ท่ามกลางภูเขาสูงตระหง่าน ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มองเห็นทะเลสาบอยู่ไม่ไกลนัก ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามนี้ ตรงหน้าเธอคือแปลงผักนานาชนิด มือซ้ายถือถังไม้ มือขวาถือกระบวยตักน้ำ กำลังหลับตาเงยหน้าพร้อมกับสูดเอาออกซิเจนที่แสนบริสุทธิ์นี้เข้าไปเต็มปอด
คำถาม..'ผู้หญิงคนนี้คือใครกัน?'
คำตอบ..'เธอคือฉันเอง'
'ฉัน ฮวาซิงเยียน..อายุ 35 ปี เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่แผนงธุรการทำงานออฟฟิศทั่วไป'
ภาพ flashback ย้อนกลับไป เจอ ฉวาซิงเหยียน กำลังทำโอทีอยู่ที่โต๊ะทำงานของเธอพร้อมกับกองเอกสารที่สูงท่วมเกือบจะบังหน้าของเธอแทบมิด มองถัดจากโต๊ะเธอไปจะมองเห็นนาฬิกาติดฝาผนักบอกแล้ว 22.45. นาที
'ใช่ค่ะ..นี้ฉันเอง นี้คือคืนก่อนที่ฉันจะถูกหามตัวส่งห้องไอซียู'
ภาพตัดมาที่ห้องไอซียู มีซิงเยียนยืนอยู่ตรงมุมห้อง มองดูร่างของเธอเองที่อยู่บนเตียงพร้อมกับหมอ ผู้ช่วยหมอ และพยาบาลอีก 3 คน ที่กำลังกุลีกุจอทำ cpr ช่วยชีวิตเธอกันชุนละมุนวุ่นวายกันไปหมด
'พวกเค้าบอกว่าเส้นเลือดในสมองแตกฉับพลันเพราะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาเป็นเวลานาน'
ซิงเยียนเริ่มพูดกับตัวเอง "ทำงานหนัก? อืมมม..ก็ไม่หนักเท่าไหร่นะฉันยังทำไหวอยู่ เวลานาน? อืมมม.. อันนี้ก็จริงอยู่ เพราะฉันเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ16-17 ช่วงปิดเทอมก็หางานทำแล้ว ช่วงมหาลัยก็ทำพาร์ทไทม์ไปด้วยเรียนไปด้วย ถามว่าครอบครัวยากจนไม่มีเงินส่งเรียนหรอ?.. ไม่นะที่บ้านฉันไม่ขาดแคลนแถมยังมีฐานะในระดับหนึ่งด้วย ฉันก็แค่ทำงานหาประสบการณ์ และการทำงานก็สนุกดีด้วย"
ในขณะที่ซิงเยียนยืนพล่ามอยู่นั้นได้มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะ "ตี๊ดติ๊ดๆๆๆ" เสียงดังถี่จากเครื่องติดตามสัญญาณชีพ
"เฮ้ย!!!ไม่นะอย่าเพิ่งร้อง ใครก็ได้ได้โปรดช่วยฉันด้วย พระผู้เป็นเจ้า พระพุทธ พระอัลเลาะห์ ให้โอกาสฉัน ต่อไปฉันจะดูแลตัวเองให้ดี รักตัวเองให้มากๆ และที่สำคัญฉันยังไม่เคยมีความรักเลยยยยยยยยยยยยยย"
ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!☠️☠️☠️
