NovelToon NovelToon

พลิกชะตาตำนานรักเทพกษัตริย์

ตอนที่ 1 : ชะตาชีวิต 1/3

The Legend of Eternal Love พลิกชะตาตำนานรักเทพกษัตรีย์ ตอนที่ 1 : ชะตาชีวิต 1/3

ณ ปี ค.ศ. 2022 เวลา 14.25 นาฬิกา ที่ประเทศจีน ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินทางไปที่ไหนสักที่???

เขานั่งอยู่บนรถแท็กซี่ และมองวิวที่อยู่ด้านนอกขณะที่รถกำลังวิ่ง บรรยากาศ แสงแดด เสียงรถวิ่ง เสียงคน เขานั้นได้ยินมัน จิตใจของเขานั้นสงบนิ่ง และยิ้มที่มุมปาก แบบเบาๆ

("นี่ฉันไม่ได้กลับมาที่นี้นานแค่ไหนกันแล้วนะ หลังจากที่ไปทำงานที่ประเทศไทย ฉันคิดถึงคุณย่าและคุณปู่จัง ครอบครัวฉันตอนนี้ คุณพ่อกับคุณแม่ เป็นยังไงบ้างนะกับเรื่องที่บริษัท")

กริ๊งงง!!!

ชายหนุ่มพูดกับตัวเองในใจไปได้สักพักก็ได้มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเขามองวิวด้านนอกจากข้างในรถแท็กซี่ที่กำลังวิ่งไปเรื่อยๆก่อนที่อีกสักพักจะทำการรับโทรศัพท์

"นี่ลูกแม่ ตอนนี้คุณปู่กับคุณย่า กำลังรอลูกอยู่นะ ตอนนี้ทุกคนกำลังเตรียมปาร์ตี้ฉลองที่ลูกกลับมา"

แม่ของชายหนุ่มพูดด้วยนํ้าเสียงดีใจที่รู้ว่าลูกชายตัวเองจะกลับมาเยี่ยมครอบครัวหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน

"ครับแม่ ตอนนี้ผมกำลังนั่งรถแท็กซี่กลับ อีกไม่นานก็คงจะถึง ผมได้ซื้อของฝากจากประเทศไทยมาให้พวกท่านเยอะเลย"

ชายหนุ่มพูดไปด้วยและมองดูวิวข้างนอกไปด้วย เขายิ้มเวลาพูดไปด้วยเสมอ ราวกับเขานั้นมีความสุขอย่างมากที่สุด เป็นความสุขที่ไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้

แต่แล้ว!!!

ในขณะที่รถแท็กซี่กำลังติดไฟแดงอยู่น้้นระหว่างที่เขากำลังคุยกับแม่เขาอยู่ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงปริศนาเข้ามาในหัว เสียงเหล็กที่กระทบกัน มันทำให้เขานั้นปวดหัวเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินเสียงนั้น เสียงนั้นมีเพียงแค่เขาที่ได้ยิน!!!

ชายหนุ่มรีบวางสายโทรศัพท์ของแม่เขาและได้บอกให้แท็กซี่รอเขาเดียวจะกลับมาในอีกไม่ช้า ชายหนุ่มได้รีบตามเสียงที่อยู่ในหัว ที่เขาได้ยินนั้นไป

("นี่มันเสียงอะไรกัน เสียงเหล็ก งั้นหรอ แต่ทำไมมันถึงดังขนาดนี้ แล้วทำไมถึงมีแค่เราละที่ได้ยิน")

("ตอนนี้ตัวเราทำได้เพียงแค่ ต้องรีบตามเสียงนั้นไป อยากจะรู้จริงๆ ว่าเสียงที่ทำให้เราปวดหัวได้ขนาดนี้ มันคือเสียงอะไรกันแน่ เอื้ออ!!!)

ชายหนุ่มคิดบ่นพรึ่บพรั่บในใจคู่นึงก่อนรีบตามเสียงไป แม้หัวของเขาจะปวดแค่ไหนก็ตาม เขาเดินไปตามทางถนนเรื่อยๆ เสียงปริศนายิ่งดังชัดขึ้นเรื่อย แต่อาการความปวดหัวของเขากลับเริ่มค่อยๆหายปวดลงหลังจากเริ่มเข้าใกล้เสียงนั้นเข้าเรื่อยๆ

ชายหนุ่มได้เดินตามเสียงนั้นไป ตามตรอกซอกซอยเล็กไปเรื่อยๆไปจนถึงทางที่เขาไปนั้นเริ่มที่จะไม่ค่อยมีคนเดินจนกระทั่งทางที่เขาเดินอยู่กับไม่คนอยู่ในที่แห่งนั้น เงียบสงบ วังเวง แม้จะเป็นตอนกลางวันท้องฟ้าโปร่งใสแสงแดดกระทบลงมายังผืนป่าไม้อันเขียวขจีทำให้ดูเย็นสดชื่นแต่กับกันบรรยากาศ กับดูอึมครึม

เขาได้พบเข้ากับวัดแห่งหนึ่ง แต่สถานที่แห่งนี้เขาไม่เห็นแม้แต่พระสักรูปเลย แม้กระทั่งเสียงนก เสียงบรรยายกาศของลมที่กระทบกับใบไม้ใบหญ้า ทุกอย่างล้วนเงียบ ราวกับที่แห่งนี้เป็นสถานที่ร้าง แต่ถึงกะนั้น เศษใบไม้ที่หล่นตามพื้น หรือ พื้นไม้ตามศาลาวัด กับดูเรียบร้อยสะอาดตา เป็นระเบียบ ราวกับมีคนทำความสะอาดอยู่เสมอ ชายหนุ่มแม้จะสงสัย แต่เขาก็ได้เดินเข้าไปในวัด หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

"สถานที่ที่นี้ มันอะไรกันบรรยากาศดูวังเวงสุดๆ ตอนเดินทางมาที่นี้ยังอยู่ในที่คนพุ่งพร่านกันอยู่มากมาย แต่ทำไมที่แห่งนี้กับว่างเปล่า ไม่มีแต่คนหรือสิ่งมีชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้เลย น่าแปลกใจจริงๆ แต่ก็ต้องยอมรับเลยนะว่า อากาศที่นี้เย็นร่มรื่นดีจริงๆ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติสุดๆ"

ชายหนุ่มได้เดินไปด้วยและพูดกับตัวเองไปด้วยอยู่ครู่หนึ่งตามเสียงที่เขาได้ยินไป ในขณะที่ทำการเดินไป เขาพยายามสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว ทุกอย่างดูผิดปกติ ไปหมด แม้กระทั่งใบไม้ที่หล่นมายังพื้น หรือเสียงเท้าที่เขาเดินยังพื้นไม้ของวัด ทุกอย่างมันควรจะมีเสียงแต่มันกับเงียบสงัด

แสงที่กระทบกับตัวเขาแล้วควรจะเกิดเงา แต่ตัวเขากับไม่มีแม้แต่เงา สถานที่ที่นี้มันแปลกสุดๆ

เดินตามเสียงนั้นมาจนสิ้นสุดเสียง เขาก็ได้พบเข้ากับห้องที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ดูเก่าแก่ตั้งวางไว้อยู่ แต่ที่หน้าแปลกใจ ที่สถานที่แห่งนี้ แทบไม่มีคนหรือสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้า คือ ธูปและเทียน ที่จุดบูชาไว้

