“ทำไมพวกเราสามคนต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้ด้วยวะ”
อิงนรีเอ่ยขึ้นหลังยกแอลกอฮอล์ในแก้วตัวเองสาดลงคอไปจนหมดเกลี้ยง
เพื่อนสาวอีกสองคนก็ได้แต่นั่งมองตาแป๋ว อีกคนก็หัวเสียไม่แพ้กัน
ส่วนอีกคนด้วยความที่เป็นคนหัวอ่อนเธอไม่ได้ร้อนใจกับเรื่องที่เพิ่งจะระบายกันสักเท่าไหร่
“แกยังดีหยาด
อย่างน้อยก็เคยเห็นหน้าค่าตากันบ้าง ว่าเจ้าบ่าวเป็นใครมาจากไหน
ฉันสิ...จนจะต้องบินไปหาเขาที่เชียงใหม่แล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่า
ว่าที่ผัวเนี่ยชื่ออะไร”
อิงนรีเอ่ยขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอาแก้วเหล้าของเพื่อนที่ดูไม่มีวี่แววจะยกขึ้นดื่มมาสาดลงคอ
“อิงใจเย็น ๆ” เจ้าของแก้วรีบร้องห้าม
“ไม่ต้องมาห้ามฉันเลยนะยายแก้ว
แกมัวแต่นั่งฟังฉันกับยายหยาดไม่ยอมยกสักที จนมันจืดหมดแล้วเนี่ย”
“แกจะมาบอกว่าฉันดีกว่าแก
เพราะรู้จักกันกับไอ้หมอสิบนั่นก็ไม่ได้หรอกนะ
ลืมไปแล้วหรือไงว่าฉันกับมันไม่ถูกกันมาตั้งแต่มัธยม คนเกลียดกันจะแต่งงานกันได้ยังไง”
หยาดฟ้าโวยขึ้นบ้าง
“อย่างน้อยแกก็มั่นใจได้
ว่าหมอสิบทิศน่ะหล่อ แล้วก็ร่างกายครบสามสิบสองส่วน เป็นคนแข็งแรงสมบูรณ์ดี
ฉันสิ...พิการหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องขี้ริ้วขี้เหร่จนไม่มีใครเอาแน่
แม่ถึงต้องมาหาจับผู้หญิงไปคลุมถุงชนกับลูกชายแบบนี้”
“อิง...ใจเย็น ๆ
เขาอาจจะไม่ได้แย่แบบนั้นก็ได้ ดูพวกเราสิ ก็แค่ไม่มีแฟนเลยโดนบังคับแต่งงาน
เขาเองก็อาจจะไม่มีแฟนสักที แม่เลยบังคับแต่งงานก็ได้”
มาลาแก้วที่ดูจะใจเย็นที่สุดกับเรื่องนี้พูดขึ้น
ทั้งอิงนรีและหยาดฟ้าต่างหันไปฟาดสายตาลงที่คนพูดพร้อมกัน
“อย่ามาโลกสวยแถวนี้นะยายแก้ว
คนอย่างไอ้หมอสิบน่ะ ถ้ามันจะไม่มีแฟนก็เพราะปากกับนิสัยมันนั่นแหละ ใครจะเอา”
“นี่ไง อย่างน้อยแกก็ยังรู้
ว่าหมอสิบทิศเขาเป็นคนยังไง ฉันไม่รู้อะไรเลยนะ” อิงนรีแทรกขึ้น
“เหอะ ถ้าฉันเลือกได้นะ
ขอแต่งกับคนที่ไม่รู้จักแบบแกดีกว่า ไปเรียนรู้กันใหม่
ไม่ใช่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ดี แบบนี้ เป็นตายยังไงฉันก็ไม่ยอมแต่งหรอก แกล่ะ”
“ฉันจะไปขัดป้าได้ยังไง
อีกอย่างคิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน แต่งแล้วก็ต้องไปอยู่ที่โน่น
ป้าจะได้ไม่มาบ่นอะไรฉันอีก” อิงนรีปลงเสียแล้ว เรื่องถูกป้าจับคลุมถุงชน
เธอเหนื่อยหน่ายที่จะต้องถูกลากไปดูตัวอยู่บ่อย ๆ แล้ว แต่ง ๆ ไปให้มันจบ ๆ ดีกว่า
ไม่แต่งกับคนนี้ ป้าของเธอก็ต้องหาคนนั้น คนโน้น มาบังคับให้เธอแต่งเหมือนเดิม
“แล้วแกล่ะยายแก้ว ยังไง”
หยาดฟ้าหันไปถามเพื่อนอีกคน
“ก็คิดเหมือนอิง ว่าแต่ง ๆ ไปให้มันจบ
ๆ ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร แม่เลือกมาแล้วว่าดี มันก็น่าจะดีแหละ”
“แกดูใจเย็นกับเรื่องนี้มากนะ เฮ้อ!!!”
