----SPY Talk----
"อากาศดีเหมาะกับการเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัยจริงๆ"
วันนี้เป็นวันแรกในการเริ่มกิจกรรมในมหาวิทยาลัยของผมกิจกรรมรับน้องแสนน่าสนุก ผมจะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ สาวๆรุ่นพี่สุดสวย วันนี้ผมจะต้องสแกนหาหน่อย แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว
"มึงจะยืนยิ้มอีกนานไหมครับคุณหนูสปาย" ไอ้ไวน์เพื่อนสนิทของผมเอง มันอยู่กับผมตลอดตั้งแต่ม.4 หน้าตาดีใช้ได้ สูงกว่าผมนิดหน่อย จริงๆผมมีเพื่อนสนิทอีก 2 คน แต่เรียนคนละคณะกันเลยจะไม่พูดถึงตอนนี้
"คุณหนูพ่องง.." ผมตอบกลับด้วยเสียงหงุดหงิด มันชอบเรียกผมว่าคุณหนู เพราะอะไรน่ะเหรอ เหอะ! มันบอกว่าผมอ่ะหน้าสวยเหมือนผู้หญิง แถมยังตัวบางร่างเล็ก ผมสูง 178 หนัก 67 อาจจะดูเตี้ยไปหน่อยสำหรับผู้ชาย แต่มันก็เกณฑ์มาตรฐานนะคร้าบบ
"ไปๆ พี่เขาเรียกแล้ว มึงไปช้าโดนทำโทษนะเว้ย" มันพูดขึ้นก็ทำผมคิดได้ พี่ๆแม่งหน้าโหดๆกันอยู่
"เออหว่ะ รีบสิวะรอไร" พูดจบผมก็รีบไปยังจุดที่พี่ๆเขาเรียกทันที..
พวกเราเข้ามานั่งตามแถวที่พี่ๆเขาจัดให้เป็นแถวตอนลึก 5 แถว แถวละ 10 คน สงสัยไหมครับทำไมน้อย เพราะว่ามหาลัยนี้เป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงและดังมากๆ เป็นมหาลัยลูกคุณหนูผู้มีชาติตระกูล แถมยังสอบเข้ายากบรม จึงทำให้แต่ละปีมีนักศึกษาแค่ไม่กี่คน แต่ก็เป็นสถานที่รวมหัวกะทิผู้มีตังค์ของประเทศทั้งนั้น...
"กิจกรรมวันนี้ไม่มีอะไรมากนะฮะ พี่จะให้น้องๆไปขอลายเซนต์รุ่นพี่ให้ได้เยอะที่สุด ภายในเวลา 3 ชม. ถ้าหากใครได้ไม่ถึงครึ่งของจำนวนรุ่นพี่ปี 2 จะโดนลงโทษนะฮะ" รุ่นพี่ผู้ชายคนนึงพูดขึ้นซึ่งดูเหมือนจะเป็นพี่ว๊ากและมีความสาว นิดๆ
"แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าเนอะ เริ่มจากพี่ๆปี 2 ละกัน พี่ชื่อเปรมมี่..."
'กรี๊ดดด อร้ายยย'
'แกๆ พี่คนนั้นดูดีมากเลยยย'
'อร้ายย พ่อของลูก ><'
'นั่นมันแก๊งค์เทพบุตรชัดๆ >///<'
ในขณะที่พี่เปรมมี่กำลังพูดนั้นก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดจากพวกสาวๆปี 1 ดังขึ้นเพราะมีนักศึกษากลุ่มนึงเดินเข้ามาทำให้ทุกสายตาจับจ้องไปยังผู้มาใหม่... และเมื่อผมหันไปมอง
โอ้วววพระเจ้า ท่านช่างไม่ยุติธรรม ดูสิกลุ่มคนหล่อ 5 คน แต่เอ๊ะ มีคนนึงหน้าสวยหวานสุดๆ ซึ่งเดินมายังกับบอยแบนด์ แต่ละคนคงน่าจะสูง 180 อัพทั้งนั้น TT แถมหน้าตาก็หล่อวัวตายควายล้ม โดยเฉพาะไอ้คนหน้านิ่งๆหลังสุด หน้าตาดูแบดๆ ปากคล้ำนิดๆ คงจะชอบสูบบุหรี่ ผิวสีแทนดูสุขภาพดี ดวงตาสีดำที่น่าหลงไหลเมื่อได้สบตา ถึงผมจะกล้าพูดได้เต็มปากว่าผมก็หล่อ...แต่เมื่อเจอแก๊งค์นี้เข้าไป ความมั่นใจก็ลดไปเกือบครึ่งเหมือนกัน
"น้องๆ อยู่ในความสงบด้วยครับ" พี่เปรมมี่พูดขึ้นแต่ก็ยังไม่มีคนสนใจ
'ฉันอยากรู้จักเขาอ่ะแกร'
'อร้ายยย ดูดีๆก็หล่อทุกคนเลยอ่ะ'
"เงียบๆหน่อยครับ!" พี่เปรมมี่เริ่มขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ยังไม่มีใครสนใจจะฟัง
'ฉันรู้จักพี่คนนั้นชื่อซีเนียร์ เดือนมหาลัยปีที่แล้วอ่ะแกร'
'ใช่ๆ ฉันก็เคยเห็นในเพจมหาลัยเหมือนกัน'
'กรี้ดดดด ตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีก'
'งานดีสุดๆอ่ะ ><'
"พวกมึงจะหุบปากกันได้รึยังวะ!!!" พี่เปรมมี่ตวาดลั่นจนทั่วทั้งบริเวณเงียบกริบ ทุกคนต่างกำลังอึ้งเมื่อเจอเสียงที่ 1 ของพี่เปรมมี่
"อุ้ยย เมื่อกี้ใครพูดนะ" พี่เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปากและกลับมาใช้เสียง 2 เมื่อได้สติคืนกลับมา
"เอาล่ะ งั้นให้พี่ๆแนะนำตัวกันก่อนนะครับ เอาล่ะพี่ๆปี 2 มาเข้าแถวหน้ากระดานแนะนำตัวให้น้องๆรู้จักกันก่อนเร็ว" พวกรุ่นพี่ต่างมายืนต่อหน้าแถวของพวกเราปี 1
"พี่ชื่อ..กัปตัน ยินดีที่ได้พบน้องๆทุกคนนะครับ"
"พี่ชื่อปริม มีอะไรสงสัยถามได้นะคะ"
"พี่ชื่อเจมส์ครับ ปกติพี่เป็นคนใจดีนะ แต่อย่ามาทำพี่โกรธเดี๋ยวเจอโหมดเจมส์พนม"
"พี่ชื่อ..." รุ่นพี่ต่างแนะนำตัวไปเรื่อยๆจนถึงกลุ่มของเทพบุตรสุดแบดเป็นกลุ่มสุดท้าย
"ไลเกอร์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก" หนุ่มตัวสูงผิวขาว หน้าตาดูทะเล้นๆพูดขึ้น
"อะตอมคร้าบบ เรียนไม่ยุ่งมุ่งแต่โดด" เห้ออ.. แบบนี้ใครได้เป็นพี่รหัสคงต้องนอนทุกข์ใจไปสามวัน 5555
"พี่ชื่อเธียเตอร์น้าา มีอะไรคุยกับพี่ได้ครับ ^^ " พี่คนหน้าสวยเพียงคนเดียวในกลุ่ม และน่าจะสูงน้อยที่สุดด้วย (แต่น่าจะมากกว่าผมสัก 2-3 cm)
"ชื่อ..ซันชายน์ ฝากตัวด้วย" หนุ่มหล่อหมาดขรึมหน้าตาดูดิบเถื่อนด้วยสายตาดุๆ ชอบยิ้มมุมปาก เหมือนมีแผนอะไรอยู่ในหัวตลอดเวลา...
"ซีเนียร์" และก็หนุ่มหน้าหล่อคนสุดท้าย พูดน้อยมากแต่กระแสตอบรับคือ...
