สวัสดีครับ ผมชื่อจอส ผมเป็นคนต่างจังหวัด เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ผมเป็นแค่เด็กบ้านนอก การศึกษาก็จบแต่ม.6 ผมจึงเข้ามาหางานทำ เป็นแค่พนักงานเสริฟอาหารในย่านอโศก และขออาศัยพักอยู่กับเพื่อนพนักงานอีกคนสักพัก เมื่อผมตั้งตัวได้ผมก็จะออกไปอยู่คนเดียว
แต่ทว่า เงินเดือนนั้น มันน้อยนิด ผมจึงต้องประหยัดเงินเป็นอย่างมาก แต่ผมนั้น ไม่มีพ่อแม่ ท่านเสียตอนผมอนุบาล3 ส่วนคนที่ช่วยเลี้ยงดูผมจนจบม.6 ก็เป็นสามีเก่าของแม่ผม ท่านก็ทำได้เพียงเท่านี้ แต่ผมก็รักและเคารพท่านเป็นเหมือนคนในครอบครัว และท่านก็จากไปเมื่อเดือนที่แล้ว นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผม เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เพราะผม ไม่เหลือใครเลย
ผมทำงานอยู่ร้านนี้ได้เพียง4เดือน ผมก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ผมจึงย้ายออกมาและหาบ้านเช่าที่ราคาถูกมากๆ ในย่านอโศก และพบกับหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่นี่มีคนอาศัยน้อยมาก ไม่แออัด แต่ผมก็ชอบความสงบมากกว่าความอึดอัด ผมจึงตัดสินใจ ทำการเช่าบ้านหลังนี้ด้วยราคาเดือนละ1,200ซึ่งรวมค่าน้ำค่าไฟแล้ว เป็นราคาที่ถูกมากๆ แต่ก็ถามสภาพนั่นแหละครับ ไม่มีแอร์ เป็นบ้านไม้ ค่อนข้างเก่า แต่ของใช้ไฟฟ้าก็มีให้ไม่น่าเกลียดเลย พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้า คืนแรกที่ผมนอนที่นี่ ผมสัมผัสได้ถึงความเงียบ เงียบที่เงียบเกินความปกติ แต่ผมเหนื่อยจากการทำงาน ผมจึงหลับด้วยความอ่อนเพลีย
เช้านี้ ผมตื่นมาด้วยเสียงของลมที่พัดผ่านด้วยความแรง และหนาวยะเยือก ผมก็ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติก่อนออกไปทำงาน เมื่อผมกำลังออกจากบ้าน เปิดประตูมา ผมถึงกับต้องตะลึง ทำไมทุกบ้านถึงมีสติกเกอร์แปะคำว่า "บ้านหลังนี้ไม่ใช่สีแดง" แต่ของผมถึงไม่มี แต่ผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมาก เพราะต้องรีบไปทำงาน เวลาผ่านไป3ชั่วโมง ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าผมหลับที่โต๊ะวางของ แต่ตอนตื่นมา ผมนอนบนเตียงได้อย่างไร ผมจึงได้ครุ่นคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง เพื่อนร่วมงานได้ถามผมว่า เมื่อเช้าแม่มาส่งหรอ ผมจึงแปลกใจ ว่าทำไมถึงถามแบบนั้น ผมจึงตอบ "ไม่นะ เรามาคนเดียว"
อ้าวหรอ เสียงเพื่อนผมนั้นดูงงๆปนกับความสงสัย
................................เลิกงาน...........................
ผมกลับมาถึงบ้าน ผมได้แต่คิด แล้วก็สงสัยวกไปวนมา ว่าทำไมถึงมีเรื่องอะไรให้ชวนสงสัยตลอดเวลา เมื่อมาอยู่บ้านหลังนี้ ผมจึงออกไปเดินเล่นที่ระเบียงหลังบ้าน เป็นป่าที่สวยมาก สงบ ไม่รกเกินไป อากาศสดชื่น จนกระทั่งเวลา2ทุ่ม ผมก็กลับเข้าไปในห้อง ผมเจอเส้นผมยาวยืดที่พื้น ผมริดว่าต้องเป็นผมของผู้หญิงแน่ๆ ผมคิดว่าเป็นของคนเช่าคนเก่า ผมจึงทำความสะอาดเก็บกวาดเส้นผม แต่ทำไมยิ่งผมกวาด มันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และผมก็เห็นเจ้าของผมนั้น... และผมก็สะดุ้งตื่น ผมเผลอนั่งหลับที่ระเบียง และฝันอันชวนขนหัวลุก ผมจึงรีบเข้าห้องนอนทันที ผมเหงื่อแตกเลยครับ ไม่เคยฝันอะไรแบบนี้เลย คืนนี้ ผมคิดในใจว่าผมนอนไม่หลับแน่นอนถ้าผมกลับไปคิดเรื่องที่อยู่ในฝัน ผมจึงอ่านหนังสือที่มันอยู่ในตู้ ผมเปิดอ่านอยู่พักหนึ่ง ผมเห็นเส้นผมยาวติดอยู่กับหนังสือ ผมตกใจเลยโยนหนังสือทิ้ง เพราะมันทำให้ผมนึกถึงฝันนั้น แต่พอผมมองดีๆ หนังสือเล่มนี้ สะอาด ไม่มีร่องรอยอะไร และไม่มีเส้นผม มันก็เป็นแค่หนังสือธรรมดาๆ ผมเลยปลอบใจตัวเอง ว่าคงคิดมากจนเกินไป ฝันร้ายจะกลายเป็นดี ผมจึงตัดสินใจอ่านต่อ เพราะมันสนุก และผมก็รู้สึกง่วง จึงเอาหนังสือไว้บนหัวนอนและหลับ
.......หนังสือที่เขาวางไว้บนหัวนอน เขาได้อ่านไปถึงหน้า47แล้ว แต่อยู่ๆก็มีมือปริศนาปรากฏและได้เอามือเปิดหนังสือไปหน้าที่3 หน้าที่จอสนั้นได้เปิดเจอเส้นผม เธอเอาเส้นผมเส้นใหม่ ใส่ลงไปที่เดิม.....
