คำโปรย
คณิสรา(มีน) สาวน้อยผู้เคยมีความรักอันแสนหวาน แต่แล้วคนรักของเธอ กับเสียชีวิตไปอย่างกระทันหัน ทำให้เธอสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นใจตัวเอง แล้วตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จากนิสัยที่เคยอ่อนหวาน กลายเป็นสาวมั่นสายลุยเจ้าแผนการ
จนกระทั่งสี่ปีผ่านไป เธอได้กลับมาเจอกับ ธนวัฒน์(วัฒน์) ซึ่งเป็นเพื่อนของพี่สาวของเธอ เขาได้เข้ามาในชีวิตของเธอ แรกๆก็กัดกันพอตัว แต่ด้วยความอ่อนโยน และความจริจใจของเขา ได้ทำลายกำแพงในใจของเธอ แล้วเธอก็ได้รับรู้ความจริงที่ว่า เขานั้นแอบหลงรักเธอมาตั้งนานแล้ว ความรักของทั้งสอง กำลังเริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมกับความลับบางอย่าง
#แล้วมารับชมความฟินความหวานของทั้งสองคนพร้อมๆกันนะคะ
คณิสรา วรรกาจญ์(มีน) หญิงสาวอายุราวๆ22ปีใบหน้าเรียวเล็กดวงตากลม ผมตรงยาวสีดำสลวยใส่ที่คาดผมสีโอรสแต่งเดรสสั้น สีชมพูโรสโกลด์สวยหวานรูปร่างดีหน้าตาสะสวย กำลังนั่งรอคนรักอยู่ในภัตตาคารหรูที่ชั้นดาดฟ้า ทิวทัศน์ยามค่ำคืนสวยละลานตาเธอกำลังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ ที่แสนจะโรแมนติกแล้วจู่ๆก็มีเสียงชายคนนึงทักขึ้นด้วยเสียงตื่นเต้นว่า
"อ้าว น้องพี่มาทำอะไรที่นี่หรอ"
คณากร วรรกาจญ์(มิกซ์) ชายหนุ่มอายุประมาณ26ปี ผมดำหน้าตาหล่อเหลา แต่งตัวดูดี เหมือนว่ามีนัดเดตกับสาวๆ
ฉันหยุดยิ้มแล้วหันมามองค้อนพี่มิกซ์ ฉันได้ถอนหายใจยาวๆ 'เฮ้อ' แล้วพูดด้วยท่าทางเซ็งๆว่า
"ดูก็รู้แล้วนิคะว่าน้องนัดกับคิวไว้ แล้วพี่ล่ะมาทำอะไรที่นี่"
"พี่แค่มากินข้าวคนเดียวหนะ แล้วบังเอิญมาเจอน้องก็เท่านั้นแหละ"
"จริงหรอคะ?คราสโนว่าอย่างพี่ มากินข้าวในบรรยากาศแบบนี้คนเดียวนี้นะ จะให้น้องเชื่ออย่างงั้นหรอคะ"
พี่เขาหลบตาฉันเล็กน้อยฉันมองหน้าพี่มิกซ์ด้วยสายตาสงสัย เพราะที่พี่มิกซ์พูดมาฉันนี่ไม่เชื่อลงเลย สายตาของฉันจับจ้องไปที่พี่ชาย จนจะทะลุอยู่แล้ว สายตาบ่งบอกว่า 'จงบอกน้องมาซะดีๆ'
ผมมองนี่ถึงกับเสียวสันหลังเลยได้แต่คิดในใจว่า 'เอาแล้วไงโดนจับได้แล้วแน่เลย' ผมทำตาปริบๆยิ้มเจี่ยนๆตอบไปด้วยท่าทางเศร้าๆว่า
"ก็ได้ๆพี่มีนัดกับสาวแต่โดนเทอ่ะ ก็ว่าจะกลับแล้วดันมาเจอใครก็ไม่รู้ นั่งอยู่คนเดียวท่าทางเหงาๆเลยจะมาอยู่เป็นเพื่อน"
