ณ ปี 2019 ได้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสที่จะทำให้ผู้ที่โดนกัดกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า ซอมบี้ รัฐบาลโลกได้รวมมือกันสร้างมหานครใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ขึ้นและมหานั้นก็ได้ถูกขนานนามว่า"มหานครวาลิน"มหานครใต้ดินที่เหล่านักวิทยาศาสตร์หังกะทิต่างช่วยกันออกแบบ โครงสร้างของมันถูกสร้างด้วย"เหล็กไวเบรเนี่ยม" ซึ่งเป็นเหล็กที่แข็งที่สุดนั้นทำให้มหานครวาลินได้ถือกำเนิดขึ้นและศักราชใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นเช่นกัน
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
...358 ปี ให้หลัง...
เด็กหนุ่มหรี่ตาลงด้วยสายตาที่ใกล้จะปิดลงพรางใช้นิ้วเรียวของตนปิดหนังสือในมือลงก่อนจะวางมันไว้บนหัวเตียง เส้นผมสีดำได้สะท้อนกับแสงของจันทราทำให้เกิดเป็นเส้นผมสีสง่างาม ดวงตาสีดำเข้มสะท้อนกับแสงของโคมไฟเผยเป็นดวงตาสีสวยงามจนทำให้ไม่สามารถหลบหนีสายตาคู่นั้นได้ ก่อนจะเอื้อมมืออันเรียวยาวไปแตะที่ปลายหมอนเพื่อจัดแจงที่นอนของตนให้เรียบร้อยก่อนจะโน้มตัวลงนอนยังเตียงนอนแสนนุ่ม เด็กหนุ่มได้เอื้อมมือไปหยิบสร้อยรูปเกียวคลื่นทะเลที่ห้อยคอของตนก่อนจะจ้องมองมันด้วยดวงตาสีเศร้าหมองก่อนจะเอ่ยคำพูดที่นุ่มนวล
"พรุ่งนี้.. ต้องไปออกสำรวจกับสถาบัน.."
ชายหนุ่มเอ่ยคำพูดของตนก่อนจะวางมือจากสร้อยคอของตนและพลอยหลับสู่ห้วงนิทราของราตรี
.......
.......
.......
.......
เวลา 05:00 น.
ยามแสงอาทิตย์เทียมที่ถูกสร้างจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าสาดส่องลงมากระทบห้องอาพาร์ทเม้นที่เล็กและคับแคบ แสงแดดทอประกายไปยังเด็กหนุ่มที่กำลังจมอยู่ในห้วงของนิทราก่อนที่เสียงของนาฬิกาปลุกจะดังขึ้นเพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่าถึงเวลาตื่นจากห้วงนิทราแล้ว เด็กหนุ่มรูปร่างผอมบางสะโพกตามมาตราฐานของผู้หญิงที่เป็นดั่งนางงาม ใบหน้าหล่อเหลาหมดจดผิวพรรณสีขาวเนียนนุ่มราวกับขนนก เส้นผมสีดำสง่าดวงตาสีดำเข้มซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของคนเอเชีย เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นเมื่อได้ออกมาจากห้วงนิทราแห่งความฝันก่อนจะลุกขึ้นปิดเสียงนาฬิกาปลุกที่แสนกวนใจและก้าวเท้าไปอาบนํ้า
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
ชายปกเสื้อถูกพับให้เรียบร้อยก่อนจะเปลี่ยนไปสวมใส่ชุดที่เหมือนกับนักศึกษาของผู้ชาย เมื่อแต่งตัวได้เรียบร้อยและเสร็จสิ้นเด็กหนุ่มเดินไปยังประตูเพื่อที่จะออกจากบ้านไปยังที่เรียนของตนแต่ทว่าเขาก็ได้หยุดชงักมองไปยังรูปภาพรูปหนึ่ง ซึ่งในรูปภาพนั้นมีผู้ชายและผู้หญิงได้จูงมือลูกชายของตน เมื่อมองพอเป็นพิธีเด็กหนุ่มก็เดินออกไปจากห้อง
...กึก...
