....
...
..
หน้าตาอย่างเธอยังกล้าเขียนไดอารี่บอกว่าชอบฉันหรอ ไม่ดูหนังหน้าตัวเองชะเลย ไสหัวไปให้พ้นฉันและไอ้ไดอารี่เฮงซวยนี้ฉันจะเอาไปเผาทิ้งชะและต่อไปก็อย่าเอาหน้าของเธอมาให้ฉันเห็นอีก
!!
คำเหยียดหยามและคำดูถูกยังตราตรึงอยู่ในจิตใจของนารีไม่จางหาย ชายหนุ่มวัยมัธยมที่บอกปัดเธอและสร้างรอยแผลให้เธอครั้งในอดีตแต่เธอก็ไม่หวังจะได้เจอเขาอีกครั้งจนเวลาผ่านไปถึงห้าปีที่เธอไม่เคยไปเจอเขาอีกเลยจนตอนนี้เธอได้ลืมใบหน้าชายคนที่เธอตกหลุมรักคนนั้นไปจนสิ้นเชิงมีเพียงแค่ชื่อที่มันยังติดอยู่ในจิตใจ ชื่อของชายที่เคยดูถูกเธอ ชื่อของคนที่ทำให้เธอเจ็บชํ้าแทบปางตาย หัวใจที่มันแตกสลายครั้งแรกมันเจ็บจนเธอไม่สมารถลบเลือนได้ ...!!
วันนี้เธอได้กลับมาจากต่างประเทศช่วงปิดภาคเรียน เธอเรียนคณะอักษรศาสตร์ ในมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
"ไงงงง...นารีลูกสาวแม่ โอ้โห้โตขึ้นเยอะจนแม่จำแทบไม่ได้เน็ะ" เสียงสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าเอ่ยทักลูกสาวคนเดียวของเธอและเข้าไปกอดหอมช้ายทีขวาทีให้หายคิดถึง
"โห้แม่ค้าาา..เหลือไว้ให้หนุ่มๆได้หอมบ้างเถอะเดี๋ยวแก้มหนูก็ชํ้าหมดพอดี อีกอย่างหนูแค่ไปเที่ยวแม่ทำเหมือนไม่ได้เจอหนูเป็นสิบปีอย่างนั่นแหละ"
"ก็แม่คิดถึงหนูนี่น่าและหนุ่มๆที่ไหนบอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ นี่แอบไปมีแฟนโดยไม่บอกแม่หรอ"
"เปล่าชักหน่อย ถ้าหนูมีแฟนก็ผิดบัญญัติของเราละสิ แม่อย่าลืมสิคะบัญญัติของเรามีอยู่ว่ารักสนุกแต่ไม่ผูกพันเพราะว่าในโลกนี้ไม่มีใครรักเราจริงๆ นอกจากตัวเราเอง"
"ใช้แล้วลูกกก...น่ารักที่สุดเลย"
มือเรียวขยี้แก้มนวลเบาๆ แม่เธอก็เหมือนเธอที่ไม่เชื่อในความรักเหตุเพราะพ่อเธอได้ทิ้งแม่กับเธอไป แล้วไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น และปล่อยให้เธออยู่กับแม่เพียงสองคน แต่พ่อเธอก็ไม่ได้ละทิ้งเธอและแม่ชะทีเดียวยังส่งเงินมาให้ใช้ไม่เคยขาดทั้งที่ฐานะทางบ้านของแม่เธอก็ดีอยู่พอตัวเพราะเป็นเจ้าของบริษัทเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและมีหลายสาขาเลยทีเดียว และที่เธอไปเที่ยวต่างประเทศมาก็ไปหาพ่อเธอนั้นเองที่ตอนนี้ย้ายไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศกับภรรยาใหม่ของพ่อนั่นแหละ หลังจากที่กลับมาบ้านได้ แม่ก็ขอตัวไปทำงานต่อ เธอจึงยกโทรศัพท์โทรหามุกดาเพื่อนสนิทคนเดียวของเธอ ความกระตือรือร้นที่อยากจะออกไปดิ้นที่ผับก็ได้ทวีคูณมากขึ้น บรรยากาศที่นี่ดูเปลี่ยนไปมากกว่าเมื่อห้าปีที่แล้วตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาววัยใสที่เรียนดีใส่แว่นหน้าเตอะ แต่ดูตอนนี้กลับเป็นเหมือนแมวที่เย้ายวนผู้ชายได้โดยไม่หลุดมือเลยชักคน
"โหล..เพื่อนมุกดา วันนี้แกว่างไหม ไปดิ้นกันปะ"
"เพื่อนนารี นี่แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไมบอกฉันจ๊ะฉันจะได้ไปรับที่สนามบิน"
"แกรู้ได้ไงว่าเป็นฉันอะ"
"แหมมม....มีแค่แกคนเดียวแหละที่เรียกฉันว่าเพื่อนตลอด จะป่าวประกาศให้คนเขารู้กันเลยหรือไงว่าเราเป็นเพื่อนกันเนี่ย.."