ทันทีที่เครื่องติดตามสัญญาณชีพดังตี๊ดยาวแค่ครั้งเดียวนั้นตัวของซิงเยียนก็เหมือนมีอะไรสักอย่างที่มองไม่เห็นกระชากตัวเธอไป ผ่านเข้าไปในอุโมงค์สีรุ้ง. สักพักวิสัยทัศน์การมองเห็นก็เริ่มดับวูบไป
ณ. ปัจจุบัน
'นั้นอาจจะเป็นบทลงโทษที่ฉันได้ทำผิดมหันต์ ความผิดนั้นก็คือ การปล่อยปละละเลยกับการดูแลตัวเองและการให้ความรักกับตัวเอง กับคนรอบข้าง กับคนที่เขารักเรา กับคนอื่นๆ ฉันเอาแต่ทำงาน ทำงานอย่างเดียว จนลืมเรื่องราวพวกนี้ไป ต่อไปนี้ฉันขอสัญญากับใครก็ตาม....หรือท่านไหนก็ตามที่ให้โอกาสฉันได้มีชีวิตใหม่ ว่าฉันจะใช้ชีวิตที่ได้มานี่ให้ดี และให้คุ้มค่าสุดๆไปเลย อะไรที่ยังไม่เคยทำ (เน้นเรื่องความรักนะคะ) ฉันจะทำให้หมดเลยจะได้ไม่มาเสียใจทีหลังเหมือนชีวิตที่แล้วอีก ขอบคุณนะคะ'
'ซิงเยียน'. เสียงเรียกเธอดังขึ้นจากข้างหลัง ซิงเยียนหันกลับไปตอบรับ
'โหย่วอี้'
'ซิงเซียน' เสียงเรียกจากชายหนุ่มที่กำลังเดินใกล้เข้ามาหาเธอ ซิงเยียนหันกลับไปตอบรับ
'โหย่วอี้'
'ใยเจ้าถึงได้เปียกปอนเช่นนี้' โหย่วอี้ถาม
ซิงเยียนมองโหย่วอี้พร้อมกับผายมือโชว์ให้เห็นเสื้อผ้าที่เปียกปอนของเธอแล้วพูดว่า
'และนี้คือเหตุผลที่ฉันอยากได้ชุดที่เหมือนกับคุณไงค่ะ'
'เจ้าเป็นผู้หญิงสำรวมหน่อย แล้วเจ้าจะเอาชุดผู้ชายไปทำไมกัน' โหย่วอี้พูดพร้อมเอามือปิดตาแล้วหันข้างให้ เพราะเสื้อผ้าที่เปียกปอนของซิงเยียนแนบชิดกับร่างกายทำให้เห็นสรีระของเธอชัดเจนจนเกินงามไปหน่อย
'ก็ชุดผู้หญิงมันรุ่มร่ามทำอะไรๆ ก็ไม่สะดวก สวยก็สวยอยู่หรอกนะแต่มันไม่เหมาะสำหรับทำงาน ฉันว่าแบบคุณน่าจะคล่องตัวกว่า ส่วนชุดสวยๆ พวกนี้ก็เก็บไว้ใส่ในโอกาสอื่นๆ ที่ควรใส่'
'เอาหละๆ ถึงข้าจะฟังเจ้าพูดรู้ความไม่ทุกคำแต่เดี๋ยวข้าจะไปแจ้งกับพี่ห่าวซินให้ แล้วนี่เจ้ารดน้ำผักเสร็จหรือยัง'
'ยังเลยเหลืออีกแปลงหนึ่ง'
'งั้นก็รีบหน่อย ข้าเตรียมกับข้าวใว้ให้เจ้าแล้วเสร็จแล้วก็ไปกินสะ กินเสร็จก็ไปรับเสื้อผ้ากับพี่ ห่วนซิน เจ้าจำทางได้ใช่มั้ย'
'อืม..ได้'
'ดีมาก..ข้าไม่ได้ไปเป็นเพื่อนเจ้า เพราะข้าต้องไปทำธุระให้พี่ห่าวซิน. งั้นข้าไปก่อนนะ'
'อืม..เดินทางปลอดภัย บ๊ายบาย' ซิงเยียนยิ้มส่งพร้อมกับโบกมือหยอยๆ โหย่วอี้มองเธอแบบขมวดคิ้วแล้วก็หันหลังเดินจากไป