'กรี้ดดด ใจละลาย'
'ชอบแบบนี้ อร้ายยย'
เอิ่ม... ก็ประมาณนี้ จากนั้นก็ถึงตาน้องๆปี 1 แนะนำตัว ซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ จนกระทั่งถึงตาผม
"ผมชื่อสปาย ฝากตัวด้วยครับ" ผมยิ้มและไล่กวาดตามองรุ่นพี่แต่ละคนอย่างผ่านๆพี่จู่ๆผมก็เผลอหันไปสบตาเข้ากับซีเนียร์ ซึ่งมันก็มองผมอยู่เหมือนกัน แวบนึงผมเห็นมันยิ้มมุมปาก แต่แค่แวบเดียวจริงๆผมจึงไม่รู้ว่าตาผมฝาดไปหรือเปล่า
"ผมไวน์ครับ... ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะครับ" ไวน์เป็นคนสุดท้ายของปี 1 และเมื่อแนะนำตัวกันครบพี่ๆก็ปล่อยให้เราไปล่าลายเซนต์พี่ๆ 3 ชม. ซึ่งแบบ... มันเป็นอะไรที่ใช้พลังงานเยอะมาก เพราะกว่าจะได้ลายเซนต์ของพี่แต่ละคนน้ำตาแทบไหล อาทิเช่น ให้เต้นไก่ย่างบ้าง บอกรักดอกไม้บ้าง ผมนี่โดนให้ไปแนะนำตัวกับต้นไม้! ของไอ้ไวน์เป็นจักรยาน ซึ่งแต่ละคนก็วิ่งก็ให้วุ่นเชียวล่ะ
เมื่อครบเวลาตามที่พี่เขากำหนด เราก็กลับมานั่งเข้าแถวตามเดิม...
"เอาล่ะฮะ ตอนนี้พี่จะแจกกระดาษคำใบ้ของพี่รหัสให้นะ" พี่เปรมมี่บอก และนี่แหละกิจกรรมที่ผมรอคอย >< ผมอยากได้พี่รหัสสวยๆ แบบพี่ปริมจัง หรือจะพี่ผู้หญิงขาวๆน่ารักๆก็ได้ ขอเถอะ ขอให้เป็นผู้หญิงงงง!
"น้องๆต้องตามหาพี่รหัสจากคำใบ้ที่พี่ให้ไปนะฮะ แล้วเราจะมาเฉลยกันในวันสุดท้ายของกิจกรรมรับน้อง" แล้วพี่เจมส์ก็เดินถือกล่องใส่คำใบ้มาให้พวกปี 1 จับ ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือยังไงที่ปี 1 กับปี 2 มีจำนวนเท่ากัน ฉะนั้นจึงไม่มีปัญหามากในการจับสายรหัส อ้อ ลืมบอกไป พี่ปี 3-4 ที่ไม่โผล่มาเลยเพราะว่า พี่ๆเขาติดกิจกรรมค่ายของมหาลัย จึงมาร่วมกิจกรรมรับน้องไม่ได้ จึงเหลือพวกปี 2 จัดกิจกรรมกันเอง ซึ่งก็ถือว่าเป็นโชคดีของผมไปเพราะได้ข่าวว่าพี่ปี 3 โคตรโหด
เมื่อพี่เปรมเดินมาถึงผม ผมก็ได้แต่อธิษฐานในใจขอให้ได้พี่รหัสเป็นผู้หญิงสวยๆน่ารักๆ หรือถ้าจะซวยหน่อยก็ขอให้ได้พี่ผู้ชายแต่พึ่งพาได้ เฟรนลี่ๆ แบบพี่กัปตัน ถ้าจะโชคร้ายได้พี่ที่ไม่สนใจสายรหัสก็ได้ แต่ขออย่างเดียวอย่าบรมโชคร้ายได้พี่รหัสในกลุ่มเทพบุตร 5 ท่าน สาธุ!!!
"เอิ่มม น้องฮะ จะจับได้ยัง เพื่อนเขารออยู่นะ" พี่เปรมมี่บ่นเบาๆ ผมจึงเอื้อมมือไปจับคำใบ้มาหนึ่งในสองใบที่เหลือ(ผมนั่งแถวสุดท้ายรองคนสุดท้าย) ผมยังไม่เปิดดูหรอก ขอทำใจแปบนึง และพี่เปรมมี่ก็จับคำใบ้สุดท้ายให้ไอ้ไวน์ที่นั่งหลังผม
"ได้คำใบ้ว่าไงวะ" ไอ้ไวน์สะกิดไหล่ถามผม
"ของมึงอ่ะ" ผมถามมันกลับ มันก็ยื่นให้ผมดู
'ธีรภัทร อธินารายณ์'
"สงสัยจะเป็นชื่อจริง คงหาไม่ยากหรอก" ถึงตอนนี้จะไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะเรารู้เพียงชื่อเล่นของพี่ๆ แต่ก็คงหาไม่ยาก บอกสะขนาดนี้แล้ว หาไม่เจอคงไม่รู้จะว่าไงแล้ว
แล้วผมก็ค่อยๆแง้มเปิดกระดาษคำใบ้ของผมบ้าง
"เหี้ยยยย!!" ผมถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง จนคนรอบข้างๆหันมามองกันเป็นตาเดียว ผมจึงรีบเก็บอาการทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"เอะอะทำไมวะ" ไอ้ไวน์ถามผมเสียง งงๆ
ผมจึงยื่นคำใบ้ให้มันดู แม่งเอ้ยยย ทำไมดวงซวยแบบนี้วะเนี่ยยย
'ซีเนียร์'
"กูว่าของกูง่ายแล้วนะ ของมึงแม่งไม่ต้องหาไรเลย" มันพูดเสียงเรียบ
"มึงรู้ไหม กูขอให้ไม่ได้กลุ่มนั้นเป็นพี่รหัส" ผมบอกมันไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ทำไมวะ"
"มึงดูสิ แต่ละคนแม่ง...โคตรดูดีจนน่าหมั่นไส้แถมยังไม่ใช่ผู้หญิงด้วยย กูต้องการพี่รหัสผู้หญิง หรือคนธรรมดาๆที่ไม่ได้เปล่งออร่าเทพบุตรแบบพวกนั้น" ผมก็พอคิดไว้แล้วแหละว่ามีโอกาสน้อยที่จะได้พี่รหัสผู้หญิง เพราะปี 2 มีผู้หญิงแค่ 10 กว่าคน ต่างกับปี 1 ที่มีผู้หญิงเกือบครึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้คิดว่าในจำนวน 50 คน ผมจะเป็นผู้ถูกแจ๊คพ็อตได้พี่รหัสอยู่ในกลุ่ม 5 คนนั้น ผมเชื่อว่ามีหลายๆคนอยากได้พวกเขา จากเสียงที่ได้ยินอยู่ข้างๆ
'แก ฉันอยากได้พี่ซีเนียร์เป็นพี่รหัสอ่า'
'ฉันก็อยากได้ใครสักคนในกลุ่มนั้นอ่ะแก'
หึหึ ถ้าคิดตามความเป็นจริงผมว่าถ้าพี่มันได้ผู้หญิงเป็นน้องรหัสจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นคงถูกผู้หญิงคนอื่นอิจฉาจนอาจจะโดนลอบเชือดก็ได้ เอาเถอะ อย่างน้อยถ้าผมได้มันเป็นพี่รหัสก็คงมีผู้หญิงเข้ามาหาผมบ้างแหละพี่แกออกจะฮอตสะขนาดนั้น และผมเป็นผู้ชายคงไม่มีผู้หญิงตามรังควานหรอก!!
