ในดินแดนทางเหนือที่เต็มไปด้วยซากอารยธรรมแห่งเทพที่ล่มสลายที่แห่งนี้มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่าดินแดนรกร้างจากสงคราม เมื่อหลายพันปีก่อนที่ตรงนี้เคยเป็นที่ตั้งของสวนพฤกษาสวรรค์อันเป็นที่สถิตของพลังขีวิตมหาศาลแต่แล้วมาวันนึงเพราะความเห็นแก่ตัวของใครบางคนทำให้ดินแดนแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งอารยธรรมที่สูญสิ้น....
ทว่าในแดนรกร้างอย่างนี้ใช่ว่าจะไม่มีผู้คนหรือเซียนอาสัยอยู่เลย ทางตอนใต้ของดินแดนรกร้างเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสือชาน หมู่บ้านที่มีแต่ผู้คนธรรมดามีพลังปราณและพลังเวทย์เพียงน้อยนิดในการดำรงชีวิต
แต่ทว่าในที่ยังไม่เอ่ยถึงนี้ยังมีเด็กน้อยคนนึงชื่อว่า หวังหลินเขาเป็นคนเดียวที่เกิดมาพร้อมกับคำนายของแม่เฒ่า ในอนาคตเขาจะเป็นผู้ฟื้นฟูดินแดนแห่งนี้ให้กลับมาอุดมณ์สมบูรณ์เช่นเดิม
แต่โชคชะตาก็มักจะเล่นตลกในวันที่เขาถือกำเนิดขึ้นมาจริงๆกลับไม่มีแม้กระทั่งพลังเวทย์แม้แต่น้อยทำช้าวบ้านละความสนใจจากเด็กน้อย หวังหลินในวัยทารกไม่รู้เรื่องอะไรด้วยได้แต่ยิ้มให้กับโชคชะตา
เวลาผ่านไป 15 ปี เด็กน้อยได้เติบโตขึ้นแล้วเป็นไปตามดังคำทำนานยที่แม่เฒ่าเคยทำนายเอาไว้หวังหลินมีพลังเวทย์ประเภทรักษาต่อให้เป็นดินแดนศักสิทธิ์ พลังนี้ก็ถือเป็นเวทย์ชั้นสูงไม่ใช่ว่าใครจะใช้ก็ได้ทำให้เด็กน้อยในวันนั้นกลายเป็นที่ยอมรับของผู้คนมากขึ้น
เวลาผ่านไปแล้วไปเล่าเด็กหนุ่มก็ได้เติมโตขึ้นเขามีอายุได้สิบแปดปีแล้วพลังเวทย์รักษาที่ตื่นขึ้นตอนนั้นมาวันนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นมาในระดับนึงทำให้เขาใช้พลังได้อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อยราวกับว่าเขาคือพลังชีวิตมหาศาลเคลื่อนที่ได้
"เห้อวันนี้ก็เป็นอีกวัน ที่ข้าต้องนั่งอยู่อย่างงี้โดดเดียวเดียวดาย" หวังหลินมองไปหน้าหมู่บ้านช้าวบ้านต่างออกมาใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข..พ่อแม่...เขารู้สึกอิจฉาเด็กพวกนั้นที่ไปไหนมีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพ่อกับแม่ได้แต่ว่าเขานั้นตั้งแต่เขาเกิดได้ไม่นานแม่ของเขาก็ได้หายสาปสูญส่วนผู้เป็นพ่อนั้นเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าอยู่ที่ไหน
พลังแสงสีเขียวสว่างออกมาจากมือของหวังหลินเขาสบัดมือกลางอากาศไม่กี่ทีต้นดอกไม้ฟ้าที่เคยแห่งเหี่ยวก็ฟื้นฟูกลับมาสวยงามดังเดิมแถมออกดอกเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
..นี่มันข้าทำแบบนี้ได้ด้วยรึไม่รู้มาก่อน ก็เป็นหวังหลินที่ตกใจ..เพราะเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่านอกจากพลังของเขาจะสามารถรักษาบาดแผลแล้วยังทำแบบนี้ได้ด้วยแต่ก็นะหวังหลินก็มีแค่พลังเวทย์รักษากับเวทย์ฟื้นฟูเท่านั้นไม่ได้มีพลังในการต่อสู้เหมือนคนอื่นๆในหมู่บ้าน
