...ตอนที่ 1...
@กรุงเทพมหานครฯ
สารเคมีในเข็มฉีดยาถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายบางของเธอจนหมดเข็ม เธอพยายามขัดขืนอย่างสุดกำลังแต่ทว่าแรงผู้หญิงหรือจะสู้แรงผู้ชาย
สายตาเริ่มพร่ามัว ง่วงซึม สมองทื่อไปหมด ร่างกายเริ่มอ่อนแรง เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้.. พวกเขาฉีดอะไรเข้าไปในร่างกายของเธอ!
"เป็นอย่างไรล่ะ! ฤทธิ์เยอะมากใช่ไหม? ทำไมล่ะ ไม่ขัดขืนแล้วเหรอ?" ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยพรางเชยคางสวยของเธอขึ้น
ในตอนนี้เธอแทบจะไม่สามารถรับรู้อะไรได้แล้ว.. ในหัวมันมีแต่คำว่าทรมาน มันทุรนทุรายไปหมด เธอพยายามดึงสติตัวเองให้กลับคืนมา สถานการณ์อย่างนี้เธอจะหลับหรือควบคุมตัวเองไม่ได้เด็ดขาด! เธอได้แต่ภาวนาขอให้มีคนผ่านมาตรงนี้.. เธอไม่ไหวแล้วจริงๆ
"เอา.. มือสกปรกๆ ของแกออกไป!" เธอว่าพร้อมกับใช้แรงทั้งหมดที่มีปัดมือหนาออกจากคางสวยของตัวเอง
"นึกว่าหมดฤทธิ์แล้วซะอีก ฤทธิ์เยอะแบบนี้.. ฉันชอบ" มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างสมเพช "ขนาดร่างกายของตัวเองไม่ไหว ยังจะดื้อด้านปากดีอีก ว้าาา.. ชักจะอยากปราบม้ายศอย่างเธอซะแล้วสิ"
"อย่าหวัง.. ว่าฉันจะยอมแกง่ายๆ ถ้าฉันหนีไปได้ ฉันจะกลับมาฆ่าแกแน่!" พยายามควบคุมตัวเองให้ได้ เธอจะไม่ยอมตายง่ายๆตรงนี้หรอก!
"ดาวเหนือลูก!!" 'คุณนายพิมพ์ดาว' มารดาของเธอร้องเรียกชื่อลูกสาวเสียงดังลั่น "ไม่.. ไม่ใช่ดาวเหนือ.." พึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเก็บความเป็นห่วงไปภายใต้ความหยิ่งยโสของตน..
ถึงแม้ว่าคุณนายพิมพ์ดาวกับลูกสาวจะเป็นแม่ลูกที่ไม่เหมือนแม่ลูกทั่วไป แต่คุณนายพิมพ์ดาวก็รักลูกสาวมาก แต่ที่อยู่ตรงหน้าคุณนายพิมพ์ดาวตอนนี้ไม่ใช่ลูกสาวคนที่คุณนายพิมพ์ดาวนั้นรักที่สุด..
"แม่.." ในที่สุดก็มีคนมาช่วยเธอแล้ว.. แต่คุณนายพิมพ์ดาวจะช่วยอะไรเธอได้ ..ที่เธอโดยกระทำอย่างนี้ก็เป็นเพราะว่าเธอรักแม่ไม่ใช่หรือ? เปล่าหรอก เธอแค่เข้าไปยุ่งในเรื่องที่ไม่ควรยุ่งเท่านั้นเอง..
"คุณศักดา ช่วยบอกให้ลูกน้องคุณปล่อยมือสกปรกๆ อยากจากแขนลูกสาวฉันด้วยค่ะ" คุณนายพิมพ์ดาวพยายามเก็บสีหน้าไม่ให้แสดงออกว่าเป็นห่วงลูกสาวมากเกินไป
'ศักดา' ศัตรูคู่ค้าของคุณนายพิมพ์ดาวสั่งให้ลูกน้องของเขาปล่อยมือจากเธอ เมื่อเธอเป็นอิสระ พยายามประคองตัวยืนก่อนที่คุณนายพิมพ์ดาวจะส่งสัญญาณบอกให้เธอนั้นรีบหนีไป
มองหน้ามารดาสักพักก่อนจะรีบเดินซมซานไปที่ซูเปอร์คาร์หรูของตัวเอง นั่งดึงสติของตัวเองให้กลับมา สายตาจดจ่อที่พวงมาลัย ก่อนจะขับเคลื่อนซูเปอร์คาร์หรูออกไปจากที่อันตรายนี้ให้เร็วที่สุด
แน่นอนว่าเธอไม่ต้องคิดห่วงมารดาเพราะมารดาของเธอนั้นสามารถเอาตัวรอดออกมาได้สบายๆอยู่แล้ว คุณนายพิมพ์ดาวนั้นทั้งเฉลียวฉลาด เจ้าแผนการ อีกทั้งยังมีมหาอำนาจเหลือล้น..
"ให้ตายสิ!" เธอสบถออกมาอย่างไม่ได้ดั่งใจ เธอเกลียดตัวเองในตอนนี้มากที่สุด! มองไปที่กระจกหลัง มีรถยนต์คันสีดำกำลังขับจี้เธออยู่.. เธอควรจะทำอย่างไรดีนะ..
แน่นอนว่าถ้าเธอไม่โดนศักดาวางยา เธอสามารถเอาตัวรอดได้สบายๆเพราะเธอนั้นสามารถควบคุมตัวเองได้ แต่ในตอนนี้แค่พยายามห้ามให้ตัวเองหลับ เธอยังไม่สามารถทำได้เลย..
ทิ้งแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ลงไปที่คันเร่ง และพยายามควบคุมพวงมาลัยให้ได้.. รถยนต์คันสีดำขับขึ้นมาเทียบเคียงซูเปอร์คาร์หรู พร้อมกับพยายามขับเบียดให้ตกลงข้างทาง.. ตอนนี้เธอขับออกมานอกเมืองบวกด้วยเวลาที่ดึกมากๆ จึงไม่ค่อยมีรถยนต์สัญจรมากสักเท่าไหร่
รถยนต์คันสีดำพยายามเร่งคันเร่งให้เร็วกว่าเพื่อไปสกัดข้างหน้าแต่โชคดีของเธอที่หักหลบเข้าไปในซอยข้างๆทำให้รถยนต์คันสีดำคลาดกับเธอไปเสียแล้ว..
หญิงสาวค่อยๆลดคันเร่งลงให้ช้ากว่าเดิมแต่ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมสติของตัวเองไว้ได้อีกต่อไปแล้ว.. ฤทธิ์ของยามันเริ่มเล่นงานเธอหนักขึ้นทุกๆวินาที จนเธอไม่สามารถทนกับมันได้เสียแล้ว..
มันจุกภายในอกราวกับจะขาดใจตาย อ่อนเพลียอย่างหนัก มันทุรนทุรายอึดอัด มันปวดไปหมด ขาทั้งสองข้างเริ่มมีหนัก มันทำให้เธอไม่สามารถรู้ได้ว่าตอนนี้เธอเหยียบคันเร่งแรงแค่ไหน..
และในตอนนี้เธอเริ่มจะทนกับมันไม่ได้อีกต่อไป… เสียงโทรศัพท์เข้าและเธอก็เอื้อมมือไปรับสายอย่างยากลำบาก..
"ช่วยด้วย.." นั้นเป็นคำแรกที่เธอพูดเมื่อรับสายโทรศัพท์.. เธออยากจะหยุดรถตรงนี้ แต่ก็กลัวว่าพวกมันจะกำลังตามมา..
"แกไปไงบ้าง! แม่แกบอกฉันว่าแกแย่แล้ว! ตอนนี้แกอยู่ที่ไหนอ่ะ! ฉันจะไปรับ!" ทันทีที่เธอรับสายพร้อมกับเอ่ยขอความช่วยเหลือ 'นภาพราว(พราวฟ้า)' ก็รีบเอ่ยถามเธอทันทีอย่างเป็นห่วง
"อยู่.. ไกลจากงานเลี้ยงประมาณ 5 กิโล.. ที่นอกเมือง.." ตั้งสติพรางบังคับพวงมาลัยให้ดีก่อนจะตอบเพื่อนสนิทไป.. เธอเชื่อใจนภาพราวมากที่สุด เชื่อใจมากกว่าใคร..
"ตอนนี้แกหยุดรถก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปจะไปรับเดี๋ยวนี้" นภาพราวบอกเพื่อนรัก ตอนนี้นภาพราวรู้ดีว่าเธอกำลังเมายา ถ้าขืนยังขับต่อไปมีหวังได้เกิดอุบัติเหตุแน่
"ไม่ได้.. ฉันหยุดไม่ได้ มันกำลังตามมา.." เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว
"ตอนนี้แกเมายาอยู่ หยุดรถก่อนนะ" นภาพราวบอกอย่างใจเย็น
"ไม่ได้ ฉันหยุดไม่ได้ ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว.. ตาฉัน.. มือฉัน.. เท้าฉัน.. หัวฉัน.. มันหนักไปหมดแล้ว.." เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงและกระวนกระวายเต็มทน.. ไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว..
พยายามยกเท้าออกจากคันเร่ง.. บอกกับตัวเองว่าต้องเชื่อนภาพราว เธอจะต้องหยุดรถเดี๋ยวนี้!! ไม่ทันที่เธอจะทำอะไร รถยนต์คันหน้าที่ขับสวนมาก็เปลี่ยนเลนถนนและพุ่งชนเข้าที่ซูเปอร์คาร์หรูของเธอทันที! ทำให้เธอต้องหักพวงมาลัยหลบจนพุ่งเข้าชนตู้โทรศัพท์ข้างๆ!
"แก! แก! เกิดอะไรขึ้น!" นภาพราวเอ่ยถามเธอจากโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงวิตกกังวล
"พราวฟ้า.. ช่วยฉันด้วย.. " เธอเงยหน้าขึ้นมา เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา..
"รอฉันก่อนนะ ฉันจะรีบไปให้เร็วที่สุด!"
เปิดประตูซูเปอร์คาร์หรู.. ก่อนจะดันตัวให้ออกไปนอกรถ.. หันเหลียวมองรถยนต์ที่มาชนตอนนี้รถยนต์คันนั้นได้ขับหนีไปแล้ว..
