ทั่ก ๆ ๆ ๆ
เสียงฝีเท้านับสิบดังกระทบพื้นคอนกรีตท่ามกลางความเงียบยามค่ำคืน ในเวลาเช่นนี้ที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน เหมาะแก่การจัดการปัญหาเงียบ ๆ แบบที่ผู้ก่ออาชญากรรมมักจะทำกัน
ร่างผอมบางของผู้ที่ได้ชื่อว่าเหยื่อวิ่งกระหืดหอบปานว่าจะขาดใจตาย ทั้งสองขาไร้เรี่ยวแรงจะวิ่งต่อ ทว่า สมองสั่งว่า ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ห้ามหยุดเด็ดขาด
'บอสครับ ตอนนี้มันวิ่งเข้าไปในซอยแล้วครับ'
"ฉันรอมันอยู่" ผู้ถูกเรียกว่าบอสตอบกลับแล้วหยิบบุหรี่ขึ้นสูบอย่างใจเย็น เพียงไม่นานแมลงเม่าก็บินมาหากองไฟที่กำลังลุกโชน
'โง่เง่าจนวินาทีสุดท้าย'
ริมฝีปากสีคล้ำจากนิโคตินยกยิ้มร้าย ดวงตาคมมองแมลงเม่าที่อ่อนแรงก่อนเปล่งเสียงทุ้ม
"ไง" เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ ไม่ต้องมีคำขู่เข็ญก็ทำอีกฝ่ายเย็นสันหลังวาบ
"อึก!" เขาทรุดตัวอย่างหมดแรงลงตรงหน้าชายชุดสูทนัยน์ตาดุดัน ภายใต้ใบหน้าที่หล่อเหลาใครจะรู้ว่าชายผู้นี้น่ากลัวเพียงใด
"เคียว...แกคงไม่ได้ลืมอะไรไปใช่มั้ย" เขาถามพลันดีดก้นบุหรี่ทิ้งก่อนใช้ส้นรองเท้าขยี้
"...!"
"เฮ้อ\~ แกลืมแบบนี้ฉันก็แย่สิ"
"ผมไม่มีหรอกเฮีย ขอผลัดไปก่อนได้มั้ยครับ" เคียวประนมมือขอความเห็นใจด้วยตัวสั่นเทิ้ม
"หือ? แกใช้ความกล้าเยอะมั้ยก่อนจะพูดคำนี้ออกมา"
"ขอร้องเถอะครับ"
พลั่ก!
"โทษที ฉันคิดว่าแกขอส้นตีน" ลำแข้งแข็งเตะอัดเข้าที่ปลายคางอีกฝ่ายรุนแรงจนคนโดนล้มหงาย
"อั่ก!"
"ยอดหนี้แกน่ะ ต้นมันจะทบดอกแล้วนะเคียว ทางที่ดีแกรีบจ่ายฉันมาดีกว่า" เขาทรุดนั่งชันเข่าลง มือหนายื่นออกไปตรงหน้าเคียวพลางกระดิกนิ้วรอ
"ผมไม่มีจริงๆ นะเฮีย ตอนนี้ลูกผมก็กำลังจะเปิดเทอม เห็นใจผมเถอะ"
เจ้าของเงินคลี่ยิ้มบางก่อนจะฟาดฝ่ามือเข้ากับใบหน้าตอบนั้นเต็มแรง
"มึงไม่มีลูก! แล้วเงินที่กู้ไปมึงก็เอาไปเล่นพนันบอล"
"อะ...!" เคียวนิ่งงัน ตัวเขาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เขาน่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าผู้ชายคนนี้หูตาเป็นสัปปะรด
"โกหกกันแบบนี้ เท่ากับมึงดูถูกกูรู้มั้ยเคียว"
"อะ...ผะ...ผม ผมขอโทษ ขอเวลาผมหน่อยนะเฮีย แล้วผมจะรีบหามาให้" เคียวก้มหน้าจนหัวแทบติดพื้น
เจ้าหนี้ยืดตัวขึ้นยืนก่อนจะโยกหัวไปมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย
"แกบอกแบบนี้มากี่ครั้งแล้วนะ หนึ่ง...สอง...สาม..." เขายกยิ้มก่อนจะยื่นมือไปหาลูกน้องคนสนิท "จำได้แล้ว รอบนี้ครั้งที่สิบ"
ไม่ต้องรอให้เจ้านายเอ่ยอะไรต่อ ปืนกระบอกสีเงินแวววาวก็ถูกวางบนมือโดยลูกน้องเขาเรียบร้อย
"ครั้งหน้าผมจะคืนเฮียจริง ๆ ครับ"
"น่าเบื่อชิบ!"
กริ๊ก!
"เฮีย..." เคียวเอ่ยเสียงแผ่ว
"มึงรู้มั๊ยกูเกลียดคนแบบไหน? "
"..." เคียวส่ายหัวดิก
"กูเกลียดคนที่ไม่รู้จักดิ้นรน นี่ถ้ามึงเป็นคนขยันสักหน่อยมีเหรอกูจะไม่สงสารน่ะ" เขาถอนหายใจก่อนยื่นกระบอกปืนไปข้างหน้า "กูยกหนี้ให้"
"หะ?? " เคียวเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มโดยหารู้ไม่ว่านั่นคือกลลวง
เปรี้ยง!!!
