NovelToon NovelToon

New Life In Another World

1. เด็กหนุ่มคนนึง?

คุณเคยอยากตายหรือป่าว?

คุณคิดว่าชีวิตของมนุษย์คนๆหนึ่ง อยู่เพื่ออะไร? บางทีพวกเราอาจร่อนเร่พเนจรไปในจักรวาลอย่างไร้จุดหมาย เกิดและตายไปแบบนั้น มันก็แค่นั้น

ผมตั้งคำถามนั้นอยู่ทุกวัน แต่ว่าก็มีสิ่งที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดการ?

ผมชื่อกัส ผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่สองคน พ่อของผมนั้นทิ้งแม่ไปแต่ตั้งผมยังอยู่ในท้อง แม่มักจะไม่พูดเรื่องของพ่อผมสักเท่าไหร่ ชึ่งแน่นอนตัวผมก็ไม่เคยสนใจคนที่เรียกว่าพ่อเหมือนกัน

ตอนนี้ แม่เข้าโรงพยาบาลเมื่อ2สัปดาห์ก่อนมีอาการไอเป็นเลือดแล้วก็ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับตัว

ผมถามหมอว่าแม่เป็นโรคอะไรบ้าง หมอตอบกลับมาว่าหน้าจะเป็นลำคออักเสบแต่สิ่งแปลก? ท่าเป็นแค่ลําคออักเสบแล้วทำไมแม่ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่ขยับตัว แต่ผมพยายามไม่คิดอะไรมาก.... มาเรื่องชีวิตของผมตอนนี้ดีกว่า

ผมไม่ได้ไปโรงเรียนตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เลือกจะมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหาร ทำงานตอนกลางวันเสร็จ และไปทำงานร้านสะดวกซื้อตอนกลางคืน เพราะที่บ้านของผมนั้นเรียกว่ายาจกหรือยากจนนั้นและ ผมอยู่กับแม่สองคน แม่มักจะเป็นคนหารายได้เข้าบ้านคนเดียว แต่ตอนนี้แม่ป่วยแล้วร่วมกับที่ต้องจ่ายค่ารักษาโรงบาลอีกแน่นอนว่าไม่พอใช่จ่าย ผมเลยเลือกที่จะไม่ไปโรงเรียนทำงานหาเงินดีกว่า แล้วที่โรงเรียนก็ไม่ชอบสักเท่าไหร่ ผมนั้นไม่มีเพื่อนเลยด้วยซ้ำมักจะอยู่ตัวคนเดียว เรียกได้ว่าเป็นพวกเข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง คนที่สนิทที่สุดก็น่าจะเป็นแม่ของผมเองอะและ

พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์เป็นวันหยุดงาน จริงๆผมก็ไม่อยากจะหยุด แต่ต้องไปเยี่ยมแม่วันนั้นนะสิ เลยต้องหยุดทำวันอาทิตย์

ตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนแล้ว ผมพึ่งกลับมาจากทำงานร้านสะดวกซื้อ ได้เวลานอนแล้วละพรุ่งนี้ต้องไปเยี่ยมแม่

.

.

ตื่นเช้ามาผมแต่งตัวเตรียมตัวจะไปเยี่ยมแม่ ใส่ชุดธรรมดาๆ และก็ทำอาหารเช้ากินก่อนไป อาหารเช้าวันนี้ก็พวกไข่เจียวใส่ซอสมะเขือเทศกับข้าวสวยอาหารเช้าง่ายๆ กินอิ่มแล้วก็เก็บชามล็อคประตูออกจากบ้าน 

(โรงพยาบาล XX-XX)

ผมมาถึงโรงพยาบาลเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ห้อง202ห้องที่แม่พักอยู่ เปิดประตูไปก็เห็นแม่ผมนอนหลับอยู่บนเตียง

ผมเอาเก้าอี้ไปนั่งข้างๆ ผมไม่ปลุกแม่อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ เวลาผ่านไปสัก1ชั่วโมงแม่ก็ตื่น แม่มองมาที่ผมทำหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้

แม่ : ลูกมาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ?

