.
.
.
.
...****************...
ในวันนี้ก็เป็นวันที่สงบสุขวันหนึ่งทุกคนได้ใช้ชีวิตกันตามปกติ ไปเรียนกันดั่งทุกวันที่เคยทำ ทำงานหนักเหมือนดั่งเคย ใครจะไปคิดว่าในวันที่สงบสุขแบบนี้กำลังจะสิ้นสุดลง
"อา....วันนี้ก็ตื่นสายอีกแล้ว"
ชื่อของผมคือออกัสผมใช้ชีวิตกับการนอนเป็นหลัก การงานก็ไม่มีทำแต่นั้นก็ไม่ได้แปลว่าผมจะขี้เกียจหรอกนะที่ผมนอนเพราะว่าผมว่างมากจนไม่รู้จะทำอะไรต่างหากล่ะ และเหตุผลสำคัญที่ผมไม่มีงานทำก็เพราะงานในสมัยนี้หายากสุดๆไปเลยล่ะประชากรของคนในโลกเพิ่มขึ้นมากแถมโรงงานหรือบริษัทอื่นๆก็ใช้เครื่องจักรเป็นหลักแรงงานจึงไม่ค่อยจำเป็น
"อา..... ( วันนี้จะมีคนติดต่อมาบอกว่า "ยินดีด้วยทางเราได้รับคุณเข้าทำงานแล้วค่ะ" บ้างไหมนะ )"
ชายหนุ่มผมสีเหลืองอ่อนสูงประมาณ182เซนติเมตร ได้เอ๋ยกับตนเองในใจและเดินไปทำกิจวัตรประจำวันตามปกติแบบทุกวัน ตัวของเขานั้นปราถนาที่จะได้ทำงานเพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้สิ้นที่พ่อและแม่ได้ทิ้งไว้ให้เขาก่อนจะจากเขาไป
**กริ้งๆ
กริ้งๆ**
เสียงโทรศัพท์บ้านได้ดั่งขึ้นในระหว่างที่เข้ากำลังทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวหนึ่ง เมื่อเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์เขาก็รีบวิ่งไปรับสายเพราะคิดว่าจะเป็นคนของบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้รับเขาเข้าทำงานแล้ว....แต่เขาคิดผิด
"ฮัลโหลไอ้หนุ่ม"
เสียงปลายสายได้ดั่งขึ้นมามันเป็นเสียงที่เขาคุ้นเคยที่มักจะโทรมาทุกๆสิ้นเดือน....**พวก****ทวงหนี้
"( พวกนี้อีกแล้ว...แต่ก็เข้าใจอ่ะนะ****เขาก็ทำไปเพราะหน้าที่เหมือนกัน )"
"ฮัลโหลครับ...."
ผมได้ตอบกลับเจ้าของสายด้วยความนิ่งเฉยเพราะผมรู้ว่าเขาต้องการอะไรถึงต่อให้ผมทำเสียงประจบประแจงยังไงเขาก็ไม่ลดจำนวนเงินให้น้อยลงหรอกจริงไหมล่ะครับ
"เงินของเดือนนี้เมื่อไหร่จะจ่ายแกพลัดมาสองเดือนแล้วนะ"
"แค่สองเดือนเองครับ เดือนนี้ผมก็ขอเลื่อนไปอีกนะครับ"
"ไม่ได้ถ้าแกเลื่อนอีกฉันก็ได้โดนนายบ่นอีกน่ะสิ"
"ขอโทษนะครับผมไม่มีจริงๆยังไงผมก็ขอเลื่อนไปก่อน"
"เฮ้ย ฟังไม่เข้าใจหรอว่ะ ถ้าแกเลื่อนอีกฉันจะตามไปลากหัวแกมาแน่"
นั่นไงขู่กันแล้วก็คิดไว้แล้วแหละว่าต้องเป็นแบบนี้...แต่แล้วมันยังไงล่ะ ถ้าโดนไล่จับฉันก็แค่ต้องหนีถูกไหมล่ะ?
"ผมบอกว่าไม่มีก็คือไม่มีไงครับยังจะตื้ออยู่ได้"
"แกเอาเงินไปก็ต้องเอามาคืนดิว่ะไอ้เด็กเวรนี้—"
ตื้ด
เมื่อปลายสายพูดจบผมก็ตัดสายทิ้งทันทีจริงๆแล้วคนที่เขาควรไปทวงคือพ่อกับแม่ของผมไม่ใช่ผมสักหน่อยพวกเขาก็ยังไม่ตายนี่พวกเขาก็แค่หนีไปที่อื่น แต่ทำไมผมต้องมารับอะไรแบบนี้แทนพวกเขาด้วยล่ะ?
ผมไม่เข้าใจจริงๆทำไมถึงได้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลยนะ ตัวของผมก็เป็นแค่คนธรรมดาๆทั่วไปเป็นเด็กที่อายุกำลังย่างก้าวเข้าสู่วัย20เองนะ
"( วันนี้ท้องฟ้าดู...ว่างเปล่ากว่าปกติรึป่าวนะ? )"
ผมได้มองออกไปนอกหน้าต่างพลางพูดกับตัวเองในใจแต่แล้วในตอนที่ช่วงวันและเวลายังคงเดินต่อไปตามปกติในตอนนั้นเมฆสีดำได้เข้ามาปกคลุมเมืองพร้อมกับพายุที่รุนแรงอย่างไม่ได้ตั้งตัวเมฆสีดำได้เข้ามาบดบังแสงอาทิตย์ที่สว่างไสวทำให้ทั้งเมืองมืดมิดลงในทันที
"นี่มันบ้าอะไรเนี่ย?"
ตัวผมได้ยืนอึ้งกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่ยังไม่ได้ทันให้หายตกใจจู่ๆสายฝนสีแดงได้ตกลงมากรรโชกอย่างหนักวิวทิวทัศน์ที่ผมเห็นจากทองฟ้าสีฟ้าใสได้ แปลเปลี่ยนเป็นทองฟ้าสีดำและสายฝนสีเลือดที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง
"นี่มัน...บ้าอะไร?..."