ทิ้งตัวลงที่ข้างๆซูเปอร์คาร์หรูอย่างหมดแรง.. หันมองเข้าไปในตู้โทรศัพท์.. เธอเห็นคนนอนจมกองเลือดอยู่ข้างในและคนนั้นคือผู้หญิง.. หวังว่ามันคงไม่ใช่ภาพหลอนนะ
"คุณคะ.. เป็นอะไรมั้ยคะ.." อยากจะเข้าไปหา แต่ตอนนี้เธอไม่อาจฝืนมันได้จริงๆ ได้แต่เอ่ยถามออกไปอย่างรู้สึกผิด..
"ฉัน.. ขอโทษนะคะ ฉัน.. ไม่ได้ตั้งใจ.. ฉันน่าจะหยุดรถตั้งแต่แรก ฉันน่าจะขับไปในเมืองตั้งแต่แรก ไม่สิ ถ้าฉันไม่ปากดี.. มันคงไม่เป็นแบบนี้.. ฉันขอโทษจริงๆ มันเป็นความผิดแก.. แกคนเดียวเลย 'ดาริกา'! " นั่งพร่ำขอโทษ.. และโทษตัวเอง.. ก่อนจะหมดสติไปในที่สุด…
"เรียบร้อยครับนาย" ชายหนุ่มปริศนาที่เป็นคนขับรถสวนเลนกับดาวิกา(?) แต่เขาก็เปลี่ยนเลนกระทันหันทำให้ซูเปอร์คาร์หรูของดาวิกาเสียหลักจอดตัวลงหลังจากขับมาไกลจากจุดเกิดเหตุก่อนจะโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้านาย
"ดี.. งั้นมึงตายได้" เสียงทุ้มต่ำเอ่ย พรางฉีกยิ้มออกมาอย่างสะใจก่อนจะกดตัดสาย.. นี้เขายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยเชียวหรือ?
แน่นอนว่าเขารู้ว่าดาวิกา(?) โดนศักดาวางยาจึงสั่งให้ลูกน้องขับรถต้อนให้ดาวิกามาติดกับดัก.. นี้เขาสามารถฆ่าคนโดยที่ไม่ต้องให้ตัวเองเปื้อนเลือด..
"อะไรนะครับนาย..!" ไม่ทันที่ชายหนุ่มปริศนาจะได้พูดอะไรต่อกระสุนปืนที่ยิงมาจากทิศไหนก็ไม่รู้ก็พุ่งเข้าไปไปที่กลางหน้าผาก..
"ทำไมนายต้องฆ่าจิรัจฌาด้วยล่ะครับ" มือขวาคนสนิทเอ่ยถามชายหนุ่มรูปงามแต่จิตใจโหดเหี้ยมที่นั่งจิบไวน์ราคาเฉียดล้านอย่างสบายใจ..
"เคยได้ยินคำนี้มั้ย.. ยิ่งรู้มาก ก็ตายไว.. นังจิรัจฌามันรู้มากเกินไปแล้ว อีกอย่างมันมีเพื่อนเป็นตำรวจ ถ้านังจิรัจฌาเกิดไปบอกเพื่อนที่เป็นตำรวจของมันขึ้นมา เราจะอยู่ยาก.. ส่วนผัวมัน.. ฉันก็ไม่รู้ด้วยสิ.." ว่าก่อนจะยกไวน์ในมือขึ้นมาจิบ..
"แล้วคุณดาวิกา(?) ล่ะครับ.." ถามออกไปอีกครั้ง
"นังนี้มันมาแส่หาเรื่องเอง ก็ช่วยไม่ได้.. ใครบอกให้มันปากเก่งนักล่ะ.. และอีกอย่าง..นังนั้นสมควรตายนานแล้วล่ะ.."
•
•
@ชายฝั่งเกาะภูเก็ต
"มึงว่าอะไรนะไอ่รัณย์!" ชายหนุ่มรูปร่างกำยำเอ่ยทวนคำถามเพื่อนรักอีกครั้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเองผ่านทางโทรศัพท์.. ที่เพื่อนรักพูดมามันไม่จริงใช่ไหม? เขาฟังผิดไปใช่ไหม? มันต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ เพื่อนรักของเขาอาจจะกำลังอำเขาอยู่ก็ได้.. เขาเพิ่งจะมีลูกกับเธอเองนะ..
"กูบอกมึงว่า.. จีตายแล้วเว้ย คุณจีเมียมึงเธอตายแล้ว!! มึงได้ยินชัดยัง" 'การัณย์' ตำรวจหนุ่มยศร้อยตำรวจเอก(ยศผู้กอง) เอ่ยย้ำอีกครั้ง.. ความจริงการัณย์โทรศัพท์มาบอกเพื่อนรักตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้วแต่ว่ามันไม่มีสัญญาณเพราะเพื่อนรักอยู่ที่เกาะเหมือง.. และตอนนี้การัณย์คาดว่าเพื่อนรักน่าจะขึ้นมาที่ชายฝั่งเกาะภูเก็ต..
"ไม่จริงสิ.. มึงโกหกกูใช่ไหม.. มึง มึงล้อกูเล่นใช่ไหม?" 'เมฆา' เอ่ยย้ำถามอีกครั้งอย่างมีหวัง.. เมฆาไม่อยากให้เรื่องที่การัณย์บอกนั้นเป็นจริง.. เมฆาไม่พร้อมที่จะเสียจิรัจฌาไปจริงๆ
"คุณจีเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้ด้วยอุบัติเหตุ.. แล้วก็มีบุคคลนิรนามพาคุณจีมาส่งโรงพยาบาล.. มึงว่าแปลกไหม?" มันน่าแปลกเสียจริงๆ มีพลเมืองดีพาจิรัจฌามาส่งที่โรงพยาบาล และไม่แจ้งชื่อไว้ ไม่มีภาพตอนจิรัจฌาถูกส่งมาที่โรงพยาบาลในกล้องวงจรปิด.. น่าแปลกใจไหมล่ะ..
"ตอนนี้กู.. กูคิดอะไรไม่ออกแล้วว่ะ สมองกูมันตันไปหมดแล้วว่ะ ครอบครัวของกูกำลังไปได้ดีเลยนะเว้ย ลูกกูเพิ่ง 6 เดือนเองนะ! แล้วจีก็มาจากกูกับลูกไป.. ถ้ากูไม่ให้จีไปกรุงเทพแต่แรกจีคงไม่ตายหรอก.." ตอนนี้ในสมองของเมฆามันมืดไปหมด ความรู้สึกของเมฆาก็รวนไปหมดแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะเสียใจหรือว่าแค้นใจก่อนดี.. ใครกัน ใครมันพรากคนรักไปจากเขา.. เมฆาสาบานเลยว่าเขาจะแก้แค้นในจิรัจฌาแล้วลากตัวคนทำผิดเข้าคุกให้ได้!
"มึงไหวไหมวะ.." ถามออกไปอีกครั้งอย่างเป็นห่วง..
"ไม่เลยว่ะ กู.. กูไม่ไหวแล้วว่ะ" น้ำตาที่กลั้นไว้ได้ไหลรินออกมาแล้ว.. นี้เมฆาต้องเสียคนรักไปตลอดชีวิตเลยเหรอ?
"มึงจะขึ้นกรุงเทพมาวันไหนวะ" การัณย์รีบถามเปลี่ยนเรื่อง.. ในใจอยากจะปลอบโยนเมฆาแต่ทำยังไงได้ การัณย์ปลอบคนเป็นสักที่ไหนกันล่ะ..
"เจอกันพรุ่งนี้ละกัน.. กูจะไปหามึงเอง.. และกูต้องรู้ตัวฆาตกรคนที่ขับรถชนจี.."
•
•
@บ้านนัทธ์ธัญธนิน
09:25
ดวงตาหวานค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างสะลืมสะลือ.. ก่อนที่จะมองไปรอบๆ.. นี้มันห้องนอนเธอ…
"ตื่นแล้วหรอจ๊ะ ..ดาวนิล" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นที่ประตูห้องนอน.. นภาพราวเข้ามาพร้อมกับชามข้าวต้มในมือ..
"พราวฟ้า.." เอ่ยชื่อบุคคลที่เข้ามาใหม่ "ฉันกลับมาที่นี้ได้ยังไง.. ถ้าฉันจำไม่ผิด.."
"แกกลับมาที่นี้ได้ยังไงน่ะหรอ ก็หลังจากที่ถูกนายศักดาวางยาแกก็หนีออกมาแล้วแกก็ชนกับป้ายข้างทางตอนนั้นฉับบังเอิญโทรไปหาแกพอดี แกบอกให้ฉันช่วยและก็บอกว่าแกอยู่ตรงไหน หลังจากนั้นฉันก็เลยไปรับแกกลับมา แค่คงจะจำไม่ได้เพราะแกเมายาอยู่.." นภาพราวเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างจำใจ ในใจอยากจะบอกความจริงใจจะขาดแต่.. คุณนายพิมพ์ดาวขู่นภาพราวเอาไว้..
"แต่เมื่อคืน.."
"ไม่มีอะไรหรอก แกอาจจะเห็นภาพหลอน เมื่อคืนแกเมายานะ" ดาริกาเอ่ยไม่ทันจบนภาพราวก็เอ่ยขึ้นแทรก ตอนนี้นภาพราวทำให้ดาริกาเชื่อหมดใจแล้วว่าเมื่อคืนนี้ดาริกาไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดมันคือภาพหลอน..
"แล้วเหนือล่ะ.." ดาริกาเอ่ยถามออกไป.. ปกติเวลามีเรื่องอะไรแบบนี้ดาวิกามักจะมาคอยบ่นคอยเตือนดาริกาอยู่ใกล้ๆ แต่ทำไมวันนี้หาย..
"เอ่ออ.."
"ตอบ"
"คือว่า.. ตอนนี้เหนืออยู่โรงพัก" นภาพราวตอบเสียงเบา..
"ว่าไงนะ! เหนืออยู่โรงพักได้ยังไง! มันเกิดอะไรขึ้น!" เอ่ยถามเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่วิตกกังวล..
