ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น ณ ดาวเคราะห์ที่มีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา..ที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุด
ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนถูกสร้างจากจักรกลมีร่างกายอันใหญ่โตใสสว่างเป็นแก้วคริสตัล ห่อหุ้มร่างกายด้วยเกราะเหล็กกล้าเฮราติที่แข็งที่สุดในอวกาศ
ทุกๆ สิ่งมีชีวิตในจักรวาลต่างเรียกเผ่าพันธุ์นี้ว่า อัลตัลตาต้า เผ่าพันธุ์ที่ล่าดวงดาวมาเป็นอาณานิคมเพื่อดูดกลืนทรัพยากรและสิ่งมีชีวิตจากดวงดาวต่างๆ
เผ่าพันธุ์อันทรงพลังที่ปกครองดวงดาวนับพัน วันเวลาผ่านไปแสนนานต่างมีดวงดาวถูกดูดกลืนมากยิ่งขึ้น ด้วยความโหดร้ายและไร้เหตุผลของเผ่าพันธ์อัลตัลตาต้า ที่มองแทบสุดสิ่งมีชีวิตจากต่างเผ่าพันธุ์อื่นเป็นเพียงแค่อาหารและทาศว่าตํ่าชั้น
จนในที่สุดก็ก่อเกิดสงครามกบฏขึ้น...ระหว่างเผ่าพันธุ์ ศึกนี้คืนศึกตัดสินชีวิตความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ หลายล้านชีวิตจากดวงดาวต่างๆ ได้ร่วมจัดตั้งกลุ่มกบฏขึ้นเป็นพันธมิตรเพื่อสู้ศึกเเลกชีวิตชี้เป็นตายในครั้งนี้หวังเพื่อชัยชนะอันสิ้นหวังจำเป็นต้องเข้าไปทำลายเเกนพลังงานของดาว อัลตัลตาต้า ที่เป็นแหล่งพลังงานหลักที่เป็นหัวใจหล่อเลี้ยงพวกมันในการรบครั้งนี้ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นตั๋วเที่ยวเดียวไม่มีกลับแต่ก็หาได้มีความกลัวไม่เพื่ออนาคตเพื่อครอบครัว เพื่อคนอันเป็นที่รักและดวงดาวบ้านเกิด..
กลุ่มกบฏและกองยานพันธมิตรต่างได้เข้าประชิดแลกปืนใหญ่และคมดาบ กองยานอวกาศของ อัลตัลตาต้า นั้นทรงพลังเป็นสุดยอดแห่งอวกาศแต่ไม่ได้มีเพียงแค่กองยานแต่ยังมีเหล่าสัตว์ประหลาดอวกาศขนาดยักษ์ที่วิวัฒนาการถึงขีดสุดนับไม่ถ้วน เป็นศึกอันสิ้นหวังแทบจะกลายเป็นฆ่าล้านเผ่าพันธุ์หลายชีวิตต่างสูญเสียเลือดทุกหยดต่างไหลริน
.
.
หนึ่งในเขตการรบบน ดวงจันทร์สีชาญบริวารของดาวอาตัลตาต้า ณ ยานอวกาศขนาดยักษ์3000เมตรขอกลุ่มกบฏ
"กัปตันกองกำลังของพวกเหลือเราไม่ถึง20%แล้วครับ!!"
"ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแม้แต่น่านฟ้าคริสตัลเราก็ไปไม่ถึงแน่ครับ.."
"โธ่เว้ย!!พวกข้าต้องมาตายกันแบบนี้หรืออย่างไร แบบนี้สิ่งที่พวกเราทำกันมาก็ไร้ประโยชน์นะสิ!!"
"แม่งเฮ้ย.. ขอแค่ไม่มีไอ้พวกตัวแบบนั้นออกมาทุกอย่างก็ต้องไปได้สวยแล้วแท้ๆ"
เหล่าลูกเรือต่างตะโกนด่าทอด้วยความเจ็บแค้นแต่มีเพียงกัปตันยานในชุดคลุมสีดำที่ยังสงบเยือกเย็นลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ
"เดินหน้าต่อไปซะ..ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็ไม่เหลือสิ่งที่เรีบกว่าบ้านให้กลับไปอยู่แล้ว... "
"ท่านกัปตัน...."
"พวกแกก็รู้ดีอยู่แล้วถึงมากันนี่หว่า.."
"แต่ว่า...."
"เหอะ!ช่างน่าเบื่อเสียจริง เฮ้ยผู้ช่วยไปเอาเหล้ามาให้ข้าหน่อย!!"
"ท่านกัปตันตอนนี้ยังอยู่ในการรบนะครับ"
"ใครมันจะสนกันวะ! ยังไงก็ไม่รู้จะรอดไหมอยู่แล้ว ถ้าข้าจะต้องตายยังไงก็ให้ได้กระดกสุราเลิศรสอันโปรดปรานของข้าหน่อยละกัน ฮาฮ่าฮ่า!"
เมื่อเหล่าลูกเรือได้ยินกลับมีสีหน้าที่ดูผ่อนคลายลงแล้วแสยะยิ้มขึ้น
"งั้นข้าก็ขอด้วยสิท่านกัปตัน"
"ข้าด้วย!"
"ข้าก็ด้วย"
"หึ..ดีไอ้พวกบ้างั้นเรามาฉลองพร้อมกับศึกนี้แด่เหล่าดวงดาราที่ดับสูญแล้วอวยพรให้เหล่าผู้กล้ากันเถอะ!"
"ครับ!"
"ดีเดินหน้าได้ไอ้พวกบ้าทั้งหลาย! เราจะส่งเหล่าผู้กล้าพร้อมกับลากพวกมันมาดับสูญด้วยกันเถอะ"
"ครับท่านกัปตัน!!!!"
เหล่าลูกเรือกลับไปมองที่หน้าจอ เหล่ายานอวกาศเคลื่อนหันปากกระบอกปืนใหญ่เคลื่อนไหวมุ่งตรงไปยังบางอย่างที่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดสูงหลายพันเมตรที่มีดวงตากลมโตสิบสองดวงผิวหนังเป็นคริสตัลสีทองแดงมีชุดเกราะปกคลุมทั่วทั้งร่างมีแขนหกข้างและยังมีปืนใหญตามตัวนับไม่ถ้วน
พร้อมด้วยเหล่าบริวารแมลงคริสตัลหลายล้านตัว
" ปืนใหญ่พลังงาน ยิงได้!!!"
ลำแสงจากปืนใหญ่หลายกระบอกเข้าปะทะกันกับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์จนเกินระเบิดที่รุนแรน
"ยิงอัดต่อไปอย่างหยุด!!"
"กะ! กัปตัน ตรวจจับสัญญาณคลื่นพลังงานคอสมิคได้ครับ! มันกำลังจะยิงระเบิดทำลายล้างครับ!!"
"หักหลบแล้วให้วาร์ปออกไปทางซ้ายอีก20 กิโลเมตรเดี๋ยวนี้!!"
แม้จะสาดอาวุธเข้าเท่าใดแต่ทว่าไม่อาจสร้างรอยแผลให้มันได้ หัวยานรบหักเลี้ยวซ้ายพร้อมกับเดินเครื่องไอพ้นด้านหลังอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะพุ่งหายไปจากบริเวณนั้นในเวลาไม่กี่วินาที
ในจุดเดียวกันกับที่ยานอวกาศเคยอยู่เกิดการระเบิดของคลื่นพลังอันมหาศาลจนทำลายยานลบที่หลบหนีไม่ทันในรัศมี10 กิโลเมตรกลายเป็นเศษซากทันที
"ยานอาจินแล้วก็เวอร์นั่วกับอูยู พร้อมกับหุ่นรบของพันธมิตรอีกจำนวนมากถูกทำลายครับ"!
"ชิ!เปลี่ยนร่างเตรียมตัวสู้ประชิด เราต้องหยุดการเคลื่อนไหวของมันให้ยานพันธมิตรของเรามีเวลาตั้งตัว"
รับทราบเริ่มเปลี่ยนโหมดต่อสู้ประชิดหลังจากจุดวาร์ป ทุกหน่วยเตรียมพร้อม เริ่มนับถอยหลัง 5..4..3..2.....
ยานอวกาศที่วาร์ปหลบมาอยู่ใกล้กับมันเปลี่ยนร่างเป็น หุ่นยนต์รูปร่างมนุษย์เข้าชนพร้อมอัดหมัดลำแสงหมุนควงสว่าน
"เอาไปชิมให้อร่อยซะไอ้เวรตะไล!! แมกซิมัมนัคเคิล!!
กำปั้นเหล็กพุ่งเข้าใส่ปะทะกับร่างของมันอย่างรุนแรงจนเจ้ายักษ์คริสตัลเซไปเลยทีเดียว
"หึ...แม้ข้าจะจบชีวิตที่นี่ แต่ข้าจะส่งพวกท่านไปให้ได้..ท่านผู้กล้าแห่งดวงดารา''
กัปตันขยับหมวกจ้องมองศัตรูของเขาพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างพอใจ
เวลาผ่านไปหลังจากการเสียสละของพรรคพวกในที่สุดผู้กล้าที่รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายก็ได้มาถึงเมืองปราสาทชั้นใน
ในสถานที่เป็นเหมือนพระราชวังที่ถูกสร้างด้วยแก้วสีเขียวมรกตส่องแสงสว่างเสมือนแก้วคริสตัลอันใหญ่โตมโหฬาร
ที่ถูกล้อมรอบด้วยบาเรียแก้ว7ชั้น โดยที่บริเวณโดยรอบต่างมีเพลิงลุกไหม้และเสียหายจากการสู้รบ ของพันธมิตรกลุ่มกบฏ
ในชั้นหนึ่งของบาเรียแก้ว
“อ๊าก!ไอ้บ้าเอ้ยยยไอ้พวกจักรกลเฮงซวยเละไปซะ!!”
ปัง! ปัง! ปัง!! ๆ
ตู้ม!! ตู้ม!!
เสียงของปืนเเละระเบิดดังไม่หยุดอย่างต่อเนื่องภาพของเหล่าทหารกล้าในชุดสีเทาที่ไล่ยิงจักรกลรูปร่างเหมือนแมลงชนิดต่างๆ แต่ขนาดใหญ่กว่าหลายเมตรถึงหลายสิบเมตร
“ท่านหัวหน้าพวกมันมาไม่หมดไม่หยุดซะที!!”
“… คาคุ พวกเจ้าอดทนอีกนิดนะทีมสามกำลังดึงความสนใจ คาทูบาดาคลู อยู่..”
เขาจ้องมองไปเขตการรบที่กำลังลุกไหม้ด้วยเพลิงสีเขียวมรกต จากฝีมือของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์มีร่างกายสีทองส่องประกายดูอันศักดิ์สิทธิ์ ลำตัวมีใบหน้าของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ถึง17ใบหน้ารอบตัวดวงตาบนใบหน้าต่างขยับไปมาเพื่อตรวจแขนของทั้งสองข้างมี หนวดปลาหมึกขยับไปมาเสมือนสิ่งมีชีวิต กำลังลอยอยู่บนเศษซากของหุ่นรบและศพของกลุ่มพันธมิตรนับแสนชีวิต ส่งเสียงดังกรีดร้องอันน่าสยดสยอง
เสียงกรีดร้องของมันทำให้กองกำลังพันธมิตรที่พยายามเข้าใกล้ต่างคุ้มคลั่งเปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อแทบจะในทันทีและการโจมตีด้วยคลื่นพลังของมันก็ไม่สนสถานที่หรือกับบรรดาพรรคพวกของมันเลยแม้แต่นิดเดียว
หากไม่มีหน่วยหุ่นรบหรือผู้ที่มีพลังงานอันแข็งแกร่งก็มิอาจเข้าถึงตัวของมันได้เลย
"ท่านหัวหน้าและพวกท่านผู้กล้ารีบเข้าไปเถอะตรงนี้ปล่อยให้พวกข้ากับหน่วยพิทักษ์เถอะ.."