แต่ว่าเขานั้นเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้โดยเฉพาะลุงเจิ้งที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มีความสัมพันธุ์ทางสายเลือดแท้ๆแต่ว่าท่านดีกับข้ามากจนข้าไม่อยากจากหมู่บ้านนี้ไปเลย....ใช่เขาอยากออกไปตามหาพ่อแม่
หมู่บ้านแห่งนี้ก็มีการมีงานทำเหมือนกันนะอย่างเช่นหวังหลินที่ต้องเข้าเมืองไปเป็นหมอเพื่อรักษาผู้คนและเขายังได้ความรู้เรื่องสมุนไพรมาด้วยทุกคนในที่นี้รู้ว่าดินแดนที่เราอยู่นี้อยู่ใต้ล่างของสามภิภพแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ก็ไม่ใช่แสงจริงๆแต่คือเสงเกิดจากพลังงานเวทย์มหาศาลทำให้ที่แห่งนี้ไม่มีกลางคืน
ว่ากันว่าที่รกร้างแห่งนี้ครั้งนึงเคยสูงเท่าเทียมกับตำหนักสวรรค์แต่ที่ตกลงมายังดินแดนเบื้องล่างเพราะว่าพลังที่สถิตดินแดนแห่งนี้ได้หายไป หวังหลินเป็นพวกชอบศึกษาหาความรู้และประวัติศาสตร์ของเผ่าต่างๆ
แดนรกร้างก็มีเจ้าดินแดนเช่นเดียวกัน นั่นคือราชาเฟิ่งหนาน กับพระนางชิงเสวี่ย เป็นเจ้าดินแดนปกครองที่แห่งนี้มาร้อยกว่าปีแล้วพวกท่านมีพลังกึ่งเซียนหรือระดับสรรพสิ่งขั้น9ที่เชื่อกันว่าสามารถเหยียบแดนเซียนได้แล้ว
ระดับพลัง กำเนิด หวงเจ๋อ ต้าเจ๋อ หลิงตัน สรรพสิ่ง
ทุกระดับชั้นแบ่งออกเป็น เก้าระดับ
ภายในหมู่บ้านยังประกอบไปด้วยจตุรทิศทั้งสี่นั่นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหมู่บ้านสือชาน ประกอบด้วย จิน หลิง ตัน เฟิง เป็นชื่อเรียกของวิเศษที่คอยปกปักรักษาหมู่บ้านแห่งนี้อยู่
คนในหมู่บ้านเชื่อว่าจตุรทิศะวกนี้ถือกำเนิดขึ้รพร้อมกับดินแดนแห่งนี้ความเป็นมาไม่แน่ชัดแต่ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติหรืออสูรบุกหมู่บ้านก็มีมันนี่แหละที่ขับไล่อสูรออกไปได้
"หวังหลินหะวหน้าหมู่บ้านเรียกเจ้าเข้าพบรีบไปหาท่านเถอะ"หวังหลินหันหน้าไปขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะลุกออกไป
อย่างที่เขาเคยบอกไปว่าที่นี่เป็นดินแดนรกร้างพืชไม่สามารถเจรอญเติบโตได้เพราะแสงอาทิตย์ส่องไม่ถึงมีเพียงพลังเวทย์เท่านั้นที่ทำให้เกิดการเจริญงอกเงยได้คนในหมู่บ้านต่างแบ่งงงานกันทำ
หวังหลินมีหน้าที่หาสมุนไพรเพื้อมาเก็บในคลั่งหมู่บ้านเพราะสงครามของเผ่าต่างๆยังประทุอย่างต่อเนื่องคนในหมู่บ้านก็มีคนเจ็บป่วยตลอดเวลาและอีกอย่างหมู่บ้านนี้ตัดสัมพันธุ์จากดินแดนภายนอกโดยสมบูรณ์ มีแม่น้ำมหานทีล้อมรอบและป่าบรรพตล้อมไว้อีกชั้นนับว่าปลอดภัยมากทีเดียวแต่ก็ออกไปได้ยากเช่นกัน
"หวังหลินมาแล้วรึมานี่มาหาลุงก่อน"นี่คือลุงหวังเป็นพ่อบุญธรรมหวังหลินเลยก็ว่าได้เขาเป็นคนเลี้ยงดูทุกอย่างให้ความให้น้ำให้ที่อยู่อาศัย