ผมคิดหาคำตอบพูดออกไปแต่เป็นคำโกหกทั้งหมดนะ คนอย่างผมนี่นะที่จะโดนสาวเทไม่มีทางอ่ะ เพราะที่จริงๆแล้วผมมาที่นี่ก่อนมีนเสียอีกแต่ไม่รู้ว่า น้องผมจะเชื่อผมหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ
"ฮ่าฮ่าฮ่า ที่แท้พี่ก็โดนสาวๆเทมานี่เองงั้นน้องให้อยู่เป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ แค่จนกว่าคิวจะมาเท่านั้นนะถ้าคิวมาถึงพี่มิกซ์ต้องรีบไปเข้าใจใหมคะ"
อ้าว...เชื่อซะงั้นผมฟังถึงกับโล่งใจที่มีนไม่ได้สงสัย แต่...น้องสาวผมนี่จะรักแฟนมากว่าพี่ชายหรือเปล่าเนี้ย แต่ให้ทำไงได้ล่ะแค่น้องสาวทั้งสองคนผมมีความสุขก็พอใจแล้ว
มนัตถ์ กิจนะกานต์(คิว) ชายหนุ่มอายุราวๆ22ปีผมสีน้ำตาลนิดๆดวงตาเรียว รูปร่างดีแต่งตัวราวกับนายแบบได้ขับรถยนต์ Mercedes-Benzสีบรอนซ์เทา ออกมาจากบ้านในมือกำลังถือกล่องใบเล็กที่มีแหวนเพรชวงหนึ่ง เขามองด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยร้อยยิ้มกระทั่งเสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น เขาได้วางกล่องไว้ข้างๆพอมองว่าเป็นใครเขากดรับทันทียิ้มแล้วพูดเสียงหวานออกไปว่า
"คิวกำลังออกไปมีนรอหน่อยนะ"
\[ไม่ต้องรีบขับก็ได้นะ เมื่อกี้มีนเหมือนได้ยินเสียงฝน\] มีนดูน้ำเสียงเป็นกังวลผมมองออกนอกรถก็เห็นฝนตกผมถึงกับเศร้าเลย
"เริ่มตกแล้วล่ะแต่คิว...ไม่อยากให้มีนรอนานนิ"
\[ไม่ต้องห่วงนะมีพี่มิกซ์อยู่เป็นเพื่อนแล้ว\] ผมทำหน้าตกใจกับคำที่มีนพูดออกมาเลยพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"พี่มิกซ์ทำไงให้มีนจับได้เนี้ย"
ตอนนี้ผมกังวลมากเลยคงเพราะผมเสียงเบามาก มีนเลยไม่ได้ยินจึงถามกลับผมนี่ลืมว่ามีนอยู่ในสายด้วย
\[คิวว่าอะไรนะ\] ผมทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวเลยเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้มีนสงสัย
"ปะ...เปล่าว่าแต่พี่มิกซ์อยู่ด้วยหรอ" ผมถามด้วยเสียงตะกุตะกะแต่ท่าทางนี่ลุ้นสุดๆว่ามีนรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน
\[ใช่...เห็นบอกว่านัดสาวไว้แล้วโดนเทอ่ะ คิวว่าตลกใหมล่ะตอนแรกมีนก็สงสัยนะ เหมือนพี่มิกซ์ปิดบังอะไรไว้เลย\]
"คิวว่าไม่น่ามีไรนะถ้าไม่มีนัดแล้วจะไปที่นั่น คนเดียวทำไมหล่ะมีนว่างั้นใหม"
ผมกังวลนิดหน่อยหลังจากที่รู้ว่ามีนเริ่มสงสัยขึ้นมา กลัวความจะแตกก่อนที่จะทำเซอร์ไพร์สำเสร็จ ผมพยายามพูดหว่านล้อมให้มีนเลิกสงสัยในตัวพี่ชาย
"..." ไร้เสียงตอบกลับ
\[ที่คิวพูดมาก็ถูก\] ผมนี่โล่งใจทันทีเลย
"คิวใกล้จะถึงแล้วนะ" ผมพูดด้วยเสียงหวานเสียงอ่อน
