ขอบคุณที่มาใช้บริการโรงหนังของเรานะคะ "
เสียงของพนักงานหญิงที่ ชื่อ เมย์ กล่าวลาลูกค้าที่มาใช้บริการ ที่โรงหนัง แห่งหนึ่ง
" เหนื่อยจัง....อยากกลับบ้านไปพักผ่อนจัง "
เสียงของ เมย์ที่บ่นพร้อมเดินไปที่ ห้องล็อกเกอร์ของพนักงานหญิง
ตอนนี้ดึกแล้วประมาณ 5 ทุ่ม กว่าๆ พนักงานคนอื่นๆ คงหาข้ออ้างกลับบ้านเกือบหมดแล้ว ตอนนี้ เมย์อยู่ในห้องล็อกเกอร์เพียงคนเดียว
แต่จู่ๆ ไฟในห้องล็อกเกอร์ก็ดับ พร้อมกับมีเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินมาทางห้องล็อกเกอร์หญิง เมย์ที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่ แต่เมย์ก็คิดว่าเป็นพนักงานหรือแม่บ้านที่ยังไม่กลับบ้าน แต่...กลับไม่ใช่
เสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่หน้าประตูพร้อม ปรากฏเงาของคนที่หยุดอยู่หน้าประตูห้อง
เมย์กำลังเปลี่ยนชุดพนักงานแต่ยังไม่เสร็จ ทันใดนั้น ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามา เมย์ที่คิดว่าเป็นพนักงานหญิงคนอื่นจึงเอ่ยถามไป
" นี่เธอรู้มั้ยว่าไฟเป็นอะไรทำไมถึงดับ "
ไม่มีเสียงตอบรับมีเพียงความเงียบ เงานั้นค่อยๆ เดินมาทางเมย์ เธอรู้สึกว่ามีอันตรายจึงรีบถอยหลัง
ไปเรื่อยๆ แต่เงานั้นจับเธอได้เสียก่อน
เงานั้นเอามือมาบีบคอของเมย์ไว้แล้วกดให้เมย์นอนลงกับพื้นพร้อมกับเสียง ในลำคอ
" หึ...หึ..."
เมย์เริ่มหายใจไม่ออก แล้วเริ่มที่จะสู้เพื่อเอาชีวิตรอด เมย์เอื้อมมือไปกระชากหมวกและผ้าที่คุมหน้าคนที่บีบคอเธออยู่แล้วเธอก็ได้รู้ว่าคนๆ นั้นคือใคร
แต่ไม่ทันที่เมย์จะไดอ้าปากพูดก็เริ่มตาค้างขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน
.
.
.
.
.
.
ภายในโรงหนังที่แม่บ้านกำลังทำความสะอาดพร้อมร้องเพลงไปด้วย แต่จู่ก็ได้ยินเสียสั่นของเก้าอี้แถว B ดังขึ้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเดินเข้าไป
อย่างกล้าๆ กลัวๆ
พอเดินไปถึงก็พบว่านั่นคือโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ในขณะที่กำลังจะแอบเก็บใส่กระเป๋า
" อะๆๆ .... ป้าสุครับ "
เสียงของแอสซิส ตั้มที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้ ป้าสุ สดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
" อุ่ย...คะ...ค่ะ แอสซิสตั้ม "
ป้าแม่บ้านตอบพร้อมซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ด้านหลัง
" คือผมมาหามือถือของลูกค้าที่ทำตกไว้น่ะครับพอจะเห็นรึป่าวครับ "
แอสซิสตั้มเริ่มถามทั้งๆ ที่รู้ว่าป้าแม่บ้านกำลังจะเก็บเข้ากระเป๋าของตน
" คือ...ว่าป้าไม่ห็นนะคะ คุณตั้ม "
ป้าสุเริ่มกระวนกระวายกลัวว่าแอสซิสตั้มจะรู้ว่าเธอคิดจะขโมยมือถือ
" ผมรู้นะครับว่าป้ากำลังจะเก็บเข้ากระเป๋า พรุ่งนี้ผมจะไปรายงาน เมเนเจอร์*ทินคุณเตรียมหางานใหม่ได้เลย "
คำทิ้งท้ายของแอสซิสตั้มทำให้ป้าแม่บ้านเป็นกังวลมากจึงเอ่ยขอไป