"งั้นรึเจ้าตัดสินใจแล้วสินะ..ฝากด้วยล่ะ"
กลุ่มกองกำลังผู้กล้าต่างใช้พรรคพวกที่เสียสละและซากศพเป็นเกราะกำบังตีฝ่าวงล้อมเข้าไปให้ถึงส่วนกลาง แต่ทว่าในเขตสุดท้ายมีสิ่งที่อันตรายปกป้องเอาไว้อยู่
ตู้ม!!
อยู่ๆ ก็เกิดการระเบิดที่รุนแรงในทิศทางที่มีการระเบิดปรากฏร่างของอัศวินยักษ์แก้วคริสตัลชุดเกราะเหล็กสีขาวร่างสูงใหญ่ดวงตาสีแดงส่องสว่างในกลางอกส่องแสงสีเขียวมรกต ที่ในมือถือชุดเกราะรูปมนุษย์ที่ร่างแน่นิ่งก่อนจะโยนลงพื้นและเหยียบยํ่าไม่ต่างจากเศษขยะ
“นั้นมัน!? เอสคาเตอร์ผู้นำของตัลตาต้า!!”
“ไอ้ตัวน่ารังเกียจนั้น!! ออกมาถึงนี่เองเลยเรอะ”
“ไอ้พวกชั้นตํ่ากล้าเข้ามาทำให้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์์ต้องแปลกเปื้อน!”
อัศวินเหล็กยักษ์ตาสีแดงพูดด้วยนํ้าอันโกรธเกรี้ยวพร้อมปลดปล่อยแรงกดดันจนแทบทุกอย่างลุกไหม้
“รีบไปเถอะครับพวกเราต้านไว้ให้เอง!!”
กลุ่มกบฎแม้พวกพูดกับหัวหน้าทีมของเขาด้วยใบหน้าอันแน่วแน่พวกเขารู้แม้พวกเขาจะเป็นสุดยอดฝีมือและได้รับพลังพิเศษอันแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจเป็นคู่มือต่อพลังอันไร้เหตุผลของเอสคาเตอร์ได้
"อืม..ได้..."
เมื่อได้ยินดังนั้นเขาหลับตาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์รีบตรงไปที่เตาพลังงานทันที
ในตอนที่เขากำลังจัดการเครื่องควบคุมของเตาพลังงานอยู่ในตอนนั้น..มีบางสิ่งเเทงทะลุท้องของเขาจากด้างหลังเลือดได้สาดกระจาดออกจากแผล
"??! ... อัก! ..."
เขากระอักเลือดออกมาเมื่อเขาหันมองไปก็เห็นร่างอัศวินเหล็กสีขาวดวงตาสรแดงเหลือบมองอย่างดูถูกมันคือ เอสคาเตอร์ ผู้นำของดาวจักรกล..
“ไอ้พวกชั้นตํ่า แค่เศษสวะอย่างพวกแกจะทำอะไรได้ ที่ผ่านมาข้าแค่ปล่อยให้พวกแกเข้ามาข้าแค่อยากรู้ข้าไอ้พวกสิ่งมีชีวิตกระจ้อยร่อยอย่างพวกแกจะต่อต้านได้แค่ไหนเพื่อแก้เบื่อเท่านั้น
มันจบสิ้นเเล้วหลังจากจบเรื่องนี้ ข้าจะทำให้ดาวของพวกเจ้าต้องศูนย์สิ้น ข้าจะกลืนกินทุกดวงชีวิตในทุกๆ ที่ที่พวกข้าเหยียบยํ่าจะไม่ให้เหลือรอดสักตัวเดียว”
"......หึหึหึฮ่าๆ"
เจ้าจักรกลต้องแปลกใจจากเสียงหัวเราะของเขา
“..แกกำลังจะตายยังจะขำอะไร”
"อุ๊? .เเค่กๆ ..เเก..นี่มัน...บ้านํ้าลายว่ะ.."
ใน สายตาที่พร่ามัวของเขาหันไปหาศพของพวกพ้องของเขา...ไม่มีความเสียใจในสีหน้าของเขาเเม้แต่น้อยเเต่กับเกิดรอยยิ้มขึ้นที่มีความสุขแทน
"....แกเสียใจ ด้วยว่ะ..เเต่ทุกอย่างมันจบ.. แล้ว"
“ไอ้เศษขยะหมายความว่าไรจะตายอยู่แล้วยังจะเห่าหอนอีก”
เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายกดปุ่ม
กริ๊ก!
วัตถุบางอย่างพุ่งไปเกาะติดแกนพลังงานและแล้วเตาพลังงานเร่งก็พลังจนถึงขีดสุดเมื่อเห็นแบบนั้นดวงตาของมันก็ส่องสว่างด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้แก!! .. ม่ายยยยยย!!”
ตอนที่เจ้าจักรกลจะเข้าไปเพื่อที่จะหยุดเตาพลังงาน นั้นโดยปกติไม่มีสิ่งใดจะทำอันตรายกับแกนพลังงานได้แต่นี้กลับเข้าไปดูดกลืนแล้วเร่งพลังจนก่อเกิดแสนสว่างสีเขียวมรกตในเวลาเดียวกันหัวหน้ากลุ่มกบฎเขาได้กดจุดระเบิดที่ของตัวเขาเอง
ตู้ม!!!
ร่างของเอลคาเตอร์กระเด็นออกไปในตอนที่เอลคาเตอร์รีบลุกขึ้นเพื่อที่จะหยุดก็ไม่ทันเสียแล้ว?
เตาพลังงานได้เร่งพลังจนเกินขีดจำกัดจนในที่สุดได้เกิดระเบิดขึ้นการระเบิด ในครั้งนี้เป็นการระเบิดที่ยิ่งใหญ่มากจนกลืนกินทุกชีวิตทุกสถานที่
ไม่ว่าพวกทหารจักรกลหรือกองยานของกองกำลังพันธมิตรก็ไม่เว้น
แม้แต่สัตว์ประที่รูปร่างเหมือนแมลงสาบยักษ์ที่ขนาดใหญ่ถึงสองพันเมตรที่พยายามจะหนีตายก็ไม่สามารถต่อต้านได้แม้แต่นิดเดียวต่างก็ถูกดูดกลืนกินโดยพลังงานที่ถูกปล่อยออกมาจะสลายเป็นผงในพริบตา
พลังงานขยายออกไปจนสุดท้ายดาวจักรกล ตัลตาต้าก็เกิดการระเบิดความรุนเเรงมหาศาลมากจนแม้ดาวเคราะห์รอบๆ ก็ยังโดนกลืนไปด้วยจนเกิดเป็นซุปเปอร์โนวาขึ้นเปล่งแสงดาราส่องสว่างมหาศาล
เป็นเดือนๆ พลังงานที่แผ่กระจายออกมาส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั่วจักรวาล..
วัตถุแกนหลักทรงลูกบาศก์ที่ใช้เป็นเเหล่งพลังที่ยังเหลือรอดได้กระเด็นร่องรอยไปในห่วงอวกาศ จากเดือนเป็นปีเป็นร้อยเป็นพันปีและหลายหมื่นปี
จนในที่สุดก็ได้เข้ามาใกล้กาแลคซี่ทางช้างเฝือก
ในระหว่างลอยเข้ามาใกล้นั้นได้มีมือขนาดใหญ่เรืองแสงมา ขว้าเอาไว้
มือสีดำแผ่ ออร่าแสงสีเขียวอ่อนดวงตาดีเขียวมรกตของร่างนั้นได้จ้องไปที่ลูกบาศก์ นี้...และมองกลับไปยังโลก..
.
.
.
.
.
เวลาปัจจุบันโลก การสุดยอดการประชุมสหประชาชาติ ในทำเนียบขาวที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดและสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลก
ชายวัยกลางคนอายุประมาณ40รูปร่างสูงใหญ่กำยำผิวสีเข้มถ้าหากมองดูภายนอกคงมีคนคิดว่าเป็นทหารผ่านศึกก็ว่าได้ เดินเข้าประตูพร้อมด้วยเหล่าบอดี้การ์ด
“เชิญทางนี้ครับท่านประธานาธิบดี!!”
"ตัวแทนจจากหลายประเทศรวมทั้งผู้แทนจากสมาพันธ์เวทมนตร์กับสมาคมเซียนมังกรมาถึงแล้วครับกำลังรอท่าน อยู่ที่ห้องประชุมครับ"
"และเหล่าเชื้อพระวงศ์จากสหราชอาณาจักรก็มาถึงแล้วเช่นกันครับ"
“แล้วคนของ อาซาธอทละ…”
“ติดต่อไปแล้วครับแต่ทางแล้วอต่พวกบอกไม่สนใจตอนนี้ไม่ว่างกำลังยุ่งอยู่ในสถานนีอวกาศครับ..”
“ในตายเถอะ.. ไอ้เจ้าพวกนั้นทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการกลับมาคืนชีพของจอมมารแท้ๆ ..”
“ทางผมก็ติดต่อไปแบบนั้นครับ แต่ทางนั้นก็บอกแค่ว่า จัดการเอาเองเลย”
“ชิ!! ไอ้เจ้าพวกบ้าเอ๊ย!”
"ทุกท่านประธานาธิบดีมาถึงแล้วของให้เริ่มวาระการประชุม
เรื่องการ คืนชีพของจอมมาร การคัดเลือกผู้กล้าและเหล่าบรรดาผู้ถูกเลือกกัน"
-------------------------
โลก ณ ประเทศหนึ่งในเมืองเล็กๆ แทบตะวันออกกลางเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง
กรรกกก......
เสียงสัตว์อสูรที่ดูไม่ออกว่าเป็นกระทิงรึว่าสิงโตขนาดใหญ่พอๆ กับรถบรรทุก สัตว์อสูรหลายสิบตัวรอบๆ ถึงแม้จะเล็กกว่าแต่ไม่ต่างกันมากนักตรงหน้าของพวกมันนั้นมี
เด็กสาวในชุดสีขาวนํ้าเงินยืนจ้องมองพวกมันอยู่แม้พวกสัตว์อสูรจะมีจำนวนมากมาย เเต่ในสายตาของเด็กสาวก็ไร้ซึงความกลัว
"มาจินออสเอมเซ่นเตอร์..สวอท!!"
จบคำร่าย.. ก็ได้มีดาบพลังงานเวทขนาดใหญ่
สตาดีมแอร์โลว์! สิ้นสุดเสียงเด็กสาวก็พุงไปพร้อมกับกระสุนเวททันทีร่ายรำดาบเข้าใส่พวกสัตว์อสูรจนเกิดภาพของ
ดอกไม้โลหิตของเล่าสัตว์อสูร…
เด็กสาวยืนจ้องมองท้องฟ้าคํ่าคืนอันสงบสีหน้าดูเย็นชาเฉยเมยต่อสุดสิ่ง ซากของสัตว์อสูรรอบตัว เธอ
"ช่างเป็นคืนนี่หนาวเสียจริงคะ.."
---------------
ตึกตึกๆ ..
เสียงกดของตู้ขายนํ้าอัตโนมัติ
"ฟู่~…หนาว ชะมัด!? กว่าจะเสร็จงานก็เล่นซะดึกเลย.."
เสียงของเด็กชายอายุประมาณ10ปีแต่งตัวใส่ชุดแจ็คเก็ตสีดำ
ตี๊ดๆ ~
เสียงโทรคัพของเด็กชายดึงขึ้น เมื่อมองไปที่จอแสดงผลก็จะเห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา
"แม่...งั้นหรือ.."
