บทที่ 1 เกิดใหม่
ณ บ้านเก่าๆในตรอกซอย เย่เทียนที่หลับอยู่ได้สะดุ้งขึ้นมาพร้อมกับเกิดอาการมึนงงกับสิ่งที่เห็น นั่นคือที่นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเขา
“ ฝันหรอ ? “
เย่เทียนดึงแก้มตัวเอง พร้อมกับมองไปที่กระจกที่ส่องหน้าของชายหนุ่มวัย 19 มีมีหน้าตาหล่อเหลาแต่ตอนนี้ผอมแห้งและใส่เสื้อกล้ามเก่าๆกับกางเกงลิง
“ นี่ใคร ? “
ในระหว่างที่ยังสับสนจู่ๆก็มีความทรงจำมากมายทะลวงเข้ามาจนทำให้เย่เทียนแทบจะสลบแต่เขาก็ทนไว้ได้
“ นี่ฉันตายแล้วมาอยู่ในร่างของหนุ่มคนนี้งั้นรึ แต่ช่างน่าสงสารครอบครัวต่างทอดทิ้งหนุ่มคนนี้ “ เย่เทียนกล่าวปลอบ
ในระหว่างที่เขากำลังเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างก็มีเสียงลึกลับดังเข้ามา
“ ยินดีต้องรับโฮส “
“ ตอนนี้โฮสได้ถูกผสานกับร่างกายที่ระบบเลือกไว้ให้ และโลกที่โฮสอยู่คือโลกเดิมของโฮสแต่ผ่านมาแล้ว 50 ปี หลังจากที่โฮสเสียก็มีสิ่งมีชีวิตต่างดาวมาทำลายโลกทำให้มนุษย์เกือบจะสูญพันธุ์ไป แต่ระบบได้เลือกโฮสเพื่อเป็นผู้ชี้นำโลกนี้ "
เย่เทียนที่ได้ยินว่าโลกนี้ยังคงเป็นโลกเดิมที่เขาเคยอยู่เขารู้สึกดีใจ แต่ก็รู้สึกแย่ที่ถ้ามันเป็นไปตามที่ระบบบอกแปลว่าตอนนี้มนุษย์ต่างเดือดร้อนกัน
“ แล้วระบบต้องการให้ฉันทำอะไร ? “ เย่เทียนตั้งคำถามอย่างไม่รอช้า
“ โฮสมีหน้าที่แค่ทำภารกิจตามที่ระบบมอบให้และระบบจะตั้งคะแนนตามความยากง่าย โอกาศภารกิจยากระบบอาจมอบสมบัติบางอย่างให้โฮสและจะถูกเก็บในคลังมิติที่ระบบมีไว้อยู่ ส่วนคะแนนโฮสสามารถนำไปใช้แลกกับสินค้าค้าในร้านค้าระบบได้ “
“ ตอนนี้โฮสได้รับสมบัติต้อนรับแบบสุ่ม จะสุ่มเลยหรือไม่ “
เย่เทียนที่ได้ยินเขาเลือกที่จะสุ่มทันที จากนั้นก็มีวงลูเล็ตขนาดใหญ่ปรากฎออกมามันมีช่องสี แดง ทอง ม่วง รุ้ง และ ขาว อยู่ ก่อนที่วงล้อจะเริ่มหมุน
“ ไหนดูสิว่าฉันจะได้อะไร “
วงล้อหมุนอย่างรวดเร็วไปกว่าสิบรอบจนมันช้าลงและช่องที่มันกำลังจะตกคือม่วงแต่ดูเหมือนว่าเขาโชคดีไปกว่านั้นคือมันยังไม่หยุดแต่กำลังไปช่องเล็กๆสีรุ้งแทน ก่อนที่จะหยุดที่ช่องนั้นพอดี
“ ใช่เลยนี่หละดวงของฉัน “
ระบบเงียบไปสักพักก่อนจะมีจอข้อมูลเด้งเข้ามา
