NovelToon NovelToon

กลับมารักครั้งนี้....ไม่มีพลาด Don't leave me

กลับมารักครั้งนี้....ไม่มีพลาด Don't leave me Ep.1

Ep. 1

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

" พริ้ม..แม่เข้าไปได้ไหมลูก.. "

" ค่ะแม่.. "  เมื่อสิ้นเสียงตอบรับจากฉัน ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาจากด้านนอก ผู้หญิงคนนี้ที่กำลังยื่นมือมาลูบแก้มฉัน ตั้งแต่เล็กจนโตสัมผัสของแม่ก็ยังอบอุ่นอยู่เหมือนเดิม

" แม่เห็นห้องหนูยังเปิดไฟอยู่ ยังทำงานอยู่เหรอลูก ขนาดลาพักร้อนกลับมาบ้านก็ยังจะหอบงานมาทำงกๆอยู่อีก "

" เป็นงานเก่าที่พริ้มต้องแก้น่ะค่ะแม่ แต่ใกล้เสร็จแล้วหล่ะค่ะ เดี๋ยวพริ้มก็นอนแล้ว "  ฉันหันไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะก็เห็นว่ามันบอกเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว ทางนั้นส่งมาให้แก้กะทันหันน่ะฉันก็เพิ่งเห็นเมล์เมื่อตอนค่ำนี้เองก็เลยต้องรีบแก้ให้เสร็จคืนนี้

" อย่านอนดึกล่ะลูก "  มือของแม่ลูบผมฉันเบาๆ ก่อนจะออกจากห้องไป ฉันก็หันมานั่งแก้งานต่อจนเวลาผ่านไปสักพัก ที่ฉันนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่บนเก้าอีตัวนี้

กร๊อบบบบ~~~

" เฮ้อออ เสร็จสักที "  ฉันพับฝาโน๊ตบุ๊คลงแล้วยืดแขนบิดตัวไปมา

" ตีสองแล้วหรอเนี่ย "  ที่ฉันต้องแก้มันคืองานแปลบทความที่ฉันส่งไปเมื่ออาทิตย์ก่อน มันคือความผิดพลาดของฉันเอง ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นเพราะคืนนั้นฉันไม่ได้ตรวจซ้ำรอบสอง ด้วยความง่วงแล้วก็เหนื่อยมากก็เลยตรวจแค่รอบเดียวแล้วส่งไปให้หัวหน้า ผลก็คืออย่างที่เห็นคืนนี้นี่ไง คือฉันต้องมานั่งแก้ใหม่ทั้งหมด

" ตีสองแล้ว ทำไมยัยลมหนาวถึงยังออนเฟซบุ๊คอยู่ล่ะ? "  ฉันกดเข้าแชทของยัยลมหนาวแล้วก็กดส่งสติ๊กเกอร์ไปให้

Messenger

พริ้มเพรา: ' ทำไมมึงยังไม่นอนอ่ะ? '

ลมหนาว: ' กูตื่นมาให้นมลูก มึงอ่ะ..ทำไมนอนดึก? '

พริ้มเพรา: ' แก้งาน เพิ่งเสร็จเมื่อกี๊ เดี๋ยวก็จะนอนละ '

' ฝันดีนะมึง '

ลมหนาว: ' ฝันดี...'

" ตื่นมาให้นมลูกงั้นหรอ " ถ้าเป็นฉันจะยอมตื่นขึ้นมากลางดึกอย่างพวกยัยเรนนี่ยัยลมหนาวรึเปล่านะ ....มันก็คงมีบ้างแหละที่เขาเรียกกันว่าอะไรนะ สัญชาตญาณความเป็นแม่ อะไรพวกนั้นไง แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดไปถึงเรื่องพวกนั้นเลย ตีสองแล้ว...อุตส่าห์ลาพักร้อนกลับมาบ้านทั้งทีดันต้องมานอนดึกๆดื่นๆจนได้ ฉันป้องปากหาววอดๆ ก่อนจะถอนแว่นวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปล้มตัวนอนบนเตียงหลับตาลงเข้าสู่ห่วงนิทราทันทีโดยไม่ต้องอาศัยวิธีนอนนับแกะให้เสียเวลา

เช้าวันต่อมา

ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

" พี่พริ้ม! พี่พริ้ม! "