" คุณตั้มคะอย่าบอกเมเนเจอร์ทินเลยนะคะ"
ป้าแม่บ้านร้องขอพร้อมยื่นมือถือให้แอสซิสตั้ม
เขารับไว้แล้วตอบกลับว่า
" ครั้งนี้ผมจะให้โอกาสป้านะครับคราวหลังผมจะไม่ให้โอกาสแล้วนะครับ "
" ค่ะ...ขอบคุณมากๆ นะคะคุณตั้ม " ป้าแม่บ้านพูดด้วยความดีใจ
" ป้าสุครับเห็น เมย์ไหมครับ "
" ป้าพึ่งเห็นเค้าออกไปห้องลอกเกอร์เองนะ " ป้าสุ ตอบพร้อมกับทำความสะอาดไปด้วย
" ถ้างั้นผมวานให้ป้าไปดูให้หน่อยนะครับ "
แอสซิสตั้มพูดพร้อมยิ้มให้ป้าสุ
" จ้า " ป้าสุตอบด้วยความไม่เต็มใจแต่สุดท้ายก็ต้องไปด้วยความจำใจ
พอไปถึงป้าสุเปิดเข้าไปต้องพบกับความน่า สพรึงกลัว
ร่างของ เมย์ที่นอนเปลือยกาย ลิ้นจุปาก มีรอยที่คอคล้ายกับโดนบีบคอขาดอากาศหายใจ
เสียงกรี๊ดดังสนั่นทั่วโรงหนัง ทำให้ทุกคนต่างมามุงอยู่หน้าห้องล็อกเกอร์ หนึ่งในนั้นคือ รดาเพื่อนรักของ เมย์ พร้อมกับ มาร์ค แฟนหนุ่มของ รดา แล้วพนักงานอีกหลายคน
หลังจากนั้นจึงโทรแจ้งตำรวจ
หลังจากตำรวจมาถึง ตำรวจ ก็เริ่มสอบสวนทุกคนทั้งชายและหญิง ใครที่กลับบ้านไปแล้วก็ถูกตามตัวกลับมาทุกคน
ท่ามกลางผู้คนมากมายในขณะนั้น....มีใครหารู้ไม่ว่าวิญญาณของ เมย์ กำลังจ้องมองอยู่....
โปรดติดตามตอนต่อไป
ถ้าชอบยิยายเรื่อนนี้ขอกำลังใจด้วยน๊าาาาา
ตำรวจสอบปากคำนานจนเวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึง ตี2 จึงสอบปากคำพนักงานหญิงเกือบหมด
พนักงานชายยิ่งต้องสอบสวนอีกเยอะเพราะว่า ผู้ตายเป็นผู้หญิงที่ถูกข่มขืนแล้วถูกฆ่าตายในห้องล็อกเกอร์
หลังจากตำรวจสอบปากคำเสร็จจึงปล่อยให้พนักงานหญิงกลับบ้านเหลือแต่หนักงานชายที่ถูกสอบปากคำ จนถึง 6 โมงเช้า
บอล แฟนหนุ่มของรดาพอสอบปากคำเสร็จตำรวจจึงปล่อยกลับบ้านตอนเวลา6โมงตรง
ระหว่างทางเดินกลับบ้าน บอลก็บ่นตลอดทาง
" กลับบ้านไปแม่ต้องบ่นอีกตามเคย "
บ่นไป..หาวนอนไป จนเดินมาพบกับปรางเพื่อนบ้านของบอลจึงได้ยืนคุยกัน
" สวัสดีครับพี่ปราง " บอลผู้อายุน้อยกว่าจึงพูดพร้อมยกมือไหว้ปราง
" อ่าวเลิกงานแล้วหรอ บอลทำไมวันนี้กลับซะเช้าเลยหละ " ปรางถามบอลที่ยืนหาวนอนอยู่
แล้วบอลก็เริ่มเล่าเรื่องให้ปรางฟัง
" ผมง่วงมาเลยครับขอตัวกลับไปนอนพักก่อนนะครับพี่ปราง " บอลพูดพร้อมกับหาวหวอดๆ
" จ้า..." ปรางตอบก่อนทั้งสองจะเดินกลับบ้านของตน
" ไอบอลไปไหนมาทำไมพึ่งกลับรีบไปส่งข้าวกล่องบนตึกให้ห้อง 107 กับ 189 เลย ป่านนี้คงหิวไส้ขาดแล้ว " ยังไม่ทันที่บอลจะได้พูดอะไรก็โดนแม่ใช้เสียแล้ว
" คราบ....แม่ ห้อง 107 กับ 189 ใช่มั้ย ได้เดี๋ยวจะรีบไปส่งให้ " บอลตอบอย่างกวนๆก่อนจะเดินไปส่งข้าวกล่อง
ระหว่างทางเดินไปที่ห้อง189 บอลก็ร้องรำทำเพลงไปตามประสา แต่บอลก็ได้ยินเสียง คนเดินตามมา บอลคิดว่าเป็นคนที่อยู่ห้องแถวๆนี้เลยหันไปทักทาย
" สะ..... " ยังไม่ทันได้ทักทาย แต่ พอบอลหันไปก็ไม่พบใคร จึงหันมาเดินไปส่งอาหารให้ห้อง189ต่อ