“ โฮสได้รับ กายพระเจ้าเก้าหทัย หลังจากที่โฮสได้กดรับ ระบบจะทำการหลอมกายโฮสกับกายพระเจ้าเก้าหทัย ทันที หลังจากหลอมโฮสจะยังคงใช้ได้แค่ กายพระเจ้าหนึ่งหทัย ทุกครั้งโฮสต้องสร้างอวตารแก่หทัยทุกครั้งจึงจะเลื่อนระดับหทัยต่อไป “
( หทัย / หัวใจ )
เย่เทียนอึ้งในความทรงจำใหม่อวตารแต่ละคนจะมีได้แค่ตนเดียว แต่เขาสามารถมีได้ถึง 9 นั่นแปลว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ
เย่เทียนไม่รอช้ารีบกดรับทันที ก่อนที่ตัวเขาจะถูกห่อหุ้มด้วยม่านพลังลึกลับ
ผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เย่เทียนได้ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับพบว่าตอนนี้ตัวของเขารู้สึกถึงพลังลึกลับในตัวรวมทั้งในจิตของเขาเหมือนมีประตูทั้งเก้าที่ส่องสว่างอยู่แค่บานเดียวแต่ยังไม่ถูกเปิดออกยังคงปิดอยู่ แปลว่ายังไม่มีอวตารอยู่ในนั้นเลย
“ พลังนี้คืออะไร ? “ เย่เทียนมองมือของตัวเองแล้วเห็นออร่าสีขาวกำลังไหลไปมาบนมือ
[ ตอนนี้โฮส อยู่เขตแดนนักรบขั้น 1 ซึ่งทุกๆเขตแดนจะมี 9 ขั้น ในแต่ละเขตจะมีชื่อ เขตแดนนักรบ เขตแดนเหนือมนุษย์ เขตแดนหลอมรวม เขตแดนแตกหน่อ เขตแดนตรัสรู้ เขตแดนเซียน เขตแดนราชา เขตแดนจักรพรรดิ เขตแดนเทพ ]
“ ช่างเยอะแยะเสียจริง “ เย่เทียนบ่น
เย่เทียนครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาต้องทำคือสร้างอวตารไม่ก็หามาใส่ด้วยตนเองเพื่อก้าวไปขั้นต่อไปเพราะกายของเขาต้องใช้อวตารมาใส่ประตูทั้งเก้าในเขตแดนแรกก่อนจะไปเขตต่อๆไป
ในขณะที่กำลังคิดระบบก็พูดขึ้น
[ โฮสได้รับภารกิจ : จงสมัครหน่วยปกป้องชายแดนชั่วคราว 30 วัน รางวัล 2000 แต้ม
ภารกิจ : กำจัดอสูรตัวแรก รางวัล 500 แต้ม
ภารกิจต่อเนื่อง : กำจัดหรือช่วยกำจัดอสูร 1 ตัว ได้ 10 คะแนน ]
เย่เทียนกุมขมับทันที นี่มันจะเร็วไปไหมเพราะเขายังติดอยู่เขตแดนนักรบขั้น 1 อวตารก็ยังไม่มี ระหว่างที่จะบ่นจู่ๆก็มีเสียงเคาะประตู เย่เทียนรีบลุกไปเปิดทันที
“ สวัสดีครับมาหาใครครับ ? “ เย่เทียนกล่าวอย่างสุภาพ แต่ชายที่ยืนหน้าประตูนั้นถือมีดและมองเขาด้วยแววตาเย็นชา