เสียงของเด็กชายพูดขึ้นด้วยความกลัวสีหน้ากังวง..แต่ยังไงก็ต้องรับอยู่ดีจึงเขาตัดสินใจกดรับสาย
“...ฮาโย่~ครับ?? ...”
“มาฮาลงฮาโย่ บ้านไรของแก!!? แฟลช แกรู้ไหมนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
"บ้านนะจะไม่กลับใช่มั้ย? รู้แล้วก็รีบกลับซะล่ะ ข้าวก็อยู่ในตู้เย็นมาถึงถ้าหิวก็อุ่นเอาเองล่ะ แม่จะนอนแล้ว!!!"
"ครับครับ คร๊าบกำลังรีบกลับครับ"
แล้วเด็กชายก็กดวางสายด้วยสีหน้าเซ็งนิดหน่อยเมื่อเด็กชายกำจะรีบเดินกลับบ้าน ในตอนนั้นได้มี ลมพัดผ่านเข้ามาอยากรุนแรงจนรอบตัวพริ้วไหวไปตามแรงลม
ขวับ!!
เสียงบางอย่างบินผ่านไปด้วยความเร็วอย่างมากเด็กชายได้หันกลับไปมองสายตาของเขาเห็นร่างสาวน้อยในผมสีดำนํ้าตาลใบหน้าคมสง่างามเสมือนเทพธิดาชุดขาวนํ้าเงินบินผ่านบนท้องฟ้ายามคํ่าคืนมีแสงสว่างจากดาวจันทร์สาดส่องอันงดงาม
สาวน้อยคนนั้นไม่ได้หันกลับมาสนใจมองเขาเเต่อย่างใดเเต่เด็กชายก็ไม่ได้ทีท่าตกใจอะไร แต่ในดวงตาของเขากลับเป็นประกาย
“สะสะ สุดยอด?!! เท่โคตร! ...”
"อ่ะไม่ใช่เวลามาเชยชมบรรยากาศผมต้องรีบกลับแล้ว
และเด็กชายก็เดินจากไปในความมืดยามราตรีทิ้งไว้ด้านหลังที่มีเศษซากของอาคารรอบๆ ที่ถูกทำลายและเครื่องจักรรูปร่างมนุษย์ในสภาพพังเละเทะกับร่างของผู้คนที่แต่งตัวเหมือนกองกำลังติดอาวุธก่อการร้ายนอนแน่นิ่งทั่วทุกบริเวณ
เวทมนตร์ คาถา อาคม ลมปราณ พลังเหนือธรรมชาติ ตลอดไปถึงความเชื่อ ภูติ เทพเจ้า วิญญาณ สิ่งเหล่านี้ต่างอยู่คู่กับมนุษย์ตั้งแต่ครั้งก่อสร้างอารยธรรมของ มนุษย์ไม่มีบันทึกว่าเริ่มตันมาจากที่ใดแต่ไม่ว่าเป็นอย่างไรเวทมนตร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมมนุษย์ไปเสียแล้ว..
แม้เวทมนตร์จะถูกยอมรับในสังคมแต่ก็มีเหล่าผู้ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อยู่เช่นกันผู้คนเหล่านี้จึงพยายามพัฒนาศาสตร์วิชา ของตนรวมถึงวิทยาศาสตร์ด้วยเช่นกัน
ในอดีตเกิดเรื่องขัดแย้งหลายครั้งเช่นกันแทบทุกครั้งก็ต้องจบด้วยการสูญเสียของทั้งสองฝ่าย
เมื่อเวลาผ่านไปต่างฝ่ายพัฒนาควบคู่กันไปจนรุ่งเรืองขึ้น
แม้จะอยู่รวมกันแต่ทว่าระยะห่างระหว่างผู้วิเศษกับคนธรรมดาก็ยิ่งเด่นชัด
ในโลกที่มีผู้ใช้เวทมนตร์กับสัตว์วิเศษอันทรงพลังมนุษย์จำเป็นต้องดิ้นรนให้รอดจากโลกในนี้
เพื่อที่จะเอาชนะเหล่าผู้มีพลังเหนือ มนุษย์หรือพวกสัตว์อสูร สิ่งของวิเศษกับสุดยอดอาวุธต่างถูกสร้างขึ้น
หนึ่งในนั้นถือกำเนิดขึ้น อัศวินเหล็กยักษ์รูปร่างมนุษย์ถูกเรียกในภายหลังว่า ไททันเกียร์
#####################
ในสถานที่แห่งหนึ่งในแถบพื้นที่ทะเลทราย
ตึ่ง!!
เสียงของร่างโลหะขนาดใหญ่ล้มลงไปกับพื้นจนสั่นสะเทือน
รูปร่างเป็นเสมือนอัศวินเหล็กสีเงินที่ถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดสวยงามทำให้รู้ว่าสิ่งนี้เป็นของผู้ที่มีตำแหน่งสูงไม่น้อย
แต่ทว่าเวลานี้กลับถูกเหยียบแทบจะจมดินโดยอัศวินเหล็กสีดำทมิฬขนาดใหญ่ดูดิบเถื่อนพร้อมกับผ้าคลุมสีแดงเพลิงโบกสะบัด
"แก.....ทำแบบนี้กับข้าได้ยังไง..ข้าเป็นถึ....."
เสียงที่มาจาเกราะสีขาวหายไปพร้อมกับเท้าของเกราะยักษ์สีดำทมิฬเหยียบไปที่หัวจนแหลก
ดวงตาอันส่องแสงสว่างสีเขียวมรกตเหลือบมองรอบข้างราวกับว่าไม่อยู่ในสายตา
"........"
"ความแค้นที่แกเคยทำไว้กับพวกของข้าวันนี้แกจะต้องชดใช้!"
ในตอนนี้ร่างของอัศวินเหล็กสีดำทมิฬถูกล้อมรอบไปด้วยอัศวินเหล็กเกราะหนักนับร้อย
"วันนี้ข้าจะเป็นคนจัดการไอ้สัตว์ประหลาดแบบแกเอง"
อัศวินยักษ์เกราะสีเขียวกาวออกมาประตันหน้ากับนักรบเถื่อนถือหอกยาวหมุน ควงสว่านพุ่งตรงไปด้วยความเร็วสูงจากเครื่องยนต์ไอพ่นจากแพ็คเสริมด้านหลัง
ชายหนุ่มผมทองหน้าตาดีผู้เป็นนักบินของอัศวินเกราะเขียวแสยะยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเจ้าหุ่นนักรบเถื่อนไม่ตอบสนองต่อหอกของเขาได้ทันเวลา
"เสร็จข้า ระบำหอกหมุนวน!"
หอกไปมาจนเกินความร้อนสูงกลายเป็นภาพลวงตาของหอกหลายอันโจมตีจากทุกทิศทาง ถึงแม้จะมีการโจมตีอันน่ากลัวเข้ามานักรบเถื่อนก็ไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
"....ชื่อท่าเห่ยชะมัด?"
ในจังหวะสุดท้ายก่อนหอกจะเข้าถึงนักรบเถื่อนทำแค่หันตัวออกไปแต่เล็กน้อยทำให้การโจมตีของหอกพุ่งผ่านไปหมดทันทีก่อนจะเดินขึ้นหน้าไปหนึ่งก้าวพร้อมกับยืนมือออกไปทางซ้าย
"หา! "
"บ้าน่าหอกมายาของคุณเควินโนแลนถูกอ่านออกหมดเลย!!"
ตึ่ง!!!
"อั่ก!!"
ในตอนนั้นส่วนหัวของอัศวินเกราะเขียวถูกจับได้โดยมือของนักรบเถื่อนที่ยื่นออกมาพอดี
"หมัดจรวจไฮบริด!"
"แก!!!"
สิ้นเสียงกรีดร้องของนักบินผู้โชคร้ายร่างของอัศวินชุดเกราะเขียวส่วนบนโดนบดขยี้แหลกเป็นเศษเหล็กกระเด็นลอยออกไปพร้อมกับหมัดของนักรบเถื่อนที่หมุนควงอย่างรุนแรงถูกยิงแยกออกมาจากแขนแทบจะในทันที
ตู้ม!!!
ร่างของอัศวินเกราะเขียวผู้โชคร้ายชะตาขาดระเบิดขึ้นมีเปลวไฟลุกไหม้รอบๆ โดยมีหุ่นนักรบเถื่อนสีดำทมิฬดวงตาส่องแสงสีเขียวมรกตกำลังจ้องมองเหล่าหุ่นอัศวินเหล็กที่ยืนล้อมรอบมันอยู่เสมือนปีศาจร้าย
"นะ..นั้นล็อคเก็ตพันช์นี่ไม่เห็นเคยรู้มาก่อนว่ามันมีพลังรุนแรงขนาดนี้"
"มันก็คงเอาไปเสริมพลังมานั้นแหละแต่ก็มีแต่แค่ไอ้บ้านี่ที่มันกล้าเอามาใช้งานจริงได้ล่ะมั้ง..."
"หมายความว่าไงนะ"
"เอ่อก็อย่างที่พูดไงล็อคเก็ตพันช์นะถือว่าจัดเป็น อาวุธหายากที่มีความรุนแรงแต่มันมีข้อเสียที่เป็นปัญหาใหญ่ อย่างในตอนที่แขนถูกยิงออกไปแล้วหากถูกทำลายก็จะทำให้ตัวหุ่นสูญเสียแขนไปอย่างเปล่า ประโยชน์แถมยังไม่คุ้นที่จะติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อีกไอ้ของที่มีแต่จุดอ่อนอย่างนี้ก็มีแต่คนบ้ากับพวกแฟนหนังการ์ตูนเดนตายที่ติดเอาเท่เท่านั้นแหละ"
หนึ่งในนักบินของอัศวินวิเคราะห์อย่างใจเย็น
"หึ..ไม่เห็นจะมีอะไรต้องไปกลัวมันแค่เล็งโจมตีตอนที่มันยิงออกไปเท่านี้ไม่มีอะไรต้องไปกลัวมันแล้วพวกแกลุยเข้าไปพร้อมกันเลย!"
ตะ..แต่ว่า ถึงนายจะบอกแบบนั้นแต่ไอ้คนที่พวกเรากำลังเจอตอนนี้...
คือไอ้สัตว์ประหลาดไร้พ่าย นะซิครับ!!
"โฟตอนคลัสเตอร์"
ฉับ!
“อ๊ากกกก!”
ร่างของของอัศวินเหล็กที่พุ่งเข้าไปทั้งสี่ถูกตัดผ่าออกจากกัน โดยอาวุธพลังงานที่มาจากฝ่ามือของนักรบเถื่อน
"ชิ..ทีมต่อไปรักษาระยะใช้ปืนใหญ่ระดมยิง"
หุ่นนักรบเถื่อนหมุนตัวหลบห่ากระสุนปืนและลูกระเบิดก่อนพุ่งเข้าหากลุ่มอัศวิน ยักษ์ตรงโดยที่หลบดาบไปด้วยท่าแบบกายกรรมขาลอยชี้ขึ้นฟ้า
"แม่งเฮ้ย!โดนสิว่ะ!!"
"อ่ะ..โทษทีนะพี่ชายของยืมมาเป็นโล่แป๊บ"
"ห๊ะ?"
ในวินาทีนั้นนักรบเถื่อนที่กำลังเหวี่ยงตัวหลบกลางอากาศใช้มือเกี่ยวหัวของอัศวินเหล็กผู้โชดร้ายขึ้นมาบังกระสุนระเบิด
ตู้ม!!!!
