พะแพง นายออกเวรแล้ว เลิกงานแล้วสินะ ขออะไรอย่างนึงสิเพื่อนรัก
ว่ามาสิ นายจะชวนฉันไปไหนอีกละ
เปล่าไม่ได้จะชวนไปไหน วันนี้นายไปรับน้องสาวฉันที่สนามบินแทนฉันหน่อยสิ ฉันมีเวรที่จะต้องอยู่ต่อ ขอร้องละนะ แล้วฉันจะเลี้ยงข้าวตอบแทน นะเพื่อนยากครั้งเดียว
อะไรละเนี่ย ลำบากฉันอีกแล้วนะชิกิ นายนี้นะ แล้วบอกน้องนายหรือยังว่าติดงานแล้วให้ฉันไปรับน่ะ
บอกแล้ว ฉันให้เบอร์นายกับชิกะไปแล้วด้วย เธอบอกถึงแล้วจะโทรหา เครื่องใกล้จะลงแล้วด้วยนายรีบไปเถอะ แล้วฉันจะตอบแทนนายที่หลังนะเพื่อนรัก
พะแพงพยักหน้ารับเบาๆ แล้วหันหลังกลับเดินไปที่รถก่อนจะขับไปสนามบินทันที เขารออยู่ที่ทางออกสักพักก็มีสายเข้ามาหาเขาเขาจึงกดรับสาย
พี่พะแพง ฉันมาถึงแล้วนะ พี่อยู่ไหนเหรอคะ ฉันไม่เห็นพี่เลยค่ะ
ฉันอยู่ตรงทางออกน่ะ เดินมาที่ประตูทางออกแล้วกันนะฉันยืนรอรับเธออยู่ตรงนี้แหละข้างในคนเยอะฉันไม่ชอบ
พี่นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะคะ ได้ค่ะเดี๋ยวฉันเดินไปหาพี่เดี๋ยวนี้เลยนะคะ เห็นพี่แล้วละ งั้นวางสายเลยค่ะ
พะแพงวางสายและเงยหน้ามองหาน้องสาวของเพื่อนสนิท ก่อนจะเห็นเธอวิ่งโบกไม้โบกมือมาพร้อมรอยยิ้มและมากอดเขาจนแทบหงายหลัง
เฮ้ย ชิกะกอดฉันทำไม คนอื่นเขามองหมดแล้ว
พี่จะอายอะไรละคะ เราคนรู้จักกันนะ จะกอดนิดกอดหน่อยไม่ได้หรือไง
ไม่ได้ ฉันเพื่อนพี่เธอนะ ระวังการกระทำไว้หน่อยสิ
พี่ไม่ชอบฉันเหรอ พี่ถึงปฏิเสธฉันแบบนี้น่ะ ฉันโตแล้วนะ เปิดใจแล้วให้โอกาสฉันบ้างสิ ฉันชอบพี่มาตั้งแต่เด็กแล้วนะ
เพราะอย่างนี้ไง ถึงไม่ได้ ฉันไม่คบกับเธอหรอกนะ ชิกะ เธอน้องเพื่อนฉัน แล้วอีกอย่างเธอไม่ใช่ไทป์ฉันด้วย แค่นี้เป็นเหตุผลให้เธอพอได้หรือยัง เธอนะมองหาคนอื่นเถอะ
พี่ใจร้ายมากเลยนะคะรู้ตัวไหมพี่พะแพง ฉันเกลียดพี่ที่สุดก็ตอนพี่พูดแบบนี้แหละ แต่ก็นะ ช่วยไม่ได้นิฉันคงเด็กไปสำหรับพี่สินะคะ กลับบ้านกันเถอะค่ะ ฉันเหนื่อยแล้ว
อืม มาฉันช่วยถือของให้ รถอยู่ตรงนั้นเธอเดินไปเลยที่เหลือฉันยกเอง
ขอบคุณนะคะพี่พะแพง พี่ใจดีที่สุดเลย มาหอมแก้มทีได้ไหมเนี่ย
ไปได้แล้ว เพ้อเจ้อใหญ่แล้วเธอน่ะ นั่งรอในรถเงียบๆ ด้วยละ
รับทราบ พี่พะแพงสุดหล่อ
ชิกะพูดจบก็เดินไปขึ้นรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำที่จอดอยู่ไม่ไกลนักของพะแพง ส่วนพะแพงนั้นก็ลากกระเป๋าของ ชิกะขึ้นท้ายรถ จนกระเป๋าใบสุดท้ายถูกยัดเข้ารถเรียบร้อย พะแพงจึงเดินมาด้านคนขับแล้วก็กำลังจะสตาร์ทรถออก
ปึก ปัง ปัง ปัง รีบออกรถเร็ว เร็วเข้าสิรออะไรอยู่
เฮ้ย คุณเป็นใครเนี่ย กระโดดมาขึ้นรถผมทำไม
รีบออกรถเถอะน่าถ้ายังไม่อยากตายก็รีบๆ ขับไปได้แล้ว