“ ทำไมแกยังไม่ตาย เย่เทียน ! “ ชายคนนั้นตะโกนพร้อมกับเหวี่ยงมีดผ่านหน้าของเขาไป โชคดีที่เย่เทียนรู้ตัวทันจึงหลบไว้ได้
ความทรงจำได้ทำให้เย่เทียนนึกออก คนนี้คือลูกน้องของซงจินมันสั่งลูกน้องให้มาสังหารเขาหลังจากที่ผู้หญิงที่มันแอบชอบนั้นถูกมันเข้าใจผิดคิดว่าเย่เทียนกำลังคิดไม่ดีกับนางมันจึงแค้นและสังหารเขาได้แต่เย่เทียนได้มาเกิดใหม่อีกครั้งทำให้ลูกน้องต้องมาตามเก็บอีก
“ ฉันไม่ได้ทำอะไรให้นายทำไมนายต้องฆ่าฉัน ? “
เย่เทียนถาม แต่ลูกน้องนั้นไม่ได้ฟังเขาระเบิดพลังเขตแดนนักรบขั้น 2 ออกมา พร้อมกับมีเงาเหมือนตะขาบกำลังชอบไชไปทั่วร่างกาย ก่อนจะฟันมีดมาที่เขาอีกครั้ง
“ หุบปาก ! “ ลูกน้องนั้นไม่ได้ให้โอกาศเย่เทียนเขาฟาดมีดมาด้วยความเร็ว เย่เทียนเบื่อก่อนจะพุ่งมือไปจับข้อมืออีกฝ่ายพร้อมกับบิดข้อมือจนหักทำให้ลูกน้องคนนี้นั่นคุกเข่าร้องอย่างเจ็บปวด เย่เทียนมองใบหน้าที่เจ็บปวดอีกฝ่ายอย่างไร้ความรู้สึกและส่งถีบอีกฝ่ายกระเด็นกระแทกกำแพง
ปัง!
ลูกน้องที่กระแทกกำแพงจนเกิดรอยร้าวได้สลบลง เย่เทียนไม่สนใจก่อนจะรีบไปนำข้าวของทุกอย่างใส่กระเป๋าเดินทางจากนั้นก็รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบสะพายกระเป๋าออกจากบ้านไป ลูกน้องคนนั้นก็ยังไม่ได้สติ
….
จบบทแรก ฮ่าๆชอบกันไหม
... ...
บทที่ 2 นายพลหลิวตง
เย่เทียนที่เดินออกมาจากตรอกซอย เขาได้เห็นสิ่งแวดล้อมที่ต่างไปจากเดิมและถูกบดบังด้วยกำแพงขนาดใหญ่
“ ผ่านมา 50 ปี ยังโชคดีที่ฉันในอดีตตายตอนหนุ่มและไม่มีครอบครัวให้ผูกมัด “ เย่เทียนกล่าวอย่างสบายใจ
ถึงแม้ว่าปัจจุบันร่างกายนี้จะมีความทรงจำแย่ๆเหลือไว้แต่เย่เทียนไม่คิดจะสนใจเรื่องอดีตของเจ้าของเก่าคนนี้
“ เอาหละดูเหมือนว่า เขตที่ฉันอยู่คือเขต 9 สินะ ที่สมัครอยู่ติดกับทางออกคงใช้เวลาไม่นาน “
เขตที่เย่เทียนอยู่คือ เขตที่ 9 ใน 10 เขตทั้งหมดที่เรียงกันแบ่งเป็นวงกลมและถูกแบ่งเขตเหมือนเส้นตัดพิษซ่าเป็น 10 เขต
ในระหว่างที่เย่เทียนเดินอยู่ตามทางเขาเห็นผู้คนต่างชนชั้นบ้างก็เป็นพวกมั่งคั่งบางคนก็แทบจะเป็นขอทานริมถนน เย่เทียนบ่นเบาๆ
“ ระบบในตอนนี้แย่กว่าที่คิด “
หลังผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง เขาได้มาถึงอาคารรับสมัคร เย่เทียนไม่รอช้าเขารีบเข้าไปทันที ผู้คนต่างมองมาที่เย่เทียนเพราะหายากที่จะมีหนุ่มมาสมัครงานนี้ส่วนใหญ่จะศึกษาอยู่ในสถาบันมากกว่า
“ ไม่ทราบว่ามาติดต่ออะไรคะ ? “ พนักงานหญิงกล่าวถามพร้อมมองสำรวจเย่เทียนด้วยแววตาแปลกๆเพราะเขายังเด็กอยู่
“ ผมมาสมัครเป็น หน่วยปกป้องชายแดนครับ “ เย่เทียนตอบ
พนักงานหญิงยิ้มก่อนจะพิมพ์ข้อมูลต่าง ๆลงคอมพิวเตอร์ล้ำสมัย เย่เทียนเองก็ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีอนาคตอันนี้
หลังจากผ่านไป 2 นาที พนักงานหันมาบอกเขา
“ ตอนนี้นายพลหลิวตงต้องการให้คุณไปพบเขา ดูเหมือนว่าท่านจะสนใจคุณมาก “ พนักงานกล่าวอย่างยินดี
เย่เทียนไม่ได้กล่าวอะไรเพียงแต่ความทรงจำเกี่ยวกับ นายพลหลิวตงนั้นคือเขาเป็นพวกบ้าสงครามกระหายเลือดนักข่าวมักตามทำข่าวเกี่ยวกับความประพฤติแย่ๆของเขาแต่ฝีมือการคุมหน่วยของเขาคือของจริง
“ แล้วเขาให้ผมไปพบที่ไหนครับ ? “ เย่เทียนถามต่อ
พนักงานหันไปเรียกพนักงานอีกคนให้มาทำหน้าที่แทนเธอ ก่อนที่เธอจะมาคุยกับเย่เทียน “ ตามฉันมา “
ระหว่างเดินตามพนักงาน รอบๆทางเดินที่เย่เทียนผ่านคือกำแพงกระจกทำให้เขาเห็นเหล่านักรบต่างฝึกฝนกันอย่างขยันบางคนอยู่เขตแดนนักรบขั้น 7-8 ตามที่ระบบได้ส่งข้อมูลมา พนักงานสาวที่นำเขาเองก็อยู่เขตแดนนักรบขั้น 4 เขาเริ่มสนใจกับงานนี่เรื่อย ๆ
“ ที่นี่แหละค่ะ ข้างในนายพลหลิวตงนั่งรอคุณอยู่ “ พนักงานกล่าวลา
“ ขอบคุณมากครับ “ เย่เทียนกล่าวตอบ
หลังจากเธอหายไปเย่เทียนก็เอื้อมมือเปิดประตู ทันทีที่เปิดออร่าบางอย่างได้กระแทกร่างของเขาจนระบบยังเตือนถึงระดับคนที่ปล่อยออร่าข่มแบบนี้ออกมา
เขตแดนเหนือมนุษย์ขั้น 5 ! เย่เทียนถึงกับตกใจ พอเกิดใหม่ก็ต้องมาเจอตัวตนยิ่งใหญ่เข้าแล้ว
“ เข้ามาเร็วๆ “ เสียงดุดันถูกส่งออกมาถึงนอกประตู แรงกดดันนี้เย่เทียนได้จดจำแล้วและชินกับมันแล้วเดินเข้าห้องไป
เมื่อเขาเข้ามา เขาเห็นชายอายุ 50 มีดวงตาดุจราชสีห์ กำลังจิบชาอย่างสบายใจ ใบหน้ามีรอยคล้ายกับกรงเล็บบาดหน้าของเขาเป็นรอนเฉียงจากคางขวายังขมับบนซ้าย
“ เธอชื่อ เย่เทียน สินะ ทำไมเธอถึงตัดสินใจเข้าร่วมหน่อยปกป้อยชายแดนหละ คนหนุ่มอย่างเธอไม่ควรเสี่ยงแบบนี้ “ หลิวตงถามพร้อมทำท่าทางยั่วเย่เทียน