"เอาเถอะ ว่าแต่เย็นนี้ไปดื่มกันไหมวะ" ไอ้ไวน์มันชอบชวนผมไปดื่มเป็นเพื่อนเป็นประจำตอนไปก็ไปด้วยกันอยู่หรอก แต่พอตอนกลับ แม่งหิ้วผู้หญิงไปด้วย และความลำบากก็ต้องตกมาอยู่ที่ผม ที่ต้องหาวิธีกลับเอง!! ถ้าถามว่าทำไมผมไม่เอารถไป เพราะว่าผมโดนยึดรถมา 4 เดือนแล้ว โดยคนยึดคือท่านแม่ผมเอง เพราะผมดันไปสร้างวีรกรรมไว้ที่สนามแข่ง จนโดนพ่อ(ตำรวจ)เรียกเข้าโรงพัก ก็นะตามประสาวัยคะนอง เรื่องชกต่อยก็มีเป็นธรรมดา
"เออๆ ก็ดีเหมือนกัน เครียดๆอยู่เนี่ย" ก็เรื่องพี่รหัสนั่นแหละ มันจะมีผู้ชายที่ไหนอยากเข้าใกล้คนที่หน้าตาดีกว่าตัวเองมั่งวะ
"หึหึ" มันคงเอือมระอากับความคิดไร้สาระของผม แต่มันก็จริงนี่หว่า คนตัวสูงแบบมันจะเข้าใจผมไหมล่ะ
---Z-CLUB---
ผมกำลังนั่งหน้าบึ้งอยู่ในโซนนั่งดริ้งของสถานบันเทิงชื่อดังไม่ใกล้ไม่ไกลจากมหาลัย โลกมันกลมหรือพระพรหมเล่นตลกผมก็ไม่ทราบ ตอนแรกก็กะว่าจะมานั่งดื่มชิลล์ๆ มองสาวๆไปเพลินๆ แต่ต้องมาเจอกับคนที่ไม่คาดว่าจะเจอแบบ ซีเนียร์ อย่าถามนะครับว่าทำไมผมถึงดูอคติกับเขาจัง ก็ดูเอาเถอะแค่มันหล่อกว่ายังไม่พอ แถมตอนนี้สาวๆสวยๆกลับกำลังนัวเนียใกล้ๆตัวมันสะยั้วเยี้ยอ้อมหน้าอ้อมหลังยังกะการ์ตูนฮาเร็ม ตัดภาพมาที่ผม กำลังนั่งดื่มกับเพื่อน 4 คน เพราะสาวๆต่างไปรุมล้อมไอ้ผู้ชาย 5 คนโต๊ะตรงข้ามสะหมด
"เป็นไรวะ ทำหน้ายังกะมีคนไปฆ่าหมามึงอย่างนั้นแหละ" เอเดน เพื่อนสนิทของผมอีกคนเอ่ยขึ้น ตอนแรกไอ้ไวน์ชวนผมมากันเองแค่สองคน แต่ผมกลัวโดนมันทิ้งอีก ผมเลยโทรเรียก เอเดน และ อีฟ มาด้วย เอเดนมันก็เป็นผู้ชายกวนตีนๆ ห่ามๆหน่อย หน้าตาก็ดูดี และมันก็สูงกว่าผมอีกนั่นแหละ ส่วนอีฟ เป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม มันเป็นน้องของเอเดน ถึงมันจะสวยเปรี้ยวตามแบบฉบับสาวห้าวแต่มันก็แมนเหมือนผู้ชาย (มันเป็นเลสเบี้ยนครับ) ทั้งสองคนเรียนวิศวะแต่คนละสาขากันนะ
"จะอะไรล่ะ มันก็อิจฉาผู้ชายโต๊ะตรงข้ามไง พูดก็พูดเถอะ กูก็ชักหมั่นไส้ละ" อีฟเอ่ยขึ้นแบบไม่สบอารมณ์
"มึงเห็นไอ้หน้าหล่อขวาสุดไหม นั่นละพี่รหัสกู" ผมเอ่ยเสียงติดหงุดหงิด
"เห้ยย จริงดิ!" อีฟเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ
"นั่นมันพี่ซีเนียร์ เดือนมหาลัยปีที่แล้วนี่"
"เอาน่า พวกมึงจะพูดถึงเขากันทำไม จะแดกไหมเหล้า เดี๋ยววันนี้กูเลี้ยงเอง" ไวน์พูดขึ้น สงสัยมันเริ่มจะรำคาญพวกผมแล้ว
"งี้สิไวน์เพื่อนรัก" เอเดนเอ่ยพร้อมกับเลื่อนมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ
"ชักอารมณ์ดีแล้วสิ" อีฟยกยิ้มอย่างชอบใจเพราะปกติไอ้ไวน์มันไม่เลี้ยงใครหรอก หายากนะเนี่ยมันเอ่ยปากบอกว่าจะเลี้ยงทั้งที่ไม่มีใครขอ
.
.
.
Rrrrrr Rrrrrr
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของเอเดนก็ดังขึ้น มันเลยลุกออกไปคุยที่อื่นเพราะตรงนี้เสียงเพลงดังเกินไป
ไอ้ไวน์ก็หายหัวไปไหนแล้วไม่รู้ สงสัยหิ้วผู้หญิงอีกแน่ๆ ไอ้นี่มันไว้ใจไม่ได้ เห้อออ
"ทำไมไม่มีผู้หญิงเข้าหากูมั่งวะ" ผมบ่นอย่างเซ็งๆ
"ใครมันจะอยากคบกับผู้ชายที่สวยกว่าตัวเองล่ะ ฮ่าๆ" อีฟมันเอ่ยล้อผม
"มึงยังคบกูเป็นเพื่อนได้ตั้งนานนิ"
"ก็เพื่อนไง แต่เอาจริงๆ ถ้ากูไม่ได้ชอบผู้หญิง กูก็ไม่เข้าใกล้มึงเหมือนกันอ่ะ 5555"
"โห่ ไอ้เพื่อนเวร" อาจจะดูหยาบคายที่สบถแบบนี้ต่อหน้าผู้หญิงแต่เชื่อเถอะ ไอ้อีฟมันไม่สะทกสะท้านหรอกครับ
"เห้ย อีฟ แม่ตกบันไดเข้าโรงพยาบาล รีบไปเถอะ"
เอเดนรีบวิ่งเข้ามาดึงแขนอีฟออกไป
"อ้าว.. แล้วกูล่ะ" ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยยยยยย
ตอนนี้ก็เริ่มดึกแล้วด้วย แถมเพื่อนยังทิ้งกูหมด จู่ๆผมก็หันไปทางโต๊ะตรงข้าม ก็พบว่าหนุ่มหล่อบางคนก็หายไปแล้ว แต่ซีเนียร์มันยังอยู่และมันมองมาทางนี้ด้วย!!! มองอะไรของมันวะ ตอนนี้ผมจึงคิดว่าควรกลับแล้วเพราะผมเริ่มมึนๆและไม่สนุกแล้วหากจะอยู่ต่อ ไปโบกแท็กซี่กลับก็ได้วะ ไอ้ไวน์มันไปจ่ายตังไว้แล้ว แถมมันยังจ่ายเกินจำนวนด้วย เพราะมันคงรู้ว่ามันต้องหายไปก่อนพวกผมจะหยุดกินมันเลยจ่ายเผื่อไว้สะเยอะ เออดี มันรวย ให้มันเลี้ยง!
เมื่อผมเดินมาถึงหน้าร้าน ผมล้างกระเป๋าดูก็พบว่ากระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ไม่อยู่แล้ว ผมจึงเดินกลับเข้าไปดูที่โต๊ะอีกที ก็ไม่เจอ!! ผมจะทำไงดีวะเนี้ยยย
"นี่มันเด็กปี 1 คณะบริหารธุรกิจนี่นา" จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่ผมนั่งหัวเสียอยู่ม้านั่งหน้าร้าน และเมื่อผมหันไปมองก็พบว่าเขาคือ...
