ณ.ห้องแห่งหนึ่งเป็นเหมือนห้องทำงานที่พหนังมีรูปออกแบบรถยนต์ เครื่องรถยนต์ โครงสร้างต่างๆ รวมถึงรูปออกแบบเครื่องยนต์ของเครื่องบินตัดลงที่โต๊ะทำงานได้มีรายงานที่เขียนชื่อโครงการว่าชุบชีวิตสัตว์แห่งนภาและได้มีภาพวาดที่ออกมาจากรายงานเป็นโครงซ่อมเครื่องบินโบราณมีแล้วใต้กระดาษได้เขียนว่า my dream แล้วก็เกิดเสียงพูดขึ้น
บ้าเอย…เล่มรายงงานอยู่ไหนเนี้ย
มีเสียงคนทีกำลังรีบร้อนกำลังเดินเข้ามาและได้ทำการเปิดประตูห้องทำงานอย่างรีบร้อน
อยู่นี้ๆเองเล่มรายงาน
แล้วเข้าก็ได้ยิบเล่มรายงานใส่กระเป๋าสะพายแล้วเขาก็ได้ตรวจดูของในกระเป๋าว่าได้ลืมรึเปล่าอย่างรีบร้อนแล้วเขาทำการตรวจสอบระว่างได้เดินออกนอกห้องในเวลาเดียวกันแล้วเขาได้ก็เดินไปอยู่ที่หน้าประตูแล้วเขาตรวจเสร็จในระเดินไปหน้าประตูทางออกจากบ้านแล้วได้ออกจากบ้านพร้อมล็อคประตูหน้าบ้านแล้วก็ไปขึ้นรถของเขาเพื่อที่จะไปทำงาน เขาได้ยกแขนซ้ายขึ้นมาเพื่อมาดูเวลา
แย่ล่ะสายแล้วนี้มันสายมาก กำลังที่จะเกินเวลาประชุมกับพิพิธภัณฑ์ที่มาจ้างงานกับบริษัทเรานี้ว่าตอนนี้ 8:12 น. เริ่มประชุมตอน 8:20 น.
เขาได้วางกระเป๋าไปไว้ที่เบาะรถทางขวามือแล้วออกรถกระบะไปทำงานน
[ ในระหว่างทางที่เขากำลังไปทำงาน ]
เสียงโทรศัพดังขึ้นมาเป็นเพลง seven Nation Army version :Battlefield1
เขาขวานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าที่ว่าางไว้ที่เบาะขวามือแล้วเขาขวานหาไม่เจอ เขาจึงได้หันหน้าไปดูกระเป๋าเขาสักพักในระหว่างขับรถในทันใดนั้นเขาได้ขับรถไปชนกับรถขันข้างหน้าอย่างจังในขณะที่เขากำลังตื่นตระหนก เขาได้เสียงเหมือนน้ำไหลออกมาอย่างรวดเร็วน้ำนั้นได้ตกลงมาที่กระโปรงหน้ารถของเขามันสีเหลืองมีกลิ่นเหม็นเหมือนน้ำมัน เขาคิดว่ารถชนด้วยคงไม่ใช้รถขนส่งน้ำมันหลังจากได้มองมอง
บ้าเอย..พอจะเกิดเรื่องแย่ๆที่มันก็เกิดขึ้นพลัวดเดียวเลย..บ้าเอย..
เขาได้พยายามเปิดประตูทางฝังเขาเพื่อออกจากรถแต่จากที่เขาได้ชนรถขนส่งน้ำมันอย่างจังมันทำให้โครงสร้างรถย์ของได้รับความเสียหายโดยการที่โครงสร้างรถได้ปีปตัวรถทำให้มันแน่นขึ้นเลยเปิดประตูไม่ไออก
บ้าเอยเปิดไม่ออก ทางขวาก็เปิดไม่ออกบ้าเอยรู้งี้ซื้อรถเก๋งมาใช้ ดีกว่า!!!
