NovelToon NovelToon

•ดั่งภาพเซียนไร้รัก•

Chapter 1 องค์หญิงน้อยเเคว้นซี

"องค์หญิงน้อยโปรดระวังด้วยเจ้าค่ะ..."

"ท่านอายุก็มิใช่น้อยๆเเล้ว กลับไปกับข้าน้อยเถิดเจ้าค่ะ"

ชิงชิงเอ่ยห้ามปรามองค์หญิงเเต่นางก็ยังวิ่งไล่ยิงกระต่ายน้อยผู้น่าสงสารอย่างมิลดละความพยายาม นางจึงหยุดวิ่งมือเรียวป้องปากพลางตะโกนสุดเสียง เป็นเหตุให้สัตว์น้อยใหญ่ต่างพากันเเตกตื่นถ้วนหน้า

"องค์รักษ์หลินส่งข่าวมาว่า องค์ชายรอง ทรงได้รับตำแหน่งองค์รัชทายาทแล้วเจ้าค่ะ "

ร่างบางทิ้งคันธนูไม้อย่างไม่ใยดีแล้วจึงกระโจนตะครุบเจ้ากระต่ายน้อยตัวสีดำขลับ ดวงตาสีแดงก่ำดังเปลวไฟร้อนระอุ มันดิ้นขลุกขลิกยังอ้อมอกของร่างบาง

"กระต่ายอ้วนเอ๋ย... หากเจ้ายังไม่ยอมหยุดดิ้นข้าองค์หญิงน้อยเเคว้นซีจะจับเจ้าผัดเผ็ดกระต่ายเสีย"

เหมือนเจ้ากระต่ายรับรู้สิ่งที่ร่างบางกำลังสื่อมันจึงยอมสงบลง 

"ดีมากเจ้ากระต่ายอ้วน ข้าจะตั้งชื่อให้เข้าว่า เฮยเซ่อ ที่แปลว่าสีดำก็เเล้วกัน" [เจ้าสิดำ ชิ!!!]

เฮยเซ่อสะบัดหน้าน้อยๆหนีทำให้ร่างบางถึงกลับหัวเราะร่าด้วยความเอ็นดู

"องค์หญิง ท่านไม่ได้ฟังที่ข้าน้อยพูดเลยรึ"

"เดี๋ยวนี้ท่านเห็นเจ้ากระต่ายขี้เหร่ดีกว่าข้าเเล้วรึ"

ชิงชิงสะบัดหน้าหนีไม่ต่างจากเฮยเซ่อ นี่นางน้อยใจเพียงเพราะกระต่ายตัวเดียวเองรึ 

“ฮ่าๆๆ พี่ชิงชิงข้าขอโทษ ว่าเเต่...ท่านมีเรื่องอะไรรึ”

“ข้าน้อยว่าท่านรีบกลับไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ก่อนเถิด ยามนี้ก็ล่วงเลยเป็นเวลานานเเล้ว“ ชิงชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังจนนางรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ

อือ!!!

ณ ท้องพระโรง

เหล่าขุนนางมากหน้าหลายตาต่างพากันยื่นถวายฎีกาให้ฮ่องเต้อย่างเเข็งขันบางครั้งก็เกิดข้อโต้เเย้งกันไปมาระหว่างขุนนางฝ่ายซ้ายเเละฝ่ายขวา

“องค์หญิงน้อยเสด็จ...”เสียงเล็กแหลมของหลี่กงกงขันทีคนสนิทฮ่องเต้ดังขึ้นเหล่าขุนนางจึงค่อยพากันเงียบสงบ ฮ่องเต้เทียนหนานพลางรอบปาดเหงื่อ

ร่างบางในชุดเปิดไหล่สีแดงเพลิงปักลายด้วยดิ้นทองอย่างปราณีตตัดกับเจ้ากระต่ายน้อยเฮยเซ่อจึงทำให้เป็นที่ขบขันทั่วท้องพระโรง