กัส : มาตั้งแต่ชั่วโมงก่อนแล้วครับ

แม่ : ทำไมถึงไม่ปลุกแม่ละ

กัส : อยากให้แม่พักผ่อน อีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันหยุด ผมไม่มีไรทำทั้งวันอยู่แล้วละ

แม่ : อยู่บ้านสบายดีไหมแล้วเรื่องเงินยังพอใช้อยู่ใช่หรือเปล่า?

กัส : ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เป็นไรเรื่องเงินก็ด้วย แม่นั้นและเป็นไงบ้างหายเจ็บคอหรือยัง

แม่ : ก็ยังเจ็บนิดหน่อยน่ะ แต่ไม่เป็นไรมากแล้วละเหลือแต่ ยังรู้สึกเหนื่อยขยับไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ หมอบอกอาจจะเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงก็ได้

กัส : ท่างั้นแม่ก็พักผ่อนก่อนก็ได้ครับ

ผมใช้เวลาตั้งแต่เช้าไปจนถึงเย็นพูดคุยกับแม่นิดหน่อยตามภาษาแม่ลูก จนผมจะกลับบ้าน

กัส : นี้ก็เย็นมากแล้วผมกลับบ้านก่อนนะไว้อาทิตย์หน้าจะมาหาอีกครับ

ก่อนที่ผมกำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้แม่ก็พูดขึ้น

แม่ : กัสแม่ขอถามอะไรอย่างได้ไหม

กัส : เรื่องอะไรหรอครับ?

แม่ : ท่าวันหนึ่ง ท่าจะนะ! แม่ไม่อยู่แล้วลูกจะอยู่ได้ไหม?

กัส : ทำไมแม่ถึงพูดแบบนั้นละ

แม่ : แม่ก็แค่ถามเพื่อไว้ก่อนนะแม่อยู่กับลูกไปตลอดไม่ได้ลูกก็รู้ใช่ไหม แล้วลูกก็อายุ16แล้วด้วย เอาน้าตอบคำถามแม่มา

กัส : แม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมอยู่ได้แน่นอน แม่เลิกคิดมากได้แล้วน้า มันไม่ดีต่อสุขภาพ

แม่ : อืมงั้นไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะกลับบ้านดีๆ ละ

กัส : ครับ ไว้เจอกัน

ผมกลับมาถึงบ้าน ทำไมแม่ต้องถามคำแบบนั้นด้วยนะ มาลองคิดดูแล้วทั้งชีวิตผมไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลยสักคน ตัวผมนั้นเข้าสังคมไม่เก่งเลยละไม่ว่าจะที่ทำงานหรือที่โรงเรียน เวลามีคนมาคุยผมก็มักตอบกลับไปด้วยเสียงแผ่วเบาหรือไม่ค่อยกล้าพูดกับคนอื่นก่อนสักเท่าไหร่ เห้อ....นี้หน้าจะคือข้อเสียอันใหญ่หลวงของผมละมั้งแม่เลยเป็นห่วง ผมรู้ปัญหาตัวเองไม่ใช่ไม่พยายามที่จะปรับตัวนะ ผมพยายามที่จะพูดคุยแต่ก็ไม่รู้ทำไมมันยากอย่างนี้เห้อ!

.

.

ผมใช้ชีวิตเรียบง่าย ตื่นเช้ามาทำอาหารเช้ากิน ไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟตอน 9:00 น โมงเช้า เลิกงาน 16:00 น โมงเย็น ผมก็ต้องไปทำงานร้านสะดวกซื้อยันถึง 22:30 น แล้วกลับบ้านอาบน้ำนอน วนแบบนี้ไปถึงวันเสาร์ ถึงงานมันจะเหนื่อยแต่เพื่อแม่แล้วก็ต้องทำ

พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์แล้วสินะไปเยี่ยมแม่อีกครั้ง สงสัยต้องไปบอกเรื่องที่ไม่ไปเรียนกับแม่แล้วละ ว่าเลือกจะมาทำงานช่วยแม่ ต้องโดนบ่นแน่เลย!