("นี่มันอะไรกัน ที่แห่งนี้มีคนอยู่งั้นหรอ ทำไมธูปกับเทียนถึงถูกจุดได้หล่ะ แปลกจังแหะ ที่แห่งนี้แทบจะไม่มีคนอาศัยอยู่ บรรยากาศรอบก็ดูพิศวงสุดๆ ราวกับนี้คือโลกแห่งความฝันที่ตัวฉันกำลังตกอยู่ในภว้งค์ วังวนที่ไม่มีทางออก ต้องเดินหน้าไปเรื่อยไป เพื่อไปดูว่าข้างหน้าจะมีปริศนา หรือทางออก อย่างไหร่เท่าถึงจะหนีออกไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันก็แค่สมมติฐาน บางทีฉันอาจจะแค่เหนื่อยและคิดมากไปเอง")

"สถานที่แห่งนี้ ถึงจะถูกทิ้งร้าง แต่อาจจะมีคนแวะเวียน มาสักการะบูชาที่แห่งนี้อยู่ก็เป็นได้ เรื่องทั้งหมดที่เราสัมผัสอาจจะเกิดอาการหลอนไปเองก็ได้ ตอนนี้ต้องตั้งสติและอย่าคิดฟุ้งซ่านจะดีกว่า!"

****ชายหนุ่มได้พูดบ่นกับตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดอาจเป็นเพียงจินตนาการภาพหลอน**** ที่เขานั้นอาจจะคิดเองเออเอง ชายหนุ่มได้เดินไปกราบไหว้พระพุทธรูปสามครั้ง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หลังจากกราบเสร็จเขาก็กำลังเดินออกจากวัด ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นตามปกติ เขาเริ่มได้ยินเสียง ใบไม้กระทบกันที่เกิดจากลมพัด เสียงจิ้งรีดที่ร้องในป่า เขาโล่งใจเป็นอย่างมากที่เขานั้นแค่คิดไปเอง เขาเดินออกมาจากตัวใจกลางของกุฎิวัดได้สักพัก ก็ได้มีพระรูปหนึ่งได้ทำการทักทายเขา แต่นั่นกับทำให้เขาต้องประหลาดใจและตกใจกับคำพูดของพระรูปหนึ่งเป็นอย่างมาก!!!!

"*โยมกำลังจะหายไปจากโลกใบนี้ อีกไม่กี่ชั่วยามชะตาของโยมนั่นไม่อาจที่จะฝืนชะตาฟ้าลิขิต**ที่จะอยู่บนโลกนี้ต่อได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามวิบากกรรม ไม่มีผู้ใดที่หลุดพ้นจากเวรกรรมที่ถูกลิขิตไว้ ไม่ช้าหรือเร็วมันก็จะเกิดขึ้นอยู่ดี"

"จงปล่อยวาง*"

ณ อีกด้านนึง สม้ยยุคกลางราชวงศ์อังกฤษ

"คุณหนู วิคตอเรีย โปรดรอดิฉันก่อนค่ะ "

เสียงหญิงสาวรับใช้ของคุณหนู วิคตอเรีย

"คุณหนูเจ้าค่ะ ตอนนี้นายท่านมีรับสั่งต้องการที่จะพบท่าน คุณหนูโปรดรีบไปพบนายท่านด่วนด้วยเจ้าค่ะ ตอนนี้นายท่านทรงโกรธมาก"

สาวรับใช้พูดด้วยนํ้าเสียงสั่นกลัวอย่างรุนแรงราวกับจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

"เข้าใจแล้วล่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ"

***คุณหนู วิคตอเรีย ได้หันมาแล้วก็พูดคุยกับเธอ

แม้จะเป็นถ่อยคำสั้นๆแต่นํ้าเสียงและแววตาของเธอกับดูเยือกเย็นไร้อารมณ์

ในขณะที่หญิงสาวกำลังเดินไปนายท่านผู้หนึ่ง ข้างของตามทางเดินก็กระจัดกระจายเละเทะไปหมด แก้วราคาแพงตกแตกตามพื้นไปหมด และเสียงชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่กำลังบ่นตะคอกอะไรสักอย่างก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ***

"บัดซบเอ้ยย!!! ทำไมเรื่องทั้งหมดมันถึงได้เป็นแบบนี้กันห่ะ พวกแกนี้มันชาติชั่วกันจริงๆ ไอ้พวกระยำ นั่งลูกสาวนั่นทำให้ฉันพลาดโอกาสที่จะได้เกี่ยวดองกับราชวงศ์นังตัวดี "

*****ชายที่กำลังโวยวายทำลายข่าวของอยู่นั้นเขาก็คือพ่อของคุณหนูวิคตอเรีย***** เขาพูดไปด้วยพร้อมกับใช้แซ่ฟาดเหล่าสาวและถีบพ่อบ้านบางส่วนด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง

"ค่ะท่านพ่อ ลูกสาวของท่านดยุค เบอร์นาร์ด ลูกสาวไม่ได้เรื่องคนนี้มาพบท่านแล้ว"

*****แม้จะเป็นคำพูดที่ดูเรียบง่าย***** ***สีหน้าที่เปลี่ยนจากสีหน้าเย็นชา มาเป็นรอยยิ้มที่สดใสราวกับการกระทำของ ท่านพ่อ เป็นเรื่องธรรมดา แต่คำพูดและรอยยิ้มในขณะที่พูดแสดงออกมา กับแฝงไปความเกลียดชัดเจน

และเหตุการณ์ทั้งหมดของ คุณหนู วิคตอเรีย ลูกสาวของดยุคเบอร์นาร์ด นี้คือหลังเหตุการณ์การเลือกพระชายาขององค์ชายสอง ที่ผ่านมาได้แล้วสามวัน

ชายหนุ่มปริศนา กับคุณหนูยุคกลางพวกเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันอย่างไร และสิ่งที่พระรูปหนึ่งได้กล่าวกับชายหนุ่มจะหมายถึงอะไร โปรดติดตามต่อตอนต่อไป***!!!

ตอนที่ 2 : ชะตาชีวิต 2/3

The Legend of Eternal Love พลิกชะตาตำนานรักเทพกษัตริย์ ตอนที่ 2 : ชะตาชีวิต 2/3

*คุณหนู**ลูกสาวท่านดยุค เบอร์นาร์ด แห่งอาณาจักรอังกฤษ คุณหนู วิคตอเรีย เป็นหญิงสาวที่ทรงสง่า มีผมสีม่วง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีนัยตาตาเปล่งประกาย ดั่งอัญมณี เป็นสีม่วงมรกตแม้จะมีหน้าตาที่สระสวยมีศักดิ์ฐานะเป็นชนชั้นสูง แต่เพราะเป็นชนชั้นสูง จึงทำให้ไม่มีอิสระในการตัดสินใจ ผู้คนต่างรังเกียจการกระทำของเธอ*

โดยไม่รู้ถึงสาเหตุเบื้องหลังของชีวิตเธอ

เพราะเธอนั้นมีนิสัยที่เด็ดขาด และพูดจาตรงเกินไป ถูกติชินนินทา จากเหล่าชายและหญิงสาว เพราะเธอหยิ่ง ที่จะตอบรับรักชายใดๆที่เข้าหาเธอ เธอต้องทนกับการเป็นลูกสาวดยุค แม้จะมีชีวิตอยู่แต่ก็เหมือนเป็นแค่หุ่นเชิด ผู้คนที่เกลียดเธอ ไม่มีใครรู้เลย ว่าทำไมเธอถึงต้องเป็นคนที่มีนิสัยร้าย ทำตัวไม่เหมือนผู้หญิง คำพูดคำจาไม่อ่อนน้อม