ความสนิทชิดเชื้อของสองคนนี้ตั้งแต่เรียนประถมจนถึงมัธยมและเพิ่งได้มาแยกย้ายกันตอนเข้ามหาลัยนี่แหละ มุกดาเรียนคณะนิเทศสาขาการแสดง และเป็นดาวคณะของคณะนิเทศด้วย พวกเธอขับรถกันมาเองจนถึงผับแห่งหนึ่งผับเดิมผับเก่าของนารีและเพื่อนสนิทที่เธอก็ไม่ได้ย่างก้าวมาที่นี่นานแล้ว ที่นี่เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว ลูกค้าเยอะขึ้นแถมมีแต่หนุ่มๆหน้าตาดี แสงสีไฟระยิบระยับตระการตาพร้อมกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งร้าน หนุ่มสาวโยกย้ายเย้ายวนตามจังหวะเพลง
"ไปนั่งโต๊ะโน้นก่อนเถอะเดี๋ยวเราค่อยไปดิ้นกัน มันต้องหาแรงกระตุ้นถึงจะกล้า"
"กล้าอะไรของเธอมุกดา"
"ก็กล้าเบี่ยดไง "
เพื่อนเธอที่ดูโรคจิตไม่ต่างจากเธอ เข้ากันดียังกะปี่กับขลุ่ย สองสาวสั่งเหล้าเพียวเพียวมากินเพื่อเพิ่มความกล้าให้กับตัวเอง แถมยังพนันกันอีกว่าถ้าใครได้หิ้วผู้ชายไปกินก่อนคนนั้นชนะและไม่ต้องจ่ายตังค์ส่วนคนแพ้ต้องจ่ายตังค์คืนนี้
เวลาสี่ทุ่มยี่สิบ นารีก็เมาเต็มที่พร้อมกับมุกดาที่ลุกขึ้นไปเต้นโยกย้ายกับผู้ชายสุดหล่ออยู่หลายคน สายตาพร่ามัวที่มองเห็นเงาเลือนลางของมุกดา และเธอก็แอบคิดในใจว่าต้องโดนมุกดาเล่นขี้โกงโดยการมอมเหล้าเธอแน่ๆ ร่างบางนอนแผ่ไปตามโซฟาหนังVIP อย่างดี ด้วยความมึน เหมือนจะพยุงตัวเองแทบไม่อยู่ มือเรียวสาวเสื้อคุมของเพื่อนรักที่ถอดวางไว้มาห่มตัวเพื่อเพิ่มความอุ่นที่ตอนนี้เธอใส่เสื้อผ้ามาเพียงน้อยนิดชะเหลือเกิน
"เธอ..เธอ.." เสียงทุ่มหล่อเรียกมาแว่วๆมือที่มาสะกิดเธอทำให้เธอรู้สึกตัว แต่ความมึนนั้นยังไม่หายไป เธอลุกขึ้นมาด้วยอาการ งง งวย ชายหนุ่มสองคนถึงกับชะงักทันทีที่เธอลุกขึ้นนั่ง สายเดี่ยวที่มันหลุดออกจนไม่มีสาย มองเห็นเนินอกตูมสวยขนาดใหญ่ที่โค้งได้รูป บวกกับเอวค้อนเล็กเข้าหากัน กระโปรงสั้นจนมองเห็นบั้นท้ายกลมกลึง ทำให้สองหนุ่มน้ำลายหกไปตามๆกัน
"มีอะไรหรือเปล่าคะ" นารีถามอย่างสุภาพเพราะเธอคิดว่านี้คือโต๊ะของเธอ
"เอ่อ..คือคุณมานอนที่โต๊ะของเราน่ะครับคือโต๊ะของคุณอยู่ตรงข้ามใช่หรือเปล่า"
นารีหันมองซ้ายขวา
"หรอคะ..ขอโทษที"
เธอดึงสังขารตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินโซซัดโซเซไปที่โต๊ะของตัวเอง แต่ยังก้าวไปยังไม่ถึง
"อ๊วกกกก" เธอพ่นของเสียออกมาจนเต็มแผ่นอกของชายหน้าตาดีคนหนึ่งเสื้อเชิ้ตสีขาวเลอะไปด้วยอ๊วกของเธอแต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นที่ได้เอาส่วนที่อุดตันอยู่ตรงคอออกมาได้ชักที
"เป็นไงบ้างวะแบงค์"
เพื่อนอีกคนเอ่ยทักขึ้นและรีบเข้ามาดู
"กูว่าไปล้างที่ห้องนํ้าก่อนเถอะวะ"
แบงค์มองไปที่นารีที่ตอนนี้เอาหน้าซบไปที่อกเขาพร้อมกับตัวที่เปอะเปื้อนไปด้วยอ๊อกของตัวเอง
"เออ..ก็ได้ว่ะ เดี๋ยวกูพาเธอไปด้วยเลยแล้วกัน"
แบงค์พานารีมาที่ห้องนํ้าและตอนนี้เธอก็ได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว
"ขอโทษค่ะ เดี๋ยวฉันซักให้นะคะ"
แบงค์ปล่อยให้มือเล็กปลดกระดุมเสื้อของตัวเอง ปลายตาก็หันมามองเธอเป็นระยะพร้อมกับหัวใจที่มันเต้นโครมครามไม่หยุด แบงค์ยอมรับว่าเขาผ่านผู้หญิงมาก็เยอะ แต่กับคนนี้กับทำให้เขาใจเต้นขึ้นมาได้ ดวงตากลมโต เรียวปากได้รูปที่ทาลิปสติกสีโอรสรับกับหน้าเรียวสวยอมชมพูที่โดนฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าไป กลิ่นหอมเย้ายวนบนตัวเธอยิ่งทำให้ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที
"มองอะไรหรือคะ"
"เอ่อ..คือ...คุณมีแฟนหรือยังครับ"
เสียงทุ่มเอ่ยออกไปที่ดูติดสั่นเล็กน้อย ถึงแบงค์จะเจ้าชู้แต่เขาก็เลือกที่จะยุ่งกับคนที่ไม่มีเจ้าของเท่านั้น
"ยังค่ะ..ทำไมหรือคะ"
"งั้น..เราไปต่อกันไหมครับ"
แบงค์พูดเอ่ยชวนทันทีที่ได้คำตอบ
"ได้สิคะแล้วเราจะไปต่อกันที่ไหนดี"
นารีลากมือเรียวผ่านอกแกร่งที่ซิกแพคขึ้นเป็นลอน และแบงค์ก็รับรู้ได้ทันทีว่าเธอได้เปิดทางให้แล้ว
"คอนโดผมเป็นไงครับ"
!!
ยังไม่ทันย้างก้าวเข้าถึงเตียง แบงค์ก็ทนกับเรือนร่างอันอวบอิ่มนี้ไม่ไหวถึงขนาดมอบจูบอันเร่าร้อนให้กลับนารี จากหน้าประตูห้องมือก็หยิบคีย์การ์ดออกมาอย่างรีบร้อนพร้อมกับปากที่เกี่ยวตวัดปลายลิ้นไม่ยอมปล่อย มือเรียวกอดรัดต้นคอของคนตัวใหญ่จนหาที่เสียบครีการ์ดไม่เจอ "อืม..ใจเย็นๆสิคะเปิดประตู" เสียงหวานเอ่ยท้วงเพราะตอนนี้คนตัวใหญ่จะไม่ค่อยสนใจเรื่องเปิดประตูเท่าไหร่แต่หันมาสนใจเนินอกตูมสวยนี้แทนใบหน้าที่ละออกจากริมฝีปากแล้วลงมาซุกไซ้อยู่กับเต้าสวยโดยไม่คิดจะอายคนที่เดินผ่านไปมา
ติ๊ด..