เช้าวันอาทิตย์ ผมตื่นเช้าล้างหน้าล้างตากำลังจะแต่งตัว มีเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ใครโทรมานะ?

ผมรับโทรศัพท์

กัส : สวัสดีครับใครครับ

เสียงจากโทรศัพท์ : สวัสดีค่ะฉันพยาบาลXXXX คุณใช่ญาติของผู้ป่วย (วาริษา XXX)

ชื่อแม่ของผมเอง

กัส : ครับ ใช่ครับผมเป็นลูกของเธอครับมีอะไรหรือเปล่าครับ?

พยาบาล : คือว่า.......

.

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป

ผู้เขียน:****เรื่องนี้เป็นแนวต่างโลกนะครับ****

2.ยอมแพ้จริงๆหรอ

พยาบาล : คือว่า.......

พยาบาลกำลังพูดแล้วเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง

พยาบาล : ทำใจดีๆนะคะตอนนี้ แม่ของคุณเสียแล้วค่ะ 

เมื่อผมได้ยินคำนั้น ปล่อยมือจากโทรศัพแล้วตัวทรุดลงนั่งกับพื้นทันที น้ำตาค่อยๆไหลออก

พยาบาล : คุณคะ ทางเราขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะเราช่วยสุดความสามารถแล้ว หัวใจเธอวายเฉียบพลัน

                 1 สัปดาห์ต่อมา...

​​​​​ตอนนี้ผมอยู่งานศพแม่ ในงานศพของแม่นะนอกจากเพื่อนที่ทำงานของแม่ก็ไม่มีใครมาอีก คนรู้จักแม่ญาติพี่น้อง ผมยังไม่รู้เลยว่าคนพวกนั้นเป็นใครผมได้แต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรอยู่คนเดียว

เพื่อนที่ทำงานแม่ : หนูเสียใจด้วยนะตอนฉันได้ยินข่าวก็ตกใจมากเลย แม่ของหนูขยันทำงานมากเขามักจะช่วยเหลือคนอนบ่อยๆ ฉันเสียใจด้วยจริงๆ

กัส : ครับ...

ผมตอบแบบส่งๆผมไม่แม้แต่จะหันไปมองคนที่คุยด้วยซ้ำไป ผมรู้สึกเศร้าว่างเปล่าสิ้นหวังกำลังนั่งถามตัวเองต่อไปเราจะทำยังไงดี แม่ของผมนั้นเธอเป็นแม่ที่ดี เธอไม่เคยบ่นแม้ตอนที่ตัวเองเหนื่อย มัดจะยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตก็ยังเป็นห่วงผม ผมนั่งอยู่นานพอมองไปรอบๆก็ไม่มีใครอยู่แล้ว งานศพของแม่จบลง ผมกลับมาบ้านมาดูของที่แม่ให้ไว้ก่อนท่านเสีย พยาบาลบอกว่าตอนที่เขากำลังดูแลแม่อยู่ เขาเตรียมของสิ่งนี้จะมาให้ผม ตอนที่มาหาเขา แต่พอถึงตอนเช้าเขาก็เสียชีวิตไปตอนนั้นพอดี หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน พยาบาลเลยเอาของสิ่งนี้มาให้ผมแทน

มันเป็นกล่องไม้ เปิดออกมาก็เป็นสร้อยคอที่แม่ชอบใส่อยู่ตลอดเวลา เป็นสร้อยรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวกับจดหมายฉบับหนึ่ง หน้าซองเขียนว่าจงเปิดจดหมายนี้ตอนที่ลูกคิดว่ามีความสุขมากแล้ว

ห๊ะ..ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่เครื่องหมายคำถาม?ทำไมแม่จะต้องเขียนจดหมายด้วย อย่างกับจดหมายลาตาย แม่รู้ว่าตัวเองจะตายหรอ มันแปลกตั้งแต่แม่เป็นลําคออักเสบ แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับตัว และตอนเสียชีวิตหัวใจก็วายตาย ผมได้แต่ตั้งคำถามขึ้นมาในหัว

