[สวัสดีค่ะ ^.^ แอดมิกกี้เองค่ะ]
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเริ่มต้น ของมิกกี้ละค่ะ เป็นเนื้อหาเเบบซอฟต์ๆ เบาๆ ที่เริ่มต้นขี้นด้วย
ความรักเเรกพบเพียงสบตาของอาจารย์สุดหล่อ นัยน์ตาคมกริบของเขาที่ดุดันจนใครต้องใครต่างพากันหวาดกลัว อีกทั้งยังชอบดุเเละเก๊ก(โหด) ใส่เธอเสมอๆ
เธอสาวน้อยไร้เดียงสาที่ชีวิตต้องกลับตาลปัตรจากเป็นสาวน้อย ที่อาคัยในเมืองกรุง เพียบพร้อมกลับต้องมาใช้ชีวิตในไร่ในชนบท เนื่องจากพ่อเเม่ของเธอเป็นนักธุรกิจระดับต้นๆของประเทศเหมี๊ยวเหมี๊ยวเเต่ต้องล้มละลาย
ด้วยรักเเรกพบเมื่อเพียงสบตาหรือโชคชะตากลั่นเเกล้งหรือไร ที่ทำให้คนสองคนได้พบเจอเเต่เพราะความไม่กล้าเเละ 'วัย' ของเค้าที่มากกว่าอาจทำให้สาวน้อยคิดว่าเค้าทำตัวเป็น 'โคเเก่' หวังเคี้ยวหญ้าอ่อน "เเต่คุณลุงช่างไม่รู้อะไรเสียเลยว่า 'หญ้าอ่อน' ก็รอให้ 'โคเเก่' เคี้ยวอยู่เหมือนกัน" รักฉบับอ้ำอึ้งจะจบลงอย่างไรกันเนี้ย รอติดตามไปพร้อมกันนะค่ะ
#เรื่องราว สถานที่ เเละชื่อบุคคลในนี้เป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นหาก ผิดพลาดประการใด ก็ของอภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
...#แอดมิกกี้...
...EP.1...
...บังเอิญพบ...
เช้าในวันหยุด หลังจากการปิดการเรียนภาคฤดูร้อน มิกิ หรือ วิระภา โชยะมะ ได้ใช้เวลาหยุดอยู่บ้านอ่านวนิยายเล่มโปรดของเธอ ในบ่ายที่สดใส จนกระทั่ง ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือมีเสียงเรียกเข้า ทำให้เธอ รู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก เมื่อดูปลายสายเธอจึงได้กรอกเสียงห้าวใส่ปลายสายไป
" นี้ยัย! ยูริ หรือ กันติมา เจริญวัฒนา เเกจะโทรมาขัดขว้างความสุขของฉันทำไมเนี้ย" ยูริที่รู้ได้ทันทีว่าเพื่อน หมายถึงอะไรก็ได้เเต่บ่น เพื่อนรักคนสนิท
"เเกไม่คิดจะออกไปไหนบ้าง หรือไงกันย่ะ วันนี้ฉันรู้สึกเบื่อมากๆ เลยว่าจะออกไปช้อปปิ้ง เเกไปช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ มิกิ เพื่อนเลิฟฟฟ"
" ไม่เอาอ่ะ! เเกก็รู้ ว่าฉันไม่ชอบไม่้เดินห้าง น่่าเบื่อจะตายไป"
ยูริ ได้เเต่คิดในใจ เมื่อเพื่อนสนิทของเธอปฏิเสธคำเชิญชวนของเธอ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เเปลกเอามากๆ
" เอาอย่างนี้ไหมเพื่อนเลิฟ แกเเต่งตัวสวยๆรอฉันอยู่ที่บ้าน แกนั้นเเหละเดียวอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง"
มิกิ ได้แต่อมยิ้มกับความเจ้ากี้เจ้าการของเพื่อนสาวอย่างยูริิ แม้อยากจะปฏิเสธก็รู้ว่า ยัยยูริก็จะมาลากเธอไปจนได้
"ฉันจะไปรับแถมเลี้ยงขนมหวานด้วย โอเคนะย่ะ ห้ามปฏิเสธหรืองอเเง เป็นอันขาดไม่อย่างนั้น ฉันจะโกรธแกจริงๆด้วย"
