NovelToon NovelToon

ลำนำหัวใจเทวานาคินทร์

ตอนที่1 จากจุดเริ่มต้น

ณ ดินแดนอันไกลโพ้นล้อมรอบด้วยมหาสมุทรสีคราม เต็มไปด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ ตั้งอยู่รายล้อม คือ เมืองท่าริมทะเลขนาดใหญ่ เปิดค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจากนานาเมืองต่างๆ

มองไปบนเรือพบชายแก่ผมยาวหงอกสีขาว ร่างอ้วนท้วนยืนเท้าสะเอวกำลังส่งเสียงสั่งการเหล่ากะลาสีเรือให้เร่งขนย้ายสินค้า จากท้องเรือขนลงยังท่าเรือ

"เร็วเข้าหน่อยสิพวกแก เดี๋ยวฉันต้องไปต่อไมนอสอีกนะ ขืนชักช้า ได้ติดหล่มพายุกันพอดี" พ่อค้าอ้วนตะโกนสั่ง

"รีบแล้วๆ"เสียงกะลาสีบ่นอย่างหงุดหงิด

ต่างก็ยกคานไม้ไผ่ที่ขนหีบพาดไว้บนบ่า ที่แสนจะหนัก เดินลงจากกระดานไม้ที่พาดจากเรือไปสู่ท่าเรือ

"โอ๊ย มันจะร้อนอะไรขนาดนี้นะ อะควานอส ร้อนจะตายอยู่แล้วโว๊ย"พ่อค้าอ้วนบ่น

สายตาของเขามองไปยังผืนน้ำมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ม่านตาสีเทาหม่นขยายกว้างนิ่งงัน เหมือนถูกตึงด้วยอะไรบางอย่าง ทำเอาจวักที่คาอยู่ริมฝีปาก หล่นกระทบพื้นไม้

"อะไรวะนั่น เฮ้ย พวกแกดูนั่นสิ" เขาส่งเสียงเรียกคนในเรือให้หันมามองตาม

"อะไร นายท่าน" กะลาสีหนุ่มมีหนวดโค้งงอนสองข้างโพกหัวด้วยผ้าขาว สวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกางเกงขาก๊วยสีน้ำตาลเปลือกไม้เดินเข้ามาหาเจ้านาย

"ดูนั่น" พ่อค้าอ้วนชี้นิ้วเหี่ยวๆไปข้างหน้าตน กะลาสีมองตามนิ้วอ้วนกลมสวมแหวนทองคำประดับเทอร์คอยว์สีฟ้า

สายตาของกะลาสีถึงกับค้างตาม ม่านตาสีดำแข็งนิ่งเหมือนหินราวกับถูกมนต์สะกด

"ไม่นะๆ"เขาส่งเสียงร้องออกมา แล้วกะลาสีหนุ่มก็หันหลังวิ่งไปที่สะพานไม้ ชนเข้ากับกะลาสีหนุ่มอีกคนที่กำลังขนหีบลงจากเรืออยู่

"ถอยไปๆ"เขาผลักกะลาสีที่ขนหีบจนล้มเซ

"โอ๊ยๆ"กะลาสี ทำหีบตกลงน้ำและเซล้มไปกับพื้นสะพานไม้

ต่อเมื่อกะลาสีหนุ่มพ้นจากระยะทาง เขากระโดดขึ้นฝั่งอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางเขาวิ่งชนผู้คนที่มาค้าขาย พร้อมตะโกนร้องเสียงหลงไปตลอดทาง

"กูไปแล้ว กูไม่อยู่แล้ว" ไม่ทันสิ้นเสียงของกะลาสีหนุ่มก็เกิดเสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั่วท่าเรือ

"กรี๊ด!"

"ช่วยด้วย!"แล้วภาพท่าเรือก็มืดสนิท กลายเป็นสีดำ ได้ยินแต่เสียงหายใจหอยเหนื่อย เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานอยู่ในห้องนอน

ตอนที่2 มันแค่ความฝัน หรือ?

ภาพท่าเรือก็มืดสนิท กลายเป็นสีดำ

หญิงสาวที่อยู่ในห้องมีเม็ดเหงื่อผุดบนหน้าผากหลายเม็ดจากบรรยากาศร้อนอบอ้าวที่ท่าเรือ

ในฝันของหญิงสาว ทำให้หล่อนรู้สึกร้อน ทั้งๆที่เธออยู่ในห้องเย็น

หล่อนเดินไปห้องน้ำหน้าจนเปียกชุ่ม ในกระจกเผยให้เห็นใบหน้าเรียว ดวงตากลมโตสีดำสนิท ริมฝีปากเป็น

กระจับ จมูกโด่งพองาม ผมยาวหยักโศกเป็นเกลียวคลื่น

"ฉันฝันอย่างนี้หลายคืนแล้วนะ ตั้งแต่กลับจากบาหลี อะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?"หญิงสาวพึมพำ

เธอเดินจากห้องน้ำไปนั่งบนเตียง มองออกไปยังประตูใสบานใหญ่เห็นท้องทะเลสีดำ แสงดาวสว่างไสวกับจันทร์กลมโตในคืนขึ้น 15 ค่ำ

หล่อนรู้สึกง่วงอีกครั้ง ก่อนเข้าสู่นิทรา

ตรงหน้าปรากฎน้ำทะเลสีคราม มองเห็นหน้าผาสูงชัน หล่อนเห็นตัวเอง ยืนอยู่ในเรือไม้ขนาดใหญ่แข็งแรง บนเรือมีกะลาสีดึงเชือกกางใบเรือให้พัดไปตามแรงลม เพื่อเดินทางไปยังหน้าผาสูงชันนั้น