"ซีเนียร์?" ใช่ครับมันคือไอ้ผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นแหละ แถมข้างๆมันยังมีผู้หญิงสาวสวยควงมาด้วยอีกคนนึง
"แล้วมึงมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ"
"เรื่องของกูครับ" ผมคงไม่จำเป็นต้องเคารพมันหรอก ไม่ชอบหน้า - -
"หืม? มึงพูดกับรุ่นพี่แบบนี้หรอ" มันเอ่ยถามเสียงเรียบ
"กูก็แบบนี้แหละ" ผมตอบกลับแบบเซ็งๆ วันนี้มันวันอะไรของกูวะ เจอแต่เรื่องบัดซบ
"เธอกลับไปก่อน" มันหันไปบอกผู้หญิงข้างๆตัวเองเสียงเรียบ
"ไหนบอกว่าจะพาแนนนี่ไปต่อยังไงละคะ" ผู้หญิงที่แทนตัวเองว่าแนนนี่พูดเสียงอ่อย แล้วยกมือข้างหนึ่งมาลูบไล้อกของซีเนียร์ เห็นแล้วรู้สึกขัดตาชะมัด
"กูบอกให้กลับไปก่อน!" ซีเนียร์พูดเสียงกร้าวแล้วปัดแขนของแนนนี่ทิ้ง หญิงสาวถึงกับหน้าซีดแต่ต้องยอมเดินออกไปอย่างหัวเสีย ผมได้แต่มองอย่างงงๆ
ซีเนียร์มันนั่งลงข้างๆผม ยกขาขึ้นไขว้ห้างสบายๆ
"แล้วคุณมึงจะมานั่งทำไมตรงนี้ครับ" ไม่เข้าใจจริงๆเขาต้องการอะไร
"อยากนั่ง" มันตอบหน้าตาย
"ทำไมกูต้องได้พี่รหัสแบบนี้ด้วยวะ" ผมบ่นเบาๆ แต่คงเบาไม่พอเพราะไอ้คนข้างๆนี่มันเลิกคิ้วขึ้นแล้วหันมามองหน้าผมที่หันข้างมันให้มันอยู่
"มึงว่าไงนะ?" มันถามย้ำอีกครั้งเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อที่ผมพูด แต่เอาวะยังไงมันก็ต้องรู้ จะบอกตอนนี้หรือตอนไหนก็เหมือนกัน
"มึงเป็นพี่รหัสกูไง" พร้อมพูดพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเอากระดาษคำใบ้ขึ้นมา ผมเก็บติดตัวไว้เพราะกลัวหาย พี่เปรมมี่บอกว่าถ้าใครทำหายจะโดนลงโทษ
"หึหึ แล้วก็ไม่บอกละครับคนสวย" มันพูดยังไม่พอยังเอามือมาโอบไหล่ผมอีก เห้ออ และผมก็ดันไม่ปัดออก!
"กูหล่อเถอะ" ผมตอบเสียงเซ็งๆ ยังไงผมก็ผู้ชายนะไม่ได้อยากโดนชมว่าสวยสะหน่อย
"มึงเชื่อเถอะว่ามึงสวย สวยกว่ายัยเมื่อกี้อีก" มันพูดพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก พอมันพูดแบบนี้ผมก็รู้สึกใจเต้นนิดๆ แล้วมึงจะใจเต้นเพราะคำพูดผู้ชายทำไมวะ กูไม่ได้สวย! กูหล่อ! แต่สักพักผมก็นึกได้ ไหนๆมันก็เป็นพี่รหัสผม งั้นขอใช้มันหน่อยละกัน
"นี่... มึงไปส่งกูหน่อยสิ" ผมพูดไปตรงๆ ผมเป็นน้องรหัสมันนะมันจะไม่ช่วยผมหน่อยหรอ
"นี่วิธีขอความช่วยเหลือของมึงหรอ" มันตอบกลับมาเสียงเรียบแล้วยกมือที่โอบผมอยู่ออกไป
"จะให้กูพูดไงอ่ะ กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์กูหาย กูเลยกลับคอนโดไม่ได้เนี่ย" ผมเริ่มเซ็งๆละนะ ถ้ามันยอมช่วยผมดีๆผมอาจจะมองมันในทางที่ดีขึ้นก็ได้
"อย่างน้อย...มึงก็ควรเคารพกูบ้างนะครับ" มันพูดเสียงจริงจัง
"เห้ออออ" ผมได้แต่ถอนหายใจ นี่ผมต้องพูดดีๆกับมันจริงๆหรอ มันรู้สึกกระดากปากแปลกๆ คือพูดแบบกูมึงไปแล้ว จะให้มาพูดดีๆมันก็ทำใจยากว่ะ ยิ่งคนกวนๆแบบมันนะ โอ้ยยยย
"งั้นกูไปนะ" มันพูดแล้วทำท่าจะลุกออกไป ผมจึงต้องดึงแขนมันไว้ มันหันกลับมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้น ประมาณว่าจะพูดขอดีๆไหม? ผมจึงได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพูดออกไปว่า...
"..พี่ซีเนียร์ครับ ช่วยไปส่งผมทีนะครับ" พร้อมกับทำหน้าอ้อนวอน ส่งสายตาประมาณว่า กูขอไปด้วยๆๆๆ
พี่มันเงียบเลยครับ แล้วหันหน้าหนีไป อ้าว? สรุปที่กูอ้อนนี่ไม่ได้ผลหรอ แต่ปกติกูใช้กับไอ้ไวน์มันได้ผลนะเห้ยย
"..ตามมาสิ.." มันพูดแล้วดึงข้อมือผมให้ตามหลังมันไป แต่มันก็ยังไม่ได้หันกลับมามองผม ผมจึงไม่รู้ว่า...แท้จริงแล้วคนที่กำลังจับข้อมือผมอยู่นั้นกำลังใจเต้นกับคำพูดและท่าทางของผม.....
.
.
.
To be continue ...
#จบลงไปแล้วกับตอนแรก เป็นยังไงกันบ้าง ตอนแรกๆไรท์อาจจะเอ๋อๆหน่อยน้าา 5555
#หากไรท์พิมพ์คำผิดก็ขออภัยด้วยจ้า
#คอมเมนท์ติชมกันได้เลยน้าา แต่ถ้าหากไม่สนุกหรือไม่พอใจตรงไหนอย่าว่าเค้าแรงหน้าา เค้าใจบาง
#หากชอบอย่าลืมติดตามกันต่อไปนะค้าา
----SENIOR Talk----
เมื่อกี้ผมเผลอเขินไปกับท่าทางและน้ำเสียงของผู้ชายที่ดูจากหน้าตาภายนอกแล้วสวยมาก คงเพราะก่อนหน้านั้นสปายมันใช้กูมึงกับผม พอจู่ๆมาเปลี่ยนคำพูดกระทันหันผมอาจจะแค่ไม่ชินเลยเผลอใจเต้นไปบ้าง..คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง...
หลังจากที่ผมลากสปายให้ตามมาจนถึงลานจอดรถ VIP ของคลับ คลับนี้เป็นคลับของไอ้ซันชายน์เพื่อนผมเอง และเมื่อมาถึงรถแล้วสปายรู้ว่าเป็นคันไหนก็เกิดอาการแบบว่า...
"โหวว คันนี้หรอ" มันทำหน้าอึ้งๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็น Lamborghini Veneno Roadster สีแดงลูกสุดที่รักของผม
"ชอบไหมล่ะ" ผมยกยิ้มมุมปาก ใครจะไม่ชอบล่ะ นี่มันรถที่ผลิตออกมาเพื่อฉลองก่อตั้งแบรนด์ครบ 50 ปี เพียง 9 คันในโลกเชียวนะ
"กูก็พอได้ยินมานะว่ามึงรวย แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้อ่ะ" มันหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอิจฉาเล็กน้อย
ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับสายตาระยิบระยับตอนมองรถเหมือนเด็กไร้เดียงสาเห็นของเล่นใหม่ จนผมย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในรถ มันยังไม่ขึ้นมาเลย ทิ้งสะดีไหมเนี่ยย....
"มึงจะยืนลูบรถอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม รีบขึ้นมาสิ" ผมพูดออกไปเสียงเพลียๆ คงจะชอบรถผมมากสินะ อะไรว้าา ผมน่าสนใจน้อยกว่ารถนี่งั้นหรอ ตอนมองผมละทำหน้ารำคาญ เหอะ!