"เมื่อคืนนี้.. เหนือเมามากหลังจากที่งานเลี้ยงจบก็ขับรถกลับบ้าน.. แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นก่อน.. เหนือขับรถชนคนเสียชีวิต.. ตอนนี้อยู่โรงพักโดนข้อหาเมาแล้วขับ และข้อหาขับรถประมาทจนทําให้ผู้อื่นเสียชีวิต"
•
•
@สถานีตำรวจ
"พอใจแม่แล้วใช่ไหม.." ดาวิกาเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังเดินออกมาจากสถานีตำรวจ.. ตอนแรกดาวิกาเกือบได้ถูกฝากขังแต่ด้วยอำนาจของเจ้าสัวพันล้านจึงทำให้ตำรวจต้องจำใจปล่อยดาวิกาออกมา และให้ไปสู่คดีในชั้นศาลต่อไป.. อำนาจของเงินทำได้ทุกอย่างสินะ..
"พอใจมาก แกก็รีบออกไปต่างประเทศให้ไวก็แล้วกัน!" เอ่ยเสียงเรียบก่อนสั่งลูกสาวคนโตและเดินออกไปอย่างไม่ใยดี..
"..แม่ไม่เคยรักเหนือสินะ" พึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่จะหันหน้าเดินไปที่ซูเปอร์คาร์หรูของตัวเอง.. น้ำตาที่กลั้นไว้นานได้ไหลออกมาแล้ว.. ทำไมกันนะ ทำไมดาวิกาต้องเป็นคนยอมมาตลอดทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด!
"ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เป็นครั้งสุดท้ายที่เหนือจะยอมแม่และนิล ต่อจากนี้เหนือจะไม่ยอมให้ใครอีกแล้ว.." เอ่ยพร่ำกับตัวเองก่อนที่จะเปิดประตูรถซูเปอร์คาร์หรู..
"เป็นเธอเองสินะ หน้าตาก็ดีนะแต่ไม่น่าเป็นฆาตกรเลย.." ไม่ทันที่จะได้แตะก็มีเสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านหลัง เช็ดน้ำตาของตัวเองออกก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับคนที่มาใหม่อย่างหยิ่งผยอง
"พูดกับฉันหรอคะ? ตายจริง ไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ดาวิกาตอบก่อนจะยิ้มหวานให้อย่างไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจมันแสนจะเจ็บปวด ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด ใยเขาถึงได้มาตราหน้าเธอว่าเป็นฆาตกรกันล่ะ..
"คุณนี่หน้าด้านใช้ได้เลยนะครับ ไม่ทราบว่าได้ปูนยี่ห้ออะไรมาฉาบไว้หรอครับ หรือเอากระดาษทรายมาขัด?" เมฆาตอบกลับทันที.. เมฆาเพิ่งมาขึ้นกรุงเทพเมื่อเช้ามืดของวันนี้พร้อมกับลูกชายวัย 6 เดือน ก่อนที่จะไปฝากลูกชายไว้กับป้าที่เลี้ยงดูจิรัจฌาที่บ้านเด็กกำพร้า และมาดูหน้าคนที่ทำให้ภรรยาของเขาต้องตาย
"เปล่าหรอกค่ะ พอดีว่าฉันมันด้านมาแต่เกิด คงเป็นกรรมพันธุ์ล่ะมั้งคะ" ดาวิกาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม "ว่าแต่คุณมีอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีก็ถอยออกไปค่ะ เสียเวลาชีวิตฉัน"
"มีครับ ผมแค่มาดูหนังหน้าฆาตกรสักหน่อย" เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆดาวิกา ถึงแม้ในใจดาวิกาจะหวาดกลัวมากแค่ไหนแต่ต้องทำเป็นว่าไม่กลัวและเข้มแข็งมากๆ ดาวิกาได้แต่ยืนยิ้มให้เมฆา
"ระวังตัวเองให้ดีนะครับ ผมรับรองเลยว่าชีวิตของคุณต่อจากนี้จะไม่มีคำว่าสงบสุขถ้าคุณยังไม่ได้เข้าคุก ผมจะตามรังควานคุณให้ถึงที่สุด" กระซิบข้างหูบางเบาๆ ก่อนจะถอยห่างออกมา "ขออนุญาตไปล้างตัวก่อนนะครับ เสนียด.." พูดจบก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้ให้เหลือเพียงดาวิกาที่กำลังยิ้มหวานให้เขาอยู่..
มองเมฆาจนสุดสายตาก่อนจะดันตัวเองเข้าไปในซูเปอร์คาร์หรู.. เธอไม่คิดว่าญาติของผู้หญิงคนนั้นจะเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้.. แถมหน้ากลัวเอามากๆด้วย
"นี้ฉันกำลังจะเล่นกับอะไรอยู่หรอ" เอ่ยถามตัวเองเบาๆ
•
•
...แนะนำตัวละคร ตอนที่ 1...
เมฆา ณรงค์คณินทร์ (29) , (34)
-เครดิต จอน จองกุก-
ดาวิกา นฤเศวร์ธาธัญธร (นามเดิมดาวิกา นัทธ์ธัญธนิน) (25) , (30)
-เครดิต ลลิษา มโนบาล-
ดาริกา นัทธ์ธัญธนิน (25) , (30)
-เครดิต ลลิษา มโนบาล-
การัณย์ เทวทิณณ์ (29) , (34)
-เครดิต มิน ยุนกิ-
นภาพราว วัณณุวรรธน์ (25) , (30)
-เครดิต เจนนี่ คิม-
จิรัจฌา วรณภัทรชญณ์ (27) , (32)
-เครดิต พัค โรแซนน์-
พิมพ์ดาว นัทธ์ธัญธนิน (43) , (48)
-เครดิต ซอง เฮเคียว-
ศักดา ธรินทร์วรัช (48) , (53)
-เครดิต คิม วอนแฮ-
**ตัวละครทุกตัวถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของนักเขียน เหตุการณ์และสถานที่รวมทั้งตัวละครเป็นเรื่องสมมุติ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยค่ะ**
...ขออนุญาตเจ้าของรูปทุกคนด้วยนะคะ*🙏...
****ไม่ได้มีเจตนาทำให้ศิลปินเสียหาย ถ้าผิดพลาดประการใดก็สามารถติชมได้นะคะ :)***
...ตอนที่ 2...
@สถานนีตำรวจ
"นี่.. ผลชันสูตรศพของคุณจี" การัณย์ยื่นเอกสารชันสูตรศพของจิรัจฌาให้กับเมฆา
"ศพก่อนเสียชีวิตไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย แต่เป็นการถูกกระแทกอย่างแรง.. คาดว่าน่าจะถูกรถชน และกูไปหาข้อมูลมา มีที่หนึ่งอยู่ชานเมืองมีตู้โทรศัพท์เสียหายเมื่อคืนและคาดว่าน่าจะถูกชนเมื่อคืนด้วยความเร็วสูง เพราะเมื่อวานตอนเช้ายังดีๆอยู่เลย และถัดไปไม่ไกลจากจุดตู้โทรศัพท์มีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ตรวจสอบทะเบียนรถแล้วเป็นทะเบียนปลอม แล้วภายในรถมีรอยเลือด และกระจกรถมีรอยแตก คาดการณ์ว่าน่าจะใช้ปืนยิงมาจากทิศไหนสักที่.." การัณย์บอกเมฆา
"มึงคิดว่า.. มีคนจงใจฆ่าจีเหรอ?" เมฆาขมวดคิ้วแน่น
"ถูก.. เอ้อ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ เอกสารสำคัญๆและก็กระเป๋าของคุณจีก็หายไปด้วยว่ะ ตามจีพีเอสแล้วแต่ไม่เจอ คาดว่าน่าจะถูกทำลายไปแล้ว.." การัณย์สันนิษฐาน
"พวกมันต้องการอะไรวะ แล้วมันจะฆ่าจีทำไม"
"อันนี้กูไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ พวกมันไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ" การัณย์บอก
"กูไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นใครมาจากไหน แต่กูต้องลากตัวมันเข้าคุกให้ได้ ต่อให้กูต้องพลิกแผ่นดินก็ตาม.."
"กูจะพยายามช่วยมึงเต็มที่.. แต่กูว่าคุณดาวิกาไม่ได้ทำ.. เพราะถ้าเธอเป็นคนชนแล้วทั้งรถทั้งตู้โทรศัพท์เละขนาดนั้นทำไมเธอไม่มีบาดแผลหรือเป็นอะไรเลย.."
"กูไม่รู้ว่ะ.. แล้วต่อจากนี้กูจะใช้ชีวิตอยู่ต่อโดยที่ไม่มีจียังไง.. กูชินที่มีจีอยู่ข้างๆไปแล้วว่ะ" ว่าก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ใกล้ๆ
"อยู่ๆไปสักพักเดี๋ยวมึงก็จะชินไปเองแหละ ช่วงแรกๆมันก็จะทรมานหน่อยนะ.."
"แล้วมึงล่ะ.. ยังคิดถึงเธออยู่เหรอวะ?"
"..ช่างเรื่องกูเถอะ ว่าแต่มึงไปงานศพคุณจียัง?"
"ยังเลยว่ะ.. กูไม่กล้าไปเผชิญหน้ากับความเป็นจริง กูกลัวว่าความรู้สึกกูจะรับไม่ไหวว่ะ.. ขนาดกูเตรียมใจมาแล้วนะ.." หลังจากที่เหยียบสนามบินฯ เมฆาก็นำลูกชายตัวน้อยของเขาไปฝากไว้.. แล้วก็ตรงมาหาการัณย์ที่ สน. ทันที เมฆายังไม่พร้อมที่จะไปเจอจิรัจฌาในสภาพแบบนั้น.. ไม่พร้อมเลยจริงๆ..
เมฆาคบหาดูใจกับจีรัจฌามานานหลายปี จิรัจฌาเป็นแฟนคนแรกของเมฆา และยังเป็นแม่ของลูกของเมฆา เมฆาอยากให้จิรัจฌาเป็นคนสุดท้ายของเขา.. แต่ในตอนนี้จิรัจฌาได้ทิ้งเมฆากับลูกไปแล้ว.. จิรัจฌาทิ้งเมฆากับลูกไปโดยที่ยังไม่ได้บอกลาสักคำ..
ชีวิตคนเรามันสั้นเสียจริง.. ยิ่งโตขึ้นก็เหมือนนับเวลาถอยหลัง.. วันนี้อาจจะดีๆอยู่ วันต่อมาอาจจะต้องตาย.. เมฆาน่าจะใช้เวลากับจิรัจฌาให้มากกว่านี้.. อยากจะกอด อยากจะจูบ อยากได้ยินคำว่ารักจากปากของจิรัจฌาอีกครั้ง.. แต่มันสายไปแล้ว..