เสียงประตูที่เปิดออกพร้อมกับแบงค์ ที่ทั้งดึงทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงร่างบางเข้าไปในห้อง ของที่ตั้งเกะกะอยู่ข้างประตูดูจะไม่มีความหมายไดๆเพราะโดนกะแทกกะทั้นจนล้มระเนระนาดไปตามๆกัน แบงค์รีบถอดเสื้อของตัวเองออกจนเห็นกล้ามเนื้อแน่นทั้งตัวก่อนจะเอื่อมมือมาปลดสายเดียวของนารีที่ตอนนี้มันจะหลุดออกจากตัวเต็มที เต้าตูมที่หลุดออกจากเศษเสื้อผ้าเพียงน้อยนิดนี้จนมองเห็นได้เต็มสองตา ปลายประทุมสีชมพูทำให้อดใจไม่ไหวถึงขนาดรีบ ช่วงชิมรสชาติที่หน้าดูดดื่มนี้ ฟันเรียวงับเข้าที่ยอดอกสวยจนเต็มปากเต็มคำ ก่อนจะผลักร่างบางให้นอนลงบนเตียงนุ่มๆพร้อมกับคนตัวใหญ่ที่ทาบทับลงมาไม่ยอมให้ห่างกายแม้แต่วินาที มือเอื่อมไปถอดกระโปรงสั้นให้หลุดออกจากตัว "อืมมม..ถอดกางเกงสิคะ" มือเล็กเลื่อนไปปลดเข็มขัดแล้วกระซากออกด้วยความชำนาญ แล้วล้วงดึงมังกรขนาดใหญ่ออกมาที่ตอนนี้มันพองโตจนเต็มไม้เต็มมือของคนตัวเล็ก แขนใหญ่ยกเอวค้อนขึ้นเล็กน้อย แล้วลากปลายลิ้นละเลงจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว "อื้มมม..เสียวอะ" เสียงใสเอ่ยออกมาเล็กน้อย ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่มันประทุอยู่ด้านในและหัวใจที่เต้นจนไม่เป็นจังหวะของแบงค์ เมื่อได้ชิมรสชาติเรือนร่างอันหน้าหลงไหลนี้ มันดีกว่าที่คิด สัมผัสผิวที่นุ่มนวลอย่างกับใยไหม จนควบคุมสติของแบงค์แทบไม่อยู่และอยากจะเข้าไปสัมผัสด้านในเร็วๆ "มีถุงไหมคะ" เสียงหวานเอ่ยถาม "มีครับอยู่บนหัวเตียง" พูดจบนารีก็เอื้อมมือไปหยิบถุงยางแล้วเอาปากฉีกมันออกก่อนจะสวมเข้าไปในมังกรใหญ่ยักที่เธอกอบกุมมันไว้อยู่ แล้วผลิกตัวคนตัวใหญ่ให้นอนลงไปแทนที่ เพื่อเปลี่ยนเป็นคนคุมเกมต่อ สร้างความประหลาดใจให้กับแบงค์เป็นอย่างมาก ที่ส่วนมากเขาจะเป็นคนคุมเกมตลอดแต่กับคนนี้...!! แต่แบงค์ก็ปล่อยให้เธอได้ทำตามใจ ร่างบางขึ้นคร่อมพร้อมกับจับคลึงมังกรใหญ่ให้เข้าไปสัมผัสด้านในกลีบกุหลาบงาม "เอ๊ะ..เอ๊ะ" เสียงเล็กของนารีครางออกมาด้วยความเสียวถึงขีดสุด ใบหน้าสวยกัดปากตัวเองแน่นแล้วเริ่มโยกย้ายปั้นท้ายที่เหมือนจังหวะเพลงที่เปิดในผับเมื่อยามดึกไม่มีผิด ลีลา ท่าทางชั่งสวยงามเร่าร้อน เนินอกที่เด้งไปตามจังหวะกระแทกบวกกับปลายผมยาวสลวยที่ปลิ่วไสวไปตามจังหวะ จนทำให้แบงค์ฝืนมองต่อแทบไม่ไหว รีบยันตัวเองขึ้นเพื่อมาช่วงชิมยอดประทุมสวยนี้ แขนแกร่งรวบเอวบางมาแนบชิดติดกับตัวแล้วจับขยำบั้นท้ายของนารีที่ยังขยับเพิ่มจังหวะไม่หยุด "อ๊าา..อ๊ะ.. ใบหน้าหล่อซุกไซร้ละเลงลิ้นร้อนผ่านเต้าสวยพร้อมกับขบกัดดูดดุนจนขึ้นสีแดงเรื่อ "อืมมม...ดีอะ" เสียงนุ่มนวลที่ฟังแล้วหวานหูยิ่งเวลาครางออกมายิ่งไพเราะ ร่างบางกระแทกกระทั้นจนมาถึงจังหวะสุดท้ายแล้วโน้มตัวลงมากัดบ่าแกร่งของคนตัวใหญ่ด้วยความเสียว "เอาะ" แบงค์ปล่อยให้คนตัวเล็กนอนทาบลงมาบนแผ่นอกแกร่งอยู่อย่างนั้น แขนก็โอบร่างนั้นไว้แนบกายโดยไม่คิดจะปล่อยไปง่ายๆ "เอ่อ..คุณคะ"
เสียงทักท้วงที่ออกมาจากปากนารีที่ตอนนี้แบงค์ไม่ยอมปล่อยเธอออกจากอกแกร่งของตัวเอง มังกรขนาดใหญ่ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งโดยที่ยังไม่ทันได้ผลักออกจากกรีบกุหลาบงาม แบงค์ซุกไซร์ใบหน้าหล่อไปตามลำคอขาวนวลพร้อมกับสูดดมกลิ้นหอมที่เย้ายวนเข้าเต็มปอด ถึงนารีจะทักท้วงแต่ก็เอนเอียงรับสัมผัสของคนเบื้องล่างอย่างเต็มใจและรู้ดีถึงความต้องการของอีกฝ่าย และบวกกับความต้องการของเธอด้วยเหมือนกัน
"เปลี่ยนก่อนไหมคะ" แบงค์ชะงักเล็กน้อยและรับรู้ได้ทันทีว่าเธอได้อนุญาตให้มีบทรักบทต่อไป และแบงค์จะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปเด็ดขาด แบงค์พลิกตัวคนตรงหน้าให้นอนราบไปบนที่นอนนุ่มๆ เรือนผมยาวที่แผ่ไปตามที่นอนนี้ช่างงดงาม จนอดใจแทบไม่ไหว มือใหญ่เอื้อมไปหยิบถุงยางอีกอัน ก่อนจะดึงอันเก่าทิ้งไปแล้วใส่อันใหม่เข้าไปแทนทันที บทรักอันเล่าร้อนได้เริ่มขึ้นอีกครั้งโดยคราวนี้มีแบงค์เป็นคนคุมเกมต่อไป...!!!
