NovelToon NovelToon

ชีวิตของสาววายของฉัน

เรื่องราวของวิว

ฉันชื่อวิวหรือที่แฟนสุดน่ารักของฉันเรียกว่าน้ำใจ ฉันเป็นสาววาย ตั้งแต่จำความได้ฉันฉันก็เริ่มดูอนิเมะและกลายเป็นโอตาคุ และเพาะโลกของอนิเมะเลยทำให้ฉันไม่ค่อยได้ดูหนังหรือซีรีย์สักเท่าไหร่ จนกระทั้ังดพื่อนรักเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน "สายไหม" เทอเป็นสาววายถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นสาววายแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร สายไหมมักจะมาตื้อให้ฉันดูซีรีย์วายอยู่ตลอดแต่ฉันก็ไม่เคยสนใจเลย จนกระทั้งฉันใจอ่อนและยอมดู จากโอตาคุที่ติดอนิเมะก็กลับกลายเป็นสาววายแบบเต็มตัว ฉันเริ่มจากการดูหนังและซีรีย์ทุกเรื่องและเริ่มมีเมน

ในช่วงเวลาม.ต้นฉันแทบไม่สนใจในเรื่องความรักเลยถึงแม้จะมีคนเข้ามาจีบก็ตาม ฉันมักตอบปัดไปทุกครั้ง แต่เมื่อฉันได้พบแฟนที่น่ารักของฉัน"บูม" เขาเป็นเด็กห้องกิฟที่มักจะมาเข้ามาคุยกับเพื่อนของเขาในห้องเขาฉันอยู่เสมอ ถึงแม้ช่วงแรกๆเขาจะเย็นชาใส่ฉันอยู่เสมอ แต่พอมาบ่อยขึ้นเขาก็ชอบมองหน้าฉัน แต่นั้นเป็นช่วงที่ฉันไม่ได้สนใจเขามากนัก จนถึงวันกีฬาสีที่เขากับฉันนั้นอยู่สีเดียวกัน ฉันได้เป็นหรีดเพราะคนไม่พอ จึงมักจะต้องอยู่ซ้อมดึกอยู่เสมอ และเขาที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องความเรียบร้อยในสี ทำให้มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันกำลังซ้อมหรีดอยู่นั้น รุ่นพี่ที่คอยดูท่าเต้นบอกให้เปลี่ยนคนที่คอยประคองเขาฉันขึ้น แต่รุ่นพี่ดันลืมคิดถึงขนาดตัวของฉันที่ใหญ่กว่าที่เปลี่ยนมากทำให้วันนั้นเขารับฉันไม่ไหวฉันเลยตกลงมา แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ดันตกมาทับบูมที่กำลังเดินผ่านมาพอดี ทำให้เขาแขนกระดูกร้าวเพราะเขาเอาแขนประคองหัวของฉันไว้ ส่วนฉันก็ขาพลิก วันต่อมาฉันจึงซื้อน้ำไปให้และจะเลี้ยงข้าว เป็นการขอบคุณ แต่พอฉันเจอหน้าเขา เขากลับบอกชอบฉัน ถึงแม้วันนั้นฉันจะตกใจมากก็เลยไม่ได้ตอบกลับและวิ่งหนีเขาออกมา หลังจากวันนั้นเพื่อนของที่อยู่ห้องเดียวกับฉันก็มักจะมีของติดไม้ติดมือมาให้ฉันตลอดในทุกๆครั้งที่เขาไปห้องเด็กกิฟ