'และผู้ชายที่เพิ่งเดินจากไปคนนั้นเขาชื่อ โหย่วอี้ เป็นผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาดีมาก เขาเป็นคนเก็บฉันได้ และเขาเล่าให้ฉันฟังว่าเขาเจอฉันนอนไม่ได้สติอยู่ริมทะเลสาบฝั่งกะโน้น โดยมี นกกระเรียนเดินรอบๆ ตัวฉัน ใช้เท้ากับจะงอยปากเขี่ยๆ ฉันอยู่ เขาเลยสังเกตเห็นฉันได้ง่าย จึงได้ช่วยฉันไว้ ดูแลฉันอยู่ 2 วัน ถึงได้ตื่นขึ้นมา และฉันก็อยู่ที่นี้มาได้ 5 วันแล้ว และเค้ายังเล่าเรื่องราวของโลกนี้ให้ฟังว่า
ที่โลกนี้มีอยู่ 3 พิภพ ด้วยกัน คือ พิภพเทพ,พิภพเซียน,และพิภพปีศาจ โดยมีเทพประมุข เป็นผู้ปกครองสูงสุด และมีสัจจะเทพทั้ง 6 คอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ (ซึ่งทั้ง 6 มีใครบ้างตอนนั้นฉันจำได้ไม่หมดหรอก มึนๆ สมองยังตามเรื่องไม่ทันเท่าไหร่แต่คิดว่าอยู่ๆ ไปก็คงจำได้หมดเองแหละ) แต่ที่ที่ฉันอยู่นี้คือเขา พมไผ่ ซึ่งมีเขตแดนอยู่ระหว่างทั้ง 3 ภพ เป็นที่พำนักขององค์เทพรัติกาล และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันจำได้จากการถามโหย่วอี้ในวันนั้น'
ซิงเยียนหันกลับไปทำงานของเธอต่อ นั้นคือการรดน้ำผักที่เหลือแปลงสุดท้าย ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ กับชุดเทพเซียนที่ยาวรุ่มรามของเธอ เธอจัดการกับมันด้วยการสะบัดแขนเสื้อไปทางนั้นทีทางนี้ที หรือไม่ก็ถกแขนเสื้อขึ้นมาผูกไว้บนไหล่บ้างถกชายกระโปรงขึ้นมามัดไว้ตรงหัวเข่าบ้าง เธอทำงานอย่างทุลักทุเลตามไสตล์ของเธอจนกระทั้งงานของเธอก็ได้เสร็จลุล่วงไป
ซิงเยียนออกจากกระท่อมพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งเปลี่ยนจากชุดที่เปียกปอนของเธอ
'เอาหละทีนี้ก็ไปหาพี่ห่าวซิน...เฮ้อ!!ฉันจะไปถูกไหมนะเคยไปแค่ครั้งเดียวเอง ไม่เป็นไรเราเดินไปตามทางเดิน ไม่มีทางก็ไม่ต้องเดินไป แค่นี้ก็ไม่หลงแล้ว'
จากกระท่อมเดินไปตำหนักกลาง ก็ประมาณ 15 นาที แต่กว่าซิงเยียนจะมาถึง ก็ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วยาม เพราะเอาแต่แวะชมทิวทัศน์ที่สวยงามตามรายทาง
ซิงเยียนเดินทางมาถึงลานหน้าตำหนักกลาง ในจังหวะเดียวกันกับที่มีหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาสะสวย ในมือถือถาดชงชาเดินออกมาจากประตูพอดี เธอหยุดรอเมื่อเห็นซิงเยียนเดินมา ซิงเยียนเห็นก็รีบวิ่งไปหาเธอพร้อมกับคำนับเธอ
'พี่ห่าวซิน' ...