คมกระสุนวิ่งทะลุกะโหลกของเคียวทันที ไม่ทันที่เขาจะได้สั่งเสียหรืออ้อนวอนอะไรต่อ ร่างผอมล้มหงายตามแรงกระสุน เลือดท่วมใบหน้าเคียวอย่างฉับพลัน ลมหายใจรวยรินหยุดลงในที่สุด
"ยกหนี้ให้แต่เอาชีวิตมึงแทน" เขาเอ่ยแล้วหมุนตัวกลับขึ้นรถที่ลูกน้องเปิดประตูรออยู่ "เก็บกวาดให้เรียบร้อย"
เขาเอ่ยคำสั่งทิ้งท้ายก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณให้คนสนิทออกรถ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาใช้คมกระสุนกระชากลมหายใจผู้อื่น และทุกครั้งเขาก็ไม่เคยรู้สึกผิด ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพชัด ๆ คนพวกนั้นก็เหมือนขายชีวิต และเขาก็เป็นผู้ซื้อชีวิตนั่นเอง
โลกนี้ไม่มีที่ยืนให้คนอ่อนแอ เขาตระหนักได้ตั้งแต่หนีออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ชีวิตของเขาต้องดิ้นรนจนแทบกระอักเลือด
หากไม่สู้ เราก็จะเป็นเพียงคนตัวเล็กที่ถูกสังคมนี้เอารัดเอาเปรียบและกดให้จมโคลนตมลงไปในที่สุด
เพราะคิดเช่นนี้จึงทำให้ปัจจุบันชื่อเขากลายเป็นที่รู้จักทั้งวงการใต้ดินและบนดิน หมายถึงธุรกิจถูกและผิดกฏหมาย ไม่ใช่หวย
เมื่อมีชื่อเสียงและเงินทอง ผู้คนต่างก็เข้าหาและต้องการทำความรู้จักเพื่อผลประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
ทำให้บางครั้งตัวเขาก็หลงระเริงในสิ่งจอมปลอมนี้ไปชั่วขณะ กว่าจะรู้ตัวว่าทุกอย่างไม่ใช่อย่างที่ตนเชื่อมั่นก็สายไปเสียแล้ว
ตอนนี้สิ่งสำคัญสำหรับเขาเหลือเพียง 'แกงค์แบล็คลิสต์' ที่เขาก่อตั้งมาเองกับมือ
ส่วนเรื่องความรักนั้น ตั้งแต่โดนคนที่หวังจะให้เป็นคนสุดท้ายของชีวิตกับเพื่อนที่รักที่สุดหักหลัง หัวใจเขาก็ไม่หวั่นไหวให้ใครอีกเลย
ในอีกมุมหนึ่งของคำคืนนี้ ยังมีหนึ่งชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ความสำเร็จ และสิ่งสำคัญคือทำเพื่อบุคคลอันเป็นที่รัก
"ป๋าดื่มอีกหน่อยนะคะ" มือเรียวหยิบแก้วที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เข้มข้นยื่นให้ตรงหน้าคนข้างตัว
"อื้อ เดี๋ยวป๋าก็ไม่มีแรงกันพอดีอะหนู" ชายวัยดึกหนวดเคราครึ้มกล่าวด้วยรอยยิ้มทั้งดวงตาปรือริบหรี่ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินออกมาวางให้บนเรียวขาเนียน
"หือ อะไรคะป๋า" วาจาแสร้งว่าซื่อเอ่ยถามด้วยดวงตาแป๋ว แต่มือกลับสั่นระริกอยากจะคว้าไว้เก็บเสียเดี๋ยวนั้น
"ป๋าให้ เอาไว้เป็นค่าขนม"
"ขอบคุณนะคะ" เขาไหว้แทบอกแล้วฉวยแก้วขึ้นมาป้อนอีกฝ่ายหนแล้วหนเล่า
เมื่อแขกพิเศษคอพับหมดสติ เขาก็วานให้พนักงานช่วยพาตัวขึ้นไปพักยังชั้นบนของสถานบันเทิง แล้วจึงพาตัวเองเลี่ยงเข้าในห้องแต่งตัวเพื่อจะตรงกลับหอพัก
"กริมม์ ลูกค้าเรียก" ขณะกำลังลงมือถอดวิก มือเรียวก็ชะงักพลันหันมาถอนหายใจฟึดฟัด
"ไม่ไปแล้วได้มั้ยพี่ กริมม์อยากกลับแล้ว"
"แต่คนนี้กระเป๋าหนักนะ"
"อีกห้านาทีครับ" วิกผมถูกจัดระเบียบใหม่ ก่อนเขาจะก้าวฉับ ๆ ตามพนักงานไป ระหว่างทางเขาก็สวนกับญาติผู้พี่
"ยังไม่กลับอีกเหรอ"
"ลูกค้าเรียกอะดิ อยากกลับจะตายแล้วเนี่ย" กริมม์บอกหน้ามุ่ย
"เอาน่า ยังไงเจอกันที่ห้องนะ"
"พี่ลีโอจะกลับห้องหรือไปไหนก่อน" คนถูกถามฉีกยิ้มก่อนจะล้วงปึกเงินขึ้นมาหอม
"ต่อทุนดิวะ วันนี้ติปหนัก"
"เพลา ๆ บ้างเหอะ ระวังจะเดือดร้อนเพราะการพนันเข้าสักวัน"
"รับทราบจ้าน้องรัก" ลีโอยื่นมือวางบนวิกหัวน้องชายก่อนขยี้เบา ๆ "เจอกัน"
"พี่พาไปหาหมอผีเอามั้ย" พนักงานคนเดิมถามกริมม์ระหว่างเดินไปส่งยังโต๊ะลูกค้า
"ไปทำไมอะพี่" กริมม์ถามด้วยคิ้วขมวด
"หมายถึงพาไอ้ลีโอไปน่ะ ผีพนันกินสมองหมดแล้วมั้ง"
"คงยากอะพี่ กริมม์ทั้งด่าทั้งห้ามก็ไม่เคยจะเข้าสมอง" เด็กหนุ่มส่ายหัวระอาก่อนจะเปลี่ยนเป็นฉีกยิ้มเมื่อยืนอยู่ต่อหน้าลูกค้าคนใหม่ "สวัสดีค่ะเสี่ย"
"อื้อ นั่งสิ" กริมม์นั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะชงเครื่องดื่มให้ ฝ่ามือสากคอยลูบไล้เนื้อตัวขาวหนุบหนับ สร้างความรำคาญให้เจ้าของร่างเหลือเกิน แต่จำต้องฝืนใจอดทน
อาชีพอย่างเขามันเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจออะไรแบบนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"นั่งนิ่ง ๆ สิคะเสี่ย" เขาปรามเบา ๆ แต่อีกฝ่ายแสร้งหูทวนลมก่อนซบหน้าลงกับซอกคอบาง
กริมม์นึกอยากจะลุกพรวดเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ทว่า ทั้งรายได้และชื่อเสียงร้านมันค้ำคอ
ใครว่างานแบบนี้มันสบายกัน วัน ๆ ต้องเจอผู้คนร้อยพ่อพันแม่ ถ้าวันไหนเจอลูกค้าดีก็คือกำไร แต่ถ้าซวยไปเจอลูกค้าที่คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าแทบอยากลาออกไปกินยาแก้ไมเกรน
"ไปต่อกับเสี่ยมั้ยหนู?"