หญิงสาว มีความปราถนาแรงกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา เธอนั้นสนใจและทะเยอทะยานที่จะเป็น พระชายาขององค์ชาย สอง ผู้ชายเพียงคนเดียวที่เป็นเพื่อนเล่นกับเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก เป็นชายคนเดียวที่เธอไว้ใจ(แบบเพื่อน) เธอนั้นต้องการที่จะปฎิวัติการปกครอง แก้ไขระบบเศรษฐกิจ แต่เพราะเป็นหญิงจึงไม่อาจทำได้หากแต่งกับชายจากตระกูลชนชั้นสูงทั่วไป แต่เธอเชื่อว่าหากแต่งกับองค์ชายสอง ที่เธอรู้จัก และองค์ชายยังเป็นที่รักโปรดปรานขององค์ราชา ความปรารถนาที่จะเลิกทาส ยกเลิกระบอบขุนนาง แก้ไขเศรษฐกิจให้มันดีขึ้น

แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ตลอดกาล***!!!

"วันนี้เป็นเลิศงามยามดี ที่คุณหนูขอดิฉันกำลังจะหลุดพ้นจากการต้องเป็นทุกข์มาอย่างเนิ่นนาน หม่อมฉันขอแสดงความยินดีกับคุณหนูเป็นอย่างยิ่งนะค่ะ"

เสียงของหญิงข้ารับใช้วัยกลางคนคนหนึ่งกำลังแสดงสีหน้าท่าทีดีใจและโอบกอดคุณหนูวิคตอเรียได้ความดีใจ

"ฉันจะพาแม่นมไปด้วย ฉันจะไม่มีทางทิ้งแม่นมไปไหน ถึงแม้องค์ชายจะเลือกฉัน แต่ดีใจตอนนี้ก็คงเร็วเกินไป "

วิคตอเรียกล่าวด้วยความดีใจแต่ก็ยังคิดวิตกในใจอยู่ซึ่งเรื่องนั้นก็เพราะคู่แข่งที่ผ่านรอบคัดเลือกมาพร้อมกับเธอ ก็เป็นหญิงสาวที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ทั้งสองนั้นสนิทกันแบบเพื่อน เมื่อมีเวลาว่าง หญิงสาวผู้นั้นก็มักจะเดินทางมา จิบชาพูดคุยเล่นกับ วิคตอเรีย อยู่เป็นประจำ แต่เธอมีนิสัยที่พูดจาอ่อนน้อม ไพเราะ ให้เกียรติผู้อื่นเสมอ ไม่ว่ากับผู้ใดแถมประชาชนส่วนใหญ่ก็ล้วนชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก เธอเป็น คุณหนู ลูซี่ ลูกจากตระกูล เคานต์ มอร์แกน แม้จะมีศักดิ์เป็นเพียง เคานต์ แต่ก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเพราะพึ่งได้รับความดีความชอบจากผลงาน การทำศึกกับต่างประชาติชนะ

ผู้คนต่างยัดเยียด บทตัวร้ายให้กับวิคตอเรีย และยัดบทนางเอก แม่พระผู้แสนดี ให้กับหล่อนผู้นั้น แต่ถึงกะนั้น วิคตอเรียก็มั่นใจว่าตัวเองจะได้เป็นพระชายาอย่างแน่นอน เพราะคะแนนของเธอในรอบก่อนๆในการตัดสินแต่ละครั้งเธอก็ได้ที่1 มาเสมอ คะแนนเธอสูงมาก แถมยังมีศาสนาจักรมาเป็นคนตัดสินอย่างเป็นธรรม***

"พี่ชายและพี่สาวของฉันพวกเขาหนีออกจากตระกลู เพราะทนเบื้องหลังอำนาจที่โหดร้ายของตระกูลเราไม่ได้ พี่สาวของฉันหายตัวไปตั้งแต่ฉันยังเด็กแม้ตระกลูจะตาหาตัวเธอแต่ก็ไม่พบร่องรอย ส่วนพี่ชาย ที่ได้รับรู้ถึงเบื้องหลังอะไรบางอย่างเข้าเขาก็เริ่มรับไม่ได้ จนกระทั่งเขาทนการกระทำของท่านพ่อไม่ไหว ทำให้เขานั้นหนีออกจากตระกลู"

***วิคตอเรียเล่าเรื่องอดีตที่พี่ชายสุดที่รักที่เธอนั้นเชื่อใจเป็นอย่างมากให้แม่นมฟังอีกรอบ แม้แม่นมจะได้ยินมาหลายครั้งแต่แม่นม กับเข้าใจความรู้สึกลึกๆของวิคตอเรีย ที่เศร้าเสียใจ จากการที่ต้องเสียพี่ชายไป วิคตอเรียกอดแม่นมแรงขึ้น และนํ้าตาเริ่มไหลออกมาเป็นสาย แม่นมรู้ดีว่าเมื่อใดที่วิคตอเรียนึกถึงมันก็เป็นเรื่องยากที่จะลืม

เธอต้องทำตัวเองให้คนอื่นเห็นเสมอว่าเธอนั้นแข็งแกร่งและไม่ร้องไห้ออกมาสักครั้งต่อหน้าคนอื่น แม้จะโดนดูถูก โดนต่อว่านินทา คำพูดเหล่านั้น วิคตอเรีย ก็ไม่เคยเก็บมาใส่ใจเลย***

"*พี่ชายไหนท่านบอกจะคอยดูแลและปกป้องน้องสาวคนนี้ของท่าน ไหนพี่บอกหนูแล้วไงว่าจะไม่ทิ้งหนูไปไหน หลังจากบ้านของเรา เสียพี่สาวคนโตไป เรื่องราวในตระกูลก็วุ่นวายกัน**ไปหมด ทุกวันพี่ชายต้องโดนคุณพ่อกดดัน ถูกเฆี่ยนตีเป็นประจำ เพื่อเป็นผู้สืบทอดของตระกูล ฉันไม่อยากให้พี่เจ็บปวดฉันเลยขอท่านพ่อเป็นผู้สืบทอดแทน"

"ฉันต้องทนฝืนดื่มยาพิษต่างๆนาๆชนิดพิษต่างๆเพื่ให้ร่างกายสามารถทนรับพิษต่างๆได้ หนูยอมเสียสละเพื่อไม่ให้พี่ต้องเจ็บแต่ทำไมหนูถึงมีพี่ชายที่ขี้ขาดแบบนี้*"

วิคตอเรียตะโกนร้องโวยวายด้วยความเสียใจ และทุบไปที่หน้าอกของพี่ชายด้วยความโกรธ จิตใจของเธอแตกสลาย เพราะพี่ชายที่เธอเชื่อใจและเล่นกับเธอมาตั้งแต่ยังเล็กกำลังทอดทิ้งเธอไปอีกคน อารมณ์โกรธและความเศร้าเสียใจหลอมรวมหญิงสาวด้วยกัน