เมื่อมิกิเงียบไป ฉันก็คิดว่ายัยมิกิตกลงเอาเองเลยเเล้วกัน เมื่อยัยยูริร่ายยาวจนฉันฟังไม่ทันเเล้ว เเละไม่ได้ตอบไปยัยยูริก็ตัดสายฉันทิ้งอย่างไม่ใยดีต่อคำปฏิเสธของฉันเลย
" ยัยยูรินะยัยยูริ บอกเเล้วไงว่าไม่ไป ยังจะมาเจ้ากี้เจ้าการให้ไปอีก ยัยเพื่อนบ้าเอ๋ย"
เเต่สุดท้าย มิกิ ก็ได้เเต่งตัวในชุดเดรสตัวสวยสีเเดง ที่แอบเซ็กซี่สมวัยเเละรูปร่างของเธอไปจนได้ โดยที่เพื่อยอย่าง ยูริ เห็นเเล้วถึงกับต้องแซว เพื่อนเลิฟอย่างมิกิ ทันทีที่เจอกัน
" เเหม!! ไหนว่าไม่อยากจะไปไงย่ะ เเต่งตัวเสียสวยกว่าฉันอีก "
มิกิ ได้เเต่เขินเเละพูดประชดเพื่อนของเธอไป
" ได้ ยังไงละออกไปข้างนอกบ้าน ก็ต้องสวยไว้ก่อนสิ เเล้วแกจะไปหรือไม่ไป หากไม่รีบไปฉันจะเข้าบ้านเเล้วนะ"
เมื่อเห็นว่ายัยมิกิ เริ่มต้นพูดประชดเเล้ว ยูริถึงขนาดตกใจเเบบเเกล้งๆใส่เพื่อนสาวทันที โดยได้เปิดประตูรถเเบะขึ้นกลับไปนั่งประจำที่ในตำเเหน่ง โชว์ฟอร์ทันที เเล้วหันไป กล่าวยิ้มๆกับเพื่อนเลิฟ ว่า "เชิญ ขอรับคุณผู้หญิง" ทำให้มิกิได้เเต่ ขำกับ อากัปกิริยา ของเพื่อนสาวของเธอ
รถได้ทะยานของไปยังบนท้องถนนในเวลาที่รถในเมืองหลวงกำลังพุ่งพล่าน ไปด้วยผู้คนที่ออกมาทำงานเเละรับจ่ายซื้อของกันในย่านผู้ดี อย่างถนน สามย่านมิโซะ ที่เป็นเเหล่งของธุรกิจ เเละห้างสรรพสินค้าในกลางเมืองเลยก็ว่าได้ มิกิได้ที่บ่นเพื่อนสาวของเธอที่พาของมาเจนรถที่ติดเเละอากาศที่เริ่มร้อนขึ้น
"นี่!! ยัยยูริ เมื่อไรจะถึง ห้างมิโซะ ทาวเวอร์ เสียทีเนี้ย รถติดเป็นชั่วโมงเเล้วนะ"
ยูริ ไม่ได้ฟังเสียงบ่นของเพื่อนเลิฟเลย สักนิด 2เพราะเธอได้เเต่จดจ่ออยู่กับการขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจของเธอต่อไป เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่ได้สนใจตน มิกิเลยได้เเต่ถอนหายใจไปเฮือกใหญ่เลยทีเดียว
เมื่อขับกันมาอีกสักครู่ ยูริก็ได้เลี้ยวขวาทางเข้าห้างมิโซะ ทาวเวอร์ทันที
"ถึงสักทีนึง"
มิกิได้พูดออกมา ยูริได้เเต่พูดยิ้มๆให้เพื่อนสาวของเธอ
"ถึงเเล้วครับ คุณผู้หญิง"
ขนาดจะเดินจากที่จอดรถไปยังภายในห้าง ได้มีรถเก๋งสีดำมันปลาบแล่นเข้ามายังที่จอดรถซึ่งเป็นที่ฉันกับยัยยูริ ยืนอยู่ รถเก๋งคันงามคันนั้นเกือบชนฉันกับยูริเข้าเเล้ว ฉัน ด้วยความหงุดหงิดใจ เลยเข้าไปเล่นงานเจ้าของรถ เก๋งคันนั้นเสียให้เข็ด
"นี่!! คุณขับรถภาษาอะไรเนี้ย ไม่มองตาม้าตาเรือบ้างหรือไงกัน"
