เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมักมีหลากหลายรูปแบบ และความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูก
เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่โลกได้ถือกำเนิดเหล่ามังกรทั้งหกเพื่อมาปกปกป้องโลกใบนี้ ในสมัยนั้นมนุษย์ให้ความเคารพและนับถือเหล่ามังกรประดุจดังเทพเจ้า เหล่ามังกรเป็นที่เกรงขามแก่เหล่ามนุษย์มาก แต่พอเวลาผ่านไปจากความเคารพเเปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังและหวาดกลัวต่อพลังมหาศาลของเหล่ามังกรจนกระทั่งมนุษย์ได้ก่อสงครามขึ้นเพื่อหมายกำจัดเหล่ามังกรให้หมดไป
จากผู้ปกป้องต้องกลายเป็นผู้ทำลายล้าง เมื่อสงครามได้อุบัติขึ้นและยืดเยื้อยาวนานจนกระทั้งวันหนึ่ง มนุษย์และมังกรได้กลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อจำกัดภัยอันตรายบางอย่างที่กำลังคุกคามโลก และภัยพิบัตินี้ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เเต่มันมาจากพิภพอื่นเเละเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตต่อโลกของพวกเขาเป็นอย่างมาก เเละสงครามนี้ให้ชื่อว่าสงครามเเห่งการกลืนกิน เหล่ามังกรก็ต่างสูญเสียพอๆกับเหล่ามนุษย์ ทุกชีวิตต่างบาดเจ็บล้มตายไปมาก และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นอย่างกระทันหันเมื่อราชามังกรได้โจมตีด้วยพลังอันมหาศาลจนมีเมืองเล็กๆที่อยู่ในรัศมีของพลังที่ถูกปล่อยออกไปได้รับลูกหลงจนเมืองเเห่งนั้นพังราบเป็นหน้ากอง
เเต่เหมือนสวรรค์ไม่ได้ใจร้ายเสียเลยทีเดียว ท่ามกลางสงครามและเพลิงไฟจากพลังของราชามังกร ที่ไม่น่าจะมีใครรอด แต่
ได้มีเด็กน้อยซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ราชามังกรเมื่อเห็นเด็กน้อย ที่ร้องไห้ดั่งจะขาดใจ จึงแปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อจะได้เข้าไปดูเด็กน้อยใกล้ๆ และเพื่อไม่ให้เด็กน้อยหวาดกลัว
"เด็กคนนี้เป็นผู้รอดชีวิตจากเพลิงเวทมหาศาลของข้าอย่างนั้นหรือนี่ เจ้าเองคงมีพลังเวทที่แข็งกล้าเช่นกันสินะ" ราชามังกรหนุ่มเอ่ยขึ้น พร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาในอ้อมแขน
"อุเเว้ๆๆเเว้...เเอ๊" เด็กน้อยยังคงแผดเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความตกใจและไม่คุ้นเคยในอ้อมกอดของราชาหนุ่ม
"เด็กน้อยข้าจะเลี้ยงเจ้าเองเเต่ถ้าพลังเวทของเจ้ามากมายขนาดนี้มันอาจจะทำให้เจ้าได้ลาโลกนี้ไปก่อนที่เจ้าจะโตเป็นแน่ จริงด้วยชื่อสำคัญมาก อืม...ซินเทียร์ ข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่า ซินเทียร์ ที่เป็นภาษามังกร ความหมายของมันคือ น้ำตามังกร เจ้าชอบหรือไม่เจ้าหนูน้อย" ราชามังกรพูดกับเด็กน้อย พร้อมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ
"เเอ้...ฮะๆ" แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ราชามังกรพูดนัก แต่เด็กน้อยก็เหมือนจะตอบรับชื่อที่ได้รับมา
"ชอบสินะเจ้าหนูน้อย" ราชามังกรเอ่ยถาม พรางยิ้มละไมให้เด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู
หลังจากที่ราชามังกรทั้งหกได้เเยกย้ายกันไปโดยที่ราชินีมังกรเเห่งกาลเวลานามว่า 'รินเนะ' ได้มาหา 'เอน' ราชามังกรผู้ที่รับเด็กน้อยไว้ในความดูแล ที่ถ้ำมังกรของเขา
"เอน ท่านจะเลี้ยงเด็กคนนี้ อย่างนั้นหรือ?" รินเนะเอ่ยถาม พรางจ้องมองเด็กที่นอนอยู่บนเบาะด้วยความสนใจ
"คงต้องอย่างนั้นเพื่อชดใช้บาปของเหล่ามังกร" เอนตอบกลับไป บาปที่ร่วมกันก่อ บาปที่เขาเกือบทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม
"ก็แล้วแต่ท่านนะ มันเป็นการตัดสินใจของท่านเเล้ว" รินเนะไม่คิดจะขัดขวางการตัดสินใจของเอน หรือมังกรตนใด ทุกอย่างมันย่อมมีเหตุและผล เด็กคนนี้ที่มาอยู่กับเอนก็เช่นกัน
เมื่อวันเวลาผ่านล่วงเลยไปโดยที่ผู้คนได้ลืมเหตุการณ์ครั้งเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์จนเกือบหมด เด็กทารกตัวน้อยได้กลายเป็นสาวน้อยที่มีหน้าตางดงามดังเทพธิดาลงมาจุติก็มิปานเเละตอนนี้ซินเทียร์กำลังฝึกเวทมนต์อย่างขยันขันเเข็งเเละเวทที่ราชามังกรฝึกให้คือเวทปราบมังกรเเละการฝึกก็ได้ดำเนินไปเพื่อสักวันหนึ่งเธอจะได้ไปยังโลกภายนอก โดยราชามังกรจะได้ไม่ต้องห่วง เเม้การฝึกจะหนักและดูโหดร้ายเพียงใดซินเทียร์ก็พยายามอย่างเต็มที่
"ลมหายใจมังกรทมิฬ กระบวนท่ามังกรผ่าสวรรค์ เปลวเพลิงมังกรทมิฬ" ซินเทียร์ท่องมนต์คาถามหาเวทขณะที่ฝึกฝนไปด้วย
"พักได้แล้ว มากินข้าวก่อน" เอนตะโกนเรียกสาวน้อยให้หยุดพัก
"กินข้าวกันเถอะๆหิวเเล้วนะ" รินเนะผู้หิวโหยจากการเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ซินเทียร์ พูดออกมาด้วยความดีใจ
"หิวก็มากินข้าวได้เเล้ว" เอนตะโกนเรียกอีกครั้ง