แล้วเขาก็ได้หันไปดูกระจกหลังของรถตัวเองใช้แล้วกระจกรถย์เขาจึงพยายามที่จะหาของในรถยนต์ของเขาที่จะมาทำลายกระจกหลังในระหว่างที่กำลังหาของเขาได้ยินเสียงเหมื่อนไฟจะเริ่มลุกจากฝากระโปรงหน้ารถไฟเริ่มลามตามน้ำมันที่ลนออกมาและเริ่มที่จะไหลไปทีตัวรถขนน้ำมัน
บ้าเอย บ้าเอย บ้าเอย วันนี้มันวันเฮงสวยชัดๆเลยวันแย่ๆ บ้าจริง
ในทันใดนั้นคนที่ขับรถขนส่งน้ำได้ลงมาพร้อมกลับถังดับเพลิงแล้วรีบลงทำการดับไฟแต่ยิ่งดับยังไงก็ดับไม่ทันชายคนนั้นได้หันมาพูด
ผมขอโทษผมคงไม่สามารถช่วยคุณได้แล้วล่ะ ผมขอโทษจริงๆ
แล้วเขาก็รีบวิ่งหนีออกห่างจากจุดที่เกิดอุบติเหตุ
บ้าจริง แม่งเอ้ย…….เหอ….คงไม่รอดไหนๆก็จะถึงแก่กรรมแล้วดูรายงานดีกว่า
เหอออออ เสียด้ายจริงอุสาได้งานดีๆ แล้วงานที่จะทำให้เราได้ไปลองซ่อมเครื่องบินโบราณ
เขาได้เปิดไปที่ล่ะหน้าว่าได้ว่าเครื่องบินแต่ล่ะลำที่จะต้องซ่อมมีลำไหนที่โดดเด่นบาง
อ่านี้ไงที่ฉันสนใจเครื่องบินของ เรด บารอน เสียดายจริงๆ เขียนไดอารี่สั่งเสียหน่อยดีกว่า
“สวัสดีสำหรับคนที่มาอ่านในหน้านี้ผมกำลังเขียนอยูาในรถที่เปิดไม่ออกผมว่าวันที่ท้องฟ้าสดใสผม เออผมชื่ออีริก ม็าก ผมทำงานให้กับบริษัท IRON เป็นบริษัทที่ผลิตรถยนต์และตอนนี้ผมกำลังไปทำงานสายและผมกำลังประสบพบเจอกับอุบัติที่กำลังเสียชีวิต ถ้าผมไม่รอดฝากเอาไดอารี่นี้ไปให้พ่อกับแม่ฉันด้วยบอกกับพวกเขาว่าผมรักพวกท่านเสมอถึงแม้ว่าปีที่แล้วที่ฉลองงานปีใหม่กันผมไม่ได้ไปหาพวกท่านตั้งแต่นั้นก็ตามผมรักพวกท่านเสมอ ส่วนเจอน้องอย่างเจขอบให้ตั้งใจเรียนแล้วไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ล่ะอย่าทำให้พ่อแม่ต้องเสียใจ
พี่ขอโทษพี่เสีย ลาก่อน”
แล้วเขาก็ได้เอาไดอารี่ไปซ่อนในพื้นที่ที่จะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
“เสียงโทรศัพสายเข้าอีกครั้ง”
อีริกได้โยกตัวและเอือมมือขวาไปจับโทรศัพที่กโดยที่เขากำลังมองไฟที่กำลังลุกแรงขึ้นเลือยๆ
อีริก:ไงเอดว่าไงเพื่อน
เอด:ว่าไงบ้าอะไรล่ะอีริกนายอยู่ไหนเนียนายมีประชุมที่ต้องเขาน่ะรู้รึเปล่า
อีริก:ก็อยากไปอยู่หรอกแต่เกิดอุบัติเหตุว่ะ ฮ่าๆ
เอด:แล้วเป็นไงบ้าง
อีริก:เหอ….ตอนนี้ฉันออกจากรถไม่ได้แล้วไฟกำลังลุกถ่วนรถฉันอยู่
เอด:เห้ยรีบออกมาจากรถกระบะของนายเดียวนี้น่ะโว้ยเร็วๆเข้า ถุบกระจกแล้วออกมาส่ะเร็วลอย
อีริก:นายลืมไปแล้วหรอว่ากระจกที่นายพาฉันไปแต่งรถในตอนนั้นมันกำลังฆ่าฉันเนี้ย แล้วฉันพยายามแล้วบ้าเอยแต่งมานึกว่ามันจะช่วยฉันตอนเวลาเกิดอุบัติเหตุจะทำให้รอดแต่ไหนมันถึงกลับมาฆ่าฉันเองว่ะเนี้ย
เอด:ออกมาจากรถเวรนั้นส่ะเดียวนี้เลยออกมาได้แล้ว
อีริก:คงไปไม่ได้แล้วว่ะ….
เอด:เห้ย
ตู้ม
อิริก:อ็ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
.
.
.
.
.