เหล่าอัศวินเหล็กต่างถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องจนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ไม่กี่สิบเครื่อง
"ไอ้ปีศาจอย่าได้ใจให้มันมากนักนะ..อย่างแกนะถึงแม้ต่อให้เหลือแค่ฉันคนเดียวก็จะโค่นอกลงให้ได้!!"
หนึ่งในอัศวินเหล็กเกราะสีฟ้าที่ตอนนี้เหลือแขนข้างเดียวใช้อาวุธปืนยิงใส่หุ่นเหล็ก สีดำทมิฬที่ยืนอยู่บนเศษซากของอัศวินเหล็กที่เป็นศัตรูของมัน
อัศวินสีฟ้ายิงไปที่ใต้เท้าของมันที่เป็นเกราะอย่างแม่นยำจนเกิดระเบิดขึ้น
"...?!"
หุ่นนักรบเถื่อนสูญเสียหลักล้มไปทางซ้าย
"เสร็จข้าล่ะตอนนี้แหละเอาเลย!!"
อัศวินเหล็กที่อยู่ใกล้ไม่รอช้าพุ่งเข้าไปรุมจับตัวหุ่นนักรบเถื่อนทันที
มันพยายามจะหมุนตัวหลบและโจมตีสวนแต่แขนทั้งสองต่างถูกจับล็อคเอาไว้ด้วยหุ่นยนต์อัศวินแต่ละตัวจนแทบขยับไม่ได้
"อ่ะฮาฮ่าฮ่า! ในที่สุด ไอ้ปีศาจอย่างแกก็เสร็จข้าที่นี่แหละ!"
"ดะ..เดียวสิไอ้หมอนั้นมันเป็นของฉันนะ!"
"ก็ช้าเองเสียใจว่ะยัยหนูแต่ข้าจะเอาว่ะ"
"หาว่าใครยัยหนูยะ!"
หนึ่งในอัศวินเหล็กพุ่งผ่านอัศวินเกราะสีฟ้าเข้าหาหุ่นยนต์นักรบเถื่อนที่ดิ้นไม่หลุดด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดาบยักษ์ในมือ
"ตายซะเถอะ!"
ดาบยักษ์พุ่งตรงเข้าหาบริเวณอกส่วนที่เป็นห้องนักบิน
"พลาสมาบีมมมมม!!"
"หา!"
ส่วนท้องของนักรบเถื่อนเปิดออกส่องสว่างด้วยแสงไฟRGBสีรุ้งสดใสก่อนจะยิงลำแสงพลังงานออกมา
"แม้งเฮ้ย!! มันยังมีอาวุธซ่อนอยู่อีกเหรอวะ?"
อัศวินเหล็กพยายามใช้ดาบป้องกันลำแสงแต่ก็ไม่ทันเวลา ลำแสงยิงทะลุเจาะร่างกายเหล็กแล้วเผาไหม้ส่วนต่าง ๆ ของมันจนระเบิดขึ้น
"อะไรกันเนี่ย?! "
"นี่ขนาดมันโดนจับไว้นะ"
ในตอนนี้เหล่าหุ่นเหล็กรอบที่กำลังแตกตื่นอยู่นั้นดวงตาสีเขียวมรกตของหุ่นเหล็กสีดำทมิฬก็หันไปหาอัศวินเหล็กที่กำลังจับแขนข้างหนึ่งอยู่
"อี๋!!"
นักบินที่อยู่ในนั้นร้องความตกใจจนเผลอคลายมือออก
"ลำแสงแฟลชเจิดจรัส"
ดวงตาของหุ่นยนต์นักรบเถื่อนส่องแสงสว่างจ้าแสบตาเป็นวงกว้างจนนักบนตรงข้ามที่อยู่ด้านในต้องปิดตาหันหลบทันที
"ตะ..ตาข้า!!"
''โรมมิ่งมิสไซล์!"
แพ็คเสริมบูสเตอร์ด้านหลังหุ่นยนต์นักรบเถื่อนเปิดออกก่อนจะยิงจรวดมิสไซล์พุ่งเล็งไปที่หุ่นอัศวินเหล็กที่อยู่อีกข้าง
ตู้ม!!!
"อ๊ากกกกก!!"
"ยะ..อย่าให้มันหลุดออกไปได้รีบจับมันเร็ว"
"ตาข้าแม่งเว้ย!! แกอ๊ากก!!"
อัศวินเหล็กที่ด้านข้างถูกเตะกระเด็นก่อนจะถูกหอกที่มาจากซากของพวกพ้องได้ถูกหุ่นยนต์นักรบเถื่อนหยิบมาปาใส่เสียบทะลุไปติดกับหุ่นที่อยู่ด้านหลังกลายเป็นไม่ต่างจากลูกชิ้นเสียบไม้ในทันที
''หมัดเหล็กอะตอมมิค!"
กำปั้นเหล็กไหลส่องแสงที่เต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าชกอัดเข้าใส่พวกอัศวินเหล็กด้วยความเร็วสูงหลายทีอย่างต่อเนื่อง
ตู้ม!!
ร่างของพวกอัศวินเหล็กระเบิดขึ้นอย่างรุงแรงจนเกิดเปลวไฟลุกไหม้ลามไปทั่ว
"....บ้าที่สุด..ครั้งนี้ก็ไม่สำเร็จอีกเหรอ.. ."
เสียงนักบินของอัศวินเกราะสีฟ้าพึมพำอย่างสิ้นหวังจ้องมองเข้าไปในเปลวไฟด้วยความสะพรึง
เสียงของฝีเท้าโลหะค่อยดังออกมาจากเปลวไฟจนปรากฏร่างของยักษ์เหล็กสีดำทมิฬดวงตาส่องแสงสีเขียวมรกตแล้วหยุดยืนมองอย่างอวดดี
"ว่าไง..เหลือเจ้าแค่คนเดียวแล้วนะไม่เข้ามาเหรอ.."
"ยะ...มาดูถูกกันนะไอ้สัตว์ประหลาด"
อัศวินเกราะสีฟ้าพุ่งเข้าใส่นักรบเถื่อนโดยบินวงยิงจากปืนไรเฟิลจาดด้านรอบข้าง อาศัยความชำนาญและสมรรถนะของเครื่องรุ่นพิเศษที่เด่นในเรื่องความเร็ว
แต่ไม่ทันได้ สังเกตเลยว่าแขนของนักรบเถื่อนหายไปหนึ่งข้างในจังหวะพุ่งไปด้านข้างนั้นกลับมีกำปั้นเหล็กบินตรงเข้าหามาดักจากทิศทางที่กำลังมุ่งตรงไปเหมือนถูกอ่านทางอยู่ก่อนแล้ว
"ชิ!! ตั้งแต่ตอนไหนกัน"
นักบินของเกราะสีฟ้าพยายามเคลื่อนหลบแต่ก็ไม่ทันการถูกจับโดยกำปั้นเหล็กและถูกลากไปหานักรบเถื่อนด้วยความเร็วสูงชิ้นส่วนเกราะหลายชิ้นเสียหาย
"จาบ~ด้ายแย้วววว~"
"อ๊าก!!ปล่อยฉันนะ!"
อัศวินเกราะสีฟ้าที่ถูกจับพยายามดิ้นในหลุดแต่ด้วยตัวเครื่องที่นํ้าหนักเบาและถูกสร้างมาด้วยสมรรถนะที่เน้นความเร็วเลยทำให้ไม่มีกำลังพอจะดิ้นหลุดไปได้เลย
"เอ้ย....จบซะที งั้นลาเลยก็แล้วกัน.."
ปืนใหญ่ที่ท้องของหุ่นเหล็กยักษ์เปิดออกส่องแสงสว่าง
"ชิ..ทำไมกัน...ทำไมถึงสู้มันไม่เคยได้เลย แกไปสัตว์ประหลาด แก..ไอ้เจ้า คอสมิคEx!!"
นักบินของเกราะสีฟ้าตะโกนด่าทอต่างแต่เมื่อเห็นแสงจากปืนใหญ่ส่องสว่างกำลังจะยิงออกมาในไม่ช้าเธอก็หลับตาเอามือปิดหน้าด้วยความกลัวทั้งนํ้าตา
"......?"
แต่เมื่อเวลาผ่านไปปืนใหญ่ก็ยังไม่ถูกยิงออกมาจนเธอเริ่มแปลกใจจนลืมตาขึ้น
"หือ? ..ทำไมกันนะ..."
ภาพที่เธอเห็นที่หน้าจอคือร่างอัศวินสีดำทมิฬที่ไร้การตอบสนองดวงตาไร้สีสันแสงไฟRGBที่เคยส่องสว่างตอนนี้กลับถูกปิดสงบนิ่ง
"กะ..เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"
ในตอนที่เธอกำลัง งงกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่หน้าจอปรากฏข้อความขึ้น
เนื่องจากผู้เล่น คอสมิคEXได้ตัดการ เชื่อมต่อจากเซิฟเวอร์
ผู้เล่นคอสมิดEX ได้ออกระหว่างเกมกำลังดำเนินอยู่ จะถูกลงโทษตามกฎและคะแนนจากเกมนี้เป็นโมฆะทั้งหมด
และคุณคือผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายคุณคือผู้ขณะเกมนี้ของรางวัลทั้งหมดจะเป็นของคุณ....
"อ๊ะ...เอ๊ะ!!!"
.
.
.
การเชื่อมต่อถูกตัด เนื่องจากสัญญาณอินเตอร์เน็ตเวทมนตร์โปรดตรวจสอบอุปกรณ์และสอบถามผู้ให้บริการของคุณ
ข้อความจากระบบที่กำลังขึ้นบนจอแสดงผลของแว่นvrเกียร์
"........อีกแล้วเหรอว่ะ"
เด็กชายผมสีดำคนหนึ่งถอดแว่นตาออกตอนนี้เขากำลังนอนอยู่เตียงในห้องของเขาในสภาพหัวฟูก่อนเขาจะลุกขึ้นมองไปอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เป็นตัวส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตแล้วถอนหายใจออกมา
"กะ กรูจะเปลี่ยนค่ายโว้ย!!"
"เฮ้ยไอ้ลูกเวรนี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วมาตะโกนแหกปากหาพระแสงอะไร!!"
ในฦดูหนาว ของชั้นเรียนประถมศึกษาปีที่6 ของโรงเรียนสหศึกษาไตรตรึงษ์ในกรุงอาโยธญา
ภายในห้องเรียนไม้ทรงไทยโบราณรวมสมัยที่ประดับด้วยไฟดวงแก้วเวทมนตร์ส่องสว่าง
ณ บริเวณที่มีโต๊ะเรียนไม้สีนํ้าตาลขัดเงาหันหน้าโค้งเข้าหากระดานดำเหมือนห้องประชุม ที่มีนักเรียนชายหญิงอยู่30คน
ณ จุดที่บริเวณริมหน้าต่างแถวกลาง
"หาว~.....ในตายสิ..งวงชะมัดเมื่อคืออารมณ์มันค้างเล่นเกมซะดึกเลย"
ผมที่กำลังเบื่อกับชั่วโมงเรียน คณิตศาสตร์อยู่ตัวผมเองชื่อ แฟลช สลาตัน ปกติทุกคนจะเรียกผมว่าแฟลชครับ
ผมเป็นลูกของบ้านสามัญชนทั่วไปที่อาคัยอยู่ในเมืองอาโยธยาในดินแดนสยามประเทศผมเป็นลูกชายคนโตและมีน้องสองคนหญิงหนึ่งชายอีกหนึ่ง
ผมก็ไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งอะไรความสามารถก็ทั่วๆ ไปหน้าตาก็เรียกว่าไม่หล่ออะไรเลยไม่ค่อยเนื้อหอมอะไร..