" อะไร? "  ฉันที่กำลังนั่งเลื่อนโทรศัพท์ท่องโลกโซเชียลอยู่หน้าบ้าน อยู่ๆก็มีเสียงวิ่งตึงๆเข้ามาใกล้พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อฉันดังก้อง จะใครซะอีกล่ะ..ก็ยัยข้าวเม่าลูกพี่ลูกน้องของฉันนี่เอง บ้านก็อยู่ข้างๆกันแท้ๆไม่รู้จะวิ่งทำไม เดินมาก็ได้บ้านฉันมันคงไม่หนีไปไหนหรอก

" พี่พริ้มพี่ดูนี่สิ!! ฉันสอบติดที่ ม.SS ด้วยอ่ะพี่! ผลเพิ่งออกเมื่อกี๊นี่เอง "  ยัยข้าวเม่าพูดออกมาด้วยรอยยิ้มกว้างพร้อมกัยเสียงสั่นๆนั่น แล้วแถมยังยื่นโทรศัพท์มือถือมาจ่อหน้าฉัน และมันใกล้เกินไปจนฉันต้องใช้มือดันออกเพื่อให้พอดีกับระยะสายตา ในหน้าจอนั้นเป็นชื่อมหาลัยแล้วก็ชื่อ-นามสกุลจริงของยัยข้าวเม่า ติดจริงด้วย

" ก็ดีแล้วนี่ "

" โธ่....แค่นี้เองหรอพี่~ "

" อ่ะ เก่งๆๆ "  ฉันเอียงคอมองหน้าน้องสาวยิ้มๆพร้อมกับยกมือขึ้นมาตบแปะๆ

" พี่พริ้มอ่าา!!! ฉันหมายถึง..จะได้ไปอยู่กับพี่ไง "

" ยังไง? "

" ก็ป้าอรบอกว่า ที่ทำงานของพี่ก็อยู่แถวๆม. นั้นนี่นา ถ้าฉันได้ไปอยู่กับพี่นะ..... "  ยัยข้าวเม่าเหลือกตาขึ้นมองบนฟ้าแล้วยิ้มอย่างเคลิ้มๆ ไม่อยากจะพูดตัดความสุขของน้องสาวหรอกนะ แต่ฉันต้องบอกมันไว้

" แต่ปีหนึ่งเขาบังคับให้อยู่หอในนะ "

" ทุกคนเลยหรอพี่? "

" ไม่รู้เหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น "

" หูยยยยยย.. เซ็งเลยอ่ะ "

" ก็ค่อยย้ายมาตอนปีสองก็ได้นี่ แล้วนี่เปิดเทอมเมื่อไหร่? "

" โหยยยย คงอีกนานอ่ะ "  มันพูดแล้วก้มกดโทรศัพท์ยิกๆ สงสัยจะทักไปโม้กับเพื่อนตามประสาเด็กตื่นเต้น ที่ยัยข้าวเม่าตื่นเต้นดีใจอยากจะไปอยู่กับฉันเพราะตอนเด็กๆเราสนิทกันมาก แต่เพราะฉันต้องไปเรียนก็เลยห่างกัน ยัยเด็กนี่ร้องไห้ตามฉันใหญ่เลย แถมช่วงแรกๆที่ฉันไปเรียนก็ยังวิดีโอคอลไปหาทุกวันด้วยนะ

ที่ประเทศเกาหลี

  ภายในสตูดิโอแห่งหนึ่งกำลังมีการถ่ายโฆษณาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสปอร์ตบาร์สำหรับผู้หญิง ทั้งผลงานเพลงเคป๊อปของศิลปินชื่อดังหลายๆวง ที่เอ็มวีดี ภาพสวยก็เกิดจากฝีมือของเขาคนนี้นี่เอง ฝีมือการทำงานของเขามันดีมากจนขึ้นแท่นได้รับรางวัลผู้กำกับสุดเพอร์เฟ็กต์สามปีซ้อน ที่รางวัลนี้ได้ตกถึงมือเขาถึงสามปีซ้อนแล้วก็น่าจะมีปีต่อๆไปด้วย เหตุผลก็เพราะว่าไม่ใช่แค่ผลงานและฝีมือการทำงานของเขาเท่านั้นที่แตะต้องตาผู้ใหญ่จากหลายๆค่ายเพลง แต่ด้วยเพราะรูปร่างหน้าตาของเขาเองก็ยังเป็นที่หมายปองของสาวๆด้วย เมื่อก่อนเขามีเคยสังกัดของตัวเอง แต่เพิ่งจะเริ่มผันตัวมาเป็นผู้กำกับอิสระถ่ายเอ็มวีเพลงให้กับหลายๆค่ายเพลง รับทั้งงานถ่ายแบบและงานถ่ายโฆษณาด้วย