หยาดฟ้าถอนหายใจ ก่อนจะยกแก้วที่อิงนรีเพิ่งเทน้ำสีทองเติมให้ซดจนหมด
“เบา ๆ แกขับรถกลับเองไม่ใช่หรือไง”
คนรินว่าพร้อมกับดึงแก้วออกมาจากมือของเพื่อนสนิท
“ก็ฉันเครียดนี่"
"เครียดน่ะรู้ แต่มันอันตราย
พอเลยนะแกไม่ต้องกินแล้ว"
อิงนรีว่าพร้อมกับหันไปเทน้ำสีทองที่เหลือใส่แก้วตัวเองจนหมด
"แล้วนี่แกจะไปเชียงใหม่เมื่อไหร่"
มาลาแก้ว คนที่ดื่มน้อยที่สุดในโต๊ะเอ่ยถามขึ้น
"น่าจะอีกไม่กี่วันนี้แหละ
เห็นป้าโทรคุยกับเพื่อนทุกวัน"
"อ๋อ..."
"กลับยัง? แม่โทรตามแล้ว"
หยาดฟ้าเอ่ยถามขึ้น เธอดูจะเมามากแล้ว
อิงนรีหันไปมองหน้าเพื่อนอีกคนเพื่อขอความเห็น
แต่มาลาแก้วก็ทำได้เพียงส่ายศีรษะไปมาเท่านั้น
"เดี๋ยวฉันไปส่งแกดีกว่า
รถก็จอดไว้นี่แหละ ฉันว่าแกขับรถไม่ไหวแล้วนะหยาด" อิงนรีเสนอขึ้น
"ไม่ต้อง!! ฉันไหว
พรุ่งนี้ต้องไปทำงาน จอดรถไว้นี่แล้วฉันจะไปทำงานยังไง แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก
ระดับหยาด กินได้ก็กลับบ้านได้ สบายใจหายห่วง"
"จะไม่ห่วงยังไง
นั่งยังไม่ตรงเลยเนี่ย"
ครืดดด ครืดดด
-คุณป้าขา-
"ป้าโทรตามแล้ว รีบกลับเถอะ ฉันขี้เกียจจะโดนบ่นอีก"
อิงนรีหันไปบอกกับมาลาแก้ว ซึ่งเธอก็พยักหน้าตอบรับว่าเห็นด้วย
สามสาวพากันเดินออกมาจากร้านอย่างทุลักทะเลเพราะต้องคอยประคองคนเมา
"แกกลับไม่ไหวหรอกหยาด
เชื่อฉันเถอะ กลับแท็กซี่กับยายแก้ว แล้วจอดรถไว้นี่ซะ"
"ไม่!! ฉันไหว"
"หยาดอย่าดื้อได้ไหม
เป็นอะไรขึ้นมามันไม่คุ้มหรอกนะ"
"นี่พวกแกจำวันเกิดพี่ต้อมแฟนเก่าฉันไม่ได้เหรอ
เมายิ่งกว่านี้อีกฉันยังกลับถึงบ้านปลอดภัยเลย ไม่ต้องห่วงหรอกน่า กลับบ้านดี ๆ นะ
บ๊ายบาย"
"เอ้า!! หยาด!!