"เอะอะ....อ๊ะ...ฮือออ..โครตดีอะ"
##########
....
..
.
สายของวันใหม่ นารีตื่นขึ้นมาด้วยอาการงง งวย ในคอนโดของชายที่เธอร่วมรักด้วยเมื่อคืน กว่าเธอจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบสว่าง เรียวแรงอันมหาศาลของผู้ชายคนนี้ที่ไม่ยอมปล่อยเธอให้พักผ่อนได้เลย แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกดีไม่น้อยและเป็นแบบที่เธอชอบ ร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ในแผ่นอกแกร่งพยายามงัดแขนที่รั้งตัวเธอไว้ออกไปจากตัว
"คุณ...คุณคะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้น แบงค์ลืมตาขึ้นมาช้าๆพบกับใบหน้าสวยนั้นอีกครั้ง ความสว่างภายในห้องนอนของตอนกลางวันบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่จางหายไป ได้มองเห็นเรือนร่างอันงดงามนี้ชัดเจนขึ้น ผิวขาวผ่องที่นอนห่มผ้าขาวไว้ บนตัวมีรอยแดงอมชมพูปะปนเล็กน้อยคงเป็นฝีมือของเขา ถึงแม้จะเห็นเพียงเนินอกแต่ก็ทำให้ใจสั่นไม่น้อย แบงค์ละแขนออกจากร่างนั้นช้าๆถึงในใจจะยังเสียดายแต่เขาก็คงไม่มีสิทธิ์อะไร
"ฉันต้องกลับแล้วนะคะ" พูดจบนารีก็ลุกขึ้นไปห้องนํ้าพร้อมกับก้มหยิบเอาเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นเดินไป สายตาแบงค์ก็จ้องมองการกระทำของร่างบางนั้นด้วยตาละห้อยโดยที่ทำอะไรไม่ได้ นารีเดินออกมาจากห้องนํ้าแล้วมาหยุดที่หน้ากระจกบานใหญ่เพื่อเช็คความเรียบร้อยของตัวเอง
"เอ่อ..คุณชื่ออะไรครับ" แบงค์กลั่นใจถามออกไปเพราะโดยปกติเขาไม่เคยถามชื่อคู่นอนของเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว นารีมองเขากลับมาผ่านกระจกบานใหญ่ ใบหน้าหล่อนั่งมองเธอด้วยแววตาที่บอกไม่ถูก
"ทำไมหรอคะ ฉันว่าไม่จำเป็นหรอกค่ะ ถ้าถามชื่อก็ต้องตามมาด้วยขอเบอร์ ขอไลน์ ฉันไม่อยากมีปัญหาทีหลัง" คำพูดที่ออกมาจากปากของเธอทำให้แบงค์สตั้นไปชั่วขณะ
"เอ่อ..แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมครับ...!!"
"ฉันไปก่อนนะคะ"
นารีไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายแล้วเดินออกจากห้องไปเลย แบงค์ทิ้งตัวเองนอนราบลงบนเตียงนุ่มๆนี่อีกครั้งพรางคิดถึงบทรักอันเร่าร้อนที่เขาได้สัมผัสเมื่อคืน ความแตกต่าง เพียงสัมผัสผิวกายก็ทำให้เขาลืมไม่ลงยิ่งสัมผัสลึกเข้าไปถึงด้านในยิ่งทำให้เขาแทบคลั่งตายชะให้ได้ แบงค์หันมองเตียงที่ว่างเปล่าของอีกฝ่ายที่ยังมีกลิ่นนํ้าหอมที่เย้ายวนของเธอติดอยู่ ในใจก็สั่นขึ้นมาไม่หยุด
ทางด้านของนารีเมื่อเธอกลับมาถึงบ้านก็ล้มตัวเองนอนแผ่ไปบนเตียงด้วยความเพรีย บทรักของชายหนุ่มเมื่อคืนที่เหมือนจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว ทำให้เธอรู้สึกระบมไปไม่น้อย
กริ๊ง...กริ๊ง..
เสียงโทรศัพท์ที่ดังมากระแทกใบหูจากเพื่อนรักที่เธอละทิ้งไปตั้งแต่เมื่อคืน
"นารี...เมื่อคืนเธอกลับก่อนทำไมไม่บอกฉันล่ะปล่อยให้ฉันหาตั้งนาน
"ก็ฉันเมา..อีกอย่างก็เป็นฝีมือเธอนั่นแหละ แต่ฉันก็ขอขอบใจเธอน่าาาาา..."
"ห้ะ..นี่อย่าบอกนะว่าเธอได้หิ้วผู้ชายกลับไปด้วยอะ..ฮือ..ไม่ยอมอะฉันดิ้นตั้งนานแต่กลับไม่ได้อะไรเลยแต่แกแค่เมาแล้วนอนอยู่เฉยๆกลับได้อะ..ฉันไม่ยอม..ไม่ยอม.."