แต่ก็นะ? เด็ก10ขวบเองนี่นะจะให้มาคิดเรื่องแบบนี้ก็ใช่ที่
เอาเป็นว่าผมก็แค่เด็กชายธรรมดาๆ ที่หาได้ทั่วไปนั้นแหละครับ
.
.
.
ช่างเหอะเข้าเรื่องเลยดีกว่า พอมานึกถึงเหตุการเมื่อคืนก่อนจะว่าไป
แหม..ในโลกนี้ มีสาวน้อยเวทมนตร์มีตัวตนอยู่จริงๆ เหรอเนี่ยเท่ชะมัดเลย
สาวน้อยเวทมนตร์ ที่ค่อยจัดการ สัตว์อสูรจากในเงามืด..สุดยอดถ้าได้มาเจอกันอีกต้องขอลายเส้นแล้ว
ทำไมผมถึงตื่นเต้นละก็แหม..สาวน้อยเวทมนตร์เลยเชียวนะ? ตัวเป็นๆ เลยในโลกนี้ ปกติจะมีแต่พวกจอมเวททั่วๆ ไปผมที่เป็นพวกแฟนของหนังฮีโร่ก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้วนะสิ
ไหนช่วงนี้จะมีข่าวว่าพบเห็นสัตว์อสูร เพิ่มมากขึ้นอีกแถมมีรายงานว่าพบซากที่ถูกจัดการในคืนเดียวกันนั้นอีกต้องเป็นฝีมือเธอเเน่ๆ
ที่คอยจัดการพวกสัตว์อสูร ในยามคํ่าคืน....สุดยอดเลยหลังๆ มานี้ก็มีเหตุการณ์แปลกๆ ไหนจะภัยธรรมชาติ สัตว์อสูร อะไรแปลกๆ เพิ่มมากขึ้น อืมม..
ไอ้นั้นสินะ จอมมาร..
จริงๆ ในคู่มือคำทำนายที่ให้มาก็มีข้อความว่าจะมี จอมมาร ตื่นขึ้นมาเหมือนกันแต่ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงมากนักหรอก เพราะตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วที่ทั้ง เวทมนตร์และเทคโนโลยี พัฒนาไปไกลมากแล้วไหนจะพวกมีพลังพิเศษอีก
ไอ้ที่หน้ากลัวนะมันหลังจากนั้นต่างหากละ
ภัยคุกคามจากนอกโลก? ที่แม้แต่ มนุษย์ชาติและจอมมาร ก็ยังต้องร่วมมือกันสู้ แต่ก็อีกนานเลยกว่าจะเกิดละนะ..
ให้ตายเถอะ..ให้ผมอยู่แบบสงบสุขในโลกใบนี้บางไม่ได้รึไงฟ่ะ ส่งสัยช่วงนี้ต้องฝึกให้มากขึ้นแล้ว ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนวันหยุดนี้แวะไปที่ฐานลับดีกว่า
อืมมมม ..ตอนนี้คิดเยอะไปเริ่มจะง่วงซะแล้วงั้นก็ขอหลับสักงีบเลยละกัน ผมลงตัวหน้าซุกไปทั้งแบบนั้น
Zzzz........พี้ๆ ...
“ครูครับ!! ไอ้ แฟลช มันแอบหลับในห้องเรียนครับครู!!”
“หน็อยยยยไอ้นี่.....”
ครูสาวผมสั่นไถข้างสุดเท่ จ้องไปที่แฟลชโดยมีเส้นเลือดปูดที่ใบหน้า
.
.
.
ตอนพักเที่ยง ผมที่กำลังคุยเล่นกะเพื่อนๆ อยู่ในบริเวณม้านั่งพักผ่อนในศาลาไม้ทรงไทยตอนนั้นเอง
“เห้ย?! แฟลชออกไปเจอกันข้างนอกหน่อยดิ!!”
เด็กผู้ชายทางทางเกเรผมตั้งใบหน้ามีผ้าพาสเตอร์ติดแผลที่ใบหน้าเดินเข้ามาทักแฟลชพร้อมพวกหลายคน
“เอ๋? ไม่เอาอ่ะเดียวเขาเจ็บตัวอีก”
“ที่เจ็บมันพวกตูเว้ย!!! รอบก่อนแกเล่นพวกเราไว้ซะยับเลยนะเอ็ง!!”
เด็กชายเกเรทำหน้าตาเส้นเลือดปูดเต็มใบหน้าแต่ในตอนนั้น
ตึงตึงตึงๆ?!!! เสียงของฝีเท้าของใครบางคนและแล้วมีภาพบางอย่างลอยเข้ามาด้วยเท้าบาทา ขาคู่อันสวยงามโดนไม่สนว่ากลางเกงในจะโผล่เลยสักนิดพร้อมกับตะโกนเสียงดัง
“อย่ามารังแกแฟลช นะยะ!!!”
และเท้าของเธอก็ สัมผัส ไปที่หน้าของเจ้าเด็กเกเรผู้โชคร้าย ทันที
อ้อก!!!
เจ้าเด็กเกเร กระเด็นไปเลยหวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ?
เเล้ว เธอก็ม้วนตัวลงอย่างสวยงามพร้อม สะบัดผม.ที่เป็นลอนเกลียวของเธอ อย่างสง่างามและแล้วเธอก็เดินมาทางผม มือขวาของเธอจับเข้าที่หัวของผมทันที เอ๊ะ??
“เจี๊ยก!!! โอ๊ย เจ็บ เจ็บ เจ็บอ่ะ หัวจะล้านแล้วๆ ผมจะหลุดเเล้ว?!!”
“เรื่องของตัวเองทำไมไม่เคลียร์ ให้จบคะ!! ปล่อยให้เขามาหาเรื่องอยู่ได้ค่ะ”
"เอ๊ะ!เขายังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะที่เหลือมันฝีมือเธอทั้งนั้นเลยไม่ใช่เรอะ!"
"หา ..ว่าไงนะได้ยินไม่ชัด..."
“โอ้ย..กะ..ก็แหม..ก็มี เอมมี่จัง ค่อยปกป้องผมอยู่ไง ขอบคุณนะเพราะเอมมี่แท้ๆ พวกนั้นเลยไม่ค่อยกล้าเข้ามาหาเรื่องบ่อยๆ”
ผมพูดขณะส่งยิ้มอันไร้เดียงสาของเด็กไป
“เชอะ!”
แล้วเอมมี่ก็หน้าแดงหันไป แล้วก็เอามือมาจับหัวผมอีกรอบ
“โอ้ยยย!! เจ็บอ่ะทำอะไรเนีย? เอมมี่?”
"นี่นาย เป็นลูกผู้ชายรึป่าวคะ? ต้องให้ผู้หญิงคอยปกป้องเนี่ย?!"
ฮะฮะ~ เด็กผู้หญิงคนนี้คือ เอมมีรี่ สวิส เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผมนี่เเหละเธอเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียน
เป็นคนขยันหัวดี ผลการเรียนเป็นเลิส มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าห้องแล้วยังควบตำแหน่งกรรมการนักเรียนอีกไม่เหนื่อยรึไงเนี่ย?
หน้าตาก็ดีถึงนิสัยหัวร้อนง่ายไปบางให้ตายสิ นี่หล่อนหลุดมาจากการ์ตูนแนวโชโจ..เรื่องไหนกันเนี่ย?
เพราะแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยมีเด็กคนไหนกล้ายุ่งเท่าไหล่นั้นละ ปกติคนที่รังแกผมก็มีเเต่เธอคนนี้แหละ...นึกแล้วนํ้าตาจะไหล
“นี่? เอมมี่จังพักกินอะไรสักหน่อยสิ ที่บ้านเราทำขนมไว้ เอามาเยอะอยะเลยนะเจ้าคะ”
อาริสา เด็กหญิงผมสั้นหน้าตาหน้ารักดูเรียบร้อยฉบับกุลสตรีแห่งสยาม เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ ผมเรียกเธอให้นั่งด้วยกัน
“ถ้างั้นดิชั้นก็ขอรบกวน ด้วยนะคะ”
“เชิญเลยจ้า~”
เอมมีรี่ ถอยหายใจก่อนจะนั้งลงข้างๆ ผมแล้วหยิบขนมจ่ามงกุฎกินอย่างหน้าตาเฉย แล้วยิ้มแววตาเป็นประกายดาวเลยทีเดียวนี่หล่อนหลุดมาจากการ์ตูนจริงๆ ใช่ไหม
"อร่อย!"
"ฮิๆ ชอบก็กินอีกได้เลื่อยๆ เลยจ้า เอามาเยอะเลย"
"เฮ้~เอาจริงดิ? เดี๋ยวก็อ้วนหรอก..แอ๊ก!!"
ผมโดนสองสาวตบแทบจะพร้อมกันด้วยใบหน้ายิ้มที่ไร้อารมณ์โดยมีออร่าที่น่ากลัว
ช่วงเวลาในชั่วโมงเรียนประวัติศาสตร์ รอบบ่าย
ในอดีตเมื่อ400ปีก่อน โลกนี้เคยมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า จอมมาร อยู่..เผ่าปีศาจที่มีพลังเวทสูง ทำให้ในอดีตหลายประเทศต้องสูญเสียครั้งใหญ่ จนในที่สุดหลายประเทศก็ต้องร่วมมือกันกับผู้ที่ถูกเรียก ว่าผู้กล้าคนแรกของโลกและกลุ่มปาตี้ จัดการจอมมารลงได้ในที่สุด..
อาจารย์หนุ่มใหญ่ผมสีเทาใส่แว้นตากำลังบรรยายประวัติศาสตร์พร้อมภาพถ่ายของกลุ่มผู้กล้าและกองทัพพันธมิตรโดย ฉายภาพจากเครื่องโปรเจคเตอร์ในห้องที่ถูกปรับให้มือลงด้วยอุปกรณ์เวทมนตร์ควบคุมแสงสว่าง นักเรียนหลายคนในห้องที่กำลังตั้งใจฟังคำบรรยายของอาจารย์เพราะเป็นของผู้กล้าฮีโร่ที่พวกเขาใฝ่ฝัน
"ฮือ..ฮื่อ..ซิกๆ"
แฟลชที่กำลังหนังอ่านนิยายดราม่าสุดซึ่งที่เกี่ยวข้องกับเด็กหญิงและน้องหมา อย่างจริงจังจนอินและร้องไห้ออกมา ส่วน อริสานั่งมองด้วยสีหน้าปลาตายไร้อารมณ์แบบเอือมระอา ส่วนอาจารย์นั้น
ไม่เห็นๆ อย่าไปสนใจไอ้เด็กเวรนี่มัน..
อาจารย์ที่กำลังเหงื่อตกมีใบหน้าหงุดหงิด เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับแฟลชดี มีหลายครั้งที่เขาพยายามจะแกล้งให้ข้อสอบและโจทย์คำถามยากๆ แก่ แฟลช เด็กชายก็ตอบและทำได้หมดแบบไร้ที่ติ เขาเลยจนปัญญาทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยและทำเป็นไม่สนใจแค่นั้น
ชั่วโมงพละ ภายในสนามวิ่งมาตฐานขนาดใหญ่ในโรงเรียน วันนี้เป็นวันที่ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของนักเรียนโดยการวิ่ง
ปี๊บ!
"ผู้ทำเวลาดีที่สุด ในระยะ100เมตรด้วยเวลา 4.5วินาทีกับอีกจุด08 คืออาริสา!!"
สิ้นเสียงประกาศของครูพละที่เป็นสาวสวยผมสั้นมีกล้ามเหมือนนักเพาะกาย สาวๆ ภายในห้องต่างเข้าไปดีใจกับ อาริสา
"เห..ยัยนั่นเร็วขึ้นอีกแล้วนะนี่ สุดยอด.."
