ตอนที่1 ด้ายแดงที่ขาดหาย
ณ แดนสวรรค์
"นี่ๆด้ายแดงสีเข้มของเจ้ายังไม่ขาดหละ!"ลูน่าตะโกนสุดเสียงให้คนข้างในได้ยิน
"เป็นไงบ้าง?เจ็บตรงไหนมั้ย"เธอเดินเข้าไปหาผู้หญิงที่นอนติดเตียงอยู่
ผมสีขาวยาวสยายราวหิมะสะท้อนแสง ริมฝีปากเป็นกระจับแต่ซีดเผือด ดวงตาสีเหลืองเป็นประกายแสง ผิวสีน้ำผึ้ง ท่าทางสุขุมและเรียบร้อย แต่เห็นอย่างนี้ก็แก่นไม่เบานะจ้ะ
"ไม่เป็นไรแล้วหละ คู่ครองข้าจากไปแล้ว ข้าเองก็ต้องไปด้วย"หญิงสาวในชุดนอนสีเหลืองอ่อนบอกอย่างใจเย็น
"ข้าหละแปลกใจจริงๆ การมีคู่ครองนี่มันดีตรงไหน?แล้วไหนเวลาตายเราก็ตายไปด้วยอย่างกับเจ้ากรรมนายเวร อย่างงี้ข้าก็อดเจอเจ้าแล้วสิ"ลูน่าพูดด้วยตาละห้อยพร้อมเหลือบมองหญิงสาวบนเตียง
"เดี๋ยวรอคราวเจ้ามีก่อนเถอะข้าจะคอยดู"
"แต่อาจจะไม่มีวันนั้น...อีกแล้ว"ลูน่าชักสีหน้ากลับไปเศร้าดังเดิม
"เอาเถอะๆ ยังไม่ถึงเวลานั้นเหลือเวลาอีกตั้ง5วัน"หญิงสาวพูดพร้อมกับยิ้ม
"อยากให้นานกว่านี้จัง เนาะสกาย"พูดพร้อมเอามือประสานทาบอกแล้วภาวนา
"เอาเถอะๆ ข้าเริ่มง่วงแล้ว"สกายล่าเอนตัวลงจากหมอนแล้วหนุนแทนโดยมีลูน่าดึงผ้าห่มสีเหลืองมาห่มให้
"เจ้าร้องเพลงท่อนนั้นให้ข้าฟังอีกได้ไหม?"สกายหลับตาลง
"ได้สิ แต่เพี้ยนหน่อยนะ"ลูน่าพยักหน้า
"ฮ่าๆ ไม่เป็นไร"สกายพลิกตัวให้หันมาหาลูน่าพร้อมเอามือยันคางเอาไว้เตรียมฟัง
"เอาหละนะ"ลูน่าลองเชิง
"เร็วๆ!"สกายโวย
" ดังเสียงเพลงแห่งจันทรา ที่ส่องลงมาปลอบโยนหัวใจ ใครเศร้า ใครทุกใจ ก็เลือนหาย ไปกับแสงจันทรา~"ลูน่าร้อง
" ดังเสียงเพลงแห่งสุริยา ที่ส่องลงมามอบให้หัวใจ ใครมืดมน ใครเสียใจ ก็ย่อมเลือนหาย~"
"ก็ย่อมจางหาย~"ร้องคู่กัน
"ไปกับแสงแห่งจันทรา~"ลูน่าร้อง
"ไปกับแสงแห่งสุริยา~"สกายร้อง
"ฮ่าๆๆๆ"ลูน่าหัวเราะ
"ฮ่าๆ"สกายหัวเราะ
"เพลงที่แต่งด้วยกันตอนอายุ5ขวบ คิกๆ"ลูน่าเช็ดน้ำตา
"เป็นเพลงที่เพี้ยนสุดๆ ฮ่าๆ"สกายหัวเราะ
"เจ้าพักผ่อนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าเอาสาลี่ของโปรดเจ้ามาฝาก"โบกมือลาแล้วเดินออกไป
ร่างของสกายค่อยๆหายไป
***วันต่อมา***
ลูน่าตื่นแต่เช้าแล้วรีบไปทำงานให้เสร็จ
"ล่า~ลา~ลั้น~ลา~"ปัดชั้นหนังสือ
ตุบ!!
