......
“เชี้ยยย!!!”
คุณอาจจะตกใจกันสินะ ว่าฉันอุทานแบบนั้นออกมาทำไม ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพที่ ‘เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียวอยู่บนเตียงนั่นแหละ’ และอยู่กับคนที่ฉันเกลียดที่สุดมานอนอยู่ข้างๆกายฉัน ฉันเลยต้องอุทานแบบนั้นออกมา
เอาล่ะฉันจะเล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้นนะ ว่าก่อนที่ฉันจะมาอยู่ในสภาพนี้ ฉันและคนที่นอนอยู่ข้างๆฉันเราเป็นอะไรกันถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้
ฉันชื่อ “นัท นัทธมน” อายุ18ปี ก็ม.6นั่นแหละ ฉันเป็นนักเรียนม.ปลายที่แทบจะไม่ทำตามทุกกฎของโรงเรียนเลยแม้แต่ข้อเดียว แต่ไอ้กฎอะไรนั่นน่ะ ครูเค้าไม่ได้ตั้งเองหรอกนะ ครูฝ่ายปกครองยกให้เป็นหน้าที่ของพวกสภานักเรียนนั่นแหละ
ส่วนตัวฉันก็ไม่ได้ชอบพวกสภานักเรียนอยู่แล้วด้วยสิ ฉันเลยไม่ทำตามกฎของโรงเรียนที่พวกสภานักเรียนตั้งขึ้นมา และคนที่ฉันเกลียดที่สุดนะ ในกลุ่มสภานักเรียนก็ดันมานอนแก้ผ้าอยู่กับฉันที่ฉันได้เล่าไปตั้งแต่แรกนั่นแหละ ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ (ฮื้อๆ) และมันมีชื่อว่า “เอิร์ท” ชื่อจริงชื่อไรวะ! ขอคิดแปป....อ้ออ! คิดออกละ ชื่อ “พิชญา” อายุ17ปี อยู่ม.5 ห่างฉันแค่ปีเดียวเอง เอออ..ลืมบอกไปมันเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชายถึงชื่อมันจะเหมือนผู้ชายก็เหอะ
ทุกๆวันฉันมักจะโดนจับตามองจากพวกสภานักเรียนอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอีเด็กเอิร์ท
ฉันมักจะได้ออกกำลังกายเมื่อเจอพวกสภานักเรียนอยู่เสมออ่ะนะ ที่ว่าออกกำลังกายน่ะ หมายถึง‘วิ่งหนี’นะ ที่วิ่งหนีไม่ใช่เพราะอะไรหรอก..เพราะฉันทำผิดกฎระเบียบของโรงเรียนน่ะสิ ‘ใส่ถุงเท้าสั้น ปล่อยเสื้อลอยชายไม่ยัดเข้าข้างในไม่ผูกโบว์โรงเรียน กระโปรงสั้นกว่ามาตรฐานที่โรงเรียนกำหนด (นิสนึง)’ เลยจะต้องถูกทำโทษ #ไม่นิดล่ะค่ะ!!
แล้วใครจะมายอมให้ถูกจับทำโทษง่ายๆเล่า ฮึ ฮึ!!! รู้จักฉันน้อยไปซะแล้ว ไม่มีทางซะหรอก...แต่ถ้าโดนจับได้ก็ต้องถอดกระโปรงออก แต่เอิร์ทมันก็ดันใจดีพกกระโปรงยาวๆมาให้ฉันยืมใส่ซะด้วย...oh my godddd..! กระโปรงยาววว..ยาวมากกก..!! แต่แค่ฉันคนเดียวนะ หรือเป็นเพราะเราเป็นคู่หมั้นกันมันถึงทำแบบนี้
ทุกวันฉันจะมาโรงเรียนทุกๆเช้า และวันนั้นฉันดันมาสาย ตอนนั้นฉันยังไม่ได้ใส่กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากมขนาดนั้นหรอกนะ ฉันยังใส่ยาวตามที่กำหนดไว้อยู่ แต่ทว่าฉันดันตื่นสายจึงหยิบใส่กระโปรงมาผิดตัวเป็นกระโปรงตอนอยู่ม.2มาซะงั้น (คือเก็บไว้ไม่ได้เอาไปไหน) แต่สายป่านนี้แล้วยังมีพวกสภานักเรียนมายืนรอรับไหว้อยู่อีก ฉันก็มายืนไหว้หน้าโรงเรียนตามปกติ แต่น้องสภาผู้หญิงคนนึงดันพูดขึ้นมาว่า
“ถุงเท้าสั้น..กระโปรงสั้นเลยเข่าขึ้นมามากเลยนะ ต้องถอดกระโปรงกับถุงเท้าออก..ไม่ผูกโบว์ผูกผม..เสื้อลอยชายอีกต่างหาก เอาเสื้อเข้าข้างในเดี๋ยวนี้ค่ะ”
“เฮอะะ! อะไรกันน้อง...แค่ถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้นแค่นี้ ถึงกับต้องให้ถอดออกเชียวหรอน้อง”
คนอื่นเค้าไม่ว่าอะไร แต่อีพี่สภาคนหนึ่งมันดันพูดขึ้นมาสั่งโน่นสั่งนี่ซะงั้น
“ไม่ได้พี่..ต้องถอดดด!! มันเป็นกฎ..”