อิริก:อ็ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
อิริกเขาเป็นคนวัยทำงานแท้ๆแต่เขาได้กลัวจนร้องลั่นจนกระทั้งเวลาได้ผ่านไปสักพัก เขาได้ลืมตามองดูตัวเขาเองว่าสำรวจร่างกาย แล้วเขาก็พบว่า
อิริก:ตัวเราไม่เป็นอะไรเลยนี้ว่า ทำไหมรอบตัวเรามันมืด มืดมากๆเลย มองอะไรไม่เห็นเลยนอกจากตัวเรา ไม่รู้สึกอะไรเลย เหมือนตัวเรากำลังลอยอยู่เลย
อิริกเขาในตอนนี้กำลังเวียงตัวเองไปมาในพื้นที่อ้างว่างอันมืดมิด ทันใดนั้นในเสียวพริบตาเดียวพื้นที่รอบทั้งหมดในรอบตัวอิริกได้เปลี่ยนเป็นสีขาว และแล้วตัวอีริกได้ร่วงลงมา
อิริก:เห้ย อะไรเนี้ย
ตุบ
อิริก:ไม่เจ็บเลย ทั้งๆที่พึงตกลงมานั้นเนีย
???:นี้เจ้าจิตรวิญญาณ
อิริกได้หันไปมองรอบๆเพื่อหาสิ่งที่ได้เรียกเขา
อิริก:เออ เห้ย!!! อะไรเนี้ย ( มันเป็นเหมือนก้อนกลมๆที่มันมีรังมีที่ไม่รัศวงกลมกว้างมากสักเท่าไหลเป็นเหมือนก้อนกลมๆเล็กที่มีสี ดำ และมีลักษณ์เหมือนระอองฝุ่นที่วนไปรอบตัวของมันเอง )
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:สวัสดีเจ้าจิตวิญญาณ เราคือส่วนหนึ่งจากแกนแท้เรา ตอนนี้กายเจ้าได้สูญสิ้นไปแล้วเหลือแต่เพียงของจิตรวิญญาณของตัวเจ้าเอง ในตอนนี้เจ้ากำลังอยู่ต่อหน้าข้าและข้าผู้ที่นี้มีหน้าที่เพียงนำจิตรวิญญาณของเจ้ามาอยู่ต่อหน้า คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ จะทำหน้าที่ตัดสินเจ้าเอง
อิริก:เออผมพูดไม่ออกเลย ผมกำลังตกใจจากที่ผมพึ่งตายมาเมื่อกี้ ขอผมทำใจแปปหนึ่ง
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ยิ่งเร็วยิ่งดีจิตน่ะวิญญาณ
.
.
.
.
.
อิริก:มาผมเตรียมใจแล้ว
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ดีงั้นข้าจะเริ่มอธิบายกระบวนการของจิตวิญญาณที่เจ้าจะต้องกระทำ เจ้าในตอนนี้เป็นเพียงแค่จิตรวิญญาณการที่เจ้าจะกลับไปมีชีวิตใหม่อีกเจ้าต้องผ่านการ ตอบรับจาก “คำบรรยัดแห่งแก่นแท้” เมือได้การตอบรับจากคำบรรณยัดแล้วมันจะนพาาจิตรวิญญาณของเจ้าไปยังสถานที่ ที่จิตรวิญญาณของเจ้าเหมาะสมกับที่นั้นๆ ถ้าเจ้าไม่ถูกตอบรับจากคำบรรณยัด คำบรรณยัดจะนำจิตรวิญญาณของเจ้าไปทำการย่อยสลาย
อยู่ดีๆ ก็มีแผ่นสลักหินขนาดใหญ่ขึ้นมาจากอยู่ด้านหลังเจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีสีดำ
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:ไม่ต้องตกใจไปเจ้ามนุษย์ด้านหลังข้าตอนนี้คือ “คำบรรยัดแห่งแก่นแท้” จงจำไว้เจ้ามนุษย์ตราบใดที่เจ้ามีจิตรวิญญาณที่มีค่ามากพอกับเจ้าจะกลับมามีชึวิต อีกรอบ ในเรื่อง..
อิริก:แล้วผมสามารถกลับไปที่โลกเดิมได้ไหม
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:โดยทางจิตรวิญญาณของเจ้าได้มาสู่เส้นทางแห่งการวงเวียนของจิตรวิญญาณมันก็มีโอกาศที่เจ้าจะสามารถกลับไปในที่เจ้าจากมาได้ แต่เจ้าจะไม่ได้ที่รับลองจิตรวิญญาณอันเก่าของเจ้าคืนเจ้าจะต้องไปอยู่ในที่รับลองทางจิตรวิญญาณอันใหม่แทน แต่ก็มีโอกาศน้อยอยู่น่ะที่จะได้กลับไปโลกเดิมของเจ้า เอาล่ะมาต่อกัน ในเรื่องของข้อกรรมหนดของ คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ นั้นสิหน้าข้าก็ไม่รู้