"หืม? หนังสืออะไรเนี่ย? ความลับของด้ายแดงงั้นหรอ?"หยิบหนังสือขึ้นมาเปิดอ่าน
"ด้ายแดงสีเข้มของเทพไม่เหมือนมนุษย์อาจคลาดเคลื่อนได้อาจจะขาดก่อนตาย หรือขาดกับตายพร้อมกัน หรืออาจขาด...."สะดุ้ง
"ท่านลูน่า!!!!องค์มหาเทพสูงสุด!"หญิงสาวผิวขาว ผมสีดำ ตาสีเหลือง วิ่งหน้าตั้งเข้ามา
"อะไร!? ใจเย็นๆก่อนเทียนา ตั้งสติ!แล้วพูดให้ดีๆ สกายเป็นอะไร?"ลูน่าพูดพร้อมกับลูบหลังเทียนา
"องค์มหาเทพสลายไปแล้วเพคะ!!"
"...."
"ท่านลูน่า..."เสียงสั่น"ท่าน!!!ท่านลูน่า!จะไปไหนคะ!?"พูดพร้อมวิ่งตามหลังไป
ณ ถ้ำแห่งชีวิต
ลูน่ารีบวิ่งปรี่เข้าไปในถ้ำที่มีด้ายแดงเต็มไปหมด แล้วเดินทะลุเข้าไปจับด้ายแดงเส้นหนึ่งที่ดูเหมือนกับเส้นอื่นๆ
"นี่ไง!ด้วยแดงสีเข้มคือด้ายแดงแห่งชีวิต ดูสิของสกายยังไม่ขาดเลย"พูดพร้อมชูให้เทียนาดู
พึ่บ~
"ทะ...ท่านลูน่า"เสียงของเทียนาเริ่มสั่นอีกครั้งน้ำตาเริ่มเอ่อล้นคลอเบ้ามองผู้เป็นนายของตนจ้องด้ายแดงแห่งชีวิตของเพื่อนที่รักที่ขาดลงไปในมือต่อหน้าต่อตา
"..." ลูน่ายืนจ้องด้ายแดงพร้อมกับมีหยดน้ำตาไหลอาบแก้ม
"ไม่จริง"ลูน่าเธอเริ่มกำมือแน่น"ฮือ~ฮืก~อึก ฮือ~"ร้องไห้
"ไม่เป็นไรเพคะ~ ไม่เป็นไร"เทียทาจับไหล่ลูน่าแล้วใช้มืออีกข้าลูบหลัง
"ท่านยังมีข้าอยู่นะเพคะ"เทียน่าพูดปลอบใจ
ตึกๆๆ
"มีข้ายูริด้วยเพคะ"มีอีกเสียงตะโกนมาจากปากทางเข้าถึงจะได้ยินหน่อยๆแต่ก็ชัดถ้อยชัดคำอยู่พอสมควร
"ขอบใจนะทุกคน"ลูน่ายิ้ม
"ไม่เป็นไรเพคะ"ทั้งสองพูดพร้อมกัน
หมับ~
ทั้งสามกอดปลอบใจกัน
ตอนที่ 2 เวทย์ด้วยแดงขั้นที่12
ณ แดนสวรรค์(วิหารหลักลอยฟ้า)
***สองวันต่อมา***
สองวันที่ผ่านมา หลังจากวันนั้นลูน่าก็ยุ่งกับงานคัดเลือกจนไม่มีเวลาไปนั่งเสียใจกับการเกิดใหม่ของสกายมากนัก เพราะการจากไปของสกายหรือมหาเทพสูงสุดองค์ก่อน จากไปเร็วเกินกำหนด ลูน่าที่เป็นรองมหาเทพสูงสุดจึงต้องจัดเตรียมการคัดเลือกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรียกง่ายๆก็คือยุ่งจนตัวแทบปลิว
"จัดเสร็จแล้วใช่ไหม?"ลูน่าที่อยู่ในชุดลำลองตัวเก่งของเธอ เสือสายเดี่ยวสีแดงมีกากเพชร กระโปรงเป็นริ้วสีดำ แต่สีหน้าของเธอดูไม่จืดเลย