...****************...
...หนึ่งอาทิตย์ต่อมาหลังจากที่สายฝนสีเลือดได้ตกลงมาปกคลุมทั้งเมือง...
...****************...
"( วันนี้ก็ยังคงตกอยู่ )"
ฝนสีเลือดได้ตกมาติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์เต็มๆตอนนี้กำลังเข้าสู่อาทิตย์ที่สอง แต่ที่ทำให้ผมแปลกใจที่สุดคือทุกครั้งที่ฝนโดนตัวคนทั่วไปจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ อาเจียน แต่ทุกครั้งที่ผมโดนผมกลับไม่เป็นอะไรเลยจริงๆมันไม่ใช่แค่ผมแต่ยังมีคนที่เป็นแบบผมอยู่อีก
พวกแพทย์และนักวิทยาศาสตร์บอกว่าคนที่โดนฝนสีเลือดแล้วไม่เกิดอาการข้างเคียงใดๆเป็นเพราะพวกเขามีคลื่นสมองที่แตกต่างจากคนอื่นๆ
แปะ
แปะ
"( อา....ฝนหยุดตกแล้วแฮะ )"
หลังจากที่ฝนหยุดตกรายการทีวีทุกช่องได้ทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อมกับข่าวของปรากฏการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและวัตถุปริศนาที่มีรูปร่างและลวดลายแปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
"( คราวนี้อะไรอีกล่ะ...โลกนี้กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่รึไงทำไมถึงได้มีแต่เรื่องประหลาด )"
แน่นอนว่าผมก็คิดเล่นๆไปงั้นแหละ แต่มันก็อาจจะจริงก็ได้นะ ก็ลองดูดีๆสิจู่ๆก็เกิดเรื่องประหลาดมากมายถ้าจะบอกว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงก็ไปผิดซะทีเดียวจริงไหมล่ะ?
แต่หลังจากที่ตัวผมได้คิดแบบนั้นเสร็จจู่ๆก็มีหน้าต่างใส่ๆเหมือนในเกมโผล่ขึ้นมาต่อหน้าต่อตาทำให้ผมตกใจจนล้มลงไปบนพื้นห้องทันที
"นี่มันอะไร?..."
ผมได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับหน้าต่างปริศนาที่อยู่ตรงหน้าผมไว้มากมายแต่ในเวลาแบบนี้มันคือเวลาให้ผมมาสงสัยงั้นหรอปกติเวลาคนเราสงสัยอะไรก็ต้องหาคำตอบถูกไหม?
พอผมตั้งสติได้ผมก็ได้สำรวจรอบๆหน้าต่างนี่ว่ามันมาจากไหนมันอาจจะมีคนฉ่ายภาพโปรแกรมบางอย่างอยู่ก็ได้
แต่ไม่ทันที่ผมจะได้สำรวจเสร็จจู่ๆหน้าต่างตรงหน้าก็แสดงข้อความบางอย่างพร้อมกับมีเสียงดังเข้ามาในหัวของผม
[ ยืนยันสถานะผู้เล่นเสร็จสิ้น ]
ผู้เล่นงั้นหรอ บ้าบอชะมัดใครมันมาเล่นอะไรแบบนี้แถวนี้กันนะ นี่มันคือโลกความเป็นจริงไม่ใช่เกมหรือนิยายสักหน่อย ฉันชักจะสงสัยแล้วสิว่าคนที่ทำอะไรแบบนี้คงจะเป็นติดเกมไม่ก็นิยายมากเกินไปแน่นอน
[ เพื่อให้สดวกแก่การใช้งานระบบขอแนะนำให้ผู้เล่น'ยืนยัน'ตัวตนอีกครั้ง ]
"อา....เหมือนพวกที่มาหลอกขายประกันเลยแฮะ"
หลังจากที่ผมพูดจบระบบก็แสดงขอความเพิ่มมาอีก มันเป็นข้อความที่บอกให้ผมเอานิ้วมือไปแตะตรงช่องสี่เหลี่ยมกลางหน้าจอที่มันแสดงอยู่
...นี่มันกำลังหลอกเอาลายนิ้วมือผมงั้นหรอ?...
ตู้ม!!!!
*ทันทีทันใดที่ออกัสพูดจบจู่ก็เกิดเสียงระเบิดพร้อมแรงสั่นสะเทือนดังมาจากใจกลางเมือง หลังจากนั้นก็เกิดการระเบิดติดต่อกันมาติดๆ แรงสั่นสะเทือนนั้นทำให้ตัวของ*ออกัส*ทรงตัวเองไม่อยู่จนเขาต้องล้มลงบนพื้นอีกรอบ เสียงเตือนภัยเหตุฉุกเฉินได้ดังติดต่อก**ันทั่วเมืองตอนนี้ทุกอย่างกำลังสับสนวุ่นวายไปหมด
ในตอนที่ทุกอย่างแย่ลงเรื่อยๆระบบก็แสดงข้อความพร้อมกับเสียงที่ดังเข้ามาในหัวเขาอีกครั้ง*
[ ระบบกำลังเตรียมพร้อมก่อนที่เกมจะเริ่มต้นขึ้นขอให้ผู้เล่นยืนยันตัวตนอีกครั้ง ]
ในเวลาแบบนี้ยังจะมาเล่นตลกอีกนะ ไอ้คนที่สร้างอะไรแบบนี้มันต้องบ้าถึงขนาดไหนกันนะไม่สิมันต้องโครตบ้าเลยต่างหากล่ะ
*หลังจากที่ออกัสได้คิดแบบนั้นเขาก็เอื้อมมือไปแตะช่องหน้าต่างปริศนาที่อยู่ตรงหน้าของเขาพร้อมกับเสียงระเบิดที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาชอบคนที่บ้าบิ่นแบบนี้ที่สุดนั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะกดตามที่ข้อความและเสียงที่บอกเขา*
[ ยืนยันสถานะผู้เล่นเสร็จสิ้น ยินดีต้อนรับสู่เกมอย่างเป็นทางการคุณ"ออกัส" ]
ตู้มมม!!!!!!