เมฆาที่อุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขนเดินเข้ามาภายในศาลาวัด.. มองตรงไปที่โลงเย็นที่ถูกประดับตกแต่งไปด้วยพวงหรีดสีขาวดำ.. ข้างหน้ามีรูปภาพของจิรัจฌาตั้งอยู่.. เป็นภาพที่มีรอยยิ้มที่ร่าเริงของจิรัจฌา ในภาพจิรัจฌาดูมีความสุขมาก.. ภายใต้สีขาวดำ
คุกเข่าลงตรงหน้าศพ มือหนาหยิบธูปขึ้นมาจุด.. เมฆาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับร่างกายที่ไร้ลมหายใจของจิรัจฌาในโลงศพ เมฆาต้องพูดร้องไห้คร่ำครวญหรือเอ่ยบอกให้จิรัจฌาไปสู่สุขคติดี? ไม่รู้จะพูดอะไรเลยจริงๆ
"จี.. ผมกับลูกมาหาจีแล้วนะ.. เราไม่ได้เจอกันตั้ง 1 อาทิตย์เลยนะ.. ผมไม่คิดเลยว่าเราจะได้มาเจอกันอีกครั้งแบบนี้.. และผมก็เชื่อว่าจีก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้เช่นกัน.." ในหัวของเมฆาตอนนี้ มันมีสตอรี่ของจิรัจฌาเต็มไปหมด.. ความทรงจำดีๆที่เคยสร้างไว้ไปจิรัจฌามันกำลังตีกันในหัวของเมฆา
"ตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา.. ผมกับลูกคิดถึงจีมากๆเลยนะ ผมอยากกอดจี อยากจูบจี แต่มันไม่ทันแล้ว.. จีไปแบบไม่ลาผมกับลูกเลย.." มาบอกตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว จิรัจฌาเธอไม่รับรู้อะไรแล้ว
"ผมรักจี รักมากด้วย รักที่สุด.. แต่จีใจร้ายมากเลยนะรู้ไหม จีโคตรใจร้ายเลยอ่ะ ไหนจีเคยบอกว่าจะไม่ทิ้งผมกับลูกให้อยู่ตามลำพังล่ะ.. " ตั้งแต่เด็กจนโตเมฆาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและไม่มีความหมายจนกระทั่งมีจิรัจฌาเข้ามาในชีวิต เธอทำให้ต้นไม้ที่กำลังจะตายอย่างเมฆากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง..
จิรัจฌาเป็นความสุขและเป็นทุกๆอย่างของเมฆา และวันนี้เธอได้จากไปแล้ว.. และดูเหมือนว่าถ้าไม่มีเจ้าเมฆาตัวน้อยคนนี้.. เมฆาคงจะกลับไปเป็นต้นไม้ที่กำลังจะตายดังเดิม เหมือนตอนที่จิรัจฌายังไม่ได้เข้ามาในชีวิต..
"..จีจำได้ไหม วันนี้วันเกิดผมนะ ทุกๆปีวันนี้ผมจะมีจีอยู่ข้างๆและจีจะคอยเป็นคนให้ของขวัญเป็นคนแรกอยู่เสมอ ปีนี้ก็เช่นกัน แต่ผมไม่อยากได้ของขวัญจากจีแบบนี้เลย.."
"ปีนี้ผมไม่ขออะไรมาก ผมขอให้จีกลับมาหาผมกับลูก.. ขอให้เรื่องทั้งหมดมันเป็นแค่ฝันร้าย.. คำขอนี้มันไม่มากไปใช่ไหม"
"ผมคิดถึงจีมากๆ คิดถึงจนใจแทบขาดแล้วนะ.. อีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันคบรอบแต่งงานของเราแล้วนะ.. อีก 4 เดือนสายหมอกลูกของเราก็จะคบปีแล้วนะ.. ตอนนี้จีบอกผมได้ไหมว่าตอนนี้ผมกำลังฝันร้ายอยู่ ถ้าผมตื่นขึ้นมาผมจะเห็นจีกอดผมกับลูกอยู่ข้างๆ"
"ชีวิตที่ผมไม่มีจี มันว่างเปล่าโคตรๆเลยนะ มันดูไร้ค่า ไร้ความหมายเมื่อไม่มีจี.. ผมกับลูกยังอยากมีจีอยู่ในชีวิตอยู่นะ.. ทำไมจีถึงได้.. ถึงได้ทิ้งผมกับลูกไว้ในฝันร้ายแบบนี้ ถ้านี้มันเป็นความฝัน จีช่วยปลุกผมกับลูกของเราให้ตื่นจากฝันร้ายนี้สักทีได้ไหม.. ได้ไหมจี.."
•
•
...: 5 ปีต่อมา :...
เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ระยะเวลาร่วงเลยมาแล้ว 5 ปี ตอนนี้เมฆายังคงจดจำจิรัจฌาไว้ในใจเสมอ และยังไม่ลืมความแค้นที่มีต่อคนที่ทำให้จิรัจฌาต้องตาย ส่วนเด็กชายเหนือสมุทร(สายหมอก) ลูกชายตัวน้อยของเมฆาตอนนี้ได้โตขึ้นมากแล้ว แถมยังเป็นเด็กช่างพูด สดใสและซุกซนตามวัย ทำให้เมฆาไม่มีเวลาได้เหงาเลย
การที่เมฆาเป็นพ่อที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวมันแสนจะเหนื่อยเสียจริง.. แต่เมฆาก็เต็มใจที่จะเหนื่อยเพื่อคนที่เมฆารัก..
เมฆาไม่มีหลักฐานอะไรเลยที่จะจับตัวคนร้ายได้ ผ่านมา 5 ปีแล้วยังไม่รู้ได้ว่าใครเป็นคนทำเพราะศาลได้ตัดสินว่าดาวิกาไม่มีความผิด แต่เมฆาก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าดาวิกาเป็นคนทำแต่เพียงหลักฐานไม่มากพอก็แค่นั้น..
ตอนนี้เมฆาได้เลิกทำธุรกิจเหมืองแร่ตามที่จิรัจฌาเคยเอ่ยปากขอร้องเมฆาไว้เนื่องด้วยจากว่ามันอันตราย บวกกับที่เมฆากลัวว่าเขาจะไม่มีเวลาให้ลูกชายตัวน้อย เพราะเมฆาไม่ยอมให้ให้ใครเลี้ยงลูกชายเลยนอกจากคนที่เมฆาไว้ใจเท่านั้น..
เมฆาหันมาทำธุรกิจสัมปทานรังนกและรีสอร์ตหรูกลางเกาะเป็นธุรกิจหลักแทน.. และก็ยังมีธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย.. การตายของจิรัจฌามันทำให้เมฆารู้ได้เลยว่าเมฆาต้องมีอำนาจให้มากที่สุดถ้าอยากจะลากคนทำผิดเข้าคุก.. และชดใช้กรรม
เมฆากลายเป็นพ่อลูกอ่อนเต็มตัว เมฆากับลูกชายตัวติดกันมาก ไปไหนไปด้วยกันตลอด ถึงจะมีหลายครั้งที่เมฆาไม่ให้ลูกชายตามไปด้วยเนื่องจากว่ามันอันตราย ด้วยความที่เมฆาเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอดถึงจะมีบางครั้งที่มีคนมาช่วยเลี้ยงบ้าง แต่ 95% นั้นเป็นของเมฆา
เด็กชายเหนือสมุทรติดเมฆาเอามากๆ แถมยังหวงเมฆามากอีกด้วย ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เลยก็ว่าได้.. แต่ถึงอย่างนั้นเมฆาก็ไม่คิดที่จะมีใครอยู่แล้ว
ทางด้านของการัณย์ เขาถูกปลดออกจากข้าราชการตำรวจแล้ว.. เนื่องจากผู้มีอำนาจต้องการปลดเขาเพราะการัณย์พยายามสืบหาหลักฐานคดีของจิรัจฌามากเกินไป..
ในช่วงแรกการัณย์ก็ได้ไปทำงานที่เกาะสัมปทานรังนกของเมฆา(เกาะสัมปทานเมฆา) แต่หลังจากนั้นการัณย์ก็ได้มาเปิดธุรกิจสนามยิงปืนบนเกาะของเมฆา(เกาะสมุทรเมฆา).. และการัณย์ยังเป็นคนเดียวที่นอกจากเมฆาแล้วเด็กชายเหนือสมุทรสนิทด้วยมากที่สุด..
ทางด้านของดาวิกา หลังจากที่เรียนจบปริญญาโทที่อเมริกาก็ได้ทำงานเก็บประสบการณ์อยู่ที่นั้นอยู่หลายปี และไม่ติดต่อใครเลยที่เมืองไทยนอกจากนภาพราว..
ดาวิกาเรียนจบปริญญาตรีสาขาการจัดการโรงแรมที่ประเทศไทย ก่อนที่จะถูกส่งมาที่อเมริกา และเรียนจบปริญญาโทสาขาบัญชี(?)
ในปัจจุบันเรื่องราวของผู้หญิงคนนั้นยังฝั่งใจดาวิกาจนทำให้ดาวิกาพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้มแข็งขึ้น และทำงานหาเงินเองเนื่องจากเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวที่ดาวิกาต้องเป็นคนยอมมาเสมอ ยอมมามากจนตัวเองนั้นเกือบที่จะเข้าคุกแทนน้องสาวของตนเอง..
ดาวิกาใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาอย่างโดดเดี่ยว ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายคอยเข้ามาคุย หรือเข้ามาจีบอยู่เรื่อย แต่ดาวิกาก็รู้สึกว่าตนนั้นไม่เหมาะสำหรับความรักหรอก..
ดาวิกานับวันรอที่จะกับไปแก้แค้นและทำลายทุกคนที่เคยกดดาวิกาลงในวันที่ดาวิกาอ่อนแอ ในตอนนี้ดาวิกาได้เปลี่ยนไปแล้ว ดาวิกาได้รู้โลกมากกว่าเดิมแล้ว..
ดาวิกาได้ทำงาน ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามานาน และวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่ดาวิกาต้องกลับเมืองไทยสักที..
ผู้คนมากมายหลากหลายสัญชาติต่างหลั่งออกมาจากสนามบินฯเช่นเดียวกับดาวิกา.. เท้าสวยก้าวเดินออกมาจากสนามบิน.. ตากลมกวาดสายตามองไปรอบๆ..