'ทำไมฉันถึงคำนับเธอนะหรอ ทั้งๆที่ดูแล้วหน้าเธอเด็กมากและดูอ่อนกว่าฉัน ที่อายุ 35 แล้วนะหรอ เพราะที่นี่ตระกะเรื่องอายุใช้ไม่ค่อยได้ ที่นี่ใช้ระบบชนชั้นวรรณะที่ขึ้นอยู่กับการบำเพ็ญตบะของแต่ละคน อย่างโหย่วอี้เห็นอย่างนั้นเป็นเซียนอยู่สองหมื่อปี (ตอนที่ได้ยินฉันอ้าปากค้างไป 5 วิ) กว่าจะผ่านด่านเคราะห์ขึ้นมาเป็นเทพ (ขั้นเสินจวิน ลำดับ 3) ตำแหน่งบนพิภพเทพ
1.เทพประมุข เป็นตำแหน่งที่ปกครองทั้ง 3 พิภพ
2.สัจจเทพทั้ง 6 เป็นตำแหน่งเทพสูงสุด
3.ซ่างเสิน
4.เสินจวิน (ชาย) /เสินหนวี่ (หญิง) มี 5 ลำดับ
เทพประมุขอยู่ที่ตำหนักสวรรค์ และที่ภูเขาพมไผ่ นี้ที่อยู่ของสัจจเทพองค์หนึ่ง คือเทพรัตติกาล
พี่ห่าวซินอยู่ตำแหน่ง เสินหนวี่ ลำดับ 1 ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของตำแหน่งนี้ ไม่กล้าคิดเลยว่าอายุอานามจะสักเท่าไหร่..ส่วนฉันบุคคลไร้ซึ่งตำแหน่งและลำดับใดๆทั้งนั้น เป็นผู้น้อยจึงต้องทำความเคารพผู้ใหญ่กว่า'
'ฮวา ซิงเยียน ..เจ้ามาช้านะ'
'ฉันขอโทษค่ะ พอดีฉันไม่ค่อยคุ้นชินกับทางเท่าไหร่'
'เฮ้อ!เอาเถอะๆข้าก็ยังไม่ชินกับการพูดของเจ้าสักที งั้นเจ้าช่วยข้าทีก็แล้วกันในระหว่างนั้นข้าจะไปเอาชุดที่เตรียมไว้มาให้เจ้า'
'ให้ช่วยอะไรหรือค่ะ'
'เจ้าช่วยเอาชุดชงชานี้ไปที่ตำหนักจิ่นติ้งให้ข้าที' ซิงเยียนรับถาดชุดชงชามาจากมือพี่ห่าวซิน พร้อมถามขึ้นว่า
'ไปยังไงหรือค่ะ?'
ห่าวซินชี้ไปทางขวามือพลางพูดว่า
'เจ้าเดินตามทางนี้ไปแล้วเลี้ยวตรงหัวมุมจะเจอตำหนักที่มีต้นเหมยต้นใหญ่อยู่ นั้นแหละตำหนักจิ่นติ้ง เป็นที่พำนักขององค์เทพ เจ้าเอาไปวางที่โต๊ะชงชาแล้วก็รีบกลับมาหาข้า...อย่าเถลไถลไปไหนอีก'
'ได้ค่ะ.. วางแล้วรีบกลับออกมา ไม่เถลไถล'
'เดี๋ยวข้าจะรอเจ้าที่นี่ รีบไปเถอะ'
ซิงเยียนพยักหน้ารับแล้วหันหลังเดินไปตามทางเดิน
ห่าวซินยืนมองซิงเยียนเดินไปด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงและกังวลเล็กน้อย พลางคิดในใจว่า 'คงไม่เป็นไรกระมัง วันนี้องค์เทพไปเข้าเฝ้าเทพประมุข ไม่มีใครอยู่คงไม่เกิดเรื่องอะไร..'
______________________________________
***ช่วงพูดคุยท้ายตอน***
-1ชั่วยาม \= 2 ชั่วโมง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!