"แล้วจะให้กูไปส่งที่ไหนล่ะ" ผมถามออกไปตอนที่สปายขึ้นมาและผมกำลังจะเคลื่อนรถออกจากคลับ
"ไปส่งที่คอนโด Double Z" อ่า... ชักน่าสนุกแล้วสิ
"มึงพักอยู่ที่นั่นหรอ"
"ก็..ใช่"
"มันคนละทางกับคอนโดกูเลยนะนั่น" ผมบอกออกไปเสียงจริงจัง
"ยังไงมึงก็ต้องไปส่งกูนะเว้ย" มันหันมาบอกผมเสียงแข็ง
"เออๆ รู้แล้วน่า" หึหึ.... ผมตอบรับแล้วขับรถมุ่งสู่จุดหมายทันที
.
.
.
*คอนโด Double Z*
"ขอบใจนะที่มาส่ง" มันพูดแล้วเดินลงจากรถไป พอลับสายตา ผมก็ขับรถเข้าไปจอดในลานจอดรถประจำของผมเองซึ่งมีแค่ผมเท่านั้นที่จอดได้... หึหึ
เมื่อจอดรถเสร็จแล้วผมก็เดินเข้ามาในคอนโด ก็พบพนักงานต้อนรับยังทำหน้าที่อยู่ที่เคาเตอร์
"สวัสดีค่ะท่านประทาน" พนักงานสาวร่างบางเอ่ยทักทายผมด้วยท่าทางอ่อนน้อม ทั้งๆที่เธอน่าจะอายุเยอะกว่าผมสัก 2-3 ปี ด้วยซ้ำ
"คุณเห็นเด็กผู้ชายผิวขาวๆหน้าหวานๆที่เข้ามาเมื่อกี้ไหม"
"เห็นค่ะ" เธอตอบพร้อมกับทำหน้าเหมือนสงสัยว่าผมถามถึงทำไม
"เช็คให้หน่อยว่าอยู่ห้องไหน"
"สักครู่นะคะ.." ผมยืนรอคำตอบอยู่หน้าเคาเตอร์ด้วยความใจเย็น
อ้อ ผมลืมบอกไปสินะ ว่านี่คือคอนโดที่ผมกับพี่ชายผมช่วยกันสร้างขึ้นและถือหุ้นร่วมกัน ของผม 65% ถ้าสงสัยว่าทำไมถึงเยอะเพราะว่าพี่ชายผมเขามีงานประจำอยู่ที่บริษัทใหญ่ของคุณพ่ออยู่แล้ว ส่วนนี่ก็ถือเป็นงานอดิเรกของผมกับพี่ในระหว่างที่ผมกำลังเรียนอยู่ แต่ผลตอบรับและกำไรที่ได้จากที่นี่กลับเยอะเกินคาด จนคอนโดนี้กลายเป็นคอนโดสุดหรูในกลางเมืองที่สูง 51 ชั้น เปิดรองรับลูกค้าระดับไฮคลาส ดารา เซเลป นักการเมือง นักธุรกิจมากมาย โดยชั้นที่ 51 ชั้นบนสุด เป็นห้องของผมเองทั้งชั้น...
ที่จริงหลักสูตรบริหารธุรกิจผมเรียนจนจบแล้วเพราะพ่อจ้างครูมาสอนพิเศษที่บ้านตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมต้องอยู่ภายใต้แรงกดดันจากคนรอบข้างมาโดยตลอด ดังนั้นตอนนี้เมื่อผมมีอิสระบ้างแล้ว ผมจึงอยากเที่ยวเล่นสนุกสนานไปวันๆชดเชยเวลาในตอนเด็กที่เสียไป ถึงจะพูดแบบนั้น จริงๆผมแค่ยังไม่อยากทำงานจริงจัง
"ได้แล้วค่ะ ชั้นที่ 32 ห้อง 32010 ค่ะ" เสียงของพนักงานสาวดังขึ้น
"อืม" ผมรับคำสั้นๆแล้วเดินออกมา ตรงไปยังลิฟต์ธรรมดา ซึ่งปกติผมจะใช้ลิฟต์อีกตัวที่ขึ้นไปเฉพาะห้องของผม แต่ในคืนนี่ผมว่าจะไปเยี่ยมเยือนทำความรู้จักกับน้องรหัสสักหน่อย...
ติ๊งต่อง.. ติ๊งต่อง..
เมื่อมาถึงห้องของน้องรหัส ผมก็กดกริ่งหน้าประตูห้องของมัน
กริ๊ก
"หือ? มาได้ไงวะ" มันเปิดประตูออกมาแล้วถามแบบงงๆ
"ขึ้นลิฟต์แล้วเดินมา" ผมตอบกวนๆ
"ถ้ามึงจะมากวนตีนมึงกลับไปเลยไป" มันพูดเสียงหงุดหงิด
"งั้นถ้ามาทำอย่างอื่นก็อยู่ต่อได้งั้นสิ" ผมพูดพร้อมกันก้มหน้าเข้าไปใกล้ๆมัน พอมองจากระยะนี้ทำให้เห็นว่าผิวมันขาวเนียนมากๆ
"ละ..เล่นไรของมึงเนี่ย" มันผลักผมออกนิดหน่อย แล้วหันหน้าหนีผม
"นี่มันก็ดึกแล้ว... แถมกูก็ดื่มมาด้วย คอนโดกูก็อยู่ไกล มึงไม่คิดว่ามันอันตรายหรอ" ผมพูดพร้อมทั้งทำสีหน้าจริงจัง
"แต่มึงก็ขับมาส่งกูได้เพราะงั้นแสดงว่ามึงยังไม่เมา" มันเถียงผมเสร็จก็กำลังจะเดินเข้าห้อง ผมจึงรีบผลักมันเข้าไปในห้องพร้อมเบียดตัวเองเข้าประตูไปด้วย
"เห้ยยย มึงจะเข้ามาทำไมเนี่ย! กลับไปเลยนะ"
"กูเป็นพี่รหัสมึงนะ ทำไมกูจะขอค้างกับน้องรหัสไม่ได้เลยรึไง? มึงโคตรใจร้ายอ่ะ ดึกแล้วยังจะไล่กูอีก" ผมพูกออกไปพร้อมทำหน้าผิดหวัง
"เออๆ แล้วแต่มึงละกัน" มันพูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในห้อง คอนโดนี้โซนภายในห้องแต่ละห้องจะเหมือนกันหมดคือ 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ(อยู่ในห้องนอน 1 ห้องรับแรก 1) 1 ห้องรับแขก 1 ห้องครัว และห้องว่างๆ 1 ห้อง ให้เจ้าของห้องจัดเองว่าจะใช้เป็นห้องอะไร ซึ่งของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ ที่ขึ้นอยู่กับรสนิยมของเจ้าของห้อง ห้องของสปายก็ดูเป็นห้องที่เหมือนห้องผู้ชายทั่วไป แต่ข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก สีห้องเป็นสีอ่อนๆสบายตา...
ผมเดินมานั่งที่โซฟาในโซนห้องรับแขกเปิดดูรายการต่างๆในโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ ซึ่งเจ้าของห้องก็หายเข้าไปในห้องนอนยังไม่ออกมาเลย ผมจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องนอนของมัน พอลองบิดลูกบิดประตูดู....