"ขอรับท่านลุง มีอะไรให้ข้าช่วย"ชายชรายิ้มอ่อนก่อนพายมือไปด้านข้างให้เห็นหญิงสาวท้องแก่นั่นคือป้าชุนนางเป็นภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้าน
หวังหลินต้องแปลกใจอีกครั้งเพราะป้าชุนต้องคลอดตั้งนานแล้วและนี่ก็เลยกำเนิดมานานมากทำไมถึงยังไม่คลอดอีกหวังหลินหันไปสบตากับชายชราก็พลันเข้าใจที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองพลังชีวิตของท่านป้าเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ
หวังหลินไม่รอช้าก่อนที่พลังเวทย์ที่เขียนอ่อนโยนดั่งสายน้ำจะค่อยๆประคองร่างของป้าชุนให้ลอยขึ้นกระแสพลังเวทย์ของหวังหลินเต็มไปด้วยพลังชีวิตมหาศาลป้าชุนที่ได้รับสีหน้าก็เริ่มมีเลือดฝาดมากขึ้น
"ข้าต้องขอขอบคุณเจ้ามากจริงๆหวังหลิน"หวังหลินรีบไปประคองชายชราที่ทำท่าจะคุกเข่า
"ท่านลุงท่านไม่ต้องทำถึงขนาดนี้นี่มันเป็นหน้าที่ข้าอยู่แล้วให้ข้าช่วยท่านตอบแทนพระคุณ"ชายชราก็อดน้ำตาซึมไม่ได้ก่อนจะพูดกำชับกับหวังหลินอีกที
"ในตอนที่เจ้าออกตามหาพ่อแม่ของเจ้าจงจำไว้ว่าด้านนอกหมู่บ้านนี้ไม่ได้มีแต่คนดีเจ้าจงคำของลุงไว้ดีๆว่าห้ามให้ใครรู้ถึงพลังของเจ้าเด็ดขาดถ้ายังไม่อข็งแกร่งพอ"หวังหลินพยักหน้ารับคำอย่างแน่วแน่ก่อนจะเดินกลับไปที่กระท่อมท้ายหมู่บ้านเพื่อเก็บของออกท่องโลกกว้าง
"หวังว่าตำราที่เจ้าอ่านจะช่วยเจ้าได้บ้างนะหวังหลิน"
หวังหลินเขาเก็บของเอาสิ่งที่จำเป็นไปพร้อมกับแผนที่เขาต้องมุ่งหน้าไปเมืองหลวงทางที่จะผ่านไปทางนั้นโดยตรงต้องไปยังป่าบรรพตที่นั่นใกล้กว่าและปลอดภัยกว่า
ป่าบรรพตไม่ใช่ว่าไม่อันตรายที่เข้าไปลึกเท่าไหร่ยิ่งอันตรายแต่อันตรายน้อยกว่าเส้นทางหลังแน่นอนเพราะอีกที่นั่นคือมหานทีแห่งการดับสูญหรือแม่น้ำแห่งความตายดีๆนี่เอง
หวังหลินออกเดินทางตอนนี้เขาเข้ามาถึงเขตป่าชั้นนอกแล้วระหว่างทางก็เจอกับอสูรระดับต่ำบ้างแต่พวกมันไม่ได้เข้ามาทำร้านเขาเหมือนจะเป็นเพราะพลังเวทย์เฉพาะของเขาที่เป็นมิตรกับที่นี่พวกมันเลยปล่อยผ่านไม่สนใจการคงอยู่ของเขาเท่าไหร่
หวังหลินมองไปข้างหน้าก็ถึงรอยต่อของป่าชั้นในแล้ว ด้านหน้าเป็นป่าทึบที่เกิดจากเวทมนต์พืชด้านในล้วนเป็นพืชวิเศษที่เกิดจากพลังเวทย์เขาเริ่มจะต้องเริ่มหาที่พักผ่อนก่อนแล้วไม่งั้นเดินต่อไปไม่รู้ว่าเขาจะเจออะไรบ้างแถมด้านหน้าก็อันตรายมากด้วย
"เจ้าควรพักผ่อนได้แล้วหนุ่มน้อย"ต้นวิหคเพลิงท้วงติงหวังหลินก็พยักหน้า
อ่าลืมบอกไปเลยความสามารถพิเศษของหวังหลินอีกอย่างหนึ่งคือสื่อสารกับต้นไม้เวทย์ได้เกือบทุกชนิดทำให้เขาไม่เหงาเลยเวลาเดินเข้าป่าและนี่คือเหตุผลที่เขาเดินมาตั้งนานยังไม่พบอันตรายนอกจากพลังที่เป็นมิตรแล้วต้นไม้เวทย์ทุกต้นล้วนเป็นมิตรกับเขา
"แต่ว่านั่นตัวอะไรน่ะ!!?!"