"จัดชุดไทยที่ท่านสั่งเตรียมไว้เสร็จแล้วค่ะ แล้วก็แหวนเก็บพลังนี่..."หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ผมสีขาว ตาสีฟ้า ชี้ไปที่แหวนเงินที่ตั้งเรียงกันราวๆ สิบกว่าวง ดูปกติก็เหมือนแหวนธรรมดาทั่วไปไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่มันมีผลกับเทพแค่เพียงเก็บพลัง
แต่! หากมนุษย์สวมแหวนก็จะดูดพลังชีวิตแทนการดูดพลัง ทำให้แก่เร็วนั่นเอง
"เดี๋ยวข้าเอาให้พวกเขาเองพรุ่งนี้ ยูริกลับได้เลยนะ"ลูน่าพูดไปด้วยจัดของไปด้วย
"งั้นข้าขออนุญาตกลับเลยแล้วกันนะเพคะ"ยูริเดินไปหยิบกระเป๋า
พรึ่บ~
ยูริกางปีกบินออกไปจากวิหารลอยฟ้าทันที
"รีบไปไหนของเขากันนะ"ลูน่าพูดพร้อมส่ายหัวเบาๆแล้วหันไปจัดแหวนที่ยูริตั้งไว้แยกใส่กล่องให้เรียบร้อย
**14 ชั่วโมงผ่านไป**
"ฮ้าว~ง่วงจัง"
"ท่านไปพักเถอะค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะต้องยุ่งกับการปรับตัวที่อีกมิตินึง"เทียนาที่มาช่วยเป็นกำลังเสริมทนเห็นท่าทีของลูน่าไม่ไหว
"ก็ได้เดี๋ยวข้าไปก่อนนะ แล้วเจอกัน ฮ่าว~"ลูน่าโบกมือลาพร้อมกับหาวไปด้วย
พรึ่บ~
ลูน่าบินออกไปจากวิหารลอยฟ้าไป
"ท่าจะเพลียจริง ออกไปอย่างไวเลย"เทียนามองตามด้วยความเอ็นดู
#ลูน่า#
ทันทีที่มาถึงห้องเธอก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มฟูที่จัดเป็นระเบียบเรียบร้อยทันทีเพราะช่วงเวลา3วันที่ผ่านมาลูน่าไม่ได้นอนเลยสักครั้ง
ทันทีที่หัวแตะหมอนลูน่าก็สลบลงไปในทันที
***วันต่อมา***
ลูน่านอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มอย่างสบาย
ปัง!
"ท่านลูน่าคะ!ท่านลูน่า นี่มันสายมาแล้วนะคะท่าน"เทียนาที่วิ่งมาด้วยสีหน้าแตกตื่นเดินมาเขย่าตัวลูน่าอย่างแรง
"ตื่นแล้วๆ!!!"ลูน่าลุกพรวดขึ้นวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
"อย่าลืมนะเพคะ! แต่งตัวจัดเต็มด้วยเพคะ แต่!อย่าใส่รัดเกล้ากับรัดแขนไปนะเพคะเดี๋ยวจะไปปนกับองค์รักษ์สวรรค์เอา"ยูริที่พึ่งวิ่งมาถึงตะโกนบอก
"เสร็จแล้ว"ลูน่าเดินออกมาพร้อมกับชุดเดรสสีแดงเป็นริ้วไล่ระดับลงไปถึงเท้า สวมกำไลหยกสีแดงดำเหลือบทอง สวมมงกุฎประจำกายของมหาเทพ(มหาเทพสูงสุดกับรองจะใส่มงกุฎเหมือนกัน) เครื่องประดับสัญลักษณ์พระจันทร์สีเลือด(ของสกายจะเป็นพระอาทิตย์คริสตัล)