เฮ้ยเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ" เผลอแวบเดียวเท่านั้นหยาดฟ้าก็เปิดประตูรถแล้วหนีเพื่อน
ๆ สองคนเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย
ทิ้งให้อิงนรีและมาลาแก้วยืนงุนงงกับเหตุการณ์กันสองคน
"คงไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วมั้ง
อิงก็ขับรถกลับดี ๆ นะ"
"แล้วแกล่ะ"
"แก้วนั่งแท็กซี่แป๊บเดียวก็ถึงบ้านแล้ว
ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าถึงแล้วจะไลน์บอกนะ"
"อืม ๆ กลับดี ๆ"
หลังล่ำลากันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามสาวก็แยกย้ายกันกลับ
ส่วนอิงนรีนั้นขับรถไม่ค่อยจะเป็นสุขเท่าไหร่
เพราะมีเสียงโทรศัพท์สั่นตามจิกจนถึงบ้าน
---------------------------------------------------
ขออนุญาตขายของค่ะ
นิยายภรรยายั่วรักเล่มกระดาษ 325 รวมส่ง จากราคาปก 355
ช่องทางสั่งจอง
อิงนรีกลับถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน
ตามที่ได้สัญญากับป้าของเธอเอาไว้
แม้มันจะดูตลกไปสักหน่อยที่มากำหนดเวลากลับบ้านเหมือนเธอเป็นเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
แต่อิงนรีก็ยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี เพราะไม่อยากมีปัญหากับป้าของตัวเอง
"คิดว่าจะขัดคำสั่งกันแล้วซะอีก"
เสียงของสาวใหญ่ ในชุดนอนเรียบหรูดังขึ้น
ขณะที่ร่างระหงกำลังจะเดินผ่านห้องรับแขกในบ้าน เพื่อขึ้นไปยังห้องตัวเองบนชั้นสอง
"นี่คุณป้ายังไม่นอนอีกเหรอคะ?" เท้าเล็กพลันชะงักก่อนจะหันไปถามด้วยความประหลาดใจ เพราะปกติแล้ว
แม้ว่าป้าของเธอนั้นจะกำหนดเวลากลับบ้านให้ แต่ก็ไม่เคยมารอแบบนี้สักที
"หลับไปแล้วมั้ง
นี่ฉันคงจะละเมออยู่ หรือไม่...นี่ก็เป็นจิตที่ฉันถอดเอาไว้รอรับแก"
เจ้าของบ้านกล่าวประชดประชัน
หลานสาวถอนหายใจก่อนจะยิ้มแล้วเดินเข้าไปโอบกอดร่างท้วมของคนเป็นป้า
"เป็นห่วงหนูละสิ"
"อย่ามาเกาะแกะ
เหม็นน้ำละมุด!!" คนถูกกอดว่าพลางสะบัดตัวออก อิงนรีรู้ดีว่าท่าทางพวกนั้น
ก็แค่การแสดงของคนแก่ขี้ใจน้อยอย่างป้าเธอเท่านั้นเอง ความจริงแล้วป้าเธอนั้น
ทั้งรัก และห่วงเธอมากกว่าใคร ๆ
"งั้นป้าจะบอกหนูได้หรือยัง
ว่ามารอหนูทำไม"
"ฉันจะบอกว่า ที่คุยกันไว้
ว่าจะไปเชียงใหม่อีกสองสามวัน ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว"
"เปลี่ยนใจ? จะไม่ไปแล้วเหรอคะ?"
"โอ๊ย!! ไปสิ
ที่บอกว่าเปลี่ยนใจน่ะ ฉันจะไปพรุ่งนี้"
"อะไรนะคะ!!!" อิงนรีโวยลั่น
เธอคิดว่ากำหนดการจะถูกเลื่อนออก ไหงถึงกลายมาเป็นเลื่อนเข้าไปเสียได้
"ดึกดื่นแบบนี้แกจะตะโกนทำไมยายอิง!!