"นี่มันหวังหลินเขาตกใจมากสัตว์รูปร่างประหบาดนี่มันคือตัวละอะไรกัน"เขาจ้องมองไปยังสัตว์อสูรข้างหน้ามีรูปร่างคล้ายมาแต่มีเขาเป็นยอดอัญมณีมีปีกสีขาวสว่างบริสุทธิ์
"นี่ๆเจ้าหนุ่มข้าเป็นต้นไม้ก็มีอายุหลายร้อยปีแล้วสิ่งนี้มันคือฉิงอี้เป็นสัตว์ในตำนานปกติแล้วบางตัวจะมีแค่เขาและปีกเท่านั้นแต่นี่มีทั้งสองอย่างพร้อมกันคงเป็นเพราะว่าสายเลือดในกายเป็นระดับที่สูงมากแน่ๆ"หวังหลินพยักหน้าเป็นเชิงแต่เขาก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมสัตว์ในตำนานถึงม่อยู่แถวนี้
"นี่!พวกเจ้าเห็นข้าเป็นเด็กรึไง ข้าคือเชื้อพระวงศ์ระดับสูงแล้วสายตาที่พวกเจ้ามองข้ามันคืออะไรกัน"
"..."
"มันพูดได้ด้วยท่าน!"หวังหลินหันไปคุยกับต้นวิหคเพลิงม้าน้อยอดกรอกตาไม่ได้นี่มันไม่ได้อยู่ในสายตาสองคนนั้นตั้งแต่แรกเลยสินะ
"นี่เจ้าเด็กตัวเหม็นให้ความสนใจข้าหน่อยได้ไหม"หวังหลินหันไปจ้องม้าน้อยก่อนจะทำท่าสูดดมอะไรบ้างอย่างแล้วก็เอามือปิดจมูก
ม้าน้อยฉิงอี้เห็นการกระทำนี้อย่างชัดเจนมันเข้าใจแล้วว่าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องการมีเรื่องแน่ๆ
"เจ้าม้าสกปรกมาว่าครอื่นตัวเหม็นแต่กลิ่นสาปในตัวเจ้าเนี่ยเคยอาบน้ำบ้างรึป่าว"หวังหลินเชิ่ดหร้าขึ้นพลางดูถูกอีกฝ่าย
"เจ้าว่าใครเหม็นสาป!กันข้าคือฉิงอี้สัตว์เทวะในตำนานเจ้าได้ยินหรือไม่!"
"หึ"หวังหลินยกมือทั้งสองข้างก่อนจะซัดพลังเวทย์ใส่สัตว์ในตำนานอย่างฉิงอี้
ฉิงอี้เบิกตากว้างไม่คิดว่ามนุษยฺหนุ่มตรงหน้าจะร้ยกาจขนาดนี้แล้วออร่าที่เป็นมิตรกับทุกสิ่งนั่นละเป็นเรื่องโกหกนั้นรึ
"ให้ตายเถอะมนุษย์ตัวเหม็นกลับบังอาจโจมตีข้าผู้นี้"เขาของฉิงอี้เริ่มเปล่งแสงขึ้นก่อนที่จะมีพลังเวทย์พุ่งออกมาเพื่อโจมตีเด็กหนุ่ม
หวังหลินก็ไม่ได้น้อยหน้าก่อนที่เขาจะใช้พลังเวทย์พฤกษาควบคุมเชือกเถาวัลย์รัดอีกฝ่ายไว้ฉิงอี้ที่ถูกพันธนาการอยู่ก็ดิ้นอย่างสุดกำลังแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าเถาวัลย์เส้นนี้จะขาดออกมาเลย
"ข้ายอมแพ้แล้ว"หวังหลินที่อีกฝ่ายสิ้นท่าเขาก็หยุดโจมตีก่อนจะเคลื่อนตัวไปใกบ้อีกฝ่าย
"เจ้าเป็นใครมาที่นี่ทำไม ใครส่งเจ้ามา"ฉิงอี้กลืนน้ำลายเหนี้ยวลงคออย่างอยากลำบากก่อนจะพูดออกมา
ที่แท้ฉิงอี้ตัวนี้ก็คือองค์ชายน้องของเผ่าฉิงอี้มีนามว่าเสี่ยวเฉิงอันที่ถูกทำนายว่าต้องติดตามเด็กหนุ่มผู้นึงและคอยปกป้องเขาให้ปลอดภัยเด็กหนุ่มคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหวังหลิน
ชาติกำเนิดของเขายังเป็นปริศนามาโดยตลอดเพราะงั้นเขาต้องตามหาพ่อกับแม่ให้เจอพวกท่านคงไปดิรแดนแท้จริงแล้วกระมั่งหวังหลินถอนหายใจช้าๆ