อ้าว นี้คุณไม่รู้หรอ
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:นั้นสิน่ะ เอาเป็นว่าถ้าเจ้าได้สำผัส คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ ถ้ามันเปล่งประกายขึ้นมาเจ้าผ่าน ถ้าไม่เปล่งประกายจิตรวิญญาณของเจ้าก็จะเข้าสู้การย่อยสลาย เอาล่ะเจ้าพร้อมรึยังเจ้าจิตวิญญาณถ้าเจ้าพร้อมจงมาสัมผัส คำบรรยัดแห่งแก่นแท้ ส่ะ
ในทันใดนั้นได้มีรังสีสีดำได้มารอมรอบตัวผมมันบังคับให้ผมไปจับก้อนหินบ้านั้น
อิริก:หยุดน่ะ ได้โปรดหยุด อยาบังคับฉันเลย เออๆยอมแล้วเดี่ยวจะไปจับเองเพราะฉะนั้น อย่าบังคับฉัน
อิริก:ในที่สิ้นสุดผมก็ได้ไปจับก้อนหินแห่งคำบรรยัดแห่งแก่นแท้ จนได้…….. มันได้เลื่องแสงสว่างออกมา มันต้องอย่างนี้อย่างน้อยๆ ก็ได้มีโอกกาศกลับไปใช้ชีวิต
ส่วนหนึ่งจากแกนแท้:อย่าพึงดีใจไปเจ้ามนุษย์ ถึงแม้เจ้าจะได้กลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งแต่ก็ใช้ว่าจะมีโอกาศมากพอที่จะได้ไปในที่เจ้าออกมาได้ ข้าข้ออวยพรข้อให้เจ้าโชคดี
ทันใดนั้น แผ่นสลักคำบรรยัดแห่งแก่นแท้ได้แยกออกเป็นสองส่วนระหว่างตรงกลางได้เปิดออกแล้วได้ดูดจิตรวิญญาณของอิริกเขาไป
หลังจากที่อีริกได้ถูกดูดเข้าไปในคำบรรณยัดแห่งแกนแท้มันได้พาอิริกมาสู่อีกที่หนึ่งมันไม่ต่างจากที่พึงเจอมาเมือสักครู่ มันเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นมีคุณลุงอ้วนๆนอนตะแคงดูทีวีอยู่พร้อมททั้งกินขนมไปด้วย หลังจากนั้นเขาได้ลุกขึ้นมานั้นแล้วหันมาทางอิริก
???:ไง เจ้าจิตรวิญญาณชีวิตเป็นมายังไง
อิริก:ก็ดีจนกระทั้งตายนี้และครับ แล้วคุณคือ
ผู้ดูแล:ฉันคือผู้ดูแลการไหลเวียนของจิตรวิญญาณในระบบดาวนี้ อืมยังหนุ่มยังแน่นมาตายเอา เหอะไม่หน้าตายเลยน่ะเธอเนี้ยน่าสงสารออกเอาเป็นว่าไม่ต้องคิดมากคิดในทงที่ดีเขาไว้ล่ะ
อิริก:ผมข้อถามตรงๆเลยน่ะนี้ใช้โลกเดิมผมรึเปล่า
ผู้ดูแล:ไม่ใช่หนอกน่ะเสียใจด้วย แต่โลกใบใหม่นี้ค่อนค้างเหมือนโลกของเธอยู่น่ะแต่มันจะมีสิ่งใหม่ๆอยู่เยอะแบบเยอะมากๆเลยล่ะเธออาจตกใจเล็กหลังจากฉันจะเริ่มอธิบายน่ะ
ในโลกแห่งนั้นสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่นั้นคล้ายคลึงกับโลกที่เธอได้ใช้ชีวิตอยู่และสภาพแวดล้อมส่วนใหญ่ในนั้นสามารถดำลงชีวิตได้แต่นั้นขึ้นอยู่กับสิ่งมีชิวิตน่ะและเมือสิ่งมีชีวิตในโลกได้เสียชีวิตลงไปจะกลายเป็นพลังจิตวิญญาณในชั้นบรรยกาศในโลกแห่งนั้นโดยพลังจิตวิญญาญนั้นสามาถนำมาใช้โดยรวบรวมเข้ามาในตัวหรือสิ่งนำวิญญาญและพลังนี้จะนำมาใช้กับความสามารถของแต่ล่ะบุคคล(skill)ต่อไปสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่สามารถใช้พลังจิตวิญญาญได้บางที่สิ่งมีชีวิตอาจจะมีบวงความคิดบางอย่างถึงแม้จะแต่ตายจิตวิญญาญจะยังไม่ออกจากร่างจนกลายเป็นอันเดดถ้าเจ้าจะตายก็อย่าได้มีติดค้างล่ะเออต่อเลยน่ะสิ่งสือนำจิตรวิญญาญสามารถเป็นสื่อนำได้ทั้งหมดยกเว้นสิ่งมีชีวิตที่มีจิตรวิญญาญ(สิ่งมีชีวตที่นึกคิดได้) เอาง่ายๆเลยมันเหมือนเทพนิยาย ตำนานหรือนิยายที่เจ้าเคยอ่านนั้น ข้าเริ่มขี้เกียจและมีอไรจะถามไหมอิริกเหนื่อยแล้วเนี้ย