" คัททท!! เอาใหม่...ฉันขอใหม่อีกรอบ แอ่นอกขึ้นมาเลย เงยหน้านิดหน่อยแล้วค่อยๆจิกสายตามองกล้อง ใช่! แบบนั้นแหละ ขออย่างนี้เลยนะ "  ผู้กำกับหนุ่มลูกครึ่งไทย-เกาหลี และดูจากเค้าโครงหน้าที่สุดแสนจะหล่อเหลาของเขาแล้วคล้ายว่าจะมีเชื้อจากฝั่งตะวันตกผสมมานิดๆ ปากกระจับได้รูปแต่สีเข้มคล้ำกว่าปกติเพราะเกิดจากการสูบบุหรี่เปล่งเสียงพูดกับนางแบบและทีมงานด้วยภาษาประจำชาตินี้ก็คือภาษาเกาหลีนั่นเอง

" คัทททท!! โอเค สวย! ดีมาก ขอบคุณทุกคนสำหรับวันนี้ "

" ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ "

" ฉันอยากรู้จังว่า...เย็นนี้คุณผู้กำกับสุดหล่อพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า... "  นางแบบที่โพสต์ท่าแอ่นอกอยู่เมื่อกี๊เดินเข้ามาหาเขาระหว่างที่ทีมงานทุกวันกำลังวุ่นอยู่กับการเก็บของ อุปกรณ์และฉากต่างๆ เธอกรีดเล็บลากอยู่บนหลังมือของเขาเบาๆ พร้อมกัดปากและส่งสายตาเชื้อเชิญ ซึ่งเขาเองก็ไม่ใช่หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่าการกระทำของเธอนั้นหมายถึงอะไร เขาสังเกตตั้งแต่ตอนที่เห็นเธอครั้งแรกแล้วดวงตาของเธอมันส่งความปรารถนาบางอย่างที่ชัดเจนมาหาเขา แต่ที่เขาไม่สนใจเพราะมันยังอยู่ในเวลาทำงาน แต่ถ้าเย็นนี้ก็หมายถึงมันสิ้นสุดเวลางานแล้วนี่ และเมื่อหญิงสาวเองก็ยังส่งสายตามาให้ไม่หยุด เขาจึงแสยะยิ้มมุมปากและพยักหน้าตอบรับไปทันที

          ******** to be continued

 

 

 

 

กลับมารักครั้งนี้....ไม่มีพลาด Don't leave me Ep.2

Ep. 2

กองทัพ ||Part||

" อ๊าาาาาา~~ อ่าาาาา อืมมมม "

" เอามือเธอออกไป "  ผมเร่งกระแทกเอวใส่ร่างกายเซ็กซี่ของผู้หญิงตรงหน้า เมื่อเสร็จสมแล้วผมก็ถอนท่อนลำออกทันทีพร้อมกับใช้ทิชชู่มารองแล้วถอดเครื่องป้องกันออกจากท่อนเนื้อแข็งแกร่ง

" คุณจะไปแล้วหรอคะ? "

" แล้วฉันมีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ต่อ เธอบอกมาได้มั้ยล่ะ?! "  มือก็ติดกระดุมเสื้อไปไม่ได้หันไปมองหน้าคู่สนทนา เสร็จกิจแล้วก็ไป จะอยู่ทำห่าไรครับ แต่ดูเหมือนยัยคนนี้จะฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง มือยังเลื้อยมาทำท่าจะปลดกระดุมที่ผมเพิ่งจะติดเสร็จออกอีกครั้ง

" ปล่อย "  ผมพูดเสียงเข้มขึ้นแล้วปัดมือเธอออก ไม่ชอบซ้ำรอบสองถ้าผมไม่ได้ถูกใจขนาดนั้น