\[มีนจะรอแล้วสั่งของโปรดไว้ให้นะ\]
"จ้า...คิวรักมีนนะ" ผมบอกรักมีนด้วยท่าทางอ่อนโยน
\[...\] เสียงทางนั้นหายไปพักนึง
\[มีนก็รักคิวนะ\]
เสียงหวานๆของมีน ออกมาทางโทรศัพท์พูดจบก็วางสายไป ผมนี่เขินจนหน้าจะระเบิดแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวบนรถ แล้วก็เปิดเพลงเพื่อเพิ่มบรรยากาศผมนี่คงจะเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดเลย ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำลงมาแถมรถยังติดไฟแดงอีกผมเขาทำหน้าเซ็งแล้วบ่นกับตัวเองว่า
"เฮ้อ...ตกหนักเลยนะเนี้ยจะสายแล้วด้วย ดีนะที่พี่มิกซ์อยู่นั่นแต่เกือบจะทำให้มีนจับได้ ว่าพี่เขาวางแผนอะไรไว้กับเราที่เหลือก้อ...อ่ะ!! หายไปไหนแล้วเนี้ย"
ผมคลำหาตามตัวว่ากล่องแหวนอยู่ไหน มองหาไปมาก็เห็นมันตกอยู่ข้างล่าง ผมเอื่อมมือลงไปเก็บผมหยิบกล่องขึ้นมาแล้วเปิดดู ใบหน้าตอนนี้ของผมคงจะแดงเหมือนมะเขือเทศแล้วมั่ง
"หายไปนี่ซวยเลยนะเนี้ยอีกไม่นานเราก็จะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ"
ผมพูดด้วยยิ้มไปด้วยเหมือนคนบ้า สีหน้าตอนนี้คงเต็มไปด้วยความสุขแน่ๆเลย ในใจผมคิดถึงแต่หน้าของมีนผมเก็บแหวนและกำลังจะออกรถ เพราะไฟเป็นสีเขียวแล้วแต่ก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้า ใจผมเต้นแรงจนทำอะไรไม่ถูกเพราะมีรถบรรทุกฝ่าไฟแดง มาชนเข้ากับรถของผมแล้วกระเด็นไปชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างทางอีกที หัวกระแทกอย่างรุนแรงเลือดแดงไหลลงตามใบหน้าผมในมือก็กำกล่องแหวนไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"มะ...มีน"
ผมพูดด้วยเสียงที่หมดแรงขยัยตัวไปไหนไม่ได้ ผมคิดถึงแต่หน้าของมีนที่รอผมอยู่ถ้าได้เจอผมจะมีสีหน้าดีใจขนาดไหน แต่ตอนนี้ผมรู้สึกง่วงมากผมมองกล่องแหวนในมือในขณะหนังตา ของผมค่อยๆลดลงช้าๆแล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลลงมาทางหางตาจนผมหลับไปในที่สุด
"อ่ะ!!"
ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจเพราะแก้วน้ำดันตกแตกซะได้ ตอนนี้ใจฉันหวิวแปลกๆเป็นกังวลเอามากๆ พี่มิกซ์รีบลุกมาหาฉันด้วยสีหน้าที่ดูตื่นตะหนก
"บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
"ไม่เป็นไรค่ะน้องแค่เผลอไปชนเข้า งั้นน้องไปเข้าห้องน้ำก่อนนะถ้า..." ฉันยังพูดไม่ทันจบ พี่มิกซ์เหมือนรู้ว่าฉันจะพูดอะไรต่อ เลยชิงพูดก่อนว่า
