โลกอันสวยงาม ธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา ลำธาร ทะเล หมู่เกาะ สัตว์ป่า สัตว์น้ำ สัตว์ทะเล แม้กระทั่งมนุษย์ทุกสิ่งล้วนถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก "แต่เหตุใดมนุษย์ที่โง่เขลาจึงทำลายสิ่งที่โลกประธานให้กันล่ะ"
เหล่าทวยเทพต่างตั้งคำถามพวกเขาไม่เข้าใจเหตุใดโลกจึงปราณีต่อมนุษย์มาอย่างยาวนาน โลกตอบว่า"เพราะมนุษย์เปรียบเหมือนลูกของเรา"คำตอบแสนอ่อนโยนของโลกทำให้ทวยเทพสงบลง แต่ในเวลานั้นมีเทพบางคนถือตนไปหลงรักมนุษย์แม้จะเป็นเรื่องผิดก็ไม่ได้รับการคัดค้าน แม้กระทั่งปีศาจชั่วช้ายังปักหลักสร้างรากฐานสมสู่กับมนุษย์
เพราะโลกนั้นใจดีแม้ความผิดจะกนักหนาเพียงใดโลกก็ให้อภัยเสมอเด็กที่เกิดเป็นลูกครึ่งมนุษย์มีพลังวิเศษและส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น เด็กเหล่านั้นมักถูกรังเกียจเสมอบางคนหน้าตางดงามจนถูกมองว่าเป็นแม่มดบ้างต้องหลบซ้อนเพราะความสามารถของตนรุนแรงเกินไป
วันเวลาลากผ่านล่วงเลยไปยาวนานโลกเข้าสู่ยุคทองของอุตสาหกรรม มนุษย์เริ่มไม่หยุดแค่เพียงการตัดไม้เพียงไม่กี่ต้นเพื่อเป็นเชื้อเพลิง พวกนั้นเริ่มเจาะน้ำมันสร้างโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยควันพิษจนถึงยุคปัจจุบัน ทั้งขยะในทะเลทั้งมลพิษในอากาศทั้งน้ำที่เป็นพิษทั้งการตัดไม้ที่มากขึ้นทั้งไฟจากการเผาป่าสิ่งเหล่านั้นทำให้โลกไม่อาจนิ่งนอนใจ เขาส่ง"ภัยพิบัติ"ธรรมชาติมาให้บทเรียนแก่มนุษย์นับครั้งไม่ถ้วนแต่มนุษย์นั้นไร้สำนึกจนกระทั่งโลกหมดความอดทน
"โลกใจร้ายชะมัด ทำไมต้องให้อากาศร้อนแบบนี้ด้วย"ในขณะที่มนุษย์จากทั่วทุกมุมโลกกำลังต่อว่าต่อขานโลกที่เขาอยู่นั้นเอง เสียงกึกก้องดังขึ้นในโสตประสาทของผู้คนมากมาย
"มนุษย์โง่เขลา เหตุใดเจ้าจึงโทษเพียงแต่ข้า"
เสียงทุ้งต่ำไพเราะกังวารน่าฟังดังขึ้นขณะที่ผู้คนบางส่วนเริ่มล้มฟุ่บลงกับพื้นเพราะทนต่อคลื่นเสียงไม่ไหว
"เจ้าผู้โง่เขลาข้ามอบโอกาสให้เจ้ามาอย่างยาวนานแต่พวกเจ้ากลับมองว่าข้านั้นใจร้ายหรือ ที่ข้าทำเช่นนี้เพราะพวกเจ้าเองก็มิได้ใจดีกับข้าเช่นกัน ขอให้พวกเจ้าสนุกกับการมีชีวิตรอดในวันโลกาวินาศนี้"
สิ้นเสียงนั้นมนุษย์นับล้านคนล้มลงไปกองบนพื้นพวกเขาเสียชีวิตเพราะระบบประสาททำงานผิดปกติกระทันหัน ผู้คนบางส่วนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันใดนั้นการแจ้งเตือนและข่าวเกี่ยวกับภัยภิบัติที่เกิดขึ้นกระทันหันทั่วทุกมุมโลกยิ่งสร้างความหวาดกลัวมากขึ้น