"พรุ่งนี้หนูมีเรียนค่ะเสี่ย"
"เดี๋ยวเสี่ยไปส่งแต่เช้าเลย" ชายผู้นั้นยื่นปึกเงินไปตรงหน้ากริมม์หมายจะล่อให้ตกหลุมพราง
"ไปไม่ได้จริง ๆ ค่ะเสี่ย"
"ไม่อยากได้เงินเหรอ"
"ถ้าจะให้หนูแลกการเรียนกับเงินของเสี่ยหนูไม่เอาก็ได้ค่ะ" กริมม์คลี่ยิ้มบางอย่างมีจริต อีกฝ่ายเลิกคิ้วก่อนหัวเราะร่า
"โอเค ๆ เสี่ยยอมแพ้ ตั้งใจเรียนนะ" เขายื่นเงินปึกนั้นให้เด็กหนุ่มก่อนจะหอมตรงกระหม่อมเบา ๆ
กริมม์หอมปึกเงินชื่นอกชื่นใจ อยากให้พรุ่งนี้มาถึงไว ๆ จะได้รีบโอนเงินให้แม่ แค่นึกใบหน้าแม่ที่ยิ้มเมื่อเห็นจำนวนเงินโอนเข้าเด็กหนุ่มก็มีความสุขหนักหนา
'พี่ลีโอจะกลับยัง ผมรออยู่หน้าบ่อนเนี่ย' เสียงปลายสายแผดลั่นจนลีโอต้องเอาโทรศัพท์ออกห่าง
"เออๆ จะกลับแล้วเนี่ย มือไม่ขึ้นเลยห่า" เขาจิ๊ปากด้วยความหงุดหงิดก่อนจะวางสายไป นี่มันวันอะไรของลีโอกัน อุตส่าห์ได้เครดิตมาจากบ่อนนี่ตั้งห้าหมื่น แต่เพียงกระพริบตามันก็ละลายหายไป
"ทำไมมึงไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนวะกริมม์" ลีโอออกมานอกบ่อนก็เอ่ยถามพลางไล่สายตามองคนตรงหน้า "รู้ว่าแต่งแล้วสวย แต่ไม่ต้องขนาดนี้มั้ย"
"ก็ผมรีบนี่ และถึงไม่แต่งงี้ผมก็สวยมาก ๆ แล้วเหอะ" กริมม์ฉีกยิ้มก่อนออกเดินนำผู้พี่ไปรอโบกแท็กซี่
"ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนนักหนา?"
"พี่ไม่รู้เหรอ เวลาผมมารับพี่คนอื่น ๆ เขาชอบนินทากัน"
"นินทาอะไร?"