เมื่อเขา ชัย ศิลป์ชัย กิตติรุณน์กุล ก้าวออกมาจากรยนต์เมื่อเขาจอดเรียบร้อยเเล้วร่างสูงใหญ่ของศิลป์ชัยเเทบจะบังร่่างบางไว้ได้มิด เขาได้แอบมองคนตรงหน้าอย่างลอบสำรวจ เจ้าหล่อนตัวเล็กกว่าผู้หญิงที่มาด้วยกันมากคงสูงสักร้อยห้าสิบนิดๆเองละมั้ง ผมดำมันเป็นประกายยาวถึงพ้นกลางหลัง เอวเล็กเเทบจะรวบจับได้ด้วยมือเดียว ศิลป์ที่ล้ลอบสำรวจร่างบางคิดในใจ จนเจ้่าของร่าง รู้สึกได้ทำให้หน้าเเดงเเละยิ่งเห็น ชายตรงหน้่า ที่หล่อ นัยน์ตาดุดันเเละเก๊ก (โหด) ร่างกายกำยำของเขาเหมือนหุ่นนักกีฬาดีๆนี้เอง
" คุณผู้หญิงครับ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ" ศิลป์ชัยกล่าวเมื่อหายตะลึงในตัวหญิงสาว
ฉันได้เเต่ตะลึงกับความหล่อดุเเละนัยน์ตาดุดันสีน้ำตาลสนใสนั้นเข้าเเล้ว
'ทำไมคนตรงหน้าฉันต้องดูดีขนาดนี้ด้วยนะ'
มิกิได้เเต่เห็นในใจคำด่าที่เมื่อครู่ คิดไว้มันได้กลืนหายเข้าไปข้างในเสียหมดเเล้ว ทำไงดี" ยัยมิกิ" เสียงเพื่อนรักเรียกมา ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์
ฉันได้เเต่หันเป็นเห็นเพื่อนเหมืินเป็นคำถามว่าจะเอาไงต่อไปดี ในขนาดเดียวกัน ศิลป์ชัย ก็ได้ พูดขึ้นมาทำลายความอึดอัดนี่เสียก่อน
"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีผมรีบไปหน่อย" ศิลป์ชัยกล่าว เเล้วได้ส่งนามบัตรมาให้ฉัน
"หากมีอะไร หรือคุณบาดเจ็บตรงไหน ก็โทรหาผม ตามเบอร์ในนามบัตรได้เลยนะครับ ผมจะรับผิดชอบทุกอย่าง เเต่ตอนนี้ ผมขอตัวก่อน" เมื่อกล่าวจบเขาก็หันหลังจากไปโดยไม่ได้บอกชื่อเลยสักคำ ฉันได้เเต่มองลงไปที่นามบัตรในมือ
" ศิลป์ชัย (ชัย) กิตติรุณน์กุล ตำเเหน่งผู้อำนวยการ โรงเรียนศิลป์ชัย พาณิชย์ "
ยูริที่เห็นเหตุการณ์ตั้งหมดก็ได้เเต่ถอดใจ โล่งอก ที่ไม่ได้มีการทะเลาะวิวาทกันขึ้นระหว่าง เพื่อนสาวกับหนุ่มนิรนามคนนั้น
"มิกิ เเกจะกลับหรือเข้าไปเดินเล่นในห้างก่อนไหม" ฉันได้เเต่ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ใส่ยัยยูริที่ไม่ได้ช่วยอะไร ฉันเลย
" ฉันยังไม่ลืมที่เเกจะเลี้ยงขนมหวาน ฉันหรอกนะ เข้าไปด้านในกันเถอะ ฉันหิวเเล้ว"
ยัยยูริได้เเต่งงกับอารมณ์เเปรปรวน ของฉัน ยัยยูริก็ได้เเต่ตามใจได้เหมือนอย่างเคย
" ได้ ไปกันเถอะ ไปร้านโปรดของเรากัน" ร้านโปรดของฉันกับยัยยูริเป็น ร้านขนมหวานในรูปแบบคาเฟ่ที่ดังที่สุดในตอนนี้ ด้วยบรรยากาศที่เหมาะกับทุกเพศเเละทุกวัย เมื่อมาถึงร้าน เเมวเหมี่ยว เเคนดี้ แอนด์ ไอศครีม
"ไปนั่งด้านในสุดของร้าน ที่ประจำของเรากันเถอะนะ ด้านหน้าคนเยอะจะตายไป นะน่ะนะ" ฉันกล่าวยิ้มยิ้ม ตามเเบบฉบับผู้หญิงเข้าเเต่ใจ
"โอเค ได้ได้ ไปที่นั่งกัน" ฉัน "เพื่อนฉันน่ารักที่สุดเลย"
เมื่อมาถึงที่นั่งประจำ พนักงานประจำร้านก็ได้เข้ามา เอาเมณูมาให้ฉันกับยัยยูริ ยัยยูริ สั่งไปได้ สองสามอย่างจนฉันต้องเเย่ง เมณูไปสั่งเอง
"ยัยมิกิ แกสั่งมาขนาดนี้ จะกินกะนหมดไหมเนี้ย" ยูริได้เเต่ตกใจ ในออเดอร์ที่ฉันสั่งไป