หลังจากที่สิ้นสุดเสียงของระบบตึกที่อยู่ใกล้ๆตึกของเขาก็ระเบิดขึ้นนั่นจึงทำให้ตึกของเขาได้รับความเสียหายตามไปด้วย
"( ยินดีต้อนรับบ้าบออะไรว่ะ ฉันกำลังจะตายแบบนี้มันมีอะไรน่ายินดีกัน )"
นั่นคือความคิดสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดที่เขาได้คิดก่อนที่ตึกที่เขาอาศัยอยู่จะล้มลงสู่พื้นเบื้องล่าง
...****************...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
...----------------...
...นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่แต่งในแอปนี้นะครับไม่รู้จะถูกใจใครรึป่าวสามารถติชมได้เลยนะครับพร้อมแก้ไข...
...----------------...
...****************...
ชื่อ ออกัส
อายุ 19
เพศ ชาย
ส่วนสูง 182
น้ำหนัก 62
อาชีพ ว่างงาน
บุคลิก เย็นชานิดๆ,ใจเย็น,ขี้เล่นนิดๆ,บ้าบอใช้ได้,เบื่อง่าย,ไม่ค่อยใส่ใจคน
จุดแข็ง มีทักษะเอาชีวิตรอดสูง,สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดี,ความจำดี,มีความรับผิดชอบ,มีไหวพริบดี
...****************...
.
.
.
.
...****************...
*ในเมืองท**ี่เต็มไปด้วยควันไฟและซากปรักหักพังจากแรงระเบิด* ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหนึ่งวัน ถึงจะมีบางตึกที่ยังคงสภาพไว้ได้ แต่ก็อยู่ในสภาพจะพังแล่ไม่พังแล่ และยังมีบางส่วนที่ยังมีการเกิดการระเบิดอยู่
ผู้คนในเมืองบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก มีเพียงจำนวนน้อยนิดที่รอดมาได้แต่ก็มีอาการสาหัสไม่น้อย *เนื่องจากโดนแรงระเบิดและเศษของตึกที**่หล่นมาทับ*
ในระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งพักและทำแผลที่ได้รับมาจากระเบิดในตอนนั้นระบบได้แจ้งเตือนถึงทุกคน ทั่วโลก
...[ยินดีต้อนรับสู่เกมของเราค่ะเหล่า'ผู้เล่น']...
...[เกมกำลังจะเริ่ม ในอีก 30 วินาที *เนื่องจากจัดเต**รียมและอัพโหลดข้อมูลเสร็จสิ้นแล้ว*]...
ในระหว่างที่ระบบแจ้งถึงทุกคนทั่วโลก ตัวจับเวลาก็นับถอยหลังลงมาเรื่อยๆ
...[ 3 ]...
...[ 2 ]...
...[ 1 ]...
...[วิธีพิชิตเกมคือให้ทุกท่านสังหารบอสแล้วเคียร์เกม หากมีข้อสงสัยให้ตรวจสอบได้ที่'ความช่วยเหลือ'...ดิฉันหวังว่าทุกคนจะปลอดภัยและทำให้ผู้นำของเราสนุกได้นะคะ]...
...[ 0 ]...
*หลังจากที่เวลาแสดงเลข0อุกกาบาตจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมายังพื้นโลกเป็นภาพที่สิ้นหวังไม่ว่าจะดูยังไงโลกก็คงแตกเป็นแน่ แต่เมื่ออุกกาบาตตกถึงพื้นโลกโลกไม่ได้แตกอย่างใดแต่กลับกันคือ มีสัตว์ประหลาดหน้าตาหน้าเกลียดเดินออกมามากมายนับไม่ถ้วน*
ทันทีทันใดที่พวกมันเห็นมนุษย์พวกมันก็พุ่งเข้าไปกัดกินอย่างหิวโหย โลกในตอนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นเกมเกมหนึ่ง ถ้าไม่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ต้องตายถ้าไม่เคียร์เกมทุกอย่างก็จะวนลูปต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
...****************...
...ในซากปรักหักพังแห่งหนึ่ง...
...****************...
ตึง!!!
ได้มีมือข้างหนึ่งได้ยื่นทะลุซากตึกขึ้นมา มันเป็นมือเรียวสีขาวน้ำผึ้งมีเศษดินเศษหินเกาะเปื้อนมือมือนั้นอยู่
กึก...ตึก ตึก ตึก...โครม!!
มือนั้นได้เกาะกับหินพลางกับดึงตัวขึ้นมาจากซากหินปรากฏให้เห็นผมสีเหลืองอ่อนพร้อมกับแผลไหม้ที่ตาซ้าย
"( ไม่อยากจะเชื่อว่าเราจะรอดมาได้ ใครเห็นก็บอกว่าตายกันทั้งนั้นนั่นแหละ )"เขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมกับใช้มือป้องตาข้างซ้ายไว้ เพราะเขาว่ากลัวเชื้อโรคจะเข้าแผลของเขาเอาได้
"( ถึงฉันจะไม่ค่อยเข้าใจสถานะการปัจจุบันแต่ก็พอเดาได้จากสภาพเมืองที่เห็น )"
สภาพเมืองที่อยู่ตรงหน้าของฉันมันต่างไปจากสภาพเมืองเมื่อไม่กี่วันก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ติ๊ง!
ในระหว่างที่ผมกำลังเรียบเรียงสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆหน้าจอเกมเมื่อตอนนั้นก็โผล่ขึ้นมาอีกครั้งแต่ที่แตกต่างออกไปคือมันมีเสียง'ติ๊ง'ด้วย ส่วนที่เหลือก็เหมือนเดิมหมดยกเว้นข้อความที่มันแสดง
...[ยินดีต้อนรับสู่เกมของเราค่ะท่าน"ออกัส"]...