เย่เทียนที่ยังยืนอยู่เขาได้ยินเช่นนั้นเขายิ้ม
“ เพราะไม่มีอะไรต้องเสีย ผมแค่ทำตามใจตนเองและนี่ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผมเป็นอย่างมาก “ เย่เทียนตอบอย่างมั่นใจ
หลิวตงได้ยินแบบนั้น เขาชักดาบออกมาชี้ไปที่ดวงตาของเย่เทียนที่ไม่กะพริบ
“ ช่างเป็นคนหนุ่มที่น่าสนใจ เอานี่ใบรับรองฉันได้อนุญาติเป็นการส่วนตัว พรุ่งนี้เธอเตรียมออกไปประจำจุดได้เลย “ หลิวตงกล่าวอย่างชอบใจ
“ เอานี่ไปด้วยคู่มือนี้จำเป็น แล้วก็ดูที่เธอหอบกระเป๋ามาคงไม่คิดจะกลับบ้านก็ไปหาฝ่ายดูแลห้องถัดไปเขาจะจัดเตรียมห้องให้ “
“ ขอบคุณครับ “ เย่เทียนโค้งขอบคุณก่อนจะเดินออกไป ส่วนหลิวตงเขานั่งและเปิดจอโฮโลแกรมซึ่งมีข้อมูลเย่เทียนที่มีบางส่วนถูกลบหายไปอย่างไร้ร่องลอย ข้อมูลนั่นคือชาติกำเนิดของเย่เทียน
หลังจากที่เย่เทียนได้ทำตามที่นายพลหลิวตงบอก เขาได้มาที่ห้องนอนที่ถูกเตรียมไว้ให้ มันไม่ได้แย่กับเขาสักทีเดียว เย่เทียนรอที่จะได้ออกไปทำภารกิจจากระบบของเขาสักที
ช่วงเช้า ผู้ดูแลได้พาตัวเย่เทียนที่สวมชุดคล้ายทหารเพียงแต่สามารถพกอาวุธที่ถนัดเช่นปืน หอก มีด ดาบ และอื่น ๆ หลิวตงเงือกพกดาบถ้าพกปืนเขาต้องจ่ายค่ากระสุนเองซึ่งมันสิ้นเปลืองกับเขา
ทางออกจากเขต 9 ไปนอกกำแพง หลิวตงยังนั่งดูเหล่าผู้สมัครใหม่กว่า 30 คน แต่ละคนดูมีอายุเยอะพอสมควร เย่เทียนที่เห็นเขารู้สึกแย่เพราะแต่ละคนบางคนก็ไม่ควรต้องมาเสี่ยงเพื่อครอบครัวแบบนี้
[ โฮสก็รีบแข็งแกร่งและชี้นำพวกเขาสิ ]
ระบบที่ไม่ได้พูดอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานได้พูดขึ้น เย่เทียนเมินคำพูดนั้นตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการคือทำภารกิจ เพราะเมื่อคืนตอนนอนเขาลองดูร้านค้าเขาเห็นว่ามีอวตารปล่อยขายอยู่เขาสามารถซื้อมันมาเสริมกายเขาได้
ในเมื่อมาถึง หลิวตงที่เห็นเขาไม่ได้ทักทายอะไรเย่เทียนเพียงแต่ตะโกนให้พวกเขาขึ้นรถและขับออกไปจากกำแพง
เย่เทียนเมื่อเขามองเห็นทุกอย่างนอกกำแพงเขาถึงกับตกตะลึง รอบๆกำแพงคือป่าทึบต้นไม้สูงกว่าพันเมตร มันโตเร็วมากเย่เทียนตาไม่กะพริบ