ก็พอดีว่างานการกุศลที่คุยกันไว้ยกเลิกไปแล้ว
ฉันว่าง...ไปมันพรุ่งนี้เลยก็แล้วกัน"
"แต่หนูยังไม่ได้เก็บของเลย
ไม่ทันหรอกค่ะ"
"ฉันให้ชื่นเก็บให้แล้ว
เสื้อผ้าแกฉันก็จัดการเลือกเองกับมือ รับรองได้เลยว่าจะไม่มีไปวับ ๆ แวม ๆ ให้ฉันขายขี้หน้าแน่
ๆ"
"ป้า...."
"ไม่ต้องเถียง รีบไปนอนซะ
ฉันจองตั๋วรอบเช้าเอาไว้แล้ว" อิงนรีสิ้นคำจะเถียง
ได้แต่ทำหน้าหงิกหน้างอเท่านั้น ดีเสียว่าคืนนี้เธอชิงไปปาร์ตี้กับเพื่อนก่อน
ไม่อย่างนั้นละก็คงจะได้ไปอยู่เชียงใหม่ยาวแบบไม่ได้ล่ำลากันแน่
แม้จะไม่เห็นด้วยกับความคิดของป้า
แต่อิงนรีก็ทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่เดินกระทืบเท้าขึ้นห้องของตัวเองเท่านั้น
"ทำไมยังไม่มีใครทักมาสักคน"
อิงนรีบ่นพึมพำคนเดียว เมื่อเช็กดูข้อความและพบเพียงความว่างเปล่า
เพื่อนคนหนึ่งก็กลับแท็กซี่ อีกคนก็เมาแถมยังต้องขับรถกลับเอง
[สามซ่า line group]
อิง : ถึงไหนกันแล้ว
อิงนรีตัดสินใจทักหาเพื่อนในไลน์กลุ่ม
แก้ว : ถึงแล้ว ๆ ขอโทษที่ลืมบอก
ไปอาบน้ำมา
มีเพียงมาลาแก้วที่อ่านข้อความ
ทำให้อิงนรียิ่งรู้สึกเป็นกังวล
อิง : ทำไมยายหยาดเงียบไปเลย
แก้ว : นั่นสิ @หยาดฟ้า ตอบหน่อย
อิง : โทรหาก็ไม่ติด
แก้ว : แบตหมดหรือเปล่า
ปกติหยาดไม่ค่อยชาร์จมือถืออยู่แล้ว
อิง : มันน่าตีจริง ๆ
อิง : ฉันจะบอกว่า
พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้ว ป้าเปลี่ยนกำหนดการ
แก้ว : เร็วจัง
แต่ยังไงก็เดินทางปลอดภัยนะ เจอกันวันแต่ง
อิง : ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาเลยจ้ะ!!