"จ้าๆพี่จะรอน้องเขยอยู่ตรงนี้แหละ ถ้าเห็นปุ๊บจะรีบไปเรียกปั๊บเลย" พี่มิกซ์พูดเหมือนจะล้อฉันฉันถึงกับหน้าแดงพูดตะกุตะกะออกมา
"น้อ...น้องเขยอะไรเล่าพี่ก็" พูดเสร็จฉันรีบตรงไปห้องน้ำทันที
"ว่าแต่...คิวมันทำอะไรอยู่เนี้ยไหนว่าใกล้ถึงแล้วไงผ่านมาเกือบ20นาทีแล้วนะ"
ผมหยิมน้ำขึ้นมาดื่มแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าไอ้ว่าที่น้องเขยมันไปอยู่ไหนคิดสักพักผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความ
\[ว่าที่น้องเขยอยู่ไหนทำไมยังไม่มาอีก มีนรอจนรากจะงอกแล้วเร็วๆหน่อยนะเดี๋ยวร้านจะปิดก่อน ไอ้งานที่พวกเราเตรียมไว้จะไม่ได้เซอร์ไพร์เอานะ โอกาศที่พี่ชายคนนี้จะอยู่ช่วยมีไม่มากหรอก พี่ต้องเลื่อนนัดสาวๆสวยๆเพื่อนายเลยนะเนี้ย\]
"พี่นั่งพิมพ์อะไรอยู่คะ หรือว่าส่งข้อความหาคิว"
ผมนี่สะดุ้งเลยแล้วรีบกดข้อความส่งไปแต่ผมไม่รู้ว่ามีนเดินมาตอนไหนนี่สิ เห็นหรือเปล่าก็ไม่รู้มีนคงสงสัยว่าผมทำอะไรอยู่แน่เลย มีนทำท่าทางจะมาดูโทรศัพท์ของผม
"พี่จะส่งหาน้องเขะ...เอ้ย คิวทำไมล่ะพี่ก็ต้องส่งหาสาวๆของพี่นะสิว่าแต่เราอ่ะ เป็นอะไรเมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนตูนลิงอยู่เลย" ผมนี่รีบเอาโทรศัพท์เก็บแทบไม่ทันเลยทีเดียว เลยพูดอะไรไปเพื่อกลบเกื่อนไปมีนจะได้ไม่สงสัยในตัวผม
"อะไรค่ะหน้าเหมือนตูดลิง" มีนทำหน้างงงวยผมนี่ฉีดยิ้มออกมา
"ก็หน้าแดงไงหึหึหึ"
ผมหัวเรากลบเกื่อนด้วยท่าทางมีความสูข มีนทำหน้ามุ้ยใส่ผมแล้วยิ้มออกมาเหมือนคิดอะไรออก
"ก็ดีกว่าคนที่โดนทิ้งให้กินข้าวอยู่คนเดียวก็แล้วกัน" มีนพูดด้วยน้ำเสียงสะใจแทงใจดำผมเต็มๆ
"โอ๊ย...!!เจ็บนะเนี้ย พูดงี้เอามีดมาแทงพี่เลยมั้ย" ผมเอามือกุมหน้าอกทำท่าทางเจ็บปวด
"ไม่ล่ะค่ะน้องไม่นิยมใช้ความรุนแรงกับครอบครัว" มีนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆออกมา ผมนี่หน้าเหวอไปเลย
"นี่พี่แค่ประชด"
"น้องรู้ค่ะ" มีนทำท่าทางไม่สนใจ
"แล้วนี่ไม่คิดจะกินไรลองท้องก่อนหน่อยหรอ" ผมไม่เห็นน้องสาวแตะอาหารเลยมีนมองผมแล้วส่ายหน้าให้
"ไม่ล่ะค่ะพี่กินเลยน้องจะรอจนกว่าคิวจะมา"
มีนพูดด้วยเสียงเศร้าสร้อยแต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดออกไป ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมีนมองแล้วยิ้มออกมารีบกดรับทันที
"คิว...มีนเริ่มจะหิวแล้วนะยังไม่ถึงอีกหรอหรือมีเรื่องอะไรหรือปะ..."