“ เฮ้ เจ้าหนุ่มอายุน้อยอย่างเธอทำไมถึงกล้ามาสมัครหน่วยปกป้องชายแดนหละ ? “ ชายแก่ที่มาใหม่เหมือนเขาถาม
“ เพื่อประสบการณ์ครับ สถาบันมันก็ดีแต่ว่าพอจบและมาสู้จริงโอกาส 50% ไม่รอดก็ตาย มันก็มีให้เห็นทุกครั้งเพราะบางคนกลัว “
ชายชราที่ได้ฟังคำตอบนี้เขาเห็นด้วยและเขาเองก็กลัวเหมือนกัน คนอื่น ๆที่ได้ยินต่างเห็นด้วย
บทที่ 3 ค่ายอสูรคลั่ง
หลังจากออกมาจากกำแพงเขต 9 ห่างมากว่า 15 กิโลเมตร ที่นี่มีค่ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่มีรอยโจมตีมากมายและรวมถึงกลิ่นที่เหม็นเน่าจากศพอสูรในป่า
เย่เทียน มองเหล่าคนในหน่วยปกป้อยชายแดนที่ต่างพากันนั่งกินเนื้ออสูรพร้อมพูดคุยกันราวกับว่าไม่ได้พูดคุยกันมานาน
ชายชราที่นั่งข้างเย่เทียนถึงกับกลืนน้ำลายกับสถานที่ที่ตนเองเห็นมันไม่เหมือนกับที่เขาคิดไว้ว่าจะมีรถถัง อาวุธล้อมรอบมากมาย แต่ความจริงก็คือมีแต่มนุษย์เท่านั้น
หลิวตงมองเหล่าผู้มาใหม่ด้วยแววตาเยาะเย้ย เพราะทุกรอบทุกคนต่างมีอาการแบบนี้ เย่เทียนเองก็ทำเพียงแค่ถอนหายใจสำหรับเขามันแย่มากแต่เพื่อภารกิจถือว่าลดความกลัวได้
“ เอาหละทุกคนลงจากรถ และนำสัมภาระไปไว้ในค่ายก่อน วันนี้พวกแกทุกคนต้องทำความเข้าใจกฎของค่ายนี้ หลังจากนั้นเราจะแบ่งให้พวกแกติดตามไปหน่วยต่างๆ “ หลิวตงประกาศอย่างจริงจัง
เหล่าหน่วยปกป้องชายแดนต่างพากันเดินมาดูผู้มาใหม่ด้วยแววตาสนอกสนใจพวกเขาไม่ดูถูกเพราะพวกที่กล้ามาที่นี่นั้นคือพวกที่ยอมทิ้งชีวิตเพื่อแลกกับชีวิตเหมือนกัน
เย่เทียนนำกระเป๋าไปเก็บตามคนอื่นๆ เขาได้เห็นข้างในอาคารมีเตียงนอนรวมกว่าร้อยเตียง ซึ่งบางเตียงอาจเป็นเตียงคนตายร้อยศพตามที่คนอื่นๆเล่ากัน
ในขณะที่เขากำลังจะออกไปที่จุดนัดรวมตัว เขาเห็นชายร่างใหญ่ผิวแทนเดินเข้ามาในมือถือขวานที่ถูกทำมาจากเขี้ยวหมูป่ายักษ์ เขามองคนมาใหม่ก่อนจะไม่สนใจแล้วหาเตียงตัวเองและนอนลง
คนอื่นๆรวมเย่เทียนงุนงงกับชายคนนี้
ด้านนอกจุดนัดรวมตัว นายพลตงหลิวกำลังฟังรายงานหน่วยล่าสุดที่ออกปฎิบัติงาน 50 คน บาดเจ็บ 29 ตาย 7 นั่นทำให้ใบหน้าของนายพลหลิวตงแย่กว่าเดิม