"ไปๆๆๆๆๆ ด่วนๆเลยเพคะ"เทียนาวิ่งตะโกนนำหน้าไป
"ไปกันเพคะ"ยูริคว้าแขนลูน่าวิ่งออกไป
ทั้งสามคนวิ่งมาถึงวิหารลอยฟ้า
เห็นคนสิบคนยืนรออยู่
"ท่านลูน่ามาถึงแล้วงั้นแนะนำตัวเลยจ่ะ"เทียนาพูด
"หม่อมชั้นชื่อ ไอรีน(จันทร์) เพคะ"หญิงสาวผมขาวตาสีม่วงพูด
"หม่อมชั้นชื่อ ไอริส(ข้าวจ้าว) เพคะ"หญิงสาวที่ผมขาวตาสีชมพูพูด
"เป็นพี่น้องกันหรอ?"ยูริถาม
"เป็นแฝดกันเพคะ"ไอริสและไอรีนพูดพร้อมกัน
"จ่ะ ขอบคุณมากนะ"ยูริย่อแล้วกล่าวขอบคุณ
"หม่อมชั้นชื่อ ยูจิน(ผึ้ง) เพคะ"หญิงสาวผมทองตาสีเหลืองพูด
"หม่อมชั้นชื่อ อิสล่า(ปราง) เพคะ"หญิงสาวผมดำตาสีเขียวพูดพร้อมเหลือบมองไปทางคนถัดไป
"หม่อมชั้นชื่อ อิสเบล(แก้วฟ้า) เพคะ"หญิงสาวผมสีดำ ข้างซ้ายสีดำ ตาข้างขวาสีแดงพูด
(น่าสนใจ)ลูน่าคิดในใจ
"หม่อมชั้นชื่อ เทียรี่(พิกุล) น้องของพี่เทียนาเพคะ"หญิงสาวผมสีดำตาสีเหลืองผมยาวพูด
"หม่อมชั้นชื่อ เอนริน(มะลิ) เพคะ"หญิงสาวผมสีชมพูตาสีดำพูด
"หม่อมชั้นชื่อ โคลอี้(ชุบ) เพคะ" หญิงสาวผมทองอ่อนตาสีชมพูพูด
"หม่อมชั้นชื่อ นานิ(ทิพย์) เพคะ" หญิงสาวผมดำสั้นตาสีน้ำตาลพูด
"หม่อมชั้นชื่อ นางะ(ยุ้ย) เพคะ"หญิงสาวผมสีดำตาสีแดงพูด
ปล.ในวงเล็บคือชื่อตอนลงไปที่มิติโบราณนะคะ
ปล.2 นางเอกมีตาสองสีนะคะพอลงไปอีกมิติตาจะต้องเป็นสีน้ำตาหรือสีดำทุกคนนะคะรวมถึงผมด้วย ตัวละครก็จะงงนิดนึง เดี๋ยวแอดจะเขียนชื่อไว้ให้บนหัวตัวละครหลังจากวาดหลังจากนี้แล้วกันถ้ามีตัวละครเยอะนะคะ
ต่อ
"พวกเราก็แนะนำตัวแล้วขออนุญาติท่านแนะนำตัวแล้วก็แนะนำเวทย์ของท่านเล็กๆน้อยๆได้หรือไม่เพคะ"ไอริสพูดขึ้น
"ไอริส!นี่มันเสียมารยาทนะ"ไอรีนพูดโพล่งขึ้นมา
"เอาเถอะๆ เราไม่ถือโทษโกรธอะไรอยู่แล้ว แค่เรื่องเล็กน้อยเอง เจ้าอย่าได้กังวลไปเลย"ลูน่าพูด
"งั้นข้าจะแสดงให้ดูแล้วกันอย่าตีกันๆ"ลูน่ายกมือขึ้นมาค้าน
"ข้าชื่อ ลูน่า เป็นรองมหาเทพสูงสุด เวทย์มนต์เดิมของข้าคือ เวทย์แห่งดวงจันทร์หรือมนต์ดำนั้นเอง หรือพูดง่ายๆก็คือพูดให้มันดูดีขึ้นจากมนต์ดำนิดหน่อย ก็นั้นแหละตามชื่อเลย บังคับดวงจันทร์ เวทย์เพิ่มของข้าคือทำจันทร์สีเลือดเตือนคนในมิติที่เป็นโลกของมนุษย์ แล้วก็มนต์ดำทั่วๆไป"ลูน่าบรรยาย