"เปลี่ยนไปมากกว่าที่คิด.." พึมพำเบาๆ ดาวิกาไม่คิดว่าสนามบินจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้.. แต่ก็นะ เวลาเปลี่ยนอะไรๆก็เปลี่ยนตาม.. เช่นเดียวกับดาวิกาในตอนนี้..
5 ปีที่ผ่านมามันสอนให้ดาวิกาได้เข้มแข็ง และรู้ทันโลกให้มากขึ้น และได้ทำความรู้จักกับคุณนายพิมพ์ดาวในมุมต่างๆที่ไม่ใช่มุมที่ดาวิกาได้สัมผัสรวมถึงดาริกาด้วย..
ตอนที่ดาวิกาได้ไปอยู่ที่อเมริกามันทำให้ดาวิกาได้เรียนรู้อะไรอะไรหลายๆอย่างมากมาย.. มันก็ทำให้ดาวิกาโตขึ้นกว่าเดิม..
@พัทยา
ดาวิกาลงจากแท็กซี่ ในมือขวาถือกระเป๋าเดินทาง ส่วนมือซ้ายก็กดออดประตูรั้วหน้าบ้าน..
"มาแล้วค่ะ!!" รอสักพักก็เสียงผู้หญิงเจ้าของบ้านร้องดังออกมาจากภายในบ้าน.. ก่อนที่ประตูรั้วหน้าบ้านจะถูกเปิดออกโดยเจ้าของบ้าน เผยให้เห็นหน้าของเธออย่างชัดเจน
"ดาวเหนือ!!" หญิงสาวเจ้าของบ้านร้องเสียงหลงอย่างตกใจ ไม่คิดว่าดาวิกาจะมายืนกดออดที่หน้าบ้านของตน
"สบายดีไหมคะคุณแม่พราวฟ้า คุณแม่ผอมลงมากเลยนะ เหนื่อยมากใช่ไหมล่ะ" ดาวิกาเอ่ยทักทายนภาพราวด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะอ้าแขนกว้างก่อนที่นภาพราวจะโผเข้ากอดอย่างคิดถึง..
"โคตรคิดถึงแกเลยว่ะ" นภาพราวบอกอย่างจริงใจ เธอคิดถึงดาวิกามากๆ ตั้งแต่ดาวิกาได้ต่างประเทศก็มีเรื่องวุ่นวายเข้ามามากมาย..
"ไม่ถามหน่อยหรอว่าทำไมฉันไม่บอกแกว่าจะกลับเมืองไทย" ดาวิกาเอ่ยถามอย่างแปลกใจ ดาวิกาคิดว่านภาพราวจะเอ่ยถามประโยคดังกล่าวแทนที่จะบอกคิดถึงเสียอีก..
"ฉันว่าแกต้องมีเหตุผลของแกที่ไม่บอกฉัน ฉันจะคิดว่าแกมาเซอร์ไพรส์ละกัน แต่ฉันว่าเราเข้าบ้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะมีคนมาเห็น.." ว่าก่อนจะช่วยดาวิกาถือกระเป๋าเข้าไปภายในตัวบ้านโดยที่ไม่ลืมปิดประตูรั้วหน้าบ้าน..
พื้นที่บ้านของนภาพราวมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง จึงสามารถสร้างอาคารได้ถึง 2 หลัง แต่เป็นอาคารที่ไม่ได้ใช้เนื้อที่มาก..
เดินเข้ามาภายในจะพบกับลานกว้างตรงหน้าเป็นอาคารบ้านสีขาว 2 ชั้น เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ชั้นล่างข้างหน้าจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนไม้ข้างเดียวขนาดใหญ่เผยให้เห็นภายในตัวบ้านทั้งหมด บันไดจะอยู่ทางซ้ายมือสุด ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน มีทั้งหมด 2 ห้องนอน ถ้ามองจากด้านหน้า หน้าต่างกระจกของชั้นบนจะอยู่ด้านขวามือสุด..
ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นอีกอาคาร เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ภายนอกถูกทาสีเขียวเข้ม ส่วนภายในถูกทาด้วยสีขาว ภายในจะเป็นโถงกว้างจะมีโซนนั่งเล่น โซนครัว โซรับประทานอาหาร โซนโต๊ะทำงาน และโซนเลี้ยงเด็ก ส่วนข้างนอกจะมีห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ..
"แกจะเอาไงต่ออ่ะ" นภาพราวเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เข้ามานั่งภายในอาคาร 2 ทางซ้ายมือ..
"ไม่รู้สิ.. ยังไม่ได้คิด" ดาวิกาตอบพรางมองไปรอบๆห้องโถงขนาดใหญ่.. "รู้ไหมว่าทำไมอยู่ๆฉันถึงกลับมาเมืองไทย ทั้งที่ฉันไม่อยากจะกลับมาเหยียบที่นี้" หันมาสบตานภาพราวก่อนจะเอ่ยถาม..
"แกคงไปรู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้มา.." นภาพราวตอบตามความคิด..
"แกเนี่ยเนาะ แสนรู้จริงๆ" ดาวิกาว่าก่อนจะยิ้มกว้าง
"คนเว้ย ไม่ใช่หมา"
"มีคนใหญ่คนโตที่นู้นที่ฉันสนิทด้วยบอกกับฉันว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมีคนใช้ชื่อและนามสกุลเก่าของฉันจดทะเบียนสมรส.. และยังป่าวประกาศว่าเธอคือฉัน แต่ดีนะฉันแอบไปเปลี่ยนนามสกุลก่อนที่จะไปอเมริกา ทะเบียนสมรสเลยถือเป็นโมฆะ.. ซึ่งคนนั้นก็คือน้องสาวฉัน" ดาวิกาบอก แน่นอนว่าเมื่อเราไปอยู่แปลกที่เราก็อยากจะหาเพื่อน หาคนสนิท และหาที่พึ่ง.. และคนที่ดาวิกาเลือกที่จะคบค้าสมาคมต้องเป็นคนที่ดาวิกามั่นใจว่าจะไม่มาหักหลังเธอทีหลัง..
นภาพราวนั่งเงียบ ไม่คิดเลยว่าดาริกาจะทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้ แต่งงานทั้งทีใยต้องใช้ชื่อของดาวิกา แล้วเจ้าบ่าวของดาริกาคือใครกันนะ
"และแกจำคนที่ชื่อคณุฒน์ได้ไหม?" ดาวิกาถามอีกครั้ง..
"คนที่จู่ๆก็เกลียดแกแบบไม่มีเหตุผลอ่ะนะ?" ถ้านภาพราวจำไม่ผิด เมื่อตอนที่ดาวิกายังไม่ไปต่างประเทศ คุณที่ชื่อว่า 'คณุฒน์' มักจะตามมารังควานดาวิกาอยู่ตลอดๆ ไม่รู้ว่าดาวิกาไปทำอะไรให้เขาเกลียดชัง..
"เขา.. สั่งให้ใครคนหนึ่งมาฆ่าฉันที่อเมริกา" ดาวิกาบอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง.. ไม่รู้ว่าดาวิกาไปทำอะไรให้คณุฒน์ เขาถึงได้เกลียดจนต้องการฆ่าดาวิกา.. ถ้าดาวิกาจำไม่ผิด ดาวิกาไม่เคยรู้จักหรือไปทำอะไรให้เขาเลยสักนิด..
"ที่แกกลับมา.. ก็เพราะเขาอย่างนั้นเหรอ?" นภาพราวถามไถ่
"มันก็ส่วนหนึ่ง แต่หลักๆคือ.. แม่" บอกด้วยสีหน้าที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด ดาวิกาต้องเจ็บมากี่ครั้งแล้วกับคำว่า 'ที่ทำไปก็เพราะอยากปกป้องดาวิกา/รักดาวิกา'
"แม่แก? น้าพิมพ์อ่ะนะ?"
"อืม.. แม่จะไปลากตัวฉันให้แต่งงานกับตาแก่บ้ากามที่ไหนไม่รู้" ดาวิกาบอก..
"แกรู้ได้ยังไง? ใครบอกแก?" นภาพราวถามอย่างสงสัย คนที่บอกดาวิกาเขาเชื่อได้มากแต่ไหนกัน?
"น้าเทวา.. น้าเทวาไม่มีทางโกหกฉัน" ดาวิกาบอก "น้าเทวาเป็นทั้งที่พึ่ง เป็นทั้งพ่อ เป็นคนให้ข้าวให้น้ำฉันกินตอนที่แม่ไม่กลับบ้าน.. ถ้าไม่มีน้าเทวา.. ฉันอาจจะตายไปแล้วก็ได้.."
"..ไม่เอาสิ แกอย่าร้องไห้สิเหนือ" ว่าพรางเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ดาวิกา
"แล้ว.. นิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง.." สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
"5 ปีมานี้ดาวนิลเปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แถมยังใส่ร้ายฉันให้โดนไล่ออกจากโรงพยาบาล ใบอนุญาตทางการแพทย์ฉันเลยถูกระงับ 3 ปี หลังจากนั้นฉันเลยไปได้ติดต่อกับนิลเลย" นภาพราวว่าด้วยน้ำเสียงที่ไม่เข้าใจในตัวของดาริกาบวกกับความโกรธ..
"ฉันก็ไม่ได้ติดต่อเหมือนกัน แต่สองปีแรกดาวนิลก็โทรศัพท์มาหาฉันบ่อยๆนะ แต่หลังจากนั้นก็หายไปเลย ฉันก็ไม่อะไร.." ดาวิกาบอก.. "เอ้อ! แล้วลูกฉันล่ะ อยู่ไหน?" ดาวิการีบเช็ดน้ำตาก่อนจะปรับความรู้สึกของตัวเองให้กลับมาปกติอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามนภาพราว..
"ลูกแกอะไร ลูกฉัน!" นภาพราวบอก ก่อนที่ทั้งคู่จะหัวเราะออกมา "ก้องฟ้านอนหลับอยู่อ่ะ อีกเดี๋ยวก็คงจะตื่นแล้วมั้ง นี่ก็จะ 4 โมงเย็นแล้ว" นภาพราวตอบ.. ก่อนจะเริ่มทำอาหารเย็น..
"พราวฟ้า.." นั่งเงียบอยู่นาน ลังเลว่าว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี..
"ห้ะ?" นภาพราวขานรับ..