หลังคุยกับเพื่อนจบ อิงนรีถึงลุกไปอาบน้ำ
แล้วเช็กข้าวของที่ป้าเก็บให้ เพิ่มเติมอะไรที่ยังขาดเหลือ
แอบเอาเสื้อผ้าที่ชอบไปได้อีกกระเป๋า แค่นี้ก็สบายใจแล้ว
"เฮ้อ...นี่ฉันต้องไปแต่งงานกับใครก็ไม่รู้จริง
ๆ น่ะเหรอ" ปากเรียวบ่นพึมพำคนเดียว ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียง เธอหวนคิดถึงชีวิตที่อิสระ
ต่อจากนี้ไปหากแต่งงาน มันคงจะยุ่งยากมากแน่
หนึ่งคือเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับว่าที่คู่ชีวิตตัวเองเลย
เกิดเขาเป็นคนพิกลพิการเธออาจจะต้องมีภาระเลี้ยงดูเขาอีก จะนิสัยใจคอแบบไหนกัน
หน้าตาจะอัปลักษณ์แค่ไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวลใจ อยากปฏิเสธ แต่ป้าก็ดูจะจริงจังเหลือเกิน
อีกอย่างเธอเองก็หนีการจับคู่ของป้ามาหลายครั้งแล้ว
ถ้าครั้งนี้จะหนีอีกป้าคงไม่พอใจมากแน่ ๆ
"อยู่กันได้ก็อยู่
อยู่ไม่ได้ค่อยเลิกก็แล้วกัน" อิงนรีกล่าวก่อนจะหลับตาลง
อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดแล้วละ
บนรถตู้ที่เดินทางจากสนามบินเชียงใหม่
มุ่งหน้าตรงไปที่บ้านไร่นายเหนือ ร่างบางนอนหลับด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง
"ยายอิง" เสียงของป้าที่กระซิบเรียกหลานสาว
หวังจะปลุกให้ตื่น ตอนนี้รถได้เข้าใกล้จุดหมายเต็มทีแล้ว
คุณหญิงอรุณวลีอยากจะกำชับเรื่องมารยาทกับหลานสาวอีกสักหน่อย
"ยายอิง!! ตื่นได้แล้วจะถึงแล้วเนี่ย"
"โอ๊ยคุณป้า...ถึงแล้วค่อยเรียกอิงได้ไหมคะ
ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ"
"ไม่ได้!! ตื่นเดี๋ยวนี้"
"โอ๊ย!! ตื่นมาตั้งแต่เช้า กว่าจะขึ้นเครื่อง
แล้วยังนั่งรถต่อมาอีกตั้งไกล อิงง่วง" หลานสาวหัวดื้อว่าพร้อมทั้งทำท่าจะเอนตัวลงนอน
แต่กลับต้องสะดุ้งโหยงตื่นขึ้น
เพราะนิ้วอวบที่สวมแหวนเพชรแหวนพลอยจนเต็มมือหยิกเข้าที่ขาอย่างแรง
"โอ๊ยคุณป้า!! อิงเจ็บนะ" เธอโวยลั่น
"ก็หยิกให้เจ็บน่ะสิ
ฟังที่ฉันจะพูดก่อนเพราะมันสำคัญ" อิงนรีทำได้เพียงถอนหายใจ
และสลัดความอ่อนเพลียทั้งหมดทิ้งไป เพื่อตั้งใจฟังป้าของเธอเท่านั้น
"สายบัวเพื่อนฉันน่ะเป็นกุลสตรี เป็นคนเจ้าระเบียบ
พูดจาไพเราะน่าฟัง แกน่ะ...ไม่มีสักอย่าง
แต่ไปอยู่กับเขาก็ช่วยฝืนอกฝืนใจทำสักหน่อย อย่าให้มันขายหน้ามาถึงฉัน
แค่เขาไม่รู้เรื่องฉาว ๆ ที่แกทำทิ้งเอาไว้ให้ฉันขายหน้าที่กรุงเทพฯ นี่ก็นับว่าเป็นบุญมากแล้ว"
"แล้วถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมา
จะไม่ด่าป้าทีหลังหรือไง"
"คนอย่างสายบัวน่ะไม่มาด่าฉันหรอก
แต่ก็คงจะเคืองใจกันอยู่นิดหน่อย ฉันก็จำใจทำ