แกร๊ก... มันไม่ได้ล็อกประตู...หึหึ
"เห้ยย เข้ามาทำไมวะ" มันคงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ.. เพราะสภาพมันตอนนี่คือ เปลือยท่อนบนส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ หยดน้ำที่เกาะตามผิวขาวๆเนียนๆของมันช่าง.... ตึกตัก ตึกตัก โอ้ยย แล้วมึงจะเต้นแรงทำไมไอ้หัวใจบ้า
"อะ...เอ่ออ เห็นมึงหายไปนานน่ะ เลยสงสัยว่ามึงทำอะไรอยู่" ผมตอบไปพร้อมกับมองมันตั้งแต่หัวจรดเท้า... มันน่าแกล้งสะจริงๆ
"กูจะเปลี่ยนเสื้อผ้า จะมายืนจ้องกูทำไม" มันพูดแล้วหันหลังให้ผมแล้วหยิบจับนั่นนี่อยู่บริเวณตู้เสื้อผ้า
"เอิ่ม... กูไปรอข้างนอกนะ กูมีเรื่องจะคุยด้วย" พูดจบแล้วเดินออกมาเลย คงอยู่มองนานๆไม่ได้.. ท่องไว้สิซีเนียร์ นั่นน้องรหัส น้องรหัส น้องรหัส! แถมมันยังเป็นผู้ชาย! ถึงหน้ามันจะสวยหวานก็เถอะ
แล้วผมก็ออกมานั่งดูโทรทัศน์เรียกสติที่ห้องรับแขกตรงโซฟาตัวเดิม สักพักสปายก็เดินออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบายๆ เออแบบนี้มีสมาธิขึ้นเยอะ ผมไม่ได้โรคจิตนะ แต่น้องมันน่ารักเหมือนผู้หญิง แต่ไม่ได้น่ารำคาญเหมือนผู้หญิงหรอกนะ พวกนั้นพยายามเข้าหาผมเพราะหน้าตาผมดี บางส่วนก็เข้ามาเพราะผมรวย ดังนั้นเมื่อพวกนั้นยื่นตัวมาเสนอผมก็แค่สนองและจ่ายให้ตามสมควร ไม่มีอะไรผูกมัดกัน
"มึงมีอะไรจะคุยกับกูหรอ?" มันนั่งลงข้างๆผม แล้วถามขึ้นมา
"ไหนๆเราก็สายรหัสเดียวกัน น่าจะทำความรู้จักกันสิ จะได้สนิทกันไวๆ" ที่จริงมันแค่ข้ออ้าง ผมไม่ได้สนใจสายรหัสมากนักหรอก มันก็แค่กิจกรรมหนึ่งที่มีไว้ให้นักศึกษาได้ทำความรู้จักกับรุ่นน้องรุ่นพี่และสานสัมพันธ์ฉันพี่น้อง
"เอาตรงๆ กูไม่ได้อยากเป็นน้องรหัสมึงหรอก" มันพูดอย่างหงุดหงิดแล้วทำปากขมุบขมิบเหมือนบ่นผมอยู่
"แต่ก็ได้เป็นแล้ว มึงควรดีใจนะ ใครๆก็อยากคุยกะกู"
"ยกเว้นกูไว้สักคนก็แล้วกัน"
"แต่กูอยากรู้จักมึงนะ"
... มันหันขวับหน้ามามองผมทันที
"มึงจะอยากรู้จักกูทำไม" มันขมวดคิ้วถามผม
"ก็มึงสวยดีละมั้ง" ข้ออ้างอีกนั่นแหละ ผมก็แค่อยากจะรู้จักกับมัน ถึงผมจะใช้ให้คนไปสืบประวัติมันก็ได้ แต่ผมอยากให้มันรู้จักผมด้วย ไม่ใช่แบบผมรู้จักมันฝ่ายเดียว
"กูเป็นผู้ชายนะ กูต้องหล่อเหอะ" มันบ่นแล้วหันหน้าหนีผม อะไรวะ เอาแต่หันหน้าหนี..
"มึงคุยกะกูทำไมไม่มองหน้ากู กูคิดว่าในห้องนี้ไม่อะไรน่ามองเท่ากูแล้วนะ"
"หลงตัวเองชิบหาย" มันพูดทั้งยังไม่หันมามองผม
"กูอยากรู้จักมึงจริงๆนะ"
"กูชื่อสปาย อภิวัฒน์ อลอสซิโอ อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ เป็นลูกคนเดียว พักอยู่ที่นี่คนเดียว" มันหันมาบอกผมหน้าจริงจัง สายตามันบ่งบอกว่ารำคาญเต็มที
"สถานะล่ะ"
"หือ?"
"มีแฟนหรือยัง" ผมถามออกไปเสียงเรียบ จริงๆผมคิดว่ามันคงไม่มีแฟนหรอก หรือหากมีก็อาจเป็นผู้ชายละมั้ง 555
"ยังหรอก กูก็ไม่เข้าใจ กูก็หล่อนะ ทำไมไม่มีผู้หญิงเข้าหามั่งวะ มีแต่กูที่ต้องไปจีบเขา" มันพูดเสียงเหนื่อยๆ
"ก็ใครเขาคงคิดว่ามึงเป็นตุ๊ดละมั้ง ถ้าอยู่เฉยๆไม่พูดอ่ะนะ" จริงๆมันก็ไม่ได้ออกสาวขนาดนั้นหรอก พูดเกินจริงไปงั้นแหละ พอมันทำหน้าหงุดหงิดแล้วผมรู้สึกพอใจ ผมไม่ได้โรคจิตนะ เด็กมันน่าแกล้ง...
"แต่กูแมนนะเว้ย!" มันพูดด้วยหน้าจริงจัง หน้าตามันดูหงุดหงิดเอาเรื่องเลยล่ะ คงไม่ชอบให้ว่าเป็นตุ๊ด
"เออๆ แมนก็แมน"
"มึงก็ถามแต่กู..แล้วมึงอ่ะ จะไม่แนะนำตัวหน่อยหรอ"
"อยากรู้จักกูแล้ว?" ผมเลิกคิ้วถาม
"ก็ถ้ามีแต่มึงที่รู้จักกูมันก็ไม่แฟร์สิ"
"งั้นมึงอยากรู้อะไรมึงก็ถามกูมาละกัน"
"ตอนนี้ยังไม่มี... ไว้มีแล้วกูจะถามละกัน" มันพูดพร้อมกับลุกขึ้น เดินเข้าไปในห้องนอน หยิบหมอนและผ้าห่มผืนบางมาให้ผม...
"คืนนี้ถ้ามึงจะค้างมึงก็นอนโซฟาละกันนะ" มันพูดจบก็เดินหนีเข้าห้องไปเลย
"อ้าว... นี่กูมาหาความลำบากให้ตัวเองหรอเนี่ย" ผมได้แต่บ่นพึมพำแล้วเกาหัวเบาๆ
'เอาวะสักวันกูต้องทำให้มึง หันมาสนใจกูให้ได้'
.
.
.
เวลา 01.10 น.
"อะไรวะ! เล่นดีๆหน่อยสิ!" ผมได้ยินเสียงโวยวายแว่วๆในขณะที่ผมหลับอยู่ ผมจึงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ บอกเวลาตีหนึ่งกว่า
"แม่งเอ้ยยย เข้าอีกแล้ว" เสียงดังมาจากในห้องนอนของสปาย มันตื่นมาทำอะไรเวลานี้?
ด้วยความสงสัยผมจึงเดินไปที่หน้าประตูห้องของสปายและพอบิดลูกบิดประตู...
แกร๊ก ไม่ได้ล็อกอีกแล้ว ไม่มีการระวังตัวอะไรเลยนะ หึหึ
และภาพที่ผมเห็นคือ มันนั่งดูฟุตบอลอยู่ตรงปลายเตียง
สายตาจดจ้องไปยังโทรทัศน์ที่อยู่ไม่ห่างจากปลายเตียงมากนัก...
"อ้าว กูทำมึงตื่นหรอ โทษทีนะ" มันหันมาพูดเมื่อผมเดินเข้าไปใกล้
"อื้อ ไม่เป็นไร" ผมเดินมานั่งใกล้ๆมัน และหันไปมองโทรทัศน์ด้วยสะเลย เป็นแมตช์ระหว่าง แมนยูกับบาร์ซา ซึ่งตอนนี้ บาร์ซ่านำอยู่ 2-0 ปกติผมไม่ค่อยได้ติดตามหรอก แต่ผมก็เชียร์บาร์ซาอยู่นะ และในจังหวะต่อมาทีมบาร์ซ่าก็ได้จังหวะทำแต้มอีกครั้งและก็ทำสำเร็จ จนตอนนี้คะแนนนำอยู่ 3-0 และเสียงนกหวีดบอกหมดเวลาก็ดังขึ้น บาร์ซ่าชนะไป
"Yes" ผมกระตุกยิ้มมุมปากนิดหน่อย แต่เหมือนคนข้างๆจะไม่ได้เชียร์บาร์ซ่าเหมือนผม...สปายมันหันมามองผมตาเขียวเลยครับ
"มึงเชียร์บาร์ซาหรอ?" มันถามผมเสียงกร้าว หย้าบ่งบอกว่าโมโหสุดๆ
"อะ..เอ่ออ ก็..." ผมไม่รู้จะตอบยังไง หน้าหวานๆนั่นพอมันแสดงอารมณ์โมโหกลับดูน่ากลัวพิลึก
"มึงออกจากห้องกูไปเลยนะ ศัตรูชัดๆ" อ้าว...กูผิดเฉย
"ใจเย็นดิมึง มันแค่เกมกีฬาป่าววะ ดูสนุกๆดิ อย่าซีเรียส" ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ...