" ก็คนมันหิวนิน่า เเล้วที่สำคัญ้เต่บอกว่าจะเลี้ยงฉันเองไม่ใช่หรอก อิอิ"
ยูริ ได้เเต่มองเพื่อนสาวเเบบคาดโทษเอาไว้
" อย่าให้ถึงตาฉันบางนะ ยัยมิกิ ฉันจะเอาให้แก หมดตัวเลย" ฉันได้เเต่หัวเราะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
"จะทานเเล้วนะคะ" ฉันไม่ได้ฟังที่ยัยยูริจะว่าฉันยังไงต่อ ก็ได้จัดการ อาหารตรงหน้า ไปเสียเเล้ว
" ยัยมิกิ ยัยเพื่อนบ้า ทำไมไม่รอฉันเลย"
ยัยยูริ ได้เเต่มองฉันตาเขียว เเล้วจัดการอาหารของตัวเองไปด้วย เมื่อทานกันอิ่มเเล้ว ยัยยูริ เลยชวนฉันไปเดินย่อยเสียหน่อย
" มิกิ ไปเดินเล่น ซื้อของกันหน่อยดีกว่าไหม วันนี้มีเสื้อผ้าเเละเครื่องสำอาง แบรนด์ ชาเน่ ออกใหม่ ด้วยนะเเก"
เมื่อเพื่อนพผุดอย่างนั้นมีหรือฉันจะพลาด ฉันกับยัยยูริ เลยเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อจะไปชั้น 5 เเต่ก็ต้อง บังเอิญ จนกับอีตาบ้านั้นอีกเเล้ว
" วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันเนี้ย" ฉันได้เเต่ยืนให้ชิดกับลิฟต์ ที่ตอนนี้เเน่นไปด้วยผู้คนที่มาเดินห้างในวันหยุด สุดสัปดาห์เหมือนกัน ทำให้ฉันกับเขาได้ใกล้ชิดกันจนลมหายใจของเขารดมาที่ต้นคอขอฉัน แม้มันจะให้ทำฉันรู้สึก อบอุ่น อย่างประหลาด
"ใกล้เกินไปเเล้ว เมื่อไรจะถึงชั้น 5 สักทีนะ" ฉันได้เเต่บ่นในใจ
"กริ่งๆๆ ขนาดถึงชั้น 5 เเล้วคะ" เสียงประกาศในลิฟต์ดังขึ้นทำให้ ฉันที่ต้องการจะรีบออกไปจากลิฟต์ ต้องสะดุดเท้า ตัวเองจนเกือบล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเสียเเล้ว หากเขาได้คว้าเอวก็ฉันไว้ เเล้วดึงกลับไปยังอ้อมกอดของเขาทันที เรากอดกันอยู่เเบบนั้น ในความรู้สึกมันช่างนานเสียเหลือเกิน
" คุณเป็นยังไงบ้างครับ" วันนี้เด็กผู้หญิงคนนี้ทำให้หัวใจของเขาที่ไม่เคยจะตื่นเต้นกับผู้หญิงมาก่อน ต้องเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนมันจะออกมาภายนอกเลยก็ว่าได้
" คุณ! ช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม ฉันอึดอัดจะเเย่เเล้ว" เหมือนเสียงของฉันทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์ เขาจึงต้องปล่อยฉันให้เป็นอิสระจากอ้อมอกของเขา ที่ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก
"มิกิ เเกเป็นยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ยูริได้ถามขึ้น เมื่อเห็นฉันยืนอยู่กับคู่กรณีที่เจอกันที่ลาดจอดรถ
" ฉันไม่เป็นไรเเก" เมื่อพูดับยูริจบ ฉันก็ได้เเต่ขอบคุณเขา ที่ช่วยฉันไว้
"ขอบคุณ คุณนะคะที่ช่วยฉันไว้นะค่ะ" เมื่อฉันกล่าวจบเข้าก็ได้เเต่ยิ้มให้ฉันเเล้วเดินจากไป ฉันกับยูริก็ได้เเต่เดินไปยังร้านเสื้อผ้า ตามที่ตกลงกันไว้
^^^#โปรดติดตามตอนต่อไป^^^
...สาวน้อยผู้น่าสงสาร...