ผมวางกล่องไม้ลง นั่งเงียบอยู่คนเดียวอยู่นิ่งๆทั้งวัน เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้านนั่งซึมอยู่ริมห้อง ไม่ออกไปไหน ผมได้ยอมแพ้กับชีวิตแล้ว

​​​​​​ผ่านไปได้สัก 1-2สัปดาห์ผมอยู่แต่ในบ้าน เอาแต่นั่งร้องไห้ อาหารแทบไม่กิน ทั้งวันเอาแต่นั่งอยู่เฉยๆตาเหม่อลอยมองผนัง เหมือนคนบ้า

.

.

​​​​​"เห้อ...อยากตาย..ชะมัด"

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว ผมเดินไปที่ห้องครัว หยิบมีด มองไปมีดยืนคิดสักครู่........... ก่อนจะนั่งลงเอาหลังพิงกำแพงเอามีดจ่อไปที่คอ ใช่..ผมคิดดีแล้วละผมคิดเรื่องนี้มาได้1-2 สัปดาห์แล้ว ผมไม่เหลือใครที่ต้องมีเหตุผลในการใช้ชีวิตอยู่อีกแล้ว คำที่ผมให้สัญญากับแม่ทำไม่ได้แล้วละ 

"ขอโทษนะครับ..... แม่"

ผมหลับตาลง มีดจ่ออยู่ที่คอ ง้างมีดออกกะจะแทงไปที่คอแรงๆ ในทีเดียวแต่.....

ผม....รู้สึกว่าเหมือนมีใครมาจับมือผมอยู่?

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป

3 บุคคลปริศนา?

??? : แก...คือกัสสินะ

เมื่อได้ยินเสียงพูดนั้น ผมลืมตาขึ้นทันที ตรงหน้ามีผู้ชายปริศนาผมสีเขียวใส่ผ้าคลุมหลังสีเขียวเข้ม ผิวของเขาซีดเหมือนคนตาย

กัส : เดี่ยว...คุณเป็นใคร ทำไมถึงรู้ชื่อผมได้แล้วเข้ามาในบ้านได้ยังไงเนี่ย?

??? : ใช่จริงๆด้วย แกคือกัสจริงๆสินะ ในที่สุด...ในที่สุด ฮ่ะ..ฮ่ะ..ฮาๆๆๆ

เสียงหัวเราะดังลั่นบ้านอย่างกับคนโรคจิตเขาเอามือทุบขาตัวเองไปมา หลังจากหัวเราะเสร็จ ชายผมเขียวขยับหน้ามาใกล้มองจ้องมาในดวงตา

??? : ถึงหน้าตาตอนนี้ แกดูเด็กกว่าภาพนิมิตที่ข้าเห็นแต่นั้นมันไม่สำคัญหรอกเพราะอนาคตมันยังไม่เกิด เจ้าเลอุส มันยังไม่เจอตัวแกตอนนี้สินะ

กัส : เดี๋ยวก็คุณกำลังพูดถึงอะไร

 ??? : ความปรารถนาของท่าน"อารอน" จะโดนแกขัดขวางในอนาคต แต่มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น ท่าข้าจัดการแกตั้งแต่ตอนนี้ ไหนๆแกก็จะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว...เดี่ยวข้าจะเป็นคนปิดชีวิตแกเอง

ท่านอารอน...ความปรารถนา...เลอุส.....จะฆ่าผม  เขาเอาแต่พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว คนโรคจิตแอบเข้ามาในงั้นหรอ.... เห้อ....แม้แต่ตอนที่จะฆ่าตัวตาย ก็ยังทำไม่ได้กับมาเจอคนโรคจิตจ้องจะฆ่าอีก ชีวิตผมนี้มันเจอแต่เรื่องบัดซบจริงๆ

ผมเอามือกุมขมับตัวเองกำลังใช้ความคิดนี้เรากำลังเจอเรื่องอะไรวะเนี่ย!