"แม่งเอ้ยยย กูแทงไปสะเยอะ แพ้สะได้" ท่าทางมันคงหงุดหงิดน่าดู - -
"คราวหน้ามึงลองแทงทีมอีกฝั่งดูดิ มึงอาจจะได้เงินคืนมั่งก็ได้" ทีนี้ละครับ มันแยกเขี้ยวพร้อมพ่นไฟใส่ผมเลย กูพูดไรผิดวะ
"มึงไปเลยนะ!! มึงออกไปจากห้องกูเลย!" มันว่าพร้อมกับเข้ามาลากแขนผมออกจากห้องมันทันที ไม่ใช่ห้องนอนนะครับ หน้าห้องมันเลยอ่ะ!
ปัง!!
แล้วมันก็ปิดประตูหนีผมไปเลย... แค่กูเชียร์บอลคนละทีมกับมันนี่...กูผิดขนาดที่มันต้องไล่ออกจากห้องตอนตี 1 กว่าๆเลยหรอ? สาบานเลยว่าผมจะไม่นั่งดูบอลกับไอ้น้องรหัสคนนี้อีกแล้ว...
.
.
.
To be continue ...
#มาช้าแต่มาชัวร์จ้า
#หากไรท์พิมพ์คำผิดก็ขออภัยด้วยจ้า
#คอมเมนท์ติชมกันได้เลยน้าา แต่ถ้าหากไม่สนุกหรือไม่พอใจตรงไหนอย่าว่าเค้าแรงหน้าา เค้าใจบาง
#หากชอบอย่าลืมติดตามกันต่อไปนะค้าา
----SPY Talk----
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมรับน้อง หลายวันที่ผ่านมานี้ผมยังไม่เจอไอ้พี่รหัสเลยหลังจากที่ไล่มันออกจากห้องวันนั้น ผมยอมรับผมอาจจะอารมณ์ร้อนไปหน่อย ก็ช่วยไม่ได้มันมาพูดไม่เข้าหูผมเองเรื่องฟุตบอล ก็คนมันชอบนี่หว่า แต่ว่าวันนี้มีการเฉลยคำใบ้พี่รหัสและรุ่นพี่ปี 3 กับปี 4 ก็กลับมาแล้ว เห็นว่ามีการให้พี่รหัสพาน้องๆไปเลี้ยงหลังจบกิจกรรมด้วย(เห็นว่าปิดร้านเลี้ยงกันเลยทีเดียว แต่พี่รหัสจะเป็นคนจองโต๊ะและเป็นคนจ่ายค่าอาหารเครื่องดื่มที่โต๊ะนั้นสั่ง) แล้วไอ้พี่รหัสผมมันยังไม่มา คืออะไร?? มันจะโดดหนีแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย...
"สรุปมึงรู้ยังใครเป็นพี่รหัสมึงอ่ะ" ผมหันไปถามไอ้ไวน์ที่มันนั่งเล่นมือถืออยู่ข้างหลังผม
อ้อ... กระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ ผมได้คืนแล้วนะครับ มันติดไปกับกระเป๋าเป้ของไอ้ไวน์ ผมคงฝากมันไว้แล้วลืมเอาคืน..
"เออ รู้แล้ว" มันเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอแล้วตอบผม
"ใครวะ"
"พี่เธียเตอร์ หน้าหวานๆอ่ะ" ...ผมนี่อึ้งเลยครับ สรุปทั้งผมทั้งไวน์ ได้พี่รหัสอยู่แก๊งค์เดียวกัน
"เออ หนีกันไม่พ้นจริงๆ" ผมตอบอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
"แต่พี่เขาเฟรนลี่ดีนะ.. น่าจะดีกว่าไอ้พี่หน้าหล่อของมึงอ่ะ" เออ... ผมก็คิดงั้น
"เอาล่ะน้องๆ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของกิจกรรมแล้วนะฮะ น้องๆคงเหนื่อยกันมามากแล้ว งั้นวันนี้เรามาทำกิจกรรมเบาๆกันเนอะ..." พี่เปรมมี่พูดขึ้น ขณะนั้น...เสียงกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นอีกแล้ว...
'อร้ายยย พี่ซีเนียร์มา'
'กรี๊ดดด คนอะไรก็ไม่รู้หล๊อหล่อ'
'แกรร ฉันอิจฉาคนที่ได้พี่เขาเป็นพี่รหัสจัง'
'หวังว่าคงไม่ใช่ผู้หญิงนะแกรรร'
เอิ่ม ...เหมือนเดจาวูเลยเนาะ - - นี่สาวๆครับ จะกรี๊ดทุกครั้งที่เจอพี่เขาเลยหรอ
หลังจากนั้นพี่เปรมมี่ก็ให้พวกเราลุกไปหาพี่รหัสของตัวเอง ... และผมก็สังเกตเห็นว่ามีหลายคนที่หันมามองว่าใครจะเดินไปหารุ่นพี่ซีเนียร์ คง...อยากรู้ว่าใครที่มันได้ไอ้พี่หน้าหล่อนี่มาเป็นพี่รหัสที่คืนนี้พี่รหัสต้องคอยเทคแคร์ดูแลอย่างดี(??)
และพอผมเดินไปหยุดตรงหน้าของซีเนียร์ มันก็กระตุกยิ้มมุมปาก ผมได้ยินเสียงผู้หญิงบางคนถอนหายใจเหมือนโล่งอก...
"ว่าไงน้องรหัส.. ไม่เจอกันตั้งนาน.. "
"..."
"..ดูน่ารักขึ้นนะ" ซีเนียร์มันก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผม..
'กรี๊ดดดดด' กรี๊ดอะไรกันวะ...
มึงทักกูแบบปกติก็ได้ป่ะวะ แล้วทำไมต้องก้มลงมาขนาดนี้ เหมือนมันหอมแก้มผมเลย อึ๋ยยย ขนลุกเลยผม
"กูหล่อเถอะสัส" ผมบ่นเบาๆ
"หึหึ"
หลังจากเฉลยคำใบ้พี่รหัสแล้ว มีบางคนโดนลงโทษเพราะหาพี่รหัสไม่เจอ หาผิดคน ต่อจากนั้นพอทุกคนได้พี่รหัสที่แท้จริงแล้ว ก็ได้เวลาทำให้พี่รหัสยอมรับ ซึ่งอันนี้กำหนดเวลา 2 เดือน(อีก 2 เดือนจะถึงงานครบรอบวันก่อตั้งสถาบัน เป็นวันที่แต่ละคณะจะจัดกิจกรรมสังสรรค์กัน) แต่ละคนต้องไปหาวิธีตกลงกับพี่รหัสเอาเอง ถ้าพี่รหัสยอมรับจะต้องมีการแลกเปลี่ยนสิ่งของให้กันและกัน (ไม่ใช่ของธรรมดาอย่างที่คุณคิดหรอกครับ.. เพราะว่านี่มันมหาลัยคุณหนู ของที่นำมาแลกกันมันต้องไม่ใช่ของธรรมดาแน่นวลลล แต่จะเป็นอะไรนั้นติดตามกันต่อปัยนะ ^^)
"ไปเถอะ... วันนี้กูต้องเลี้ยงมึงกับรุ่นพี่อีกนิ" ซีเนียร์ว่าแล้วจูงมือผมไปที่รถมัน... ซึ่งไม่ว่าจะมองกี่ทีกี่ทีก็ยังอยากได้ ฮืออออ อยากได้มาก รถในฝันผมเลย... แต่ตอนนี้ผมก็อยากได้สักคันเหมือนกันนะ อะไรก็ได้!! ตอนนี้ผมไม่มีรถขับนี่นา
"เอารถมาไหม?"