และเมื่อถึงวันวาเลนไทน์เพื่อนของเขาคนนั้นก็เอาดอกกุหลาบสีขามาให้ฉันและบอกว่ามีคนฝากมา และฉันก็รู้ว่าใคร จึงให้จดหมายที่เขียนบอกให้เขามาเจอฉันในการเทศกาลวายที่จะจัดขึ้น แน่นอนฉันคิดว่าเขาจะไม่มาเพราะผู้ชายส่วนใหญ่ที่รู้ว่าฉันเป็นสาววายก็เบี้ยวฉันและตีตัวออกห่างทุกครั้ง  เมื่อวันนั้นมาถึงฉันรอเขาอยู่สักพักก็เห็นเขาเดินมาพร้อมกับของวายเต็มมือและนั้นเป็นเรื่องที่ฉันชอบเอามากๆ ตอนเขามาถึงเขาก็ขอโทษฉันที่มาสายเพราะเขาไปตามหาซุ้มที่ขายของเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู๋ ถึงฉันจะตกใจอย่างนักแต่ที่ฉันมางานนี้เพราะจะมาซื้อของของเรื่องนั้นแต่ในเมื่อได้มาแล้วฉันจึงชวนเขาไปที่กินข้าวเพื่อเลี้ยงข้าว และไม่น่าเชื่อที่เขาตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เมื่อถามเขาเขาบอกว่าที่รู้ว่าฉันชอบเรื่องอะไรเพราะตอนไปห้องฉันได้ยินฉันพูดถึงอยู่ตลอด และเขายังเล่าอีกว่าที่ชอบฉันเพราะเมื่อฉันพูดถึงเรื่องที่ชอบฉันมักจะยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติเสมอ และกล้าบอกถึงสิ่งที่ตัวเองชอบทั้งๆที่เขายังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าชอบอะไร และเพราะเรื่องตอนวันกีฬาสีทำให้เขารู้ตัวว่าเขาชอบฉัน เพราะจริงๆแล้ววันนั้นเขาไม่ได้เดินไปอย่างไม่มีเหตุผลแต่เพราะเห็นแล้วว่าคนที่ประคองฉันดูไม่น่าไหวเลยกะจะมาบอกรุ่นพี่แต่ไม่ทัน ฉันดันล้มลงมาซะก่อน และเขาดีใจที่รับฉันและไม่ให้แันบาดเจ็บไปกว่าขาพลิก

หลังจากวันนั้นที่ฉันกับบูมได้คุยกันในหลายๆเรื่องพวกเขาเลยแลกเฟสกันและคุยกันอยู่เสมอเมื่อเขามาห้องก็มักจะชวนฉันคุยเรื่องงานเทศการ และเมื่อถึงมอปลายวันนั้นเขาได้ขอฉันคบและตั้งแต่นั้นเขาก็เรียกแันว่า น้ำใจอยู่เสมอ ถึงแม้ช่วงแรกๆฉันจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าทำไม แต่ต่อมาเขาก็มาอธิบายว่าคำว่า น้ำใจ มาจากหวานใจ แต่เขากลัวฉันจะคิดว่ามันหวานจนเลี้ยนเลยเปลี่ยนเป็นน้ำใจ และอีกอย่างเขาอยากมีชื่อที่เรียกเป็นพิเศษเพื่อแสดงให้รู้ว่าฉันคือคนสำคัญและเขาเองก็ไม่ยอมให้ใครเรียนกฉันว่าน้ำใจตามเขาเลยสักคน ตั้งแต่คบกับเขามาฉันก็รู้เลยว่าเขาเป็นคนที่ มักจะเย็นชาใส่คนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน เป็นคนปากไม่ตรงกับใจตัวเอง ชอบเก็บความรู้สึกของตัวเอง เวลาหึงจะไม่โวยวายและไม่งอลหรือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่เขามักจะหลอกถาม เป็นคนที่สนับสนุนฉันอยู่เสมอ เป็นกลางกับทุกคน และเป็นคนที่ฮอตพอสมควร

วันแรกของปีสุดท้าย

เช้าวันแรกของวันเปิดเทอมฉันและสายไหมเดินไปโรงเรียนด้วยกันและระหว่างนั้นเราสองคนก็คุยกันเรื่องซีรีย์เรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งมาฉาย และเรื่องงานแฟร์ที่มีบูทที่ขายนิยายวายรถราคาครึ่งๆ

เมื่อฉันกับสายไหมเดินเข้าไปในห้อง เพื่อนๆ    ในห้องต่างมองมาที่ฉัน ตอนนั้นฉันก็เริ่มสงสัยแล้วแหละว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อฉันเดินไปนั่งที่นั่ง เพื่อนที่นั่งข้างฉันก็ถามเรื่องที่ฉันกับบูมเลิกกันแล้ว ฉันงงอย่างมากและถามเขาว่าไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน เขาก็บแกว่าในระหว่างปิดเทอม มีหลายคนเห็นบูมกับรุ่นน้องผู้หญิงไปเดินห้างและทานอาหารด้วยกันบ่อยๆ ฉันเริ่มคิดไม่ตก และอธิบายกับทุกคนไปว่าฉันกับบูมายังไม่ได้เลิกกัน

