ยุทธภพแห่งเซียน
หุบเขาศักดิ์สิทธิ์
หุบเขาได้ชื่อว่าแม้แต่ผู้มีวรยุทธสูงส่ง
นั่นคือคำกล่าวขานต่อกันมาของ
เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องไปทั่วแผ่นดิน
มีทารกน้อยผู้หนึ่งถูกทอดทิ้งอยู่
??
ผู้ใดกันทิ้งชีวิตน้อยๆนี่
เส้นผมสีเงินงดงามราวใบหยก
ดวงตาสีมรกตอ่อนสะท้อนแสงจันทร์
??
รูปร่างของเจ้าดูงดงามราวกับเทพ//มอง
??
ในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงและสายฝนโหมกระหน่ำเช่นนี้//มองพระจันทร์
??
ดูท่าเจ้าคงจะเป็นของขวัญสำหรับข้าสินะ//มองทารก
ข้าได้เลี้ยงดูทารกน้อยผู้นี้
ถึงเวลาแล้วที่ทารักน้อยในวันนั้น
ต้องออกไปท่องยุทธภพในวันนี้
เยว่ส่าง
ท่านอาจารย์!//เดินมา
เยว่ส่าง
ท่านเรียกข้าหรือ?
ลู่เสียน
ใช่ ขึ้นมาสิ//ตบที่นั่งข้างๆ
ลู่เสียน
เยว่ส่าง ถึงเวลาแล้ว//มองฟ้า
เยว่ส่าง
ข้าคงคิดถึงท่านมากเลย..//มองลู่เสียน
ลู่เสียน
เจ้ามีอายุมากพอที่จะเป็นเจ้าของชีวิตตนเองแล้ว
ลู่เสียน
ได้เวลาที่เจ้าจำต้องออกท่องยุทธภพแล้ว
เยว่ส่าง
แล้วท่านหละ?//มองฟ้า
เยว่ส่าง
ข้าต้องไปเดี๋ยวนี้หรือ
ลู่เสียน
ใช่แล้ว//ลูบหัวเยว่ส่าง
ลู่เสียนใช้มือจับศรีษะของศิษย์ตนเบาๆ
แล้วจูบหน้าผากพร้อมให้สิ่งจำเป็นในแผ่นดินใหญ่
ทั้งสองร่ำลากันด้วยความสงบ
ลู่เสียนมองเยว่ส่างที่ห่างออกไปเรื่อยๆ
ลู่เสียน
ครานี้ก็ขึ้นอยู่ที่เจ้าแล้ว
ชายชุดคลุม
กระทั่งมีหญิงผู้หนึ่งเดินเข้ามา
หรานหร่านบุตรสาวจ้าวสำนักนิกายทอง
แอด
จ้าว ใช้เรียกคนที่สูงส่ง หรือหัวหน้า เจ้า ใช้เรียกแทนเขา คำนามนั่นแหละค่ะ
ฟางหรง
//นั่งอยู่โต๊ะริมสุด
หรานหร่าน
พี่ชายถ้าท่านไม่ว่าอะไรข้าขอนั่งด้วยได้หรือไม่//ยิ้ม
หรานหร่าน
ท่านมาจากเมืองอื่นหรือ
หรานหร่าน
ข้าไม่คุ้นหน้าคุ้นตาท่านเลย//มอง
ขณะนั้นฟางหรงได้สังเกตเห็นชายผู้หนึ่งเดินเข้ามา
แม้จะใส่ผ้าคลุมก็พอจะมองเห็นผิวที่ขาวราวหิมะได้
เมื่อฟางหรงเห็นจึงนั่งลงที่เดิม
หรานหร่าน
ท่านดูดียิ่งนัก ข้าขอทราบชื่อได้หรือไม่//มอง
หรานหร่าน
บุตรสาวจ้าวสำนักนิกายทอง
เมื่อชายชุดคลุมเดินไปนั่งโต๊ะ
ทุกอย่างในโรงเตี๊ยมเงียบสงบไปโดยปริยาย
ราวกับอยู่ต่อหน้าสิ่งที่มิอาจเผชิญได้
สัญชาตญาณบ่งบอกว่าให้อยู่นิ่งๆ
เยว่ส่าง
ข้าขออาหารที่รสชาติดีและไม่แพงนัก//นั่ง
ทุกอย่างรอบๆสงบเสงี่ยมราวกับสายน้ำ
หรานหร่านเริ่มรู้ตัวว่ามีบางอย่างในร้านดึงดูดความสนใจผู้คน
หรานหร่าน
(ใครกัน บังอาจนัก!?)