พะแพงที่กำลังจะหันไปด่าคนที่ขึ้นรถเขาอย่างไร้มารยาท แต่สายตาเขาหันไปเห็นชายขุดดำกำลังเล็งปืนมาทางชิกะเขาจึงเหยียบคันเร่งออกรถทันที ทันใดนั้นเสียงปืนและกระสุนก็ดังขึ้นกระทบกับกระจกรถและตัวรถของเขาหลายนัด ดีที่กระจกรถเขานั้นหนาพอสมควรจึงยังไม่แตกแต่แค่ร้าวเท่านั้น ส่วนตัวรถนั้นยังไม่รู้เสียหายมากน้อยแค่ไหน พะแพงเขาขับรถออกจากสนามบินมาได้ไกลมากแล้วจึงมองกระจกหลังรถมองชายหนุ่มที่กระโดดขึ้นรถเขามาอย่างไม่พอใจ
นี่คุณ บ้านอยู่ไหนผมไปส่งไหม หรือจะให้จอดตรงไหนหรือเปล่า
ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามของพะแพง เขาเงียบและกดโทรศัพท์และโทรหาใครบางคน
อืม ฉันไม่เป็นไร อืม ที่เหลือฝากจัดการด้วย
แล้วก็วางสาย สนทนาเมื่อครู่ ทำพะแพงหงุดหงิดที่คนที่เขาถามนั้นเมินที่จะไม่ตอบคำถามของเขา แต่ดันไปตอบคนในสายซะงั้น
ระหว่างทางชิกะได้แต่เงียบเพราะยังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ส่วนพะแพงก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่มองคนด้านหลังเป็นระยะๆ จนถึงบ้านของชิกะ พะแพงจอดรถและช่วย ชิกะยกของลงจากหลังรถของตัวเองจนหมด
พักผ่อนก่อนนะชิกะ เรื่องวันนี้พี่จะบอกชิกิเอง แล้วพรุ่งนี้พี่จะให้ชิกิพาไปหาหมอ พูดจบก็ลูบหัวของชิกะเป็นการปลอบโยนน้องสาวของเพื่อนเขา
แล้วขอตัวกลับก่อนทันที พะแพงขับรถออกมาได้สักพักก็พูดขึ้น
คุณขึ้นมานั่งข้างหน้าสิ บ้านอยู่ไหนผมจะไปส่ง หรือจะไปรอที่บ้านผมแล้วโทรให้คนมารับก็ได้
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะด้านหลังขยับตัวมานั่งเบาด้านข้างพะแพงทำให้พะแพงเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนขึ้น ดูดีอะไรขนาดนี้ ใบหน้าคมคาย จมูกโด่งรั้น สันกรามคมชัด ผมที่ถูกเซ็ตขึ้นจนเป็นทรงและชุดสูทสีดำสุดเนี๊ยบ รองเท้าสีดำเงาวับ นาฬิกาข้อมือสุดหรู นี่เขาเป็นใครกันละเนี่ย ต้องเป็นคนรวยมากแน่ๆ ถึงแต่งตัวแบบนี้ แล้วคนที่ตามไล่ยิงเขาละเป็นใครกัน แสดงว่าคนๆ ต้องไม่ใช่คนดีสินะ ไม่งั้นคงไม่ไล่โดนยิงมาแบบนี้ พะแพงคิดก่อนจะมองที่เบาะหลังอีกครั้งก็ต้องตกใจ เพราะเบาะสีเนื้อของเขานั้นมีคราบเลือดติดอยู่ เขาจึงหันมามองคนด้านข้างก็ต้องตกใจอีกรอบ เพราะตอนนี้ใบหน้าหล่อคมคายนั้นซีดขึ้นเรื่อยๆ
คุณโดนยิงเหรอ ทำไมไม่บอกผม ผมจะพาคุณไป โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย อดทนไว้นะคุณ อย่าหลับนะ
พะแพงเอื้อมมือที่ว่างมาตบหน้าเพื่อเรียกสติของคนข้างๆ ก่อนจะโดนจับมือใว้
ไม่ต้อง พาผมไปบ้านคุณ ผมจะให้คนของผมมารับ
แต่คุณเสียเลือดมากแล้วนะ ผมไม่อยากให้คุณมาตายบนรถผม เดี๋ยวคนอื่นจะคิดว่าผมฆ่าคุณนะ
หยุดพูดมากแล้วพาไปบ้านนายเร็วๆ ก่อนฉันจะตายจริงๆ แล้วนายจะกลายเป็นฆาตกร
พะแพงทำหน้าเหลอหลากึ่งไม่พอใจ รีบขับรถกลับบ้านทันทีเพราะกลัวว่าคนแปลกหน้าคนนี้จะตายจริงๆ พอถึงบ้านเขาก็แบกชายหนุ่มลงจากรถและลากเข้าบ้านของเขาจนมาถึงโซฟากลางบ้านเขาจึงวางร่างใหญ่ให้นั่งลง