"*พี่ขอโทษที่อาจจะต้องผิดคำสัญญา ที่เคยให้ไว้กับน้อง แต่ว่าน้องไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อเลยนิ กับตระกลูบ้าๆแบบนี้ที่ทำทุกอย่าง เพื่อชื่อเสียง อำนาจ พี่ไปรบเพื่อบ้านเมือง เห็นผู้คนตายจากสงครามมามากมาย แต่นั่นพวกเขาก็สู้ด้วยเหตุผลเดียวกัน นั้นคือ การปกครองคนที่ตนรัก แม้จะเป็นฝ่ายศัตรูก็คิดเช่นเดียวกัน ไม่ฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่าเรา คนธรรมดาที่ต้องออกไปรบ แล้วตายในหน้าที่พวกเขาล้วนมีเกียรติศักดิ์ศรีมากกว่าตระกูลของเราที่เบื้องหลังที่แสนชั่วช้า"

"พี่ทนไม่ได้เด็ดขาด หากน้องไม่อยากจากพี่ไป พวกเราก็หนีไปด้วยกันเถอะนะเด็กดี พี่ไม่อยากให้น้องต้องมาทนลำบากในที่แบบนี้* "

พี่ของวิคตอเรียได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเบื้องหลังของตระกูลดยุคเรื่องราวความชั่วช้าทั้งหมดที่ตระกูลได้ทำให้กับวิคตอเรียฟัง แม้เธอจะรับรู้ แต่ความรุ้สึกโมโหและเสียใจ มันก็มากล้นจนเธอมิอาจฟัง คำแก้ตัวของพี่ชายเธอได้ แม้พี่ชายจะพยายามลูบหัวและพูดคำหวานเพื่อเกี้ยกล่อม แต่วิคตอเรียกับผลักมือชายและถอยห่างจากพี่ชายทันใด

"พี่ชายหยุดพูดข้อแก้ตัวนั่นเถอะค่ะ หนูไม่อยากฟังมันแล้ว"

"คำพูดเพียงไม่กี่คำนั้นของวิคตอเรีย ทำให้พี่ชายของเธอหน้าถอดสี และติดชะงักไปชั่วขณะ"

"พี่นะอ่อนแอและขี้ขาด มัวแต่จะคิดหนีปัญหา เลือกที่จะไม่รับรู้แล้วเดินหนี ไปเฉยๆอย่างนั้นหรือเพคะ ไม่หนูจะไม่หนีไปไหนทั้งสิ้น ถ้าพี่ไม่ทำหนูก็จะทำเรื่องทั้งหมดเอง หนูจะแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้ เพื่อเปิดโปรงเรื่องเลวร้าย ของตระกลูเรา และหนูจะต้องแต่งงาน และเป็นพระชายาขององค์ชายสองเท่านั้ส เพื่อที่จะได้แก้ไขและล้มล้างพวกขุนนางชั่วไปให้หมด พี่ชายเชิญหนีไปคนเดียวเถิดค่ะ หนูนะไม่มีพี่ชายแบบพี่อีกแล้ว"

*****วิคตอเรียพูดด้วยนํ้าเสียงที่ดูจริงจังและเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก********แม้นํ้าตาของเธอนั้นจะยังไม่หยุดไหล แต่สายตาที่วิคตอเรียมองพี่ชายกับเต็มไปด้วยความโกรธ ถึงกะนั่นวิคตอเรียก็ยัง ยกแจกันดอกไม้ที่มีดอก แรพโซดีอินบูล ดอกกุหลาบสีม่วง ที่มีกลิ่นหอม และสีใกล้เคียงกับนัยตาของวิคตอเรีย เป็นดอกไม้ที่พี่ชายเธอมอบให้ วิคตอเรียทำลายมันต่อหน้าต่อตาของเขา

จิตใจของพี่ชายที่เห็นน้องสาวพูดและกระทำเช่นนั้น เขาพยายามกลั้นนํ้าตาอย่างที่สุดไม่ให้ไหลออกมา เขารู้ดีว่าเขานั้นเป็นพี่ชายที่แย่ ที่ไม่สามารถดูแลน้องสาวของตัวเองได้ เขาทำเพียงแค่เดินจากตัวน้องสาวเขาไป โดยกลั้นใจไม่ให้หันหลังกลับมามอง

ภาพตัดมา ณ ที่ลาน ตัดสินเลือกพระยา คู่ครอง ขององค์ชายสองในอนาคต

วิคตอเรียได้ครุ่นคิดเรื่องในอดีตซักพัก ก่อนที่จะเลิกใส่ใจและตั้งสติโฟกัสกับปัจจุบันเหตุการณ์ตรงหน้า เธอคิดในใจว่าจะต้องเป็นพระชายาให้ได้ แม้ คุณหนู ลูซี่ จะเป็น ลูกสาวของ เคานต์ มอร์แกน แต่เธอนั้นก็เคยเป็นชนชั้นตํ่ามาก่อน เรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับ ข้อระวังและสิ่งสำคัญในวังกฏและข้อต้องห้าม หลักการปฎิบัติตน เป็นอย่างไร ถึงกะนั้นเธอก็เชื่อคำพูด ที่ลูซี่ นั้นได้บอกกับเธอก่อนจะเข้าคัดเลือกรอบสุดท้าย ว่า เธอพร้อมที่จะช่วยเหลือ วิคตอเรีย ด้วยความสมัครใจ เพื่อให้ วิคตอเรียสมหวังในความปรารถนาของตนเอง เพื่อทดแทนในสิ่งที่วิคตอเรียเคยช่วยเหลือหล่อน

ไม่นานนานนักผลตัดสินก็ได้ประกาศออกมาชัดเจน จากปากอาร์คบิชอป ผู้เป็นศักขีพยาน ในการเลือกพระชายาในครั้งนี้***

"ผู้ที่ทำผลงานและคะแนนมาได้สูงที่สุดในรอบสุดท้าย หญิงสาวนางนี้เป็นหญิงผู้สูงศักดิ์ ที่มีความงดงามเปรียบดั่งนางฟ้าที่เปล่งประกายแสงอัญมณีอันล้ำค่า หญิงสาวผู้ที่จะได้เป็นพระชายาขององค์ชายสอง ของราชวงศ์อังกฤษ นั่นคือ คุณหนู วิคตอเรีย คุณหนูจากตระกูล ดยุก เบอร์นาร์ด!!!"

ถามกลางเสียงประกาศผลผู้คนบางส่วนก็ตบมือแสดงความยินดีกับคุณหนูวิคตอเรียแต่ท่านใดนั้น องค์ชายสองกับมีท่าทีที่แปลกไป หลังจากหน้านิ่งเงียบไปสักพักเขาเริ่มยิ้มที่มุมปากอย่างช้าไป รางกับกำลังคิดเรื่องสนุกๆบางอย่างในหัว เขาได้ลุกจากเก้าอี้ และเดินไปหาวิคตอเรียอย่างช้าๆ

("ในที่สุดตระกูลของข้าก็ได้เกี่ยวดองกับ ราชวงศ์สักที ตระกลูของเราก็จะยิ่งใหญ่ที่สุดในอาณาจักรอังกฤษแห่งนี้ ฮาๆๆๆ!!!")