ครืดดดดด~~

LINE

แก้มใส: 'ยังไม่เลิกงานหรอคะคุณผู้กำกับสุดหล่อ'

กำลังจะเปิดประตูรถแต่อยู่ๆก็มีไลน์เข้า ใครว่ะทักมาตอนตี 3 พอเปิดดูก็เห็นว่าเป็นข้อความจากแก้มใสที่นี่ตีสาม ที่ไทยป่านนี้ก็น่าจะประมาณตีหนึ่ง ผมอ่านแต่ไม่ได้ตอบกลับไปกำลังจะเก็บใส่ลงในกระเป๋ากางเกงแต่ข้อความจากคนเดิมก็ดังขึ้นมาอีก

แก้มใส: 'ช่วงนี้ไม่มีงานให้หนูทำเลยหรอคะ? งานอะไรก็ได้...หนูไม่เกี่ยงทำได้หมด กำลังร้อนเงินเลยค่ะ'

กองทัพ: 'ยังไม่มี และตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ไทย' บอกไปแค่นั้นแล้วรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับมุ่งตรงไปที่คอนโดพรุ่งนี้ก็ต้องทำงานต่ออีก รีบกลับไปนอนพักผ่อนเอาแรงดีกว่า

End..

พริ้มเพรา ||Part||

ห้างB

" พริ้มเพรา มึงเหงาป่ะถามจริง? "

" เหงาทำไม กูก็มีมึงดูหนังเป็นเพื่อน กินข้าวเป็นเพื่อน ช้อปปิ้งเป็นเพื่อนแล้วนี่ไงมีอะไรให้เหงาอีกอ่ะ? "

" ไม่ใช่แบบนั้นดิ~ กูหมายถึงแบบ..แบบว่า อยากมีผู้ชงผู้ชาย มีฟงมีแฟน ไรเงี้ย.. "

" อย่าบอกนะว่ามึงเหงา? มีสามีเป็นโหลขนาดนั้น "

" โว้ยยยย นี่ฉันสาระนะเนี่ย เห็นยัยเรนนี่ ยัยลมหนาวมีครอบครัว ลูกน่ารักสามีก็ดูแลดีเอาใจใส่ขนาดนั้น กูบอกตรงๆนะ บางทีกูก็รู้สึกว่าอยากจะมีบ้างอ่ะ "  ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยคิดแบบนั้น อยากมีครอบครัวที่น่ารักอบอุ่น แต่..มันก็มีช่วงนั้นที่เปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนใจของฉัน ขอบายดีกว่า ขอเวลาคิดใหม่ยาวๆ อยู่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน ทำงาน มีพ่อแม่ให้รักให้ดูแลแค่นี้ก็ดีแล้ว

" ไม่อ่ะ กูยังสนุกกับการทำงานอยู่ ยังไม่รู้สึกอยากมีนะใครนะ "  ฉันพูดจบยัยเมษาก็หันมาจ้องหน้าอย่างตื่นๆ อะไร? ก็แค่บอกว่าไม่เหงา ยังไม่อยากมีใคร ทำไมมันต้องตกใจขนาดนั้น

" อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะมึง... "

" ปากเสีย! อีกตั้งหลายปีกว่าจะสามสิบ!! "  พูดเสร็จแล้วฉันก็เดินนำหน้าหนีมันไปก่อน อารมณ์เสีย..มาพูดแบบนี้ได้ไงยะ!! ยัยเพื่อนปากมอม..

   ฉันดูหนัง กินข้าวกับยัยเมษาเสร็จกว่าจะกลับมาถึงห้องก็สามทุ่มเศษๆแล้ว วันนี้ไปสองคนเพราะคุณแม่อีกสองคนไม่ว่าง ถ้าวันหนึ่งยัยเมษาเกิดแต่งงานแบบกะทันหันขึ้นมา อาจจะเหลือแค่ฉันก็ได้ ที่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียว

" เสียเวลาชะมัด! ไม่น่าเลยเลย..คุยกันอยู่เป็นเดือน ผู้ชายเฮงซวย คิดจะหายก็หาย! "

หลายเดือนก่อน

ครืดดดดด ครืดดดดด

LINE

กองทัพ: ' รับสายดิพริ้ม.. '