หรานหร่าน
คุณชายฟางหรง ท่านพอจะมีเวลาไปเดินเล่นกับข้าหรือไม่//ยิ้ม
หรานหร่าน
(ชิ..เพราะเจ้านั่นสินะ!)
??
พี่ชาย ข้าขอนั่งด้วยได้หรือไม่?//ยิ้ม
ตอน 3
ซูเหวิน
พี่ชาย ข้าขอนั่งด้วยได้หรือไม่?//ยิ้ม
หรานหร่านเดินกลับไปนั่งที่เดิม
เธอเริ่มชวนฟางหรงพูดคุยอีกครั้งพร้อมทำท่าทียั่วยวน
หรานหร่าน
คุณชายฟางหรง ท่านอยากไปชมสำนักของข้าหรือไม่?
หรานหร่าน
สำนักของข้าเป็นที่เลื่องลือมากพอสมควรในแผ่นดินใหญ่
หรานหร่าน
ข้าสามารถแนะนำให้ท่านได้//ยิ้ม
ฟางหรง
สำนักของเจ้าชื่ออะไร
หรานหร่าน
สำนักนิกายทองเพคะ//ยิ้ม
ฟางหรง
(ข้าอยากกรู้ตักเมืองนี้ให้มากขึ้นแต่ข้าไม่อยากละสายตาจากชายผู้นั้นเลย..)
ฟางหรง
ได้ แต่ยังมิใช่ครานี้//จิบชา
หรานหร่าน
ข้าจะรอท่านเพคะ//ลุก
หรานหร่านเดินออกจากโรงเตี๊ยมไป
ซูเหวิน
ท่านมาจากเมืองอื่นหรือ ข้าไม่เคยเห็นหน้าท่านเลย?
เยว่ส่าง
แน่นอน ไม่มีใครรู้จักข้า//กิน
ซูเหวิน
ท่านพูดอย่างกับนักปราชญ์ที่ไม่โด่งดังแหนะฮ่าๆ//หัวเราะ
เยว่ส่าง
นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าออกจากที่อยู่ของตน
ฟางหรง
(ดูแล้วไม่ใช่คนเมืองอื่นเป็นแน่..กลิ่นอายของเขาชั่งแตกต่าง..)
ฟางหรง
(เป็นครั้งแรกที่ข้ารู้สึกสับสนในตัวมนุษย์)
ฟางหรง
(ชายผู้นี้มีกลิ่นของความศักดิ์สิทธิ์..รวมถึงกลิ่นคาวของเลือด)
ฟางหรง
(แต่เขามิเคยฆ่าใครเลย..เป็นไปได้ยังไงนะ..)
*วะฮ่า ศิษย์ของข้ารู้สึกสับสนหรือนี่*
*ดูท่าเจ้าคงมิเคยพบกลิ่นอายแบบนี้สินะ*
*มนุษย์ผู้นั้นมิเคยฆ่าใคร แต่กลิ่นคาวของเลือดนั้นมาจากสิ่งรอบกายของเขา*
*ใช่ จะเป็นที่อยู่ สถานที่ หรือแม้แต่ติดมาจากมนุษย์ด้วยกัน*
ฟางหรง
*ท่านกำลังจะบอกว่ากลิ่นอายของเลือดอยู่รอบกายของเขาสินะ*
*อีกอย่าง เจ้าไม่ควรสู้กับเขา*
ฟางหรง
*เขาแกร่งกว่าข้างั้นรึ!?*
*แม่แต่ข้าก็ประเมิณความแกร่งของเขามิได้ หากสู้กันเจ้าอาจจะต้องตรำศึกไปเป็นทศวรรษเลยก็ได้*
ฟางหรง
*ขนาดนั้นเชียวหรือ*//มองเยว่ส่าง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!