"มาแล้ว มาแล้ว ได้เวลากินข้าวเสียที กำลังหิวเลย" ซินเทียร์วิ่งไปหาเอนด้วยความดีใจ เธอก็หิวพอๆกับรินเนะนั่นแหละ
"กินเยอะๆนะซินเทียร์ เจ้ายิ่งตัวเล็กๆอยู่" เอนบอก เด็กมนุษย์นี่ตัวเล็กจริงๆ ทั้งที่เขาเลี้ยงด้วยอาหารชั้นเลิศทุกมื้อเลย
เมื่อทั้งสามได้รัประทานอาหารจนอิ่ม จากนั้นเอนคิดว่าจะพูดคุยเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของซินเทียร์ เเต่ในตอนนั้นได้มีเเขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาอย่างกระทันหัน ทุกคนต่างหันหน้าไปมองอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนคนนั้นคือเมอรินหนึ่งในจอมเวทที่เเข็งเเกร่งที่สุดในยุคนี้เเละเมอรินเป็นเพื่อนกับเอน เเละการที่เขาต้องมาหาเอนอย่างกระทันหัน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับซินเทียร์ เมอรินทักทายราชามังกรด้วยความสนิทเเละทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นภาษามังกร ซินเทียร์แม้จะถูกเลี้ยงดูด้วยมังกร แต่เขาไม่ได้สอนภาษามังกรแก่เธอ ซินเทียร์จึงได้แต่นั่งฟังเงียบๆอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่ได้เจอกันนานมากเลยเพื่อน ท่านสบายดีหรือไม่" เมอรินเอ่ยทักทายสหายสนิท
"สบายดี ว่าแต่ท่านเถอะ ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่อย่างนั้นรึ" เอนตอบกลับไป เขาไม่คิดว่าเมอรินเฒ่าจอมเวทจะมาหาเขาหากไม่มีเหตุอันใดเป็นแน่
"ข้ามาเรื่องลูกสาวของท่านนั่นเเหละข้าจะเอานางเข้าโรงเรียนเวทมนต์ของราชาอาเธอร์" เมอรินตอบพรางหันหน้าไปมองเด็กสาว
"พอดีเลยข้าว่ากำลังจะพูดเรื่องนี้กับซินเทียร์อยู่พอดี" เอนตอบ เพราะก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับซินเทียร์พอดี
"ดีแล้วล่ะท่าน เพราะยังไงซินเทียร์ควรได้ไปโรงเรียนแห่งนั้น" เมอรินเคยกลัวว่าราชาหนุ่มจะไม่ยอมให้ซินเทียร์ออกไปสู่โลกภายนอกเสียอีก
"เพราะว่าสักวันหนึ่งนางต้องออกไปผจญกับโลกกว้างเเละต้องอยู่กับเหล่ามนุษย์อยู่เเล้ว ข้าจะกักขังให้นางอยู่แต่ในถ้ำของข้าได้อย่างไร"
"ท่านคิดเช่นนั้นเองรึสหายข้า ข้ายินดีแทนนางยิ่งนัก" เมอรินรู้ว่าเอนรักและหวงแหนซินเทียร์ยิ่งนัก จอมเวทเฒ่าอย่างเขาจึงกลัวว่ามังกรหนุ่มจะไม่ปล่อยลูกสาวให้ไปเรียนรู้
"ซินเทียร์ ลูกสาวสุดที่รักของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้เวทอย่างอื่นที่เจ้าควรเรียนรู้" เอนเอ่ยกับซินเทียร์ที่นั่งเงียบๆมาตั้งแต่ต้น
"นี่ท่านอยากให้ข้าไปเรียนเวทที่อื่นอย่างนั้นหรือคะ" ซินเทียร์ผูกพันธ์กับเอนมาก จนไม่อยากพรากจากเขาไปไหน
"ใช่แล้วล่ะซินเทียร์ เจ้าจะได้เรียนรู้เรื่องสังคมมนุษย์ ไปดูโลกที่มันกว้างใหญ่กว่าถ้ำเล็กๆของข้า เจ้าจงไปกับเพื่อนของข้าเสีย" เอนออกคำสั่ง แม้จะยังไม่พร้อมที่จะให้เด็กสาวไปก็ตาม
"เดี๋ยวเจ้าค่อยตามไปทีหลังก็ได้เด็กน้อย มันยังไม่ใช่วันนี้หรอก" เมอรินแค่มาแจ้งข่าวให้ทราบ เขาอยากให้ซินเทียร์ได้มีเวลาเรียนรู้เวทเพิ่มเติม และมีเวลาร่ำลาราชาหนุ่มเสียก่อน
"ซินเทียร์จะไปไหน ท่านจะส่งซินเทียร์ของข้าไปไหน" รินเนะผู้ที่ยังไม่พร้อมจะพลัดพรากจากซินเทียร์น้อย เอ่ยถามด้วยความร้อนรน
"ท่านเป็นอะไรของท่านรินเนะ ข้าแค่จะส่งนางไปโรงเรียนมหาเวทของท่านอาเธอร์" เอนหันไปตอบกับรินเนะ ผู้ซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาได้ยินสหายรักสองคนคุยกัน
"เเล้วถ้าซินเทียร์ไปใครจะเล่นกับข้าละ" ความจริงแล้ว นางเป็นห่วงซินเทียร์ต่างหาก แต่หาข้ออ้างดีๆไม่ได้เลย
"รินเนะ ท่านเป็นเด็กรึอย่างไร ท่านเป็นถึงราชินีมังกรเชียวนะ" เอนเอ็ดรินเนะเสียงดังด้วยความเอาแต่ใจของนาง
"ไม่เอาๆข้าไม่ให้ซินเทียร์ไป ถ้าข้าห้ามท่านไม่ได้ ข้าจะย้อนเวลากลับไป เเล้วเอาซินเทียร์มาเลี้ยงเอง" รินเนะทำท่างอแงเป็นเด็กๆ
"หยุดเลยนะรินเนะ" เมอรินและเอนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หลังจากนั้นความวุ่นว่ายก็ได้บังเกิดขึ้นเพราะต้องช่วยกันห้ามราชินีมังกรเเห่งกาลเวลาอย่างจ้าละหวั่นเพื่อหยุดนางไม่ให้ย้อนเวลากลับไป เพราะมันจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาอีกในภายหลัง ที่สุดเหตุการณ์ก็ได้สงบลง รินเนะยอมรับการตัดสินใจของเอนอีกครั้ง
เมื่อเมอรินกลับไป เอนจึงได้พูดคุยกับซินเทียร์อีกครั้ง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้น โรงเรียนที่ซินเทียร์ต้องไป ใช้เวลาคุยและทำความเข้าใจนานนับชั่วโมง
เช้าวันต่อมาการฝึกของซินเทียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเคย เวททุกเเขนงที่เคยฝึกฝน เวทมนต์ดราก้อนสเลเยอร์รวมไปถึงวิชาการต่อสู้ก็ยังถูกสอนอย่างเข้มงวดถึงเเม้ซินเทียร์จะเหนื่อยล้าเเต่นางก็ยังยอมฝึกต่อไปเพื่อให้ตัวนางเองเเข็งเเกร่งยิ่งขึ้นทุกศาสตร์ แม้จะยากเพียงใดเเต่นางก็ยังตั้งใจอย่างขยันขันเเข็งเมื่อเวลาล่วงเลยไปนางก็เเข็งเเกร่งพอที่จะเข้าโรงเรียนได้