...EP.2...
"ว้าว ร้าน ชาเน่ คลับ ออกสินค้าตัวใหม่มาเพียบเลย ดีจัง ฉันกำลังอยากคลายเครียดอยู่เลย" ฉันเเละยูริช้อปปิ้งกันเยอะแยะมากมาย จนจะถือกันไม่ไหว
"วันนี้ ร้านชาเน่ ของสินค้ามากมาย คนต่อเเถวกัน เยอะมากมากเลยนะเเก"
" ฉันต้องขอบคุณ แกมากมากเลยนะ ที่พาฉันมาคลายเครียดน่ะ"
" จ้าจ้า พอได้ละลายทรัพย์ แกก็อารมณ์ทีทุกทีละน่า"
ฉันได้เเต่คิดถึง เขา เเล้วอมยิ้มอยู่ในที จนยัยยูริเริ่มสังเกตอาการของฉันได้ ว่าหลังจากที่เจอเขาฉันก็ได้หน้าแดงมาสิบรอบเเล้ว ทำไมกันนะอีตาบ้านั้นทำไมมีอิทธิพลต่อฉันขนาดนี้นะ
" ใช่ไง วันนี้เจอเเต่ดรื่องซวยมาเกือบทั้งวันเเล้วเนี้ย เเกก็เห็นอยู่"
"ให้มันจริง อย่างที่แกว่าเถอะย่ะ"
"จริงสิ เเกนี้ยังไง จับผิดฉันอยู่ได้ ก่อนกลับไปหาอะไรกินกันก่อนไหมเเก" ฉันชวนยัยยูริ
"ดีเหมือนกัน กำลังหิวอยู่พอดีเลย"
สุดท้ายก่อนกลับเราก็ได้มานั่งกัน เเต่ร้านอาหารเกาหลี เพราะฉันกับยัยยูริตกลงกันไม่ได้ว่าจะกินอะไรกันดี เพราะเราสองคนป็นคนจริงจังเรื่องกินมาก 'เรื่องกินเรื่องใหญ่' ยัยยูริได้กล่าวไว้ ทานอาหารกันเสร็จ ยัยยูริก็พาฉันไปส่งบ้าน ซึ่งเป็นเวลาที่พ่อกับเเม่ฉันกลับจากทำงานพอดี
ท่านทั้งสองเป็นบุคคลที่เพื่อนฉันทุกคนต่างก็เคารพนับถือเพราะพ่อกับเเม่ฉันเป็นคนใจดี เเละชอบให้ฉันชวนเพื่อนเพื่อนมาทานอาหารที่บ้านกันบ่อยๆด้วยละ
"กลับมาเเล้วคะ พ่อกับเเม่ทำงานเหนื่อยไหมคะวันนี้ เป็นยังไงบ้าง" ฉันเอ๋ยขึ้นมาเข้ามาในบ้านเเละว่างของที่ซื้อมา
"เหนื่อยนิดหน่อยนะ เเต่เห็นน่าลูกสุดที่รัก ของพ่อก็หายเหนื่อยเเล้วจ๊ะ ไหนมาให้พ่อกับเเม่ ชื่นใจหน่อยสิลูกรัก" ฉันได้เเต่เข้าไปกอดพ่อกับเเม่เเบบี้เสมอเป็นการบอกรักที่ไม่ต้องใช่คำพูดพ่อบอกฉันอย่างนั้น
" ชื่นใจ จริงจริงเลยลูกสาวพ่อ วันนี้เป็นยังไงบ้าง ออกไปไหนกับเพื่อนมาละ" พ่อถามฉันเหมือนเห็นข้าวของที่ฉันซื้อดลับมา ไม่ว่ายะเป็นขนมหรือของใช้ต่างๆ เเต่พวกท่านไม่เคยว่าฉันเลยสักครั้งเดียว
"วันนี้ ยูริพาหนูไปห้างมาคะพ่อ เหนื่อยมากๆเลย อ่อ! เเล้วหนูก็ซื้อขนมของโปรดของพ่อกับแม่มาด้วยนะคะเดียวหนู เอาไปใส่จานให้นะคะรอเเบปนึงคะ" ฉันเมื่อพูดจบก็ได้เอาขนมเข้าไปในครัว เพื่อที่จะจัดจานเเล้วนำมาเสริฟให้พ่อกับแม่ เหมือนทุกครั้ง