ผมจะไปเอาผ้าชุบน้ำกับเครื่องมือแพทย์กับกล่องพยาบาลก่อนคุณโทรหาคนของคุณให้มารับเถอะครับ
พะแพงพูดก่อนจะเดินหายไปที่ชั้นสองของบ้าน ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งรอ จนเขากลับลงมาชายหนุ่มก็นั่งหน้าซีดกว่าเก่า พะแพงรีบถอดเสื้อผ้าของชายหนุ่มออกโดยไม่ขออนุญาต พะแพงสำรวจปากแผลก็เห็นว่ากระสุนนั้นฝังอยู่ในร่างกายของชายหนุ่ม1นัด และแผลที่สีข้างเป็นรอยถากของกระสุน เขารีบใช้เครื่องมือที่มีอยู่จัดการกับแผลนั้นทันที มีดหมอได้กรีดลงเนื้อของชายหนุ่ม เขาไม่ส่งเสียงร้องแสดงความเจ็บปวดแต่อย่างใดนอกจากขบกรามแน่นแล้วมองมาทีพะแพง เมื่อเอากระสุนออกพะแพงก็เย็บแผลให้เสร็จสรรพโดยที่ชายหนุ่มที่โดนมีดหมอกรีดและโดนเข็มเย็บแผลสดให้นั้นไม่ร้องออกมาสักแอะ
คุณเลือดกรุ๊ปอะไรครับ ผมมีถุงเลือดของผมอยู่ตรวจสอบจากแล็บของผมเรียบร้อยแล้วเผื่อมันจะช่วยคุณได้
กรุ๊ปโอ
พะแพงพยักหน้ารับคำตอบเขารีบเดินไปเอาถุงเลือดที่เก็บใว้ในแล็บของเขาและเดินออกมาพร้อมเข็มขนาดกลางเขาจัดแจงถ่ายเลือดให้ชายหนุ่มและปล่อยให้ชายหนุ่มนอนพักผ่อนก่อนส่วนเขาก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้เป็นระยะๆ เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเป็นใข้ พร้อมเปลี่ยนเสื้อให้ด้วย พอเสร็จแล้วเขาก็โทรหาชิกิเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ฟังทั้งหมด ชิกิตกใจมากแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามให้มากความนัก พอคุยกันสักพักใหญ่พะแพงก็ตัดสินใจวางสายเพื่อนของเขา เขาเล่าทุกอย่างแต่มีหนึ่งอย่างที่เขาไม่ได้บอกชิกิก็คือเขานั้นกำลังดูแลชายแปลกหน้าอยู่ในบ้านของเขา
พะแพงเห็นว่าดึกแล้วเขาเองก็ต้องพักผ่อนพรุ่งนี้คือวันหยุดของเขาพอดี เขาจึงพักผ่อนได้เต็มที่ แต่เขาก็ต้องกังวลอยู่เพราะคนที่เขาช่วยเมื่อเย็นนั้นแหละ หลังอาบน้ำเสร็จ เขาจึงแบกที่นอนท็อปเปอร์กับหมอนผ้าห่มมานอนข้างๆ คนใข้ส่วนตัวของเขา ก่อนนอนไม่ลืมที่จะเช็คอาการของชายหนุ่มพอเห็นว่าไม่มีใข้ก็หมดห่วงเขาจึงนอนลงด้านล่างข้างๆ ชายหนุ่มทันที
Yuki Part
หนาว หนักหัวชะมัด ยูกิลืมตามองเพดานก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เขาค่อยเอามือบีบขมับเบาๆ ก่อนจะก้มมองตัวเองที่ตอนนี้มีสายเลือดเจาะอยู่และเสื้อแขนยาวที่แน่นตัวเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นอึดอัด ยูกิมองรอบๆ บ้านของพะแพงก่อนจะเห็นเจ้าตัวนอนอยู่ตรงพื้นห้องข้างๆ เขา เขามองใบหน้านั้นด้วยสายตาหลงไหล ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงจากโซฟา แล้วลงไปนอนซุกตัวในผ้าห่มข้างพะแพง ดีที่สายส่งเลือดยาวอยู่ทำให้เขานั้นนอนได้ถนัดตัวขึ้น
อื้อ อืม อย่าเบียดสิ ชิกิ
เสียงครางของคนง่วงอย่างพะแพงพูดออกมาไม่รู้ว่าละเมอหรือว่าอะไรแต่ก็ทำให้ยูกิขมวดคิ้ว ชิกิ? ชิกิคือใคร?