เด็กหนุ่มเดินออกมาจากอาพาร์ทเม้นที่แสนคับแคบแต่แออัดไปด้วยผู้คนที่อาศัย เมื่อเขาเดินออกมายังชั้นล่างสุดก็ได้ไปยืนรอรถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เมื่อเด็กหนุ่มได้ขึ้นรถโดยสารแล้วก็ได้ระบุสถานที่ๆจะเดินทางไปกับคนขับ
.......
.......
...ณ สถาบันวิทยาศาสตร์กลางแห่งนครดาลิน...
เด็กหนุ่มได้เดินทางมาถึงที่ตนกำลังเรียนอยู่นั้นก็คือ "สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งนครดาลิน"เป็นสถานที่ร่วมเหล่านักวิทยาศาสตร์หัวกะทิทั้งหลายในมหานครดาลินไว้ในที่เดียวกันและถือเป็นสถาบันในการมอบความรู้และศึกษากับเหล่าเด็กรุ่นใหม่ ณ ตอนนี้เด็กหนุ่มได้เดินเข้าไปยังสถาบันก่อนจะเดินผ่านโถงกลางขนาดใหญ่ที่มีผู้คนที่สวมชุดนักศึกษาและนักวิจัยมากมาย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินหน้าต่อไปเพื่อไปยังที่นัดพบของตนก็ได้มีเสียงๆหนึ่งฉุดเรียกตัวของเขาไว้เสียก่อน
"ซาวเฉิง!!" _???
เสียงทักทายที่แหลมเสียงหูราวกับเสียงของผู้หญิงแต่ทว่ากลับเป็นนํ้าเสียงของชายหนุ่มรูปร่างบางแต่ทว่าไม่เท่ากับเด็กหนุ่ม เส้นผมสีนํ้าตาลเข้มดวงตาสีเหลืองอำพันสูงเกือบ 168 ซึ่งสำหรับผู้ชายแล้วนั่นถือว่าเป็นส่วนสูงที่ตัวเล็กมากสวมชุดของนักวิจัย วิ่งมาทางของเด็กหนุ่มก่อนจะเอ่ยคำพูดอีก
"ซาวเฉิง! มาได้ซะทีนะ!!!"_???
รอยยิ้มที่แย้มยิ้มราวกับต้นทานตะวันได้เผยขึ้นในใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า
ซาวเฉิง คือชื่อของเด็กหนุ่ม
ซาวเฉิงหันไปมองชายหนุ่มที่เรียกขานชื่อของเขาก่อนจะเอ่ยปากอย่างเรียบง่าย
" เคย์ "_ซาวเฉิง
ซาวเฉิงเอ่ยชื่อของชายหนุ่มก่อนจะยกยิ้มของริมฝีปากเล็กน้อยพอเป็นพิธี
เคย์ เขาคือหนึ่งในนักวิจัยที่อายุน้อยที่ประสบความสำเร็จของมหานครดาลิน ตอนอายุสิบเก้าก็ได้กลายเป็นหนึ่งในนักวิจัยหัวกะทิของนครดาลินเสียแล้วพออายุยี่สิบสองก็กลายเป็นหนึ่งในนักวิจัยต้นๆของสถาบัน ต่างจากซาวเฉิงที่เขานั้นอายุตั้งยี่สิบสองแล้วแต่กลับยังต้องมานั่งเรียนที่สถาบันไม่ได้เป็นแม้แต่นักวิจัยหรือผู้ช่วยนักวิจัยเขาเป็นได้เพียงแค่นักศึกษาระดับบี
"นายมาแล้วเพราะงั้นรีบไปรวมตัวเถอะ!! เดี๋ยวจะไปสำรวจไม่ทันนะ!" _เคย์
เคย์พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่สดใสเขาเป็นถึงนักวิจัยแนวหน้าและยังเป็นหนุ่มน้อยที่ฮอตมากในหมู่นักวิจัย
จบ
ทุกคนนี้คือ รุ่งอรุณหลังวันสิ้นโลก ฉบับรีเมคนะคะแต่รอบนี้จะทำให้มัรดีกว่าเดิมค่ะ!!