"ท่านแสดงให้ดูซักระดับได้หรือไม่คะ?"ไอริสถามด้วยท่าทีตื่นเต้น
"ได้สิ"ลูน่าพยักหน้า
"เวทย์ด้ายแดงขั้นที่ 12....."ลูน่าหยุดวรรคให้ทุกคนตื่นเต้น
"หุ่นเชิดเรียกวิญญาณ อสรพิษทมิฬ"ลูน่ากางนิ้วออก
ทันทีที่ลูน่ากางนิ้วออกก็มีด้ายแดงจำนำหนึ่งโผล่มาพันนิ้วแล้วก็รวมร่างกันเป็นตุ๊กตา พอลูน่าพูดชื่อสิ่งที่ต้องการจะเสกตุ๊กตาก็เริ่มเปลี่ยนร่างโดยมีหางงอกออกมา ด้ายแดงจากตุ๊กตาเริ่มเลือยขึ้นไปเป็นโครงรู้ตัวงู จากนั้นก็มีผิวหนังงอกออกมาทับด้ายแดงไปเรื่อยจนสุด ปรากฏเป็นตัวงูขนาดใหญ่สีดำ ส่งเสียงขู่ ฟ่อๆก่อนที่ด้ายแดงจะหายไปทิ้งงูที่เหมือนจริงเอาไว้
"เป็นไง?"ลูน่าถามเพราะทุกคนดูกลัวจนกระโดดกอดกัน
"เก็บแล้วไม่ ไม่ต้องกลัวๆ"ลูน่าพูดกวนก่อนจะกางมือแล้วกำมือ งูตัวนั้นก็เริ่มหายไปช้าๆเริ่มจากผิวหนังไปจนสุดปลายหัว แล้วด้ายแดงก็หายไปต่อจากนั้น
ทุกคนก็อกสั่นขวัญหายกันไม่หยุด
แต่สายตาลูน่าก็เหลือบไปเห็น
ไอริสยืนนิ่งสุดๆไม่มีท่าทีตกใจใดๆ แต่ตาแทบจะมีดาวออกมาแล้ว
"เอาหละได้ ไหน? ใครอยากไปแต่งตัวกันแล้วบ้าง?"ลูน่าหันไปถาม
ทุกคนต่างตอบว่า "อยากเพคะ"
ตอนที่3 พิกัดผิดชีวิตเกือบหาไม่
ณ แดนสวรรค์(วิหารลอยฟ้า)
หลังจากนั้นไม่นานนักทุกคนต่างเข้าแถวรับชุดแล้วไปรอเปลี่ยนเสื้อผ้ากันอยู่ที่หน้าสถานที่เปลี่ยนชุด คนเริ่มเดินเข้าไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนครบ10คน จากนั้นก็ถึงตาแม่งานบ้าง
สำคัญ!!! วรรคสามวรรคต่อจากนี้ไม่ต้องอ่านก็ได้ สามารถอิงตามรูปที่แอดวาดได้เลย แค่เขียนขึ้นเพื่อบรรยายการแต่งตัวเท่านั้นนะคะ ใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไปวรรคที่4ได้เลยนะคะ จะมีคำว่าต่อเมื่อสิ้นสุดสามวรรคนี้นะคะ
ลูน่าออกมาก่อนสวมสไบสีชมพูอ่อนหยักเป็นจีบสวยงาม พร้อมผ้าถุงสีแดงเลือดหนูดูเรียบง่ายแต่จีบหน้ามีลายสีเหลืองตัดกับแดงทำให้ดูมีระดับ คาดสะเอวด้วยเข็มขัดเงิน ใส่กำไลประจำตัว ใส่ตุ้มหูกลมสีทองทั้งสองข้าง สวมปิ่นสีทอง ดำ และแดง ซึ่งเป็นสีและสัญลักษณ์ ประจำตัวของตน