ผมก็ไม่ได้อะไรมากหรอกแต่...รู้สึกว่าไอ้เจ้าระบบอะไรนี่เหมือนสโตกเกอร์ไม่มีผิด ก็ไม่แปลกหรอกที่ผมจะคิดแบบนี้ ก็ดูมันสิเหมือนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับผมแถมจู่ๆยังโผล่ขึ้นมาแบบนี้อีก ถ้ามันเป็นคนผมคงคิดว่ามันเป็นสโตกเกอร์แบบไม่ต้องสงสัย
"ไอ้ระบบเวรนี่มันทำอะไรได้บ้างเนี่ย?"
ผมคิดว่าตัวกำลังบ้าอยู่แน่ๆจู่ๆก็ถามมันไปแบบนั้น ผมไม่ได้หวังคำตอบอะไรจากคำถามนั้นหรอกนะก็เพราะ ผมไม่ได้คิดว่ามันมีจริงยังไงล่ะ แต่แล้วจู่ๆมันก็มีเสียงดังเข้ามาในหัวพร้อมกับหน้าจอระบบที่เปลี่ยนไป
...[เราสามารถให้คำตอบและช่วยเหลือผู้เล่นได้ *หากผู้เล่นสงสัยอะไรให้กดตรงหัวม**ุมขวาของระบบ*]...
"( เกมบ้าเกมบออะไรกัน? )"
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกที่ผมจะไม่รู้ ก็ตัวผมโดนฝั่งอยู่ใต้ซากตึกนั่นอยู่จะไปรู้อะไรได้ แถมพอขึ้นมาก็มีตัวอะไรไม่รู้เดินให้ว่อนไปหมด
แต่ลองเสี่ยงถามมันไปเลยดีกว่าว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ฉันอยู่ใต้ซากตึกบ้าๆนี่
"มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกของพวกเรา?ทำไมถึงได้มีสัตว์ประหลาดเดินให้เต็มไปหมด"
ผมได้จับจ้องไปที่ระบบที่อยู่ตรงหน้าด้วยความนิ่งเฉยเพราะผมไม่ได้คาดหวังอะไรมันก็เหมือนกับ ไม่คาดหวัง\=ไม่ผิดหวัง ยังไงล่ะ
...[เกมนี้พวกเราได้สร้างมาเพื่อให้ผู้นำของเราได้หาความบันเทิงค่ะ]...
อา...นี่ผมคงต้องรับบทเป็นตัวเอกในนิยายหรือเกมใช่มั้ย? ก็แบบเดินทางตามหาพวกพ้องเพื่อฆ่าบอสแล้วก็บังเอิญเจอนู้นเจอนี้ถูกไหม? ถ้าจะให้ฉันเป็นตัวเอกฉันขอเป็นผู้เล่นธรรมดายังดีกว่าอีก ถ้าจะต้องเจอเรื่องวุ่นวายแบบนั้น
"บังคับให้ทุกคนทั่วโลกต้องเล่นงั้นหรอ?"
...[ใช่แล้วค่ะ]...
555ดูสิบังคับให้ต้องเล่นเท่านั้นด้วย นี่มันน่ารำคาญสุดๆไปเลยนะ ชีวิตฉันพวกแกมีสิทธิ์อะไรมาบังคับกันว่ะ
...[คุณมีคำถามอีกรึป่าวค่ะ?]...
"มันใช่หน้าที่ของฉันหรอว่ะ ที่ต้องมาทำตามที่พวกแกต้องการ ฉันจะเลือกทางไหนมันก็เรื่องของฉัน พวกแกมีสิทธิอะไรมาบังคับฉัน?"
ผมเกลียดการถูกบังคับ ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ไม่มีสิทธิมาบังคับผม ผมจะเลือกทางที่ผมต้องการเอง ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิมาเลือกทางที่ผมต้องเดิน นั่นคือคติของผม
หลังจากที่ผมพูดคำนั้นจบจู่ๆในหัวของผมก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาในขณะที่ผมไม่ได้ตั้งตัว
"ฮ่าฮ่าฮ่า!ๆ ยอดเยี่ยมๆ สมแล้วที่เจ้าเป็นคนที่ข้าสนใจ!"