"กูไม่มีรถ..." ผมตอบแบบอายๆ
"งั้นก็ขึ้นรถดิ ไปพร้อมกูเลย" มันเอ่ยชวน .. แล้วผมต้องปฏิเสธหรอ ก็ไม่จำเป็นนะ ... รีบก้าวขึ้นรถเลยครับ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบขี้หน้ามัน แต่นิสัยซีเนียร์มันก็ดีใช้ได้อยู่นะ อย่างน้อยมันก็ไม่โกรธผมที่ผมไล่มันออกจากห้องวันนั้น
ระหว่างทางมันก็ไม่ได้คุยอะไรกับผมมากมาย... ก็ดีผมก็ไม่ได้อยากคุยกับมันนักหรอก... เหอะ!
.
.
.
***Z-CLUB***
คลับเดิมที่ผมโดนทิ้งวันนั้นเลยครับ เราเดินเข้ามาในโซนนั่งดริ้งสำหรับแขก VIP พี่มันจองที่ให้สะดิบดีเลย
"แล้วพวกพี่รหัสพี่อ่ะ?" ผมยังไม่รู้เลยผมมีป้าลุงหรือปู่ย่ารหัส
"เดี๋ยวตามมา"
ระหว่างที่นั่งรอผมก็สอบถามเกี่ยวกับสายรหัสของเรา.. พี่รหัสของซีเนียร์เป็นพี่ผู้หญิงชื่อ...ครีม และลุงรหัสของซีเนียร์ชื่อ...เตชิน อยากรู้จังพี่ครีมจะสวยไหมน้าา อยากเจอเร็วๆแล้วสิ
"พี่ครีมสวยไหมอ่ะ" ผมถามออกไปอย่างตื่นเต้น ก็แหมผมชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่านี่นา ><
"ก็ไม่รู้สิ ในสายตากูก็ไม่เท่าไหร่ มึงรอดูเอาละกัน" มันตอบอย่างไม่ค่อยใส่ใจ... ระหว่างนี้ก็เริ่มมีพวกปี 3 ปี 4 เข้ามาแล้ว
"ว่าไงจ๊ะ ซีเนียร์ แหมม ถ้าไม่ใช่เพราะเขานัดสายรหัสเราคงไม่ได้เจอกันใช่มั้ย หื้ม?" แล้วก็มีผู้หญิงคนนึงเดินมานั่งลงข้างๆซีเนียร์ แถมยังเอามือไปคล้องแขนไว้อีก.. หมั่นไส้จังวะ ซีเนียร์มันพยายามดึงแขนออกจากผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า
"ปล่อยก่อนครับพี่ครีม.." อ้ออ.. นี่หรอ'ป้า'รหัสผม ก็สวยดีนะ ผิวขาวเนียน ไว้ผมสั้นประบ่า หน้าตาจิ้มลิ้ม ตัวเล็กน่าฟัดขนาดนี้ ซีเนียร์มันยังไม่สนใจอีก... เอ๊ะ หรือต้องเปรี้ยวแซ่บแบบคุณแนนนี่?(คนที่ซีเนียร์ควงออกจากคลับในตอนที่แล้ว)
"พี่ครีม นี่สปายน้องรหัสผมครับ..."
"สปายนี่พี่ครีมนะ" มันแนะนำผมให้พี่ครีม และหันมาแนะนำพี่ครีมให้กับผม
"หวัดดีครับ" ผมเอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มให้
"ดีจ้าา แหม พี่รู้สึกแก่เลยสิ กลายเป็นป้ารหัสไปสะแล้ว"
พี่เขายิ้มแล้วตอบกลับผม
"แก่อะไรกันครับ ยังน่ารักอยู่เลย" ได้ทีผมก็หยอดเลยครับ
"แหม่.. ปากหวานจริงนะ" พี่เขายิ้มให้แล้วหันไปควงแขนซีเนียร์ต่อ...
"แล้วพี่เตชินละ.." ซีเนียร์มันหันไปถามพี่ครีม เพราะตอนนี้อาหารและเครื่องดื่มเริ่มทยอยมาเสิร์ฟแล้ว
"คงใกล้ถึงแล้วล่ะ.." พี่ครีมตอบพร้อมรอยยิ้มหวานหยดย้อย... พี่ครีมอ่อยซีเนียร์?? ใช่ไหมวะ ผมก็ไม่แน่ใจหรอกครับ แต่มันออกจะชัดนะ
พอนั่งดื่มไปสักพัก ก็มีคนเข้ามาใหม่อีกคน ตอนนี้ทั้งร้านเริ่มคึกคักแล้ว เพราะคนเริ่มเยอะ(นักศึกษาคณะผมทั้งนั้นแหละ) ..
"โย่ววว ว่างัยยน้องๆ" เสียงเอ่ยทักทายดังมาแต่ไกล แล้วผู้ชายหน้าตาดี...ก็โผล่มาอีกแล้ว.. ดูแล้วน่าจะสูง 185 อัพ ผิวขาว ผมดำ ในตาสีน้ำตาล หน้าตากวนๆหน่อย
ตุบ! เขาเดินมาตบไหล่ผม...
อื้อออ.. ไหล่แทบหลุด แรงเยอะชิบหาย ผมหันไปมองอย่าง งงๆ พี่มันเป็นใคร??
"ว่าไงหลานรหัส" พี่มันพูดพร้อมกับเข้ามากอดคอแล้วนั่งลงข้างๆผม..โอเคตอนนี้ผมรู้แล้วว่า.. ไอ้คนนี้เป็นใคร.. คงจะเป็นปู่รหัสผมเอง
"หวัดดีค่ะพี่เตชิน" พี่ครีมหันมาทักทายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่รหัสตัวเอง
"ดีครับน้องครีม น้องซี~~~ ไม่เจอตั้งนานแน่ะ ถึงจะอยู่คณะเดียวกันแต่น้องโดดบ่อยสะจนพี่ลืมไปละว่ามีหลานรหัส" พี่เตชินบ่นอุบอิบ แล้วทำหน้างอนๆ ... พี่เขาอยู่ปี 4 จริงหรอ?
"ผมก็ไม่ได้หายไปไหนนี่ครับ ก็แค่ขี้เกียจเรียน" ซีเนียร์ตอบเสียงเรียบ แล้วกระดกเหล้าแดงเข้าปากเหมือนเป็นน้ำเปล่า...
หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อย..ถึงส่วนมากผมจะนั่งฟังก็เถอะ..เพราะเฮียชิน(เจ้าตัวบอกให้เรียกงี้) กับพี่ครีมพูดกันอยู่ 2 คน แลดูเข้าขากันดีจัง ช่างต่างกับซีเนียร์ พออยู่ข้างนอกแบบนี้ทำไมมันพูดน้อยจัง?
.
.
.
***เวลา 00.10 น.***
"อื้ออ..." ผมรู้สึกว่าผมดื่มหนักจนขยับไม่ไหวแล้วล่ะ...
"เฮ้... หลานรหัส ไหวไหมเนี่ย.." เหมือนได้ยินเสียงเฮียชินดังอยู่ข้างๆ
"งื้มมม..." ผมได้แต่ครางตอบในลำคอเบาๆ
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ยินเสียงสนทนาอะไรอีกเลย..สติผมดับวูบไปแล้ว...
และผมก็ยังไม่รู้อีกว่า...เพราะความเมาในคืนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของผมไปตลอดกาล...
.
.
.
To be continue
#แต่งมาถึงตอนนี้ เอ๊ะ.. ทำไมหน้ามันลดลงเรื่อยๆ 555
#เดี๋ยววันพฤหัสบดีมาต่ออีกตอนนะจ๊ะ
#คอมเมนต์ติชมกันได้นะจ๊ะ แต่อย่าแรงน้า
#หากชอบก็อย่าลืมติดตามกันต่อไปน้าาา~
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!