“กฎบ้ากฎบออะไรวะ! ถ้าถอดออกฉันก็ไม่มีอะไรใส่สิ”
“แต่พี่!! นี่เป็นกฎของโรงเรียนนะพี่ ยังไงก็ต้องถอดออก”
สภานักเรียนอีกคนมันว่า
“เฮ้ยยย!! น้อง..กฎที่พวกน้องตั้งขึ้นเองมากกว่ามั้ยวะ”
“แต่มันก็คือกฎ..ถ้าไม่ถอด เดี๋ยวฉันถอดให้! กางเกงในห้องปกครองมีค่ะ”
“นี่อย่านะ กางเกงงง...ใครจะกล้าใส่เดินไปเรียนวะ!! อายคนตาย ใส่เองเถอะนะ ไปละ......”
เธอรีบวิ่งฉิวเข้าไปในโรงเรียน
รู้งี้ให้คนรถมาส่งก็ดีหรอก
“อ้าววว!! พี่! ไหงพุ...”
ถ้อยคำสุดท้ายของชายผู้เป็นสภานักเรียนอีกคนนั้นได้ขาดหายไปเมื่อหญิงสาวรีบเร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ยอมฟังคำพูดนั้นให้จบก่อนทันที ทำให้สภานักเรียนที่ยืนอยู่หน้าโรงเรียนต้องวิ่งตาม แต่เธอก็ยังวิ่งหลบหนีไปจนลับสายตาได้ และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องทุกอย่าง
“หายไปไหนแล้วเนี้ยย..วิ่งเร็วจังวะ”
“รุ่นพี่คนนี้อยู่ห้องไหนวะ! มึงรู้ป่ะ..”
“กูจะรู้ได้ไงเอิร์ท..มึงก็ถามโง่ๆ หน้ากูก็พึ่งเคยเห็นวันนี้”
“กูชักจะสนใจรุ่นพี่คนนี้แล้วสิ”
เธอกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก
.
.
เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มการเรียนการสอน ทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปกติ รวมถึงสภานักเรียนด้วยเช่นกัน การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างช้า ส่วนตัวฉันก็มีแต่ฉันนี่แหละที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงเบื่อกับคาบเรียนที่แสนจะยาวนานอย่างเต็มทน จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลาพักเที่ยง
“นุ่น ไวน์ แพร ไปกินข้าวกัน”
“แปปนึงๆ ฉันเก็บของก่อน”
เสียงของแพรเพื่อนของฉันพูดเอง เมื่อมันพูดจบมันก็ก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อ ในกลุ่มของพวกเราก็มีมันนี่แหละที่ต้องใจเรียน เรียนเก่งที่สุดในห้องเรียน ไม่รู้มันจะขนมาทำไมเยอะแยะ ส่วนฉันก็...พอได้
“OK เสร็จละ”
“งั้นนน..ไปกัน”
ไวน์เพื่อนของฉันอีกคนพูด
แต่เมื่อลงจากห้องเรียนจะไปโรงอาหาร ฉันกับเพื่อนก็เดินคุยกันระหว่างทางตามปกติ แต่ทว่าดันเดินมาเจออีเด็กสภานักเรียนคนหนึ่งเดินมากับเพื่อนของมัน ปกติก็เจอกันอยู่ทุกเช้าล่ะนะ ไม่ได้รู้จักกันหรอกแต่เจอกันทุกเช้า และฉันก็เดินถอยหลังไปชนหลังของสภานักเรียนคนที่กล่าวมานั้นพอดี
“ขอโทษค่ะ!!”
หญิงสาวหันกลับไปกล่าวขอโทษแล้วหันหน้าขึ้นมองหน้าคนตรงหน้า
“เฮ้ยยย!!!”
เธอร้องตกใจไม่คิดว่าจะเจออีก
“พี่คนเมื่อเช้านี้นี่! เมื่อเช้าปากกล้ามากเลยนะคะพี่น่ะ”
“น้องเอิร์ท!”
“หวัดดีค่ะพี่นุ่น”
“อะไรอีกน้อง”
ฉันถามกลับไปอย่างไม่เกรงกลัวอีเด็กสภาหน้าโรงเรียนเลยแม้แต่น้อย มันก็เลยเดินเข้ามาใกล้ฉัน แล้วโน้มศีรษะลงมาใกล้ๆหน้าของฉัน
“ไม่ทำไมหรอกค่ะ! แค่...อยากบอกว่าถุงเท้าสั้นกระโปรงสั้น ระวังโดนครูปกครองเรียกพบนะคะ”
“ฮะ! ว่าไงนะ! จะฟ้องครูฝ่ายปกครองงั้นสิ นี่มันเรื่องเล็กๆเองแล้วนี่ก็เที่ยงแล้วด้วยนะ จะทำอะไรอีกฮะ!”
น้ำเสียงอันยียวนกวนประสาททำให้ฉันสวนกลับไปอย่างรวดเร็วและไม่เกรงกลัวใดๆ แล้วอีเด็กสภาคนนั้นก็เลื่อนใบหน้ามาที่บริเวณใบหูของฉัน ทำไมมันใจกล้าจังวะ นี่ฉันเป็นรุ่นพี่มันนะ
“จะทำอะไรน่ะ!!”
“พูดเล่นน่ะค่ะรุ่นพี่..”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงอันยียวนบวกกับรอยที่เธอส่งยิ้มบางๆให้ ทำให้แม่สาวตรงหน้าแทบกลั้นอาการเขินเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่เธอจะเดินเลี่ยงออกไปแล้วแอบยิ้มเจ้าเล่ห์กับเพื่อนของตัวเอง
ฉันได้แต่มองตามหลังของรุ่นน้องสภารักเรียนคนนั้นและไม่รู้หรอกนะว่าภายใต้แผ่นหลังเบื้องหน้านั้นเค้าจะคิดอะไรอยู่หรือทำสีหน้าท่าทางยังไง
“ชิ...!!”