ทางด้านราชามังกร เขาได้สร้างอาวุธให้กับซินเทียร์เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่เธอ อาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างมาจากเกล็ดของเขาเองโดยให้เผ่าคนเเคระสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมา ราชามังกรได้เรียกสองพี่น้องเผ่าคนเเคระมีนามว่าโมน่าเเละไมอาให้มา สร้างอาวุธเพื่อมอบให้ลูกสาวของเขา อาวุธที่จะเอาไว้ใช้และป้องกันตัวในโรงเรียนที่จะเข้าเรียน เเต่การดึงเกล็ดมังกรออกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันทั้งเจ็บปวดและทรมาน ถึงแม้ซินเทียร์จะไม่ใช่สายเลือดเเท้ๆของเขา เเต่เขาก็รักและเอ็นดูซินเทียร์ยิ่งนัก จึงยอมเจ็บเพื่อนางด้วยความยินดี โดยไม่มีข้อแม้หรือกังขาใดๆเลย ความรู้สึกที่เขามีต่อซินเทียร์ มันคือความรู้สึกที่มนุษย์เรื่ยกว่า 'ความรัก'
"ท่านราชามังกร"โมน่าและไมอาเอ่ยทักทายราชาผู้ยิ่งใหญ่
"มาเเล้วอย่างนั้นรึ โมน่าไมอา" ราชาหนุ่มหันไปมองสองพี่น้อง
"มาเเล้วขอรับ/เจ้าคะ" ทั้งสองขานรับพร้อมกัน
"ข้ามีงานให้เจ้าไปทำ ข้าอยากให้พวกเจ้าเอาเกล็ดของข้าไปทำเป็นอาวุธ"
"ข้าจะทำให้สุดฝีมือเลยขอรับ" โมอาบอกด้วยความแข็งขัน
"ข้าก็เช่นกัน จะทำให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ" ไมอารับเช่นเดียวกับพี่ชาย
"ดี ข้าจะคอยชมฝีมือเจ้า เอาไป" ราชามังกรยื่นเกล็ดของตนให้แก่สองพี่น้อง
วันเวลาผ่านไปเกือบหกเดือนการฝึกของซินเทียร์ก็ได้สิ้นสุดลง เเละอาวุธที่ถูกสั่งทำโดยราชามังกรก็เป็นอันเสร็จสิ้น โมน่าและไมอานำอาวุธมามอบให้เเก่ราชามังกร เขาได้มอบอาวุธให้เป็นของขวัญแก่ซินเทียร์ ราชามังกรได้เรียกซินเทียร์เข้าพบเพื่อมอบของขวัญให้เเก่นาง ลูกสาวอันเป็นที่รักของเขาก่อนที่จะจากกันไปเเละซินเทียร์ได้น้อมรับด้วยความยินดี
เมอรินได้รับสารจากราชามังกร ให้มารับตัวซินเทียร์ เขาจึงเดินทางมาถ้ำมังกรอีกครั้ง และจากไปพร้อมกับเด็กสาว
ซินเทียร์และเมอรินออกเดินทางมีจุดหมายปลายทางคือ โรงเรียนมหาเวทอาเธอร์ ซินเทียร์ต้องทำการทดสอบฝีมือก่อนที่จะเข้าเรียนที่นั่น และการเดินทางครั้งนี้ จะเป็นการเปลี่ยนชีวิตของเด็กสาวไปอย่างสิ้นเชิง ชีวิตที่ขาด เอน และรินเนะจะเป็นเช่นไร โปรดติดตามตอนต่อไป
หลังจากที่ทั้งสองได้เดินทางออกจากหุบเขา มังกรซินเทียร์ได้ตื่นเต้นกับสิ่งต่างที่นางเคยเห็นเเค่ในหนังสือเท่านั้น เเม้เเต่เมอรินก็ยังอดยิ้มไม่ได้ในความไร้เดียงสาของซินเทียร์ เมอรินเมื่อเขาได้มองเด็กสาวในความกระตือรือร้นในเเบบเด็กสาวโดยทั่วไป เเละการเดินก็คงไม่มีทางเงียบเหงาเพราะเสียงเจื้อยเเจ้วของซินเทียร์ทำเอาเมอรินอดมองด้วยความเอ็นดูในความน่ารักไม่ได้เลย ในระหว่างทางซินเทียร์ก็ได้ถามอะไรต่อมิอะไรมากมายในสิ่งที่ไม่เคยเห็น เเม้คำถามมากมายเเต่เมอรินก็ตอบด้วยความสุขุมนุ่มลึก
เเม้คำถามถึงจะเยอะเเยะมากมายเพียงใด เมอรินก็ยังพยายามตอบให้ได้มากที่สุดเเละการตอบคำถามของซินด้วยรู้สึกถึงความเอ็นดูในความขี้สงสัยเเละซินเทียร์ก็ยังถามไม่หยุดไม่หย่อน ส่วนเมอรินก็เเนะนำเรื่องเรียนเเละเรื่องพื้นฐานต่างๆ เเละในเรื่องทั่วไป เเละการเดินทางก็ยังไม่มีความเงียบเเม้เเต่น้อยเลย ถึงเเม้การถามจะชวนน่ารำคาญเพียงใดก็ตาม เเต่เมอรินก็ยังพยายามตอบคำถามทีประเดประดังพรั่งพรูมากมายก็ยังถามมาเรื่อยๆ จนเมอรินจนต้องตัดจบการสนทนา
“นี้… ปู่ไอ้นี้คืออะไรเหรอปู่ แล้วไอ้ที่เรานั่งคืออะไรกันแถมใหญ่ยาวมากเลย” ซินเทียร์ถามไปด้วยความสงสัย แต่เมอรินก็ยังตอบคำถามของซินเทียร์ที่ถามมาอย่างไม่หยุดหย่อน
“อ้อนี้เหรอ เขาเรียกว่าบ้าน ส่วนเจ้านี้ก็คือรถไฟอย่างไงละ” แม้เขาจะตอบคำถามแรกไปเเล้ว แต่เด็กสาวก็ยังถามต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนเมอรินต้องตัดจบการสนทนาลงไป
“ว้าว… งั้นในเมืองต้องมีบ้านสวยๆ อีกละสิ งั้นในเมืองต้องมีเรื่องสนุกๆ อีกเยอะเเยะสินะ” เธอพูดขึ้นมาด้วยความไรเดียงสาพร้อมกับสายตาที่เปล่งประกาย ก็เพราะว่า ตั้งเเต่เด็กๆ ซินเทียร์ก็อยู่แต่ในถ้ำมังกรมาตั้งแต่แรกเลยไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นโลกภายนอกแม้เแต่น้อยเลย อย่างมากก็ปแอบขโมยแอปเปิ้ลของราชามังกรแห่งปฐพี เทอร่า ดราก้อนมากินเป็นประจำ
“ฮะๆเจ้านี้ช่างถามซะจริงถ้าเจ้าได้เห็นเจ้าจะได้สนุกกว่าที่เจ้าได้เห็นในหนังสืออีกเยอะ ที่เจ้าจะได้รู้มากกว่านี้อีกสาวน้อย ไปต่อกันเถอะ” เมอรินก็อดมองซินเทียร์ด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสาของซินเทียร์ และแอบยิ้มไป และมองด้วยสายตาที่เอ็นดู
"บู๋… ปู่ขี้งก เเค่นี้ก็ไม่บอก บอกข้านะ ได้โปรดเถอะนะ เเค่นี้เองนะปู่" เมื่อไม่ได้คำตอบจากเมอริน ซินเทียร์ก็ทำหน้ามุ่ย แอบเคืองเบาๆ ที่เมอรินไม่ปล่อยให้อยากรู้