ไม่ได้อยากจะย้อมแมวมาขายให้เพื่อนหรอกนะ แต่ก็อยากให้แกได้เจอคนดี ๆ" คำพูดที่คุณหญิงอรุณวลีพูดถึงหลานสาวอาจจะฟังดูเหมือนเลวร้ายไปบ้าง
แต่ความจริงแล้วนั้น ข่าวซุบซิบวงการไฮโซที่พูดถึงอิงนรี
ก็เป็นเพียงข่าวโคมลอยที่คนเขียน เขียนกันสนุก ๆ
ให้สาวโซเชียลว่างงานได้มีอะไรทำก็เท่านั้นเอง
กว่าคุณหญิงอรุณวลีจะเปิดคอร์สอบรมหลานสาวฉบับเร่งด่วนจบ
รถก็เคลื่อนมาถึงบ้านของแม่เลี้ยงสายบัวพอดี บรรยากาศรอบบ้านนั้นร่มรื่นน่าอยู่
สมเป็นบ้านพักบนเขา
ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงตัวบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์
เห็นแล้วสดชื่นผ่อนคลาย ตัวบ้านเป็นบ้านไม้ยกสูง มีใต้ถุน
ประดับประดาด้วยโคมล้านนาจำนวนมาก อิงนรีที่บอกว่าไม่อยากมา
เห็นบรรยากาศที่นี่ก็ยังนึกเปลี่ยนใจ
"วลี..." เจ้าบ้านเดินออกมารอต้อนรับแขกพิเศษด้วยสีหน้ายินดี
เธอมองดูเพื่อนสาว ก่อนจะแอบมองดูเด็กสาวที่กำลังเพลินอยู่กับการมองไปรอบตัว
"นี่เหรอหนูอิง สวยมากเลย"
แม่เลี้ยงสายบัวแอบกระซิบถาม
"ใช่แล้วจ้ะ เอ่อ....อิงจ๊ะ
อิง...เอ่อคงจะตื่นเต้นน่ะ ปกติไม่ค่อยได้ไปไหน"
เสียงเรียกของป้าไม่เข้าไปในโสตประสาทเลยแม้แต่น้อย อิงนรีผู้กำลังเพลินอยู่กับการเดินชมนกชมไม้
ยิ้มเคลิ้มไปกับบรรยากาศในบ้าน
"อิง!!"
"ค...คะ?" คนถูกเรียกสะดุ้งโหยง
"นี่คุณป้าสายบัว..."
คุณหญิงอรุณวลีแนะนำให้กับหลานสาว พลางส่งสายตาบอกให้อิงนรีนั้นยกมือขึ้นมาประณมให้งาม
ๆ แล้วกล่าวคำว่าสวัสดี
"สวัสดีค่ะคุณป้าสายบัว"
และเหมือนว่าจิตของป้าหลานคู่นี้จะส่งถึงกันได้
อิงนรีทำตามความต้องการของป้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"เรียกแม่ก็ได้
เดี๋ยวก็จะได้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วลูก...เข้าบ้านก่อนเถอะ
เราเตรียมของไว้รอวลีเยอะเลย" แม้แต่ในตัวบ้านก็ยังตกแต่งด้วยต้นไม้เล็กๆ และคงความเป็นล้านนาเอาไว้ได้อย่างลงตัว
อิงนรีรู้สึกพอใจกับบ้านหลังนี้มาก การตกแต่งสวยไม่แพ้โรงแรมเลยทีเดียว
"เดี๋ยววาดช่วยเอาของคุณๆ เขาไปเก็บทีนะ"
สายบัวหันไปสั่งกับสาวใช้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะหันกลับมาหาเพื่อนและว่าที่ลูกสะใภ้
"เดี๋ยวเราไปนั่งพักคุยกันที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะ
เดินทางมาเหนื่อยๆ"
ในห้องนั่งเล่นมีการจัดเตรียมอาหารว่างและเครื่องดื่มรอไว้แล้ว
"ไม่ได้มานาน ต้นไม้โตแล้วน่าอยู่กว่าแต่ก่อนเยอะเลย"
อรุณวลีเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมองไปนอกหน้าต่าง