จะไม่ให้พวกเขาขบขันกันได้เยี่ยงไรเล่า ก็เจ้าเฮยเซ่อน้อยเล่นเเยกฟันหน้าขาวสะอาดสองซี่เล่มใหญ่ให้พวกเขายลโฉมเองนี่

“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อเพคะ...”ร่างบางยอบกายอย่างเก้ๆกังๆ ผู้เป็นพ่ออยากกุมขมับกุม

"เหมิงเหมิงลูกเป็นสตรี เหตุใดเจ้าถึงไปเรียนเเบบนิสัยถ่อยๆจากพี่ของเจ้าด้วย” เสด็จพ่อพูดพลางหันไปแยกเขี้ยวใส่พี่ชายของนางอย่างมิลดละ

นางมีนามว่า หนิงอันเหมิง เป็นธิดาองค์เดียวของฮ่องเต้เทียนหนานส่วนพี่ใหญ่ข้ามีนามว่า เทียนหลาง มีนิสัยเสเพล ปลิ้นปล้อน กระร่อน หว่านเสน่ห์ไปทั่วจนนางเอือมระอา 

ตั้งเเต่ที่นางจำความได้เสด็จพ่อจะไม่ให้พี่ใหญ่เข้าใกล้เสด็จเเม่ นางเดาว่าเสด็จพ่อคงจะหึงเสด็จเเม่เป็นเเน่ เพราะ ท่านยังสวยอยู่เลย อิอิ

“คืนนี้ข้าจะไปนอนกับเสด็จเเม่"เทียนหลางพูดอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

“เจ้าลูกทรพี.. เจ้ากล้าก็ลองดู”

เพียงเสี้ยววิมีสิ่งของบางอย่างลอยไปกระทบศรีษะเทียนหลางอย่างแรงทำให้เขาถึงกับเข่าทรุดลงพื้นก่อนจะหยิบสิ่งของตรงหน้าที่มีลักษะเป็นม้วนสีทองเหลืองอร่ามขึ้นมาอ่านเนื้อความข้างใน

“ องค์ชายรอง นามว่าโหย่วอี้ สร้างคุณงามความดีให้เเคว้นหลายประการ เจิ้นเห็นสมควรว่าองค์ชายรองมีคุณสมบัติเหมาะแก่การขึ้นเป็นองค์รัชทายาท จึงขอเรียนเชิญเชื้อพระวงศ์เเคว้นซีมาร่วเฉลิมฉลองงานที่เเคว้นตงเย่วอีก 4 วัน...... ”

เทียนหลางอ่านยังมิทันจบน้องสาวตัวเเสบก็ดีใจใหญ่ออกนอกหน้า ซึ่งทุกคนต่างเอือมระอากับนิสัยแก่นแก้วของนางไปเสียเเล้ว

“โหย่วอี้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทเเล้วรึ เย้~~” นางกระโดดโล่นเต้นไปมาอย่างมีความสุข

“ลูกและเสด็จพี่อาสาไปแสดงความยินดีกับองค์รัชทายาทเเคว้นตงเย่วเองเพคะ"

“.......”

“เสด็จพ่อก็อายุมากแล้วท่านควรพักผ่อนให้มากๆ”

“จะดีรึ” เทียนหนานมีสีหน้าที่วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัดส่วนเทียนหลางที่อ่านฎีกาก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน

“พะ พี่ว่าให้พี่ไปคนเดียวดีกว่า กว่าจะถึงตงเย่วน้องคงจะเหนื่อยมิน้อย”เทียนหลางพยายมเกลี่ยกล่อมน้องสาวตัวเเสบให้ยอมโอนอ่อน

“พวกท่านก็รู้อยู่แก่ใจว่าข้ากับโหย่วอี้เรารักกัน เหตุใดเสด็จพ่อถึงต้องขัดขวางความรักของลูกด้วยตั้งเเต่ยามเเรกพบกับโหย่วอี้และยามนี้"

นางทรุดเข่าลงอย่างสิ้นหวังน้ำตาเม็ดใสร่วงโรยกระทบพื้นหยดแล้วหยดเล่าพวกเขาก็ยังเหมินเฉย

ฝากกดติดตาม กดหัวใจให้ด้วยนะ

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมาย​​​​

Chapter 2 รักกันไม่ได้

“เสด็จพ่อตอบลูกมาสิเพราะเหตุใด เหตุใดต้องขัดขวางลูกด้วย...." 