"ก็… ข้าอยากให้เจ้าได้เรียนรู้เองจะดีกว่า ถ้าข้าบอกหมดเเล้วมันจะสนุกได้ยังไงละ ฮะฮะฮ่า..."เมอรินจึงเเกล้งหยอกซินเทียร์ ให้ทำหน้ามุ่ย เเละซินเทียร์ก็ทำหน้าเคืองแบบนี้จนไปสถานีรถไฟ
หลังการถามของซินเทียร์ได้ยุติลง เเละการเดินทางได้ดำเนินต่อไป การเดินทางไปด้วยความสนุกเพลิดเพลินกับความตื่นหูตื่นตาของซินเทียร์ เมื่อการเดินทางล่วงเลยมาเป็นเวลาสามวันจากดินเเดนราชามังกรเเห่งจุดจบจนมาถึงรถไฟเวทมนต์ที่ชานชาลา A-10-08-96 เพื่อไปเมืองคาเมรอตด้วยความตื่นตาตื่นใจของซินเทียร์ ครั้งเเรกที่ซินเทียร์ได้ที่ได้เห็นเเละสิ่งที่ไม่คาดฝัน คือซินเทียร์เมารถไฟอย่างรุนเเรง คงเป็นเพราะว่าซินเทียร์เธอไม่เคยขึ้นรถไฟก็เป็นได้
เมื่อรถไฟเคลื่อนออกไปด้วยกระเเสพลังเวทที่มาจากผลึกซิกที่ใช้เป็นพลังงานให้กับรถไฟขบวนนี้ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองคาเมรอต ซินเทียร์พกดาบที่ทำมาจากเกล็ดของมังกรแห่งจุดจบไว้ไม่ห่างกายเธอกอดมันราวกับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต เธอกอดมันด้วยสภาพที่เมารถ จนเมอรินมองด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของซินเทียร์ เเต่รถไฟก็ยังคงเคลื่อนที่ต่อไปรวดเร็ว เเต่ทันใดนั้นได้มีชายคนหนึ่งได้เข้ามาหาเมอริน เเละได้หาเรื่องเมอรินด้วยถ้อยคำผรุสวาท
“เฮ้ย ไอ้เเก่ เเกรู้เปล่าว่าข้าคือใคร หน่อยไอ้แก่นี่ ทำไมยังไม่ลุกอีก เดี๋ยวพ่อก็ซัดหน้าให้” หลังจากที่ขึ้นรถไฟมาแล้วก็มีอันธพาลที่กำลังยืนหาเรื่องอยู่ตรงหน้าเมอริน แต่เขาก็ตอบด้วยความกวน ยิ่งทำให้อันธพาลยิ่งโมโหยิ่งขึ้น
“เเล้วใครมันจะไปรู้เรอะ ขนาดเเกไม่รู้ เเล้วข้าจะรู้เรอะ เรื่องแค่นี้ก็ยังมาถามอีกเฮ้อ....”เขาตอบไปอย่างกวนๆ จนอันธพาลมีอารมณ์โมโหยิ่งขึ้น
“หน่อย...เเกกวนงั้นเหรอไอ้เเก่ งั้นแกก็เตรียมเจ็บตัวได้เลยแก
“เเล้วเเต่เจ้าจะคิดเเล้วจะคิดแล้วกัน เฮ้อ…….” พูดพร้อมกับการถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย
“หน่อยเเก อึก! นี้มันบ้าอะไรกันเนี้ย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย….”เมื่อสิ้นประโยค ร่างกายของเขาก็ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย
“ก็เเค่เวทตรึงเงาเท่านั้นเองอยู่อย่างนั้นต่อไปสักชั่วโมงเเล้วกัน และข้าขอเทศนาหน่อยละกันจนกว่าไปถึงคาเมร็อตละกันนะ ”การเทศนาของเมอรินก็ได้เริ่มขึ้น จนนายอันธพาลถึงกับต้องร้องข้อให้เมอรินหยุด และหลังจากนั้นนายอันธพาลนี่คงจะไม่หาเรื่องใครอีกแล้วละมั้งหวังว่านะ
หลังจากเมอรินได้จัดการอันธพาลด้วยการตรึงเงา จนไปขยับออกไม่ได้ด้วยความสามารถในการใช้เวทมนตร์อย่างช่ำชอง เเละความสามารถในการใช้เวทมนต์เกินจะบรรยายเเละเหตุการณ์นี้ก็จบลงที่นักเลงคนนั้นอยู่ในสภาพถูกตรึงเงาอยู่ตรงนั้นโดยที่เมอรินได้เทศนาจนกลับตัวกลับใจเป็น โดยที่เมอรินอุ้มซินเทียร์ที่อยู่ในสภาพเมารถอยู่ตรงนั้นตามสภาพที่เรียกได้ว่าเละ ในเวลาต่อมารถไฟเวทมนต์ได้มาถึงเมืองคาเมรอต
ณ เมืองคาเมรอต
บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเเละมีรูปปั้นของราชาอาเธอร์อยู่ในท่ายืนถือดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์ยืนเด่นเป็นสง่า ในตอนนีี้ซินเทียร์ตื่นตาตื่นใจอยู่ในความยิ่งใหญ่ของรูปปั้นาราชาอาเธอร์ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมื่องนี้ได้ถูกคุ้มครองโดยราชาที่ทรงธรรม เเละทันใดนั้นเมอรินได้เรียกสติของซินเทียร์ด้วยไม้เท้าของเขา
“เหม่ออะไรของเจ้า เดี๋ยวก็หลงกับพอดี นี่แน่ะ หายเมารถรึยัง” เขาได้เข็กหัวซินเทียร์ ที่กำลังเหม่อๆ
“โอ้ย! มันเจ็บนะปู่ ก็เเค่คิดว่าเมืองมันจะใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ?” ในหัวข้องซินเทียร์มีแต่คำถามมากมาย จนเมอรินพูดขึ้นมา
“ตรงนี้เเค่เขตเดียวเท่านั้นเอง แต่ว่าเจ้ารีบเดินดีกว่า”
“หา!!! เเล้วมันจะใหญ่ไปไหนเนี่ย!!! อะไรกันเนี่ย
“นี้ยังเเค่ส่วนเดียวของเมืองคาเมรอต เด็กหนอเด็กช่างมัน
“ เเล้วเราจะหลงมั้ยคะปู่” ซินเทียร์ถามดวยความสงสัย เพราะโลกภานอกเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับซินเทียร์
“ไม่หรอกๆ เพราะว่าเราไปลงทะเบียนเข้าสอบกันก่อนเลย”
“เเต่พวกเราต้องลงทะเบียนด้วยเหรอคะ”
“ซินเทียร์ เป็นเรื่องปกติเเวลาที่ก่อนจะเข้าเรียน”
“ค่า…. เเล้วเราต้องไปที่ไหนกันคะ”
“ตามข้ามา เดี๋ยวก็ถึงแล้ว ตามมาเถอะ