“เป็นไรแก”
“ก็อีเด็กสภานี่สิ! เมื่อเช้าสั่งโน้นสั่งนี่ฉันอย่างกับเป็นพ่อเป็นแม่ฉันอะไรอย่างนั้นแหละ”
“น้องเอิร์ทเนี้ยนะ!”
“ชื่อเอิร์ทหรอ! ชื่อเหมือนผู้ชายจังวะ”
“แล้วน้องเค้าว่าอะไรแกบ้าง”
“ก็หาว่าฉันใส่ถุงเท้าสั้น กระโปรงสั้นเกินมาตรฐาน ไม่ผูกโบว์ผูกผม ทำไงได้วะ! คนมันรีบนี่หว่า”
“สมกับที่เป็นเอิร์ท”
“มันก็สั้นจริงๆน่ะแหละ”
“โห่..แกเข้าข้างมันหรอ นี่ฉันเพื่อนแกนะ แกควรจะเข้าข้างฉันสิ! ก็ถ้าไม่ตื่นสายคงไม่เป็นแบบนี้หรอก ว่าแต่นุ่น! แกไปรู้จักกับเด็กนั่นได้ยังไง”
“ก็น้องเอิร์ทกับฉันเราอยู่หมู่บ้านเดียวกัน”
“หรอออ! ไม่น่าเชื่อว่าคนแบบนี้จะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ด้วย”
“เอ้าาา!! แกนี่ก็...”
“จ้าาา!! ”
หญิงสาวทั้ง4คนเดินคุยกันมาตามหลังบุคคลที่ตนทะเลาะด้วยจนมาถึงโรงอาหาร เสียงพูดคุยกันของนักเรียนในโรงอาหารพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ
หญิงสาวทั้ง4คนก็เดินแยกกันไปซื้ออาหารที่ตนจะทานในเที่ยงนี้
ไม่รู้บังเอิญหรือเปล่านะ! ฉันกับอีเด็กสภานักเรียนคนเมื่อกี้ดันมาซื้ออาหารร้านเดียวกัน และที่โชคร้ายกว่านั่นคือดันซื้อเมนูเดียวกันอีก
“เจอกันอีกแล้วนะคะ”
“เฮ้ยยย!!...ร้านอื่นมีตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องมากินร้านเดียวกันกับฉันด้วยวะเนี้ยย..!!”
หญิงสาวอุทานร้องเสียงหลงตกใจที่อยู่ๆก็มีใครเข้ามาทัก แล้วแอบพูดพึมพำเบาๆกับตัวเอง และเลี่ยงที่จะพูดกับผู้ทักทาย
“เอาอะไรคะ”
“ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กค่ะ!!! ไม่ใส่กระเทียมเจียวนะคะ”
ทั้งสองคนสั่งและพูดเมนูเดียวกันออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“บังเอิญจังเลยนะคะ”
“ใช่ค่ะ! บังเอิญจังเมนูเดียวกันด้วย”
“ได้แล้วค่ะ!”
“นี่ค่ะ30บาท..แล้วถ้าพรุ่งนี้พี่ใส่ถุงเท้ากับกระโปรงสั้นมากๆมาอีกละก็...”
“บ้า!!”
“หนู! หนู!!”
“คะ คะ นี่ค่ะ! ขอบคุณค่ะ”
หญิงสาวรับจานอาหารแล้วจ่ายเงินแม่ค้าก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะโรงอาหารของโรงเรียนกับเพื่อนของตน
“แม้งงง...! กวนประสาทฉิบหาย”
“อะไรวะ!”
“ก็น้องเอิร์ทของแกสิอีนุ่น ไปซื้ออาหารร้านเดียวกันไม่พอ ยังสั่งแบบเดียวกันอีก แม้งงง..คอยดูนะจะแกล้งให้เข็ดเลยคอยดู”
หญิงสาวยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงด้วยความใน
“นางร้ายยยยย!!!”
“แล้วอีน้องเอิร์ทนั่นน่ะ เป็นคนยังไงวะ”
“นี่แกไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งโง่เนี้ยย!”
“แค่ถามเฉยๆมาหาว่าฉันโง่อีก! ก็ได้วะ ฉันไม่รู้ถึงถามพวกแกไง”
“น้องเค้าก็..เป็นคนสวยหน้าตาก็ดีมีเสน่ห์ชวนหลงไหล ถ้าใครได้เป็นแฟนนะคงจะโชคดีไปตลอดชาติเลยแหละ”
“ตกนรกทั้งชาติล่ะสิไม่ว่า!!”
“เอ้าอีนี่! ถึงภายนอกน้องเค้าจะดูกวนๆไปหน่อยนะ แต่จริงๆแล้วน้องเค้าเป็นคนน่ารักโรแมนติกน้าา..”
“แหวะะ..เลี่ยนว่ะ!”
“งั้นไม่ต้องฟังเลยย”
“เฮ้ยย!! ฟัง ฟัง ฟัง ฟัง”
“ก็ด้ะะ..เห็นแบบเนี้ย! น้องเค้ามีคนมาตามจีบหลายคนนะเว้ยย..ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่น้องเค้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอก เพราะ..”
“เพราะว่าน้องเค้าไม่น่าจะชอบผู้ชาย แต่ผู้หญิงน่ะไม่แน่..เพราะส่วนมากน้องเอิร์ทมักจะพูดกับผู้หญิงที่มาจีบมากกว่า ส่วนพวกผู้ชายที่มาจีบนะน้อยมากกก..ที่จะได้คุย! แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นคบใครสักคน”
ถ้อยคำนั้นของนุ่นได้ขาดหายไปเมื่อถูกไวน์เพื่อนอีกคนชิงพูดไปเสียก่อน
“ดูๆไปนะ! ดูน้องเค้าจะสนใจแกอยู่ไม่น้อยนะ ยิ่งเป็นนิสัยแบบแกแล้วด้วย ขนาดฉันยังแอบปลื้มน้องเค้าอยู่ไม่น้อยเลย”
“ไม่มีทาง!! แล้วนิสัยแบบฉันแบบไหนวะ!”