??? : ข้าไม่เข้าใจจริงๆ เลอุสมันเอาพวกอ่อนแอขี้แพ้แบบนี้มาทำไม ไม่ว่ามันจะเอามาอีกกี่คน พวกข้าจะฆ่ามันทิ้งทั้งหมดอยู่ดี ช่างโง่......

กัส : เมื่อไหร่จะหยุดพล่าม...คุณจะมาฆ่าผมไม่ใช่เหรอ ก็ช่วยรีบๆทำให้มันจบ แล้วช่วยฆ่าแบบทรมานน้อยที่สุดด้วย

ผมเริ่มรำคาญกับสิ่งที่มันพูด ยังไงไอ้นี่ก็คนโรคจิตแหงๆ 

??? : นั้นสินะแกมันก็ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่แล้ว...ยังไงข้าก็ไม่มีเวลาอยู่โลกนี้นานสักเท่าไหร่ งั้นมาทำให้มันจบๆกันเลยดีกว่า...

ชายผมเขียว ยกมือขึ้นไปข้างหน้าในมือเริ่มมีลูกบอลไฟสีเขียวมันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนสัมผัสได้ถึงความร้อนไปทั่วหน้า

"เดี่ยวนี้มันเริ่มไม่ปกติแล้ว"

??? : งั้นแกก็ตายซะ

เขาเอามือกำลูกบอลไฟทำท่าจะพุ่งมาใส่กลางหน้าผม แต่ทันใดนั้นแขนเขาก็กลับขาดเป็นสองส่วน ลูกบอลไฟในมือหายไปทันที 

??? : แขน...ของข้า!

ตรงหน้าผมมีชาอีกคนใส่ผ้าคลุมสีดำ ที่มือถือดาบยาวแล้วเขาก็คว้าผมออกห่างจากชายผมเขียวทันที

??? : เลอุส!แก....แกกล้าดียังไงมาตัดแขนแสนรักของข้า!

​​​​​​ชายผมเขียวตะโกนเสียงดังลั่นจนแก้วหูแทบแตก แต่ว่าผู้ชายที่เจ้านั้นหมายถึงคือเลอุส

??? : ทำไมเจ้าตัวรำคาญแบบแกถึงตายยากนักหนา แกจะเอามันไปสินะ หวังไปเถอะข้าจะฆ่ามันและแกตอนนี้เลย เลอุส!

ชายผมเขียวหยิบแขนขึ้นมาต่อกับรอยที่โดนฟันมือเชื่อมติดกันทันที ก่อนที่ตัวเขาจะมีแสงออร่าสีเขียวรอบกาย เสกลูกไฟในมืออีกครั้ง มันใหญ่ขึ้นกว่าตอนตะกี้หลายเท่าทำท่าพร้อมโจมตี

เลอุส : กัสนายเอามือมานี้

เลอุสดึงมือผมไปก่อนจะพูดด้วยภาษาแปลกๆแล้วด้านใต้เท้าก็มีวงแหวนเรืองแสงออกมา

รู้สึกเหมือนภาพตรงหน้าตัดไปทันที พอรู้สึกตัวอีกทีตัวเองกับเลอุสก็มาอยู่กลางป่าที่ไหนก็ไม่รู้ ท้องฟ้าสว่างต่างกับบ้านที่ผมอยู่เพราะมันราไอเจ้าบ้านั้นมันไปได้ยังไง แถมมันรู้โลกที่กัสอยู่อีกด้วย

เลอุสหันมามองดูรอบๆร่างกายผม

เลอุส : ตอนนี้ปลอดภัยแล้วละนายไม่เป็นไรใช่ไหม

กัส : ผมไม่เป็นไรแต่นี้มันเรื่องอะไรกัน อยู่ๆก็มีใครที่ไหนก็ไม่รู้จะมาฆ่าเสกลูกไฟบนมือได้ แล้วก็จู่ๆมาโผล่ที่ป่าที่ไหนอีก

เลอุสเงียบไปสักครู่ก่อนที่จะพูดขึ้น

เลอุส : เจ้าพวกผมเขียวมัน...เป็นคนฆ่าแม่นาย 

"ฆ่าแม่?"