แต่ก็ดีเหมือนกันเขาจะได้ไม่เหงาถ้ามีเสี่ยวเฉิงอันอยู่ด้วยแถมเจ้าตัวนี้ก็เหมือนจะบินได้ประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากโข
ต้นวิหคเพลิงได้มอบใบไม้เพลิงโลกัณฑ์ให้หวังหลินไว้ป้องกันตัวเป็นจำนวนคนทางข้างหน้าล้วนแต่อันตรายจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึงรวมถึงพวกเทพเซียนด้วย
"ข้าจะให้เจ้าติดตามข้าก็ได้แต่ข้าต้องรู้ก่อนว่าเจ้ามีประโยชน์อะไรบ้างในการเดินทาง"เสี่ยวเฉิงอันเชิ่ดอกราวกับหงส์ที่ชูคอได้ท่าทางนั้นอดทำให้หวังหลินมั่นใส้ไม่ได้
"ข้าคือองค์ชายน้อย เสี่ยวเฉิงอัน มีพลังเวทย์ในการต่อสู้นะดับสูงพลังควบคุมธรรมชาติระดับเหนือสรรพสิ่ง"หวังหลินที่ฟังอีกฝ่ายพูดออกมาไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือไม่ตอนประมือกับเขาก็เหมือนอสูรเวทย์ระดับต่ำทั่วไป
"สายตาที่เจ้ามองจ้าแบบนั้นมันอะไรกันเจ้าไม่เชื่อข้างั้นรึ"เสี่ยวเฉิงอันกระทืบเท้าสองทีก่อนที่แผ่นดินข้างหน้าจะยุบไปเป็นทางยาวหวังหลินอดที่จะตลึงไม่ได้กับภาพที่เห็น
ไม่ใช่ว่าเสี่ยวเฉิงอันไม่แข็งแกร่งแต่เป็นเพราะพลังที่หวังหลินครอบอยู่พิเศษเกินไปธรรมชาติล้วนปกป้องเขาถ้าไม่ใช่คนที่มีระดับพลังระดับเทวะขึ้นไปไม่มีใครทำอันตรายเขาได้แน่แต่ว่ามันก็มีขีดจำกัดเมื่อหวังหงินเข้าเทืองที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างมากมายพลังธรรมชาติไม่สามารถเข้ามาแทรกแทรงได้
พลังที่ธรรมชาติให้การปกป้องล้วนไม่ธรรมดาตอนนี้พบังหลินจัดต่ำเตี้ยเรี่ยดินมากเกินไปนอกจากพลังรักษาระดับสูงแล้วความสามารถด้านการต่อสู้ก็ไม่ค่อยจะมีถ้าคนแระสงค์ร้ายหวังหลินคงไม่รอด
ในเมืองล้วนแต่อันตรายถ้าไม่แข็งแกร่งก็ต้องถูกกดขี่ต่อไปหวังหลินเข้าใจกฎแห่งป่าดีแต่ทว่าหวังหลินที่อยู่เฉยๆร่างกายก็เกิดพลังชีวิตมหาศาลประทุขึ้นมาโดยรอย โดยที่จุดศูนย์กลางคือร่างกายของหวังหลินนั่นเอง
พลังชีวิตระดับนี้แม้แต่เจ้าแห่งสรรพสัตว์ก็ต้องแตกตื่นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบจากพลังชีวิตค่อยๆมีวิวัฒนาการจนกลายเป็นพืชใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ต้นวิหคเพลิงที่ตอนแรกแก่ชราใกล้ตายเต็มที่ก็ค่อยๆฟื้นกลับขึ้นมาเขียวชอุ่มดังเดิมใบสิหคเพลิงค่อยเปลี่ยนไปทีละเล็กน้อยก่อนจะกลายเป็นขนของเฟิ่งหวงจำนวนมาก
กลุ่มคนที่อยู่ทางใต้ของป่ารับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงด้วยรอบก็พลันตกใจ
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!