อิริก:ผม เออ อึ่งเลยสำหรับแบบพูดไม่ออกเลยและผมไม่มีคำถามหรอกแล้วผมต้องทำอะไรต่อไปไหม
ผู้ดูแล:แน่นอนมีอยู่แล้วล่ะน่ะมันเหมือนกับการจับฉลากของชีวิตเลยล่ะน่ะงั้นเธอจะเริ่มจับเลยไหม
อิริก:งั้นก็เริ่มเลยก็ได้ครับ
อยู่ดีๆก็ได้มีม้อกำลังตกลงตรงหน้าของตาลุงแล้วตาลุงก็ได้ยื่นแขนทั้งสองข้างไปข้างหน้าเพื่อรับม้อ ตุบ
ผู้ดูแล:รับได้พอดีเลย นี้เธอคิดอะไรอยู่น่ะถึงแม้จะรูปลักษณ์ของฉันมันเหมือนลุงยังก็รูปลักษณ์ของฉันมันก็ไม่ได้แก้ขนาดนั้นฉันมีอายุประมาณ 20,000 ปีเอง
แล้วตาลุงก็ได้ทำหน้าแอปแป้วออกมาล่ะ
อีริกได้หน้ารังเกียจแบบทันจิโรล่ะ
อิริก:นี้ตาลุงได้โปรดอย่าทำหน้าอย่างนั้นอีกครั้งและอย่าไปทำให้โครเห็นเลยน่ะเพราะว่ามันหน้าเกียจ
ผู้ดูแล:แหม่ อีริกไม่รังเกียจก็บอกเถอะ ฮ่าฮ่าๆ พอแล้วและมันฉันเริ่มอายแล้วเนี้ยมาเริ่มจับฉลาก
อีริก:ควรทำตั้งนานแล้วไหมล่ะห่ะตาลุง
ผู้ดูแล:อ่ะล่วงมือเขามาจับในม้อสิอีริกคุง อย่างแรกเพศ
ผู้ดูแล:จับต่อไป
ผู้ดูแล:จับต่อไป
ผู้ดูแล:จับต่อไป
ผู้ดูแล:จับต่อไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผู้ดูแล:สุดท้ายแล้วเอา
อีริก:โอเลวา เทินเดอร์ กาดสุดท้ายแล้ว
ผู้ดูแล:มันไม่ใช้เกมกาดน่ะเจ้าบ้า
อีริก:ก็ทำให้จั่วกาดจากม้อทำไหมล่ะต้องมาจั่วที่ล่ะใบอีกด้วยน่ะ
ผู้ดูแล:ก็จะได้ไม่เอาเปรียบคนที่อาศัยอยู่ในโลกด้วยยังไงเล่าถ้าเจ้าจะได้อะไรที่ดีๆเจ้าก็ต้องพึงโชคของตัวเจ้าเองเข้าใจ
อีริก:เอาแบบนี้ก็ได้ ในเมือมันเป็นแบบนี้แล้วก็ไปช่วยไม่ได้ ไหนๆก็โชคงั้นบอกหน่อยได้ไหมว่าโชคของผมเนี้ยน่ะว่ามันเอาอะไรมาให้ผมบ้างมันอันไหนดีอันไหนร้าย
ผู้ดูแล:เห้ยข้าคือผู้ดูแลน่ะไม่ใช้ทาสน่ะโว้ย เออก็ได้
อีริก:ข้าข้อให้ท่านผู้ดูแลผู้สูงส่งที่มิอาจมีสิ่งใดทัดเทียบได้ได้โปรดช่วยโชว์สิ่งที่โชคของผมมันได้จับการจับฉลากมาหน่อยได้ไหมครับได้โปรดเถอะ
ผู้ดูแล:ก็ได้ก็ได้เซ้าซี้จัง เอาดูส่ะดูให้เต็มตาเลยเอาด้วย
Status
name unknow (ยังไม่เกิดเลยยังไม่มีชื่อ)
เพศ:ชาย
ความสามารถการสื่อนำพลัง:ค้อนข้างสูง
ทักษะ:สร้างสรรค์(max/1) จิตรนึกคิดของผู้ฝึกตน(ทักษะ 1/10)
ชีวิต:0/0
ผู้ดูแล:เธอจะได้ไปเกิดกับผู้ตระกูลขุนนางชั้นสูงแต่ไม่มีอำนาจมากนักเป็นตระกูลที่มีพื้นที่กว้างและสิ่งที่เธอสิ่งที่ได้มาดีกว่าอะไรทั้งบ่วงนั้นคือ คือ คือ เธอยังคงจำความทรงจำของเธอได้นั้นเองยังไงล่ะ
อีริก:ผมมีคำถามคือไอ้ทักษะของทั้งคู่ของผมเนี้ยมันทำอะไรได้บ้างแล้วความสามารถการสื่อนำพลัง:ค้อนข้างสูงนี้คืออะไรช่วยอธิบายให้หน่อยครับท่านผู้ดูแล
ผู้ดูแล:ย่อมได้เสมอถึงแม้
สร้างสรรค์