ยูริและเทียนาก็เช่นกัน เทียนาใส่สไบสีม่วงอ่อน ใส่ผ้าถุงสีน้ำเงินพาดด้วยลายน้ำเงินสว่าง คาดสะเอวด้วยเข็มขัดเงินเหมือนลูน่า มีอาวุธแระจำกายคือพัดเลยสามารถเอาออกมาเดินได้ไม่เป็นที่สังเกต ใส่ปิ่นปักผมดำ สีม่วง ชมพู และกำไลสีดำม่วง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำกายเช่นกัน ไม่ใส่ต่างหู
ยูริใส่สไบสีฟ้าครามอ่อน ใส่ผ้าถุงสีเขียวขี้ม้า พาดด้วยสีเขียวใบตอง หรือ สีเขียวสว่าง คาดสะเอวด้วยเข็มขัดเงินเช่นกัน ใส่ปิ่นปักผมสีขาว ฟ้าอ่อน ทองอ่อน ใส่กำไลสีขาวฟ้า ใส่ต่างหูสีขาว
ต่อ
ทั้งสามเดินออกมาเทียนาเดินออกมาด้วยหน้าอมยิ้ม ยูริเดินออกมาด้วยสีหน้ากลั้นขำ ส่วนลูน่าขมวดคิ้วแต่หน้าฝืนยิ้มสุดๆ เพราะอะไรหนะหรอ โดนจับแต่งตัวหนะสิ!!!
"เอาหละ ต่อแถวมารับแหวนเงินไปคนละวง"ลูน่าเดินไปหลังโต๊ะแหวน
แล้วยื่นแหวนให้ทั้งสิบคนไปคนละวงจนครบ
"ทีนี้ก็ตาเรา"ลูน่าใส่แหวนที่นิ้วชี้มือข้างขวา
เทียนาใส่แหวนที่นิ้วกลางมือข้างขวา
ยูริใส่แหวนที่นิ้วชิ้มือข้างขวา
"เข้าไปในประตูกัน"ทั้งสามเดินนำเข้าไปในประตูมิติที่ 40 ถ้าถามว่ารู้ได้ไง ติดอยู่บนประตูตัวเบ้อเร่อ!
หลังจากทุกคนเดินเข้าไปในประตูทุกคนก็ต่างเห็นว่าตนเดินอยู่บนเมฆแผ่นใหญ่ ข้างล่างเป็นเมืองขนาดใหญ่ ข้างๆห่างไปหน่อยเป็นเมืองขนาดกลางที่ล้อมรอบเมืองใหญ่ และมีเหมือนเป็นเมืองเล็กๆอยู่ถัดไปเรื่อยไปจนสุดขอบไกลลับลูกหูลูกตา
"โห~ ช่างใหญ่โต"อิสเบลพูดขึ้น
"ใช่ๆ"ไอริสพูดเสริม
"พวกเจ้าหาพิกัดลงเถิด นี่ก็ใกล้เย็นแล้ว"ลูน่าชี้พระอาทิตย์
ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปหาที่ๆเป็นน้ำแล้วกระโดดลงไป
"ไอริส อิสเบล อยู่นี่ก่อนสิ"ลูน่ากวักมือเรียกหลังจากทุกคนกระโดดลงไปหมดยกเว้นทั้งสองคน
"เพคะ"ทั้งสองพูดพร้อมกัน
"เจ้ามาเป็นบุตรบุญธรรมของข้าได้ไหม?"ลูน่าคว้ามือทั้งสองคนมาจับ
"เพคะ!!!?"ทั้งสองคนโพล่งขึ้นด้วยความตกใจ
"เช่นนั้นก็แปลว่าถ้าหากคนใดคนหนึ่งได้เป็นมหาเทพ สูงสุดอีกคนจะต้องเป็นรองงั้นหรอเพคะ"อิสเบลพูดขึ้น
"ไม่จ่ะ ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นมหาเทพอีกคนจะต้องไปประลองกับลูกบุญธรรมของมหาเทพสูงสุดสองคน เพื่อหาเทพและมัจจุราชหรือผู้ช่วยประจำตัวรวมสองคนจ่ะ"ลูน่าอธิบาย