"ก็...คนนั้นโคตรสวย แต่แฟนหน้าอย่างกับแย้ อันนี้ผมยกตัวอย่างนะพี่"
"ไอ้เด็กห่า! เรื่องอะไรมาหลอกด่ากูเนี่ย" ลีโอสบถก่อนจะดีดหูญาติผู้น้องไปหนึ่งที
"เจ็บนะ" กริมม์กุมใบหูตัวเองหน้ามุ่ย "นอกจากเป็นผีพนันแล้วยังชอบรังแกคนอื่นอีก แบบนี้ไงถึงไม่มีแฟน"
"กูไม่หาเองต่างหากเว้ย พวกผู้หญิงมีแต่งี่เง่า อยู่กับคาสิโนสบายใจกว่า"
"แล้วคาสิโนก็พาหมดตัว เหอะ!" กริมม์ส่ายหัวระอา
สองวันต่อมา
หัวหน้าแกงค์แบล็คลิสต์ที่รอบข้างรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ในบางครั้งต่อให้เจอใครต่อใครมามากมายก็ยังประสบกับความเหงาได้เฉกเช่นคนทั่ว ๆ ไป
เขาจึงเลือกมาคลายความเหงายังร้านเหล้าที่ไม่มีคนรู้จักพลุกพล่าน ความเบื่อหน่ายที่ต้องปั้นหน้ายิ้มเมื่อมีคนเข้าหาทำให้เขาพาตัวเองมายังที่นี่
"บอสจะเอาเด็กนั่งเป็นเพื่อนมั้ยครับ? " มือขาวคนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นผู้เป็นนายเอาแต่นั่งถอนหายใจ
"เอามาก็ดี แต่เลือกหน้าตาหน่อยแล้วกัน แล้วแบบที่งี่เง่าๆ นี่ไม่ต้องเลยนะ ฉันเบื่อ"
"ทราบครับ" โทมิรับคำก่อนจะหันไปสั่งกับบริกร
ไม่นานนักเด็กที่สั่งไว้ก็มา และในที่นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเบอร์หนึ่งของร้านอย่าง 'กริมม์'
"สวัสดีค่ะพี่...?" กริมม์ยกมือไหว้ก่อนแสดงสีหน้าฉงน คน ๆ นี้ไม่ใช่ลูกค้าประจำ หน้าก็ไม่คุ้น
"ฉันชื่อแกสตัน" เขาเหลือบสายตาสบกับนัยน์ตาหวานก่อนเผยรอยยิ้ม "นั่งก่อนสิ" เมื่อเจ้าของโต๊ะอนุญาต ร่างสะโอดสะองก็ทรุดลงนั่งด้วยท่าทางนุ่มนวล
"หนูชื่อกริมม์นะคะ" เขาบอกก่อนเติมเหล้าให้ลูกค้าผู้มีใบหน้าหล่อสะอาดสะอ้าน ยิ่งได้พิจารณาในตัวผู้ชายคนนี้ยิ่งทำให้กริมม์ข้องใจ ทำไมคนแบบนี้ถึงเลือกจะมานั่งร้านระดับกลาง อันที่จริงอย่างเขาน่าจะไปร้านที่มันไฮโซกว่านี้ได้สบายมาก
"ถามจริงนะ เธอเป็นกระเทยเหรอ? " ความหล่อเต็มสิบ แต่ปากหมาทะลุร้อย แต่ถึงอย่างนั้นกริมม์ก็ยังฉีกยิ้มเอาอกเอาใจเขาต่อ
"คือหนูมีฮอร์โมนเพศชายเยอะน่ะค่ะ เลยดูเหมือนผู้ชายไปหน่อย" นี่คือคำแก้ตัวที่เขาใช้เป็นประจำ อย่างไรก็ตามจะให้แขกรู้เพศสภาพที่แท้จริงไม่ได้เด็ดขาด
"เข้าใจละๆ แต่ยังดีที่หน้าเธอหวาน มันพอหักล้างกันได้"
"ค่ะ กินเหล้าก่อนนะคะ" กริมม์ป้อนเหล้าแกสตันแก้วแล้วแก้วเล่า แต่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเมา กลับเป็นเขาที่รู้สึกเวียนหัวเพราะแสงไฟและกลิ่นเหล้าแทน
"เธอ...!" แกสตันเท้าคางพลันหันหน้ามาทางกริมม์ เด็กหนุ่มเลิกคิ้วก่อนขานตอบ
"คะ? "
"ฉันถูกใจเธอจริงๆ นะ ขึ้นห้องกับฉันมั้ย? เธออยากได้เท่าไหร่ฉันจะให้"
"หา!" พูดตรงเกินไปแล้วไอ้บ้าเอ๊ย! ตัวก็ไม่อยากเปลือง ส่วนเงินก็อยากได้ เอาไงดี
"ว่าไง ฉันความอดทนต่ำนะ รีบคิดสิ"
"หนูน่ะ โดนหลอกมาเยอะแล้วนะคะ ถ้าพี่พูดจริง ขอมัดจำก่อนได้ม้าา" ปลายนิ้วเรียวไล้ตามขอบเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมเผยให้เห็นแผงอก ริมฝีปากบางกระซิบแผ่วที่ใบหูอย่างออดอ้อน
แกร๊ก!
แกสตันกระตุกยิ้มก่อนจะควักปืนออกวางบนโต๊ะแทน
"...!" ดวงตาสวยเบิกกว้างพลันกลืนน้ำลายลงคอ 'เดี๋ยวนะ มันพกของแบบนี้ผ่านการ์ดร้านกูมาได้ไง้!!'
"ฉันไม่ยอมเสียเปรียบใครหรอกนะ และก็ไม่เอาเปรียบใครเหมือนกัน เธอเข้าใจใช่มั้ย"
"ค...ค่ะ" กริมม์ยิ้มแหย ไม่กล้าแม้แต่จะปาดเหงื่อที่แย่งกันผุดไหลตามไรผม เด็กหนุ่มคิดไม่ตกว่าจะเอาตัวรอดเช่นไรดี คนที่คอยเป็นไม้กันหมาอย่างลีโอก็ดันมาหยุดซะอีก
"เธอจะไม่ไปก็ได้นะ แต่ฉันบอกไว้ก่อนว่าไม่เคยมีใครที่ฉันเล็งแล้วจะรอดมือฉันไปได้ ถ้าเธอจะลองก็โอเค ฉันยินดี"
คำพูดเหมือนให้อิสระทางความคิดแต่จริง ๆ มันคือคำขู่ดี ๆ นี่เอง 'จะมายินดงยินดีอะไร กูไม่ยินดีกับมึงหรอกเฟ้ย กูยังมีแม่ต้องเลี้ยงดูนะ'
"งั้นอีกห้านาทีหนูขึ้นไปหาพี่นะคะ ขออนุญาตแต่งตัวก่อน" ว่าแล้วกริมม์ก็ลุกพรวด แต่ก็ไม่ไวไปกว่าแกสตัน เขาคว้าข้อมือบางไว้ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ที่ทำคนตัวเล็กขนลุกเกรียว
"จำไว้ อย่าคิดหนี..."