"นี่ไม่ต้องมาโวยวายเลย
"ฮือ..ก็ฉันอิจฉาแกนิ แต่วันนี้แกจะเข้ามหาลัยหรือเปล่าอะ
"ไม่อะฉันปวดไปทั้งตัวเลย ไอ้คนเมื่อคืนเล่นฉันชะเหมือนจะกินฉันเข้าไปทั้งตัว "
"โห้..ทำไมไม่เป็นฉันบ้าง ฉันอยากโดนกินบ้างอะแก ใครอะเดี๋ยวฉันไปดักรอเลย"
"ไม่รู้อะฉันไม่ได้ถาม แกก็รู้ว่าฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่นอนด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากมีปัญหา เท่าที่ครั้งก่อนๆ ที่เกาะแกะฉันไม่เลิกก็จะบ้าตายอยู่แล้ว"
"รู้จ้าก็เพราะอย่างนี้ไงที่เราต้องเปลี่ยนผับบ่อยๆจนเวียนจะครบทั่วทั้งผับที่มีอยู่แล้ว ก็เพราะเธอมันเสน่ห์แรงเกินต้านยังไงละจ๊ะ"
"ขอบใจจ้าเพื่อนรักที่ชม....แค่นี้นะฉันจะนอนแล้ว แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเขาไปเที่ยวที่คณะของเธอแล้วกัน"
พูดจบนารีก็ตัดสายไปแล้วล้มตัวลงนอนตามเดิม
ส่วนแบงค์ก็เข้าไปมหาลัยด้วยความอารมณ์ดีสุดๆ แบงค์เรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา และรับจ๊อบเป็นครูสอนเทรนเนอร์ให้กับฟิตเนสชื่อดังแห่งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เองรูปร่างที่สมส่วนของแบงค์จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจสาวๆทั่วทั้งมหาลัยเลยก็ว่าได้ ถึงขั้นถ้ามหาลัยจัดกิจกรรมแข่งกีฬาวันไหนถ้ามีชื่อของแบงค์เข้าร่วมทีมไหนมีหวังอัศจรรย์แทบหักเลยทีเดียว
"ไงเพื่อน..เมื่อคืนเป็นไงบ้างวะ" เพื่อนแบงค์ที่ชื่อบูโรที่จับมือกันไปเที่ยวมาเมื่อคืนถามขึ้นทันทีที่แบงค์เดินไปนั่งลงบนโต๊ะอาหารกลางวันของมหาลัย
"อะไร" แบงค์ตั้งใจพูดบ่ายเบี่ยงเพราะไม่อยากพูดเรื่องที่เกี่ยวกับเธอออกไป ต่างจากทุกทีที่เล่าให้เพื่อนสนิทฟังทุกอย่างไม่เว้นเเม้แต่ลีลาบนเตียง
"ก็สาวอวบอึ๋มคนนั้นไงเป็นไง เด็ดไหมวะ"
"อะไร..มึงไม่ต้องมายุ่งเลยเรื่องของกู"
"ไหงเป็นงี้วะ ทำไมมึงไม่เล่าให้กูฟังงะ นี่ถ้าเมื่อคืนกูไม่เกรงใจมึงละก็กูหิ้วหล่อนไปกินแล้ว เมาจนไม่ได้สติขนาดนั้น หรือมึงไม่ได้กินวะ ยอมรับมาเลย"
"ก็..ได้..แต่คนนี้ยกเว้นกูไม่อยากเล่าเรื่องของเธอให้คนอื่นฟัง"
"แหมมม...มีปกป้องว่ะแล้วหล่อนชื่อไร
"ก็..ไม่รู้..เธอไม่ยอมบอก"
"นี่ขนาดชื่อมึงยังไม่รู้ มึงยังจะปกป้อง นี่มึงเห็นผู้หญิงที่นอนด้วยกันแค่คืนเดียวสำคัญมากกว่าเพื่อนที่คบกันมาเป็นสิบปีอย่างกูหรอวะ"
"ไม่รู้ว่ะ..แต่กูรู้สึกแปลกๆ"
"แปลก..แปลกอะไร..ยังไง..นี่มึงเป็นอะไรหรือเปล่านี่ หรือมึงโดนหล่อนสูบร่างกายสูบวิญญาณไปแล้ววะ"
ไอ้บูโรมันลุกขึ้นสำรวจตัวแบงค์ไปรอบๆ
"ไม่ใช้..นี่มึงหยุดเลย แล้วคืนนี้เราไปผับนั้นอีกนะเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง
"โห้..ใจปลํ่าด้วยว่ะ ได้อยู่แล้วมีคนเสนออย่างนี้มีหรอคนอย่างกูจะไม่สนอง หึหึ.."
แล้วตอนเย็นของวันนั้นแบงค์ก็พาเพื่อนคู่ใจไปที่ผับนั้นอีกครั้ง ในใจก็หวังจะได้พบเธอคนนั้นอีก จนเวลาผ่านไปก็ไม่มีวี่แววหรือแม้แต่เงาคนที่แบงค์รอคอย
"แบงค์....ไปดิ้นกันเถอะวะ สาวๆเพียบเลยมึงมีแต่เด็ดๆทั้งนั้น มึงดูคนนั้นสิ จ้องมึงนานแล้วนะกูสังเกตมาได้สักพักนึงแล้ว "
"ไหนวะ" แบงค์หันไปตามพิกัดที่ไอ้บูโรมันบอก สาวสวยยักคิ้วหลิ่วตาให้เป็นสัญญาณแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมาเพื่อเป็นการทักทาย แบงค์ก็ยกแก้วตอบเพื่อเป็นมารยาท
"สวยว่ะมึง มึงไม่เอา กูเอาเองก็ได้นะได้ปะ" แบงค์พยักหน้าให้กับเพื่อนสนิทเป็นคำตอบ
"ห้ะจริงดิ ไหงง่ายอย่างนี้วะเมื่อก่อนกูขอมึงแทบตายยังไม่ให้กูเลย"
"ไม่รู้ว่ะ กูเบื่อๆ"
"นี่มึงเป็นเอามากนะเนี่ย มึงจะมายึดติดกับผู้หญิงคนเดียวไม่ได้นะโว้ย ผู้หญิงน่ะผ่านมาแล้วก็ผ่านไปมึงอย่าทำให้ผู้หญิงคนเดียวมาทำให้มึงตายด้านอย่างนี้สิวะ
"กูเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือวะ"
"เออสิ"
"งั้นคนนี้กูเอา"
"เฮ้ย..มึงยกให้กูแล้วนะ ไหงมึงเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้วะ"
"ก็มึงบอกเองว่ากูกำลังจะตายด้านไม่ใช่หรอวะ..หึหึ.."