“ เดือนนี้ก็ตายรวม 349 ราย พิการ 211 ราย เฮ้อคนที่ยอมเสี่ยงมาเข้าหน่วยนี้นับวันยิ่งลดลง คิดไงบ้างหละ “ นายพลหลิวกล่าวถามชายอายุ 30 ที่เป็นผู้จัดการฐานแห่งนี้
“ เรื่องนี้ผมก็คิดแบบเดียวกันกับท่านเขามีฝีมือล้วนแต่แก่ลง ต่อให้พวกเขายืดชีวิตจาก เขตแดนที่พวกเขามีก็ตาม ตอนนี้คนที่มีเขตแดนเหนือมนุษย์มีแค่ 4 คน “
หลิวตงได้ยินเช่นนั้นนั้นเขาไม่ตอบกลับก่อนจะมองไปที่คนมาใหม่ที่รีบวิ่งมารวมตัวแต่สายตาเขามองไปที่เย่เทียนอย่างสนอกสนใจ
“ เอาหละที่ฉันจะบอกพวกแกที่มาใหม่ฟังให้ดี ในบรรดาทั้ง 10 เขต จะมีค่ายหน่วยปกป้องชายแดน 10 ค่ายในแต่ละค่ายจะมีชื่อ ที่นี่คือค่ายอสูรคลั่ง ความหมายก็ตรงตัวเพราะจุดที่เราอยู่อสูรต่างดาวมันทั้งดุและโหดเหี้ยมกว่าค่ายอื่นๆ “
ผู้มาใหม่ได้ยินพวกเขาถึงกับเหงื่อตก ส่วนผู้ที่อยู่มานานก็ทำเพียงเห็นใจ ส่วนเย่เทียนเขาไม่คิดสิ่งใดสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือทำภารกิจให้เสร็จ
นายพลที่กำลังจะกล่าวต่อจู่ๆก็ถูกขัด
“ เออท่านนายพลครับ ถ้าผมอยากจะถอนตัว “ ชายร่างท้วมจู่ๆก็ยกมือขึ้นทำให้ทุกคนในค่ายต่างจ้องมองมาที่ชายร่างท้วมคนนี้
นายพลตงหลิวที่ถูกขัดเขาเงียบพร้อมกับเดินตรงไปหาชายร่างท่วม ในขณะที่เดินผ่าน เขตแดนเหนือมนุษย์ขั้น 5 ถูกประทุออกมาจนเกิดออร่าราชสีห์ยักษ์ มือของเขาคว้าไปที่คอเสื้อชายร่างท่วมก่อนจะยกชายร่างท้วมด้วยแขนข้างเดียว
“ แกกำลังพูดอะไร พูดอีกครั้ง ! “
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ล้วนถอยห่าง เย่เทียนเองที่มีกายพระเจ้าเก้าหทัยเองก็เหมือนรับแรงกระตุ้นให้รีบหาอวตารมาใส่เพื่อยกระดับเขตแดนตนเอง ดูเหมือนกับว่ากายของเขานั้นไม่ชอบโดนพลังกระจ้อยร่อยพวกนี้ดูถูก
“ พูดอีกครั้ง ! “
เสียงตะโกนถามอีกรอบ จนเกิดคลื่นขนาดเล็กพัดฝุ่นใต้เท้าของเขากระจาย
“ ผมแค่อยากจะถามว่าถอนตัวได้ไหมแค่นั้นเองครับ “ ชายร่างท้วมตอบด้วยใบหน้าซีดเซียว กางเกงของเขาเปียกชื้น
นายพลหลิวตงปล่อยชายร่างท่วมลงกับพื้นแต่ชายร่างท่วมราวกับไม่มีแรงทำให้ล้มกระแทกพื้นอย่างแรงและสลบไป
“ นำตัวเจ้านี่ไปในอาคารพรุ่งนี้หาคนส่งมันกลับไป เอาคนเช่นนี้ไว้มีแต่เป็นภาระในค่ายเรา “