ยูกิตั้งคำถามในใจ สักพักพะแพงก็พลิกตัวหันมาหาเขาแล้วกอดเขา ไม่พอยังเอาหน้าซุกตรงคอเขาด้วย ยูกิที่นอนตัวตรงอยู่ก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที ไอความร้อนจากลมหายใจของพะแพงนั้นกระทบกับซอกคอของยูกิจนทำให้ขนลุกซู่ขึ้นทันที แล้วมือที่กอดเอวเขาก็เลื่อนมาวางตรงอกของเขา ทำให้ยูกินั้นไม่กล้าขยับตัวกลัวคนข้างๆ จะตื่นแล้วโวยวายใส่เขา เขาจึงรับหน้าที่เป็นหมอนข้างดีๆ นี่เอง เมื่อเห็นว่าพะแพงหายใจอย่างสม่ำเสมอเขาก็ยิ้มให้กับตัวเอง ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราเช่นกัน
อื้อ แขนหนักจังเลยนะชิกิ เอาแขนออกไปได้แล้ว
พะแพงพูดขึ้นแต่ไม่ได้ลืมตา เขายกแขนที่กอดตัวเองอยู่ออก แล้วจะนอนต่อ แต่เขาก็คิดได้ว่าเมื่อวานชิกิอยู่เวร ทำให้เขาสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนที่นอนกอดเขาคือใคร
คุณ คุณตื่นคุณมานอนกับผมตอนไหนเนี่ยลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ
พะแพงปลุกคนข้างๆ ให้ลุกขึ้น คนข้างๆ ก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย
คุณขึ้นไปนั่งบนโซฟารอผมเถอะ ผมจะเอาที่นอนไปเก็บก่อน
พะแพงพูดพร้อมกับชายตัวใหญ่ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาอย่างที่เขาบอก พะแพงหอบที่นอนขึ้นชั้นบนไปแล้วลงมาพร้อมผ้าเช็ดตัวกับแปรงสีฟัน ก่อนจะยื่นมันให้คนที่นั่งรอเขา
อะ นี่ ผ้าเช็ดตัวกับแปรงสีฟันของคุณห้องน้ำอยู่ซ้ายมือตรงนั้น อาบน้ำแล้วก็ใส่เสื้อคลุมที่แขวนอยู่ตรงตู้นั้นไปก่อนนะครับเสื้อผ้าคุณผมซักให้เอง ถอดใส่ตระกร้าใด้เลยนะครับ ผมจะเอาไปปั่นให้แล้วมาทำอาหารเช้ารอระหว่างคุณอาบน้ำ
ชายหนุ่มรับของที่พะแพงยื่นให้ก่อนจะเดินหันหลังเข้าห้องน้ำไป ส่วนพะแพงก็จัดการเอาเสื้อผ้าของเขาไปซัก และไปเตรียมอาหารเช้าจนชายหนุ่มอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาพร้อมชุดคลุมอาบน้ำพะแพงก็ทำอาหารเสร็จเช่นเดียวกัน
นั่งสิครับ ผมทำอาหารไทยนะ ข้าวผัดหมูกับแกงเขียวหวาน คุณลองชิมดูก่อนว่าถูกปากหรือเปล่า ถ้าไม่ผมจะทำข้าวปั้นกับซุปมิโซะให้ อ้อใช้ช้อนกับซ่อมเป็นไหมเนี่ย ปกติใช้แต่ตะเกียบคีบสินะครับ ชายหนุ่มมองที่จานของเขาแล้วหยิบช้อนขึ้นมา
พะแพงมองชายหนุ่มตักอาหารเข้าปากก่อนจะเห็นสีหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วรีบตักแกงใส่จานพร้อมทานต่อหลายคำโดยไม่พูดกับพะแพงจนข้าวหมดจานจึงเงยหน้ามาพูดกับพะแพง
ขอข้าวเพิ่มหน่อยได้ไหม ชายหนุ่มพูด
ได้สิครับ คงถูกปากคุณแล้วสินะ ผมจะตักเพิ่มให้นะครับทานให้หมดด้วยละ
พะแพงพูดแล้วเดินไปตักข้าวผัดมาให้ชายหนุ่มอีกครั้ง ตักจนพูนจานก็กลับมาวางตรงหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง
นายเป็นหมอเหรอ แล้วชื่ออะไร
ผมชื่อพะแพง เป็นหมอศัลยกรรมอยู่โรงพยาบาลใกล้ๆนี่แหละครับ แล้วคุณละ ถามชื่อผมต้องแนะนำตัวให้ผมรู้จักก่อนสิ
ฉัน มาซาฮิโระ ยูกิ เป็นนักธุรกิจ เมื่อวานขอบใจมากที่ช่วยฉัน ไว้จะตอบแทนทีหลังแล้วกัน