เมือเธอจะใช้ทักษะนี้ในช่วงเวลาจะถูกหยุดและเธอจะดำดิ่งลงไปในจิตรใจของเธอที่ในจิตรใจของเธอมันจะเป็นพื้นที่สำหรับที่การสร้างสิ่งของและยังสามารถเป็นที่เก็บวัสดุ อุปกรณ์ หรืออะไรต่างๆที่เธออยากเก็บ ส่วนการเธอสามารถที่จะควบวัสดุให้สามารถเปลี่ยนรูปร่างรูปส่งแต่มันจะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นวัสดุอื่นได้และพื้นที่เก็บของ ของเธอนั้นมันจะยังไงดีล่ะ
สมมุติว่าเธอเก็บเนื้อหรืออาหารหรืออะไรต่างๆที่มันเน่าเสียได้ในที่เก็บของ ของเธอมันจะไม่รักษาของพวกนั้นได้หรือง่ายๆคือมันไม่ใช้ตู่เย็นในแบบที่เธอรู้จักรมันคือที่สร้างถ้ามันนคือที่เก็บของหรือทักษะกระเป๋ามันก็แค่ที่เก็บภายในจิตรใจของแต่ทักษะถึงแม้ว่าจะเก็บของได้น้อยลงแต่สามารถควบคุมสิ่งของหรือเปลี่ยนรูปร่างได้ส่วนวิธีการเอาของเขาไปเก็บในทักษะแค่จับสิ่งๆนั้นแล้วคิดว่าเก็บมันก็จะเก็บเขาไปในทักษะของเธอแล้วอีกอย่างมันไม่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้
ต่อไป
จิตรนึกคิดของผู้ฝึกตน
จะอธิบายไงดีว่าเอาง่ายๆเลยล่ะกัน มันคือจิตรนึกคิดภายในตัวเธอและมันไม่ใช้จิตรวิญญาญน่ะเออและมันจะช่วยเจ้าในเรื่องต่างเช่นช่วยคิดและช่วยตัดสินใจช่วยวิเคราะและอื่นๆอีกแค่นี้
เอาล่ะที่นี้เธอก็ไปเกิดได้แล้วตาแก่อย่างฉันในตอนนี้มันเหนื่อยมากเลยล่ะขอให้มีความสุขน่ะ
และแล้วคนแก่คนนี้ก็ได้โบกมือจากลา
อีริก:นี้เดียวก่อน……
อยู่ดีๆก็ได้มีวงกลมขนาดใหญ่ปรากฏอยู่ใต้เท้าของอีริกมันได้ดูดอีริกเขา
ผู้ดูแล:เหอะนานที่จะได้พูดเยอะขนาดนี้มันก็เหนื่อยน่ะ
เป็นอันจบบท 1 ในขั้นตอนยังมีขั้นตอน
“อูแว อูแว อูแว อูแว”
???:เด็กผู้ชายค่ะคุณหญิงเจ้าค่ะ เด็กชายค่ะ
???:เอาเขามาให้ฉัน นี้ลูกแม่ในเมือเป็นผู้ชาย เขาจะมีชื่อว่า อาคาด “อาคาด เนียร์ เฟอร์กรีฟ”
และแล้วหญิงผู้นั้นได้อุ้มลูกของเธอในอ้อมกอดด้วยความรักของแม่ที่มีต่อลูก
.
.
.
และแล้วเวลาก็ได้ผ่านไปจน อาคาด เฟอร์กรีฟ ณ.อายุ 3 ขวบ
ในตอนอายุ 3 ขวบผมเริ่มต้นที่จะคึกษาภาษาการอ่าน เขียนและก็พูด หลังจากที่ผมเริ่มพูดชัดเจนมันก็ผ่านมาจนอายุ 5 ขวบ พ่อเริ่มหาครูมาสอนผมในเรื่องของขุนนาง การปกครอง
คิดคำนวณ การค้าขาย การดูแลเมือง การทหาร และอื่นๆอีกเยอะ หนึ่งในนั้นมีสิ่งที่ผมไม่ชอบที่สุดคือ การเต้น เป็นอะไรที่สุดของความจะยากเลยล่ะน่ะ รองลงมาก็มารยาท พวกที่พ่อเอามาสอนน่ะมันก็จำเป็นและที่ดูเหมือนพ่อที่เอาวิชาเหล่านี้มาให้เรียนคงหวังที่จะให้มาแทนตำแหน่งขุนนางของพ่อล่ะมั้งดูเหมือ่นว่าพ่อจะไม่หวังอะไรกับพี่ทั้งสองคนที่ส่งไปที่เมืองหลวงเลย ผมก็ไม่รู้ว่าหลอกว่าพี่ทั้งสองไปทำเรื่องอะไรไว้จึงทำให้พ่อปวดหัวมาก พวกงิวิชาที่ที่เรียนมันก็ง่ายทุกวิชาเลยก็เคยเรียนมาก่อนบางวิชาก็คล้ายกันกับการเรียนตอนที่ยังไม่ตายล่ะน่ะง่ายๆ