มันอาจจะดูงี่เง่าสำหรับหลายคน แต่ตั้งแต่ฉันกับบูมคบกัน เขาไม่เคยสนิทหรือไปไหนกับผู้หญิงสองต่อสองเลย โดยแม้มีธุระที่ต้องไปเขาก็จะเอาเพื่อนของเขาไปด้วยเสมอ และมักจะอธิบายและเล่าให้ฉันฟัง แต่ครั้งนี้เขากลับทำอะไรโดยไม่บอกฉันละมันไม่ใช่ครั้งเดียว

เมื่อถึงพักกลางวันฉันและสายไหมและเพื่อนของบูมกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ บูมก็เดินมาด้วยความไม่รู็อะไร เพื่อนของบูมพยามยามสงสัญญาณว่าเขาไม่ควรเข้ามาตอนนี้ พวกเขาคิดว่าฉันไม่รู้รึไง แต่บูมก็ไม่ได้เลี่ยงฉันและมานั่งตรงข้ามกับฉัน บูมถามเรื่องที่ฉันจะไปงานแฟร์เขาบอกว่างานนั้นไม่มีอะไรใหม่เขาจะพาฉันไปครั้งหน้า ฉันจึงถามกลับเขาไปว่าหญิงคนนั้นคนที่เขาไปห้างด้วยคือใคร แต่บูมกลับพูดแค่ว่า "อ๋อมินนี่" และไม่ได้อธิบายให้ฉันเข้าใจมากกว่านี้และกินข้าวตามปกติ สายไหมเริ่มรู็สึกถึงความตึงเครียดที่บูมไม่รู้ เธอจึงเล่าให้บูมฟังว่าในงานแฟร์ครั้งนี้มีร้านค้าที่ลดราคานิยายอยู่ และอยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาเธอคนนั้นเรียกบูมและฉันรู็สึกได้ว่าเขาสองคนกำลังคุยกันข้ามหัวของฉันอยู่ฉันจึงหันไปมองหน้าคนที่ยืนค้ำหัวฉันอยู่ ส่วนเธอคนนั้นก็แนะนำตัวเองว่าเป็นรุ่นน้องในชมรมของบูมชื่อมินนี่ ยัยนี่นี่เองที่ทำให้คนทั้งห้องคิดว่าฉันกับบูมเลิกกันแล้ว "เธอจะยืนค้ำหัวเพื่อนฉันอีกนานไหมไม่มีขาจะเดินรึไงถ้าจะคุยกันก็ไปยืนข้างโตะไม่ใช่ยืนค้ำหัวพวกฉันอยู่อย่างนี้" สายไหมมองมาที่ฉันและเอาฉันออกไปจากตรงนั้นและเขาฉันไปนั่งในห้องเรียน ฉันไม่เคยเห็นสายไหมมีสติเท่านี้อีกแล้ว เธอบอกให้ฉันเชื่อใจในตัวบูม

หลังจากวันนั้นฉันกับบูมไม่ได้ติดต่อกัน เพื่อนของบูมก็พยามอธิบายว่ามินนี่เป็นแค่น้องในชมรม แต่ฉันก็ทำได้แค่ฟังเพราะฉันอยากฟังจากปากเจ้าตัวมากกว่าคนอื่น แค่คำว่าอ๋อมินนี่มันไม่ได้ช่วยอธิบายได้เลย เมื่อถึงงานแฟร์ฉันกับสายไหมก็ไปงานแฟร์ ในระหว่างทางฉันเจอกันคนที่รู้จักมากมาย เมื่อถึงร้านเป้าหมายของฉันฉันได้หยิบนิยายที่เหลือเล่มสุดท้ายและเตรียมกำลังจะจ่ายเงิน แต่แล้วก็มีเสียง "อ้าว น่าเสียดายจังเล่มสุดท้ายหมดซะละ" ฉันหันไปมองและเห็นยัยเด็กมินนี่กำลังยืนควงแขนมูลอยู๋ นี่มันอะไรกันทำไมปีสุดท้ายของฉันถึงแย่ได้ถึงขนาดนี้