"ขนม เจ้านี้ยังอร่อยเหมือนเดิมเลยนะคุณ "เเม่พูดกับพ่อเหมือนทานขนมที่ฉันซื้อมาฝาก ท่านสองคนก็นั่งทานขนมกัน ส่วนฉันได้เเต่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เพราะเหนียวตัวจะเเย่เเล้ว วันนี้
"พ่อคะเเม่คะ หนูขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ"
"จ๊ะ เดียวลงมาช่วยเเม่เปลี่ยนของทำกับข้าวหน่อยนะลูก"
"ได้คะเเม่ รอหนูเเบปนึงนะคะ"
"จ๊ะ ลูกรัก" เเม่ได้กล่าวยิ้มๆกับฉัน ก่อนที่ฉันจะขึ้นห้องนอนของตัวเอง
"สดชื่นจังเลย ลงไปทานกับกับพ่อแม่ดีกว่า" คิดได้หญิงสาวก็วิ่งลงบันไดมาหาพวกท่านที่นั่งรอกันอยู่แล้ว
" วันนี้มีแต่ของโปรดลูกกับแม่ทั้งนั้นเลยนะ พ่อให้ป้าสมศรีเค้าทำสุดฝีมือเลยนะ เอาๆลองดูลองดู"
"ว้าว น่ากินทุกอย่างเลยคะป้าศรี" ป้าสมศรีได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับคำชม ขอคุณหนูประจำบ้านด้วยความปลื้มใจในเมนูอาหารทึ่เลือกทำวันนี้
"อร่อยทุกอย่างเลยคะ" ทานไปก็ได้แต่ชมไม่ขาดปากจากสาวน้อยที่น่ารักของป้าศรี ที่เธอจะพูดให้ป้าศรีของเธอตัวลอยในทุกวันๆในเรื่องการทำอาหาร
" แม่คะพ่อคะ วันนี้หนูชวนเพื่อนที่พึงจะกลับจากต่างประเทศมาที่บ้าน จะมีปาร์ตี้กันนิดหน่อยนะคะ"
"ได้ สิจ้ะลูก" แม่เล็ก กล่าวอนุญาตเพราะท่านมองว่าลูกสาวโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว เเละเป็นการกินเลี้ยงปาร์ตึ้กันในบ้าน
"อ่อ! แล้วจะให้ ป้าศรีเตรียมอาหารไว้ให้เลยไหมคะคุณหนู" ป้าศรีกล่าว
" ไม่เป็นไรคะป้าศรี เดียวพวกหนูช่วยกันทำแล้วกันคะ ไม่รบกวนป้าศรีดีกว่าคะ" ฉันพูดจบก็ได้แต่มองหน้าป้าศรีว่าท่านจะน้อยใจหรือโกรธฉันหรือเปล่า
"ได้คะคุณหนู แต่มีอะไร ที่อยากให้ป้าช่วยบอกป้าว่าได้เลยนะคะ" ป้าศรีกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
" ขอบคุณนะคะ ป้าศรี" ฉันได้แต่โล่งใจที่ป้าศรีไม่ได้น้อยใจฉัน
เมื่อใกล้ถึงเวลา ปาร์ตี้เพื่อนๆต่างทยอยกันมา จนครบทุกคน ในบรรดาเพื่อนสนิทและเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกัน
" เป็นไงบ้าง ยัยนิดะยัยจิลด์ ไปอยู่เมืองมาเสียนาน สบายดีไหม" ฉันได้ถามไถ่เพื่อนด้วยความคิดถึงเพราะไม่เจอกันนาน
"สบายดีแก แล้วแกกับยัยยูริเป็นไงบ้าง" เมื่อพูดถึงยัยยูริที่มาไม่ได้เพราะต้องไปงานการกุศลกับพ่อแม่ฉันก็ได้แต่เซ็งเพราะไม่บรรดาเพื่อนตั้งหมดยัยยูริเป็นคนที่ค่อยเอ็นเตอร์เทนเพื่อนๆดีที่สุด
" เรื่อยๆอ่ะแก วันนี้ไปห้างก็เจอ อีตาโรคจิตด้วยอ่ะแก อยากให้แกเห็นน่ามากเลยอ่ะ"