" ก๊อก...ก๊อก ๆ " เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
" อาหารมาส่งแล้วครับ... " บอลเคาะประตูเรียกก่อนที่ประตูจะเปิดออก
" ขอบคุณที่สั่งอาหาร...." ยังพูดไม่ทันจบเจ้าของห้องก็ปิดประตูใส่เสียก่อน
" คนสมัยนี้....ไม่มีมารยาทเอาซะเลย " บอลเดินไปบ่นไป จนลืมไปว่ามีเงาของใครเดินตามหลังมา
บอลยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาลงบันไดไฟก็เริ่มกระพิบ ติดๆ ดับๆ แล้วมีเสียงของใครคนนึงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"บอล....บอล..ช่วยฉันทีฉันทรมานเหลือเกิน"
เสียงโหยหวนร้องเรียกมากมาจากทางด้านหลังทำให้บอลเสียวสันหลังวูบ
บอลรวบรวมความกล้าแล้วหันไปสิ่งที่บอลเห็นทำให้เขาถึงกับตกใจจนตาค้าง
ภาพที่น่าสยดสยองของ เมย์ ที่ยืนอยู่ด้านหน้าของเขา ทั้งหนูที่เขียว ปากและตามีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แล้วจู่ๆ เมย์ ก็พุ่งมาทางมาร์ค
ทำให้เค้าสดุ้งตื่น ใช่มันเป็นเพียงฝัน
เสียงนาฬิกาดัง เตือนว่าตินนี้เป็นเวลา เที่ยงตรงแล้วได้เวลาทำงาน
ระหว่างทางเค้าก็ยังได้ยินเสียงแว่วๆอยู่ในหูตลอด หรือว่านั่นไม่ใช่ฝัน
บอลเหม่อลอยในขณะที่เดินเข้าไปทำงานที่โรงหนัง จนเดินชนรดา แฟนสาวของเขาเข้าจนทั้งสองล้มลง จมูกแตะกันเลยทีเดียวทั้งสองเริ่มจ้องตากันแล้วหน้าก็ค่อยขยับเข้าเรื่อยๆ
แต่ทันใดนั้น ภาพใบหน้าที่บอลมองเห็นกับไม่ใช่รดาแต่กลับเป็น เมย์ ที่หน้าเขียวช้ำ ลิ้นจุปาก ตาค้างมองบน ร่างกายบิดเบี้ยวมือหงิกงอน่าสยดสยอง
ภาพๆนั้นทำให้บอลถึงกับชงักแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งหนีไปทิ้งให้รดานอนอยู่ที่พื้น
รดาลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปที่แผนกที่เขาทำงานอยู่ พร้อมกับยืนคิด อยู่จน ขวัญ เพื่อนขาเม้าท์ของรดาเดินมาหยิกแก้มรดา ทำให้รดาสดุ้ง
" มีไร....ยัยขวัญตกใจหมด " รดาเริ่มอารมณ์เสียใส่
" ก็ฉันเห็นแกยืนเหม่อลอยอยู่ เลยเดินมาดู ฉันมีเรื่องมาเม้าท์ให้ฟัง เรื่องของยัยเมย์นี่หละ " ขวัญพูดขึ้น
" อย่าเอาเรื่องของคนตายมาพูดเล่นแบบนี้นะยัยขวัญเดี๋ยวยัย เมย์ก็มาหักคอแกหรอก " รดาพูดขึ้นทำให้ขวัญถึงกับหยุดนิ่งเลยทีเดียว
เสียงเคาะโต๊ะดังขึ้น " ก๊อกๆ "
คนนั้นไม่ใช่ใครนั่นคือ เมเนเจอร์ทิน นั้นเอง
" มีอะไรให้ช่วยคะ เมเนเจอน์ทิน " ขวัญพูดขึ้นด้วยความตกใจ
แต่หันไปก็ไม่พบใครขวัญจึงวิ่งมาหลบหลังรดา
ก่อนจะมีเสียงแว่วๆดังขึ้นในหูของขวัญ
" แก...ยัยขวัญ "
เสียงนี้ไม่ใช่ใครอื่นใดนอกจากเมย์ ที่มากระซิบข้างหูขวัญ
ก่อนจะมีเสียงร้องไห้อย่างโหยหวนของใครคนนึงดังขึ้นทำให้ทั้งขวัญยิ่งเกาะแขนรดาแน่นขึ้น
"ก๊อกๆ"
เสียงเคาะโต๊ะดังอีกครั้งแต่นั่นคือเมเนเจอร์ทิน
"สวัสดีค่ะ" ขวัญและรดาพูดพร้อมกันอย่างสั่นๆ
"มีอะไรให้รับใช้คะ" ขวัญพูดขึ้น