ไม่นานก็มีเพื่อนผู้ชายในห้องเดินผ่านมา เขาคนนั้นเลยพูดจาปากเสียใส่ "เป็นอย่างที่คนเข้าพูดกันจริงด้วย สาววายดาวของห้องเราโดนหนุ่มห้องวิทย์หักอก แหมวันนี้มากลับคนใหม่ซะด้วย" บูมทำหน้าตกใจอย่างมาก และไอผู้ชายปากเสียคนนั้นก็เดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะ ฉันพยามเก็บอาการและจ่ายเงินและเดินออกไป แต่ก็ทิ้งประโยคนึงไว้ "อยากอธิบายเมื่อไหร่ก็ค่อยมาคุย" และเดินออกมา ถึงแม้จะอยากพูดสิ่งที่แรงกว่านั้นแต่ฉันไม่อยากทำให้บูมต้องเจ็บ

สายไหมพาฉันมานั่งพักอยู๋ที่นั่งกินอาหาร สายไหมออกไปซื้อน้ำ ฉันที่กำลังสงบสติอารมณ์ ยัยนั้นก็เข้ามาเป็นน้ำมันให้กับไฟอย่างกฉัน ยัยมินนี่เดินมาหาฉันด้วยหน้าตาใส่ซื่อ และไม่ต้องพูดพ้ำทำเพลงยัยนั้นก็พูดสิ่งที่ทำให้ฉันขาดสติ "รู้ไหมคะพี่บูมทำสิ่งนึงที่แม้แต่กลับพี่เขายังไม่เคยทำเลย เขาจูบฉันละค่ะ"และยัยนั้นก็เปลี่ยนสีหน้า ฉันน่ะหรอรึฉันที่ดูซีรีย์กับนิยายมาเยอะและพยามเชื่อตามที่สายไหมบอกให้เชื่อในตัวบูม ฉันเห็นบูมกับสายไหมกำลังกลับมา ฉันเลยแกล้งล้มซึ้งก็ไม่เข้าใจว่าจะทำๆไมแต่ไหนก็ทำไปแล้วก็เอาให้สุดเลยรึกัน บูมเข้ามาประคองฉันและพาออกไป ส่วนสายไหมก็หยิบของของแันและก่อนที่จะเดินออกไปก็แลบลิ้นใส่ยัยมินนี่

เมื่อมาถึงร้านอาหารบูมก็เล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง บูมบอกว่าตอนที่ต้องไปซื้อของให้ชมรมยัยมินนี่ก็ไปด้วยและก่อนหน้านี้เขาก็ชวนคนในชมรมไปแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครมา บูมไม่สบายใจเลยขอกลับก่อน แต่ก่อนกลับยัยมินนี่ดันล้มพอเขาเข้าไปช่วยประคองยัยมินนี่ก็ดึงเขาทำให้เขาเผลอจูบกับยัยมินนี่ ตอนนั้นฉันโกรธเอามากๆ แต่บูมบอกให้ฉันใจเย็นๆ หลังจากนั้นยัยมินนี่ก็บอกกับเขาว่านั้นเป็นจูบแรกของเธอและอยากให้เขารับผิดชอบโดยการทำตามที่เธอขอ3ข้อแล้วเธอจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครและถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น ข้อแรกคือการไปเที่ยวกับเธอตลอดปิดเทอม ข้อสองพาเธอไปงานแฟร์ ส่วนข้อสี่เป็ยข้อเดียวที่เขาทำไม่ได้นั้นคือการคบกับเธอ

หลังจากฉันฟังจบจริงๆเรื่องแบบนี้คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเชื่อ แต่ที่ฉันเชื่อเพราะตลอดระยะเวลา2ปีที่คบกันมาบูมไม่เคยโกหกฉันเลยแม้แต่ครั้งเดียว และอีกอย่างแม่แันกับแม่เขารู้จักกันทำให้ฉันมักจะได้เจอแม่ของบูมเสมอแม่เขาและคบรอบข้างพูดเป็นสียงเดียวกันว่าเขาไม่เคยโกหกเลย มีแต่ไม่พูดไม่บอก เพราะอย่างนั้นฉันจึงเชื่อใจบูมเอามากๆ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!