ร่างบางปล่อยโฮโดยไม่สนใจคนรอบข้างว่าจะคิดยังไงกับนาง นางผิดรึที่รักโหย่วอี้มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย

“ ลูกกับองค์รัชทายาทแคว้นต่งเย่วไม่สามารถรักกันได้ ” ฮ่องเต้เทียนหลางพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ ในใจลึกๆแล้วก็อยากบอกความจริงแก่ลูกสาวตนแต่ก็กลัวนางจะทำอะไรสิ้นคิด

“ ลูกไม่สามารถเเต่งกับโหย่วอี้ได้จริงๆ”

“มันเป็นโชคชะตา เชื่อพ่อเถิด”

“แล้วก็กักบริเวณองค์หญิงตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าองค์ชายใหญ่จะกลับเเคว้นซีอย่างเเน่นหนา หากเจิ้นรู้ว่าองค์หญิงออกไปได้หัวพวกเจ้าทุกคนก็ยากที่จะรักษาไว้บนบ่า

เทียนหลางเอ่ยจบจึงเดินออกจากท้องพระโรงไปทันที เขาทำไปก็เพื่อปกป้องนางสักวันนางก็จะเข้าใจเอง

เหล่าขุนนางต่างพากันทยอยปลีกตัวกลับ ก่อนไปก็ปลอบใจนางเล็กๆน้อยๆ

ฮรึกฮืออ~~~~

หยดน้ำใสเกาะทั่วกรอบใบหน้างาม ดวงตาของนางเริ่มบวมเฉิ่งจากการร้องไห้หนัก 

แผล็บๆๆ เฮยเซ่อเลียหยดน้ำใสเป็นเชิงปลอบประโลมนายตน

“เฮยเซ่อ.. เจ้าว่าข้าน่าสมเพชหรือไม่” 

“เจ้าก็แอบหนีไปตงเย่วสิ” เฮยเซ่อพูดลอยหน้าลอยตาเหมือนมันง่ายมากแหล่ะ

“เฮยเซ่อ... เจ้าพูดได้”ร่างบางเผยอปากอย่างไม่เชื่อว่าเจ้ากระต่ายอ้วนจะพูดได้ด้วย

“เจ้านิโง่จนไม่มีใครเทียบ ข้ามีปากมั้ย”

“ย่อมต้องมีสิ”

“นั่นแหล่ะคำตอบข้า พวกเจ้าหาผ้าปิดจมูกกันด้วย” เฮยเซ่อเอ่ยจบก็กระโดดลงจากอ้อมอกร่างบาง รอบตัวของเฮ่ยเซ่อเปล่งรัศมีสีเเดงคละคลุ้งไปทั่วท้องพระโรงเหมือนอัดแก๊สไว้ข้างในรอวันที่พวกมันระเบิด

“ เจ้าจะยืนโง่อีกนานมั้ย... รีบมาเปิดประตูให้ข้าสิก่อนพลังข้าจะสลาย”

ร่างบางตั้งสติได้จึงรีบวิ่งไปเปิดประตูท้องพระโรงอย่างว่าง่ายเมื่ออากาศข้างในลอยออกไปปะทะข้างนอกเหล่าทหารหลายร้อยนายที่ยืนเฝ้านางอยู่หน้าประตูก็ต่างกันพาสลบเป็นเเถว

“เฮยเซ่อ เจ้าทำได้เยี่ยงไรสอนข้าหน่อยสิ”

“พูดมาก”

“นะๆๆ”

“มีคนเคยบอกเจ้าบางมั้ยว่าเจ้าช่างเป็นคนน่ารำคาญ พูดมาก แถมโง่อีก”