เหตุการณ์เช่นนั้นดำเนินยาวนานถึง1สัปดาห์ มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตที่ยังเหลือรอดนั้นมีเพียงน้อยนิดไม่ถึง1ใน100ของ%ประชากรเดิม คนเหล่านั้ยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและเลื่อนลอยไร้จุดหมายแต่ยังมีผู้ที่ยืนยัดขึ้นมาได้และปรับตัวกับสิ่งที่โหดร้ายในตอนนี้เอง
[ มุมมองตัวเอก ]
ผ่านไป1อาทิตย์หลังวันโลกาวินาศ ผม อลิซ ทีนอยด์ ชื่อของผมอาจจะดูเหมือนผู้หญิงแต่จริงๆผมเป็นผู้ชายชื่อของผมอิงมาจากชื่อของมนุษย์ผู้หญิงคนแรกของโลกในคัมภีร์ไบเบิล เข้าเรื่องดีกว่าหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นในวันนั้นโลกเข้าสู่ความโกลาหลไปหมดทั้งภัยทางธรรมชาติแล้วยังมีเรื่องของอาชญากรรมอีก
ตอนนี้มนุษย์มากกว่าครึ่งไม่สิต้องเรียกว่าสิ่งมีชีวิตมากกว่าครึ่งกลายเป็นแค่ซากศพไปแล้วก็ว่าได้เวลาผ่านไป1อาทิตย์แล้วเหตุการณ์ตอนนี้ก็เริ่มสงบลงแล้ว
อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่มีใครมาฆ่ากันตายไม่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติอะไรอีก ผมเดินอยู่บนถนนสายหลักที่ตอนนี้เงียบกริบเป็นป่าช้าเพราะแถบนี้ไม่มีใครรอดชีวิตเลย ส่วนผมกำลังจะไปไหนน่ะเหรอผมจะไปเมืองข้างๆไปที่บ้านของครอบครัวนอลล์เชลล์ผมมั่นใจมากว่าพวกนั้นรอดแน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
ก็จบไปแล้ว1ตอนะคะเป็นตอนเปิดเฉยๆเลยอาจจะสั้นนิดนึงแต่ตั้ง2800+ก็ไม่น่าสั้นมากหรอก ฝากติดตามด้วยนะคะ
นอลล์เชลล์ ชื่อของตระกูลอันยิ่งใหญ่พวกเขาแต่ละคนนั้นแข็งแกร่ง แม้พวกเขาจะเป็นตระกูลเดียวกันแต่พวกเขาไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แม้พวกเขาจะปรองดองกันเสมอมาก็ตามตระกูลนี้มีคนเก่งมากมายและหนึ่งในนั้นคือ แกรมม่า นอลล์เชลล์ เขาเป็นนักลงทุนชื่อดังที่เป็นแค่ที่รู้จักในวงการเท่านั้นก็นะ หมอนี่น่ะเข้าถึงยาก
ตระกูลนี้มีพี่น้องรวมกัน7คน
พี่ชายคนโต แกรมม่า นอลล์เชลล์ ชายผู้เป็น
เหมือนฟันเฟืองสำคัญของโลกแห่งธุรกิจไม่ว่าจะนักธุรกิจน้อยใหญ่แค่ไหนก็รู้จักเขาและตัวเขายังมีสิ่งที่เรียกว่าพลังพิเศษ ครั้งนึงเขาเคยเล่าให้ผมฟังว่าผู้ก่อตั้งตระกูลรุ่นแรกนั้นเป็นทูตสวรรค์
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกนะแต่พอเห็นภาพที่วาดจากศิลปินชื่อดังของยุคนั้นซ้ำภาพหน้าตาของเขานั้น...งดงามเหนือคำบรรยายของคำว่ามนุษย์ไปมาก
และยังมีเหตุการณ์มากมายที่พิสูจน์ได้ว่าเขานั้นเป็นของจริงแกรมม่าเป็นชายร่างสูงโปร่งชอบอยู่ในชุดสูทสีดำใส่ผมสีชมพู ตาสีแดงเลือดมีปานรูปหัวใจอยู่บนแก้มข้างซ้ายใต้ขอบตาลงมามันทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากเลยล่ะนะ
[ เมืองพาราไดซ์ ]
.