ไม่ต้องหรอกครับ เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องช่วยเหลือคนเจ็บที่ต้องการความช่วยเหลือ
ไม่ได้หรอกฉันไม่ชอบติดหนี้บุญคุณใคร
งั้นก็ตามใจคุณสิครับจะทำอะไรก็ได้อยู่แล้วไม่ใช่รึยังไง คุณเนี่ยเป็นนักธุรกิจที่เอาแต่ใจจังเลยนะครับ รีบทานข้าวเถอะครับ ผมจะไปทำงานต่อ ก่อนไปผมจะตรวจเช็คอาการคุณก่อนแล้วคุณก็โทรหาคนของคุณให้มารับด้วยนะครับ
พะแพงพูดจบก็รีบทานอาหารที่อยู่ในจานเขาอย่างเร่งรีบ เพราะใกล้จะเป็นเวลทำงานของเขาแล้ว เขาต้องเผื่อเวลาไปถึงโรงพยาบาลสักครึ่งชั่วโมง เพราะต้องเดินตรวจอาการของผู้ป่วยในการดูแลของเขาทุกๆวันจึงต้องจัดการเวลาของตัวเองทุกวันเช่นกัน
หลังทานอาหารเสร็จพะแพงก็ตรวจร่างกายให้กับยูกิเมื่อเห็นว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงแล้วก็ขอตัวไปทำงานโดยปล่อยให้ยูกิอยู่บ้านของเขารอคนมารับและไม่ลืมที่จะเตือนยูกิ ที่ยืนส่งเขาอยู่หน้าประตู
นี่คุณยูกิ ออกจากบ้านผมอย่าลืมปิดประตูด้วยนะ หมายถึงประตูรั้วน่ะ ประตูบานนี้ล็อคอัตโนมัติอยู่แล้ว ผมไปนะ จะสายแล้ว อย่าค้นของในบ้านผมละ พูดทิ้งท้ายก็เดินออกไปทันที
บ้าเอ้ย ลืมไปเลยว่ารถเราโดนยิงมาจนเป็นรูไปหมดพะแพงคิดได้จึงเดินหันกลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง ยูกิที่กำลังจะหันหลังเดินไปนั่งเล่นก็หันกลับมาเมื่อประตูเปิดออก
ลืมของเหรอ ยูกิถามออกไป
เปล่า ผมลืมว่ารถผมมีรอยจากกระสุนปืนของคนที่ไล่ล่าคุณเมื่อวานอยู่ จะขับออกไปก็แปลกตาคนอื่นไปหน่อย ผมจะโทรให้คนมารับ
พะแพงพูดพร้อมถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟา แล้วเขาจะเอารถไปซ่อมที่ไหนละเนี่ย พะแพงคิด ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดเบอร์โทรหาชิกิทันที ถือสายรอไม่นานชิกกิก็กดรับ
ว่าไง โทรมาแต่เช้าเลยนะครับคุณเพื่อน
ก็ไม่ได้อยากจะโทรไหม แต่มีปัญหานิดหน่อยนายอยู่ไหน
กำลังจะขับรถไปโรงพยาบาลพายชิกะไปตรวจอาการเหมือนกัน ทำไมเหรอนายมีอะไรหรือเปล่า
มารับฉันไปด้วย ชิกิอย่าช้าละ นายรู้ใช่ไหมว่าฉันไม่เคยสาย
รู้แล้วครับ สั่งเป็นเมียเลยนะ ฮ่าๆ ได้ๆเดี๋ยวไปรับ รออยู่นั่นแหละ
ชิกิอยากตายหรือไง ใครเมียนายกันฮะ รีบมาให้เวลา10นาที แล้วก็ตัดสายทันที จะบอกโมโหก็ไม่ได้ไม่พอใจก็ไม่เชิง ก็เขาชอบชิกินี่ จะโกรธกับคำพูดของอีกคนได้ไง
ชิกิเป็นใครเพื่อนนายเหรอ ทำไมนายถึงหน้าแดงตอนคุยกับเขาด้วยละ
ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องตอบคุณนี่ครับ แล้วคุณโทรหาคนของคุณมารับหรือยัง
ยัง ไว้รอนายไปทำงานแล้วจะโทรให้มารับ
อ่า ชุดคลุมอาบน้ำ คุณบอกให้เขาเอาชุดของคุณมาด้วยนะครับ คุณคงไม่กลับไปโดยใส่ชุดคลุมออกไปหรอกนะครับ
แน่นอนว่าไม่ ฉันจะบอกพวกเขาเองไม่ต้องกลัวว่าฉันจะขโมยชุดคลุมอาบน้ำของนายกลับหรอก
ก็ดีครับ ส่วนเสื้อผ้าของคุณที่ผมซักอยู่ไว้จะเอาไปให้แล้วกัน ขอนามบัตรด้วยนะครับไว้ติดต่อทีหลัง
ได้ แล้วจะทิ้งไว้ให้หลังคนของฉันมารับแล้ว
สักพักเสียงโทรศัพท์ของพะแพงก็ดังขึ้น เป็นใครที่โทรมาไม่ได้นอกจากเป็นชิกิ
เฮ้ พะแพงฉันถึงหน้าบ้านนายแล้ว ให้ฉันไปรับถึงในบ้านไหม