“หึ ขอบคุณเจ้ามากที่ชม”

“องค์หญิงเพคะ เจ้ากระต่ายขี้เหร่ไม่ได้กล่าวชมท่านเสียหน่อย”

ทั้งสามคนรีบมุ่งหน้าออกจากแคว้นเเต่ระหว่างทางก็ด่าทอกันไปมาระหว่างกระต่ายหนึ่งกับหญิงสาวสองนางกินระยะเวลานานถึง 2 วัน 2 คืน ค่ำในพักนั่น

ณ แคว้นตงเย่ว

แคว้นตงเย่วมีขนาดใหญ่กว่าเเคว้นของนางถึง3ส่วน ไม่แปลกที่ผู้คนจะพลุกพล่านมากการเเต่งกายพวกเขาก็เเตกต่างเเคว้นนางเช่นกัน 

ตัดมาที่นางตั้งเเต่วันที่หนีออกมาจากแคว้นก็ยังมิทันเปลี่ยนอาภรณ์ วันนั้นพี่ชิงชิงจัดเต็มให้นางมากไปหน่อยผู้คนเลยจับจ้องมาที่นางคนเดียว

“ดีนะที่ข้าพอมีวรยุทย์ไม่งั้นคงได้เดินไกลหลายสิบลี้เป็นแน่ ”

“องค์หญิงหนีมาเช่นนี้มันจะดีเเน่รึ แถม..ยังหนีออกมาง่ายดายอีก” ชิงชิงเกาหัวอย่างสงสัย มันไม่ง่ายไปหน่อยรึ

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของพวกเราฉะนั้นเรียกข้าว่าคุณหนูก็พอ”{ รู้สึกเสียวคอแปลก แหะ} ชิงชิงพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ

นางเดินนำไปยังร้านขายอาภรณ์พลางหิ้วปลีกตัวภาระขาสั้นสีดำปุกปุยเข้าไปด้วย{เป็นภาระข้าจริงๆ รู้งี้จับผัดเผ็ดกินตั้งเเต่คราเเรกก็คงดี}

“เถ้าแก่ข้าเอาอาภรณ์สีแดงตัวนี้ ส่วนพี่ชิงชิงท่านเลือกเลยว่าต้องการสีใด” นางจับชุดสีแดงพลิกไปมาเพื่อฆ่าเวลารอคำตอบจากสาวใช้

“คุณหนูเรามีเงินไม่ถึง10ตำลึงนะเจ้าค่ะ”

“ใครว่าข้าไม่มี” นางหันหน้าเข้ากำแพงพลางส่งสายตาเป็นเชิงให้สาวใช้ดูเป็นตัวอย่าง มือน้อยค่อยๆลวงไปยังซาลาเปาสองข้างเฮยเซ่อถึงกับรีบเบือนหน้าหนี

“เจ้ามันโรคจิต ไร้ยางอาย”

นางเมินคำพูดของเฮยเซ่อก่อนจะยื่นถุงผ้าสีทองสองใบให้ชิงชิงถือ 

“ข้าเห็นว่าเสื้อตัวนี้มันเหลือที่ว่างเลยยัดไปตรงนี้... แห่ะๆๆ” นางพูดอย่างเขินอาย

“ตรงนั้นของเจ้ารึ” เฮยเซ่อยื่นมือน้อยๆชี้ไปยังซาลาเปาสองลูกอย่างเหลือเชื่อ ร่างบางปรับสีหน้าก่อนจะหิ้วปลีกเจ้าเฮยเซ่อเช่นเดิม

“อยากลองชิมมั้ยล่ะ”

​​​​​​เฮยเซ่อทำหน้าเหมือนจะอยากตายนางจึงยื่นให้ชิงชิงดูเเละมันก่อนสลับเข้าไปเปลี่ยนอาภรณ์

[ อย่าให้ข้ากับร่างเดิมเถอะเจ้าแหลกคามือข้าเเน่]