พริ้มเพรา: ' พี่..พริ้มยังไม่ว่างทำงานอยู่ เดี๋ยวไว้พริ้มโทรกลับนะ '

หลังจากนั้นเขาก็ส่งสติกเกอร์รูปหน้างอนมาให้ เป็นแบบนี้บ่อยๆ เขาชอบโทรมา ทักมา แต่ฉันก็ไม่ว่างคุย ไม่ได้หยิ่งหรือแกล้งเขานะ มันไม่ว่างจริงๆ แล้วพอฉันทักเขาไปบ้าง เขาก็บอกไม่ว่างคุย งานยุ่ง มีส่วนน้อยมากที่เราจะมีเวลาว่างได้คุยกัน แต่มีช่วงก่อนนอนที่ถึงแม้ว่าจะมีเวลามากน้อยแค่ไหน เขาก็จะวิดีโอคอลมาบอกฝันดีประจำทุกคืน

" พี่อยู่ไหนเนี่ย? เสียงดังจัง... "

' พี่อยู่ผับ ถ่ายเอ็มวีมาสามเดือนเต็มๆ เพิ่งจะปิดกล้อง ก็เลยมาฉลองกับเพื่อนนิดหน่อย มีแต่ผู้ชายดูดิ...ไม่ต้องห่วง '  เขาพูดเสร็จแล้วก็ขยิบตาให้ฉันก่อนจะแพลนก้องไปรอบๆ ก็มีแต่ผู้ชายจริงๆด้วยที่นั่งร่วมโต๊ะกับเขา คงจะเป็นเพื่อนเขานั่นแหละเพราะทุกครั้งก็จะเห็นกลุ่มนี้ประจำเวลาที่เขาโชว์ให้ดูผ่านกล้อง หน้าตาออกแนวอ้ปป้าแบบนั้น ดูละลานตาดีจัง ทำไมเพื่อนเขาถึงมีแต่คนหน้าตาดีดีเลยอ่า ><

" แล้วเมื่อไหร่พี่จะกลับไทยอ่ะ? "  ฉันเดินถือแก้วน้ำไปวางที่ซิงค์ล้างจาน ถือโทรศัพท์ส่องหน้าแล้วก็ถามเขา เขาไปทำงานที่เกาหลียาวตั้งหลายเดือนแล้ว

' อาทิตย์หน้ามั่ง ทำไมอ่ะ? คิดถึงพี่หรอ? '  เขาอมยิ้มถามออกมา สายตาก็จ้องมองเข้ามาหาฉันผ่านกล้อง บ้าจริง! ขนาดจ้องตาแค่ในโทรศัพท์แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเขามายืนอยู่ต่อหน้าเลยล่ะ แค่ในจอยังทำฉันเขินได้ขนาดนี้ ถ้าเจอกันจริงๆขึ้นมาจะเขินขนาดไหน

' เอ้า...ทำไมไม่ตอบ ถามว่าคิดถึงพี่หรือไง? '

" ................. "  เพราะฉันเขินมากก็เลยไม่ได้ตอบเขา เอาแต่ทำหน้านิ่งๆใส่กล้อง ทั้งที่จริงๆแล้วหน้าฉันมันร้อนผ่าวไปหมดเหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่หน้าเตาไฟเลยหละ

' ว่าไง....คิดถึงพี่หรือเปล่าหืม?? '

" แค่นี้แหละ ง่วง~ พริ้มจะนอนแล้ว ฝันดีนะคะ "

' เดี๋ยวดิพริ้ม!....... '  แล้วฉันก็กดตัดสายเขาไปเลย ส่งข้อความกับสติ๊กเกอร์ไปบอกฝันดีเขาอีกครั้ง ก่อนจะหลับตานอนหลับทั้งที่มุมปากอมยิ้มอยู่อย่างนั้น

" โอ้ยยยย ยัยบ้าพริ้มเพรา เลิกคิดถึงเรื่องเขาสักทีได้มั้ย!! มันผ่านมาตั้งนานแล้วนะ! "  ฉันส่ายหัวไปมาแรงๆอย่างหงุดหงิดกับตัวเอง เมื่อเผลอคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนอีกแล้ว

          ******* to be continued

เรื่องของน้องพริ้มเพรากับพี่กองทัพมันเป็นมายังไงกันล่ะเนี่ย ทำไมอยู่ๆน้องพริ้มของเราถึงได้ดูเหมือนจะโกรธพี่เขาขนาดนั้นล่ะคะ

         ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะจ๊ะ

 

 

กลับมารักครั้งนี้....ไม่มีพลาด Don't leave me Ep.3

 

 

Ep. 3

" เดือนหน้าไปเที่ยวเกาหลีกันมั้ยพวกมึง? "

" โห้ะ....มึงไม่ชวนวันเดินทางเลยอ่ะ?! อีกสี่วันก็เดือนหน้าแล้วเนี่ย! มาชวนกระชั้นชิดแบบนี้กูจะลางานได้มั้ยล่ะทีนี้~~ "

" ทำไมอยู่ๆก็ชวนเที่ยวเกาหลีอ่ะ? "  ฉันถามยัยเรนนี่ที่คิดอะไรขึ้นมาไม่รู้ถึงได้ชวนไปเที่ยวเกาหลี

" แฮะ แฮะ~ คุณสิงห์เขามีงานที่นั่นอ่ะ แต่เขาก็ไปทำงานนะ ส่วนเราก็ไปเที่ยวกันตามประสาไง นะๆ นานทีได้ไปอ่ะ เราไม่ได้เที่ยวกันนานแล้วนี่ "

" ก็น่าจะได้อยู่นะ ช่วงนี้กูอยู่ในช่วงลาพักร้อนพอดี "  ฉันพูดแล้วเหล่ตามองยัยเมษา

" เฮ้ยจริงดิมึง?! ไม่ได้แล้ว กูต้องลา! "

" แต่ดูท่าว่ายัยลมหนาวน่าจะไม่ได้ไปแน่เลย คุณแม่ลูกอ่อนเพิ่งคลอดไม่กี่เดือนเอง "  จริงด้วยสิน่าเสียดายจัง แต่ก็เข้าใจมันแหละ เพราะมันคงจะยุ่งอยู่กับลูกแฝด ขนาดอย่างตอนนี้พวกเรานัดกันทานข้าวมันยังมาด้วยไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับไปเกาหลี

" งั้น...เรากินข้าวเสร็จแล้วแวะไปหามันสักหน่อยมั้ยล่ะ? "

สี่วันต่อมา

สนามบิน

 

 

" อึอือ~ ไม่เอานะครับพี่เสือ ห้ามเล่นซนนะครับ กลับมานั่งที่เดิมเลยครับ... "  เด็กผู้ชายที่เพิ่งจะกระโดดลงจากตักแม่ แล้วทำท่าจะออกตัววิ่ง แต่ก็โดนแม่ห้ามเอาไว้ซะก่อนทั้งที่เพิ่งจะก้าวขาออกได้แค่ก้าวเดียว ก่อนจะหันมามองแม่ด้วยสีหน้าบึ้งตึง

" อือ~ หม่าม๊าอ่า พี่เสือจาวิ่ง วิ่ง วิ่ง " เด็กชายตัวน้อยก้มหน้าคอตกแล้วเริ่มจะงอแง

" พี่เสือครับ ดูนี่สิ น้าพริ้มมีอะไรเอ่ย~~ "  ฉันพูดแล้วก็คว้าเยลลี่ถุงเล็กยี่ห้อนิยมยี่ห้อหนึ่งออกมาจากกระเป๋า แต่ก็ไม่ลืมหันไปถามความเห็นจากพ่อแม่ของเด็กก่อน

" ให้กินได้มั้ยอ่ะมึง? "

" นิดหนึ่งก็ได้ พี่เสือครับ น้าพริ้มเอาเยลลี่ให้ลูกต้องทำยังไงครับ? "  เด็กน้อยตัวป้อมเดินมาใกล้ฉันก่อนจะยกมือพนมขึ้นไว้ตรงอก แก้มใหญ่ๆแดงๆนั่นมันน่าหยิกจริงๆเลยเชียว

" ขอบคุณคร้าบบ~~ "