“ก็...ชอบเอาชนะ..ชอบความท้าทาย หยิ่ง ชอบเหวี่ยงวีนได้แทบทุกสถานการณ์ แล้วก็ทำตรงกันข้ามอะไรทำนองเนี้ยย!”
“ห่า..หลอกด่ากู...!!”
“พวกแกสามคนรีบกินดีกว่ามั้ย เย็นหมดเดี๋ยวก็บ่นไม่อร่อยกันอีกหรอก”
“จ้า..เพื่อนแพร”
พอพักเที่ยงเสร็จแล้วทั้งสี่คนก็พากันขึ้นเรียนไปตามปกติ พอทั้งสี่คนจะขึ้นอาคารก็เจอกับอีเด็กสภานักเรียนอีกครั้ง แต่คราวนี้เดินมาคนเดียว
“ว่าไงคะ รุ่นพี่..!”
หญิงสาวสภานักเรียนยิ้มมุมปากทำหน้าเจ้าเล่ห์อย่างมีเล่ห์ในแล้วเดินผ่านหน้าเธอไป
“หึ!!! เชี้ยยย!”
หญิงสาวตกใจแล้วหันหน้าไปทางอื่นที่ก่อนจะอุทานประโยคทิ้งท้าย
ตั้งแต่เจออีเด็กสภานักเรียนคนนี้มา ชีวิตของฉันก็เริ่มเปลี่ยนไป ต้องคอยวิ่งหนีมันแทบทุกเช้าอยู่ตลอด
นัทธมนเดินเข้าห้องเรียนกับเพื่อนอีกสามคนอย่างอารมณ์เสีย
“ขออนุญาตค่ะอาจารย์”
“เชิญค่ะ!”
เมื่อทั้งสี่คนเดินไปนั่งที่โต๊ะเรียนกันเรียบร้อยทุกคนในห้องเรียนก็เรียนตามปกติ แต่มีหญิงสาวอีกหนึ่งคนที่นั่งทำหน้าบึ้งตึงจับๆวางๆปากกาบ้าง
ส่วนพิชญาที่เดินผ่านหน้าของนัทธมนก็เดินยิ้มไปยังอาคารของตัวเองอย่างอารมณ์ดีผิดกับนัทธมนโดยสิ้นเชิง
“ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ”
“เชิญค่ะ!”
หญิงสาวขออนุญาต และเมื่อได้รับอนุญาตเธอจึงเดินเข้าห้องอย่างไม่ลังเล
“พิชญาทำไมเข้าสาย”
“คือว่า..”
“พิชญา!!”
เสียงใครบางคนดังมาจากกน้าประตูห้องเรียนแล้วเรียกชื่อของใครบางคน
“คะ!”
พิชญาที่กำลังจะตอบคำถามอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน และต้องวางแผ่นกระดาษจำนวนหนึ่งวางลงบนโต๊ะเรียนก่อน เมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกชื่อตน
“ขออนุญาตยืมตัวพิชญาสักครู่หนึ่งนะคะ”
“เชิญค่ะ”
เมื่อได้รับคำอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน จึงเดินออกไปหาบุคคลที่ยืนรออยู่หน้าห้อง
“มีอะไรคะ! อาจารย์..”
“เดี๋ยวอาจารย์จะไปทำธุระ อาจารย์จะฝากงานกับเราไว้ในคาบต่อไป”
หญิงสาวเมื่อได้ยินดังนั้นจึงยื่นมือไปรับงานจากผู้เป็นอาจารย์ แล้วใช้สายตาตรวจสอบงานที่ได้รับมา
“อาจารย์คะ! อาจารย์เคยให้พวกเราทำงานนี้ไปแล้วนะคะ”
“เอ้าาา! หรอ..อาจารย์ขอโทษๆ ลืมไปสนิทเลย งั้นคาบต่อไปพวกเธอไม่ต้องทำงานคาบของอาจารย์ ให้เคลียร์งานของวิชาอื่นให้เสร็จก็แล้วกัน”
“ค่ะ!!”
“งั้นอาจารย์ไปก่อนนะ..เดี๋ยวไปไม่ทัน”
“ค่ะะ..เป็นอะไรของแกนะ”
พิชญากล่าวอย่างสงสัยก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องเรียนของตน
“อาจารย์ท่านมาสั่งงานอะไรไว้คะ”
“เปล่าค่ะ!! อาจารย์ให้เคลียร์เก่าที่ทำค้างไว้ในแต่ละวิชาให้เสร็จค่ะ”
“แล้วทำไมเข้าสาย..”
“ไปเอาใบประกาศที่ห้องบุคคลมาค่ะ”
หญิงสาวเมื่อกล่าวจบประโยคก็เดินกลับไปนั่งที่ แล้วเริ่มเรียนตามปกติ
เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนบางคนก็อ่านหนังสือเตรียมสอบ บ้างก็เล่นหรือกลับบ้านกันตามปกติ
.
.
.
“เชี้ยยย!!!”
“อะไรแก!!”
“โทรศัพท์หายว่ะ!”
“อ้าววว!! ไปทำทีท่าไหนถึงได้ทำโทรศัพท์หายได้เนี้ยย!!”