ผ่านไป 15 เค่อ

ทั้งสองคนต่างพากันสลับเข้าไปเปลี่ยนชุดเสร็จจึงเดินเล่นหาซื้อของกินแถวนั้นจนไปหยุดอยู่ร้านขายเครื่องประดับ

"แม่นางหน้าตาท่านไม่เหมือนคนตงเย่วเลย”

“เถ้าแก่มีแววตาที่แหลมคมเสียจริง ข้าเดินทางมาจากแคว้นตรงข้ามเลยยังไม่คุ้นชินมากนักเถ้าแก่โปรดชี้เเนะด้วย” นางเอ่ยด้วยวาจาสุภาพทั้งชีวิตนางไม่เคยดัดเสียงหวานจริตขนาดนี้มาก่อน

“เช่นนั้นเเม่นางก็ยังมิทราบว่าพรุ่งนี้แคว้นตงเย่วจะจัดงานมงคลเฉลิมฉลองให้แก่องค์ชายโหย่วอี้ ที่ขึ้นรับตำแหน่งองค์รัชทายาทพร้อมอภิเสกสมรสพระชายาเอก "เถ้าแก่เอ่ยอย่างตื่นเต้นพลางยื่นผ้าปิดหน้าให้สองผืน

"แม่นางโฉมงามเกินไปเดี๋ยวจะโดนจับไปเป็นนางสนมองค์รัชทายาทเสียก่อน”

“เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอกรึ”เป็นชิงชิงที่สงสัยจึงเอ่ยปากถาม

“นางสนม999คน ขาดอีก1 ถ้าเจ้าต้องการก็ไปสมัครกับองค์ไทเฮาได้”

ชิงชิงยิ้มแก้เขินก่อนจะหยิบผ้าคลุมหน้าส่งให้คุณหนูตน

“คงไม่ไปเป็นโรคป่วยตายก่อนวัยอันควรล่ะ”เฮยเซ่อพูดด้วยน้ำเสียงกระแหนะกระแหน

“เบาหน่อยเดียวเจ้าก็โดนคนจับไปผัดเผ็ดกินหรอก”

“ข้าเป็นกระต่ายผู้น่าเกรงขามใครจะกล้ากินข้า”เฮยเซ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ

“ข้าเเล้ว1”

“ไปหาโรมเตี๊ยมพักกันเถิดพี่ชิงชิง”

“เจ้าค่ะ”

“อย่าให้ถึงทีข้าบ้างเถอะ ข้าจะจับเจ้าบดให้ละเอียดเเล้วก็ขยี้ๆให้แหลกเลยคอยดู”

ข้าจะรอ

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมาย

Chapter 3 เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ

วันต่อมา

เเสงเเดดยามเช้าตกกระทบกรอบหน้างาม ร่างบางยังคงปิดเปลือกตาสนิทพลางควานหาร่างกระต่ายน้อยขนปุกปุย

"เฮยเซ่อ..."

"เฮยเซ่อ..."

"เจ้าตายเเล้วรึ เช่นนั้น......" หนิงอันเหมิงพูดด้วยน้ำเสียงกรุ่มกริ่มใบหน้าหวานคลี่ยิ้มเล็กน้อย

"จับเจ้าผัดเผ็ดกินเเทนดีรึไม่" เสียงบุรุษนิรนามเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่าพลางคลอเคลียซอกคอขาวนวลเนียนด้วยความใคร่ จนร่างบางที่นอนแผ่ราบอยู่บนเตียงหลุดเสียงครางหน้าอายออกมา

อ๊าาา~~~ 

ถึงอย่างนั้นหนิงอันเหมิงก็ยังคงปิดเปลือกตาสนิทร่างบางเริ่มสั่นเทาเหมือนลูกแมวน้อยในกำมือพยัคฆ์

"ลืมตา"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดมากขึ้น

ไม่

เเควกกกก~~

​เสียงอาภรณ์สีขาวผืนบางถูกฉีกกระชากออกอย่างเเรงเผยให้เห็นสัดส่วนทุกซอกทุกมุม ผิวขาวนวลเนียนมีเลือดไหลซึมประปรายจากฝีมือเขา