"แฟลชแกก็รีบประจำที่ได้แล้วถึงตาแกแล้วครั้งนี้ก็ทำให้มันจริงจังด้วยนะ! "
"ครับๆ"
สิ้นเสียงของครูพละผมก็เข้าไปประจําที่ด้วยท่าทางขี้เกียด พร้อมกับเสียงนกหวีด
บี๊บ!
"แฟลช ทำเวลาระยะ100เมตร เวลา....5.5 วินาทีกับอีก5.5.5เสี้ยววินาที.."
"เจ๋งเป้ง!!"
โป๊ก!! "แอ็ก!"
ผมที่ยืดอกยิ้มอย่างภูมิใจก่อนที่ครูพละจะเขกหัวผมหนึ่งที
"ฉันบอกแกเอาจริงเอาจังให้ตั้งใจไม่ใช่เรอะ รอบก่อนๆ ก็6.6มั้งละ7.7 มั้งละนี่แกอยากเล่นตลกรึไง"
"ผมก็ตั้งใจสุดๆ ให้เวลาออกมาสวยงานสมมาตรเปะๆ เลยนะครับครู"
"แล้วนี่แกจะทำเวลาแบบนี่ไปเพื่ออะไร ทำไมไม่ทำเวลาให้มันดีห๊ะ!"
"แน่นอนครับ ก็เพราะมันเท่นะสิ!"
แฟลชพูดด้วยสีหน้าโคตรจริงจังมาดเข้ม ส่วนครูพละก็มองสายตาปลาตายไร้อารมณ์ก่อนจะเดินถอนหายใจพร้อมๆ เพื่อนในห้องเรียน
นี่ก็คือชีวิตประจำวัน ในโรงเรียนของผมนี่แหละครับ..
ในเมื่อผมอยู่ในร่างที่เป็นเด็กผมก็ขอใช้ชีวิตให้สมกับเด็กขอสนุกมันกับชีวิต.. ที่ไม่เคยได้สัมผัสแบบนี้ในต่างโลกไปจนกว่าจะถึงเวลาเมื่อสิ่งนั้นจะมา ช่วงเวลาที่สงบสุขมันดีที่สุดแล้วจริงๆ ..
ในช่วงเวลาเลิกเรียน..
“นี่ แฟลช?! วันนี้นายมีธุระที่ไหนไหม ถ้าไม่มีไปที่บ้านเราไหม”
อาริสาได้เข้ามาชวนให้ไปเที่ยวที่บ้านของเธอด้วยสีน่าเหมือนลูกแมว
"คุณพ่อกับพี่บอกอยากมีคู่ซ้อมด้วย อยากให้มาให้ได้นะ"
"อืมได้สิ เดียวเก็บของกับโทรบอกที่บ้านก่อนแป๊ปน่า.."
"จริงเหรอ? ทุกคนต้องดีใจแน่ ถ้าแฟลชไปด้วยแบบนี้ช่วงนี้จะใกล้เเข่งแล้วด้วยเห็นพี่บ่น หาคู่ซ้อมไม่ค่อยได้เลยนะช่วยได้มาก ขอบคุณนะ"
เธอยิ้มอ่อนๆ สีหน้าดีใจแก้มออกสีแดงนิดๆ บ่งบอกว่ามีความสุขอย่างมาก
ก็แหมเห็นสีหน้าแบบนี้แล้วจะให้ปฏิเสธลง ไปได้ไงกันล่ะครับ?
"ไม่เป็นไรๆ แค่นี้เองผมก็ไม่ได้เจอลุง เก นานแล้วด้วยได้โอกาสแวะไปเยี่ยมลุง เก บ้างก็ดีเหมือนกัน แล้วกับข้าวสูตรชาววังของ ป้าแก้ว ก็อร่อยมากๆ ด้วย"
“งั้นเหรอขอบคุณนะ ฮิฮิ..”
เด็กสาวคนนี้คือเพื่อนสมัยเด็กของผมอีกคนเห็นเป็นแม่หญิงนิสัยใจดีงดงามแบบนี้จริงๆ แล้ว ไม่ธรรมดาเลยเชียวล่ะ
เธอ ชื่อ อาริสา ยาธิดา เธอเป็นลูกสาวค่ายมวยชื่อดังที่มีนักมวยคว้าแชมป์มาหลายเข้มขัดรวมถึงพี่ชายของเธอเห็นว่าเมื่อก่อนต้นตระกูลของเธอเป็นนักรบที่ค่อยพิทักษ์ กษัตริย์ เลยสืบทอดวิชาอาคม วิชามัดมวยโบราณมาด้วย คนสืบทอดสายเอกก็เธอคนนี้นี่แหละ
อย่าไปทำให้เธอโกรธเชียว หน้ากลัวยังกะยักษ์มารเข้าสิงเลยละ..ไม่สิ ยักษ์มาร เข้าสิงจริงๆ เลยละ
"นะ? นี่ แฟลช? ทำไมมองชั้นแบบนั้นนะ เดียวเถอะ เเล้วนี่เสร็จรึยังรอนานเเล้วนะ?!"
“จ๊ะ!! สะ..เสร็จเเล้วคร้าบบบผม!!”
แฟลชที่พูดอย่างตื่นกลัวใบหน้าซีดเหมือนไก่ต้มในท่าวันทยหัตถ์อย่างองอาจ
“ปะ.. เป็นอะไรของนายเนี่ย?”
เมื่อใช้ชีวิตที่ทำงานหนักมาตลอดคุณเคยอยากจะเกษียณตัวเองแล้วอยากกลับมาใช้ชีวิตอันสงบสุขไหม
คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างแต่ผมนะคือหนึ่งในนั้นแต่ว่า.. มันไม่ง่ายเลยสักนิด
ในอนาคตข้างหน้าโลกนี้อาจกำลังจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ทำให้หลายชีวิตต้องสูญเสีย..
ผมที่เคยผ่านการเกิดใหม่มาแล้วในโลกนั้นต้องต่อสู้เอาชีวิตรอดเพื่อให้แข็งแกร่งจนเกือบตลอดชีวิตที่อยู่ในที่แห่งนั้นจนในที่สุดผมก็ได้โอกาสกลับมาใช้ชีวิตที่โลกแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
การที่มีชีวิตอยู่กับการต่อสู้มันมีความสุขนักรึไง..
ผมเบื่อหน่ายชีวิตแบบนั้นที่สุด อำนาจชื่อเสียหรือความยิ่งใหญ่มันไม่มีความหมายอะไรกับผมเลย
แล้วผมไม่ต้องการมามีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่อะไรอย่างผู้กล้าช่วยโลกหรือว่าไปเป็นราชาไม่ก็หัวหน้าองค์กรเหรอ..
ไม่เอาด้วยหรอกน่ารำคาญจะตาย รึให้ไปรับใช้ใครอะไรแบบนั้นด้วยไม่อ่ะผมขี้เกียดอ่ะ
อ่าวถึงจะเห็นแบบนี้แต่ผมก็ไม่เรื่องมากน่า สิ่งที่ผมต้องการคือ
อิสระ กับความสงบสุขอิสระที่จะไปได้ทั่วทุกมุมโลกอิสระที่จะช่วยใครก็ได้อิสระที่จะรัก โดยไม่ต้องมามีภาระมาผูกมัดสิ่งเหล่านี้
ผมขอเพียงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัวกับคนที่รักเรื่อยๆ แบบสโลไลฟ์ แค่นี้ผมก็มีความสุขมากแล้ว...
แต่เมื่อตอนที่ผมกลับมาก็ทำให้ผมรู้ความจริงว่าที่โลกนี้กำลังจะมีภัยคุกคามจากหลายอย่างและมันไม่ง่ายเลยที่จะใช้ชีวิตแบบนั้น
แต่เพื่อที่จะผ่านไปให้ได้ ผมจึงจำเป็นที่ต้องมีพลังเพื่อเปลี่ยนมัน แต่ไอ้การที่มีพลังนั้นจะมาพร้อมกับปัญหามากมายและผู้คนแน่นอน
ไม่ว่าอย่างไรผมไม่ยอมให้ใครมาขวางทางผมแน่นอน จะเป็นเทพรึเซียนแล้วยังไงหรือจะเป็นผู้กล้ารึไม่ก็จอมมารจะเป็นใครก็ช่างสิจะไปตีกันที่ไหนก็เชิญเลย แต่ถ้ามาขัดขวางความสงบสุขของผมแล้วล่ะก็..
พ่อจะเล่นแม่งให้หมดเรียงตัวเลย!!!
.
.
.
ในตอนเช้าแฟลชที่กำลังโฟสต์ วิดีโอที่ตัดต่อลงในช่องสตีมเกมส์ของเขา แม้จะยังเช้าอยู่แต่เพียงไม่กี่นาทีก็มียอดเข้าชมหลายหมื่นครั้งเลยทีเดียว
เพราะนี่คือวิดีโอของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นต้นเหตุความวุ่นวายในช่วงสองสามวันมานี้หลายช่องดั่งที่เกี่ยวข้องกับเกมต่างก็พูดถึงนั้นคือเหตุการณ์เกมที่
เทพผู้ไร้เทียมทานvsกิลใหญ่กับผู้เล่นและแชป์ทีมแข่งต่าง ๆ นับร้อย
ในตอนแรกเกมนี้เป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่มีรางวัลมูลค่าสูงเป็นการแข่งแบบแบทเทิลรอยัลพวกกิลใหญ่กับผู้เล่นแนวหน้าเลยต่างเข้าร่วมแต่ทันทีที่มีรายชื่อ คอสมิคEx ทุกคนก็หันมาร่วมมือกันทันทีโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า
แต่ทว่าผู้เล่นชั้นแนวหน้าและกิลใหญ่ต่างถูกทำลายอย่างเละเทะด้วยหุ่นเพียงเครื่องเดียวแม้ในตอนสุดท้าย ทุกคนคิดว่าผู้ชณะเกมนี้ คือไอ้ปีศาจนี้แต่ทว่าผู้เล่นคอสมิคExกลับออกเกมทิ้งชัยชนะและของรางวัลอย่างกับไม่มีค่าเหมือนกับว่าแค่อยากมาสนุกในการฆ่าทุกคนซะแบบนั้น
มีคอมเมนต์จากผู้เล่นในเหตุการณ์มากมาย
-ไอ้นั้นมันเป็นปีศาจที่ชอบทำลายหุ่นชาวบ้านเล่น [จิแดนภาคใต้]
- ตกลงแล้วมันมาแค่เล่นสนุกแล้วก็ไป [เอมมิค]
- มันโคตรน่ากลัวเลยตูไม่รอเจอกับมันอีกแล้ว [ยอดชายนายหำหวาน]
- ขี้ขาดว่ะพวกมึงเฮอะข้าเกือบฆ่ามันได้แล้วมันก็แค่โชคดีแหละว่ะ [มาร์สการ์เซียจอมเชือด]
- อ๋อเหรอ..ผมว่าผมเห็นนายพุ่งเข้าแล้วโดนปืนใหญ่ยิงอย่างโง่เลยนะครับ [โนแลนด์หอกมายา]
- งั้นแกก็ไม่ต่างจากตูแหละว่ะโดนมันฆ่าทิ้งก่อนตูอีกทำไมข้องใจก็มาสู้กันตูจะสับมึงให้เละ หมั่นไส้มึงมานานล่ะ [มาร์สการ์เซียจอมเชือด]
- ได้เจอกันเย็นนี้ผมจะเสียบปากเน่าๆ ของนายเอง [โนแลนด์หอกมายา]
- เอาเว้ยมีคนตีกันแล้วฮ่า ๆ [มาร์สวิทสีขาว]
- นี่มีใครรู้บ้างทำไมเจ้านั้นถึงออกจากเกมทิ้งของรางวัลเฉยเลยล่ะ? [โรเซ่ทาสแมวเหมียวเหมียว]
- ใครจะรู้มันก็แค่มาสนุกมั้ง? [สารัชผู้ชอบแดกกล้วยบวชชี]
.