เวลา 14:57 นาที
"พี่แกรมม่าผมรู้สึกเหมือนจะมีคนมาเยี่ยมเราเลยล่ะครับพี่รู้สึกเหมือนกันมั้ย"
"อ่า...พี่ก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน"
เสียงสนทนาของคนที่เหมือนจะเป็นพี่น้องกันดังขึ้นภายในบ้านหลังใหญ่ ชายหนุ่มร่างสูงกำลังนั่งจิบชาสนทนากับเด็กสาวร่างเล็ก
เขาทั้งคู่มองออกไปนอกหน้าต่างเขาทั้งคู่รู้ว่าใครจะเป็นคนมาภายนอกหน้าต่างมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด ราวกับว่าเจ้าพวกนั่นไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เคยมีอยู่
พวกเขาสองคนเรียกสิ่งมีชีวิตนั้นว่ามอนสเตอร์มันเคยเป็นสัตว์ธรรมดามาก่อนแต่เหมือนว่าหลังวันล้างบางสิ่งมีชีวิตมา2-3วันพวกมันจะเริ่มวิวัฒนาการ
แต่ตอนนี้ผ่านมา7วันแล้วทุกอย่างเริ่มสงบลงแล้วในบ้านนอลล์เชลล์เหลือเพียงแกรมม่า นอลล์เชลล์และน้องสาวคนเล็กอย่าง ทิสต์ม่า นอลล์เชลล์
ครอบครัวนอลล์เชลล์แต่ละคนนั้นแยกกันอยู่โดยที่พี่คนโตและน้องคนเล็กจะอยู่ที่บ้านใหญ่ ส่วนคนที่เหลือจะแยกย้ายกันอยู่อย่างไม่มีหลักแหล่งแน่ชัด
เช่นนั้นครอบครัวนอลล์เชลล์หรือตระกูลนอลล์เชลล์จึงเป็นที่รู้จักกันไปในหลายทิศทาง
"แกรมม่า!!"
เสียงทุ้มกังวานดังอยู่ด้านนอกบ้านหลังใหญ่กลุ่มคนกำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างดุเดือด
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทิศไม่อาจแยกได้ว่าเป็นเลือดของฝ่ายไหนตอนนี้สองพี่น้องมองไปที่หน้าประตูบ้านของเขาอย่างคาดหวัง เพราะพวกเขาต่อสู้ไม่ค่อยเก่งจึงไม่ออกไป
"ทิสต์ม่า น้องจะลงไปช่วยพวกเขาก็ได้นะ"
"พี่แกรมม่า พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบกลิ่นของมอนสเตอร์พวกนั้น แต่ถ้าพี่บอกแบบนั้นผมก็จะลงไปช่วยก็ได้"
ผู้เป็นน้องชายบ่นอุบอิบก่อนกระโดดลงไปทางหน้าต่างและเข้าไปช่วยคนกลุ่มนั้นในการต่อสู้
เพียงไม่นานมอนสเตอร์เหล่านั้นก็กลายเป็นเพียงเศษเนื้อเป็นชิ้นๆ น้องชายของเขาเดินนำกลุ่มคนเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวเขา
[ ภายในบ้าน ]
ห้องทำงานของแกรมม่า
"เจ้าพวกนั้นคืออะไรกันแกรมม่า!!"
"ใจเย็นน่า...อลิซครอบครัวผมไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นมาหรอกนะ"
ชายหนุ่มพยายามอธิบายและบอกให้อีกฝ่ายใจเย็นลง ปกติแล้วเพื่อนชายคนนี้ของเขาเป็นคนใจเย็นแต่เมื่อเรื่องเกี่ยวถึงความเป็นความตายของคนอื่นด้วยแล้ว เขาก็จะเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที
"แล้วมันหมายความว่ายังไงล่ะ พวกมันเป็นตัวอะไร"
"ผมก็ไม่รู้ แต่ผมเรียกมันว่ามอนสเตอร์"
"มอนสเตอร์?"อลิซถามอีกครั้งด้วยความสงสัยในเมื่อนี่คือโลกไม่ใช่เกม แล้วเหตุใดจึงมีสิ่งที่เรียกว่ามอนสเตอร์โผล่มาใน1อาทิตย์หลังวันล้างบางสิ่งมีชีวิตล่ะ
"ใช่แล้วครับผมเรียกมันว่ามอนสเตอร์ ถึงแบบนั้นผมก็ไม่รู้แน่ชัดหรอกครับว่ามันมาได้ไง"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!