เมื่อทานอาหารและคุยกันได้ที ก็เริ่มเหล้ากันแล้วฉันจึงได้ นายสมหมายลูกชายป้าสมศรีขับรถไปส่งเพื่อนที่กลับเองไม่ไหวเพราะกินไวน์เข้าไป
"สมหมายฝากสั่งเพื่อน ฉันให้ครบและปลอยภัยทุกคนด้วยนะ เข้าใจไหม อย่าให้เพื่อนฉันเป็นอันตรายเด็ดขาด ไ่ม่ไงนายตายแน่" ฉันสั่งนายสมหมายจบก็ขึ้นไปอาบน้ำนอน ในข้างที่ยังรู้สึกเมาอยู่ก็ได้หลับไปทันทีที่หัวถึงหมอนใบนุ่มนิ่มของตัวเอง
มิกิ ตื่นขึ้นมาในเวลาค่อนดึก เธอยังเบลอๆอยู่เพราะฤทธิ์ไวน์ ที่ดื่มเข้าไป มิกิได้เเต่คิดแล้วกุมขมับ มันปวดหัวเอามากๆ มิกิหิวน้ำ คอแห้งจนทนไม่ไหว จึงลุกขึ้นมาจากที่นอนนุ่ม เพราะไวน์ที่ดื่มเข้าไปมากที่ให้มิกิรู้สึกเหมือนตัวเธอเองลอยไปในอากาศเสียยังนั้น
หญิงสาวเดินเซหน่อยๆ ไปเปิดประตูห้องและเดินออกลงไปยังห้องครัวชั้นล่างเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่ม นัยต์ตาหรี่ปรือและหนักอย่างบอกไม่ถูก เธอเปิดประตูตู้เย็นและริมน้ำดื่ม ค่อยยังชั่วขึ้นบ้างแล้ว แต่หญิงสาวหารู้ไม่ว่ามีราชสีห์ตัวใหญ่ก็ในบ้านของเธอด้วย ณ ค่ำคืนนี้
"มาทำอะไรดึกๆน่ะครับ ยัยตัวเล็ก" เสึยงห้าวทุ้มคุ้นหูดังขึ้น มิกิมองเจ้าของเสียง ศิลป์ชัยยืนพิงประตูมองเธอด้วยสายตาล้ำลึก ขณะมองกวาดไปทั่วร่างคนตัวเล็กที่เค้ากอดไปวันนี้ในชุดนอนผ้าซาตินวาบหวิวสีแดงสด ช่างขัดกับผิวขาวอมชมพูของคนร่างเล็กเสียจริงๆ แต่มองยังก็เธอก็ยังเด็กสำหรับเขาอยู่ดี เพราะผมยาวรุ่ยร่ายยุ่งเหยิง ยิ่งมองแบบนี้ เธอก็ยิ่งเหมือนเด็กสาว ศิลป์ชัยมองก่อนจะลอบถอนใจ อืม... เขาจะต้องรอไปอีกนานแต่ไหนนะ
"มาหาน้ำดื่มคะ" มิกิตอบขณะที่เก็บขวดน้ำไว้ที่เดิม เธอเองครึ่งหลับครึ่งตื่นพิกลเมื่อใบหน้าคมเข้มของศิลป์ชัย หญิงสาวก็รู้สึกคุ้นเคยกับหน้านี้มากๆ เมื่อเธอจำได้ในความคิดที่จะหลับไปนั้น เธอจึงได้แต่ สงสัยว่า นายโรคจิตมาอยู่ในบ้านของเธอได้ไง
"เธอจึงจะด่า นายโรคจิตที่เธอเห็นตรงหน้าแต่ความครึ่งหลับครึ่งตื่นทำให้เธอคิดว่าเห็นภาพหลอนไป
" ฉันเนี้ย ชักจะบ้าตามนายนั้นไปแล้วแน่ๆเลยที่มาเห็นว่านายนั้นอยู่ในบ้างฉัน" หญิงสาวจึงตัดสินใจจะเดินสวนเขาออกจากห้องครัวแต่มือใหญ่แข็งแรงก็ยึดมือนิ่มเอาไว้เสียก่อน สัมผัสที่รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากศิลป์ชัย ทำให้หญิงสาวรู้สึกมีความสุขขึ้นมา