ฝ่ายกริมม์แม้จะกลัวคำขู่ของแกสตัน แต่ก็ไม่ทำให้เขากลัวไปมากกว่าความลับของเขาจะถูกเปิดโปง เพราะนอกจากพนักงานในร้านแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องเพศสภาพของเขาเลย
คิดได้อย่างนั้นเขาจึงรีบเก็บอุปกรณ์แต่งตัวใส่กระเป๋าเป้ จัดการแปลงโฉมกลับไปเป็นเด็กผู้ชายปอน ๆ คนเดิม แล้วเดินออกจากห้องแต่งตัวไปเงียบ ๆ 'บ๊ายบายนะครับคุณแกสตันสุดหล่อ'
แกสตันเดินวนไปมาภายในห้องพักชั้นบนของร้านนี้อยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ทำไมเด็กคนนั้นถึงยังไม่รีบขึ้นมา คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าปล่อยให้เขารอ
ความอดทนบอสหนุ่มไม่ได้สูงมาก เขาเปล่งเสียงเรียกมือขวาที่รออยู่หน้าห้องทันที
"โทมิ! "
"ครับ "
"ลงไปดูเด็กฉันที"
โทมิเดินลงไปหาตัวกริมม์ตามคำสั่ง แต่เขาก็พบว่า เด็กคนนั้นหนีกลับไปแล้ว 'ทำไมถึงได้คิดสั้นขนาดนี้นะ'
"เด็กข้างล่างบอกว่าเด็กที่ชื่อกริมม์กลับบ้านไปแล้วครับ"
"หึ! จะเอางี้ใช่มั้ยคนสวย ได้เลย!" แกสตันคว้าเสื้อเชิ้ตบนเตียงที่ถอดออกไปก่อนหน้านี้กลับมาสวมก่อนจะเดินออกจากห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"แกไปหาที่อยู่เด็กนั่นมาให้ได้ ฉันให้เวลาแกครึ่งชั่วโมง" เขาบอกก่อนพาตัวเองเข้าไปนั่งรอโทมิในรถเบนซ์คันหรู
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอย่างที่โทมิรับปาก เจ้าตัวก็วิ่งกระหืดหอบกลับมาพร้อมกับยื่นกระดาษที่เขียนที่อยู่กริมม์มาให้
"หือ?" ทันทีที่บอสหนุ่มเห็นรายละเอียดที่อยู่ของกริมม์ เขาก็แสยะยิ้ม "เธอหนีฉันไม่รอดหรอกน่า คนสวย"
ทันทีที่กริมม์ไขกุญแจห้อง เขาก็ถอนหายใจก่อนจะบ่นผู้เป็นพี่
"นอกจากติดพนันก็ติดเหล้าอีกเหรอพี่" เด็กหนุ่มเหวี่ยงเป้ลงบนโต๊ะกินข้าวห้องครัวก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ลีโอ
"ไม่ได้ติดเว้ย แค่เครียดนิดหน่อย" ลีโอถูฝ่ามือกับขมับถี่ ๆ
"เครียดอะไร? ปรึกษาน้องได้นะ"
"พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอก เดี๋ยวด่ากูซ้ำอีก"
"เอ้า! เห็นผมเป็นคนแบบไหนเนี่ย" กริมม์หน้ามุ่ย
"แล้วทำไมวันนี้มึงกลับเร็วจัง เพิ่งตีหนึ่งเอง"
"วันนี้มีลูกค้าชวนไปนอนอ่ะดิ มอมเหล้าก็แล้วมันยังไม่หลับ ก็เลยหนีออกมาเนี่ย"
"แล้วเฮียไม่ว่าเอาเหรอวะ"
"ผมบอกเฮียว่าพรุ่งนี้ผมมีสอบเช้า เฮียก็ไม่ว่าอะไร"
"อ๋อ...เออ งั้นมึงก็ไปนอนก่อนเหอะ เดี๋ยวกินเหล้าหมดนี่แล้วกูค่อยไปนอน"
"ครับ" กริมม์พยักหน้ารับก่อนเดินเข้าห้องตัวเองไป จัดแจงเก็บเงินที่ได้จากการทำงานไว้ในกล่องเหล็ก เพื่อไว้โอนให้แม่พรุ่งนี้เช้า
จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้านุ่งผ้าขนหนูออกมาอาบน้ำก่อนจะหันไปเห็นลีโอที่ฟุบหลับบนโต๊ะห้องนั่งเล่น
กระทั่งเด็กหนุ่มอาบน้ำเสร็จพี่ชายก็ยังไม่ตื่น เขาจิ๊ปากก่อนจะเข้าไปลากร่างอีกฝ่ายให้ไปนอนในห้องตัวเอง
กริมม์นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ญาติผู้พี่เผื่อจะช่วยให้สร่างเมาเร็วขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งปรกที่เขาต้องมาดูแลลีโอเช่นนี้ แม้ได้ชื่อว่าเป็นลูกผู้พี่แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยทำตัวสมอายุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
Trrr
กริมม์เหลือบดูหน้าจอโทรศัพท์ของลีโอก่อนขมวดคิ้ว ดึกดื่นป่านนี้ใครโทรมากัน
เด็กหนุ่มปล่อยให้โทรศัพท์มันแผดเสียงอยู่อย่างนั้นเพราะเป็นเบอร์ไม่คุ้น ก่อนเขาจะกลับเข้าห้องตัวเองไป
รุ่งเช้า
กริมม์แต่งตัวเสร็จก็เดินเข้าห้องลีโอเพื่อปลุกเขาให้ตื่นไปเรียน
"พี่ลีโอ!! สายแล้วตื่นเถอะ " เด็กหนุ่มตะเบ็งเสียงจนแสบคอ ผลที่ได้คือ..