หลังจากนั้นเมอรินได้นำทางไปยังสถานที่ลงทะเบียนเตรียมสอบ เเละหลังจากนั้นซินเทียร์ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าสอบ ก่อนการสอบจะเริ่มภายในอีกสามวัน ทันใดนั้นมีคนมาชนไหล่ของซินเทียร์เเละเรื่องก็ได้เริ่มขึ้น เด็กชายที่เดินมาชนไหล่ได้ทำการดูถูกซินเทียร์ต่างๆนานา เเต่ซินเทียร์ก็อดทนต่อคำยั่วยุจากเด็กคนนั้นด้วยความอดทน เเต่ความอดทนก็หมดลง เเต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเด็กคนนี้ นางจึ่งเกิดความโมโหขึ้นมาจากคำพูดของเด็กชายคนนั้น
“หน็อย..ทำไมเจ้าไม่หลบละ เเค่สามัญชนยังมามองหน้าอีกเเล้ว เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้าคือใคร”มีเด็กชายที่ทำท่าทางอวดเบ่งและมองด้วยสายตาที่หยามเหยียด
“เเล้วจะรู้กับเเกเรอะ เเกต่างหากที่ต้องขอโทษพวกเรา”
“ข้าคือองค์ชายคิม บาบาเนียร์ลำดับที่สามเเห่งอาณาจักรบาบาเนียร์ เจ้าต่างหากที่ควรมาขอโทษเรา ก็เเค่สามัญชนกระจอกๆเเบบนี้ ข้าจะสั่งให้องครักษ์ของเราสังหารเจ้าซะ ไรดีน สังหารนางซะ
“น้อมรับคำสั่ง จะจัดการให้ขอรับ นายน้อย
“ใครมันจะกลัวเเกฟะ ไอ้เบื้อกนี้นะเหรอ
“เฮ้อออ เอาที่สบายใจเลย ได้นิสัยเจ้านั้นชัดๆ” เมอรินได้นึกถึงราชามังหนุ่มที่เป็นสหายของตนเป็นอย่างมาก
“ข้าวิงวอนต่อเทพเจ้าดาบ ด...ดาบ”เขายังไม่ทันร่ายเวทยังไม่ทันจบดี แต่โดนโจมตีโดยที่ไม่ทันตัั้งตัว
ผัวะ!! เสียงที่ดังขึ้นด้วยกำปั้นที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีนิลที่ปะทะเข้าใบหน้าขององค์รักษ์ขององค์ชายคิมอย่างเต็มเเรง ทำให้ผู้คนเเถวนั้นเเตกตื่นเป็นอย่างมาก เปลวเพลิงสีนิลที่ไม่มีใครเห็นมานานหลังมหาสงครามเเห่งการกลืนกินเมื่อนานมาเเล้วซึ่งเป็นเวทของราชามังกรเเห่งจุดจบ เเต่สิ่งที่องค์ชายคิมเห็นนั้นคือเงาของมังกรสีดำช่างดูน่าเกรงขามดูดุดัน เหมือนพร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งให้มลายสิ้นที่เเเผ่ออร่ามาจากร่างเด็กสาวเเละความน่ากลัวนี้ได้ฝังลงไปในจิตใจของชายคิมอย่างถึงที่สุด
“เอือกกกกก”ไรดีนได้หมดสติลงไปนอนกองกับพื้นด้วยหมัดของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
“มัวเเต่ร่ายนั้นเเหละ ช้าเป็นบ้า ไม่ต้องชักดาบของพ่อมาให้เสียคมหรอก ไอ้จ๊าดง่าว”
“ไรดิน ป...เป็นไงบ้าง ย... อย่าเข้ามานะอย่า ร….ไรดินตื่นขึ้นมาสิวะ”เขาพูดด้วยความร้อนรนและหวาดกลัวที่มีต่ซินเทียร์
“ไอ้ความเก่งเมื่อกี้ มันหายไปไหนเเล้วละ ไอ้องค์ชายเด็กน้อย” ซินเทียร์ได้มองด้วยสายตาที่น่าสมเพชต่อองชายคิม
“ค..ใครกลัวเเกฟะ เวทเพลิงอสรพิษสีชาดเเกจงหมอดไหม้ไปซะ ฮ่าๆๆๆเเกมันก็เเค่สามัญชน”องค์ชายได้ใช้เวทด้วความมั่นใจ และไม่สนใจผู้คนที่อยู่แถวนั้นเลยแม้แต่น้อย
“เเหวะ!! เป็นไฟที่มีรสชาติที่ห่วยมาก เเน่ใจนว่าโจมตีเต็มกำลังเเล้วเหรอนั้น ช่างอ่อนเเอจริงๆ”เวทเพลิงขององชาขยคิมกับไร้ผลต่อซินเทียร์ในตอนนี้ซินเทียร์ได้ดูดเอาไฟทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีใครโดนลูกหลงจากการใช้เวทอย่างไม่ระวัง
“เเกมันปีศาจ ข้าไม่เคยเห็นเวทที่กลืนกินเวทเเบบนี้มาก่อน”องค์เขาไม่เคยเห็นเวทชนิดนี้มาก่อน เพราะเวทที่ซินเทียร์ใช้เป็นเวทมนต์โบราณ ที่หายากมาก จนกลายเป็นตำนาน
“เเกจะไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกหรอกเพราะที่ฉันใช่คือเวทดราก้อนสเลเยอร์ยังไงละ”ซินเทียร์ยิ้มด้วยความภูมิใจที่พ่อผู้เป็นมังกรสอนให้เป็นอย่างดี
“:เป็นไปไม่ได้เวทมนต์นี้ไม่มีอยู่จริงนี้อย่ามาหลอกข้าให้ยาก”เขาพูดขึ้นมาเพื่อกลบเกลือนความกลัวที่มีต่อซินเทียร์
“ไอ้นีมันคือเวทดราก้อนสเลเยอร์เเน่นอน เป็นเวทที่ไม่ต้องร่ายเเต่อนุภาพเกินคำบรรยาย”และไรดีนได้สติขึ้นมา เขาได้ทำการยืนยันว่าเวทมนต์ที่เด็กสาวใช้นั้นเป็นเวทดราก้อนสเลเยอร์ของเเท้แน่นอน
หลังจากนั้นทั้งสองได้หนีไปอย่างน่าอับอายเเละหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เเละตอนนี้เเต่ตอนนี้มีสายตาคู่เเอบจ้องมองมาจากที่เเห่งหนึ่งเขาเป็นใครเเล้วเป็นใครกัน ต่อมาเหตุการณ์ก็คลีคลายลง เเละซินทียร์ก็ได้ไปพักผ่อนที่หอรับรองของผู้เข้าสอบ เพื่อพักผ่อนด้วยความอ่อนล้าจากการเดินทางเเละตอนซินเทียร์ก็ได้หลับไหลลงไป
ซินเทียร์ที่กำลังพักผ่อนด้วยความเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไปทั้งสภาพที่ยังไม่ได้อาบน้ำยังต้องมาเจอปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆนานา เเละทันใดนั้นซินได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง เเต่สิ่งที่เเปลกก็คือความรู้สึกนั้นมันช่างอบอุ่นเหลือเกินเเละเต็มเปี่ยมไปความห่วงใยที่มากมาย เเละน้ำเสียงที่อ่อนโยนราวกับปุยนุ่นที่ชวนให้คิดถึงคนึงหาเเละเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็พบว่าที่เเก้มของเธออาบไปด้วยคราบน้ำที่เปรอะมากมาย เเต่ซินเทียร์ได้เเต่เก็บความสงสัยไว้ในใจอยู่อน่างนั้นเเต่ตอนนี้
ซินเทียร์ควรอาบน้ำได้เเล้วนะ
“รู้เเล้วย่ะ เเกก็ด้วยนะ ไอ้คนเขียนเดี๋ยวก็โดนอัดซะหรอก”
โปรดติดตามตอนต่อไป...