พูดจบแบงค์ก็ตรงดิ่งไปหาเป้าหมายทันที พร้อมกับชวนเธอเข้าไปในห้องนํ้าชายโดยไม่แคร์สายตาคนอื่นเพราะคนอื่นก็คงไม่สนใจอะไรที่ไม่ใช้เรื่องของตัวเองเหมือนกัน แบงค์ผลักเธอเข้าไปยังประตูห้องนํ้าแล้วล๊อกกลอนทันที ริมฝีปากเรียวเริ่มขบเม้นเบาๆลงบนเรียวปากแดง ปลายมือปัดป่ายไปตามเรื่อนร่างอันเย้ายวนแต่ความรู้สึกช่างแตกต่าง
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" ฝ่ายหญิงสงสัยในการกระทำของแบงค์ที่อยู่ๆก็หยุดการกระทำลงกลางคันชะอย่างนั่น
"เอ่อ..เปล่าครับ...งั้นเรามาต่อกันเถอะ" พูดจบแบงค์ก็เริ่มลุกอีกครั้งแต่ยิ่งทำก็ยิ่งเหมือนตอกยํ้าความรู้สึกเมื่อคืน จนแบงค์เริ่มจะหัวเสียให้กับตัวเองรวมถึงใจกลางของตัวเองที่มันไม่ยอมทำหน้าที่ได้ดังใจ
"ถ้าไม่มีอารมณ์พอแค่นี้ก็ได้นะคะ" ฝ่ายหญิงพูดพร้อมกับผลักร่างออกแล้วเดินกระแทกกระทั้นออกไปจากห้องนํ้า แบงค์ถอนหายใจให้กับตัวเองไม่คิดว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวจะทำให้เขาเป็นได้มากถึงขนาดนี้
"เป็นอะไรวะแบงค์ ทำไมเร็วจังงะ" ไอ้บูโรถามขึ้นมาทันทีที่เห็นแบงค์เดินมาหน้าตาบอกบุญไม่รับเต็มที
"ไม่มีอารมณ์ว่ะ กลับกันเหอะ" แบงค์ชวนกลับทันทีที่เดินมาถึง
"เอ้า..จะรีบกลับทำไมวะไม่รอผับปิดก่อนหรอ"
"กู..กูเมาน่ะ"
"ห้ะ...เมาเชี่ยไรเดินมาตรงขนาดนี้"
"เออน้าาาา...ก็กูบอกว่าเมาก็เมาสิ ถ้ามึงไม่กลับกูกลับก่อนนะ" แบงค์รีบเดินออกจากร้านทันที
"มึงกลับแล้วใครจะจ่ายวะ รอกูด้วย
หลังกลับบ้านมาได้แบงค์ก็เริ่มเครียร์กับตัวเองยกใหญ่ ทั้งความรู้สึก ทั้งภาพจำและใบหน้า กลิ่น เสียง จนต้องทำความสะอาดคอนโดกันเลยทีเดียว ทั้งผ้าปูเตียงที่ต้องเปลี่ยนสีใหม่ทั้งหมด ฉีดนํ้าหอมดับกลิ่นไปทั่วห้อง แม้กระทั้งห้องนํ้าจนไม่ได้หลับได้นอนกันเลยทีเดียว
############
....
..
.
"นารี...นารี...ไม่ไปเรียนหรอลูก เสียงแม่บังเกิดเกล้าปลุกลูกขี้เซาที่นอนหมดแรงตั้งแต่เมื่อวานยันเช้าวันใหม่
"อืม..แม่ค่าาา..วันนี้หนูไม่มีเรียนค่ะ" เสียงงัวเงียในลำคอเอ่ยบอกแม่สุดที่รัก
"งั้นก็ลุกไปบริษัทกับแม่ แม่มีครีมตัวใหม่มาอยากให้ลูกทดลองใช้หน่อย
"โหยยแม่คะ หนูทดลองครีมให้แม่จนเป็นหนูทดลองแล้วเนี่ย"
"ไม่ดีหรอจ๊ะ ดูสิ ผิวขาวผ่องเนียนนุ่มขนาดนี้ นี่ลูกต้องขอบใจแม่ถึงจะถูก
"ค่าาาา...ขอบคุณค่ะ แม่นี่เหมือนสวรรค์มาโปรดหนูจริงๆ"
ไม่รู้ว่านารีจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ ที่แม่เธอจับเธอทดลองครีมมาตั้งแต่เด็กลองผิดลองถูกมาก็เยอะ กว่าจะมาได้สวยงามขนาดนี้ต้องใช้ความพยายามมากทีเดียว
"แต่วันนี้หนูนัดกับมุกดาไว้นะคะว่าจะเข้าไปหามุกดาที่มาหาลัย เอาไว้วันหลังได้ไหมคะ"
"ฮืมแย่จัง งั้นพรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วไปหาแม่ที่บริษัทเลยนะแม่จะรอ"
"ค่ะแม่"
หลังจากนั้นนารีก็ลุกจากเตียงเพื่อไปอาบนํ้าแต่งตัวเป็นชุดนักศึกษาเพื่อจะเข้าไปหามุกดาที่มหาลัยเพราะถ้าแต่งชุดไปรเวทธรรมดาจะดูเป็นจุดเด่นขึ้นมาได้ แต่ชุดนักศึกษาของเธอกลับทำให้เป็นจุดเด่นมากกว่าเดิมชะอีก เสื้อขนาดเล็กที่ลัดเต้าตูมสวยจนเป็นรูปร่างแถมกระโปรงยังสั้นและแหวกขึ้นมาจนเกือบถึงสะโพก จนหนุ่มๆที่มหาลัยมารอคิวชมเรือนร่างอันหน้าหลงไหลนี้ บ้างก็แอบส่องตารางเรียนของเธอเพื่อมารอเจอกันเลยทีเดียว แต่เธอก็ไม่เคยสนใจหนุ่มคนไหนจริงจังชักคน พอมาถึงที่คณะเธอก็ยกโทรศัพท์โทรหามุกดาเพื่อนรักของเธอ
"มุกดาแกอยู่ไหนอะ..ฉันมาถึงแล้ว"
"อยู่ห้องซ้อมน่ะเธอเดินเข้ามาเลย" ตอนนี้มุกดากำลังแค้นหานักแสดงเพื่อแสดงละครเวทีที่จะจัดกันช่วงเปิดภาคเรียนนี้เพื่อเป็นทุนในการซื้ออุปกรณ์ในคณะต่อไป และนางเอกของเรื่องจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากมุกดา ดาวคณะนี่เอง
"แล้วมันอยู่ไหนอะแก เพื่อนไม่เคยมาแกก็รู้"