"งืมๆ คร่อกZzz"
"พี่ลีโอโว้ย!! ไม่ตื่นผมจะไปแล้วนะ! "
"เออๆ ไปเหอะ เดี๋ยวกูตามไป คร่อกZzz"
"ไม่รอแม่งละ" กริมม์ถอนหายใจไม่สบอารมณ์ก่อนจะพาตัวเองไปเรียน ยังไงซะเรื่องของลีโอก็เป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องรับผิดชอบเอง ตัวเขาทั้งต้องทำงาน ทั้งเรียน แล้วจะต้องให้มาเคี่ยวเข็ญผู้เป็นพี่อีกมันก็ไม่ใช่เรื่อง
บ้านแกสตัน
"บอสครับ ลีโอมันไม่ใช่เจ้าของร้านเหล้าครับ มันเป็นแค่เด็กเสริ์ฟ" โทมิรายงานข่าวที่เขาได้รู้มาให้แก่บอส
"งั้นเหรอ?" แกสตันคลี่ยิ้มบาง "ก่อนจะให้เครดิตมันแกไม่ได้เช็คให้ดีเหรอ?"
"ความผิดผมเองครับ"
"ไม่หรอก ฉันว่า ฉันต้องให้รางวัลแกด้วยซ้ำ" โทมิก้มหน้าเตรียมรับการลงโทษจากผู้เป็นนาย แต่พลันเขาก็ขมวดคิ้วฉงน
"บอสหมายความว่าไงครับ"
"ตอนนี้ไอ้ลีโอยังไม่ติดต่อคืนเงินใช่มั้ย? "
"ครับ ผมให้ไอ้แซมโทรหาตั้งแต่เมื่อวาน จนวันนี้มันยังไม่รับสายเลยครับ"
ลีโอตื่นขึ้นมาในช่วงสาย เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ต้องตกใจ มีเบอร์แปลกโทรเข้าเป็นพันมิสคอล ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นไอ้บ่อนนั่นแน่ นี่แหละสาเหตุที่ทำให้เขาเครียดจนต้องพึ่งเหล้า
"จะเอาเงินจากไหนไปให้มันวะเนี่ย" เจ้าตัวเดินวนไปมาภายในห้องด้วยคิดไม่ตก ครั้นจะขอพึ่งแม่ตัวเองก็ดูไร้ประโยชน์ แม่เขาไม่มีเงินขนาดนั้น กริมม์ก็...ใช่สิ กริมม์มี
เขาลุกพรวดวิ่งไปหาน้องอีกห้องนึงทันที แต่เวลานี้คือเวลาเรียนของกริมม์ ลีโอไม่มีหนทาง เขาเลือกจะใช้วิชาโจรค้นข้าวของในห้อง ดูว่าน้องซ่อนเงินไว้ที่ไหน
ลีโอนั่งถอนใจหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะเหลือบเห็นลิ้นชักข้างเตียง เจ้าตัวคลานพรวดไปลองเปิดดูก็พบว่ามันล็อค
"เปิดไม่ได้ก็งัดสิวะ" ลีโองัดอยู่พักใหญ่จนล็อคลิ้นชักหลุด เขาก็พบกับกล่องเหล็กเก่าๆ ในนั้นมีเงินอยู่เกือบๆ ห้าพัน ยังไงก็ไม่พอใช้หนี้หรอก แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาหนีไปได้ไกลพอสมควร
ว่าแล้วลีโอก็เก็บข้าวของจำเป็นใส่กระเป๋าแล้วออกไปจากห้องทันที ทิ้งมือถือกับรูปถ่ายไว้ให้น้องชายดูต่างหน้า
ตอนเย็น
กริมม์กลับมาถึงห้องก็แทบเป็นลม สภาพห้องเขาเหมือนโดนพายุไต้ฝุ่นถล่ม ทั้งเสื้อผ้าและข้าวของกระจัดกระจายไปหมด
'เงิน'
คิดได้ดังนั้นเขาก็วิ่งพรวดไปไปดูลิ้นชัก เด็กหนุ่มเข่าอ่อนยวบ เหลือเพียงกล่องเหล็กที่ว่างเปล่า
เขาลุกขึ้นเดินไปดูห้องลีโอทันที มีโจรเข้ามางัดห้องขนาดนี้ พี่ของเขามัวทำอะไรอยู่
แต่ทว่า กริมม์ไม่ใช่คนโง่ที่จะเดาความเป็นไปไม่ออก ภายในห้องลีโอข้าวของทุกอย่างปกติดี แต่สิ่งของจำเป็นอย่างเสื้อผ้าหายไปหมด พี่ชายเขานั่นเองที่รับบทเป็นโจร
'ขอโทษนะน้องชาย แต่กริมม์คงไม่อยากให้พี่ตายหรอกใช่มั้ย'
กริมม์คว้าโพสต์อิทหน้าตู้เย็นมาขยำทิ้งก่อนจะกระทืบลงไปซ้ำ ๆ ให้หายแค้น
"ตายได้ตายไปเลย ไอ้พี่เวร!"