แรงบันดาลใจของเรื่องมากจานิยายของคุณ เจียงถังตงกวางในเรื่อง รุ่งอรุณหลังวันสิ้นโลก นะคะและอีกแรงบันดาลใจมาจากเรื่อง พันธะรักวันสิ้นโลก ผลงานของหวายซ่างค่ะ!! ความจริงแอดคิดอยู่นานแล้วว่าจะทำดีไหมเพราะหลังจากลบเรื่องเก่าไปใจมันก็อยากกลับมาเขียนคะ!! ฝากทุกคนติดตามด้วยนะคะ!! 🙏😊มาอยู่กับแอดไปด้วยกันให้จบนิยายเรื่องนี้เลยเถอะ!!
ซาวเฉิงจ้องมองใบหน้าอันสดใสนั้น
"อืม.. "_ซาวเฉิง
ซาวเฉิงไม่ตอบอะไรมากเขาเพียงแค่ครางในลำคอของตนเบาๆ ก่อนจะตบไหล่ด้านขวาของเคย์เบาๆและเดินจากไป ซาวเฉิงเป็นหนุ่มน้อยที่หน้าตาหล่อเหลาแต่ทว่าเขากลับปิดบังใบหน้าของตัวเองไว้ใต้ผ้าปิดปากสีดำ รวมถึงรูปร่างของเขาที่ถูกปกปิดไว้ด้วยชุดนักศึกษาที่ใหญ่เกินตัวของเขาจึงทำให้รูปร่างของเขานั้นถูกบดบังจนไม่น่ามองเท่าไหร่
.......
.......
.......
ณ ห้อง ประชุมขนาดใหญ่ได้มีเหล่ากลุ่มนักศึกษาระดับบีมารวมตัวกันเนื่องจากทางสถาบันได้จัดทัศนศึกษานอกสถานที่หรือก็คือ การให้นักศึกษาได้ออกไปพบโลกภายนอกของมหานครดาลินเป็นครั้งแรกในชีวิต และในวันนี้กลุ่มนักศึกษาระดับบีห้องจีได้ถูกรับเลือกให้เป็นห้องแรกๆที่ได้ออกสำรวจนอกสถานที่ เสียงพูดคุยดังขึ้นเป็นจังหวะเหล่านักศึกษาต่างตื่นเต้นเมื่อพวกเขาได้รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้ก้าวออกจากมหานครใต้ดินแห่งนี้ครั้งแรก
เมื่อซาวเฉิงได้ย่างก้าวมาถึง ณ ห้องประชุมเขาก็ได้เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง เมื่อปลายก้นของเขากำลังจะได้สัมผัสกับเก้าอี้พลาสติกสีแดงก็ได้มีเสียงของผู้หญิงที่นุ่มนวลแลพอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความขี้เล่นดังขึ้น
"ซาวเฉิง! นายก็มาสินะ! ดีใจจังเลยคิดว่านายจะไม่มาซะแล้ว"
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังดังขึ้น ซาวเฉิงรีบหันตัวไปมองก่อนจะพบกับใบหน้าที่สวยงามราวกับนางฟ้า ใบหน้าที่สะสวยผสมกับคิ้วหนาที่ดึงดูดใจคนได้ ดวงตาสีเหลืองอำพันอ่อน เส้นผมสีนํ้าตาอ่อนแต่ทว่ากลับมีสีเหลืองผสมอยู่ที่ปลายของเส้นผม ปลาที่อวบอิ่มเป็นที่น่าดึงดูดต่อทุกเพศ เธอก็คือ มิ้น นักศึกษาระดับเอที่มาเป็นผู้ช่วยเหล่าอาจารย์ในการดูแลเหล่านักศึกษาระดับบีและเธอยังเป็นหญิงสาวในดวงใจของซาวเฉิงมาตั้งแต่ตอนอยู่ประถม ถึงแม้อายุทั้งสองคนจะเท่ากันแต่ทว่ามิ้นกับมีความรู้ที่รวดเร็วกว่าเขามากเธอได้ก้าวกระโดดไปไกลตอนนี้ที่ควรเป็นนักศีกษาระดับบีกับได้เป็นนักศึกษาระดับเอแทนเสียแล้ว มิ้นได้เอ่ยคำพูดต่อ