ดยุค คิดในใจและดีใจเป็นอย่างมากกับผลการตัดสินเขาอดใจรอไม่ไหวกับแผนการที่เขาอยากจะทำในอนาคต

("ในที่สุดคุณหนูของหม่อมฉัน ก็จะได้เดินตามความฝันตามความปราถนาสักทีแล้วนะค่ะ")

แม่นมของวิคตอเรียดีใจนํ้าตาไหลด้วยควาปลื้มปิติยินดียิ่งกว่าใครอื่นเพราะเป็นคุณหนูที่ตนนั้นเลี้ยงมาตั้งแต่ยังแบ้บาะจนตอนนี้เติบใหญ่เป็นสาวงามและกำลังจะได้เป็นพระชายาขององค์ชายสองอีก

"ยินดีด้วยเพคะ เลดี้ วิคตอเรีย หม่อมฉันสู้ท่านไม่ดีจริงๆ ต่อจากนี้ขอให้ความปรารถนาของท่านเป็นจริงเร็วๆนะเพคะ"

*ลูซี่กล่าวยินดีกับวิคตอเรียด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแม้ วิคตอเรียจะรู้สึกผิดแต่เธอก็ต้องการที่จะ ทำให้เป้าหมายของเธอเป็นจริงด้วยการเป็นพระชายาขององค์ชายสอง องค์ชายผู้ถูกทำนายไว้ว่าจะเป็นราชาจักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือใคร**ในอนาคต*!!!!

องค์ชายสองได้เดินมาหยุดตรงหน้าของวิคตอเรียและยิ้มมุมปากอย่างประหลาด

"ต่อจากนี้โปรดองค์ชาย ทรงเมตตาหม่อมฉัน ให้หม่อมฉันได้ใช้ชีวิตต่อจากนี้ ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับองค์ชายด้วยเถิดเพคะ"

***วิคตอเรียโค้งคำนับ ให้องค์ชายแม้เธอจะรู้สึกว่าองค์ชายมีท่าทีแปลกๆ

ทันทีที่เธอกำลังจะยื่นมือไปหาองค์ชาย เพื่อให้องค์ชายนั้นจับมือเธอ แต่แล้วเรื่องบางอย่างก็เกิดขึ้น

องค์ชายสองหันหน้าไปคว้ามือของ เลดี้ ลูซี่แทน แล้วประกาศต่อหน้าสาธารณชนที่มาดูงานพิธีคัดเลือกพระชายาว่า***

"ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าขอแต่งตั้ง เลดี้ ลูซี่ เป็นพระชายาของข้าอย่างเป็นทางการ"

การกล่าวเช่นนั้นขององค์ชายสองทำให้ หลายคนต่างแสดงความยินดีกับเลดี้ ลูซี่เป็นอย่างมาก เสียงตบมือดังกระหึ่มลั่นพิธีคัดเลือก คนบางส่วนต่างขบขันกับ ลูกสาวดยุค และพูดนินทาสนุกมาก

การกระทำขององค์ชายแบบนั้น เทียบเท่ากับหักหน้า เลดี้ วิคตอเรีย เป็นอย่างมาก วิคตอเรีย ไม่เคยสนคำพูดที่ไม่เป็นจริงที่คนอื่นนินทา แต่ครั้งนี้ มันยากเกินจะทน เพราะองค์ชายไม่ไว้หน้าเธอเลย วิคตอเรียมองไปที่ลูซี่ เธอนั้นยิ้มอย่างมีความสุข และตอบรับตกลงกับองค์ชาย ไม่แม้แต่จะเหลียวมามอง เลดี้ วิคตอเรีย แต่อย่างใด แถมองค์ชายก็ยังจุมพิต ไปที่ริมฝีปากของ เลดี้ ลูซี่ ต่อ สาธารณชน นั้นยิ่งทำให้ วิคตอเรีย เจ็บปวด เพราะถูกหักหลังไว้เนื้อเชื่อใจ ความรู้สึกเธอแทบแตกสลาย แต่ถึงกระนั้น

เย็นวันนั้นหลังจากงานพิธีสิ้นสุดลง ขณะวิคตอเรียกำลังจะเตรียมอาบนํ้าเข้านอน ขณะนั้น ก็ได้เสียงดังลั่นไปทั่วคฤหาสน์ ทำให้ วิคตอเรีย เอะใจเป็นอย่างมากกับเสียงนั้น

มันคือเสียงโซ่ที่ล่ามติดกับอะไรสักอย่าง เมื่อเดินตามเสียงนั้นไปจนสุด วิคตอเรีย ก็ถึงกับ ติดชะงัดช็อคกับภาพตรงหน้า

ดยุค ได้ใช้โซ่ล่ามคอ แม่นม ของวิคตอเรียเอาไว้ ภาพตรงหน้านั้น สะเทือนใจซะยิ่งกว่าการถูกหักหน้าจากองค์ชาย

แม่นมที่คอยเลี้ยงและคอยรับฟังและให้คำปรึกษาวิคตอเรียตั้งแต่ยังเด็ก กำลังถูกดยุคทุบตีด้วยไม้คํ้าของเขา เขาฟาดแม่นมอย่างไม่หยุดยั้ง เลือดของแม่ได้อาบไปทั่วร่าง แม้กระทั่งศีรษะก็เต็มไปด้วยเลือด แม่นม ยังส่งยิ้มให้กับ วิคตอเรีย เสมอ แม้จะถูกทำร้ายอยู่ก็ตาม

"ท่านพ่อได้โปรดหยุดเถอะ เพคะแม่นมของหนูไม่ได้ทำผิดอะไรได้โปรดเถอะ ขอร้องอย่าทำร้ายแม่นมอีกเลย"

วิคตอเรีย นํ้าตาไหลพราก ร้องฟูมฟาย ซึ่งเธอนั้นแทบไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นเลย นอกจาก พี่ชาย กับแม่นม และเพื่อนสนิทสมัยเด็กของเธอแต่แม้เธอจะขอร้องและร้องไห้ ต่อหน้าดยุคก็ตาม ดยุคนั้นก็ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

"*ความผิดมันก็เป็นแม่นมนี่ ที่สั่งสอนแกมาไม่ดี ทำให้แกไม่ได้เป็นพระชายาขององค์ชาย พวกไพร่พวกนี้ต่อให้ตายไป ก็ยังหาคนใหม่แทนได้ แค่คนๆเดียวตายไป ฉันหาให้แกได้อีกเป็นสิบ อยู่ต่อไปอีนี้ก็ไร้ค่าอยู่ดี แกอย่าเข้ามายุ่งไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน นังลูกไม่รักดี แกทำให้ฉันอับอาย"

"ทั้งหมดมันเพราะฉันมีลูกแบบแก ฉันไม่หน้าให้กำเนิดลูกแบบแกขึ้นมาเลย ต่อให้อีนี้จะตายสักสิบครั้งมันก็เทียบไม่ได้กับการที่ฉันอับอายต่อหน้าผู้คนในพิธีวันนี้ ชื่อเสียงอำนาจกว่าฉันจะสร้างมันขึ้นมาได้ขนาด แกรู้ไหมว่ามันลำบากแค่ไหน*!!!!"