อ่า กำลังออกไปรอแป๊บนึงแล้วกัน
ไม่รอแล้ว ฉันยืนหน้าประตูบ้านนายแล้ว เปิดประตูหน่อยฉันขอกินน้ำหน่อยสิ
ไม่ทันจะได้ตอบยูกิก็เดินไปกำลังจะเปิดประตูบ้านก่อนเจ้าของบ้านแล้ว
เฮ้ย คุณเดี๋ยวอย่าเปิดนะ
พะแพงรีบวิ่งไปหมายจะคว้าตัวยูกิ แต่แล้วพะแพงก็สะดุดขาตัวเองทำให้ตัวของเขาพุ่งเข้าหายูกิอย่างไม่ทันระวัง พร้อมกับประตูบ้านที่เปิดออกพอดี
เอ่อ...นี่มันอะไรกันละครับเนี่ย
เอ่อ... นี่มันอะไรกันละครับเนี่ย
ชิกิพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังนอนอยู่ตรงพื้นตรงหน้าเขากับผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก แถมอีกคนใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำด้วยแล้ว ทำให้ชิกิยืนมองด้วยสายตาตกใจเล็กน้อย ปนสับสน เขามองหน้าพะแพงสลับกับชายที่ พะแพงทับอยู่ แล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
ชิกิ นายกำลังเข้าใจผิด คือว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดนะ
อ่า ให้ตายสิ ไม่ต้องพูดอะไร รีบไปดีกว่าจะสายแล้วชิกะรออยู่นะ ลุกขึ้นมาสิ
ชิกิพูดขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ แล้วหันหลังจะเดินกลับออกไป
พะแพงเห็นว่าท่าไม่ดีจึงรีบลุกขึ้นแล้วหันหลังกลับไปเอากระเป๋าของเขาแล้วรีบวิ่งตามชิกิออกไปทิ้งให้ยูกินั่งอยู่ตรงหน้าประตูโดยไม่ช่วยเขาสักคน
ชิกิ นายอย่าพึ่งคิดมากนะ ฉันจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
ชิกิหันหน้ากลับมามองเพื่อนของเขา ก่อนจะทำหน้าซึมใส่พะแพง แล้วเดินขึ้นรถไปไม่พูดอะไรกับพะแพงสักคำ พะแพงเองก็เดินขึ้นรถของชิกิเช่นกัน
เอาไว้ง้อตอนถึงโรงพยาบาลก็ได้เพราะเขาอยู่แผนกเดียวกัน พะแพงคิด
ด้านยูกิ
เขายังคงนั่งอยู่ที่พื้นบ้านของพะแพง เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ยังไม่หาย ก่อนจะคิดได้ว่า ชิกิ เป็นผู้ชายที่พะแพงละเมอหาเมื่อคืน อะไรกัน พะแพงชอบไอ้หน้าอ่อน ชิกินั่น อย่างงั้นเหรอ
ยูกิรีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหามือขวาของเขา
เคียวยะ มารับฉันที ฉันอยู่ตรงบ้านที่ตรงข้ามกับ โรงพยาบาลฮินาตะ รั้วสีขาวใหญ่ๆ เอาเสื้อผ้าของฉันมาด้วยแล้วก็หาประวัติคนที่ชื่อพะแพงเป็นหมอโรงพยาบาลในเครือของเรามาด้วย ฉันต้องการรู้ข้อมูลของคนๆนี้ทั้งหมด
รับทราบครับท่านยูกิ ผมจะไปถึงในอีก10นาที เมื่อยูกิได้คำตอบของมือขวาเขาก็วางสายทันที
นายต้องมาเป็นคนของฉันพะแพง ยูกิพูดกับตัวเอง เขานั่งรอมือขวาของเขาไม่นานก็มาถึง เคียวยะเดินมากดออดหน้าประตู เพื่อให้เจ้านายของเขามาเปิดประตูบ้านให้
ท่านยูกิ ผมมาแล้วครับ เสื้อผ้าของท่านอยู่นี่ครับ ส่วนเรื่องข้อมูลของคนที่ท่านต้องการผมกำลังรวบรวมให้ครับ น่าจะเสร็จพอดีที่ถึงบริษัท
ดี หาคนมาเฝ้าบ้านหลังนี้เอาไว้ด้วย อย่าให้เป็นที่สะดุดตา แต่งตัวธรรมดาที่สุดเท่าที่จะทำได้ คอยเฝ้าระวังเผื่อมีคนของตระกูลอื่นมาวุ่นวายกับคนของฉัน
หมายถึงคนที่ท่าให้ผมหาข้อมูลเขานี่เหรอครับ