ชายร่างท้วมถูกหามออกไป คนอื่นๆรีบกลับมายืนประจำที่เหมือนเดิม เย่เทียนที่สัมผัสถึงความรุนแรงเมื่อกี้ก็ดูเหมือนว่าจิตวิญญาณของเขาถูกยกระดับมาอีกขั้น
“ เอาหละ ฉันจะไม่พูดพร่ำทำเพลง ค่ายนี้มีเหลืออยู่ 6 หน่วย ซึ่งทุกหน่วยล้วนแต่มีรุ่นพี่ของพวกแกที่ผ่านการต่อสู้มามากมาย ฉันจะให้พวกแกตัดสินใยเลือกที่จะไปอยู่กับหน่วยใดหน่วยหนึ่งใน 6 หน่วยนี้ จำไว้ว่า แกเลือกได้อีกฝ่ายก็ปฏิเสธได้เหมือนกันส่วนคนที่ไร้หน่วยก็ทำได้เพียงเป็นแกะติดตามหน่วยนั้นๆอย่างไม่มีใครสนใจเพราะแกต้องทำตัวมีคุณค่าก่อน “
หลิวตงกล่าวพร้อมกับเดินจากไปปล่อยให้ผู้มาใหม่นั้นต่างรีบกระจายตัวหาเหล่าผู้ที่อยู่มาก่อนในสถานะรุ่นพี่พวกเขาอย่างรวดเร็ว
ชายชราที่เคยพูดคุยกับเย่เทียบตบไหล่เย่เทียนเบาๆ
“ เธอสนใจไปหน่วย 18 ด้วยกันกับฉันไหม ฉันมีคนรู้จักอยู่พวกเราจะได้ช่วยเหลือกัน “ ชายชราชักชวน
เย่เทียนครุ่นคิด เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าหน่วยที่ชายชราชวนให้ติดตามเป็นหน่วยย่อยแบบไหน จากนั้นเขาก็ตัดสินใจตอบ “ ผมขอดูหน่วยที่คุณว่าก่อน เดี๋ยวผมตัดสินใจหลังจากที่เห็น “
ชายชรายิ้ม “ ดีตามฉันมา หน่วยนี้มีแต่คนแก่ๆคนรู้จักฉันเป็นทหารผ่านศึกมาก่อนทำให้มีฝีมือพอตัวเชียวหละ “
เย่เทียนยิ้ม “ ดูเหมือนคุณจะหายกลัวแล้วนะ “
ชายชราหัวเราะ และเดินตรงไปเรื่อยๆจนมาถึงเต็นท์ที่ตั้งอยู่หลายที่ มีชายอายุ 40-60 ปี ต่างกำลังนั่งพูดคุยกันต่างๆนาๆ ก่อนที่ชายคนนึงในนั้นจะสังเกตเห็นชายชราข้างๆเย่เทียน
“ กงหนิ่ว ! นั่นกงหนิ่วนิ ! “ ชายชราฟันหมดปากตระโกนบอกคนอื่นๆ ทุกคนได้ยินชายฟันไม่มีพูดต่างหันไปมองที่กงหนิ่วกันยกใหญ่
“ อาจารย์กงหนิ่ว ! “ ชายคนนึงพุ่งตัวหน้ากระแทกพื้นและทำความเคารพอย่างซาบซึ้ง
เย่เทียนเองก็มองไปที่ เขตแดนทุกคน เขตแดนแต่ละคนอยู่ที่ เขตแดนเหนือมนุษย์ขั้น 1 จำนวน 1 คน และ อีก 6 คนอยู่ที่เขตแดนนักรบขั้น 9
“ ฮ่าๆไม่เจอกันนานเลยนะศิษย์ของฉัน ฮ่าๆ “
เย่เทียนก็ยังงุนงงกับชายชราคนนี้ที่ก่อนหน้านี้ทำทีท่าหวาดกลัวแต่ทำไมถึงได้ใจเย็นอย่างรวดเร็ว เขาคนนี้คือใครเย่เทียนเริ่มจะสงสัย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!