ดยุคยังใช้ไม้คํ้าของเขาทุบตีไปที่แม่นมเรื่อยๆและไม่ท่าทีที่จะหยุดยั้ง วินาทีนั้น วิคตอเรีย ก็ได้เอาตัวเข้าไปบังแทนแม่นม จนถูกไม้ฟาดเข้าไปที่หัวอย่างรุนแรง จากนั้นดยุคก็ถึงกับได้สติคืนและวางไม้คํ้าลง ดยุครีบให้คนรับใช้ที่เหลืออยู่ตามหมอมารักษา วิคตอเรีย เพราะเลือดของหล่อน ไหลไม่หยุดเลย ดยุครีบเดินหนี และไปเรียกหมอมาเพื่อรักษา

"*คุณหนู หม่อมฉันขอโทษที่ทำให้คุณหนูต้องเจ็บปวด ทุกข์ทรมาณใจ หม่อนฉันผิดเองที่เลี้ยงคุณมาไม่ดีพอ เลยทำให้ความฝัน ในการเป็นพระชายา ของคุณหนูต้องล้มเหลว ดิฉันขอโทษจริงๆนะค่ะ"

แม่นมลุกขึ้นมากอด วิคตอเรีย และร้องไห้ออกมา ลูบหลังวิคตอเรียอย่างช้าไปเบาๆ แม้ตัวจะเจ็บแทบลุกไม่ไหวแต่ก็ฝืนที่จะยิ้มออกมาเสมอ

"แม่นมไม่ผิดอะไรเลย คนที่ผิดเป็นฉันเอง ที่เชื่อใจคนอื่นมากเกินไป ฉันขอโทษที่ทำให้แม่นมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แม่นมอดทนอีกนิดนะค่ะ เดียวหมอก็จะมารักษาให้แม่นมแล้ว*"

วิคตอเรียนํ้าตาไหลเป็นสาย คำพูดของวิคตอเรีย ที่พูดมาออก แทบจะไม่เป็นคำ เพราะร้องไห้ฟูมฟายกลัวแม่นมจะเป็นอะไรมาก

"*ไม่เป็นไรหรอกนะค่ะ คุณหนู โปรดอย่าโทษตัวคุณหนูเองเลย และต่อจากนี้หากไม่มีดิฉันแล้ว คุณหนูก็ต้องเข็มแข็งและสู้ต่อไปนะค่ะ หากคุณหนูทนไม่ไหว ก็จงหนีไป ไม่มีใครที่แข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ต้องการความช่วยเหลือ สักวันนึงคุณหนูจะต้องเจอคนที่เป็นที่พึงให้คุณหนูได้อย่างแน่นอน คนๆนั้นจะไม่มีทางหักหลัง หรือทอดทิ้งคุณหนูไปอีกแน่"

"ไม่ว่าใครจะว่าร้ายหรือรังเกลียดคุณหนู ต่อให้คุณหนูจะทำเรื่องเลวร้ายยังไง ดิฉันก็จะเอาใจช่วยคุณหนู และหมั่นใจว่าคุณหนูจะเลือกทางที่ถูกต้อง"

แ*ม่นมเริ่มพูดด้วยนํ้าเสียงที่แพร่วลงเรื่อยๆแต่ก็ไม่แสดงอาการว่าตนนั้นเจ็บมากน้อยเพียงใด วิคตอเรียได้ยินคำพูดของ แม่นมของเธอทุกคนแม้พยายามจะพูดแต่ร่างกายและสายตาก็เริ่มพร่ามัวลงไปเรื่อยๆจนวินาทีสุดท้ายก่อนที่เธอจะสลบลงไป เธอยังคงจำสีหน้า วาจาคำพูดของแม่นมได้ทุกถ้อยคำ

ไม่นานนักดยุคได้พาหมอมารักษาตัว วิคตอเรีย ได้ทัน

แต่เรื่องเลวร้ายที่คาดไม่ถึงว่าดยุคจะทำได้ลงคอ กับ แม่นม หญิงสาวที่ชุบเลี้ยง เลดี้ วิคตอเรีย มาตั้งแต่ยังแบเบาะ ดยุคได้สั่งให้ พ่อบ้าน บางส่วนข่มขืน แม่นม ซึ่งพ่อบ้านบ้างส่วนก็เต็มใจยินดีที่จะทำ โดยไม่สำนึกบุญคุณแม่นมที่ช่วยหางาน คอยเลี้ยงดู พวกพ่อบ้านบ้างคนให้อยู่ดีกินดี คอยเอาใจใส่ แม่นมนั้น เป็นหญิงวัยกลางคนอายุราวๆ40ต้นๆ แต่ก็ยังดูสวยสง่า เหมือนสาวอายุไม่มากนัก

หลังจากที่พวกพ่อบ้านได้ รุมโทรมและสำเร็จความใคร่เสร็จ ดยุคก็ได้สั่งให้พวกพ่อบ้าน เอาตัวของ แม่นมไปให้ พวก เวนดิโก้ แถวป่าลึกลับกิน เพื่อทำลายศพไม่ให้ วิคตอเรียหาเจอ

พวกเวนดิโก้ เป็นอสูรกายกะหายเลือด พวกมันจะกินเนื้อมนุษย์อย่างบ้าคลั่งและจะออกล่าเหยื่อในเวลาตอนกลางคืน กรงเล็บของมัน ยาวและแหลมคม ร่างกายสูงโก่ง ราวสองถึงสามเมตร พวกมันมีความว่องไว เป็นอย่างมาก แต่หากถูกแสงส่องหรือไฟเผา มันจะเจ็บปวดทรมานเป็นอย่างมาก พวกมันนั้นป่าเถื่อน ใครที่พบเห็นมัน ก็จงเตรียมใจได้เลย เวนดิโก้สามารถใช้แค่เล็บยาวของมันข้างเดียวก็สามารถฉีกร่างกายของมนุษย์ธรรมดาได้อย่างสบายๆ และฟันที่แหลมคมของมันจะเริ่มแทะจากส่วนหัวก่อน เพราะเป็นส่วนที่พวกมันชอบที่สุด

ผ่านมาสามวันหลังจากงานพิธีคัดเลือกพระชายา

สายตาของ วิคตอเรีย ที่มอง ดยุคนั่นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอต้องแสร้งทำเหมือนว่าเธอไม่รํู้หรือลืมว่าเรื่องทั้งหมดที่เขาทำนั้นมันไม่เคยขึ้น แม้กระทั่งเรื่อง ที่พวกพ่อบ้านทำกับแม่นม วิคตอเรียนั้นรู้หมด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้เธอโกรธตัวเองเป็นอย่างมาก แต่เธอชื่อต้องมีสักวันที่เธอจะได้แก้แค้นให้แม่นม

ในวันนั้นเองก็ได้มีจดหมายมาถึง เลดี้ วิคตอเรีย ให้ออกไปพบที่ โบสถ์ คำพยากรณ์ของเทพ ซึ่งเป็นโบสถ์ ที่จะได้รับ คำทำนาย เรื่องต่างๆ จากเทพ ซึ่งมีเพียง ผู้มีตำแหน่ง พระสังฆราชหรือ ผู้มีศักดิ์ เป็น พระ คาร์ดินัล เท่านั้น ที่จะสามารถรับสารจากสวรรค์ ได้ แต่ คำทำนายนั้น ไม่สามารถแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปอ่านได้แบบเปิดเผย มีเพียงผู้มีเงินทอง หรือชนชั้นสูงเท่าที่สามารถ จ่ายเงิน เพื่อดูคำทำนายได้

...~โปรดติดตามตอนต่อไป~...