ชายหนุ่มเริ่มคลอเคลียจากซอกคอขาวสลับกับดูดดึงจนเป็นรอยเขียวช้ำมากมายก่อนจะเลื่อนลงมาหยุดที่ประถุมถันสองข้างขนาดพอดีมือก่อนจะอ้าปากงับเข้าอย่างเต็มเเรง

จ๊วบบบ

แผล่บๆๆ

​​​​​"อ๊า อย่ากัด"

"จะลืมตาดีๆ หรือว่าอยากลืมตอนกระอักความสุขของเราสองคนดีล่ะ"ปากพูดเเต่มือหนาก็ยังฟอนเฟ้นเต้างามสองลูกอย่างเมามันส์พลางซู๊ดปากเสียงดัง

"ไม่... จะทำอะไรก็ทำเเต่ข้าไม่อยากเห็นใบหน้าคนชั่วอย่างเจ้า" นางกัดริมฝีปากพูดก่อนจะต้องถอนคำพูดอย่างไวเมื่อนิ้วร้ายเรียวยาวค่อยๆกรีดชำเเหลกกลีบบุปผางามเข้าไปสำรวจในถ้ำสวรรค์อย่างชำนาญ

เขาค่อยๆดึงเข้าดึงออกจากร่องงามพลางหมุนควงเป็นวงกลมก่อนเพิ่มเเรงถี่ขึ้นจนร่างบางโผล่ตัวกอดรัดลำคอแกร่ง

เเจ๊ะ แจ๊ะ

“อ๊าา อ๊าา เบาหน่อย ซี๊ดดด”

“ข้ารู้สึกปวดฉี่” 

“เขาเรียกว่าจะเเตะขอบสวรรค์ เด็กน้อย”

​​​​​​“จะเเตกเเล้ว อ๊าส์"

“สวยไปหมด”

ร่างบางเกร็งกระตุกสองสามทีก่อนจะหอบหายใจรวยริน ชายหนุ่มก้มหน้าลงหว่างขางามชกชิมน้ำหวานอย่างบ้าคลั่งจนร่างบางสั่นสะท้าน

"พอเเล้วๆ ข้ายอมแล้วๆ"

หนิงอันเหมิงยอมลืมตาขึ้นมาใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความเขินอาย "หล่อ หล่อมากแม่" รููปร่างที่สูงโปร่ง กล้ามเป็นกล้าม เเถมยังพ่วงด้วยหน้าตาหล่อเหลาดั่งเทพเซียนลงมาจุตินี่สิ เอ๊ะ!เเต่ทำไมเขาถึงมีหูกระต่ายสีดำล่ะ ไม่เข้ากับเบ้าหน้าสักนิด

"ไม่ทันเเล้วเด็กน้อย"

"เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ.. หึๆ"

ชายหนุ่มเริ่มถอดอาภรณ์ตัวเองออกอย่างว่องไวจนร่างกายไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิด ทำให้หนิงอันเหมิงเห็นของลับที่ผงาดอยู่ระหว่างขาอย่างชัดเจน มันเหมือนเเท่งหยกอันมโหฬาร

"ท่าน ตรงนั้นคือสิ่งใดรึ"นางชี้ไปยังเเท่งหยกยักษ์อย่างนึกใคร่รู้

"สิ่งที่ไว้ใช้ลงโทษเด็กดื้อ.."

"ข้าไม่เชื่อเเละข้าก็ไม่ได้ดื้อสักหน่อย"นางปฏิเสธอย่างทันควัน 

"ข้าจะกลับไปถามเสด็จพ่อ เสด็จเเม่ ว่ากลางกายท่านมันคือสิ่งใด" ร่างบางสบัดหน้าหนีไปทางอื่นพลางคิดในใจถ้าตนหลุดออกไปเมื่อไหร่จะให้เสด็จพี่มาตัดสิ่งนี้ทิ้งเสียให้รู้เเล้วรู้รอด ชิ!