ใช่ เขาช่วยฉันไว้ แถมยังทำอาหารอร่อยถูกปากฉันด้วย คนนี้แหละที่ฉันจะเอามาเป็นคนของตระกูลฉัน เขาจะเป็นนายท่านอีกคนของนายด้วยเคียวยะ ดูแลเขาให้ดีๆ
ยูกิพูดพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อย เขาไม่ลืมที่จะวางนามบัตรของเขาใว้บนโต๊ะรับแขก ตามที่บอกพะแพงไว้ แล้วเดินออกไปขึ้นรถส่วนตัวของเขาทันทีเพื่อไปบริษัท
ชิกะ เดี๋ยวถึงโรงพยาบาลแล้วเธอรอพี่ห้องพักนะ พี่จะไปเดินตรวจคนใข้ หิวก็หาอะไรกินก็ได้ หลังตึกมีร้านมินิมาร์ทอยู่ ไปเองได้ใช่ไหม
อืม พี่ไปเหอะ ฉันดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วง
พะแพงปล่อยให้สองพี่น้องคุยกันก่อนแล้วเขาค่อยเข้าไปคุยกับชิกิ พวกเขาเดินตรวจคนใข้ด้วยกันในช่วงเข้าจนตอนนี้พักเที่ยงแล้ว ปกติพวกเขาจะไปทานข้าวที่ห้องอาหารด้วยกัน แต่วันนี้ชิกิกลับไม่ไปด้วย โดยให้เหตุผลว่าต้องพาชิกะไปทานข้าข้างนอก พะแพงได้แต่ครุ่นคิดว่าจะทำยังไงเพราะหลังจากลงรถมาพวกเขาไม่ได้คุยกันเลย มันน่าอึดอัดมากสำหรับพะแพง จนถึงเวลาที่ว่างพะแพงจึงเป็นฝ่ายไปหาที่ห้องพักของชิกิเพราะชิกิไปส่งชิกะกลับบ้านแล้วด้วยเขาจึงเข้าห้องพักได้อย่างอิสระแล้วเริ่มเปิดประเด็นที่จะพูดทันที
ชิกิ นายโกรธฉันอยู่เหรอ ฉันอธิบายได้นะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าน่ะ
จะพูดอะไรก็พูดเถอะ ฉันว่างฟังนายได้แต่ไม่นานนักหรอก
หมายความว่ายังไงที่ว่าฟังได้ไม่นานนายมีงานอะไรงั้นเหรอ
ไม่เกี่ยวกับนายพะแพง พูดธุระของนายมาได้แล้ว
ก็ได้ คือว่าผู้ชายที่นายเห็นน่ะ เขาเป็นคนเจ็บที่ฉันเจอน่ะ เขาถูกยิงมาเมื่อวานฉันเลยช่วยเขาไว้ ส่วนภาพที่นายเห็นเมื่อเช้าคือว่าฉันสะดุดขาตัวเองแล้วล้มใส่เขาตอนจะไปเปิดประตูให้นายน่ะ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ใครจะไปเชื่อลง สภาพแบบนั้น นี่นายชอบผู้ชายงั้นเหรอพะแพง นายชอบเขารึเปล่า
ทะ...ทำ...ทำไมถึงถามอะไรแบบนี้ละ นายไม่พอใจที่ฉันไม่บอกนายเรื่องเขาใช่ไหม
ฉันถามนายไม่ใช่ให้นายมาถามฉันกลับนะพะแพง ตกลงนายชอบผู้ชายด้วยกันงั้นเหรอ นายเป็นเกย์ใช่ไหม ตอบฉันมา
ใช่ ฉันเป็นเกย์ ฉันไม่ได้ชอบเขาคนนั้น ฉันชอบนายชิกิ
รู้แบบนี้แล้วนายจะทำยังไงต่อละเลิกคบฉันหรือไง
ชิกิไม่ตอบนั่งมองพะแพงด้วยสายตาที่พะแพงเองอ่านไม่ออก เขาทั้งสองเงียบไปสักพักชิกิเลยตัดสินใจพูดสิ่งที่พะแพงเองก็เตรียมใจไว้แล้วก่อนหน้านี้
ขอโทษนะพะแพง เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้แล้วละ ถึงนายจะชอบฉันแต่ฉันไม่ได้ชอบนายเลยสักนิด ฉันคิดกับนายแค่เพื่อนเท่านั้น แล้วก็ ฉันไม่ชอบผู้ชายด้วยกัน ฉันชอบผู้หญิง ต่อไปเราทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันเถอะนะ
ชิกิ นาย...นายจะตัดเพื่อนกับฉันงั้นเหรอ เราเป็นเพื่อนกันมา 8 ปีเลยนะ
แล้วยังไงละ จะให้ฉันเป็นเพื่อนกับคนที่คิดไม่ซื่อกับฉันงั้นเหรอ ฉันทำไม่ได้หรอกนะ
แล้วนายคิดว่าฉันทำได้งั้นเหรอ อยู่ๆก็มาตัดสัมพันธ์ความเป็นเพื่อนเพียงเพราะฉันเป็นเกย์น่ะ นายไม่ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ
พอเถอะ ฉันไม่มีอะไรจะต้องพูดหรืออธิบายกับนายอีกแล้วพะแพง นายไปเถอะ
ชิกิ
พะแพงเรียกชื่อของคนที่เขาพึ่งสารภาพรักไปแต่กลับโดนตัดเพื่อน เขามองหน้าชิกิก่อนจะจะเดินหันหลังกลับออกจากห้องพักชิกิ เมื่อออกมาจากห้องแล้วเดินมาที่หน้าลิฟต์พนักงานความอดทนทั้งหมดของเขาหมดลงแล้ว เขาร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาร้องอยู่อย่างนั้นจนมีคนมายืนข้างๆเขา พร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ พะแพงจึงหันกลับมามองคนที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขาก็ต้องขมวดคิ้วลงเล็กน้อย
คุณยูกิ มาได้ไงครับ
ก็ฉันว่าง อีกอย่างตอนนี้เวลาพักของนายไม่ใช่หรือไงมายืนร้องไห้ทำไมตรงนี้
ผมแค่มีเรื่องเครียดๆน่ะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวก็หายแล้ว พะแพงพูดแล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาของตัวเอง
ถ้าเครียดมากเล่าให้ฉันฟังได้ไหม ฉันรับเป็นที่ปรึกษาชั่วคราวของนายได้นะ ถือว่าตอบแทนที่นายช่วยฉันไว้
ระหว่างที่ยูกิพูดกับพะแพงนั้น พะแพงก็ร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม ยูกิจึงดึงอีกฝ่ายมากอดเพื่อเป็นการปลอบแล้วลูบหัวลูบหลังให้ด้วย
นี่ นายหยุดร้องเถอะนะ นายกินข้าวหรือยังเนี่ย
ยูกิถาม พะแพงที่ร้องไห้ก็ส่ายหัวเบาๆ ทำให้ยูกิรู้ว่าพะแพงนั้นยังไม่ได้ทานอะไรเลย เขาจึงดึงข้อมือพะแพงแล้วออกไปขึ้นรถของเขาสั่งให้คนขับรถพาเขาไปร้านอาหารทันที
ด้าน ชิกิ
หลังจากที่เขาพูดกับพะแพงแบบนั้นเขาก็กลับมานั่งคิดใหม่เรื่องระหว่างเขากับพะแพง
เขาเป็นอะไรไป พะแพงชอบผู้ชายด้วยกันทำไมต้องโมโหขนาดนั้น แถมพะแพงยังชอบเขาด้วย เขาควรดีใจสิที่พะแพงชอบเขา แล้วเราพูดอะไรออกไป แบบนั้นต้องไปขอโทษพะแพง
คิดแล้วชิกิก็รีบเปิดประตูเดินออกมาตามหาพะแพงทันที
คงไปที่ลิฟต์พนักงานสินะ คงยังไม่ได้ไปไหนหรอกใช่ไหม หงุดหงิดตัวเองเป็นบ้า ชิกิพูดกับตัวเองจนเขาเดินมาถึงลิฟต์พนักงาน เขาก็ต้องหยุดเดินเพราะถาพที่เขาเห็น
พะแพงกำลังร้องไห้ เขาไม่เคยเห็นพะแพงร้องไห้เลยสักครั้งตั้งแต่รู้จักกันมา แต่ตอนนี้พะแพงกำลังร้องไห้เพราะเขา เขาต้องไปปลอบเขาสิเวลานี้พะแพงต้องการเขาที่สุดแล้วเขาต้องขอโทษพะแพงด้วย
ชิกิที่กำลังจะเดินเข้าไปหาพะแพงก็ต้องหยุดอีกครั้งเมื่อเขาเห็นชายหนุ่มเขาเจอที่บ้านของพะแพงเดินเข้าไปหา พะแพงที่ยืนร้องไห้อยู่ ผู้ชายคนนั้นตอนนี้ใส่ชุดสูทผูกไทป์เรียบเนี๊ยบกำลังพูดบางอย่างกับพะแพงแล้วยื่นผ้าเช็ดหน้าให้พะแพง พะแพงรับมาแล้วพูดอะไรกันนิดหน่อยก่อนที่ชายคนนั้นจะดึงพะแพงเข้าไปกอด พร้อมลูบหัวพะแพงด้วย ชิกิกำมือแน่นกับภาพตรงหน้า
ทำไมเป็นเขาอีกแล้ว ทำไมเขาต้องมายุ่งกับพะแพงด้วย เขาเป็นใครกัน
ชิกิไม่ได้เดินเข้าไปหาพะแพงจนผู้ชายคนนั้นดึง พะแพงเดินออกไปจากโรงพยาบาล เขาทำได้แค่มองตามหลังเท่านั้น
ช่างเถอะยังไงค่อยหาเวลาไปขอโทษทีหลังแล้วกัน หวังว่านายจะยังไม่เปลี่ยนใจจากฉันนะ พะแพง
ชิกิพูดกับตัวเองก่อนจะเดินหันหลังกลับไปที่ห้องพักของเขา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!