Grimp
แม้จะเจ็บใจที่โดนพี่ลีโอหักหลัง แต่ชีวิตยังต้องดำเนินต่อ มัวแต่คิดเรื่องไอ้คนโฉดชั่วนั่นก็ไม่ได้ทำให้ผมมีเงินเพิ่ม
ผมใช้ทักษะหลอกล่อเงินจากกระเป๋าลูกค้าจนได้เวลาร้านปิด ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากร้านไปรอโบกรถแท็กซี่
ระหว่างรอแท็กซี่ผ่านมาผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา แต่ไม่ทันจะปลดล็อคหน้าจอผมก็เจอบางสิ่งที่น่ากลัว
"เชี่ย!" ผมอุทานลั่นพลันเอาโทรศัพท์ออกห่างตัว "มีผีผู้หญิงตามกูเหรอวะ มาจากไหนวะอีเชี่ย!"
มือที่กำโทรศัพท์สั่นระริก ผมรวบรวมความกล้าอยู่นานก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกหน แล้วค่อย ๆ หรี่ตาดู เมื่อเห็นสิ่งนั้นชัด ๆ ผมก็เบิกตาโพลง
"เชี่ยเอ๊ย! กูนี่เอง ถึงว่าผีห่าอะไรสวยขนาดนี้" ผมถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงด้วยความหงุดหงิด เพราะความเคยชินที่เลิกงานแล้วต้องรีบไปรอพี่ลีโอทำให้ผมออกมาโดยไม่เช็ดหน้า
"แต่ก็ดีนะ เผื่อพี่แท็กซี่เขาเห็นว่าสวยแล้วลดค่าโดยสารให้" ผมหัวเราะไหล่กระตุก ก่อนจะหันไปเห็นกระป๋องน้ำอัดลมที่กลิ้งอยู่บนพื้น
ฟิ้ว\~
ผมใช้มันเป็นเครื่องมือระบายความหงุดหงิดจากพี่ลีโอ แต่ไม่รู้ด้วยเคราะห์ซ้ำหรือกรรมซัด กระป๋องน้ำอัดลมลอยละลิ่วไปกระทบกับรถเบนซ์ที่ขับเอื่อย ๆ กันเป็นขบวน
ไอ้เวร! รถญี่ปุ่นวิ่งเต็มถนนเสือกไม่กระเด็นไปโดนวะ
"ชิบหาย!" ผมอุทานเสียงหลงพลันหันซ้ายหันขวามองหาที่หลบ แต่ทว่า ไม่ทันที่ผมจะเจอทางหนีทีไล่ ชายชุดดำห้าคนก็ลงมาจากรถนำขบวนตรงแน่วมา
"เอ่อ...ขอโทษค่ะพี่ หนู...ไม่ตั้งใจ" ผมแอ็บเสียงแหลมปรี๊ด ก่อนจะพนมมือไหว้ย่อ แต่ชายเหล่านั่นไม่พูดจากลับพุ่งมือมาคว้าตัวผม ไม่ต้องรอให้จับได้
"วิ่งสิวะ!" ผมสาวเท้าออกวิ่งรวดเร็วแต่เพียงสามก้าว ร่างผมก็ชะงักก่อนจะถูกลากไปโยนใส่รถเบนซ์ที่จอดอยู่ท้ายสุด
"โอ้ย!" เชี่ยเอ้ย อย่ารุนแรงกับอิสตรีได้มั้ยเล่า
"เจ็บมั้ย? "
"เจ็บสิวะ ถามได้" ผมหันไปตวาดก่อนชะงัก แม่งเอ้ย! กระโดดลงไปนอนกลางถนนให้รถชนตายเลยดีมั้ย
"เมื่อคืนเธอชิ่งฉันนะ จำได้มั้ย? " เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ แต่ผมกลับไม่รู้สึกชวนเคลิบเคลิ้ม มันเหมือนรอยยิ้มตัวร้ายในหนังฆาตกรมากกว่า
"เอ่อ.. น..หนูขอโทษ เมื่อคืนหนูต้องรีบกลับบ้านอะพี่ พอดีแม่หนูป่วย.." กริมม์ขอโทษนะแม่
"แม่ป่วย" แกสตันเลิกคิ้วหัวเราะหึ "อย่าแช่งแม่ตัวเองงี้สิ มันบาปนะ" หน้าอย่างเอ็งรู้จักบาปบุญด้วยเหรอ ทั้งชีวิตนี้เคยเข้าวัดรึเปล่าเหอะ
"เอ่อ..หนูขอโทษที่ชิ่งพี่นะคะ แต่พี่ยังไม่ได้ให้เงินหนูมา งั้นเอาเป็นว่าหายกันเนอะ" ผมหว่านล้อมด้วยน้ำเสียงระรื่นหู เมื่ออีกฝ่ายเผลอ กูชิ่งก่อนล่ะเว้ย!
ผมหันกลับไปเปิดประตูรถเตรียมหนี แต่จังหวะที่เปิดประตูสายตาก็ไปปะทะกับปืนที่เหน็บเอวลูกน้องแกสตันอยู่พอดี นั่งสงบ ๆ ดีกว่านะกริมม์
"ก็ได้ เรื่องนั้นถือว่าหายกัน ฉันยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องคุยกับเธอ" แกสตันควักรูปใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจะยื่นให้ผมดู
"...!" คุ้นมาก ๆ คุ้นเหมือนไอ้พี่ลีโอเวรนั่นเลย มึงหาเรื่องเดือดร้อนอะไรมาให้กูอี๊ก!!
"เธอรู้จักเขาใช่มั้ย? "
"เอ่อ..ไม่" ผมตัดพี่ตัดน้องกับมันไปแล้วครับพี่
"อย่าโกหก เพราะฉันไม่ใช่คนใจดี.."