"แกเดินเข้ามาในตึกแล้วถามคนแถวนั้นเอา ฉันออกไปรับแกไม่ได้นะตอนนี้พี่วู้ดดี้กำลังวีนแตกกับคนที่มาคัดตัวอยู่อะแก"
พี่วู้ดดี้เป็นสาวสองที่ทรงอำนาจที่สุดในคณะ เป็นผู้จัดการเรื่องละครเวทีที่จะจัดแสดง รุ่นน้องในคณะหลายคนที่โดนปากอันศักดิ์สิทธิ์ของพี่วู้ดดี้เข้าไป ถึงกับฝันร้ายไปตามๆกัน
"ได้..ได้..งั้นวางก่อนนะเดี๋ยวฉันถามคนแถวนี้เอาก็ได้"
นารีเดินผ่านเข้ามาในตัวตึกปลายตาก็เห็นหนุ่มๆที่นั่งกันอยู่สีห้าคนพร้อมกับจัดเรียงแผ่นกระดาษอะไรชักอย่าง แบบรีบร้อน
"เร็วดิมึงเดี๋ยวพี่วู้ดดี้ก็แหกอกเอาหรอกยิ่งอารมณ์เสียตั้งแต่เช้า" เสียงหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นแล้วมือก็ตั้งใจจัดเรียงแผ่นกระดาษในมือโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง นารียืนชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปเพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนพวกเขาหรือเปล่า
"เอ่อ..โทษนะคะคุณจะบอกฉันได้หรือเปล่าว่าห้องซ้อมไปทางไหน " เสียงหวามเอ่ยถามขึ้นแล้วมีบางคนที่หยุดชะงักแล้วจับจ้องมาทางเธอ แววตาเหมือนได้เจอของบางอย่างที่ถูกใจอย่างนั่นแหละ
"เดินขึ้นบันไดไปชั้นสองขวามือ" คนที่พูดออกมาเมื่อกี้บอกเธอแต่ตาก็ยังไม่ละออกจากแผ่นกระดาษในมือจนกลุ่มเพื่อนต้องเอื้อมมือมาสะกิดเรียกสติแล้วหันมาเผชิญหน้าตรงๆ ใบหน้าสวยยิ้มที่ส่งมาถึงกับทำให้มือที่ถือกระดาษสั้นขึ้นมาดื้อๆ
"ขอบคุณนะคะ" เธอกล่าวขอบคุณแล้วก็เดินตามไปที่พิกัดที่ชายคนนั้นบอก ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้กับคนด้านหลังอีกรอบที่ตอนนี้เอามือปาดนํ้าลายของตัวเองที่มันไหลหกออกมากันยกใหญ่ นารีเดินขึ้นบันไดไปก่อนจะถึงประตูบานหนึ่งที่มีเสียงแว่วๆเล็ดลอดออกมา
"อ้ายย..ไม่มีดีกว่านี้แล้วหรือไง ฉันหาคนที่มาแสดงเป็นนารีผลนะไม่ได้หาคนมาแสดงเป็นท่อนไม้ ถึงได้ทื่อขนาดนี้ ดูชิ นม เอว สะโพกไซร้เดียวกันหมด ฉันจะบ้าตาย ออกไปเลยคนนี้ฉันไม่เอา"
แล้วหญิงสาวก็วิ่งนํ้าหูนํ้าตาไหลออกมา จนนารีไม่กล้าแม้จะย้างก้าวเข้าไป และเลือกที่จะส่งข้อความไปหามุกดาเพื่อนของเธอแทน ไม่นานมุกดาก็วิ่งออกมา
"แกช่วยฉันหน่อยนะ"
"อะไร"
"ก็เดือนหน้าจะแสดงแล้วแต่เจ๊วู้ดดี้ยังหาตัวนักแสดงไม่ได้เลย หาคนนั่นมาให้ก็ไม่เอาคนนี้มาให้ก็ไม่เอาแถมยังตวาดน้องเขาจนร้องไห้ไปตามๆกันเนี่ยฉันไม่รู้จะหาใครแล้วนะ ก็มีแต่แกช่วยฉันหน่อยนะ"
"อะไรของเธอมุกดาแล้วจะให้ฉันช่วยยังไง"
"แกก็ไปเป็นนารีผลให้ฉันหน่อยน่าาา..นะ"
"แต่ฉันไม่ได้อยู่คณะนี้นะ แถมยังแสดงไม่เป็นไม่มีประสบการณ์อีก"
"ก็ไม่ได้ทำไรมากนะ..นะ.."
ยังไม่ได้รับปากมุกดาก็รวบรัดตัดบทแล้วลากเธอเข้าไปในห้องทันที พร้อมกับแนะนำตัวเสร็จสรรพ
"พี่วู้ดดี้คะ..นี่นารีเพื่อนมุกเอง คนนี้พอไหวไหมคะ"
ทุกสายตาจับจ้องมาที่นารีเป็นตาเดียว
"อ้ายยยยยย...อย่างนี้แหละที่ต้องการผลนารีของเจ๊มันต้องอย่างนี้ อกตูม เอวค้อน สะโพกกลมกลึง เหมาะมาก เหมาะที่สุด นางฟ้าชัดๆ นี่ยายมุกทำไมแกไม่พามาให้เร็วกว่านี้ห้ะ"
"ก็นารีเธอไม่ได้เรียนที่คณะของเรานะคะ เธออยู่คณะอักษร"
"ไม่เป็นไรเรื่องนั้นเรื่องเล็ก เล่นได้ไม่ได้เจ๊ก็จะเอาคนนี้"
ดูเหมือนเจ๊วู้ดดี้จะถูกอกถูกใจนารีเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช้แค่เจ๊วู้ดดี้คนเดียว เพียงสายตาที่มองมาเหมือนนารีเป็นอาหารจานโปรดก็ไม่ปานโดยเฉพาะพระเอกของเรื่องนี้ มองนารีตาเยิ้มแถมนํ้าลายนี่หกเป็นทางอีกด้วย
"เช็ดน้ำลายหน่อยค่ะพี่บี" มุกดาเอ่ยแซวพี่บีพระเอกของเรื่องนี้ที่เล่นประกบคู่กับเธอ
"แล้วจะให้นารีเล่นเป็นอะไรหรือคะรุ่นพี่" นารีเอ่ยถามขึ้น
"เอาอย่างนี้เดี๋ยวเจ๊จะบอกให้ฟังเอง ปากหวานนะเราเนี่ยเรียกเจ๊ว่ารุ่นพี่ชะด้วย คืองี้ปลายเดือนหน้าเราจะจัดการแสดงเรื่องป่าหิมพานต์ไล้รัก ซึ้งมีน้องมุกดากับพี่บีเล่นประกบกันเป็นคู่พระนางของเรื่องนี้ ส่วนน้องนารีก็เล่นเป็นนารีผลในป่าหิมพานต์ ก็ไม่ต้องทำอะไรมากแค่ยืนเฉยๆเรียกเรตติ้งก็พอ ส่วนที่เหลือก็ให้พระ นาง เขาเล่นไป "