เสียงของใครบางคนได้ดังกึ่งก้องอยู่ในหัวของผมมันเป็นเสียงของชายที่เหมือนจะมีอายุ20ขึ้นไป
"อาๆข้าคงจะทำให้เจ้าตกใจสินะ" เสียงในหัวของผมได้ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
"เอาล่ะถ้าข้าไม่ปรากฏตัวเราคงจะคุยกันได้ยากถูกไหม? งั้นเดี๋ยวข้าจะปรากฏตัวให้เจ้าเห็นซักหน่อยก็แล้วกัน เราจะได้คุยกันง่ายขึ้นนิดหน่อย" หลังจากที่จบคำพูดนั้นจู่ๆก็มีกลุ่มก้อนบางอย่างมารวมตัวกันต่อหน้าผม ทันทีที่พวกมันรวมกันก็ปรากฏให้เห็นเป็น งูตัวหนึ่งมีเกร็ดสีดำทมิฬ ดวงตาสีแดงอำมหิต ลำตัวยาวจนสามารถพันรอบตึกตึกหนึ่งได้
"......." ผมได้แต่อึ้งกับขนาดตัวของงูที่อยู่ตรงหน้าของผม มันยาวและใหญ่มาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจองูที่มีขนาดลำตัวใหญ่ขนาดนี้
"นี่ข้าทำให้เจ้าตกใจงั้นรึ งั้นข้าจะลดขนาดตัวลงเท่างูปกติก็แล้วกัน" หลังจากสิ้นสุดคำคำนั้นงูตัวใหญ่ยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าผมก็ตัวค่อยๆเล็กลงเท่างูธรรมดาทั่วไป ถ้าผมไม่เห็นมันลดขนาดตัวลงผมคิดว่ามันเป็นคนละตัวกันไปแล้ว
"แกเป็นใคร?" ผมได้ถามงูที่อยู่ตรงหน้าของผมด้วยความสงสัย
"นามของข้าคือ อิมูกิ เป็นงูธรรมดาๆไงล่ะ" งูตัวสีดำที่อยู่ข้างหน้าของผมได้เอ่ยนามตนเองออกมา พร้อมกับน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้สึกหมั่นไส้แปลกๆ
"งูธรรมดาเขาไม่ตัวใหญ่ขนาดนั้นหรอกนะ ถ้าจะมีคนเชื่อคนคนนั้นก็คงไม่ใช่ฉัน" ผมได้ตอบกลับงูตัวนั้นไป ลองคิดดูสิงูที่ตัวใหญ่ขนาดไหนจะเป็นแค่งูธรรมดาๆได้ยังไง งูที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกค้นพบก็มีขนาดไม่เกิน 5 เมตรแค่นั้นเอง
"ช่างเรื่องนั้นไปเถอะออกัส พวกเรามาเข้าประเด็นกันดีกว่า" งูตรงหน้าคงผมได้เริ่มเข้าประเด็นอย่างจริงจัง ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันต้องการอะไร แต่ลางสังหรณ์ของผมบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร ตัวผมเชื่อลางสังหรณ์ของตัวเองที่สุดเพราะมันไม่เคยทำให้ผมผิดหวังยังไงล่ะ
"ข้าอยากให้เจ้ามาเป็นอวตารให้ข้าจะได้รึป่าวล่ะ แน่นอนว่ามันไม่ใช่การบังคับเจ้าสามารถปฏิเสธมันได้ แต่จะว่าไปเจ้ารู้ความหมายของอวตารรึป่าวล่ะ?"
"ก็พอรู้อยู่...แต่ทำไมถึงอยากให้ฉันเป็นอวตารให้แกกันล่ะ?" ผมชักสงสัยซะแล้วสิว่าไอเจ้าอิมูกิมันคิดยังไงถึงเลือกผมให้เป็นอวตารของมัน
"ก่อนที่ข้าจะบอกเหตุผลข้าขออธิบายเกี่ยวกับอวตารสั้นๆเลยล่ะกัน อวตารก็คือตัวแทนของเทพเจ้า แบบนี้เจ้าก็เข้าใจง่ายแล้วใช่ไหม?"
"ใช่...แล้วเหตุผลที่แกเลือกฉันเป็นอวตารล่ะ?" ถ้าอวตารเป็นตัวแทนของพระเจ้างั้นก็หมายความว่าเจ้างูนี่ก็เป็นพระเจ้าด้วยงั้นหรอ? ในหัวของผมมันคิดแบบนี้วนไปวนมา ถึงการเป็นอวตารของพระเจ้าจะไม่ได้แย่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีแต่ข้อดี อย่างน้อยมันก็มีข้อเสียตามมาอยู่แล้ว
"เหตุผลที่ข้าเลือกเจ้าก็คือ ข้าถูกใจเจ้ายังไงล่ะ เจ้ามีบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกันกับข้านั่นจึงเป็นเหตุผลที่ข้าเลือกเจ้า 'ออกัส' " งูที่อยู่ตรงหน้าของผมได้เลื้อยบนอากาศไปมารอบๆตัวผมในขณะที่มันกำลังอธิบายไปด้วย เอาตรงๆเจ้างูนี่ก็น่ารำคาญใช้ได้เลยล่ะ
"ข้อถามอีกสักข้อล่ะกัน" มันมีคำถามที่ผมอยากให้แน่ใจว่าการเลือกเป็นอวตารของไองูนี่จะดีหรือป่าว
"ว่ามาสิ ถ้านั่นมันจะทำให้เจ้ายอมเป็นอวตารให้ข้า" จากที่มันเลื้อยรอบตัวผมมันได้เปลี่ยนมารัดรอบคอของผมแทน ถึงมันจะไม่ได้รัดแน่นมากแต่ก็อันตรายอยู่ดี ถ้าหากผมปฏิเสธมันมันคงไม่รัดคอผมจนตายหรอกมั้ง?
"ถ้าฉันยอมเป็นอวตารให้แกฉันจะได้อะไร?" นั่นเป็นคำถามที่ผมต้องการจะถามในตอนนี้มากที่สุด ผมอยากรู้ข้อดีมากกว่าข้อเสียก็เพราะผมยอมเสี่ยงตามที่ลางสังหรณ์ของตัวเอง ลางสังหรณ์มันบอกผมว่าถ้าผมเลือกเป็นอวตารให้เจ้างูนี่ผมจะได้ในสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปไม่มีวันได้รับ
"สิทธิพิเศษ...เจ้าจะสามารถเลือกได้ว่าจะปฏิเสธหรือยอมรับ" เจ้างูนั้นได้กล่าวออกมา มันทำให้ผมสงสัยในคำตอบนี้มาก ผมสามารถเลือกว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธก็ได้งั้นหรอ? มันหมายความว่าอะไรกัน?
"อธิบายให้ชัดเจนกว่านี้ไม่ได้รึไง?" ผมต้องการคำอธิบายจากคำตอนนี้มาก
"ไม่เอาอ่ะ เจ้าไปหาคำตอบเอาเองล่ะกันข้าขี้เกียจอธิบาย" เจ้างูที่กำลังรัดคอผมอยู่มันได้ทำท่าทางเบื่อหน่ายพร้อมกับกล่าวคำพูดคำนั้นออกมา
หาคำตอบงั้นหรอ? เจ้างูนี่อยากโดนจับไปผัดเผ็ดมากรึไงกันถึงได้มากวนประสาทกันแบบนี้ แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่แย่ก็เป็นถึงสิทธิพิเศษเลยนี่?