ศิลป์ชัย มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ก่อนอมยิ้ม ทำให้มิกิว่าเค้าให้ปล่อยมือจากเธอเสีย
"รู้ไหมว่าคนกลัวกลัวมากขนาดไหน?" เหมือนพูดเเลเวหยุดไม่ได้ ศิลป์ชัยมองเธออย่างเอ็นดู ก่อนจะมองริมฝีปากจิ้มลิ้ม
"แล้วกลัวพี่มากไหม"
"กลัวมากสิคะ" มิกิยอมรับตรงๆ "นายดูเหมือนคนโรคจิตและดูดุมากๆเลย แต่ก็รู้สึกอบอุ่นด้วย ฉันโตพอที่จะเขเาอะไรพวกนี้"
"ยังหรอก น้องมิกิเพิ่งจะสิบเจ็ดสิบแปดเอง ยังเด็กอยู่เลย" ศิลป์ชัยเผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองบ้าง กำแพงด่านแรกที่เขาไม่กล่าวมีท่าทีกับเธอมากนัก ก็เพราะช่องว่างระหว่างวัย และความคิดว่าเธอยังเป็นเด็กอยู่นั่นเอง
" ไม่เด็กเเล้ว โตแล้ว" มิกิเถียง
" อืม... ถ้าอย่างนั้นพี่อยากรู้ว่าเราโตมากขนาดไหนแล้ว"
ชายหนุ่มตวัดร่างบางเข้ามาในวงแขนอย่างลืมตัวเพราะอารม์ที่พาไปในห้วนความรู้สึกที่มีเกินการควบคุมบางอย่าง เข้าครอบงำ มิกิอ้าปากที่ว่าชายหนุ่ม ก็ต้องตกใจ เหมือนชายหนุ่มกระซิบแนบลงมาริมฝีปากนุ่มสีเเดงชมพูของหญิงสาว ริมฝีปากได้รูปของเขาประทับมาที่ริมฝีปากของเจ้าร่างเล็กความหวานที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นไวน์และรสชาติของไวน์ชั้นดีที่ยังลงเหลืออยู่
ชายหนุ่มยังคงบดเคล้าริมฝีปากลงมาแนบแน่น เขากอดร่างเล็กของหญิงสาวไง้ทั้งตัว แต่ก็เหมือนเริ่มแล้วไม่อาจจะหยุดยั้งได้ มิกิตาหรี่ปรือหัวใจตื่นอย่างประหลาดกับสิ่งที่เขาเสนอให้ ทำให้สาวน้อยตัวเล็กแทบยืนไม่อยู่ต้องเกาะร่างเขาไว้เป็นหลัก ศิลป์ชัยจูบแล้วจูบเล่า มิกิมีความรู้สึกเหมือนกึ่งฝันกึ่งจริง ทำให้หญิงสาวถึงกับมึนงง และวาบหวามในใจ
ศิลป์ชัย ได้แต่ตัดสินใจ หยุดการกระทำให้ครั้งนี้ของเขาไว้ เมื่อตัดสินใจละจากริมฝีปากนุ่ม ที่ตอนนี้มีเลือดไหลซึมออกมาด้วยความร้อนเเรงจากการจูบของชายหนุ่ม เขาไล้มือไปทั่วใบหน้าของมิกิ ที่มองเขาด้ววตาที่หรี่ปรือจนแทบจะหลับไปในอ้อมแขนของเขาเสีนเเล้วตอนนี้ หญิงสาวพึมพำเบาๆ ทำให้คนฟังอดหัวเราะไม่ได้
"มิกิฝันไปใช่ไหม ฉันฝันไปหรือเปล่า"
"เดียวพี่ไปส่งที่ห้องนะ" ศิลป์ชัยได้แต่อุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมเเขนแกร่งของตัวเองเเล้วพามิกิ กลับไปส่งที่ห้องนอนของเธอตามเดิม
^^^#โปรดติดตามตอนต่อไป^^^
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!