“ไม่รู้ว่ะะ!! สงสัยลืมไว้บนห้อง พวกแกกลับก่อนเลย..ฉันจะเข้าไปดูในโรงเรียนก่อน”
“อ้าววเฮ้ยแกก..”
หญิงสาวกล่าวอย่างรีบร้อนจนจบประโยคแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปในโรงเรียนเลย โดยที่ไม่ฟังคำของเพื่อนตนเองพูดให้จบก่อน
เธอรีบวิ่งเอาไปในโรงเรียนโดยไม่ได้ดูทางข้างหน้าจนไปชนกับใครคนหนึ่งเข้าจนเกือบจะล้มกันทั้งสองคน
“อุ้ยย!!”
“ขอโทษค่ะ!”
หญิงสาวกล่าวขอโทษโดยยังไม่ได้เงยหน้ามองหน้าคนข้างหน้า
“ไม่เป็นไรค่ะรุ่นพี่..ดูท่าทางรีบร้อนจังเลยนะรุ่นพี่”
หญิงสาวผู้รับเคราะห์ถูกชนอย่างแรงถามทั้งที่ยังยืนรับคนที่วิ่งเข้ามาชนตัวเองอยู่ แล้วจึงทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ตัวเองวิ่งชนเข้า ทั้งสองจ้องตากันครู่หนึ่งผู้ชนก็ผละตัวออกจากผู้รับเคราะห์
“นี่เธออีกแล้วหรอ..”
“อะไร!”
“ก็...ช่างเถอะ! ฉันไม่มีเวลามาต่อล้อต่อเถียงกับเธอตอนนี้”
เมื่อเธอกล่าวจบเธอก็รีบวิ่งออกไป คนที่เธอวิ่งชนก็ยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อน ที่จะหันหลังกลับไปมองตามหลังของเธอ
“รีบร้อนซะขนาดนี้..คงต้องตามหาของแน่ๆ แกล้งนางสักหน่อยดีกว่า...”
กล่าวจบเธอก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรงพร้อมกับจ้องมองยังจุดนั้น เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในกระเป๋ากระโปรงของตัวเอง
หลังจากที่ฉันวิ่งออกไปจากมันฉันก็ขึ้นไปที่อาคารเรียนของตัวเอง แล้วเข้าไปดูในห้องเรียนประจำแต่ก็ไม่เจอโทรศัพท์เลย ฉันจึงลงมาหาข้างล่างในที่ที่ฉันเดินไปในวันนี้แต่ก็ไม่เจออีกอยู่ดี จนฉันถอดในเดินกลับออกไปหน้าโรงเรียน
.
“เข้าไปหาอะไรอยู่หรอคะ..ถึงได้ออกมาเอาป่านนี้!”
“เปล่า! เฮ้อะะ..นี่! ยังไม่กลับอีกหรือไง”
หญิงสาวกล่าวไปในเชิงประชด
“ก็อยากรู้ว่าเข้าไปในโรงเรียนอีกทำไม ก็เลยรอดูซะหน่อย”
เมื่อเธอกล่าวจบก็ยกยิ้มมุมปาก
“ยิ้มอะไร..”
“เปล๊าา! แล้วนี่กลับไงอ่ะ ให้เอิร์ทไปส่งมั้ย!”
“อย่าเผือกก..”
“อะไรนะ! ว่าเราเผือกหรออ..เรายิ่งชอบกินเผือกอยู่ด้วยสิ!”
“เธอนี่มัน..”
“ตกลงกลับไง”
“เรื่องของฉัน..แล้วบอกชื่อฉันทำไม ฉันไม่ได้อยากรู้ชื่อเธอ”
“อยากบอก..มีไรป่ะ! ถ้าพี่จะกลับสองแถว บัสหรือแท็กซี่ก็ตามใจน้าา! เย็นขนาดนี้แล้วด้วย..จะกลับสองแถวหรือบัสกับแท็กซี่คนเดียวแบบเนี้ย ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาโทษกันนะรุ่นพี่”
กล่าวจบเธอก็ก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซต์ของตัวเองแล้วสวมหมวกกันน็อค และทำท่าทางเหมือนจะบิดรถออกไป
“ดะ เดี๋ยวๆ..เดี๋ยวก่อน ให้ไปส่งบ้านก็ได้”
เมื่อได้ยินดังนั้นคนบนมอเตอร์ไซต์ก็หยุดทุกการกระทำ แล้วใบหน้าภายใต้หมวกกันน็อคนั้นก็ยิ้มย่องชอบใจที่คนที่ตัวเองพยายามแกล้งยอมมากับตนได้สำเร็จ
“น่ารักจัง..ผู้หญิงแบบนี้!”
พิชญาคิดกับตัวเองใจในเพราะไม่อยากให้ใครบางคนได้ยิน
“เราอยู่บ้านอะไรล่ะ! จะได้ไปส่งถูกที่..”
“ศศิรินทร์ 2”
หญิงสาวเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆที่ไม่เต็มใจจะตอบนักสักเท่าไหร่
.
.
.
พิชญาขับมอเตอร์ไซค์มานัทธมนที่บ้าน แต่ทว่าโดนพิชญาหลอกให้ขี่วนไปวนมาหลายรอบหลายซอย แรกก็เล่นด้วยอยู่หรอก แต่พิชญาก็เริ่มที่จะหัวเสียเพราะมันเริ่มจะมืดแล้ว
“สรุปบ้านรุ่นพี่ไปทางไหนกันแน่..ฉันไม่เล่นด้วยแล้วนะ ถ้าไม่บอกดีๆ ฉันจะทิ้งรุ่นพี่ไว้ตรงนี้แหละ เอ๊ะะ! หรือว่าา...อยากอยู่กับฉันนานๆ ถ้าบอกดีๆ เราก็พร้อมที่จะอยู่น้าาา”
“ยัยเด็กบ้านี่”
“โอ้ยย! เจ็บนะ!!”