ตอนที่ 3 : ชะตาชีวิต 3/3

The Legend of Eternal Love พลิกชะตาตำนานรักเทพกษัตริย์ ตอนที่ 3 : ชะตาชีวิต 3/3

12ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุการณ์

มีจดหมายหนึ่งฉบับจ่าหน้าซองถึง คุณหนู วิคตอเรีย ลูกสาวดยุคเบอร์นาร์ดเนื้อความจดหมายได้เขียนระบุสถานที่วันและเวลาอย่างชัดเจน

"จดหมายฉบับนี้ถึง คุณ วิคตอเรีย ดิฉัน ลูซี่เองเพค่ะ ฉันอยากจะขอโทษคุณ เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมด ดิฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นเลย ฉันไม่อยากให้พวกเราต้องมาทะเลาะกันจนถึงขั้นตัดขาดกัน เพราะเรื่องผู้ชาย ฉันจึงอยากปรับความเข้าใจกับคุณ วิคตอเรีย อีก3ชั่วยาม ได้โปรดมาพบกับฉันที่ โบสถ์แห่ง คำพยากรณ์ของเทพ ฉันจะรอคุณ จาก เลดี้ ลูซี่ "

เมื่ออ่านจบ วิคตอเรีย ก็ฉีกกระดาษจดหมายทิ้ง แทบไม่เหลือเศษกระดาษ ไว้ให้สามารถต่ออ่านเป็นคำได้อีก

สายตาของเธอดูเย็นชาเยือกเย็นมากกว่าปกติ ชีวิตที่ไร้ที่พึ่งผิง ความรู้สึกที่ถูกหักหลัง ความรู้สึกที่เสียคนที่ตนรักมากที่สุดไปอย่างหวนไม่กลับ ภาพติดตา ที่แม่นมถูกฟาดทุบตีโดย ดยุค เบอร์นาร์ด พ่อของตน ยังคงหลอนติดตา ยากที่จะลืมเลือนให้หายไปได้

ก่อนที่จะวิคตอเรียจะออกไปพบกับลูซี่ก็ถูกดยุคเรียกไปพบก่อน ทั้งสองได้พูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนที่วิคตอเรีย จะให้พ่อบ้านเตรียมรถม้าพื่ออกเดินทางไปที่โบสถ์

ฮี้ๆๆๆๆๆ

"ถึงแล้วขอรับ คุณหนู"

คนขี่รถม้าได้ทำกล่าวกับ วิคตอเรียก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรถม้าให้

ไม่นานนักหลังจากที่มาถึงโบสถ์ วิคตอเรียก็ได้รีบเดินไปตามที่นัดพบ

ครื้มม !!!

เมื่อเปิดประตูโบสถ์เข้าไปก็ได้เกิดเสียงที่แสบหูและดังมาก ราวกับเนื้อหนังมนุษย์ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ สถานที่นี้ มันทั้งมืด และน่าชวนขนลุก

เดินไปได้สักพักนึง บรรยากาศในตัวโบสถ์นั้น เย็นยะเยือกราวกับจะดูดกลืน วิคตอเรียเข้าไป

("ทำไมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ ถึงมีกลิ่นอบอวลแบบนี้ได้ ราวกับ โบสถ์แห่งนี้ มีสิ่งชั่วร้ายอยู่")

****วิคตอเรียกล่าวในใจแม้จะตก**** แต่หล่อนก็ยังคงสีหน้าเดิม ราวกับว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นเรื่องปกติ

กึก กึก กึก!!!

มีเสียงประหลาดได้ดังขึ้นมาจากปลายทางข้างหน้า

เสียงนั้นเหมือนกับเสียงของรองเท้าส้นสูง ที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเธอ แต่ในตัวโบสถ์นั้นกับมืดมาก ทำให้ไม่รู้ว่าใครกำลังเดินอยู่ตรงหน้า

เมื่อเสียงนั้นเงียบหายสนิท ก็ได้เกิดหมอกควันสีขาว บริเวณรอบๆ จากสีดำเริ่มกลายสีขาวจางๆ หมอกนั้นปกคลุมหนามาก ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงเรียกมาจากทางด้านหลัง

"ในที่สุดคุณก็มา เลดี้ วิคตอเรีย"

เสียงนั้นแพร่วเบาตํ่า ราวกับจะขาดใจเมื่อเปร่งเสียงออกมา เป็นคำสั้นๆ เสียงนั้น แม้จะน่าสงสารเหมือนรอใครสักคนจนแทบขาดใจแต่ลึกๆนั้นกับแฝง ไปด้วยภัยอัยตราย เสียงแพร่วเบานั่น ราวกับจะกลืนกินเธอไปในพริบตา

สัญชาตณาณของวิคตอเรียสัมผัสได้เลยว่า เสียงลึกลับนั่นแฝงไปด้วยจิตสังหาร เธอรีบชักดาบ ออกมาทันควันและหันหลังไปฟันอย่างรวดเร็ว

ฟื้บบ!!!

"อะไรกันเสียงเมื้อกี้นี้ ท่าไม่ดีแล้วแหะด้วยร่างกายที่อ่อนแอของเราในตอนนี้คงอาจสู้ลำบากถ้าต้องสู้กันตรงๆ"

แม้วิคตอเรียจะรีบชักดาบออกจากฝักอยากรวดเร็วเพื่อหันไปฟันเสียงที่ตนได้ยินจากข้างหลัง ภาพตรงหน้าทำให้เธอนั้นรู้ได้ในทันทีเลยว่า ตอนนี้เธอตกอยู่ในอันตราย เพราะแม้จะฟันตามเสียงนั้นและวิเคราะห์แหล่งที่เกิดเสียง และใชี้สัมผัสของสัญชาตญาณมาช่วย

เธอกับมองไม่เห็นตัวมัน แม้ฟันไปก็มีแต่หมอกหนาทึบเต็มไปหมด มันทั้งรวดเร็ว ว่องไว เกินกว่าที่เธอจะคาดถึง แต่กระนั้น วิคตอเรีย กลับยิ้มอย่างสะใจ ที่เธอได้เจอกับอะไรแบบนี้ เธอสะแยะยิ้ม ราวกับกำลังสนุกสนานอะไรบางอย่างในใจ สีหน้าที่เฉยเมย เริ่มดูเหมือนสาวโรคจิต ขึ้นมา

แต่ยังคง ดูเคร่งขรึมสุขุม อยู่เสมอ แม้จะมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

"ข้ากำลังรอท่านอยู่เลย ท่านหญิง"

"สีหน้าอันหยิ่งยโสของท่าน ราวกับท่านเป็นผู้ชนะตลอด ข้าเกลียดยิ่งนัก ข้าอยากจะเห็นใบหน้าที่ท่านต้องสูญเสียอะไรสักอย่างบ้างจริงๆ มันจะได้ทำให้ข้าสนุกยิ่งกว่านี้อีก ฮาๆๆๆ"

เสียงปริศนาส่งเสียงพูดด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนน้อม เคารพรัก แต่ในนึงราวอยากจะขยํ้าเธอให้ตายในคราวเดียว เสียงหัวเราะสะใจนั่น ดังทั่วก้องรอบบริเวณม่านหมอก

มันพุ่งตัวมาหาวิคตอเรียอยากรวดเร็ว รูปลักษณ์ของมันดูผิดแปลกจากมนุษย์ธรรมดาทุกประการ แม้จะเห็นเป็นแค่รางๆในม่านหมอกควันสีขาวนี้

รูปร่างเหมือนคนหลังข่อม ลำตัวยาวสูง ผอมแห้ง แต่อย่าดูถูกร่างกายที่ผอมแห้งของมัน แม้จะดูผอม ราวกับจะไม่มีแรง แต่พละกำลังและความว่องไวกับมีมากยิ่ง มันสามารถงอตัวทำท่าทางได้เหมือนราวกับกิ่งก้ากับแมงมุม ขากรรไกร บิดเบี้ยว มีฟันที่ยาวแหลม เหมือนฟันของสัตว์ป่า มีเล็บที่ยาวคม เหมือนใบมีด