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแล้วก็เป็นห่วงเขาด้วย แต่ฉันยังพูดไม่ทันจบก็มีเสียงขัดขึ้นมาก่อนเป็นเสียงชายวัย30ต้นๆเขาพูดขึ้นอย่างรีบร้อน
\[เอ่อ...ขอโทษนะครับเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ประสบอุบัติเหตุ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลรีบมาด่วนเลยนะครับ\]
ฉันหยุดยิ้มทันทีนิ่งไปสักพัก แล้วถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจด้วยเสียงที่ดูตะกุตะกะ ตอนนี้ฉันใจเต้นแรงมากเหมือนจะหลุดออกมา
"คะ...คุณว่าอะไรนะคะ"
\[รีบมาเลยนะครับผู้ป่วยอาการสาหัสมาก\]
พอสิ้นเสียงเขาเท่านั้นแหละโทรศัพท์ของฉันก็ตกลงพื้น ฉันล้มลงน้ำตาเอ่อล้นออกมาตามใบหน้าอันเรียวสวย
"ฮึกๆฮือๆ~" พี่มิกซ์เห็นอย่างงั้นถึงกับต้องตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าพี่เขารีบเข้าหาฉัน
"มีน...!!เป็นอะไรไปร้องไห้ทำไมบอกพี่สิว่าเกิดอะไรขึ้น" พี่เขาเข้ามาจับตัวฉันไว้ฉันเงยหน้าขึ้นจับแขนพี่มิกซ์ไว้แน่นด้วยท่าทางสั่นเทา
"พะ...พี่...ฮึกๆฮือๆๆ~ พี่มิกซ์~ฮึก" ฉันร้องเรียกพี่ชายด้วยเสียงสะอึกสะอื้นใบหน้าแต่ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา
"น้องบอกพี่มาร้องไห้ทำไม" พี่มิกซ์พูดด้วยทำท่าทางเป็นกังวลมาก
"คะ...คิวฮึกๆคิว...คิวเขาเกิดอุบัติเหตุ เขามาหาน้องไม่ได้แล้วพี่มิกซ์ฮึกๆมะ...มีนไม่รู้ฮึกจะทำยังไงดีฮึกแล้วพี่มิกซ์~"
ฉันบอกพี่ชายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาพี่มิกซ์เองก็ตกใจเพราะไม่นานมานี้ ยังคุยกันอยู่ดีๆแล้วทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นได้พี่มิกซ์เข้ามากอดฉันไว้ ฉันร้องไห้ตัวสั่น อยู่ในอ้อมกอดของพี่ชายสักพักพี่มิกซ์ก็รีบพาฉัน ไปที่โรงพยาบาล
ณโรงพยาบาลที่หน้าห้องฉุกเฉิน สองพี่น้องก็ดูกระวนกระวาย ห่วงคนที่อยู่ข้างในเป็นอย่างมาก พี่มิกซ์นั่งกอดปลอบฉันที่ร้องห่มร้องไห้อยู่ พี่เขาเห็นฉันแล้ว ก็ทำหน้าเจ็บด้วยอีกคน พี่เขาได้ยื่นมือมาเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของฉัน
"น้องสาวคนเก่งของพี่ หยุดร้องได้แล้วนะ คิวอยู่ในมือหมอแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอก"
"ฮึกๆ จริงหรอคะแต่ตอนที่เขาโทรมา ฮึกเขา...เขาพูดฮึกว่าคิวอาการสาหัสมากฮึก ถ้าคิวเป็นอะไรไปแล้วน้องจะทำยังไงฮึกๆ พี่มิกซ์น้องกลัว...ฮึกๆ"
ฉันพูดไปร้องไห้ไปน้ำตาที่เช็ดไปแล้ว ก็ไหลลงมาอีกพี่มิกซ์ดึงฉันเข้ากอดอีกรอบ จากนั้นก็มีเสียงดังมาแต่ไกล
"หนูมีน...คิวเป็นยังไงบ้างหมอเขาว่ายังไงบ้าง"
มาริศา กิจนะกานต์(มะลิ)หญิงอายุราวๆ54ปี ผมสั้นป่ะบ่าแต่งตัวเหมือนพึ่งกลับมาจากงานเลี้ยง
มนัสนันท์ กิจนะกานต์(คิน) ชายหนุ่มวัยรุ่นอายุราว19ปีหน้าตาดีคล้ายคนรักของฉัน
"คุณป้าน้องคินมาแล้วหรอคะคุณหมอยังไม่ออกมาเลยค่ะ"
ฉันรีบเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นไปรับทั้งสอง ฉันยิ้มให้ดูเหมือนปกติแต่ป้ามะลิก็ยังทำหน้าตากังวลอยู่
"โธ่!! ลูกแม่ขอให้ฟ้าคุ้มครองนะลูก"