นารีพยักหน้าให้เป็นเชิงรับรู้ เธอคิดว่าลองเล่นดูก็ไม่เสียหายอะไร เป็นงานของเพื่อนรักและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ และอีกอยากตัวละครชายในเรื่องนี้แช็บมากบอกเลย แต่นารีก็ไม่คิดที่จะกินของใกล้ตัวเพราะมันแกะออกยาก แค่มองให้เป็นอาหารตาเฉยๆ
"งั้นพรุ่งนี้เราจะถ่ายโปสเตอร์กัน แต่เจ๊คิดว่าเจ๊อยากได้โปสเตอร์ที่เป็นธรรมชาติ เจ๊เลยตั้งใจว่าจะไปถ่ายกันที่เขาใหญ่ งั้นเย็นนี้เราออกเดินทางเลย พรุ่งนี้เช้าเริ่มถ่ายแล้วก็กลับตอนเย็นของวันนั้นเลยนะ..โอเค"
เจ๊วู้ดดี้บอกกับทุกคนที่ตอนนี้งงงวยไปกับเจ๊แกไม่น้อยเพราะเจ๊แกไม่บอกล่วงหน้าใครเลย ไม่ถาม แล้วก็ไม่สน และไม่มีใครกล้าขัดใจแกด้วยซํ้า แล้วเย็นของวันนั้นก็มาถึงนารีหมกตัวอยู่กับมุกดาเพราะมุกดาช่วยสาธยายเรื่องบทให้เธอฟังจนขึ้นใจ ดีนะที่นารีเป็นคนเข้าใจง่ายเลยไม่ต้องอธิบายมาก
"มีฉากเลิฟซีนด้วยหรอแก" นารีถามออกไป
"ก็มีนิดหน่อย ก็กับพระเอกของเราน่ะที่โดนมนเสน่ห์ของนางนารีผล แต่ข้อนี้แกทำได้อยู่แล้วน่าสบายมาก"
"แล้วแกไม่หวงหรอ..ฮึ" นารีถามเย้ายวนเพื่อนรัก
"หวงทำไม..พี่บีนะเป็นญาติห่างๆของฉันจ๊ะ เธอเข้าใจผิดแล้ว ตอนนั้นพี่บีไปเรียนต่อต่างประเทศเพิ่งกลับมานี่แหละ"
"จริงหรอ....แต่ช่างเถอะที่จริงฉันก็ไม่ชอบกินของใกล้ตัวอยู่แล้ว"
"รู้จ้าเพื่อน"
แล้วเย็นของวันนั้นก็มาถึงนารี มุกดา บี วู้ดดี้
และนักแสดงร่วมอีกหลายคนบวกกับช่างภาพมือดีของคณะก็เดินทางกันไปที่เขาใหญ่เพื่อไปถ่ายโปสเตอร์ละครเวทีของคณะเพื่อโปรโมท
"ถึงแล้วววววว...." เสียงสิบแปดหลอดของเจ๊วู้ดดี้ ปลุกคนในรถให้ตื่นได้โดยอัตโนมัติ
"อย่างนี้สิธรรมชาติต้องธรรมชาติอย่างนี้ สวยงาม สดชื่น บรรยากาศดีสุดๆ " พี่วูดดี้ชื้นชมธรรมชาติทันทีที่เก้าเท้าลงจากรถพร้อมกับฝายแขนสองข้างแล้วสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด
"ทุกคนนนนนนน...เดี๋ยวเก็บของลงจากรถแล้วไปกินข้าวกันแล้วเริ่มถ่ายกันได้เลยนะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่ทันกลับเย็นนี้"
นะร้านอาหาร
"พี่นั่งด้วยได้ไหมครับ" เสียงทุ่มหล่อของพี่บีขออนุญาตสาวสวยทั้งสองแต่ปลายตากลับมองมาทางนารีแค่ทางเดียว
"เชิญค่ะ"
"แหมพี่บีทีมุกไม่เห็นขออนุญาตเลย มีแต่แย่งตลอด" มุกดาพูดเป็นเชิงน้อยใจให้กับพี่ชายห่างๆของเธอ
"หือ..พี่เป็นอย่างนั้นหรอ พี่เปล่าชักหน่อยพี่ออกจะเป็นคนเอาใจเก่งแถมใจปลํ่าด้วยนะ" พี่บีอวดสรรพคุณของตัวเองให้สองสาวฟังยกใหญ่
"ว่าแต่นารีเป็นเพื่อนมุกนานหรือยังทำไมพี่ไม่เคยเห็น"
"ก็พี่บีจะเคยเห็นยังไงในเมื่อพี่อยู่ต่างประเทศ"
"เออ..จริงด้วย...แล้วนารีกินแค่นี้จะอิ่มหรอครับ พี่สั่งให้เพิ่มไหม" พี่บีมองไปที่จานสลัดผักของนารีที่มันเหลือแค่นิดเดียว
"เอ่อ..ไม่ค่ะนารีกินไม่เยอะ"
"แหมมม..เลี้ยงง่ายจัง สนใจต้องการคนเลี้ยงไหมครับพี่เต็มใจนะ" สายตาเจ้าชู้มองนารีชะหวานเยิ้ม
"ตายยยย...ตายยยย..ตายแล้ว..." เสียงแหกปากของพี่วู้ดดี้ทำให้ทุกคนละออกจากทุกเรื่องและหันมองไปเป็นตาเดียว
"ใครเอาชุดนี้มาให้น้องนารีเนี่ย มาถ่ายโปสเตอร์โฆษณาแล้วจะให้น้องใส่ชุดนี้ ใครเขาจะมาชื้อบัตรเราจ๊ะหล่อน นารีผลนะเธอรู้จักไหมไม่ใช้แม่ชี โอ้ย..นี่ฉันพึ่งพวกเธอไม่ได้เลยจริงๆใช้ไหม"
พี่วู้ดดี้มองไปทางแผนกจัดเสื้อผ้าแถมตระหวาดดังลั่น จนทุกคนก้มหน้าลงตํ่าสำนึกผิดกันยกใหญ่
"เอ่อ..พี่วู้ดดี้คะ มุกเอาชุดมาให้นารีด้วย ลับลองคะชุดนี้โปสเตอร์ของเราติดประกาศวันไหน ตั๋วขายหมดเกลี่ยงแน่นอน"
มุกดาเพื่อนรักของนารีเอ่ยขึ้นและเตรียมตัวมาอย่างดี เหมือนรู้ล้วงหน้าว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
############
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!