ในตอนอายุ 6 ขวบ หลังจากผ่านเหล่าครูที่พ่อหามาสอนกับการเรียนต่างๆมาในตอนอายุ 5 ขวบ มาไม่มีวิชาให้เรียนไม่มีครูแต่ใช้ว่าจะไม่มีอะไรเลย พ่อได้พาผมออกมาดูเมืองในเขตการปกครองของท่าน ท่านได้อธิบายสิ่งต่างๆในเมืองนี้ ซึ่งผมทำเป็นเข้าในสิ่งที่พ่อพูดมาแต่ในใจผมกำลังคิดว่าแม่งโครตล้าหลังแบบสุดๆ ถ้าเทียบที่ๆผมเคยอยู่ก็เถอะน่ะแต่มันก็เหมาะสมกับยุกแบบนี้และแต่ดูไปดูมาแม่งโครตสวยในแบบยุคกลาง หลังที่พ่อพาผมออกไปข้างนอกท่านก็ได้พาไปหลายๆที่ ในเมืองนี้ที่ใกล้คฤหาดและนอกเมืองที่สุดแล้วเราก็ได้กับคฤหาดพอหลังจากที่ท่านพ่อได้พาออกไปข้างนอกผมก็มีหลายๆความคิดที่อยู่ในหัวซึ่งมันเยอะมากแล้วผมก็ได้นำปล่อยว่างไว้ตรงนั้นก่อนแล้วก็พักผ่อน ในวันว่างที่ผมไม่รู้จะทำอะไรผมก็ลองเข้าไปในห้องสมุดในคฤหาดที่เข้าไปไม่ใช้หรอกอยากรู้อะไรเพิ่มเติ่มแต่อยากหาอะไรอ่านเล่นเช่นตำนาน เทพนิยายหรือ อะไรก็ได้ มันค่อนข้างหน้าเบื่อเพราะไม่รู้จะทำอะไรและผมก็ได้เข้ามาในห้องสมุดนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ได้เข้ามา
ว้าว…..หนังสือเยอะแยะเต็มไปหมดเลยเยอะ(แบบในชั้นว่างมีที่เก็บไม่พอจนต้องว่างไว้บนพื้นแบบเยอะเลยและ)
และแล้วผมก็ได้เดินวนรอบๆ เพื่อหาหนังสือที่น่าสนใจมาอ่าน โอ้เล่มนี้หน้าสนใจ นี้ นี้ก็ด้วย นี้อีก โห้ หึการสัมพัทธ์ของเวทเอามาด้วยล่ะกัน การใช้พลังเอามา การใช้เอามา
เออรวมๆเราเอามมาก็เยอะอยู่น่ะแต่ยังไงก็จะอ่านอยู่ดี
.
.
.
เวลาได้ผ่านจนเกือบมืด
เมด:นายน้อยค่ะถึงเวลากินข้าวเย็นกับนายท่านแล้วค่ะ
อาคาด:…..
เมด:นายน้อยค่ะ
อาคาด:นี้คุณเมดช่วยนำหนังสือทั้ง 7 เล่มนี้ไปที่ห้องของผมด้วยหน่อยน่ะครับ
เมด:ได้ค่ะนายน้อย นายน้อยค่ะถึงเวลากินเย็นกับนายท่านแล้วค่ะ
อาคาด:ขอบคุณครับผมกำลังไปทานข้าวเย็นแล้ว
หลังจากที่ได้กินข้าวและอาบน้ำเสร็จผมก็ได้เตรียมตัวเข้านอนก่อนที่จะนอนผมได้หยิบหนังสือเล่มหนึ่งมา การสัมพัทธ์พลังเวทมา (มันยังไม่ได้มึดมากเวลาแบบท้องฟ้าเหลือง)
ลองอ่านและทำความเข้าใจดีกว่า
พื้นฐานของการสัมพัทธ์พลังเวทที่อยู่รอบตัว อย่างแรกท่านควรรู้เวทคือสิ่งที่อยู่ทุกๆที่แล้วแต่ความหน่าแน่นของแต่ล่ะพื้นที่ที่มีผลึกเวทหน่าแน่นมากเท่าไหลก็ยิ่งจะมีความหน่าแน่นของเวทมากขึ้นเท่านั้นและผลึกเวทก็เกิดจากการหลั่งไหลของกระแสเวทที่ไหลขึ้นมาจากพื้นดินและเวลาผ่านไปได้ประมาณ 1\-2สัปดาห์จึงกระแสเวทจึงจะหยุดนิ่งของการและได้เริ่มการรวมตัวกันแล้วพอรวมตัวกันมากจึงเกิดการตกผลึกขึ้นและเมื่อเวลาผ่านไปเลื่อยๆผลึกจะเกิดการรวมตัวต่อไปเลื่อยๆผลึกจะขยายตัวเลือยๆ พักเรื่องของเวทไว้ก่อนเราสู่เนื้อหาหลักของเรากันจากข้างต้นท่านจะรู้ว่าเวทจะเหมื่อนสะสารที่เหมือนลอยบนอากาศและเวทจะอยู่ทุกๆที่บนโลกแห่งนี้การสัมพัทธ์เวทจะให้ความรู้สึกเหมือนจับได้จับได้แต่ก็มันไม่สามารถจับได้โดยตรงและที่กระจายอยู่รอบตัวท่านลองรวบรวมด้วยการจดจ่อกลับการตั้งสมาธิท่านจจะรู้สึกกับพลังเวทที่อยู่รอบตัวท่านพอท่านรู้สึกหรือสัมพัสได้ว่าพลังเวทอยู่รอบตัวให้ท่านทำการยืนมือออกไปทั้งสองข้างของท่านเลยและลองทำมือเหมือนกับจับถ้วยอยู่เต็มมือเอาล่ะให้ทำการดึงดูดเวทที่อยู่รอบตัวท่านมาอยู่ไว้ที่ระหว่างกลางของฝามือทั้งสองข้างที่ได้ยืนออกไปหลังจากที่ท่านรวบแล้วมันจะรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบ้างอย่างอยู่ระหว่างมือทั้งสองหรือมีอะไรบางอย่างที่กำลังหมุ่นรอบมือของท่านเอง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการใช้พลังอย่างง่ายเพื่อเป็นได้ลองใช้พลังที่ได้รวบมาให้ท่านก็ลองจินตนาการถึงแสงหรืออะไรที่มันสว่าง ขั้นตอนต่อมาให้ท่านลืมตาดูผลลัพธ์ที่ท่านได้ทำขึ้นมา พอทำได้ให้ฝึกทำบ่อยๆจะได้ขุ้นชินกับการรวบรวมพลังเวทรอบข้าง เอาล่ะถึงบทสรูปบทเรียนแรกแล้วอย่าพึงดีใจไปนี้แค่การฝึกสอนขั้นเริ่มต้นของนักเวทเท่านนั้น
จากการอ่านคล่าวๆแล้ว ลองหน่อยดีกว่า
ในขขณะที่อาคาดกำลังลุกออกจากโต็ะที่อ่านหนังสือของเขาเพื่อที่จะลองฝึกเวทในขณะที่กำลังรวบรวมพลังเวทที่อยู่รอบข้าง
ตั้งสมาธิยืนมือออกไป หึ
อยู่ดีๆก็มีการเสียงเหมือนการแจ้งเตือนที่อยู่ในหัวหัวของอาคาด
!!! หึเสียงอะไรน่ะ นี้เรากำลังรวบพลังเวทเอง
อาคาดได้พยายามมองไปรอบๆเพื่อที่จะหาต้นตอของเสียงที่ได้เกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่เจจออะไรผิดแปลกจากในห้องของเขาเอง
ผ่านไปไม่นานจากนั้นก็ได้เกิดเสียงอีก
ความสามารถจิตรนึกคิดของผู้ฝึกตนได้เติบโตได้ถูกเปิดการใช้งาน
อะไร เสียงอะไรน่ะโครพูดอะไร
สกิล:สวัสดีเราคือจิตรนึกคิดเสริมของนายท่านเราเป็นส่วนหนึ่งในความสามารถที่ติดตัวท่านและก็จะติดตัวของท่านตลอดไปด้วย
อาคาด:…ความสามารถติดตัวหรอ จิตรนึกคิดเสริมหรอ? เออไอ้ความสามารถที่ได้จากการไปจำไผ่เสี่ยงโชคนี้เอง
สกิล:ใช้แล้ว นับตั้งแต่ที่ท่านได้รวบรวมพลังที่อยู่ในบริเวณรอบๆเขามาในตัวท่านพลังเหล่านั้นก็ได้เขามาในตัวท่านจึงทำการและได้ทำการเข้าสู่จุดส่วนรวมพลังจึงทำให้เป็นการปลุกความสามาถที่อยู่ในตัวของท่านเองและถ้าขาดพลังหรือถ้าไม่มีพลังมาล่อเลี้ยงจุดศูนกลางพลังงานความสามารถนี้ก็จะดับลงไปหรือปิดการใช้งาน
อาคาด:ช่วยบอกได้ไหมว่าความสาามารถในตัวฉันเนี้ยสามารถพัฒได้อย่างไร
สกิล:ความสามารถจิตรนึกคิดเสริมได้รับค่าประสบการก็ต่อเมื่อได้เพิ่มเติมความรู้ ประสบการ เติมเข้ามาเป็นการเรียนรู้ซึ่งทักษะต้องการเรียนรู้เพื่อนำมาพัฒความสามารถจิตรนึกคิดเสริมของตัวเอง
อาคาด:แล้วความรู้ที่ฉันมีอยู่นี้ในตอนนี้สามารถนำไปพัฒนาความสามารถได้ไหม
สกิล:สามารถนำไปทำการคึกษาเพื่อทำการพัฒนาความสามรถได้แต่ต้องได้รับคำอนุญาตจากนายท่านก่อน
อาคาด:อนุญาต
สกิล:ในระหว่างที่ทำการคึกษาความทรงจำของนายท่านอาจใช้เวลานานในการคึกษาและตรวจสอบอาจใช้เวลาทั้งคืนเพื่อตรวจสอบความสามารถอาจจะไม่มีการตอบสนองอะไรใดๆในช่วงเวลานี้
อาคาด:ok เรามาลองฝึกการสัมพัทธ์เวทต่อแล้วค่อยนอนดีกว่า
หลังจากนี้อาคาดได้ฝึกการใช้เวทแล้วก็นอน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!