ป้ามะลิพนมมือภาวนาให้ลูกชายคนโตปลอยภัย ฉันเห็นท่าท่างของป้าที่เป็นห่วงลูกชาย
"หมอที่นี่เก่งมากคิวจะต้องไม่เป็นไรค่ะ"
ฉันยิ้มแล้วกุมมือป้ามะลิแล้วพูดไม่ให้คิดมาก ทั้งที่ในใจฉันก็เป็นห่วงไม่แพ้กัน
"อย่างที่พี่มีนบอกเลยครับแม่อีกอย่างนะพี่คิวหนะ ไม่ปล่อยให้คุณแม่อยู่กับผมสองคนหรอกครับ" คินยิ้มแล้วพูดให้กำลังใจแม่ของเขา พี่มิกซ์ยกนิ้วเยี่ยมให้แล้วเข้ามานั่งข้างฉัน
"กินอะไรหน่อยใหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้"
พี่มิกซ์พูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คงเห็นว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยล่ะมั่ง ฉันมองพี่เขาแล้วส่ายหน้าพูดปัดๆไป
"ไม่เป็นไรค่ะ น้องยังไม่หิวน้องจะรอคิวออกมาก่อน"
"ไม่ได้!! น้องยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เย็นเลยนะ ถ้าเป็นอะไรไปอีกคนแล้วจะทำยังไง คิวมันคงไม่ดีใจหรอกนะที่เห็นน้องเป็นแบบนี้" พี่มิกซ์ลุกขึ้นทำท่าไม่พอใจพูดน้ำเสียงตะหวาดใส่ฉัน
"ไปซื้อมาเลยถ้าหนูมีนไม่กิน ป้านี้แหละจะบังคับให้กินจนได้"
"ครับคุณป้า"
ผมรับปากออกไปด้วยเสียงหนักแน่นด้วยท่าทางดีใจ แล้วรีบออกไปซื้อของกันกับคิน เพราะถ้าป้ามะลิไม่อยู่ ดูท่าแล้วมีนคงจะไม่ยอมกินอะไรจนกว่าคิวจะออกมา ผ่านไปได้ไม่นานก็กลับมาทุกคนก็กินคนล่ะอย่างสองอย่าง
"นี่ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะทำไมยังไม่เห็นมีคุณหมอ ออกมาบอกอะไรสักคนเลยล่ะค่ะ"
ตอนนี้ใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย สังหรใจแปลกๆฉันกังวลมาก แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้อีกครั้ง
"นั้นสิป้าเองชักจะกังวลขึ้นมาแล้วนะเนี้ย"
ป้ามะลิเป็นห่วงกลัวลูกชายคนโตจะเป็นอะไรไป ฉันนั่งกุมมือป้ามะลินั่งปลอบใจกัน แล้วประตูบานตรงหน้าก็ถูกเปิดขึ้นออกมา คุณหมอก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ทุกคนก็รีบลุก แล้วพุ่งไปหาคุณหมออย่างรวดเร็ว หมอนำของบางอย่างออกมาด้วยมันคือกล่องใบเล็ก แล้วทำหน้าอยากจะพูดอะไรสักอย่าง
"ลูกชายของฉันปลอดภัยดีแล้วใช่ใหมค่ะคุณหมอ"
"คุณหมอค่ะคิวเป็นยังไงบ้างค่ะ"
ฉันกับป้ามะลิทำหน้าตื่นถามหมอไป แล้วเริ่มหวั่นใจเพราะหมอไม่พูดอะไร ฉันถามหมออีกครั้ง
"คุณหมอคะพูดอะไรสักคำสิคะ"
"นี่...เป็นของที่คนไข้กำไว้ในมือตลอด ไม่ยอมปล่อยตั้งแต่มาถึงที่นี่ครับ คือ...ญาติของคนไข้ทำใจดีๆไว้นะครับ พวกเราทุกคนทำสุดความสามารถแล้วเสียใจด้วยจริงๆนะครับ" หมอทำหน้าเสียใจพูดออกมารวดเดียว ทำให้ทุกคนตกตะลึงกับคำตอบ
"ม่าย...!!คิวลูกแม่"
ป้ามะลิร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นลมล้มลงไป คินก็กำลังใจหายอยู่เห็นแม่เป็นลมร้องออกมาเสียงหลง
"แม่ครับ!!" คินรีบพาแม่กลับมานั่งที่เก้าอี้ฉันเจ้าไปจับเสื้อหมอ
"คุณหมออย่าโกหกสิค่ะฮึกคุณหมอต้องช่วยคิวได้สิคะฮึกๆ ละ...ลองอีกครั้งเถอะนะคะ ฮึกๆฉันขอร้อง...ฮึกๆ"
ฉันร้องออกมาด้วยความเสียใจ น้ำตาไหลออกมาเหมือนสายน้ำ ตอนนี้ตรงหน้าห้องฉุกเฉินมีแต่เสียงร้องไห้
"มีน..."
ผมมองน้องสาวที่ร้องไห้อยู่ตอนนี้ผมก็เสียใจเหมือนกัน ผมเดินเข้าไปหามีนที่ตอนนี้นั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู ผมนั่งลงกอดน้องสาวผมไว้แน่นมีนร้องไห้แทบใจจะขาด ทำใจกันอยู่สักพักทุกคนก็เข้าไปดูร่างของคิว ที่นอนโดดเด่นอยู่บนเตียงแต่เหมือนกับคนที่นอนหลับ ไปซะเฉยๆแค่มีแผลที่หน้าเล็กน้อยพอป้ามะลิเห็นลูกชาย ก็ห้องไห้ออกมาอีกจนทำใจดูไม่ได้ คินเลยพาออกมาก่อนเพราะกลัวว่าจะเป็นลม ไปอีกครั้งนึงแต่มีนกลับขออยู่กับคิวต่อสักพักผมเลยออกมา
ฉันมองหน้าคนรักอยู่อย่างเงียบๆแล้วน้ำตาก็ไหลออกมา ฉันร้องไห้คร่ำครวญด้วยความเสียใจพรรนณาต่างๆนาๆว่า
"ฮึกๆทำไมอ่ะ...ทำไมคิวฮึกๆ คิวไม่รักไม่เป็นห่วงมีนแล้วหรอฮือๆ~ ทำไมถึงทิ้งกันไปฮึกๆ คิว...มีนขอร้องฮึก ตื่นขึ้นหามีนเถอะนะฮึกๆฮือๆ~ อย่าพึ่งทิ้งมีนไปฮึกๆ คะ...คิวฮึกไหนเราสัญญากันไว้ฮึกๆ ว่าจะตั้งสตูดิโอด้วยกันไงฮึก คิวเป็นเจ้าของส่วนมีนก็จะเป็นนักออกแบบ ฮึกฮือๆ~ถ้าคิวไม่อยู่แล้วอ่ะ มีนจะทำยังไงต่อไปละฮือๆฮึกฮือๆ~ กลับมาหามีนก่อนนะฮึกๆฮือ~ฮึก"
ร้องไห้อยู่สักพักแล้วออกไปรวมกับทุกคนข้างนอก ฉันเห็นป้ามะลิกับคินยังร้องไห้อยู่เลยเข้าไปนั่งใกล้ๆ จากนั้นก็กอดป้าไว้พี่มิกซ์เดินมายื่นกล่องใบหนึ่งให้
"อ่ะ ของที่คิวตั้งใจจะให้มีน..." พี่มิกซ์พูดด้วยท่าทางเศร้า ฉันหันไปมองแล้วพูดด้วยท่าทีงุงงง
"นี่...?อะไรหรอคะ" ฉันเปิดกล่องแล้วตกตะลึงกับสิ่งของตรงหน้า
"แหวน...ฮึกๆสวยมากเลยค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำตาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
"ที่จริงแล้ววันนี้พี่กับคิววางแผน ที่จะเซอร์ไพรขอมีนแต่งงานคิวให้พี่จัดการเรื่องสถานที่ แล้วนี้ก็เป็นแหวน ที่คิวกับมิวช่วยกันเลือกเลยนะ"
"จะ...จริงหรอคะฮึกคิวตั้งใจจะขอน้องแต่งงานหรอคะ" ฉันลูบแหวนแล้วยิ้มใบหน้าเต็มไปด้วยด้วยน้ำตาแห่งความสุข
"จริงจ้ะหนูมีนคิวเขามาปรึกษากับป้าแล้ว ตอนนี้ป้าก็คงเป็นห่วงแต่คินนี้แหละ"
ป้ามะลิยิ้มแล้วมองฉันด้วยสายตาอ่อนโยน แล้วหันไปมองลูกชายคนเล็กที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงคนเดียว
"แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ ผมหนะดูแลแม่แทนพี่คิวได้อยู่แล้ว" คินพูดด้วยน้ำเสียงท่าทางมั่นใจป้ามะลิยิ้มแล้วกอดเขา
"จ้ะแม่จะรอนะ" ป้ามะลิพูดด้วยน้ำเสียงปลื่มปิติออกมาด้วยท่าทางสุขใจ
"โตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา"
"แน่อยู่แล้วครับพี่มีน เพราะผมกำลังจะขึ้นเป็นหนุ่มมหาลัยแล้วนะ" คินพูดด้วยท่าทางภูมิใจ