"รู้..รู้จักค่ะ" พลิกลิ้นอย่างไวเลยกู
"แล้วเธอพอจะรู้มั้ยว่ามันอยู่ไหน"
"หนูไม่รู้หรอกค่ะ มันเพิ่งขโมยเงินหนูไป มือถือก็ไม่เอาไป หนูติดต่อมันไม่ได้เหมือนกัน...ค่ะ" ผมบอกตาปริบ ๆ
"เหรอ.." แกสตันเลิกคิ้วเหมือนใช้ความคิดก่อนจะสั่งคนขับรถ"ออกรถ! "
"หา! อ้าว แล้ว..แล้วหนูล่ะ? " แล้วกูล่ะ มึงจะพากูไปหนายยยยย
"เธอก็ต้องไปกับฉันไง"
"ไปทำไม! " ไม่ได้อยากไป ผมอยากกลับบ้าน!
"ในเมื่อเธอโกหกฉันเพื่อให้มันปลอดภัย เธอก็ชดใช้หนี้แทนมันซะ!"
"ไอ้ลีโอมันไม่ใช่แฟนกู๊! " ผมตะโกนลั่นรถ พยายามสร้างความรำคาญให้อีกฝ่ายมากที่สุด
"หุบปาก! นั่งไปเงียบๆ ก่อนที่ฉันจะตัดลิ้นเธอ!! "
หงับ! ปิดปากอัตโนมัติ
แกสตันกระชากผมลงจากรถเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งใหญ่มากๆ มีผู้ชายใส่ชุดดำยืนอยู่เต็มไปหมด ยังกับแกงค์มาเฟียแน่ะ
แล้วไอ้บ้าแกสตันพาผมมาทำอะไรที่นี่ จับผมมาหั่นชิ้นส่วนขายเหรอ อย่านะเฮ้ย ถ้าจะขายก็ขายกูไปยกเซ็ทนี่แหละ มัวแยกชิ้นเสียเวลา
"จำไว้ว่าที่นี่เป็นรังของฉัน ถ้าขืนเธอทำอะไรไม่ถูกใจฉันล่ะก็ แม้แต่ชื่อเธอก็จะไม่ปรากฏในกรมทะเบียนราษฎร์ จำไว้!" พ่อมึงเป็นนายอำเภอรึไง มีสิทธิ์ไรมาลบชื่อชาวบ้านเขา
ผมปิดปากเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายลากไปตามอำเภอใจ แต่ดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำตา นี่มันเรื่องอะไรกันวะ มันเป็นความซวยอะไรของกู แง้!!
แกสตันเหวี่ยงผมลงบนเตียงในห้องห้องหนึ่ง เขาถอดเสื้อตัวเองออกก่อนจะคร่อมผมและตรึงแขนไว้ นี่มันไม่ใช่แล้ว
"เดี๋ยวก่อน! พี่จะทำอะไร! " ผมโวยวายทันที มึงคิดจะทำอะไรกูไอ้เวรแกสตัน!
"หึ! " อย่าหัวเราะแบบนี้กูกลัว "ผู้ชายคร่อมผู้หญิงแบบนี้ เธอคิดว่าจะทำอะไรล่ะ"
"แต่...เฮ้ย!" กำลังจะบอกออกไปว่าผมก็ตัวผู้เหมือนมัน แต่อีกฝ่ายไม่รู้ไปหงี่มาจากไหน เขาแสยะยิ้มก่อนซุกไซร้ต้นคอผมอย่างหื่นกระหายพลันกระชากเสื้อผมออก
"เห้ย! ผะ..ผะ..ผู้ชาย! " แกสตันผงะก่อนถอนร่นออกห่างตัวผมรวดเร็ว
"..." กูเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ตัวเหี้ยมาไล่กัดหำมึง
"มึง... มึง... ไอ้ลีโอส่งมึงมาใช่มั้ย แล้วมึงเป็นใคร แล้วกริมม์แฟนมันล่ะ"
"ทีละคำถามได้มั้ย พี่ลีโอไม่ได้ส่งผมมา ผมชื่อกริมม์ กริมม์ไม่ใช่แฟนพี่ลีโอ ชัดนะครับ " ผมว่าแล้วรอดูท่าทีของแกสตัน อีกฝ่ายยังคงช็อคไม่หาย
"กูไม่เชื่อ! มึงอยู่กับมันตลอดเวลา แบบนี้มึงจะไม่ใช่แฟนมันได้ไง " แล้วตอนที่มึงอยู่กับพ่อแม่มึงตลอดเวลา มึงเป็นแฟนกับพวกเขามั้ยเล่า
"ผมไม่รู้ว่าระหว่างคุณกับพี่ลีโอมีหนี้อะไรกัน แต่บอกไว้ก่อนมันไม่เกี่ยวกับผม" ผมว่าแล้วลุกจากเตียงเดินมุ่งไปยังประตู ไม่ให้กลับกูก็จะกลับละ
เปรี้ยง!!!
ไอ้แกสตัน! มันยิงประตูทะลุเลย เฉี่ยวหูกูไปนิดเดียวเอ๊งงง ไอ้เวร!
แกสตันเดินเข้ามาหาผมช้าๆ ก่อนจะเอามือมาบีบแก้มผมอย่างแรง เขาจ้องนัยน์ตาผมดุดันก่อนแสยะยิ้ม
"มีบางสิ่งที่มึงควรรู้ สำหรับกูเงินคือทุกอย่าง แล้วที่นี่...ถ้ากูไม่อนุญาติ ใครก็ห้ามออกไป!"
นี่มันเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยวนะเว้ย T^T
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!