นัทธมนกำมือทุบเข้าที่หลังของหญิงสาวอีกคนจนเธอร้องเจ็บ
“ใครจะไปอยากอยู่กับเธอ”
“ก็ไม่แน่หร๊อกกก..”
ตุ้บบบ!!
“โอ้ยยย!!”
นัทธมนตีเขาเข้าที่เดิมอีกครั้ง
“โอ้ยย!! ก็ได้ๆ ฉันไม่เล่นแล้วก็ได้ แล้วสรุปบ้านรุ่นพี่ไปทางไหนกันแน่ล่ะ!”
“ทางนี้..”
เธอชี้นิ้วบอกทาง
.
.
“จอด จอดๆ จอดๆ จอดดๆๆ โอ๊ะะ!!”
เอิร์ทรีบจอดรถอย่างแรงเพื่อหวังจะแกล้งคนซ้อน
“ขับบ้าอะไรของเธอเนี้ยย..”
“เอ้าา ละก็บอกให้จอด”
เธอเบะปากเป็นเชิงเยาะ
“บ้านใหญ่โตดีนี่..”
“ทำไม อิจฉารึไง”
“เปล่า..ไหนบอกอยู่ศศิรินทร์2ไง แต่นี่มันน...”
ชักสีหน้าเป็นเชิงสงสัยกับสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า
“ก็ใช่ไง! อยู่ข้างๆกัน”
“เอ้อะ..บ้านก็ออกจะใหญ่โตทำไมไม่ให้คนที่บ้านไปรับไปส่ง หรือเป็นแค่ลูกคนใช้ในบ้านหรอ”
“ถีบตกรถเลยดีมั้ยฮะ”
“แรงง...นี่โทรศัพท์..ไปล่ะ!! เจอกันพรุ่งนี้”
ฉันยกแขนกะจะตีอีเด็กบ้านั่น แต่มันดันขับมอเตอร์ไซต์ออกไปเสียก่อน
“เอาะะ..นี่ หลอกมาส่งฉันงั้นหรออ...มันน่านักเชียวว! ใครเค้าอยากจะเจอกับคนอย่างเธอกันเล่า...ชิ!!”
หลังจากที่ยัยเด็กบ้านั่นมาส่งฉันถึงบ้านแล้ว ฉันก็ได้แต่ยืนมองตามหลังยัยนั้นที่พึ่งขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ‘คนอะไรหลงตัวเองฉิบหาย’ ฉันคิดในใจแล้วเดินเข้าไปในบ้าน
นี่เจอแค่วันเดียวยังกวนทีนขนาดนี้ แล้ววันต่อๆไปมันจะขนาดไหน
“แม่....”
เสียงของนัทธมนร้องเรียกแม่ตั้งแต่ยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าบ้าน
“กลับมาแล้วหรอลูกก..ทำไมวันนี้กลับค่ำจัง”
“เปล่าหรอกค่ะ! วันนี้วันซวยอะไรของหนูก็ไม่รู้ โทรศัพท์ก็หาย แถมยังมาเจอรุ่นน้องนิสัยไม่ดีอีกต่างหาก”
“ไปทำท่าไหนอีกล่ะ โทรศัพท์ถึงได้หายได้ เฮ้ออ..ช่างมันเถอะ เดี๋ยววันหยุดค่อยไปซื้อใหม่”
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ พอดีได้คืนแล้ว”
.
.
“คืนนี้ไปมั้ย..”
“คืนนี้เลยหรอวะ ไม่ได้หรอกว่ะเป็นพรุ่งนี้ได้เปล่าวะ ต้องทำงานส่งจารย์งานเยอะต้องส่งพรุ่งนี้ มึงก็รู้..”
“เออๆก็ได้ เสร็จแล้วส่งมาลอกด้วยนะเว้ย”
“เอออ...300ค่าลอก”
“เฮ้ยไรวะ..”
“ค่าแรงขั้นต่ำยังไม่ถึง..ถ้าไม่! งั้นพรุ่งนี้เลี้ยงเหล้ากู”
“เคได้”
“แหม พอมาเรื่องพวกนี้มึงเร็วจังเลยนะ แพงกว่าค่าลอกการบ้านกูอีก”
ตุ้ด..
“เอ้าา..อิห่า หรอกด่ากูชัดๆ”
.....
ก๊อกก๊อกก๊อก..
“คุณหนูเอิร์ทคะ..ทานข้าวค่ะ”
“ค่ะ แป๊ปนึงค่ะป้า เดี๋ยวเอิร์ทตามลงไป”
เธอตอบออกไปก่อนที่จะรีบจัดข้าวของแล้วรีบลงไปทันที
“มีไรกินบ้างคะ..อ้าวว..พ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อวานยังอยู่อังกฤษอยู่ไม่ใช่หรอคะ”
“ก็พึ่งบินมาถึงเมื่อช่วงเที่ยง แกมีแฟนรึยัง..”
“ยังค่ะ! ถามทำไมคะ”
“ดี..ฉันแค่จะมาคุยเรื่องหมั้นกับแก”
“หมั้น..ใครหมั้นคะ”
เธอขมวดคิ้วสงสัย
“ก็แกไง”
“อะไรนะ!!”
เอิร์ทที่กำลังตักข้าวเข้าปากถึงกับร้องลั่นอย่างตกใจอีกทั้งทิ้งช้อนลงไปตามๆกัน
“พ่อจะให้เอิร์ทหมั้น หมั้นกับใคร..”