"คือต้องหาเทพ1ตนและมัจจุราช1ตนเหมือนกับท่านเทียนากับท่านยูริงั้นหรอเพคะ"ไอริสถาม
"ใช่จ่ะ"ลูน่าคลี่ยิ้มกว้างทำให้คนอื่นในที่นั้นตกใจ
"น่ารักใช่ไหมหละ มุมที่หาได้ยากของท่านลูน่า"ยูริพูดเสริม
"เพคะ"ไอริสตอบ
"น่ารักมาเพคะ"อิสเบลเสริม
"แล้วคำตอบ?"ลูน่าหุบยิ้ม
"ตกลงเพคะ"ทั้งสองพยักหน้า
"จริงนะ!"ลูน่าคลี่ยิ้มออกอีกครั้ง
"เพคะท่านลู..."ทั้งสองคนพูด
"เรียกแม่สิ"ลูน่าบอก
ทั้งสองกันหน้าเข้าหากัน "เพคะท่านแม่"
"มาให้แม่กอดหน่อย~"ลูน่ากางแขนออกทั้งสองคนก็วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของลูน่า
"ไปกัน"ลูน่าผละลูกๆออกจากอ้อมกอดเพราะใกล้เย็นแล้ว
"นั่น กระท่อมเก่าของแม่เมื่อ100,000ปีก่อน"พอลูน่าพูดจบทั้งสองก็ผงะไปเลย
"ตกใจหละสิเพราะคนรักของสกายอยู่ได้นานขนาดนั้นได้ไง"ลูน่าแหล่ตามองไปที่ลูกทั้งสอง
"เจ้าเคยได้ยินเรื่องท้อสวรรค์หรือไม่?"ทันทีที่ลูน่าพูดจบไอริสและอิสเบลก็อ๋อขึ้นมาทันที
"ยูริ เทียนา"หันไป
"ไปส่งลูกข้าที่กระท่อมหน่อยเดี๋ยวข้าตามไป"ทั้งสี่ทำความเคารพก่อนกระโดดลงน้ำตกใกล้กระท่อม
"เจ้าจะว่าอะไรไหมหากข้าจะมาประลองผู้ช่วยที่นี่?"ลูน่าหันไปถามผู้ชายในชุดคลุมสีขาวที่เป็นผู้ดูแลมิติที่40
"ไม่มีปัญหาพะย่ะค่ะ"เขาคลี่ยิ้มก่อนจะหายตัวไป
"เอาหละ!"ลูน่ากระโดดลงจากเมฆ
ตู้ม!!!
เสียงน้ำกระเซ็น เพราะมีคน4 คนกระโดดลงมา แล้วเดินเข้าไปในกระท่อมขนาดใหญ่
ข้างในกว้างขวางเหมาะที่จะอยู่กับหลายคนมีของครบ
"ท่านเตรียมไว้ให้ลูกของท่านมานานแล้วหนะไม่ต้องตกใจ"เทียน่าอธิบาย
"ไปเตรียมน้ำเถอะเดี๋ยวท่านลูน่ามาจะได้หายเหนื่อย"ยูริพูด "จงแห้ง" ยูริถอดแหวนแล้วร่ายเวทย์ชุดที่เปียกปอนแห่งสนิททันตาเห็น และยูริก็สวมแหวนกลับเข้าเหมือนเดิม
ข้ามาแล้ว!!!!!!!!เสียงตะโกนดังมาจากข้างนอกพร้อมกับเสียงตกท้ายที่ดังยิ่งกว่า
พลั่ก!!!!!
ทุกคนตกใจมากจึงวิ่งออกไปดู
สิ่งที่เห็นคือลูน่านอนแน่นิ่งอยู่ข้างโขดหินเลือดไหลไปตามสายน้ำ
ทุกคนต่างอุทานขึ้นมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายว่า
"เวรกรรม"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!