เลอุส : นายไม่สงสัยเลยหรอทำไมแม่นายจู่ๆก็ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน แล้วไม่กี่สัปดาห์ต่อมาก็หัวใจวายตาย เป็นเพราะพวกมันนั้นและที่ทำ

กัส : แล้วทำไมละ...ทำไมพวกนั้นต้องฆ่าแม่ด้วยมันไม่เหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้นเลย เพราะผมไปขัดขวางความปรารถนาบ้าบอในอนาคตของมันงั้นหรอ แล้ว..คุณรู้เรื่องที่แม่ผมหัวใจวายได้ไง

พอผมพูดจบเลอุสทำตากว้าง

เลอุส : ฉันไม่รู้หรอกนะว่าไอบ้านั้น มันพูดอะไรกับนาย ที่ฉันรู้เรื่องแม่นายตายได้ เพราะฉันเฝ้ามองนายอยู่จริงๆทุกอย่างมันไม่ควรเป็นแบบนี้ 

กัส : เดี่ยวก่อน..คุณบอกว่าเฝ้ามองผมแต่ปล่อยให้แม่ของผมตาย ทำไมคุณถึงไม่ช่วยเขาละ

เลอุส : ฉันมาที่โลกก่อนแม่นายจะตายไม่ถึงวัน อีกอย่างท่าฉันสู้ได้คงไม่วาปหนีมานี้หรอก นายก็เห็นทั้งเสกบอลไฟได้ ทั้งที่ฉันวาปได้มันไม่ใช่สิ่งที่คนในโลกนายทำได้เลยสักนิด แล้วที่พวกเราอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่โลกของนายนี้มันคือต่างโลกตั้งหาก

ในหัวผมมีแต่เครื่องหมายคำถาม ผมพยายามฆ่าตัวตายแล้วมาเจอชายผมเขียวที่คิดว่าเป็นโรคจิตบุกเข้าบ้าน แต่กลับกลายเป็นพวกคนต่างโลกมีเวทมนตร์เสกบอลไฟได้แล้วชายที่ชื่อว่าเลอุสก็พาหนีมาอีกโลกนึงบอกว่าพวกมันเป็นคนฆ่าแม่ เพราะผมไปขัดขวางความปรารถนาอะไรสักอย่างของพวกมันทั้งที่ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง 

กัส : แล้วทำไม......

เลอุส : นาย!ช่วยหยุดตั้งคำถามสักทีเถอะถึงตอนนี้พวกเราจะปลอดภัย แต่ก็ไม่มีเวลามาตอบคำถามทั้งหมดหรอกนะสิ่งที่นายรู้แค่พวกมันฆ่าแม่นายแล้วจะฆ่านายด้วย เอาไว้ฉันจะอธิบายเรื่องทั้งหมดตอนที่พวกเราเข้าเมือง นายต้องใจเย็นๆก่อนแล้วเชื่อใจฉัน

​​​​​".........."

เลอุสเดินไปหลังหินก้อนใหญ่หยิบกระเป๋าสัมภาระต่างๆ ก่อนจะหยิบกล่องไม้ที่เก็บไว้ใต้เสื้อผ้าออกมาให้ผม

.

.

.

.

โปรดติดตามตอนต่อไป

ผู้เขียน : บทพูดยาวๆเลยจ้า -_- ท่างงกับสิ่งที่พิมไม่ว่ากันนะ แล้วก็นิสัยของกัสที่ดูเหมือนจะน่ารำคาญไปหน่อย "คนเราพัฒนาได้เสมอ"(หมายถึงคนเขียน-_-)    ต่อจากนี้จะเริ่มเข้าเนื้อเรื่องหลักแล้ว

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!