"เปล่าหรอก.." และดาวิกาก็ตัดสินใจไม่พูด..
"ฉันรู้ว่าแกมีอะไรจะพูด.. พูดมาเถอะ" นภาพราวว่า..
"ฉัน.. ขอยืมก้องฟ้ามาเป็นลูกฉันตบตาแม่ได้ไหม.. ฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าฉันบอกว่าฉันมีลูกแล้วแม่อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้.." ดาวิกาพูดออกไปในที่สุด นภาพราวเงียบ เธอหยุดทุกอย่างก่อนจะยืนแน่นิ่ง.. ดาวิกาคิดไว้อยู่แล้วว่านภาพราวเธอไม่อนุญาตหรอก.. ใครจะบ้าให้คนอื่นมายืมลูกไปเป็นของตัวเอง
"เอาสิ.. ยังไงแกก็เป็นเหมือนแม่ก้องฟ้าอยู่แล้ว แกจะเอาไปเป็นลูกแกตลอดชีวิตฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก" ผิดคาด! ดาวิกาคิดว่านภาพราวจะไม่อนุญาตเสียอีก..
"ว่าแต่แม่ฉันเคยเห็นหน้าก้องฟ้าไหม?"
"ไม่หรอก ตั้งแต่แกไปต่างประเทศฉันก็ถูกไล่ลาออก แล้วก็เลิกยุ่งกับแม่แกและน้องแก ช่วงแรกๆแม่แกก็มีส่งคนมาตามประมาณ 1 ปีกว่าๆ แล้วก็หายไปเลย แม่แกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันติดต่อแกหรือว่าฉันมีลูก" นภาพราวตอบ..
"อ๋อ.. ลำดับแรก เราต้องปลอมแปลงเอกสาร" ดาวิกาบอกนภาพราว
"แกจะทำเดี๋ยวนี้เลยเหรอ?" นภาพราวถามอย่างแปลกใจ
"เราต้องเตรียมพร้อมเอาไว้ เผื่อว่าแม่ส่งคนมาตามหาแก และเผอิญเจอฉัน ถ้าแม่จะลากตัวฉันไป ก็ยื่นเอกสารให้แม่ดูเลย" ดาวิกาบอก
"แกกลายเป็นคนเจ้าแผนการตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" นภาพราวถามอย่างติดตลก
"ก็ตั้งแต่รู้ว่าโลกนี้มันไม่มีคนที่จริงใจกับเราทุกคนหรอก ขนาดแม่ฉันยังไม่จริงใจกับฉันเลย ฉันจะเชื้อใจใครได้ล่ะ" ดาวิกาตอบ
"ก็ฉันไง.. แกเชื่อใจฉันได้ ฉันจะอยู่ข้างๆแกเอง.."
•
•
...แนะนำตัวละคร ตอนที่ 2...
คณุฒน์ วิมลสรากร (31)
-เครดิต คิม นัมจุน-
เทวา ธนินวราธร (38)
-เครดิต จองโฮซอก-
... ตอนที่ 3...
@ระนอง
"กรี๊ดดด!!" กีดร้องเสียงดังก่อนจะโยนข้าวของใครบางคนลงมาจากชั้นสองของคฤหาสน์หรูด้วยความโมโห
"คุณหนูขา ใจเย็นๆก่อนนะคะ" ป้าบัว แม่บ้านที่ทำงานให้กับคุณนายพิมพ์ดาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
"ทนไม่ไหวแล้วนะ! ทำไมฉันต้องอยู่ในชื่อของนังเหนือด้วย!" เอ่ยเสียงดังด้วยอารมณ์สุนทรี ดาริกาไม่โอเคที่ต้องมาอยู่ภายใต้ชื่อของดาวิกาทั้งๆที่เธอคือดาริกา!
ในตอนนี้ดาริกาเหมือนคนสติแตก ทำไมเธอต้องมีฝาแฝด! ฝาแฝดที่ได้ความรักจากแม่มากกว่า! ทั้งที่ตลอดมาดาริกาเป็นคนที่ได้ทุกอย่าง แต่ทำไมตอนนี้เธอถึงต้องมีเสียทุกอย่างไป! ทั้งเกียรติยศ และศักดิ์ศรี!
"อะไร แกโวยวายอะไรอีก!" คุณนายพิมพ์ดาวพี่เพิ่งจะกลับบ้านหลังจากที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เอ่ยถามลูกสายคนเล็กขณะที่ก้าวขาเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังใหญ่
"นิลไม่เอาแล้ว! นิลไม่อยากอยู่ในชื่อนังเหนือแล้ว! ทำไมนิลต้องมีมันเป็นฝาแฝดด้วย!" ดาริกาตอนกลับผู้เป็นมารดาทันที
"เหรอ? แล้วทีเมื่อก่อนทำไมชอบเอาชื่อเขาไปอ้าง จนเขาถูกตามฆ่าที่อเมริกา ฉันให้ชื่อแกใช้เต็มที่แล้ว อยากทำไรทำเลย!" คุณนายพิมพ์ดาวเอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด
"ทำไมแม่ต้องรักแต่มัน! ทำไมแม่ต้องรักมันมากกว่า!" ดาริกาเอ่ยถามอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
"ถ้าแกดูดีดี คนที่ฉันรักมากที่สุด! คือคนที่ได้ทุกอย่าง!" คุณนายพิมพ์ดาวตอบก่อนจะเดินกลับออกไปข้างนอก ทั้งทีคุณนายพิมพ์ดาวเพิ่งจะกลับบ้าน!
"แม่ก็มีแต่รักตัวเองแหละ!!" ดาริกาตะโกนตามหลัง ก่อนที่ร่างเล็กจะทรุดนั่งลงกับพื้น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา..
"คุณหนูคะ.." ป้าบัวเดือนเข้าไปหาดาริกาใกล้ๆก่อนจะกอดปลอบโยนอย่างอบอุ่น..
"คงจะมีแค่ป้าบัวที่รักนิลจริง.."
•
•
@ภูเก็ต
มือบางค่อยๆวางช่อดอกไม้ในมือลงไปตรงหน้ารูปภาพของเจ้าของที่เก็บอัฐิอย่างอ่อนน้อมและเบามือ..
"ฉันขอโทษนะคะที่ฉันรอเวลาจนมันผ่านมานานมากแล้ว.. คุณจิรัจฌา" มองรูปภาพของเจ้าของที่เก็บอัฐิตรงหน้าด้วยแววตาที่รู้สึกผิด.. ในภาพนั้น จิรัจฌากำลังยิ้มด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขมันยิ่งทำให้ดาวิกายิ่งรู้สึกผิดมากๆ
เห็นรอยยิ้มของจิรัจฌาในรูปภาพ มันทำให้ดาวิกาตอกย้ำตัวเองในใจว่าดาริกาน้องสาวของเธออาจจะไปพากความสุขจากจิรัจฌาด้วยความตาย.. ในตอนนั้นจิรัจฌาอาจจะมีความสุขมากๆก็ได้..
"ฉันจะไม่ขอให้คุณอโหสิให้น้องสาวฉัน.. แต่ได้โปรด.. โปรดรับคำขอโทษจากฉันแทนน้องสาวได้หรือเปล่าคะ" ที่ดาวิกามาหาจิรัจฌา ดาวิกาไม่ต้องการให้จิรัจฌายกโทษ หรืออโหสิกรรมให้ดาริกาแต่อย่างใด.. ดาวิกาเพียงแค่อยากจะมาขอโทษแทน.. ก็แค่นั้น..
ถามว่าดาวิกามาหาจิรัจฌาถูกได้อย่างไรน่ะเหรอ? นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวิกามาหรอก ดาวิกาจะแอบกลับเมืองไทยทุกปีโดยที่ไม่บอกใคร และจะเลือกกลับช่วงครบรอบอุบัติเหตุครั้งนั้น.. ครั้งที่ดาวิกาไม่เคยลืม.. แล้วดาวิกาก็ให้คนไปสืบหาว่าที่เก็บอัฐิของจิรัจฌาอยู่ที่ไหน.. และดาวิกาก็ได้รู้คำตอบ..
"ฉันตั้งใจมาที่ภูเก็ตเพื่อมาหาคุณโดยเฉพาะเลยนะคะ.." ใช่แล้ว! ตอนนี้ดาวิกาอยู่ที่ภูเก็ต.. เหตุผลหลักคือมาขอโทษจิรัจฌาในวันครบรอบวันตายของเธอ.. และเหตุผลรองคือหนีคุณนายพิมพ์ดาวและพานภาพราวและเด็กชายณภัสร(น้องก้องฟ้า) มาเที่ยวด้วย..
ดาวิกาปล่อยให้นภาพราวและเด็กชายณภัสรทำบุญ ส่วยสังฆทาน และตนเองมาที่ที่เก็บอัฐิของจิรัจฌา..
"ฉันเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อนนะคะ เสียใจกับวันครบรอบวันตายของคุณนะคะ.. ฉันรู้สึกผิดและเสียใจมากจริงๆ ตอนนี้ฉันกำลังจะทวงคืนความยุติธรรมให้คุณแล้วนะคะ"
รถยนต์กะบะแล่นเข้ามาจอดลงที่ลานจอดรถในเขตวัดที่คุ้นเคย ทั้นทีที่ดับเครื่องลงก็มีร่างกายกำยำเดินลงมาจากรถในมือถือดอกซ่อนกลิ่นออกมาด้วย…
ชายหนุ่มเดินมุ่งหน้าไปยังที่เก็บอัฐิของคนรักอย่างจิรัจฌา.. หยุดเดินทันทีที่เห็นหญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ ยืนอยู่หน้าที่เก็บอัฐิของจิรัจฌา.. ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะเดินมาที่เขา..
เมฆามองเห็นหน้าของหญิงสาวที่กำลังเดินมาที่เขาอย่างชัดเจน.. และกำลังตกตะลึงกับใบหน้าของเธอ.. และหญิงสาวคนนั้นก็เดินจากไปในที่สุด..
"นั้นมัน.. ดาวิกา.." ลืมความตั้งใจแรกที่จะมาหาจิรัจฌา เมฆารีบเดินตามหญิงสาวคนนั้นไปอย่างไม่ลังเล.. เขาจะต้องลากตัวเองเข้าคุก เขาจะต้องทำให้เธอได้รับในสิ่งที่เธอควรจะได้รับให้ได้!