" ^^ คร้าบ..เดี๋ยวน้าพริ้มแกะให้นะครับสุดหล่อ "  เมื่อได้ถุงเยลลี่ไปแล้วก็ยอมนั่งกินนิ่งๆ น่าเอ็นดูจริงๆเลยครับลูก มือเล็กป้อมๆหยิบเยลลี่สีส้มยื่นไปตรงหน้าแม่ ซึ่งยัยเรนนี่ก็อ้าปากงับกินเยลลี่ที่ลูกยื่นให้ด้วยรอยยิ้มทันที ก่อนที่เด็กชายตัวน้อยจะหยิบเยลลี่สีม่วงขึ้นมาแล้วเอาไปจ่อที่ปากผู้เป็นพ่อบ้าง แต่ก็ต้องมุ่ยหน้าลงเมื่อพ่อไม่ยอมกินของที่ตนยื่นให้สักที

" อา...อา...อ้าม~ ป๊ะป๊าอ้ามมม~~ "

งับบบบบ

" ฮ่าฮ่าๆๆๆ ฮ่ะๆ เอิ๊กๆๆ คิก~~ ป๊ะป๊าปล่อย ปล่อย~~ ปล่อยมือพี่เสือ ป๊ะป๊ากิงไม่ได้ อันนี้มือ..ไม่ใช่ของกิน โอเคมั้ย? "  สองพ่อลูกต่างหัวเราะขำกันเอิ๊กอ๊าก ฉันกับยัยเมษานั่งมองภาพครอบครัวน่ารักอบอุ่นนั้นยิ้มๆ ระหว่างที่เรากำลังรอขึ้นเครื่อง

ณ เมืองหลวง ประเทศเกาหลีใต้

เรามาถึงกันตั้งแต่เช้ามืด แล้วก็มีรถมารับจากสนามบินไปส่งที่โรงแรม ก่อนจะแยกย้ายกันพักผ่อนซึ่งฉันกับยัยเมษาก็พักห้องข้างๆกัน ส่วนยัยเรนนี่กับครอบครัวก็ได้ห้องที่อยู่อีกชั้นหนึ่งซึ่งใหญ่กว่าห้องของชั้นนี้เพราะเป็นห้องสไตล์ครอบครัว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ต้องเป็นยัยเมษาแน่นอน ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตู ตอนนี้เป็นเวลาตีห้ากว่าๆ ยังพอมีเวลาได้นอนพักบ้างก่อนที่จะออกไปหาทานมื้อเช้ากัน

" มึงไม่นอนหรือไง? "  พอเปิดประตูให้ปุ๊บฉันก็เอ่ยถามมันที่เดินไปนั่งบนเตียงฉันทันที

" ไม่นอนแล้ว กูนอนมาแล้วบนเครื่องไง "

" เออเน้าะ ลืมไปได้ยังไงเนี่ย ที่เสื้อกูเปียกก็เพราะน้ำลายมึงแท้ๆ นอนน้ำลายยืดขนาดนั้นคงไม่นอนต่อแล้วแหละเน้าะ "  ฉันแกล้งพูดใส่มันแล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำไปก่อนที่จะได้ยินเสียงโวยวายของมันตามมาทีหลัง

แอ๊ดดดดดดด

" มึงพูดจริงหรอ?! กูนอนน้ำลายยืดหรอพริ้ม~~~ " นี่มันยังไม่ลืมอีกหรอ ฉันว่าฉันก็อาบน้ำเกือบจะชั่วโมงเลยนะ แต่มันยังจำสิ่งที่ฉันพูดได้อยู่อีก

" แล้วมึงคิดว่าไงอ่ะ-_- ไหน!ขยับไปหน่อยดิ๊กูจะนอน "  เมื่อได้นอนแล้วฉันก็หลับตาลงทันที จะเช้าแค่ไหนฉันก็จะนอน จะเหลือกี่ชั่วโมงกี่นาทีฉันก็จะนอน

" มึง จำเพื่อนคุณสิงห์คนนั้นได้มั้ยอ่ะ ที่เป็นผู้กำกับอ่ะ มึงรู้ป่ะ...เนี่ยดูดิ เขาทำเอ็มวีให้หลายๆวงที่กูชอบเลยอ่ะ แล้วเขาก็ได้รางวัลผู้กำกับหนุ่มสุดเพอร์เฟ็กต์มาตั้งสามปีซ้อนแล้วนะ พริ้ม~ ดูๆๆ ลืมตาดูก่อนแป๊บเดียว "  มันเขย่าแขนฉันไม่หยุดจนฉันต้องลืมตาขึ้นมา ก่อนจะเห็นหน้าจอโทรศัพท์มือถือจ่ออยู่ตรงหน้า แล้วมันก็เป็นรูปของผู้ชายคนนั้นพร้อมกับประวัติแล้วก็ผลงานต่างๆมากมายของเขา ฉันขมวดคิ้วแล้วหันไปจ้องหน้ามันทันที

" ถ้ามึงจะส่อง มึงจะดู ทำไมไม่ไปเปิดดูที่ห้องมึงอ่ะ? กูจะนอน! "

พรึ่บบบ!!