“ถึวเวลาที่ฉันจะทวงข้อแลกเปลี่ยนกับแกแล้ว คนที่แกต้องหมั้นด้วยก็คือลูกสาวเพื่อนรักของพ่อ”
“ฮู่วว..ยังดีที่เป็นผู้หญิง ถ้าเป็นผู้ชายนะ”
“ถ้าผู้ชายจะทำไม”
“เค้าก็จะหาพ่อเอากะเทยไปแต่งกับลูกสิ พ่อก็รู้ว่าลูกพ่อมีอะไร ถึงใครจะไม่รู้ก็ตาม เออ..แต่ถ้าแต่งกับผู้หญิงก็มันก็เหมือนเดิมเปล้าวะ โดนหาว่าเป็นกะเทยอีกเหมือนเดิม จับกะเทยมาแต่งกับผู้หญิง คิดแล้วก็แปลกๆ..”
เธอนั่งพิงกับเก้าอี้ยกมือขึ้นจับคางตัวเอง แล้วทำหน้าครุ่นคิด
“แต่ป้ารู้นะคะ”
“เออะ..โถ่วว!! มันไม่เกี่ยวกันนะป้า เอิร์ทหมายถึงคนนอกบ้านต่างหากล่ะ”
เอิร์ทพูดทั้งแสดงอาการเลิกกลั่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“แต่ก็ดีที่เป็นผู้หญิง..”
“อ้ออ นี่แกยอมรับแล้วใช่มั้ยว่าแกชอบผู้หญิง”
“อืมม!! แล้วเค้าเป็นใคร”
“แป๊ป เดี๋ยวเอารูปให้ดู”
“แต่ไม่หมั้นได้มั้ย”
“ไม่ได้ แกต้องทำเพื่อธุรกิจที่แกจะต้องเป็นคนสืบสานต่อจากพ่อ”
“แต่..เอิร์ทยังไม่พร้อม แล้วก็ไม่มีทางหมั้นด้วย ไม่มีทาง..”
“แต่แกต้องยอมหมั้น”
เขากล่าวแล้วหันจอโทรศัพท์ที่มีรูปผู้หญิงคนหนึ่งมาให้เธอดู
......
“OK เอิร์ทตกลงจะหมั้นกับคนนี้”
อะไรทำไมฉันรีบตอบไปอย่างไม่รีรอ เพราะผู้หญิงคนที่พ่อจะให้ฉันหมั้นด้วยเธอคือผู้หญิงที่ฉันพึ่งเจอแล้วก็คิดว่าจะชอบเธอเข้าไปแล้วด้วย
“ไหนบอกไม่หมั้น..”
“เปล่าหรอค่ะ เอิร์ทอิ่มแล้ว ขอขึ้นไปทำงานต่อก่อนนะคะ”
ลุกจากโต๊ะกินข้าวแล้ววิ่งขึ้นบันได
“เอ้า ไอ้ลูกคนนี้”
“พี่เอิร์ท..”
น้องชายวัย9ขวบของเธอเรียก
“ครับภาคิณ..”
“สอนการบ้านหน่อย คิณทำไม่เป็น..”
“งานพี่ยังไม่เสร็จเลย ให้แม่คิณสอนก็แล้วกันนะ”
ตอบปฏิเสธน้องชายแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนอย่างไร้เยื่อใย
.
.
.
7:04น.
“ทำไมยัยนี้มาเช้าจังวะ มาถึงแม่งก็มายืนรับไหว้อยู่หน้าโรงเรียนเลย”
นัทธมนแอบนั่งเล่นอยู่ในรถตู้ที่เปิดประตูรอให้เธอลงไปแล้ว ถ้าไม่ลงตรงนี้ก็คงไม่ได้เพราะก็ได้เปิดประตูรถแล้ว แล้ววันนี้เธอก็มีคนนั่งรถมาด้วย
“ทำไมยังไงลงอีกล่ะนัท”
“จะลงแล้วล่ะค่ะพ่อ..”
เธอกล่าวแล้วรีบลงจากรถทันที
..
“เฮ้ยย!! ว่าไงมึง..อยู่ไหนวะ”
“อยู่ในกระเป๋าไปเอาเลย รีบทำให้เสร็จด้วยล่ะ”
“ค้าบแม่..”
ยักคิ้วกระตุกยิ้มส่งเป็นคำตอบ
...
“มันคุยอะไรกันวะ หรือมันคุยกันเรื่อง...ยืออ!! คงไม่หรอกมั้ง”
ฉันเดินไปไหว้พวกสภานักเรียนอีกตามเคย
“มาเช้าจังวันนี้..แต่กระโปรงง”
“ตั้งใจใส่..แล้วจะทำไม”
เธอกล่าวแล้วรีบวิ่งเข้าโรงเรียน
จะยืนอยู่ทำไมล่ะ ขืนยังอยู่ตรงนั้นนะโดนจับถอดกระโปรงแน่
.
.
12:05น.
ทุกอย่างก็ยังปกติอีกเช่นเคย แต่ผิดตรงที่ว่ารู้สึกว่าฉันจะโดนตามโดยใครสักคน
“เดี๋ยวฉันมา...”
ร่างสูงมองไปข้างหน้าแล้วจ้องไปที่ใครบางคน ก่อนจะพูดขึ้นมาพร้อมกับยกมือจับไหล่เพื่อนตัวเอง ก่อนจะเดินไปข้างหน้า
“ว่าไง! เมื่อเช้าเล่นไว้ซะแสบเลยนะรุ่นพี่”
เธอกล่าวแล้วยิ้มและเดินผ่านเขาคนนั้นไปด้วยสีหน้าที่อารมณ์ดี
เธอถึงกับเหว๋อไปเลยเมื่อมีใครบางคนมาพูดสกิดเธอแล้วเดินผ่านไป
“เฮ้ยย!! น่านไง..เมื่อวานฉันบอกแล้ว ว่าน้องเค้าต้องสนใจแกจริงๆด้วย”
ไวน์เพื่อนของฉันพูด
“ไม่มีทางง..ฉันยกให้แกเอาไปเลย”
.