"เข้าใจแล้ว" ผมได้ตอบตกลงยอมรับข้อเสนอที่จะเป็นอวตารให้งูตัวนั้นไปในที่สุด
"โอ้ จริงหรอ" เจ้างูที่รัดคอของผมอยู่มันได้ทำท่าทางดีใจกับคำตอบที่มันได้รับจากผม แล้วมันก็เลื้อยออกไปพร้อมกับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งให้ผมยืนงงกับการที่มันหายไปโดยไม่บอกกล่าวใดๆ
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกแสบร้อนตั้งแต่หน้าท้องมาถึงยันคอมันรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างที่ร้อนมากๆมาโดนตัวของผม รู้สึกเหมือนบริเวณที่มันรู้สึกแสบกำลังโดนเผาไหม้อยู่ยังไงยังงั้นแหละ
...[ยืนยันการเป็นอวตารเสร็จสิ้น ขอให้คุณโชคดีกับเทพเจ้าที่คุณเลือก]...
...****************...
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
.......
...----------------...
...อวตาร คือ ตัวแทน...
...อ้างอิงจากความคิดแอดเอง;)...
...*อิมูกิ เป็นงูในตำนานของเกาหลีที่สายเลือดมังกรผสมอยู่...
...*ทุกอย่างในนิยายเรื่องนี้จะแต่งเองทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศหรือรายชื่อประเทศ สกุลเงิน แต่แอบอ้างตำนานจริงนิดหน่อย**(?)...
...----------------...
.
.
.
.
...****************...
มอนสเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่มีขนาดเล็กเหมือนเด็กอนุบาล สีผิวสีเขียว ดวงตาคล้ายกบ หูยาว *มีอาวุธเป็นกระบองไม้และมีดสั้น**เก่าๆเล่มหนึ่ง* พวกมันอยู่กันเป็นกลุ่มเล็กๆประมาณ5-6ตัวขึ้นไป นี่คือก็อบลินพวกมันเป็นมอนสเตอร์ชั้นต่ำที่ผู้เล่นใหม่สามารถฆ่าได้ในตอนนี้ ถึงจะมีมอนสเตอร์ประเภทอื่นๆที่สามารถฆ่าได้ง่ายอยู่อีก แต่ส่วนมากแล้วทุกคนชอบฆ่าก็อบลินมากกว่า เพราะหาง่าย และเหมือนไม่อันตรายเท่าไหร่
ชายคนหนึ่งได้เดินเข้าไปในถ้ำของก็อบลินอย่างไม่เกรงกลัวพวกมัน หลังจากที่เขาเข้าไปก็พบกับก็อบลินกลุ่มแรกยืนต้อนรับเขาอยู่ข้างใน หลังจากที่พวกก็อบลินสังเกตเห็นเขาพวกมันได้ทำเสียงประหลาดออกมาพร้อมกับพุ่งใส่เขา
**เคี๊ยง!!!
ฉัวะ**!
เสียงของใบมีดที่ตัดกับเนื้อได้ดังออกมาพร้อมกับ *เลือดที่กระจายไปบนพื้นหลังจากที่พวก**ก็อบลินพุ่งใส่* ชายปริศนา
"ง่ายจริงด้วยแฮะ" ชายปริศนา ที่แผลเป็นบนตาข้างซ้าย ได้พูดออกมาพร้อมกับเช็ดเลือดบนใบมีดออก
เจ้าของเรือนผมสีเหลืองอ่อน *ดวงตาสีเ**ทาพร้อมกับแผลเป็นที่เกิดจากไฟบนดวงตาข้างซ้าย เสียงทุ่มของชายปร**ิศนาที่คุ้นเคย* ชายปริศนาคนนี้ก็คือ “ออกัส”
"แบบนี้เรื่องเลเวลเริ่มต้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วสินะ" เขาพูดออกมาพร้อมกับเดินตรงเข้าไปในถ้ำต่อทันที
เสียงร้องของก็อบลินได้ดั่งออกมาจากทุกทางที่เขาเดินไป เขาฆ่าก็อบลินและเลเวลอัพขึ้นมาอย่างช้าๆจนสุดท้าย เขาก็ได้เดินมาหยุดที่ประตูบานใหญ่บานหนึ่งที่มีลวดลายแปลกๆ
"( นี่คือห้องบอสสินะ? )" เขาได้หยุดคิดสักครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูบานนั้นออกพร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน
ข้างในห้องนั้นเป็นลานกว้างๆที่สุดปลายทางมีบัลลังก์ไม้ตัวใหญ่ตั้งอยู่พร้อมกับมีบอสนั่งอยู่บนบัลลังก์นั้น
มอนสเตอร์ตัวใหญ่ที่ความสูงประมาณหลังคาบ้านมีผิวสีเขียวเหมือนก็อบลินคือ บอส ของทีนี่ ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเลย นั่นจึงทำให้ผมเริ่มกังวลว่าจะเอาชนะมันได้รึป่าว
"เจ้าทำได้แน่ออกัสเชื่อข้า!!" มีเสียงๆหนึ่งดั่งเข้ามาในหัวของผม
"พวกเทพนี่ดูเหมือนจะว่างมากเลยนะ" ผมได้พูดออกไปเบาๆให้ได้ยินพร้อมกับเตรียมความพร้อมก่อนจะเปิดฉากต่อสู้
"เราไม่ได้ว่างขนาดนั้นสักหน่อย เราแค่อยากเห็นเจ้าเปิดฉากสู้กับก็อบลินแชมเปี้ยนแค่นั้นเอง~" เสียงของตัวที่เหมือนจะเป็นเทพได้ดั่งเข้ามาในหัวของผมอีกครั้ง
"ก็อบลินแชมเปี้ยน?" ตัวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ไม้นั่น คือก็อบลินแชมเปี้ยนงั้นหรอ? นั่นคือสิ่งที่ผมคิด
"อา~ เผลอพูดออกไปแล้วทำไงดี" เสียงของอิมูกิงูครึ่งเทพได้ดังขึ้นในหัวของผม มันได้พูดเหมือนตัวเองทำพลาดอะไรบางอย่าง แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันตั้งใจพูดซะมากกว่า ผมชักจะไม่แน่ใจซะแล้วสิว่าไอ้เจ้างูครึ่งเทพนี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่?