"ปกตินายจะไม่ชอบมาที่คนเยอะๆหรือมาในที่ๆเสียงดังแบบนี้นะเนีย!!"_มิ้น
มิ้นได้ออกปากแซวซาวเฉิงอย่างสนุกปากก่อนจะโน้มตัวไปใกล้กับซาวเฉิงอย่างขบขัน แต่ทว่าซาวเฉิงกลับไม่เล่นด้วยเขายื่นมือข้างซ้ายไปดันไหล่เธอให้ห่างจากเขาไว้ ก่อนจะเอ่ยปาก
" เธอเป็นสาวฮอตของสถาบันนะมิ้น.. เธอมายุ่งกับคนอย่างฉัน.. ระวังพวกที่แอบชอบเธอจะมากระทืบฉันนะ.. ไม่ห่วงฉันบ้างหรอ.." _ซาวเฉิง
คำพูดสั้นๆแต่ทว่ากลับมีใจความสำคัญมากมาย หญิงสาวที่ได้ยินเช่นนั้นจึงยอมถอยออกมาแล้วยิ้มหน้าบาน
"แหม่ๆ!! ใครจะกล้ากระทืบนายกัน!" _มิ้น
เธอพูดพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ซาวเฉิงเมื่อได้ยินประโยคพวกนั้นก็รีบชี้นิ้วไปทางขวาของห้องประชุมเมื่อมิ้นมองตามไปก็พบกับพวกนักศึกษาชายมากมายที่มองพวกเขาอยู่ด้วยสายตาโกรธแค้นแก่ซาวเฉิงที่กล้ามายุ่งกับนางฟ้าของพวกเขา
"โอ้ะ! มีเยอะเลยนี่น่าโทษทีๆ"_มิ้น
มิ้นรีบแก้ตัวก่อนจะสายหน้าไปมาราวกับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเอ่ยเสียงขึ้น
" ฉันต้องไปก่อนแล้วอาจารย์เรียก! โชคดีนะ!!ซาวเฉิงระวังตัวด้วยละ! "_มิ้น
มิ้นพูดก่อนจะรีบสาวเท้าหนีออกไปจากสายตาอาฆาตของเหล่านักศึกษาชาย
เมื่อ หญิงสาวเดินจากไปซาวเฉิงก็มีสมาธิในการนั่งรอเงียบๆและจดจ่ออยู่กับตัวเอง เขาเป็นพวกสันโดษไม่ต้องการใครและไม่มีใครต้องการ โชคยังดีที่เขายังมีเคย์และมิ้นเป็นเพื่อนไม่งั้นชาตินี้เขาคงได้อยู่แบบสันโดษสมใจอยากแน่
.......
.......
เมื่อเวลาการไปทัศนศึกษามาถึงนักศึกษาระดับบีห้องจีทุกคนก็ได้เดินทางไปขึ้นยานพาหนะหรือก็คือเครื่องบินแต่ทว่ามันกลับมารูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับในหนังแฟนตาซีเสียมากกว่า
ณ ในห้องโดยสารผู้คนต่างจับกลุ่นนั่งด้วยกันมีเพียงซาวเฉิงเท่านั้นที่ได้นั่งโดดเดี่ยวเพียงผู้เดียวคงเพราะเขามีโลกส่วนตัวสูงคนมั่วไปจึงไม่กล้าไปเอายปากคุยกับเขา เมื่อทุกอย่างเข้าที่ยานบินก็ได้ลอยตัวขึ้นและได้บินออกจากนครดาลินทันที
...พึ่บ!...