'จะไปไหนกัน'?'หล่อนเหมือนจะพูดออกมา

"บาเนีย!" เสียงชายแก่ห้าวดังอยู่ข้างหลังเธอ ราวกับว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งของเรือนี้

"ท่านพ่อ เราจะไปทำไมอีก 'บาเนีย'มีอะไรกัน? ท่านพ่อถึงได้มา1ถึง2ครั้งในรอบปี"หล่อนถามอย่างสงสัย

ชายแก่อ้วนท้วน ขี้ร้อน ยิ้มที่มุมปาก พลางหยิบผ้าไหมสีแดงเลือดหมูที่พาดบ่ามาเช็ดเหงื่อ

"พาเจ้ามาดูของที่สวยๆๆงามๆไง"ชายแก่อ้วนพูด

"บาเนีย มีผลไม้หวาน หอมอร่อย มีลูกปัดหลากสีที่ย้อมจากดอกไม้ พ่อว่าจะให้เจ้าไว้ร้อยสร้อยคอ ไม่ดีหรือ"พ่อ

เหนือเรือ บนหน้าผามีกระโจมสีขาวทำจากผ้าดิบและอิฐเผาฟางก่อเป็นบ้านรูปทรงสี่เหลี่ยม

เรือสินค้าเลี้ยวโค้งอ้อมหน้าผา จนถึงท่าเรือ พบประตูหินสูงตั้งตระหง่านทั้งสองฝั่งซ้าย ขวา เว้นช่องว่างที่ตรงกลาง

" สวย จริง นี่ฝันหรือ " หล่อนพึมพำ

" อ้าว! ธีต้า หนูก็มากับพ่อ ตั้งหลายครั้ง ยังไม่ ชินอีกหรือ?"

เธอเดินลงจากเรือ หล่อนเดินทอดน่องไปที่ประตูทางเข้สวนกับผู้คน

" ธีต้า ไปเจอกันที่ร้านซาลีนะลูก" พ่อค้าอ้วน ตะโกนไล่หลังลูกสาว

ตอนที่ 3

เธอเดินไปตามทางเหมือนคุ้นเคยกับที่นี่ ชาวพื้นเมืองบาเนีย ไม่ค่อยได้พบเรือสินค้าใหญ่มาเทียบท่ามากนัก และเป็นชาวต่างชาติด้วย ซึ่งหล่อนเองก็อาศัยอยู่บนเรือกับพ่อมาตลอดชีวิต ไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่งบนแผ่นดิน

ดวงตาคู่สวย มองไปยังหลังคาวิหารที่ออกแบบมา

สร้างด้วยฟางข้าวซ้อนกันเป็นชั้นๆสูงตระหง่านตา โดดเด่นอยู่ท่ามกลางภูเขาไฟ

หล่อนว่าจะไปวิหารใหญ่ เพื่อบูชาเทพของบาเนียที่แตกต่างจากเทพแห่งเอเธนส์ บาเนียมีวิหารอยู่มากมาย เมื่อเดินเข้าไป ผู้คนต่างมองมาที่เธอด้วยความสนใจเหมือนทุกครั้งที่มา

ก่อนเดินเข้าไปในวิหารที่ทำจากหิน มีบ่อน้ำทรงสี่เหลี่ยมรายล้อมวิหาร และมีท่อน้ำทำจากหินเป็นสลักเป็นมังกร กำลังอ้าปากให้น้ำไหลออกจาก น้ำในสระใสจนเห็นตระไคร่น้ำสีเขียว ตัดกับสีหินแกรนิตสีน้ำตาล

หล่อนยกชายกระโปรงที่ยาวขึ้น เผยให้เห็นน่องขาวผ่อง ก่อนหย่อนขาลงไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วกวักน้ำขึ้นมาล้างใบหน้า ความเย็นฉ่ำของน้ำ ทำให้หล่อนหนาวสะท้านไปทั่วสรรพางกาย

ขณะที่เธอไม่เข้าใจภาษาพวกเค้าเลย หลังชะล้างใบหน้า ก็ปลีกตัวออกมาและปล่อยชายกระโปรงยาวคลุมข้อเท้าดังเดิม หล่อนเดินไปตลาดคราคลั่งไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย

"แม่หนูๆ!จะรับกระทงดอกไม้ ไปบูชาเทพหน่อยไหม?"หญิงชรา ผมขาวนางพยายามพูดเป็นภาษากรีกกับเธอ แม้ฟังไม่ถนัดนัก แต่หล่อนก็พอเข้าใจความหมาย

เธอรับกระทงดอกไม้มาอย่างงุนงง ต่างจากทุกครั้งที่มาบาเนีย เธอไม่เคยซื้อกระทงไปบูชาเทพเลย  จะใช้วิธีเคารพด้วยการก้มหรือโค้งคำนับเท่านั้น

หล่อนล้วงเงินในถุงเงินที่เหน็บไว้ เป็นเงินกรีกยื่นให้ไป

หญิงชราชี้ไปที่เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมทำจากฟางข้าวซ้อนกัน 9 ชั้น ตั้งสูงตระหง่านตา

" นั่นวิหารเทพแห่งน้ำ หนูลองเข้าไปสิ" หญิงชรา

หล่อนเดินมาเรื่อยจนถึงวิหารเทพน้ำ เธอเงยหน้ามองยังยอดวิหาร ที่สูงตระหง่าน ก่อนเดินเข้าไปในวิหาร เดินไปจนถึงแท่นสักการะ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!