ในระหว่างที่คิดผมก็นั่งเช็คจุดอ่อนต่างๆของมันจากระบบ เพื่อที่จะได้จัดการมันง่ายขึ้นแต่ว่า....มันก็ได้มีหนูที่จู่ๆก็พุ่งเข้าไปโจมตีก็อบลินแชมเปี้ยนตัดหน้าผมไป
"( อา...ถูกแย่งเหยื่อซะแล้วสิ )" ผมได้ยืนขึ้นพร้อมกับมองไปยังชายคนหนึ่งที่กำลังสู้กับบอสของดันเจี้ยนอยู่จากมุมหนึ่งของห้อง ยังดีที่ผมไปได้อยู่แถวๆประตูไม่งั้นผมคงโดนจับได้และอาจจะไม่ได้คิดแผนต่อไปหลังจากที่ตัวเองพึ่งถูกแย่งเหยื่อไปต่อหน้าต่อตา
ผมได้ส่องสเตตัสเขาและวิเคราะห์เกี่ยวกับชายคนนั้นอยู่ห่างๆ ยังดีที่ผมมีสิทธิพิเศษของไองูครึ่งเทพอยู่ถึงได้ตรวจสอบสเตตัสคนอื่นจากระยะนี้ได้
...ตอนนี้ที่ผมเข้าใจมีเพียงปฏิเสธเท่านั้น...
ปฏิเสธ คือการปฏิเสธขอกำหนดและขอยกเว้นของระบบถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คงเป็นแบบเกม ที่จะมีเควสบังคับให้ผู้เล่นต้องทำและไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ผมที่ถือครองสิทธิพิเศษที่เจ้างูครึ่งเทพให้มาก็หมายความว่าผมสามารถปฏิเสธเควสบังคับได้ ส่วนการปฏิเสธขอกำหนดต่างๆของระบบเช่น การครอบครองสกิลที่สามารถครอบครองได้อย่างไม่จำกัด และเวลาในการคูลดาวน์สกิลก็เช่นกัน
ส่วนยอมรับผมยังไม่รู้ว่ามันทำงานยังไงเพราะตั้งแต่ที่ผมได้รับสิทธิพิเศษมาก็ไม่เคยเห็นการทำงานของยอมรับเลยสักครั้งเดียว
"( อา...ฉันควรสนใจสเตตัสของคนตรงหน้านี้มากกว่าสิ )" ผมได้ดึงสติตัวเองอีกครั้งและมองไปยังหน้าต่างระบบที่กำลังแสดงสเตตัสของชายคนนั้นอยู่
ชื่อ: สกาย
HP: 145/545
MP: 1590/1590
เลเวล: 9
ฉายา: ( ไม่มี )
อายุ: 19
เพศ: ชาย
ร่างอวตาร: มูรากัล
สกิล: ห่วงแห่งความฝัน ( 1/4 )
ทักษะติดตัว: ทักษะดาบLv.2, รับรู้Lv.1, จินตนาการLv.4
ค่าสเตตัส:
Str: 12
Agi: 10
Vit: 11
Luk: 9
Dex: 18
"( เลเวลของเขาสูงกว่าฉัน )" ในขณะที่ผมกำลังคิดเกี่ยวกับชายที่นามว่าสกายอยู่ผมก็ต้องยิ้มแสยะออกมาอย่างภูมิใจก็เพราะ...
"( บอสดันเจี้ยนใกล้จะตายแล้ว... )" ถึงวิธีที่ผมกำลังจะใช้มันจะเป็นเป็นวิธีที่สกปรกก็ตาม แต่แล้วมันยังไงล่ะ? ตอนนี้ความยุติธรรมมันยังมีอยู่อีกหรอ ทุกคนจะทำทุกวิธีทางเพื่อมีชีวิตรอดเสมอ ต่อให้วิธีที่ใช้มันจะเลวทรามแค่ไหนก็ตาม และผม...ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ผมได้หยิบธนูเริ่มต้นของผู้เล่นใหม่ออกมาและรอโอกาสยิงเมื่อถึงโอกาสผมก็ใช้สกิล' สิทธิพิเศษของอิมูกิ ปฏิเสธ'และปล่อยศรธนู
...[ใช้งานสกิล 'สิทธิพิเศษของอิมูกิ ยอมรับ' เรียบร้อยแล้ว]...
ห๊ะ?....
...[*เกราะป้องกันของก็อบลินแ***ชมเปี้ยนจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของคุณได้ เนื่องจากสกิล'สิทธิพิเศษของอิมูกิ อนุญาต' การโจมตีของคุณจะถูกอนุญาตให้โจมตีผ่านเกาะป้องกันขอ****งก็อบลินแชมเปี้ยนได้**]...
"( การอนุญาตทำงาน? )" ผมได้สับสนกับข้อความของระบบตรงหน้า เพราะที่ผมใช้คือการ 'ปฏิเสธ' ไม่ใช่ การ 'อนุญาต'
ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ได้พุ่งไปยังก็อบลินแชมเปี้ยนที่กำลังจะตาย ถึงดาเมจจะไม่มากแต่ก็ทำให้ก็อบลินตายได้เนื่องจากเลือดของมันมีไม่ถึง 5 แต่ถ้าหากเกราะป้องกันของมันยังอยู่ดาเมจที่ผมทำได้คงจะเพียงแค่ดาเมจเดียวเท่านั้น
...[ยินดีด้วยคุณได้สังหาร'ก็อบลินแชมเปี้ยน' รางวัลจะถูกแจกจ่ายในอีก 5 วินาที]...