เมื่อยานบินได้บินออกมายังโลกภายนอกนั้นทำให้เหล่านักศึกษาต่างพากันตะลึงกับภาพของโลกภายนอก โลกภายนอกในตอนนี้นั้นต่างจากเมื่อ 358 ปีมากแล้ว ทั้งบ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพังหรือแม้กระทั้งตึกสูงใหญ่ เทพีเสรีภาพ หอไอเฟล ทุกอย่างกลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง ที่ถูกทิ้งร่างไว้358 ปี ซาวเฉิงมองดูโลกภายนอกด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเขาเกิดมาในมหานครใต้ดินทุกอย่างเป็นเพียงภาพจำลองทั้งดวงอาทิตย์เทียม ก้อนเมฆเทียมหรือแม้กระทั่งฝนเทียมทุกอย่างล้วนไม่ใช้ของจริงแม้แต่อากาศก็เป็นอากาศที่ถูกสร้างขึ้นจากเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ซาวเฉิงได้เอื้อมมือไปแตะยังหน้าต่างของยานบินก่อนจะมองโลกตรงหน้าอย่างตื่นตะลึงแต่ทว่าความสุขพึ่งมาได้ไม่นานความบรรลัยก็ได้พุ่งเข้ามาหาพวกเขา
ณ ห้องนักบิน ในขณะที่นักบินสองคนกำลังสวบอุปกรณ์ วีโอ[1] เพื่อขับยานบินก็ดันเกิดการแทรกแซงของสมองโดยสิ่งที่ถูกเรียกว่าผู้ขัดขวาง ผู้ขัดขวางจะเจาะระบบวีโอของคนที่สวมใส่มันและเจาะเข้าไปยังจิตใต้สำนึกของสมองชั้นในสุดและทำให้สมองของคนๆนั้นหรือปั่นป่วนจนสามารถตายได้ และตอนนี้ยานบินของซาวเฉิงกำลังถูกผู้ขัดขวางรุกรานไปยังจิตใต้สำนึกของสมอง ทันใดนั้นเองยานบินก็ได้ลดระดับเพดานลงอย่างกระทันหัน ซาวเฉิงที่เริ่มหวั่นใจจึงฉุดคิดขึ้นทันที
(ทำไมเพดานถึงลดตํ่าลงละ!! อย่าบอกนะ! ว่าโดนผู้ขัดขวางโจมตี)_ซาวเฉิง
ผู้คนในยานบินเริ่มตื่นตระหนกแต่ทว่าเพียงไม่กี่วินาทียานบินก็ได้ลดเพดานบินอย่างรวดเร็วและตกลงสู่พื้น
โครมมมมมม!!
.......
.......
.......
ซาวเฉิงได้ลืมตาขึ้นจากการที่หัวของเขากระแทกกับผนังของยานก่อนจะสัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆที่ไหลลงมาจากศีรษะด้านขวาตรงขมับ เมื่อยื่นมือไปแตะซาวเฉิงก็รู้ทันทีว่านั้นคือเลือดที่เกิดจากการกระแทกตอนยานบินตกเมื่อก่อนหน้า ซาวเฉิงพยายามคุมสติก่อนจะเริ่มคิดทบทวนทุกอย่าง ยานบินของพวกเขาถูกผู้ขัดขวางจากองค์กรที่มีชื่อเรียกว่า เทว องค์กรที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของนครดาลินมาตั้งแต่ 358 ปีก่อนเกิดไวรัสระบาด พวกมันจ้องจะทำลายนครดาลินอยู่ตลอดและมักจะชอบโจมตียานบินของนักศึกษา เมื่อซาวเฉิงคิดทบทวนได้จึงหันไปมองเหล่านักศึกษาคนอื่นๆในห้อง ก็พบว่าพวกเขามีสีหน้าที่หวาดกลัวซาวเฉิงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังหวาดกลัวอะไรแต่เมื่อเสียงบ้างอย่างที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังและเสียงของกรงเล็บที่ขูดแผ่นกระจกของยานดังขึ้น ซาวเฉิงก็รีบหันตัวไปมองทันทีโดยสัญชาตญาณเมื่อซาวเฉิงหันไปนัยต์ตาของเขาเบิกโพลนหัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้นมือไม้ต่างสั่นด้วยความหวาดกลัวการหายใจที่เริ่มติดขัดก็ดังขึ้น สิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่มมีรูปร่างที่น่าหวาดกลัวมันมีรูปร่างเหมือนมนุษย์แต่มีรอยบาดแผลที่เน่าจนเกิดหนองและกลิ่นที่เหม็นจนสามารถทำให้อาเจียนออกมาเป็นสายรุ้ง สิ่งมีชีวิตที่มีดวงตาแดงก่ำฟันที่แยกเขี้ยวออกด้วยความหิวกระหายต่ออาหารตรงหน้าผิวสีเขียวอมม่วงคล้ายศพเน่า พวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า ซอมบี้
------------------------------------------------------------------------------
[1] วีโอ คือ อุปกรณ์สวมหัวเหมือนกับแว่นVRแต่มีรูปร่างที่สวมทั้งหัวเหลือเพียงคางเท่านั้นเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการคำนวณและสั่งการต่างๆ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!