แม้อยู่ในม่านหมอก แต่ดวงตาของมันก็เปร่งแสงสีแดงออกมาจากนัยน์ตา ทำให้สามารถสังเกตได้ว่ามันอยู่ตรงไหน แต่ความว่องไวของมันหาเดาทางได้ง่ายไม่ แค่พริบตาเดียว ก็เข้าประชิดตัวได้แล้ว

("พละกำลังนี่มันอะไรกัน นี่ไม่ใช่พลังเวทย์แน่นอน พลังนี่มันเหมือนกับของพวกปีศาจ")

"แกเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงคิดจะทำร้ายฉัน แต่ถ้าแกจะไม่ยอมบอกฉันก็ไม่โทษแกหรอกนะ เพราะปกติคนก็เกลียดฉันเยอะอยู่แล้ว หากมีสัตว์ประหลาดอย่างแกอีกซักตัว มันจะเป็นไรไป"

"แค่ฆ่าแกได้ ฉันก็ไม่กลัวแกแล้ว มาสนุกกันดีกว่า"

แม้จะอยู่ในสถานที่ขับขัน แต่วิคตอเรีย ก็ยังตะโกนถามกับเสียงปริศนาที่กำลังเข้าโจมตีเธออยู่ ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้วไม่หวาดกลัวกับศัตรู แม้ศัตรูอาจมิใช่มนุษย์แต่หาทำให้ วิคตอเรียหวาดกลัวไม่

"ฮิฮิฮิ ข้าคิดว่าท่านคงจะรู้อยู่แล้วกระมั่ง ข้าพูดไปก็คงจะเสียเวลาเปล่าๆ เพราะยังไงวันนี้ท่านก็ต้องตายที่นี่"

"ข้าหากลัวเจ้าไม่ เจ้าปีศาจเดรฉาจ หากฆ่าข้าเจ้าได้ ข้าก็อาจจะได้ชื่อเสียง ว่าเป็นหญิงแกร่งที่สามารถปราบปีศาจที่แอบเข้ามาในเมืองได้ และอาจถูกยกย่องอีกก็ได้นะ"

วิคตอเรียรู้ดีว่าร่างกายในตอนนี้ของเธอนั้นยังไม่พร้อมที่จะสู้กับ ศัตรูของเธอที่กำลังสู้อยู่ตอนนี้ เธอไม่รู้แม้ว่า มันคือสัตว์ประหลาด อสูรกาย หรือปีศาจประเภทใด ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมเผยจุดอ่อนก่อน ก่อนที่จะรู้จุดอ่อนของศัตรู

"ไม่ว่าแกจะเป็นตัวอะไร ฉันก็จะฆ่าแกด้วยมือของฉันอยู่ดี"

เปร๊งปร๊างง!!!

เสียงดาบเงินของวิคตอเรีย ที่กระทบกับ เล็บของอสูรกายดังกล่าว ดังสนั่น ไปทั่ว มันทั้งดังและรวดเร็วจนแทบจะเกิดประกายไฟขึ้น ความเร็วดาบของเธอนั้นว่องไวตาม ความเร็วของ อสูรกาย ศัตรูของเธอทัน

จนวิคตอเรียสามารถสัมผัสได้ว่าตอนนี้ดาบของเธออาบไปด้วยเลือดออกอสูรกาย ความสนุกในการต่อสู้ ของวิคตอเรีย รู้สคกไฟลุกพล่านและสนุกเป็นอย่างมาก

เมื่อเริ่มไหลมาต้อนศัตรูได้เธอก็เริ่มหัวเราะสะใจ แม้อสูรกายจะล้อมกัดโจมตีเธอ เธอก็สามารถหมุนหลบตัว ตั้งรับได้เสมอ แม้ช่วงแรกเธอจะเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนซะเอง

ความบ้าคลั่งกระหายเลือดในการต่อสู้ของวิคตอเรียพุ่งพลานขึ้นไปอีก ถอย1ก้าวเพื่อตั้งรับและวิเคราะห์ความน่าจะเป็นไปได้ของศัตรูว่าจะทำอย่างไรต่อ วางกลยุทธ์ ให้ศัตรูเริ่มเผยจุดอ่อนของตัวเองออก และรีบไปฉาก

("แม้ตอนนี้เราจะได้เปรียบ แต่หากเราไม่รีบปิดฉากเร็วไวแล้วละก็ เราอาจจะเป็นฝ่ายเสียท่าซะเอง")

"ดีละ ขอบใจมากเลยที่ทำให้ฉันสนุกได้ขนาดนี้ เจ้าอสูรกายน่าขยะแขยง แม้จะไม่เห็นรูปลักษณ์แกแต่ฉันก็เดาได้เลยว่าหลังจากที่ฉันฆ่าแก สภาพแกจะเป็นยังไงฮาาๆๆๆ"

"อย่าปากดีให้มากนักซะละ คุณหญิง ขอยอมรับเลยนะว่าคุณเป็นคนมีพรสวรรค์มากเลย แต่ฉันนะเกลียดคนมีพรสวรรค์แบบคุณที่สุด

จำคำพูดของคุณไว้ให้ดีนะค่ะ เพราะนี่จะเป็นจุดจบชีวิตของคุณเช่นกันฮาๆๆๆ"

ทั้งสองโต้ตอบกันด้วยคำพูดที่ดูมีความสุขที่ได้สู้กัน หลังอสูรกายปริศนาพูดจบก็ได้จู่โจมครั้งเดียวอย่างรวดเร็วหวังเด็ดหัวของวิคตอเรีย แต่ก็ไม่สำเร็จ วิคตอเรียใช้ดาบตั้งรับการโจมตีด้วยมือทั้งข้างเธอใช้มือจับดาบหมั่น และตวัดดาบเหวี่ยงศัตรูออกจากรอบตัว และใช้แรงทั้งหมดของเธอทิ่มดาบลงไปกลางอกของศัตรู

"อ่าาาาๆๆ ปิดฉากล่ะนะ"

เธอพูดด้วย เสียงอ่อนแรง และปล่อยเสียงหอบเหนื่อยออกมา พลังตอนนี้ของเธอแทบไม่เหลือแรงแล้ว เธอคิดว่าการต่อสู้นั้นจบลงแล้ว แต่นั้นอาจไม่ใช่เพราะมันพึ่งแค่จะเริ่ม

"ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่าพึ่งดีใจ เพราะนี่อาจเป็นจุดจบชีวิตท่านเอง"

เสียงแพร่วเบาปริศนา ที่กระซิบข้างหูเธอ เธอรู้ได้ทันทีว่ามันยังไม่ตาย แต่ไม่นานที่จะคลายสงสัย เมื่อหันหลังกลับ เสียงประตูที่เปิดออก ได้ดังขึ้น

แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้สาดส่องเข้ามาในโบสถ์

เสียงฝีเท้าของเหล่าทหารมากมายได้เดินเข้ามาตามหาใครสักคน พร้อมกับม่านหมอกที่กำลังหายไป

~ทันใดนั้น~

เสียงขององค์ชายสองก็ดังขึ้น

"เลดี้ ลูซี่ ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ใด ข้ามาหาเจ้าแล้ว รีบมาหาข้าเถิด เจ้าไม่ต้องกลัวแล้วไม่มีใครทำอันตรายเจ้าอีก"

เมื่อเริ่มได้สติ วิคตอเรียได้หันกลับมายังที่เดิมที่แทงอสูรกาย ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้านั้น กับเป็น เลดี้ ลูซี่ ที่ถูกดาบของวิคตอเรีย ปักอยู่กลางอก

...~โปรดติดตามตอนต่อไป~~...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!