ชายที่มีนามว่าสกายเมื่อเขามองไปที่ระบบตรงหน้าและไม่ได้แจ้งเตือนว่าเขาเป็นคนสังหาร นั้นจึงทำให้เขาออกตัววิ่งทั่วห้องโถงเพื่อตามหาคนที่แย่งรางวัลเขาไป
"ใครมันกล้ามาแย่งเหยื่อของฉัน!! โผล่หัวออกมา!!!" สกายได้ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น เสียงของเขาดังก้องไปทั่วห้องโถง
[แจกจ่ายรางวัลเสร็จสิ้น ดันเจี้ยนกำลังจะพังลงในอีก 10 นาที]
เมื่อผมได้รับข้อความนี้ผมก็เดินออกมาจากห้องโถงในตอนที่สกายเผลอ ก่อนหน้านี้ผมได้สำรวจดันเจี้ยนแห่งนี้ทั้งหมดจนไปเจอทางลับอีกทาง ที่จะพาผมออกจากดันเจี้ยนได้ ผมได้ใช้ทางลับทางนี้ในการออกจากดันเจี้ยนและหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมาจากสกาย
ระบบการแจกจ่ายรางวัลแก่ผู้เล่นจะแบ่งออกเป็นสองลักษณะ ลักษณะแรก คือการแจกจ่ายของสมาชิกปาร์ตี้ ถ้ามีผู้เล่นในปาร์ตี้ที่สามารถสังหารบอสหรือมอนสเตอร์ธรรมดาได้ ไอเทมและexpจะถูกแจกจ่ายให้เท่าเท่ากัน ส่วนลักษณะที่สอง คือการแจกจ่ายรางวัลให้เฉพาะผู้ที่สังหาร เป็นการแจกจ่ายรางวัลให้ผู้ที่สังหารหรือปาร์ตี้ที่สังหาร ต่อให้มีผู้เล่นคนอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกปาร์ตี้มาช่วย ถ้าหากผู้ที่สังหารได้คือสมาชิกปาร์ตี้ผู้เล่นที่ไม่ใช่สมาชิกปาร์ตี้ก็จะไม่ได้อะไรเลย
หลังจากที่ผมออกมาจากดันเจี้ยนผมก็ได้เดินทางกลับมายังที่พักชั่วคราวของตนเอง หลังจากที่มาถึงผมก็วางสัมภาระทั้งหมดและเช็คของรางวัลที่ได้มาทันที
ไอเทมที่ผมได้คือ สร้อยคอแห่งพงไพร*1 ระดับF เขี้ยวของก็อบลิน*2 ระดับE กระบองใหญ่*1 ระดับF
และexpจำนวนมาก
ถึงของที่ได้มาจะน้อยแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยล่ะนะ
"เจ้านี่มันสุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นอวตารของข้า!"
เสียงของเจ้างูครึ่งเทพได้ดั่งเข้ามาในหัวของผมในขณะที่ตัวของผมยังไม่ได้ตั้งตัว นั่นจึงทำให้ตัวของผมสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ
"แต่ฉันไปแย่งเขามานะ แบบนี้นายก็ภูมิใจงั้นหรอ?" ผมได้ตอบกลับเจ้างูครึ่งเทพนั่นไป
"อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยใช่ไหมล่ะ" เสียงของงูครึ่งเทพได้ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับตอบคำถามที่ผมถามไปก่อนหน้านี้
ในตอนนี้ผมได้เริ่มเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นแล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งคือ 'ฝนเลือด' ที่ตกมาก่อนหน้านี้ มันตกมาทำไม? มันตกเพื่ออะไรกันแน่? แล้วมันผลกระทบหลังจากโดนฝนเลือดมันเกิดจากอะไร นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการคำตอบมากที่สุดในตอนนี้
"ดูเหมือนว่าเจ้าจะมีคำถามที่อยากถามกับข้าสินะ?" เสียงของอิมูกิงูครึ่งเทพได้ดังเข้ามาในหัวผมอีกครั้ง
"ใช่" ผมได้พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับตอบคำถามของมันไป
"ไหนลองถามข้ามาสิ"
มันดีแล้วงั้นหรอ? แต่ถ้าหากผมได้คำตอบของคำถามนี้ผมอาจจะได้รู้อะไรบางอย่างที่สำคัญก็ได้ใครจะไปรู้?
ผมตัดสินใจถามสิ่งที่ผมสงสัยออกไปแต่มันกลับมีอักขระสีทองโผล่ขึ้นมารอบๆคอของผม หลังจากที่มันโผล่ออกมาผมก็ไม่สามารถพูดได้และเริ่มหายใจไม่สะดวก
"( นี่มันอะไรกัน? )" ผมได้ใช้มือทั้งสองข้างจับบริเวณคอของตนเอง ก่อนที่ตัวของผมจะทรุดลงบนพื้น
...[สิทธิพิเศษ'ปฏิเสธ'ถูกเปิดใช้งาน]...
ชิ่ง!
...[คุณได้ปฏิเสธข้อกำหนดของคำพูดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว]...
หลังจากที่ระบบแจ้งเตือนเสร็จสิ้น อักขระสีทองก่อนหน้านี้ก็ได้แตกออกเหมือนกระจกและกระจายหายไปในอากาศ
"เมื่อกี้นี้มัน...."
"สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้คือ ข้อกำหนดของคำพูด มันมีเอาไว้กำกับคำถามของเพลเยอร์ทุกคน" เสียงของอิมูกิได้ดังเข้ามาในหัวของผมพร้อมกับอธิบายเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ให้ผมฟัง
"แบบนี้นี่เอง...." ผมได้พยักหน้าแสดงให้เห็นว่าผมเข้าใจคำอธิบายของอิมูกิแล้ว
"แสดงว่าฉันต้องหาคำตอบเอาเองสินะ"
...****************...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!