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านไปหลายวัน ในวันนี้การสอบก็ได้เริ่มขึ้นอย่างเข้มข้น เเละผู้คนทั่วทุกสารทิศต่างก็หวังเข้าโรงเรียนนี้เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ตอนนี้ซินเทียร์ได้เจอผู้คนมากมาย เเต่ทันใดนั้นมีคนมาทักทายซินเทียร์ เธอได้เพื่อนใหม่เเบบงงๆ ในวันสอบ เเต่ว่าเธอคนนี้เป็นใครกันนะเเละทั้งคู่ได้พูดคุยกันด้วยเป็นกันเอง
“สวัสดีนะ เรามีชื่อว่าเมย์ ซากุระเมย์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ แล้วเธอชื่ออะไรเหรอ”
“เช่นกันเรามีชื่อว่า ซินเทียร์ ดรากูลนิล เรียกซินเทียร์ก็พอ ” ซินเทียร์ตอบกลับตามมารยาท
เมย์:นี้...เธอก็มาสอบงั้นเหรอ ? แต่ว่านะยังหาที่พักไม่ได้เลย เฮ้อ” เมย์ทักท้ายและถอนหายใจ ในเรื่องที่หาพักไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“ ก็คงอย่างนั้นเเหละงั้นมาพักกับฉันเอามั้ย เอ่อว่าเเต่ เธอใช้เวทมนต์อะไรเหรออยากรู้”ซินเทียร์เสนอให้เมย์มาพักที่เดียวกันกับตัวเองซะเลย
“จะดีเหรอ อืม...เอางั้นก็ได้ดีกว่านอนข้างถนน เวทมนต์ของฉันเหรอ? ฉันเป็นผู้ใช้เวทอัญเชิญ เเล้วเธอละ” เมย์ตอบรับด้วความยินดีในการชวนของซินเทียร์
“ ฉันเหรอ เวทมนต์ของฉันคือดราก้อนสเลเยอร์” ซินเทียร์ตอบเมย์โดยทันที
“อืม….งั้นเหรอ? ว่าไงนะ !เวทมนตร์ในตำนานนั้นนะเหรอ”เมื่อเมย์ได้ยินคำตอบจากซินเทียร์ก็หมดสติโดยทันที
“ตื่นก่อนนะเมย์ เดี๋ยวจะสอบสอบเเล้วนะ เป็นแบบนี้ตลอดเลยตั้งแต่เด็กๆ เอ่อ.. ต้องขอโทษด้วยนะซินเทียร์ ช่วยแบกเด็กคนนี้หน่อยสิ”เบลที่ซุกอยู่ชายชุดกิโมโนของเมย์ ออกมาปลุกเมย์เพื่อไปสอบ
“ไม่เป็นไรหรอก เเต่เดี๋ยวฉันช่วยเเบกไปเเล้วกันนะ อึ๊บ” ซินเทียร์ทำการแบกเมย์ไปสอบโดยที่มีเบลบินตามไป
“ขอบใจนะซินเทียร์ ที่จริงก็อยากออกมาคุยด้วยเเต่ตอนนั้นเราง่วง” เบลก็บ่นไปตลอดทาง
“ไม่เป็นไร เเต่ว่าอะไรกันนักกันหนานะอย่างกับว่าจะย้ายบ้านแนะ”ซินเทียร์แอบบ่นให้กับเมย์โดยที่เมย์ไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น
“ก็มันเป็นเรื่องปกติของเรื่องผู้อัญเชิญละนะแฮะๆ” เบลถึงกับหัวเราะแห้งขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนในเรื่องความโก๊ะของเมย์
หลังจากที่เมย์ได้ยินชื่อเวทมนตร์ที่ซินเทียร์เอ่ยออกมาจนทำให้เมย์เป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น ด้วยความตะลึงจนต้องเป็นภาระของซินเทียร์ เเละวุ่นวายคนเเถวนั้นกันไปหมด ทันใดนั้นผู้คุมสอบได้ประกาศด้วยที่ดังออกจากเครื่องขยายเสียงเวทมนตร์เสียงที่ดังกังวานออกมา
“การสอบรอบเเรกได้เริ่มขึ้นเเล้ว ขอให้ทุกคนไปรวมตัวที่ลานรูปปั้นราชาอาเธอร์โดยด่วนใครไปช้าถือว่าสละสิทธิ์ไปโดยทันที ไม่มีข้อแม้” ผู้คุมสอบได้ประกาศการสอบรอบแรก
เมื่อสิ้นเสียงผู้คุมสอบที่ประกาศออกไป แต่ตอนนี้ผู้คนต่างก็มุ่งหน้าไปที่ลานที่ลานรูปปั้นเเต่ตอนนี้ซินเทียร์ก็ยังคงต้องเเบกเมย์ออกไปด้วยความทุลักทุเล เเถมยังต้องเเบกทั้งเมย์เเละอุปกรณ์เวทย์ต่างๆของเมย์ เเต่ในที่สุดก็ไปถึงสนามสอบเเบบทันเเบบหวุดหวิดเเละซินเทียรก็ได้บ่นออกมา
“หนักเป็นบ้าเลย ขนอะไรกันนักกันหนาของเธอกันเเน่เนี่ย”
“ได้ประกาศรูปเเบบการสอบว่าอะไรบ้าง”
“ถึงเเล้วเหรอ เฮ้อ ตกใจหมดเลยคงเเค่ฝันไปละมั้งเนาะ ฮะๆ”เมย์ที่พึ่งได้สติขึ้นมา
“ไม่ได้ฝันหรอกเธอตกใจกับเรื่องนี้จริงๆ แหละ”
“ขอประกาศการสอบรอบเเรกโจทย์รอบเเรกโจทย์ของเรามีอยูว่าให้ทุกท่านหยิบไม้กวาดหรือใครลอยตัวได้ก็ใช่ได้เลยตามสบาย”ผู้คุมสอบประกาศการสอบรอบที่สองโดยทันที
“ง่ายสุดยอด ดีนะที่พ่อสอนเราไว้นะ”ซินเที่แอบยิ้ม อย่างสบายใจ แล้วนึกถึงสิ่งราชามังกรสอนให้ตัวเธอ
“ปีนี้การสอบมีเด็กน่าสนมากเเฮะ โดยเฉพาะเด็กที่มีชื่อว่าซินเทียร์”สายตาผู้คุมสอบได้เห็นซินเทียร์แล้วถูกใจเป็นอย่างมาก
“ออกมาซะ ชิรินจัง เด็กดีนะ เด็กดี”
เมื่อการสอบก็ได้เริ่มรอบเเรกก็ได้สิ้นสุดลงไป ผู้คุมสอบได้ประกาศผลการสอบให้เเก่ผู้ที่ผ่านรอบเเรก เเละการสอบของเมย์เเละซินเทียร์ก็ผ่านทั้งสองต่างก็ดีใจ เเละการสอบรอบที่สองก็ได้ประกาศขึ้นมาโดยทันที โจทย์ที่ทุกคนได้เจอ คือการให้ไปเอาเเอปเปิ้ลเเห่งป่าเทอร่าเป็นเเอปเปิ้ลที่หวานเกินเกินคำบรรยาย มีสรรพคุณที่ช่วยให้ผิวหนังที่เหี่ยวย่นให้กับมาเต่งตึงอีกครั้ง ซึ่งเป็นที่นิยมมาใช้เป็นเครื่องสำอางให้เเก่สุภาพสตรีเเละชนชั้นสูงทั้งหลาย
“โจทย์รอบในการสอบให้ไปตามหาเเอปเปิ้ลในป่าเทอร่ามาซะจงนำมาเพียงคนละเพียงคนละหนึ่งลูก เเละการสอบจะเริ่มพรุ่งนี้เช้า”ผู้คุมสอบประกาศการสอบรอบต่อไป เพื่อให้ผู้เข้าสอบเตรียมตัวสอบรอบต่อไป
“เข้าทางเลยสบายเลย เเถมเป็นป่าของคุณปู่เทอร่า” ซินเทียร์แอบยิ้มแบบมีเลศนัย
“พูดอะไรของเธออยู่เหรอ ซินเทียร์” เมย์ถามด้วยความสงสัย