.
"อืม...ยอดดูกับยอดแชร์ไมมันเยอะขึ้นเร็วแปลกๆ ฟ่ะ..แต่ช่างเหอะอาจส่งสัยเพราะเราหลุดตอนนั้นรึเปล่าหว่า?
ไม่มั้งคงไม่มีคนสนใจเราขนาดนั้นหรอกวิดีโอที่บันทึกก็ตัดตรงตอนนั้นพอดีปลอยให้คนดูงงเล่นดีกว่า คอมเม้นท์ก็ปิดไว้เพราะขี้เกียดตอบด้วยสิปกติไอ้เราก็ไม่ค่อยตอบใครอยู่แล้วนี่หว่า"
นี่เป็นช่องวิดีโอที่ผมเอาไว้สตรีมสดเล่นเกมเท่านั้นเองแต่ไม่รู้ทำไมทั้งที่ก็ไม่ค่อยจะทำคอนเทนต์อะไรมีแต่ขับหุ่นเล่นอัดผู้แข่งไปวันๆ
แถมยังใช้วิธีสตีมแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งให้เห็นแต่วิธีการควบคุมกับภาพหน้าจอเท่านั้นเองไอ้เราก็คุยกับใครเขาไม่เก่งแถมขี้รำคาญเลยปิดคอมเมนต์ไม่คุยกับใครมันซะเลย
แต่กลับมีผู้ติดตามหลักล้านคนจากทั่วโลกซะงั้นด้วยความที่กลัวจะกลายเป็นคนดังและคนจำหน้าได้
ส่วนใบหน้าผมก็ไปหาหน้ากากมาใส่แบบพวกอนิเมะหุ่นยนต์สมัยก่อนเอาเท่ซะเลยหึหึ ..เท่านี้อยู่อย่างสงบสุขแล้ว
"แฟลชตื่นยังลูกเอาฝ้าออกไปตากให้หน่อย!"
"อ่ะได้เวลาแล้วต้องรีบลงไปช่วยงานแล้ว"
หลังจากช่วยที่บ้านทำงาน บ้านเเล้ว แฟลชได้เตรียมตัวเพื่อที่จะไปภูเขาในป่าใกล้ๆ กับเมือง ซึ่งที่นั้น แฟลชได้ แอบสร้างฐานลับไว้
"ไม่ลืม? อะไรนะลูกข้าวเอาไปกินด้วยนะ แล้วจะกลับมากินข้าวเย็นไหมเดียวเเม่เตรียมไว้ให้ก่อนออกไปทำงาน"
หญิงสาววัยประมาณ30ตันๆ ที่มีหุ่นดี ผมดำยาวหยักศกในชุดสูททำงานใส่ผ้ากันเปื้อน ทำลังเตรียมอาหารเช้า
"ไม่เป็นอะไรครับแม่เดียวผมไปแวะตลาดหาซื้อ ของอะไรกินตอนเย็นเองครับ"
ในห้องครัวที่ตบแต่ง แบบสมัยใหม่ สไตล์โมเดิร์น ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป แฟลชที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะที่อาหารเป็นไข่เจียวกับแกงจืดหมูสบสาหร่ายใส่เต้าหู้ กำลังนั่งดูทีวีข่าวเช้าไปพร้อมกัน
"จากสรุปรายงานของที่ประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยเรื่องคัดเลือกผู้สมัครผู้กล้าในอีกปีข้างหน้า..."
ผมที่กำลังดูข่าวเช้าที่มีคุณลุงใส่แว่นกับพี่สาวคนสวยที่เป็นพิธีกร รายการข่าวที่มีภาพของประธานาธิบดีสหรัฐโต้เถียงกับตาลุงสุลต่านแห่งชาติอาหรับเรื่องผลประโยชน์ของดันเจี้ยน
สรุปแล้วก็แค่เอาเรื่องผู้กล้ามาเป็นฉากหน้าเพื่อหาผลประโยชน์เข้าประเทศตัวเองละนะ..
ผมนั่งกินข้าวดูข่าวสักพักก่อนจะเอาชามไปล้าง
.
.
“ไปล่ะครับ บายบ่ายครับเเม่!?”
แฟลช รุกขึ้นแล้วใส่รองเท้าพร้อมกับจับลูกบิดประตูออกไป
“จ้า..ไปดีมาดีนะลูก"
“คร๊าบบบบ~”
หลังจากออกจากบ้าน แฟลช ก็ได้เริ่มออกวิ่ง.. ระยะทางจากบ้านถึงภูเขามีระยะทางความยาวถึง 12 กิโล ซึ่งเป็นระยะทางที่ แฟลช ออกวิ่งเกือบทุกเช้าถ้าไม่มีธุระหรือไม่สบายต่อให้ฝนตกหนัก ก็ยังออกมาวิ่งเพื่อฝึกฝนไม่เคยขาด
เมื่อผ่านตลาดเช้าที่มีคนสัญจรไปมาอย่างเร่งรีบ แฟลชเข้าไปทักทายลุงๆ ป้าๆ ที่ขายของกินช่วงเช้า
“อรุณสวัสดิ์ครับ ลุงพล เฮียอ้วน ป้าณี!!"
“อ่าว? ว่าไงไอ้หนู เห็นวิ่งทุกเช้าเลยนะขยันจริงๆ เอา ขนมไข่เต่าลุงไปหน่อยกินไหม?”
“อ่าวไอ้พล แกนี่ตัดหน้าข้าอีกละ ข้าวเหนียวหนูย่าง ก็มีนะ แฟลช ว่าไงวันนี้ไม่กินเหรอ?”
“พวกตาแก่นี่จริงๆ เลย เจ้าหนู”
“แฟลช ทำลังวิ่งอยู่ จะไปกินของหนักๆ แบบนั้นได้ยังไงมากินโจ๊กกับนํ้าเต้าหู้ ป้าดีกว่านะจ๊ะ?”
“อย่ามาเนียนนะยัยเเก่?!”
“ฮะฮะ...งั้น ผมขอนํ้าเต้าหู้ หนึ่งชุดนะครับ"
“จ้า~ นี่จ๊ะ ว่างๆ ของแวะมาเล่นกะหลาน ป้าบางนะไอ้หนูมันอยากเล่นด้วยนะถามหาบ่อย”
“คร้าบบบ..."
เเฟลช ยิ้มตอบรับแล้วโบกมือกลับมาเริมออกวิ่ง ต่อจนถึง ป้อมตำรวจใกล้กับทางออกนอกเมือง”
อรุณสวัสดิ์ครับ!! พี่มาวิน
"อ่าว แฟลช วันนี้ก็มาเที่ยวรึระวังหน่อยนะช่วงนี้มีคนแจ้งว่าเจอสัตว์อสูรอยู่ที่เมืองข้างๆ นะ
ถึงจะไกลจากที่นี้แต่ระวังตัวด้วยนะถ้ามีอะไรแปลกๆ ก็ให้รีบแจ้งเข้ามาละ แล้วก็เที่ยวให้สนุกนะ แฟลช"
“..ขอบคุณ มากครับ พี่มาวิน ผมจะระวังครับ เดี๋ยวผมไปบอกพี่สาคู ลูกสาวร้านเฮียแดง ให้นะครับ ว่าพี่มาวิน ใจดี คอยเป็นห่วงผมและคิดถึงนะครับ”
“เอ้ย?! ไอ้เด็กนี่!!”
“ฮะฮะฮะ ผมไปก่อนนะครับ”
“... เออไปดีมาดีล่ะไอ้เด็กบ้า”
และผมก็ออกวินต่อไปจนถึงภูเขาในป่าใกล้ๆ กับเมืองอโยธยา ภูเขานี่เป็นดินที่อยู่ในการครอบครองของบริษัท อาซาธอท ซึ่งผมได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เข้าออกได้อิสระ
นี่เป็นภาพชีวิตประจำวันแทบทุกเช้าของทุกวัน ที่ผู้คนเห็นจนชินตา
.
.
.
ตึง!! ตึง!! ตึง!!
มีเสียงดังของบางสิ่งกระทบกันอย่างรุนแรง ในสถานที่หนึ่งที่เป็นอาคารเหมือนสถานีอวกาศที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า เสียงดังมาจากสถานที่เหมือนจะเป็นห้องฝึกซ้อม แฟลช นั้นกำลังฝึกชกกระสอบทรายที่มีขนาดสามเมตรที่หนักเกือบหนึ่งตันอยู่
ตึงตึง!!
ที่กำปั้นของแฟลชถูกเคลือบด้วยจิตมีออร่าไหลเวียน
“ฟู่..ฮาาา.ย๊ากก!!”
เปรี๊ยบ!!!
หมัดสุดท้ายที่ปล่อยออกมาเกิดเสียงดังสนั่นรุนแรงจนกระสอบทราบ ที่ใหญ่กว่าตัวแฟลช กว่ามากถึงกลับลอยไปเลยทีเดียว
“ฟู่...ได้เหงื่อดีจัง...”
แอ็ก!!!!
ตอนที่ แฟลชหันหลับกำลังจะเช็ดเหงื่ออยู่นั้นกระสอบทรายก็ได้ลอยกลับมาโดนเข้าที่หัวแฟลชเต็มๆ จนลูกตาแทบจะทะลักออกมา
“มาสเตอร์ ได้โปรรักษาของ ด้วย..”
“..ทำอะไรของแกฟ่ะ? เนี่ย ไอ้หุ่นกระป๋อง!!! ตูนึกว่าจะตายแล้วนะเฮ้ย!!”
ที่ผมเถียงด้วยกันอยู่นี่ คือหุ่นยนต์ที่รูปร่างเหมือนพวกตุ๊กตาหุ่นยนต์แบบขนาดSDในพวกหนังการ์ตูนสมัยก่อนยังไงแบบนั้นแหละ
เจ้านี่ มีชื่อว่า อาเร็ก ไอ้หุ่นผู้ดูแลปากเสียที่คอยจิกกัดผมเป็นประจำหากไม่นับเรื่องปากเสียแล้วละก็เรื่องการทำงานถือว่าไร้ที่ติเลยทีเดียว
“...ตายอย่างนั้นหรือ...อย่าง มาสเตอร์ ไม่ตายง่ายๆ หรอกอึดเกินแมลงสาบอีกนะ”
“อย่าเอาชั้นไปเทียบจะตัวแบบนั้นสิเว้ย นี่เเกเกลียดชั้นใช่ไหมเนี่ย”
เฮ้ย... จะว่าไปที่นี่มันสุดยอดเลยเเฮะ? ไม่ว่าจะดูกี่ที..
