื่องเห็นแก่ตัว เพียงไหน.......

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!