“เธออยากสอบผ่านมั้ย” ซินเทียร์ถามกลับ
“ก็อยากนะ ว่าเเต่ต้องทำไงเหรอ” เธอก็ยังส่งสัยอยู่สินะ ก็ยังสงสัยอยู่ดีสินะ
“พรุ่งนี้ก็ต้องตามฉันไว้ เเล้วกัน”
“อืมได้เลยฉันจะตามเธอไม่ห่างเลย”
หลังจากการสอบรอบเเรกนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น เมย์เเละซินเทียร์ได้คุยอย่างสนิทสนม เเละตอนนี้ทั้งสองได้ชวนกันไปพักที่ห้องด้วยกัน เเต่ตอนนี้ทั้งสองได้อยู่ในห้องน้ำที่เเสนสะดวกสบาย เเละทั้งสองต่างก็ขัดหลังให้กันเเละกันอย่างสบายใจ เเละเวลาต่อมาทั้งสองได้พักผ่อนเเละหลับไปด้วยความอ่อนล้าจากการสอบรอบเเรก เพื่อเก็บเเรงไปสอบในวันต่อไป ในขณะที่ซินเทียร์หลับก็ยังฝันเหมือนเดิมในความฝันก็ยังเห็นผู้หญิงคนเดิม แต่ในความฝันครั้งนี้มันกลับชัดขึ้นกว่าเก่าเดิม ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับปุยนุ่น เเต่มันกลับชวนให้คิดถึงอย่างน่าประหลาดอย่างกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อนเเละสนิทกันมานาน เเต่เมื่อซินเทียร์ได้ตื่นขึ้นมาก็พบว่าที่เเก้มมีคราบน้ำตาเต็มสองเเก้ม
“คาเนเรีย คาเนเรีย” เสียงปริศนาที่เรียกเธออยู่ในความฝัน
“ใครกันที่เป็นคนเรียกฉัน ใครกัน เฮือก” ถึงสะดุ้งตื่นเลยสินะซินเทียร์
“ซินเทียร์มีไรเหรอ งืมๆ” เมย์ที่ตื่นมาในสภาพงัวเงีย
“ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อไปเถอะ”
“ขอกอดหน่อยสิ ซินเทียร์ งืม…..ครอก...ฟี้…”
“นอนสบายเลยนะ เเต่เราต้องนอนต่อเเล้วละ”
หลังจากนั้นทั้งสองก็ได้หลับไปทั้งสองได้หลับทั้งๆอยู่ในสภาพกอดกันกลมโดยที่ซินเทียร์ไม่ขัดขืนเเม้เเต่น้อย เเละตอนนี้ซินเทียร์ก็เก็บเเรงเพื่อการสอบในรอบที่สองโดยที่เมย์ยังกอดอยู่นั้เลย
เช้าวันต่อมา
การสอบรอที่สองได้เริ่มขึ้นก็ได้เริ่มขึ้น เเละผู้คนที่ผ่านรอบสองได้รวมตัวที่ป่าเทอร่า ต่างก็รอย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอสัญญาณในการเริ่มสอบจากผู้คุมสอบ
“ข้าคือผู้คุมสอบรอบที่สองมีนามว่าทัตสึยะ เเละของการสอบรอบนี้ให้ทุกท่านไปเอาเเอปเปิ้ลในป่านี้มา จงอย่าได้ใช้เวทมนต์เป็นอันขาดเวลาที่มีให้ คือก่อนพระอาทิตย์ตกถ้ามาไม่ทันปีหน้าสอบใหม่ เเต่สามารถใช้อาวุธได้เเต่ห้ามทำให้ผู้ถึงเเก่ชีวิตเป็นอันขาด เเต่ทุกท่านสามารถใช้เส้นทางไหนก็ได้ตามสบายเป้าของการสอบรอบนี้คือ ความอดทน รอบเรกเป็นการทดสอบเรื่องเวทพื้นฐาน การสอบเริ่มขึ้นได้”
“เข้าทางเลย สบายสุดๆ”
“อย่าทิ้งฉันสิ ซินเทียร์”
“รีบตามาสิ” ซินเทียร์ตะโกนเรียกเมย์ให้ตามมา
“รอด้วยสิซินเทียร์”
หลังจากสิ้นเสียงสัญญาณทุกคนต่างจะวิ่งเข้าป่าการสอบก็เริ่มขึ้นอย่างดุเดือด โดยที่ผู้เข้าสอบท่านอื่นไม่รู้ว่าเมย์กับซินเทียร์ไปอีกทางของผู้เข้าสอบคนอื่น ระหว่างการสอบ บางคนก็โดนมอนสเตอร์ทำร้าย บางคนก็หลง เเต่บางคนก็พยายามไปให้ถึง เพราะป่าเเห่งเป็นของราชามังกรเเห่งผืนดินเทอร่า ดราก้อน
ตัดมาทางเมย์เเละซินเทียร์
“นี้ :ซินเทียร์ เรามาถูกเเน่นะ”
“ไม่หลงเเน่นอนนะซินเทียร์” เมย์สงสัยในการนำทาง
“เเน่นอนรับรองไม่มีหลง นี้ไงประตูมิติไม่มีหลงเเน่นอน”
“ไม่ผิดกฎเหรอซินเทียร์”
“ไม่ไหรอกผู้คุมสอบเขาไม่ได้บอกว่าห้ามใช้ดวงนี่เนาะ”เธอตอบตอบด้วยความกวน
“นั้นสินะ ไม่มีทางเลือกแล้วละ”
หลังจากที่ทั้งสองได้พูดกันเสร็จเเล้วได้เขาไปที่ประตูมิติ เเล้วทั้งสองก็ได้พบกับชายชราอยู่ในชุดขาวที่กำลังนั่งสมาธิอยู่อย่างสงบ เเต่มีเสียงหนึ่งที่ทำให้ชายชราออกจากสมาธิได้ เเต่ตอนนีเขาก็ได้ลืมตาขึ้นเขาได้เอ่ยคำพูดขึ้นมาว่า
“คุณปู่ สบายดีมั้ยคะ”
“ซินเทียร์เหรอลูก ใช่จริงๆด้วยซินเทียร์หรอกเรอะ”
“เขาเป็นใครกันเหรอซินเทียร์”
“:อ้อ...เขาคือเจ้าของป่านี้เเหละ คูณปู่เทอร่าดราก้อน ราชามังกรเเห่งผืนดิน”
“เอิ่ม...ไม่อยากจะเชื่อว่าจะรู้จักกับราชามังกร”
“ว่าไงจ๊ะ ซินเทียร์มีอะไรให้ช่วย จะว่าไปโตขึ้นเยอะเลยทำเอาคุณปู่เอาตกใจเลยนะเนี่ย”
“เรื่องนั้นช่างมันก่อนนะปู่ คือว่า...หนูมาเอาเเอปเปิ้ลไปสักลูกสองลูกได้มั้ยคะปู่”
“เอาไปสิอยากได้เท่าไหรก็เอาไปเลยตามสบาย”
ตัดมาทางผู้เข้าสอบคนอื่นที่เจอเเต่อุปสรรคต่างๆบางคนก็ถอดใจไปบ้างเเละบางคนก็ไปต้นเเอปเปิ้ลเเเเห่งเทอร่า แต่ตอนนี้เมย์กับซินเทียร์ก็ได้ล่ำลาเทอร่าดราก้อนทั้งสองได้ลงไปพร้อมกับเเอปเปิ้ลจนผู้เมื่อคุมสอบได้เห้นทั้งสองลงมาเเถมในมือทั้งสองมีเเอปเปิ้ลลงมาด้วย เพราะว่าไม่เคยมีใครเอาเเอปเปิ้ลมาไวขนาดนี้มาก่อน
“นี้ทำได้ยังไงเนี่ย”ผู้คุมสอบถามด้วยความสงสัย
“ดวงไงคะ ดวงไงก็โชคดีไงคะใช่มั้ยเมย์”
“ช..ใช่คะ พวกเราโชคดีเท่านั้นเอง”
“เเน่ใจนะ ว่าไม่ได้โกง ก็ไม่ได้บอกนิเนาะว่าไม่ให้ใช้โชค คงจะโชคดีที่ไปเจอประตูมิติเอา”
“ตามนั้นเเหละคะ”
ตัดมาตอนเย็น