"ผมแค่มาบอกว่า...ห้ามให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้เรื่องการตายของเมย์ไม่งั้นพวกคุณต้องหางานใหม่แน่"
เมเนเจอร์ทิน พูดจบแล้วเดินหนีไป
_________________________________
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากติดตามด้วยน้าาาา
ทางด้านของ ทีมแพทย์ที่กำลังจะชันสูตรศพ ของ เมย์
"เข้าไม่ได้นะครับ" เสียงของตำรวจหนุ่มที่ยืนเฝ้าหน้าห้องชันสูตรศพอยู่ พูดขึ้นเพื่อห้ามไม่ให้พ่อและแม่ของเมย์เข้าไป
"ฉันจะมารับศพลูกสาวฉันคืน" เสียงของแม่เมย์พูดขึ้น
"ไม่ได้นะครับ ต้องให้แพทย์ชันสูตรศพเพื่อผมจะได้ไปรายงาน เราจะได้ทำคดีนี้ต่อไป"
"ไม่ได้ พวกเราเป็นชาวมุสลิม เราไม่สามารถให้คุณชันสูตรศพลูกของเราได้" แม่ของเมย์พูดขึ้นพร้อมน้ำตาที่ไหลลง
"อ้าวทำไมไม่มีใครบอกเลยนะครับว่าเป็นชาวมุสลิม"
ยังไม่ทันที่ตำรวจหนุ่มจะพูดจบแม่ของเมย์ก็พุ่งเข้าไปในห้องชันสูตรศพแล้วรีบเอาผ้าขาวคลุมร่างของเมย์ทันที
"นี่มันอะไรกันครับ" เสียงของแพทย์หนุ่มที่กำลังชันสูตรศพพูดขึ้น
"คือว่าลูกสาวของเราเป็นชาวมุสลิมไม่สามารถที่จะให้คุณชันสูตรศพของลูกสาวเราได้ครับ"
พ่อของเมย์พูดขึ้นในขณะที่แม่ของเมย์กำลังร้องไห้เสียใจอยู่และกอดศพของลูกสาวไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย
"ถ้าอย่างนั้นหมอก็ต้องหยุดนะครับทางไปบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิตต้องเซ็นยินยอมไม่ให้ชันสูตรศพและไม่ทำคดีนี้ต่อนะครับ"
"ไม่ได้" เสียงของตำรวจ หนุ่ม พูดขึ้นเพราะว่าถ้าหากเขาไม่ได้ความคืบหน้า อาจจะโดนดุ
30 นาที ผ่านไป
ทั้งพ่อและแม่ของเมย์ได้รับศพกลับไปเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
ตำรวจหนุ่มคิดอะไรไม่ออกกลัวว่าจะโดนดุ
"คุณหมอครับ ตั้งแต่ ชันสูตรศพ ได้อะไรบ้างครับ"ตำรวจหนุ่มพูดขึ้น
" ไม่พบร่องรอยน้ำอัสุจิ สันนิษฐานว่าผู้น้ายอาจสวมถุงยางอนามัย มีเพียงรอยที่คอ เรายังไม่ทราบว่า ขาดอากาศหายใจหรือแต่อย่างใด" หมอเริ่มอธิบาย
"แล้วไอดอกโป๊ยเซียนสามดอกนั่นมันเกี่ยวข้องกันไหมครับ"
"อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะแต่อาจจะมีส่วน"พูดจบหมอและ ทีมแพทย์ก็ขอตัวออกจากห้องชันสูตรไป
สถานีตำรวจ
"ได้แค่นี้ครับ" ตำรวจหนุ่มยื่นเอกสารเกี่ยวกับคดีนี้ให้ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้
"........."
"ทางฝ่ายญาติของผู้ตายไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใดครับ"
"อือๆ"
หลังจากที่ฝ่ายญาติของเมย์ไม่ติดใจเอาความคดีนี้จึงจบลง
แต่เรื่องราวยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้
**************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากนิยายเรื่องนี้อีกเรื่องนะคะ "เรื่อง...ลวงให้รัก" ฝากติดตามด้วยน๊าาาา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!