"ก้องฟ้าครับ" หยุดเดินอยู่กับที่เหมือนหญิงสาวคนนั้นเอ่ยเรียกเด็กน้อยคนหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหา.. เมฆาแอบมองพวกเขาจากที่ไกล..
"แม่เหนือครับ!!" เสียงเล็กๆและพูดไม่ชัดของเด็กน้อยวัย 2 ขวบกว่าๆร้องเรียกดาวิกา พร้อมวิ่งมาหาดาวิกาอย่างร่าเริงก่อนที่ดาวิกาจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาสู่อ้อมแขน..
"แม่คิดถึงก้องฟ้าจังเลยครับ" ว่าก่อนจะหอมไปที่แก้มเด็กน้อยไป 1 ฟอดใหญ่ๆ
"ห่างกันไม่ได้เลยนะแม่ลูกคู่นี้" นภาพราวว่าอย่างประชดประชัน
"ก็ลูกฉันนะ" ดาวิกาตอบกลับอย่างทีเล่นทีจริง
"จ้าาาาา" นภาพราวว่าก่อนจะกอกตามองบน และทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้..
"ก้องฟ้าหิว" เด็กน้อยบอกพรางลูบพุงน้อยๆของตัวเองเบาๆ
"ก้องฟ้าหิวเหรอครับ แถวนี้มีร้านอาหารอร่อยๆมั้ยวะ" นภาพราวหันไปถามลูกชาย ก่อนที่เด็กน้อยจะพยักหน้าตอบผู้เป็นมารดาเบาๆ ก่อนที่นภาพราวจะหันไปถามดาวิกา
"ไม่รู้เหมือนกัน กลับไปทานที่โรงแรมมั้ยล่ะ" ดาวิกาถาม
"อืม" ตอบรับก่อนจะก้มมองที่นาฬิกาที่ข้อมือ "นี่ก็ถึงเวลาอาหารก้องฟ้าแล้ว รีบไปกันเถอะ.." นภาพราวบอกก่อนจะเดินนำหน้าและดาวิกาที่อุ้มก้องฟ้าไว้ในอ้อมแขนก็เดินตามนภาพราวไป..
เมฆายกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปดาวิกา นภาพราว และก้องฟ้าไว้ ก่อนจะกดส่งให้คนรู้จักทันที..
"ดาวิกา.. ใช่ดาวิกาจริงๆใช่มั้ย?" เอ่ยออกมาเบาๆและมองดาวิกาที่อุ้มเด็กน้อยในอ้อมแขนเดินจากไปจนสุดสายตา.. ในขณะที่เมฆาทุกข์ทรมานแทบตาย แต่ดาวิกากลับมายืนหัวเราะอย่างมีความสุข..
ดอกซ่อนกลิ่นถูกวางลงข้างๆช่อดอกไม้เหมือนเช่นเคย.. ทุกครั้งที่เมฆามาหาจิรัจฌาในวันครบรอบวันตายเมฆาก็เห็นช่อดอกไม้ช่อโตถูกวางไว้ก่อนเมฆาจะมาเสมอ..
"เจ้าของช่อดอกไม้ที่มาหาจีก่อนผมทุกปี.. คือเธอคนนั้นใช่มั้ยจี?" ว่าพรางลูบรูปภาพของเจ้าของที่เก็บอัฐิตรงหน้าอย่างเบามือ..
"เวลาผ่านมาแล้ว 5 ปีแต่ผมก็ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับจียังไม่ได้เลย.. ผมหมดปัญญาแล้วจริงๆจี..
ต่อให้ผมจะมีอำนาจมากมายแค่ไหน ผมก็ไม่มีปัญญาหาหลักฐานเอาตัวคนผิดได้.. แต่ผมจะไม่ยอมแพ้หรอก มันต้องมีสักวันหนึ่งที่ผมจะหาหลักฐานแล้วเอาตัวคนทำผิดมาลงโทษให้ได้!"
ต่อให้เวลาจะล่วงเลยมานานถึง 5 ปีแล้วก็ตาม เมฆายังคงหาหลังฐานเอาตัวคนทำผิดไม่ได้.. พวกมันรอบคอบมากเกินกว่าจะเล่นงานมันได้.. พวกมันไม่ทิ้งหลักฐานหรือสิ่งที่จะสาวไปสู่ตัวมันได้ไว้เลย..
@เกาะสมุทรเมฆา
"มึงส่งอะไรมาให้ลูกน้องกูวะ?" ทันทีที่ที่กลับมาจากเยี่ยมจิรัจฌา เมฆาก็ขับรถตรงมาที่สนามยิงปืนของเพื่อนรักอย่างการัณย์ทันทีเพราะก่อนหน้านี้เมฆาได้นำลูกชายอย่างเด็กชายเหนือสมุทรไปฝากไว้ที่นั้น และเมื่อมาถึงการัณย์ก็เอ่ยถามอย่างสงสัย..
"ก็รูปภาพไง" เมฆามองภาพในโทรศัพท์ก่อนตอบกลับไป แล้วนั้งจิบกาแฟต่อ
"เออ กูรู้ว่าเป็นรูปภาพแต่คนในภาพอ่ะใคร มีแอบถ่ายเขาอย่างนี้ ถ้าเขารู้เขาฟ้องมึงได้เลยนะเว้ย" การัณย์ว่า
"ก่อนมึงจะถามว่าคนในภาพคือใครมึงก็ควรแหกตายดูก่อนนะครับ" เมฆาว่าก่อนจะยื่นโทรศัพท์ไปใกล้ๆหน้าการัณย์
"ใกล้ๆไปสัส" ว่าก่อนจะเอาโทรศัพท์ในมือของเมฆามาดูอีกครั้ง.. "เฮ้ย!" การัณย์อุทานออกมาอย่างแปลกใจ "นี้มันคุณดาวิกาหนิวะ แล้วเด็กคนนี้ใครลูกเธอหรอ? แล้วผู้หญิงคนนั้น.."
"เออ ดาวิกา แล้วเด็กในภาพกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลูกเธอหรือเปล่า แต่ได้ยินดาวเหนือเรียกเด็กคนนี้ว่าก้องฟ้า แล้วเด็กคนนี้เรียกดาวิกาว่าแม่" เมฆาบอกไปตามที่ได้ยิน..
"ชัดเลย! แม่ลูกกันแน่ๆ ว่าแต่พ่อ.. ใครคือพ่อวะ" การัณย์ถามต่อ
"กูจะรู้ไหมล่ะ! แต่ที่กูอยากรู้คือผู้หญิงคนนี้คือดาวิกาจริงๆไหม แล้วทำไมเธอทำเป็นไม่รู้จักกูทั้งๆที่เคยเจอกันแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน แล้วแฟนเก่ามึงรู้จักกับดาวิกาได้ไง"
"ที่มึงมาหากูเพราะอยากให้กูช่วยเช็คประวัติคุณดาวิกา.. ไม่สิ เธอคนนี้ใช่มั้ย?" การัณย์ถามอย่างรู้ทัน
"เออ กูอยากให้มึงเช็คประวัติพวกเธอทั้งหมดเลย ทั้งสามคนนี้ แล้วกูอยากรู้ด้วยว่าพวกเธอพักที่โรงแรมไหน แล้วไปที่ไหนในภูเก็ตมาบ้าง" เมฆาบอก เขาอยากจะรู้จักเธออย่างละเอียด และอยากมั่นใจว่าเธอคือดาวิกา ฆาตกรที่พรากความสุขไปจากเขา..
"ใจเย็นไอ้สัส! กูไม่ใช่ GPS นะเว้ย" การัณย์บอก
"จะช่วยไม่ช่วย" เมฆาถาม
"เออ ช่วย" ถึงแม้การัณย์จะแอบบ่นบ้าง แต่การัณย์ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเมฆาเสมอ.. เพราะพวกเขาคือเพื่อนกันไงล่ะ
"แล้วลูกกูล่ะ" ว่าแล้วก็ชะโงกมองหาลูกชาย ทั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่เห็นลูกชายเลย ปกติเด็กชายเหนือสมุทรจะชอบวิ่งเล่นไปมาไม่ใช่หรอ?
"กูให้ไอ่เต้สอนลูกมึงยิงปืนอยู่" การัณย์ตอบเสียงเรียบ
"ห้ะ! มึงให้ลูกกูเล่นปืนหรอไอ่สัส! ลูกกูเพิ่ง 5 ขวบนะเว้ย!" เมฆาเอ่ยเสียงดังด้วยความตกใจและกระวนกระวายใจ
"เอออ ไม่เป็นไรหรอกก มีพ่อเป็นมาเฟียภูเก็ตจะให้ลูกเล่นเป่าขลุ่ยหรือไง?" การัณย์ตอบกลับ
"แต่ลูกกูยังเด็กนะเว้ย ถ้าลูกกูยิ่งมั่วล่ะมึง?" ถึงอย่างไรเมฆาก็ไม่สบายใจอยู่ดี
"อย่าลืมนะสัส ลูกมึงแม่งมีพัฒนาการดีเยี่ยม แถมยังสมองไวเหมือนคุณจี ไม่ได้โง่เหมือนมึง สบายใจได้" การัณย์ตอบก่อนจะตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ
"ไอ่สัส.." แต่ถึงอย่างนั้นเมฆาก็ต้องยอมอยู่ดี เมฆาเชื่อว่าการัณย์ไว้ใจได้ แถมการัณย์ยังรักเด็กชายเหนือสมุทรเหมือนลูกแท้ๆของตน แค่นี้ก็สามารถทำให้เมฆาวางใจได้แล้ว..
- 2 ชั่วโมงต่อมา -
"เอาล่ะ เริ่มจากประวัติของพวกเธอกันก่อน จากที่กูโทรไปถามคนใหญ่คนโตที่กูรู้จักมานะ เริ่มจากคุณดาวิกาก่อน.." การัณย์ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้และเดินมาที่บิลบอร์ดตรงหน้า
"สักทีเถอะมึง" เมฆาว่า
"ใจเย็นๆสิครับคุณเมฆา กูจะเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ เธอชื่อว่า 'ดาวิกา นฤเศวร์ธาธัญธร' หรือดาวเหนือ มีชื่อเดิมว่า ดาวิกา นัทธ์ธัญธนิน ซึ่งนามสกุลใหม่ของเธอ เธอได้แอบไปเปลี่ยนแบบลับๆ และแน่นอนครับคนที่เปลี่ยนให้เธอคือลูกน้องกูเอง"
"แสดงว่าเธอคือดาวิกาจริงๆ คนที่ทำให้จีตาย" เมฆาเอ่ยก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความหวัง..