แฟลชถอนหายใจแล้วมองดูรอบๆ
ถ้าดูภายนอกก็อาจจะเห็นเพียงเเค่อาคารบ้านเก่าๆ ธรรมดา แต่ภายในนั้น ตกแต่งไปด้วย อุปกรณ์ต่างๆ มากมายพร้อมติดตั้งสิ่งต่างๆ อำนวยความสะดวกมากมายเช่น ห้องครัว ห้องพัก ห้องอาบนํ้าเครื่องออกกำลังกาย แม้กะทั้ง สระว่ายนํ้าก็ยังมี
แต่ที่สุดยอดคือห้องฝึกที่ติดตั้งแรงเวทดึงดูดนี่ถ้าติดเวทมนตร์แห่งเวลาเอาไว้ด้วยละก็ได้เหมือนกับหลุดมาจากการ์ตูนเรื่องนึงเลยแน่ๆ
ถ้าถามว่าสถานที่แบบนี้ จะดูแลยังไงก็ต้องบอกว่าหุ่นยนต์นะสิ
ที่นี่มีหุ่นยนต์คอยควบคุมดูแลสิ่งต่างๆ ยังช่วยดูแลในการฝึกพร้อมกับช่วยปกป้องที่นี่จากผู้บุกรุกไปในตัว อย่างไอ้ตัวข้างหน้าผมนี่แหละแล้วผมตอนนี้คือสิ่งมีชีวิตคนเดียวที่อยู่ที่นี่.. ในกรณีที่จะมีใครพบ ฐานทัพอย่างที่นี่อ่ะ ก็ฐานนี้นะติดตั้งเทกโนโลยี พรางตัววางค่ายกลแถมด้วยยังมีเวทมนตร์มิติ อีก
ทำให้ถึงจะเดินผ่านเท่าไร มองหาเท่าไรก็ไม่เจอหรอกครับมีแค่เฉพาะผมที่มีกุญแจเท่านั้นที่หาเจอแล้วผ่านเข้ามาได้..ร่าวกับอยู่คนละโลก
ก็แหม.. คง งง กัน ล่ะสิว่าผมนั้นได้ฐานทัพลับแบบนี้มาได้ยังไงละก็คือตอนที่หลังจากกลับมาจากต่างโลกตอนนั้น..
.
.
“เฮ้ แฟลช เจ้าเอาสิ่งนี้ไปด้วยสิของพวกนี้จะช่วยเจ้าในอนาคต อันใกล้และไกลหลังจากนี้ จากนี้ข้าต้องไปทำภารกิจอันที่ไกลโพ้น เอามากๆ อีกนานมากกว่าเราจะได้เจอกันอีกปล่อยไว้เฉยๆ มันก็ไม่มีประโยชน์อันได”
"เอ๊ะ มันจะดีเหรอ.."
"ยกให้เจ้าไปซะนะดีแล้ว หลังจากข้ายังต้องการพลังของเจ้ามันก็เกี่ยวพันกับ..ความใฝ่ฝันในอนาคตของเจ้าด้วยนะ"
“....งั้นเหรอ...ขอบคุณมากนะ ไนซ่า...”
“...อืม...นี่? .. แฟลช มาใกล้ๆ สิอันนี้ของแถมจะให้..”
“หือ..เอ๋.."
แล้ว ไนซ่า ก็เอามือทั้งสองข้างมาจับที่หัวของผม
“..อ่ะ เอ๋ เฮ้? ทำอะไรนะ?!”
“นี่? .เจ้า?! อยู่ นิ่งๆ สิ...”
หลังจากนั้น ไนซ่า ก็หลับตาลง.....
ทำการเปิดใช้งาน!! ซูเปอร์เมนโนรี่!!
" เอ๊ะ!! มีเสียงบางสิ่งบางอย่างดังขึ้นมาในหัว..."
หลังจาก นี่จะ ทำการ ดาวน์โหลด ข้อมูล เริมการดาวน์โหลด สตาร์ท!!
"ฮืมม..อะ? .."
ในตอนนั้นผมก็รู้สึก ปวดหัวอย่างรุนแรงเพราะมีข้อมูลมหาศาลไหลเข้ามาไม่ หยุด...
“อ๊ากกกกกกก!!”
"ทำการ ดาวน์โหลด เสร็จสิ้น!!"
ผมถึงกับเข่าทรุดลงพื้นไปเลยทีเดียว
"แฮ่ก.... แฮ่ก..…?? …!! ..นี่มัน?! …เฮ้.. แบบนี้ขี้โกงกันนี่หว่า..โหดร้ายกันไปน้อยนะนี่กะไม่ให้หนีไปไหนเลยเหรอ.... ไนซ่า ไม่สิ… ไนซาบาคลูยา เสาออส อซาธอท.."
เมื่อได้เช่นนั้น ไนซ่าก็ยิ้มออกมา
“แหมเรียกซะยาวเลยนะเรียกข้า ไนซ่า เหมือนเดิมก็พอ แล้ว”
“เฮ้ย....เรื่องจริงงั้นเหรอเนี่ย..."
“อืม หลังจากนี่ ข้า ก็ฝากด้วยนะ แฟลช ~”
ไนซ่าที่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีให้ก่อนจะจากไป
ฐานทัพ ก็ได้มาพร้อมกับของอื่น ๆ ตอนนั้นแหละครับ
ส่วนไอ้ ที่เรียกว่า ซูเปอร์เมมโมรี่ นั้นนะรู้สึกตอนสร้างรางกายให้ใหม่จะใส่แถมเข้ามาด้วยนะสิให้ตายสิ ยังกับพวกมนุษย์ ดัดแปลงเลย
ปกติสมองคนเราจะจดจำสิงต่างๆ ผ่านการรับรู้ และการทำงานของสมองใช่มะ
เเต่สิ่งที่เรียกว่า ซูเปอร์เมมโมรี่ เนี่ยจะทำหน้าที่เหมือนกับพวก ฮาร์ดดิส เก็บข้อมูล แล้วสามารถนำข้อมูลใส่ได้โดยตรงเลยนะสิและยังช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้ด้วยสะดวกสุดไปเลย
อ่อแต่ไม่มีผลกับพวกบุคลิกรึความทรงจำหรอกนะที่ใส่เข้าไป ก็พวกข้อมูลในอนาคต..
ข้อมูลบุคคล สถานที่ พวกวิชาต่างๆ ก็เหมือนใส่หนังสือที่เยอะมากๆ เก็บมาไว้ในชั้นหนังสือนะแหละแต่พวกข้อมูลมันก็แค่ข้อมูลนะแหละครับ
อย่างพวกวิชาต่างๆ ไม่ใช่ว่าจะรู้แล้วว่าจะเอาไปใช้ได้เลยอ่ะนะ ยังไงก็ต้องฝึกฝน ก่อนอยู่ดี
แล้วผมก็ได้ สุดยอดหน่วยความจำของดีที่เสมือนหอสมุดโลกมาด้วยประการฉะนี้ ......
ดีกับผีนะสิ!!
ใส่ข้อมูลอะไรไร้สาระเยอะแยะไปหมด อย่างรูปแมวเมี้ยวกลับหนึ่งเมตรมดจะเดินกี่เก้าจะใส่มาทำไมฟ่ะ ถึงข้อมูลพวกสาวๆ นมโตๆ ...ถึงมันจะดีก็เถอะ..
"เอาล่ะพักมาพอล่ะ ได้เวลาฝึกต่อซะที"
“...ข้ากำลังรอ คำนั้นอยู่เลย นายท่าน..”
หุ่นยนต์อาเร็กตาส่องแสงขึ้น
จากนี้ไปจะเริมทำการเปิดโหมดการผฝึกระดับสูง
“เฮ้ย!! อยู่ๆ ก็เอาเลยเรอะ ให้ฉันเตรียมตัวก่อนเซ่!! นี่แกเกลียดชั้นจริงๆ ใช่มั้ยเนีย?!”
แฟลชทำท่าตกใจร้อนรนขึ้นมาทันที
ตั้งค่าโหมดซีมูเรชั้นเปิดทำงาน ซูเปอร์เมมโมรี่ดาวน์โหลดข้อมูล
“ฮะ? เอ๋?!!”
ทำการเรียก หัวหน้า อัศวินศักดิ์สิทธิ์แห่งราชอาณาจักร เซนต์มารี่ดอมินิก
สตีเฟ่น กัจดราคุม ผู้ฆ่ามังกรแห่งคุระ
แล้วภาพข้างหน้าของผมก็ ปรากฏตาแก่ร่างสูงสองเมตร ผมขาว หน้ามีแผลเป็น มีกล้ามเป็นมัด แววตาคมกริบสีหน้าอารมดี ใบหน้าระรื่นยิ้มแฉ่ง ใส่ชุดอัศวินเต็มยศพร้อมกับดาบสองมือขนาดใหญ่พอๆ กับเจ้าตัว...
“เหอวววววววววววว?!!!!!”
แฟลชที่ตกใจตาเหลือบกับบุคคลตรงหน้า
"ทำไมเรียกเอา เจ้าตาแก่ สัตว์ประหลาดนี่ออกมาฟ่ะเนี่ย?!"
ผมจำตาแก่นี่ได้ดีเพราะว่าที่โลกโน้นนะไอ้ตาแก่นี่ทำเอาผมเกือบตายมาหลายรอบแล้วนะสิ เป็นสัตว์ประหลาดที่บ้าการต่อสู้ของแท้เลยล่ะ
“วะ ฮาฮ่าฮ่าฮ่า!! ข้าจะเข้าไปล่ะนะไอ้หนู!!”
“เอ้ยเดียวววววเดี้ยววว?!!”
“อ๊ากกกกกกกก!!”
.
.
ผ่านไป2ชั่วโมง
ทำการฝึกเสร็จสิ้น...
กลางห้องฝึกซ้อมที่จำรองสภาพสถานที่เมืองล้างที่มีร่องรอยการต่อสู้ที่รุงแรงสภาพอาคารต่างๆ ถูกตัดด้วยรอยดาบและการระเบิดด้วยเวทมนตร์ในท่ามกลางเศษซากมีร่างของแฟลชนอนหมดแรงอยู่
"แฮ่กๆ ..แฮ่กๆ ฟู่...นึกว่าจะตายซะแล้ว....ตาแก่นี่โหดซะมัด
ไม่ไหว ขอพักหน่อยดีกว่า...นอนมันตรงนี้แหละ...."
จ๊อกกกกกกกก..... (เสียงท้องร้อง?)
“.....นี่..อาเร็ก ..หาอะไรมาให้กินหน่อยสิ..”
"ขอรับ มาสเตอร์ข้าละนับถือท่านจริงๆ
เมื่อกี้ยังด่าข้าอยู่เลยมาตอนนี้ขอร้องให้ข้าหาของกินมาให้ซะแล้ว"
“...ไอ้เจ้าหุ่นกระป๋องเวรนี่…”
แล้วเจ้าหุ่นอาเร็ก ก็ออกไปสักพักก็กลับมา พร้อมถาด ชุดอาหารคุณหนู? ของเด็กที่มีธงปลักอยู่
"นี่.... ทำไมต้องชุดอาหารเด็กละ... แถมไอ้ธงนั้นมันอะไรนะ"
"ก็มาสเตอร์ ก็ยังเป็นเด็กไม่ใช่หรือ?"
“หนอย...ไอ้นี่กวนโอ้ยกันชัดๆ ...หาเรื่องกันนี่หว่า... แกเกลียดฉันแน่ๆ”
“แล้วมาสเตอร์จะกินไหมล่ะ”
“ชิ!! กินก็ได้ฟ่ะ”
แฟลชรีบรับทานอาหารนั่งกินอย่างรวดเร็วแต่ในตอนนั้น
ตูม!!!!
!!!?
“.. หือ?”
ในคณะที่ แฟลช กำลังกินข้าว
จู่ๆ เกิดเสียงระเบิดเกิดขึ้นในป่าเสียงดังมากแม้แต่ในที่นี้ก็ยังได้ยินชัดเจนแล้วในตอนนั้น อาเร็ก เข้ามารายงานเรื่องที่เกิดขึ้น
“มาสเตอร์มีผู้บุกรุกเข้ามาในเขต..”
เมื่อผมไม่ยินรายงานของไอ้เจ้าหุ่นกระป๋อง อาเร็ก ก็เผลอถอนหายใจแบบเซ็งๆ
"ให้ตูพักก่อนสิเฟ้ย!!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!