ตอนนี้จำนวนผู้เข้าสอบลดลงไปเหลือเพียงเเค่หนึ่งร้อยคนจากห้าร้อยคน เเต่ตอนนี้ผู้คุมสอบได้ประกาศโจทย์ของการสอบรอบสามให้เเก่ผู้ที่ผ่านการสอบรอบที่เตรียมตัวไปสอบรอบรอบต่อไป
“การสอบรอบต่อไป เป็นการสอบรอบต่อไปเป็นสอบด้วยการต่อสู้เพื่อเลือกห้องเรียนส่วนคนที่เเพ้ก้จะได้ไปอยู่ห้องสองผู้ที่ชนะก็ได้ไปอยู่ที่หนึ่งเเละวันนี้ก้ไปพักได้พรุ่งต้องสอบเป็นรอบสุดท้าย”
“ดีนะที่ยอมเชื่อซินเทียร์ไม่งั้นสอบตกเเน่นอน”
“กลับกันเถอะเมย์ป่ะ”
“อืม ไปกันเถอะ”
หลังจากนั้นทั้งสองได้พักผ่อนเเละกำลังอาบน้ำอยู่ในหอพักรับรอง เเละทั้งสองได้ขัดผิวให้กันเเละกัน ส่วนเมย์ที่กำลังขัดผิวให้ซินเทียร์ถึงเเม้ผิวของซินเทียร์ถึงจะคล่ำเเต่มันมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น
“ผิวของเธอสวยดีนะ”
“ผิวเธอก็สวยดี”
หลังจากนั้นทั้งสองได้ไปพักผ่อนเพื่อเก็บเเรงไปสอบในวันพรุ่งนี้ เเต่เมื่อซินเทียรืก็ได้หลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการสอบ เเละทันใดนั้นซินเทียร์ก็ได้ฝันเห็นผู้หญิงคนเดิมเเต่คราวนี้เริ่มเห็นใบหน้าถึงเเม้มันจะไม่ชัด เเต่มันก็เป็นใบหน้าที่รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
“คาเนเรีย มาทางนี้สิ”
“ฉันไม่ได้ชื่อคาเนเรีย”
เช้าวันต่อมา
ณ สนามสอบ
ซินเทียร์ได้ตื่นขึ้นมาก็ได้เห็นว่าเมย์ได้กอดซินเทียร์อย่างเเนบเเน่น เเละหลังจากนั้นทั้งสองได้ตื่นไปไปสอบรอบสุด เเละการสอบก็ได้ไปยังสนามสอบรอบสุดท้ายเป็นการทดสอบด้วยการต่อสู้เพื่อให้รู้ว่าเเต่ละคนว่ามีความสามารถเเบบไหนกันบาง เเละตอนนี้ซินเทียร์เป็นคู่เเรกของสังเวียนนี้ เเต่ตอนนี้ซินเทียร์ก็โดนดูถูกตั้งเเต่เริ่มต้นด้วยถ้อยคำต่างๆนานาเเต่ซินเทียร์ก็ไม่ได้สนใจเเม้เเต่น้อย
ผู้คุมสอบ:รอบเเรกคู่ที่หนึ่งบุตรสาวเเห่งราชาเเห่งทิศอุดร มีอา เเห่งรามิทิสส่วนอีกคนบุตรสาวเเห่งราชามังกรเเห่งจุดจบผู้ร่วมมหาสงครามเเห่งการกลืนกินซินเทียร์ ดรากูนิลคู่เรกขึ้นเวทีได้
ผู้คนในสนาม:มีบุตรสาวเเห่งมังกรด้วยละเเก นั้นสิผิวดำจังเลยนะเเก เเต่หล่อนก็ดูน่ารักดี บลาๆ
“อย่างขอเเค่สามนาทีเเค่นี้พอด้วยเกียรติเเห่งองค์หญิงจะโค่นเเก่เเกภายในสามนาทีเเกมันก็เเค่สามัญชนก็กระจอกอยู่ดีนั้นเเหละ”
“ครอก….ฟี้...ครอก...ฟี้”
“เเกกล้าดีได้ยังไงหลับใส่ฉันเนี่ยนะ”
“อ่ะ พล่ามจบเเล้วเหรอ ใครมันจะมาฟังเรื่องที่เธอพล่ามกันละนั้น”
“หน็อย…..เเกกล้าดูถูกคนเเบบฉัน ไอซ์สเปียร์”
“ทำได้ดี ดอกบัวสีดำย้อนกลับ”
“นี้มันบ้าอะไรกันเนี่ย!! ดีนะที่หลบได้เเต่ว่านั้นมันคือเวทปราบมังกรของเเน่นอนดาบดาบน้ำเเข็งไอซ์เซเบอร์”
“งั้นก็เอาด้วยสิ ดาบของฉัน”
เคร้ง!!
เสียงดาบที่ฟาดปะทะกันเเละพลังเวทที่ปล่อยออกมาด้วยจิตสังหารที่มีทั้งหมด หลังจากนั้นซินเทียร์ก็ได้เอาชนะด้วยพลังเวทกับฝีดาบที่เหนือชั้นกว่า ส่วนมีอาก็ได้พ่ายเเพ้ลงไป
เเต่รอบต่อไปในการสอบคือเมย์เเละคู่ต่อสู้ของเมย์คือองค์ชายคิม โจทย์เก่าของซินเทียร์เเต่ตอนนี้ต้องเจอกับเมย์ผู้ใช้เวทอัญเชิญ เเละตอนนี้ผู้คุมสอบได้ให้สัญญาญในการต่อสู้รอบต่อไป
'รอบนี้ เป็นการต่อสู้ของซากุระ เมย์ บุตรสาวจอมเวทเเห่งทิศปัจจิม เเละเป็นผู้ใช้เวทอัญเชิญที่เเข็งเเกร่งที่สุด ส่วนอีกคนผู้ใช้เปลวเพลิงสีชาดองค์ชายคิมเเห่งบาบา เนียร์ในรอบใครกันจะเป็นผู้กำชัยไปกันนะ เริ่มได้"
“ ก็เเค่สามัญชนเเกมันก็กระจอกอยู่ดี งั้นเริ่มละนะ
“ก็มาสิคะ น่ารำคาญคะ”เมย์เริ่มรำคาญเป็นอย่างมาก
“เวทเพลิงอสรพิษสีชาด”
“ราชาสไลม์ริมุรุ โหมดเบเซบิวต์” อัญเชิญราชาสไลม์ออกมากัน
“ไอ้นี้มันคือ สไลมที่หายากที่สุดนี้หว่า”
“อย่าพึ่งตกใจไปสิคะ อย่าเก่งเเค่ปากสิคะ”
“คงต้องใช้เจ้านั้นเเล้วละ มหาเวทเพลิงลูกศรเเห่งอะพอล ลูกศรเอยจงทะลุทะลวงทุกทุกอย่างให้สิ้นซาก”
“ทางนี้ก็ไม่เกรงใจเเเล้วนะเจ้าคะ จงออกตามคำขานของเรามหาภูติลมเบลล่าผู้ท่องนภาเเละภูติเพลิงอเวจีอีฟรีทประสานเวทย์ศรอเวจีสายลมรณา”
“แหม่ เมย์เล่นของเเรงนะเมย์”เบลที่ถูกเรียกออกมา
“นั้นสินะ คุณหนูคนเเบบคุณหนูไม่ควรใช้เวทเเรงๆเเบบนี้เปลื่องมานา”
“ให้เกียรติคู่ต่อสู่ เท่านั้นแหละ”
“นั้นสินะปล่อยศรได้” ทั้งสองก็ที่มีความรุนแรงจนเกินคำบรรยายจนเวทีพังราบเป็นหน้ากอง
เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลงฝ่ายที่ชนะก็คือเมย์ผู้ใช้เวทอัญเชิญเเห่งทิศปัจจิมส่วนองค์ชายคิมก็อยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสจนหน่วยพยาบาลก็ลากลงจากเวทีเพื่อไปรักษาตัว
เเละปีนี้ผู้ที่ได้อยู่ห้อง A มีจำนวนทั้งหมดห้าสิบคนรวมไปถึงซินเทียร์ ส่วนผู้ที่เเพ้ให้ไปอยู่ห้องB เเต่ตอนนี้ทุกคนไปรวมตัวที่ห้องโถงเเห่งการคัดสรรเพื่อเฉลิมฉลอง เเละจะต้องคัดสรรบ้านเพื่อเป็นที่พักเหมาะสมเเละคำทำนายที่เกี่ยวกับผู้เข้าสอบทั้งหมด
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!