"ถึงเขาจะไม่อยู่แล้วแต่ความดีของเขาก็ยังอยู่ คอยผลักดันให้พวกเราก้าวต่อไปได้" พี่มิกซ์ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าปนให้กำลังใจ
ที่งานฌาปนกิจศพทุกคนก็มาส่งเขาเป็นครั้งสุดท้าย มีทั้งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ของเขาและคนรู้จักกับครอบครัวเขา มากหน้าหลายตา ครอบครัวของฉันก็มา พอเสร็จงานฉันก็มานั่งร้องไห้คนเดียวที่ไม้หินอ่อนใกล้ๆ แล้วก็มีชายคนนึงเดินเข้ามาแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ชัดว่าเป็นใครเพราะเขาใส่แว่นแต่ฉันรับมาด้วยความเต็มใจ
"ขอบคุณนะคะเอ่อ...เป็นคนรู้จัก ของคุณป้าหรอคะขอบคุณที่มาช่วยงานนะคะ" ฉันยิ้มพูดขอบคุณเขาไปเขาได้นั่งลงใกล้ๆมองฉันแล้วยิ้ม
"ทางครอบครัวพี่รู้จักหนะ ส่วนพี่เป็นเพื่อนกับพี่สาวเราพอดีพึ่งรู้ข่าวก็รีบบินกลับมาเลย"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้านั่งมองฉันไม่วางตา คำพูดสื่อว่าเป็นคนรู้จักฝั่งครอบครัวฉันซะมากกว่าฉันแปลกใจกับคำพูดของเขา
"เพื่อนพี่มิวหรอคะทำไมมีนไม่เคยเห็นหน้าพี่เลยหละ" ฉันทำหน้าสงสัยมองเท่าไหร่ก็ไม่คุ้น เขายิ้มแล้วตอบกลับว่า
"มีน...ไม่เคยเจอพี่หรอกนะแต่อาจจะรู้จักพี่อยู่แล้ว มีนแค่อาจจะนึกไม่ถึงว่าเป็นพี่ก็ได้ เอาหละรีบกลับเข้าไปหาพี่ๆได้แล้วหนะ อย่ามานั่งอยู่ตรงนี่คนเดียวเลย"
เขาพูดจาลึกลับมีลับลมคมนัยแต่น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยฉันมาก และเขาที่กำลังจะเดินออกไปแต่ฉันคว้ามือเขาเอาไว้ก่อน
"แล้วพี่...ชื่ออะไรหรอค่ะ" ฉันถามออกไปเพราะอยากรู้เขาหันมายิ้มให้ฉัน
"ถ้าอยากรู้ก็คิดให้ออกสิว่าพี่นะจะเป็นใคร แต่ขอให้มีนจำเอาไว้อย่างนะว่าพี่เป็นห่วงเราไม่แพ้ใครที่ไหนเลยพี่งั้นไปล่ะ"
เขาพูดด้วยท่าทางเจ้าเลห์ แต่น้ำเสียงฟังดูแล้วอบอุ่น ก่อนไปก็ขยี้หัวด้วยความเอ็นดูเดินออกไปโดยปล่อยให้ฉัน นั่งงงอยู่คนเดียวฉันมองมาที่มือแล้วนึกขึ้นได้
"แล้ว...จะเอายังไงกับผ้าเช็ดหน้านี้ล่ะ"
ฉันพูดด้วยท่าทางเสียดายแต่ก็ไม่รู้จะเอาไปคืนยังไง เพราะก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครรู้แค่ว่าเป็นเพื่อนพี่สาว ฉันเดินไปหาครอบครัวตามที่เขาบอก แล้วเหมือนจะมีเงาใครสักคนหลังต้นไม้ แอบฟังอยู่แล้วก็หายไป หลังทุกอย่างเรียบร้อย ฉันก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อสานฝันของตัวเองให้เป็นจริง แล้วค่อยกลับมาเปิดร้านอย่างที่ตั้งใจไว้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!