.......เช้าวันถัดไป...(วันหยุด)...
ผมตื่นด้วยเสียงนาฬิกาปลุก แต่ผม..ดันรู้สึกถึงควาผิดปกติกับดวงตาของผม เหตุใด ผมจึงมองเห็นทุกสิ่งอย่างเป็นสีแดง ผม...ผม. อธิบายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกเลย เพราะมันเป็นสีแดงเลือด ผมผวาขนลุกซู่ และสิ่งที่ผมไม่อยากเห็นมันได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เส้นผม ค่อยๆร่วงลงมาจากเพดานทีละเส้น ทีละเส้น ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ จะขยับตัวก็ไม่ได้ เหมือนมีอะไรมาตรึงผมไว้ และเลือดก็ค่อยๆไหลลงจากเพดาน ผมสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ อะไรกันนี่ ผมฝันอีกแล้ว ผมรู้สึกกลัวมาก ผมจึงตัดสินใจไปทำบุญ
........ณ วัดโพธิ์ท่าเตียน..........
ผมใต้ถวายสังฆทานและถวายปัจจัย พร้อมปล่อยนกปล่อยปลา และขอน้ำมนต์หลวงพ่อติดตัวไว้ ผมรู้สึกได้ ว่าหลวงพ่อรู้ว่าผมเจออะไรมา แต่ท่านก็เลือกที่จะไม่พูด ใช่ครับ ถ้าท่านพูดผมไม่กล้าออกจากวัดแน่ครับ .......
ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นเล็กน้อย และผมก็เดินทางกลับบ้าน......เมื่อผมเปิดประตูบ้านมา ข้าวของได้กระจุยกระจายเละมาก ผมไม่เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในหัวของผม ลืมเรื่องที่ฝันเลย เพราะผมคิดว่าเป็นฝีมือของขโมย ผมจึงรีบดูทรัพย์สินมีค่าที่เก็บไว้ในบ้าน น่าแปลกจริง ที่อยู่ครบ ไม่มีอะไรหายไปเลย แต่ผมเพลียมากผมก็เลยนอนพักที่โต๊ะหนังสือ ตื่นมาแล้วค่อยเก็บของ
............21:52......…....
ตื่นมา ผมก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง ข้าวของที่เคยกระจุยกระจาย กลับสู่สภาพเดิม ผมนี่ถึงกับขยี้ตาจนตาช้ำ "นี่มันอะไรวะเนี่ย" ตอนนี้ผมรู้สึกโมโหมากกว่ากลัวซะอีก เพราะวันหยุดผม แทนที่จะได้พักผ่อนอย่างสบายใจสบายกายบ้างแต่นี่อะไร มีแต่เรื่องให้ปวดหัว ผมไม่รอช้า รีบขึ้นเข้าห้องนอนทันที เพราะผมไม่อยากคิดอะไรต่อแล้ว ผมต้องตื่นเช้าทำงานต่อในวันถัดไป
...........01:25...........
จู่ๆ ผมก็รู้สึก อึดอัด..หายใจไม่ออก ตั้งแต่ผมเจออะไรแบบนี้ ผมก็พอรู้แล้วล่ะ ว่าผมกำลังจะเจอกับอะไร ลืมตาขึ้น เท้าแผลเหวอะหวะ เหยียบอยู่บนหน้าอกผม ผมเงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวผมยังหน้า ได้ชี้มาที่หน้าของผม และค่อยๆลดมือลง และก็สลายหายตัวไป ผมโล่งมาก ผมสูดอากาศอย่างกระหาย แต่ผมต้องข่มตาหลับต่อ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!