" จำเป็นต้องอารมณ์เสียขนาดนั้นมั้ยอ่ะ อุตส่าห์เอาผู้ชายหล่อๆให้ดู เขาเป็นลูกครึ่งไทย-เกาหลี ด้วยนะมึง แต่พูดไทยชัดมากเลยเนอะ "  ฉันพลิกตัวนอนหันมาอีกทางขนาดนี้ก็ยังได้ยินเสียงมันพูดถึงเขาไม่หยุดสักที น่ารำคาญที่สุดเลย ฉันต้องนอนหลับตานับลมหายใจเข้า-ออก ตั้งหลายรอบกว่าจะหลับได้

ร้านอาหาร

" พวกมึง..เสร็จแล้วไปเดินดูของย่าน Myeongdong (เมียงดง) กันมั้ย? "  ยัยเรนนี่เสนอขึ้นมา ดีเลยฉันอยากไปเดินดูเครื่องสำอางสักหน่อย

" ไปๆๆๆ กูอยากไปดูแผ่นมาร์กหน้าด้วยอ่ะมึง "

" จะดีหรอที่รักพาลูกไปด้วยอ่ะ คนเยอะนะ "  คุณสิงห์ค้านขึ้นมาเพราะคงเป็นห่วง แต่มันก็คนเยอะจริงๆนั้นแหละ

" เดี๋ยวพวกเราช่วยดูให้เองค่ะ คุณสิงห์วางใจ หายห่วงได้เลย^^ "  ยัยเมษาพูดขึ้นแต่ฉันเห็นด้วยกับมันนะ:D คุณสิงห์ไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องทำงาน เพราะฉะนั้นก็จะมีพวกเราสามคนแล้วก็พี่เสือ

" แต่เย็นนี้ไปกินข้าวกับไอ้กองทัพแล้วก็กลุ่มเพื่อนของมันนะ นัดกันไว้แล้ว "

" คุณกองทัพและเพื่อนๆหรอคะ?! ^^ "  ยัยเมษาร้องถามเสียงตื่นเต้น คงหวังจะได้เจอกลุ่มนักร้องไอด้อลอะไรของมันล่ะสิ

" ครับ น้องเมษากับน้องพริ้มก็ไปด้วยกันนะ รู้จักกันอยู่แล้วหนิกับไอ้กองทัพอ่ะ คนกันเองทั้งนั้น "  เวลาที่คุณสิงห์พูดทำไมต้องมองหน้าด้วยสายตาแบบนั้นด้วยล่ะ เหมือนเขารู้เรื่องอะไรบางอย่าง

ครืดดดดดด

" จะไปแล้วหรอคะ? " เมื่อเห็นว่าสามีขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ยัยเรนนี่ก็รีบถามทันที

" ใช่ เดี๋ยวเขารอนาน ป๊าไปก่อนนะครับพี่เสือ เดี๋ยวตอนบ่ายป๊าจะกลับมาพาไปกินไอติม พี่เสืออยู่กับหม่าม๊าอย่าดื้อนะครับ ห้ามดื้อกับน้าพริ้มแล้วก็น้าเมษาด้วย อย่าทำให้สาวๆปวดหัวโอเคมั้ยครับคนเก่งของป๊า "  ฉันกับยัยเมษานั่งเงียบมองดูครอบครัวสามพ่อแม่ลูกตรงหน้าจุ๊บแก้มลากัน ' ฉันต้องไปด้วยงั้นหรอ ถ้าไปก็ต้องได้เจอหน้าเขาแน่นอน มีวิธีไหนบ้างนะ ที่ทำให้ฉันได้นอนแช่อยู่ห้องจะได้ไปต้องไปเจอเขาให้อึดอัด '

 

 

       ******** to be continued

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!