"คนแก่อยู่แต่บ้าน ไม่ได้ทำงานอะไร เหงาๆ
ก็สั่งต้นไม้มาลง นี่ก็ปลูกจนไม่มีที่จะปลูกแล้ว แต่ก็ยังอยากได้เพิ่ม"
สองเพื่อนซี้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
"แล้วหนูอิงเป็นไงบ้างลูก เดินทางไกลเหนื่อยหรือเปล่า"
สายบัวหันไปถามอิงนรีที่ยังคงเพลิดเพลินอยู่กับการชมนกชมไม้
"ไม่เลยค่ะ ยิ่งมาเจอต้นไม้ดอกไม้แบบนี้ยิ่งสดชื่น
ที่นี่น่าอยู่มากเลยค่ะ" อิงนรีตอบอย่างจริงใจ
"ชอบก็ดีแล้วลูก บ้านพี่เหนือบรรยากาศดีกว่านี้อีก
เพราะอยู่สูงกว่าที่นี่ ตื่นเช้ามาเจอทะเลหมอกสวยๆ อากาศเย็นไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเลย"
สายบัวรีบอวดลูกชาย แต่อิงนรีกลับมุ่นคิ้วยุ่ง
เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงใครอยู่กันแน่
"เอ่อ...แม่หมายถึงเหนือภูผาลูกชายแม่น่ะ
จริงสินี่วลียังไม่ได้แนะนำให้หนูอิงรู้จักเหรอ"
"ยังหรอก ก็อยากให้มารู้จักกันที่นี่"
"อ๋อ...เย็นนี้คงได้เจอกัน
ถ้าตาเหนือมาเห็นน้องคงจะถูกใจน่าดู
แต่ก็ไม่รู้ว่าหนูอิงจะถูกใจลูกชายแม่หรือเปล่า"
อิงนรีได้ฟังแบบนี้ก็ยิ่งปักใจเชื่อว่าเหนือภูผาคนนี้
จะต้องขี้ริ้วขี้เหร่จนหาเมียไม่ได้จริงๆ แน่
"จริงๆ อิงไม่ได้ติดเรื่องหน้าตาหรอกนะคะ ขอแค่เป็นคนดีก็พอ
อุ๊บ..." แขนขาวถูกนิ้วของอรุณวลีหยิกเข้าเต็มๆ
คำพูดเมื่อครู่ฟังดูคล้ายกำว่ากำลังดูถูกอีกฝ่ายจนทำให้คนเป็นป้าต้องรีบปราม
"เอาไว้เจอกันแล้ว
ค่อยตัดสินใจดูนะว่าหล่อหรือไม่หล่อ" สายบัวกล่าวอย่างเอ็นดู
ทั้งสามคนนั่งคุยเล่นกันอยู่นาน สายบัวก็เชิญให้สองป้าหลานขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง
เพราะกลัวจะอ่อนเพลียจากการเดินทาง ถึงเวลาอาหารค่ำแล้วจะให้คนขึ้นไปตาม
"คุณป้าคะ
ไม่ใช่ว่านายเหนืออะไรนี่จะขี้เหร่อัปลักษณ์จนหาเมียไม่ได้หรอกนะคะ
อย่างน้อยจะมีผัวทั้งทีอิงขอหล่อๆ ก็แล้วกัน โอ๊ย!!"
"หุบปากไปเลย แกไม่เห็นเหรอว่าสายบัวเขาดีขนาดไหน
มีแม่ผัวดี โชคดีกว่ามีผัวดีซะอีกจำเอาไว้เลย
"โอ๊ยอิงไม่สนหรอก
แค่อยากรู้ว่านายเหนือเนี่ยร่างกายครบ 32 รูปร่างหน้าตากลางๆ
ไม่ถึงกับแย่หรือเปล่า"
"ฉันก็จำไม่ได้แล้ว ไม่ได้เจอกันนาน"
"ขนาดป้ายังไม่กล้ารับประกันเลย"
"โอ๊ยอย่าเรื่องมาก
ไว้เดี๋ยวเย็นนี้ก็ได้เจอกันแล้ว"
"ถ้าไม่หล่อ อิงไม่แต่งหรอกนะ"
"ไม่ได้!!"
"หึ้ยยย"
อิงนรีทิ้งตัวลงนอนก่อนจะดึงเอาผ้าห่มมาคลุมตัว 'เป็นตายยังไงก็ต้องแต่งน่ะเหรอ
เกิดมีผัวพิการขึ้นมาจะทำยังไงกัน?'
ติดตาม พูดคุยเป็นกำลังใจนักเขียนได้ที่เฟสบุ๊คนักเขียนตามรูปเลยนะคะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!