.
.
20:05น.
ร่างสูงเดินเข้ามาในคลับแห่งหนึ่งเพื่อเข้าไปหากลุ่มเพื่อนของตน
คลับนี้ถ้าบ้านไม่รวยเข้าไม่ได้นะเนี่ย เพราะอายุไม่ถึง..แต่ขอโทษที! บ้านฉันรวยเลยยัดเงินเข้าได้ แต่ฉัน..ไม่ต้องค่ะ รู้จักกับเจ้าของคลับ
“มาเร็วนะมึงอ่ะ!!”
“มีคนเลี้ยงทั้งที จะให้มาช้าได้ไง”
“เออออ..”
“วันนี้แกเป็นไรวะ ผีสิงห์รึไง..ฉันสังเกตแกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว เห็นนั่งยิ้มเหม่อลอยทั้งวันเลย”
เมื่อเธอเข้ามาถึงเพื่อนของเธอก็แซวเธอเลย
“เออนั่นดิ..มีไรเปล่าา!!”
“เรื่องของฉัน จบนะ..”
ตอบกลับอย่างคนมั่นหน้า
“ฮั่นแน่ะๆ หรือว่ารุ่นพี่คนนั้นวะะ..”
“เปล๊าา..ไม่มีไร”
“เสียงสูงงง”
ทุกคนในกลุ่มนี้กล่าวพร้อมกัน
“ไหนมึงบอกมึงสนใจไง”
“ไอ้พวกนี้นี่..พี่มีเด็กป้ะ! ขอเอาเด็กใหม่นะไม่ชอบของเก่า”
“มึงอย่าเปลี่ยนเรื่อง”
“มาถึงก็เอาเลยวะเอิร์ท”
“แน่นอนพี่..”
“เออๆ นี่เห็นว่าเป็นลูกผู้มีพระคุณกูนะ ไม่งั้นกูไม่ให้แน่”
.
.
22:45น.
“จะ5ทุ่มละ จะเสร็จมั้ยเนี้ยคืนนี้”
“นัทนอนได้แล้วลูก พรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วนะ ค่อยทำต่อพรุ่งนี้ก็ได้ เดี๋ยวตื่นสายนะลูก”
“ไม่เอาอ่ะแม่..พรุ่งนี้เดี๋ยวขี้เกียจ ทำตอนที่ยังขยันอยู่ดีกว่า แต่ปกติไม่ได้ไปโรงเรียนนัทก็ตื่นสายอยู่แล้วป่ะคะ แม่ไปนอนเถอะ”
เธอหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่แล้วเงยหน้าขึ้นไปคุยกับผู้เป็นแม่
“งั้นแม่ไม่กวนเราละนะ แต่อย่าให้เกินเที่ยงคืนล่ะ”
“ค้าาา!!”
“จริงๆเล้ยลูกคนนี้”
ผู้เป็นแม่ของเธอบ่นให้กับความดื้อรั้นของลูกสาวตัวเอง ทั้งที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์แต่ก็ยังจะทำงานอยู่อีก
.
.
.
เช้าวันต่อมา...
หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้าคฤหาสต์หลังหนึ่งด้วยสภาพสลึมสลือ และดูเหมือนจะเดินเซนิดหน่อย
ใช่..ที่เห็นสภาพฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะฉันพึ่งส่างเมาอ่ะแหละ อาจจะมองว่าเป็นถึงสภาพนักเรียนแต่ทำไม่ทำตัวแบบนี้ แต่มันก็ต้องมีบ้างอ่ะเนอะเบื้องหน้าอย่างเบื้องหลังอย่าง เบื้องหน้าเป็นแบบอย่างที่ดี แต่ทุกคนก็ต้องมีด้านมืดเป็นของตัวเอง แบบเน่า..เฟคอะนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
“คุณหนูคะ!! ทำไมกลับบ้านมาสภาพเป็นแบบนี้ล่ะคะ”
หญิงวัยกลางคนกล่าวแล้วรีบเข้าไปประคองตัวหญิงสาวคนนั้นไว้
“ไปสังสรรมานิดหน่อยอ่ะค่ะ”
“โธ่...แบบนี้เค้าไม่เรียกว่านิดหน่อยแล้วล่ะค่ะ กลับบ้านมาสภาพนี้เนี่ย จะมีคู่หมั้นแล้วยังทำตัวแบบนี้อีก เฮ้ออ! ป้าล่ะเหนื่อยใจแทนคุณท่านจริงๆ”
เมื่อเธอได้ฟังดังนั้นเธอจึงรีบทำหน้าอ้อนหญิงวัยกลางคนคนนั้นทันที
“โอ๊ยยย!!”
“นี่แน่ะ ไม่ต้องมาทำเป็นอ้อนป้าเลย”
เธอตีเข้าที่แขนของเขาจนเธอร้องโอ้ย
“แล้วพ่อไปไหนอ่ะป้า”
“เห็นว่านัดกับเพื่อนไว้นะคะ ถามทำไมคะ!!”
“อ้ออ!! เปล่าหรอกค่ะ..แล้วคิณล่ะ”
“คุณหนูคิณอยู่บนห้องค่ะ”
“แม่มันล่ะ!!”
“คุณหนู...! คุณผู้หญิงไปทำงานค่ะ”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!