"แต่มึงอย่างเพิ่งดีใจไปสิครับ ฟังให้จบก่อน ประวัติของเธอคนนี้ไม่ธรรมดานะครับบอกก่อน" การัณย์ว่าอย่างเล่นลิ้น
"มึงหมายความว่าไง" ทันทีที่การัณย์พูดจบรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหวังของเมฆาก็หายไปในพริบตา
"จริงอยู่ที่เธอชื่อเดียวกับคุณดาวิกา แต่ประวัติของเธอมีเยอะจนกูสับสนว่ะ ใครๆก็เรียกเธอว่าคุณดาวิกา น้อยคนจะเรียกว่าดาวเหนือ คุณดาวิกาเป็นลูกสาวคนเดียว ย้ำนะว่าคนเดียวของคุณนายพิมพ์ดาว นัทธ์ธัญธนิน ภรรยาคนปัจจุบันของเจ้าสัวพันล้านที่เสียชีวิตแล้ว
คุณดาวิกาเรียนจบปริญญาตรีสาขาการจัดการโรงแรมในไทย และเรียนจบปริญญาโทสาขาบัญชีในอเมริกา พ่อเลี้ยงของคุณดาวิกาทำธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน และเปิดโรงแรมดังแถวๆระนอง" การัณย์บอก
"แปลว่าเธอไม่ใช่ดาวิกาคนนั้น?" เมฆาถามเพื่อนรักอย่างสิ้นหวัง.. ทั้งหมดคือเมฆาดีใจเก้อเหรอ?
"กูก็ไม่รู้ แต่มีข่าวลือมาว่าคุณนายพิมพ์ดาวมีลูกสาวอีกคนที่เป็นฝาแฝดกับคุณดาวิกาที่ชื่อว่าดาริกา ในตอนนี้คุณดาริกากำลังใช้ชีวิตภายใต้ชื่อของคุณดาวิกา
แต่ตอนนี้คุณนายพิมพ์ดาวบริหารโรงแรมพลาดจนต้องไปกู้ยืมธนาคารมา ตอนนี้ได้ยินมาว่าติดหนี้ธนาคารอยู่หลาย 100 ล้านจนธนาคารไม่ให้กู้อีก ก็เลยไปยืมเงินเสี่ยที่ไหนก็ไม่รู้เป็น 100 ล้าน
แถมจะไปเอาเงินจากโรงพยาบาลก็ไม่ได้เพราะคุณนายพิมพ์ดาวไม่มีสิทธิ์ในโรงพยาบาลแล้วเพราะมันเป็นมรดกของลูกชายเจ้าสัว
คุณนายก็เลยให้ลูกสาวอย่างคุณดาริกาที่อยู่ภายใต้ชื่อดาวิกาแต่งงานกับเสี่ยคนหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน และเสี่ยคนนั้นก็ตายไปแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว.."
การัณย์บอก แน่นอนว่าการัณย์เคยเป็นตำรวจมาก่อน และก็มาเปิดธุรกิจสนามยิงปืนส่วนมากจะเป็นคนที่มีอิทธิพลมาใช้บริการจึงมีผูกพันธมิตรไว้บ้าง เรียกได้ว่าการัณย์มีเส้นสายอยู่มากมายเลยเชียวล่ะ
"แล้วยังไง?"
"ความจริงตอนนี้คุณดาวิกาตัวจริงต้องอยู่ที่อเมริกาแต่ตอนนี้กลับมาที่ไทยกระทันหันแบบไม่ได้บอกใคร" การัณย์บอก
"แล้วมึงรู้ได้ไง" เมฆาถามด้วยความสงสัย
"ก็คนที่นั่งข้างๆคุณดาวิกาตอนอยู่บนเครื่องบิน เป็นคนรู้จักกูไง"
"กว้างขวางดีนะมึงอ่ะ"
"แน่นอน ต่อนะ ที่คุณดาวิกาต้องกลับมาที่ไทยกระทันหันเพราะว่าคุณนายพิมพ์ดาวจะไปลากตัวของคุณดาวิกามาแต่งงานกับเสี่ยเฒ่าหัวงูคนหนึ่ง เพียงเพราะเงิน"
"ที่มึงจะสื่อคือคุณนายพิมพ์ติดหนี้อยู่กว่า 100 ล้านแล้วไม่มีเงินใช้หนี้ก็เลยจะขายลูกสาว?"
"นั้นแหละ คุณดาวิกาก็เลยต้องหนีมาที่ภูเก็ต ซึ่งขายลูกสาวอีกคนที่ลับๆไปแล้ว คุณดาริกาน่าจะไม่ยอมให้ทำแบบเมื่อ 3 ปีก่อนอีกครั้ง คุณนายพิมพ์ดาวเลยต้องจำใจต้องไปลากตัวดาวิกาตัวจริงมา" การัณย์บอก
"กูสงสัยอย่างนึง ในเมื่อคุณนายพิมพ์ดาวเนี่ย มีลูกสาวฝาแฝด ทำไมไม่เปิดตัวทั้งสองคนเลยวะ ทำไมต้องให้คนรู้แค่ดาวิดา งั้นอีกคนก็ไม่มีตัวตนในสังคมน่ะสิ" เมฆาเอ่ยอย่างสงสัย ทำไมครอบครัวนี้ถึงทำตัวลับๆล่อๆ ทั้งที่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องเสียหายที่ต้องปิดบัง
"ที่กูได้ยินมานะ ความจริงคุณนายพิมพ์กะว่าจะให้คนรู้จักแค่ดาริกาคนเดียว เพราะคุณดาวิกาไม่อยากเป็นที่รู้จักในฐานะลูกเลี้ยงเจ้าสัว แต่คุณดาริกาเนี่ยเที่ยวบอกใครต่อใครว่าชื่อดาวิกา ขนาดงานแต่งงานเธอเมื่อ 3 ปีก่อนยังใช้ชื่อดาวิกาเลย" การัณย์ตอบ
"แสดงว่าคนที่กูเจอที่พักแล้วที่ศาลคือใคร? ดาวิกาหรือดาริกา?" เมฆาถามออกไปอีกครั้ง
"เออว่ะ วันนั้นคือใครวะ?" เรื่องนี้ทำเอาทั้งการัณย์และเมฆางงไปตามๆกัน พวกเขาสับสนกับเรื่องของดาวิกาเสียเหลือเกิน..
"ช่างเรื่องดาวิกาก่อน แล้วเด็กคนนี้ล่ะ" เมฆาถามต่อ
"เด็กคนนี้ไม่มีข้อมูลว่ะ รู้แต่ว่าชื่อก้องฟ้า ไม่มีประวัติแม่หรือพ่อ ส่วนผู้หญิงคนนี้.." การัณย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนลง "เธอชื่อนภาพราว วัณณุวรรธน์ หรือพราวฟ้า เป็นอดีตหมอของอดีตโรงพยาบาลของคุณนายพิมพ์ดาว.. ก่อนจะถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล แล้วถูกระงับใบอนุญาตทางการแพทย์ 3 ปีหลังจากที่คุณดาวิกาไปอเมริกา และก็ไม่มีข้อมูลอะไรอีก"
"เออ แล้วเธอพักที่ไหน แล้วไปที่ไหนของภูเก็ตมาบ้าง" เมฆาถามต่อ
"คือคุณดาวิกาหลังจากที่กลับจากอเมริกากูว่าน่าจะตรงไปหาพราวฟ้าที่พัทยาเลย แล้วค่อยมาที่ภูเก็ตนะ แต่เรื่องที่พัก พวกเธอทั้งหมดพักอยู่โรงแรมเมฆเหนือสมุทรของมึง แต่เรื่องไปไหนมาบ้างกูให้คนดูกล้องวงจรปิดดูทั่วจังหวัดแล้ว เธอไปแค่ที่วัดนั้นแค่นั้น เพราะกูคิดว่าเธอคงจะหลบหน้าคุณพิมพ์ดาวอยู่" การัณย์บอกร่ายยาว
"อืม.. ขอบใจนะ" เมฆาว่าพรางตบที่บ่าการัณย์เบาๆ
"ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่มึงเถอะ จะเอาไงต่อ ยังคิดว่าคุณดาวิกาเป็นฆาตกรอยู่ไหม"
"ไม่รู้ว่ะ ตอนแรกกูค่อนข้างมั่นใจมากๆ แต่ตอนนี้กูคิดว่าไม่ใช่แล้ว.. กูไม่มั่นใจว่าดาริกา หรือดาวิกาเป็นคนขับรถชน.. แต่ถ้าเป็นดาริกาชนทำไมดาวิกาต้องมารับผิดแทนทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผิดอะไร
"นอกซะจากว่าดาวิกาจะโดนบังคับให้ทำ.." การัณย์พูดเสริม
"มึงคิดอย่างนั้นหรอ?" เมฆาถาม
"ประวัติของคุณดาวิกามันชัดเจน แต่คุณดาริกามันครึ่งๆกลางๆว่ะ"
"กูไม่รู้ว่ะ.. กูไม่มั่นใจแล้วว่ะ มันสับสนไปหมดแล้ว.."
"กูไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวจริงๆมันเป็นยังไง แต่ตอนนี้กูว่าอะไรๆมันก็เกิดขึ้นได้ ในวันนั้นวันที่ไปรับสาระภาพที่ สน. กูว่าไม่ใช่คนที่ชนจริงๆแน่ๆ หรือไม่ก็มีคนจัดฉาก.."
"..กูอยากลองพิสูจน์ดูส่ะ" นั่งเงียบอยู่นานก็จะพูดขึ้นมา
"มึงหมายความว่าไง กูไม่เข้าใจ"
"ก็ตามที่กูบอก.. กูอยากลองพิสูจน์ดาวดวงนี้ว่ะ กูอยากจะรู้จริงๆว่าเธอคือใครกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นดาวิกา หรือดาริกา มันต้องมีสักคนในสองชื่อนี้ที่เป็นคนขับรถชนจี.. กูปล่อยให้เวลาผ่านมานานเกินไปแล้ว มันถึงเวลาที่กูจะต้องจับฆาตกรตัวจริงให้ได้แล้ว"
"มึงจะทำยังไงวะ.."
"ติดต่อศักดาให้กูที.."
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!