"เรียกข้าว่า ห่าวซวน ตอนครางอยู่ใต้ร่างข้าอย่าริอาจครางชื่อบุรุษอื่น"

เมื่อกล่าวจบเขาจึงออกเเรงดึงขาเรียวที่พยายามเขยิบหนีเข้าหาจนกลางกายทั้งสองชนกันเข้าอย่างเเรง

“ซี๊ด อ๊าส์”

ห่าวซวนชักแก่นกายสองสามครั้งก่อนจะส่งตัวตนความเป็นชายเข้าไปสำรวจในถ้ำลับ

ปั๊ก ปั๊ก

กรี๊ดดดดด

“หะ ห่าวซวนเอาออกไปก่อน”

ใบหน้าหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หยดน้ำตาเอ่อล้นดวงตาคู่สวยอย่างห้ามไม่อยู่ นางก้มไปดูจุดเชื่อมกลางกายทั้งสองที่ตอนนี้ผสมน้ำใคร่เเละเลือดของนางจนแยกไม่ออก

“ละ เลือด.. ข้าจะตายรึไม่”

“อ๊าส์ พึ่งเข้าได้เเค่หัวเอง” ร่างหนาเหมินคำพูดของคนใต้อาณัติพลางเชิดหน้าด้วยความเสียวซ่านที่วิ่งเเล่นผ่านกลางกายแกร่ง

เขาจึงถอดตัวตนออกเเละโถมตัวตนเข้าร่องสาวคราเดียวจนมิดด้าม กระนั้นก็อดสงสารไม่ได้จึงเเช่ตัวตนไว้ก่อน 

“ทนหน่อยนะเด็กดี พอดีผัวไม่ชอบอ่อนโยน” มือหน้าปาดน้ำตาให้คนตัวเล็กพลางขยี้หัวทุยอย่างนึกเอ็นดู

พลั่บ พลั่บ พลั่บ

เอวสอบเริ่มกระแทกแก่นกายเข้าออกช้าๆให้เด็กน้อยของเขาชินก่อนจะเร่งสะโพกรัวเร็วจนเสียงอายดังทั่วห้องสลับกับเสียงเตียงโยก เอี๊ยด อ๊าด

“ห่าวซวน ข้าเกลียดท่าน อ๊า”

“ปากบอกว่าเกลียดแต่การกระทำเจ้าตรงกันข้ามเลยนะเด็กน้อย”

อ๊ะ อ๊า อ๊า

“ซี้ดส์ เเม่งเอาโคตรมันส์”​

ห่าวซวนเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะถึงจุดหมายปลายทางจึงอาสาส่งนางให้ถึงด้วยไว

​​​​ตรั่บ ตรั่บ ตรั่บ ~~~~

“ระ เร็วเกินไปแล้ว” ร่างบางครวญครางออกมาด้วยเสียงครางกระเส่าปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนให้ห่าวซวนเป็นอย่างดี

“อ๊าส์ จะเสร็จเเล้ว.... เสร็จเเล้ว กรี๊ดดดดด” ร่างบางเกร็งปลายเท้า นิ้วเเหลมจิกลงบนบ่าแกร่งเพื่อระบายความใคร่จนเลือดซิบถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่หยุด

“เด็กดี... อดทนอีกหน่อยนะ ผัวยังอีกยาวไกล”

“คนเลว อ๊ะส์ อ๊าห์”

​​​​​​เขาจับนางพลิกด้วยแขนข้างเดียวให้อยู่ในท่าคลานเข่าอย่างง่ายดายก่อนจะเริ่มบทสวาทอีกครั้งเเละอีกครั้งจนร่างบางสลบคาเอ็น หึหึ~~

จุ๊บ

ไรท์พึ่งหัดเเต่งNC อาจจะยังไม่ดีเท่าที่ควรต้องขอโทษด้วยค่ะ🙏 

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมาย

​​​​​

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!