“ปลายฝน เธอได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศจีนนะ”
เสียงของผู้เป็นอาจารย์ประจำชั้นของฉันดังขึ้น หลังจากที่ฉันมัวแต่คิดเรื่องการสอบว่าจะผ่านหรือไม่
“ปลายฝน ปลายฝน อาจารย์เรียกแกนะ”
บอสตั้น เรียกจนฉันสะดุ้ง บอสตั้นเป็นเพื่อนของฉันตั้งแต่เด็ก รวยมาก ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย สนิทกันมาก จนคนในโรงเรียนคิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน
“ห้ะ! อะ..อะไรนะ”ฉันหันไปถามบอสตั้นด้วยสีหน้าที่งวยงง
“อาจารย์บอกว่า แกได้เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จีนนะ”บอสตั้นตอบแทนอาจารย์ด้วยความดีใจ และดีใจแทนเพื่อนๆ
“จา จะ...จริงหรอคะอาจารย์”ฉันตอบด้วยความดีใจ พร้อมกับหันหน้าไปถามอาจารย์ หลังจากที่นั่งกลุ้มใจมานาน
“จริงสิ เลิกคลาสแล้วไปพบครูที่ห้องพักครูด้วยนะ ครูมีเรื่องจะแจ้งเรา”
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะ”สิ้นเสียงอาจารย์สั่งฉันแล้ว อาจารย์ก็สอนต่อ จนเลิกคลาส
“นี่แกโชคดีจังเลยอ่ะ ได้ไปประเทศจีนที่ทุกคนสายศิลป์ภาษาอังกฤษ-จีน หลายๆคนใฝ่ฝันอ่ะ”น้ำหวานที่เป็นเพื่อนในห้องเดียวกันพูดขึ้นแบบนี้ จนฉันคิดว่า ฉันเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในสายศิลป์-ภาษาเลยล่ะ
“แต่ว่า...ปีนี้เห็นเขาพูดว่ากันว่า ไปได้แค่คนเดียวนะ ห้องอื่นที่สอบได้เขาก็ไม่ได้ไป เพราะเค้าไม่ได้เรียนภาษาจีนโดยตรงเหมือนกับพวกเรา และงบในปีนี้มีพอสำหรับคนเดียวเท่านั้นอ่ะ”น้ำหวานพูดเสริม ฉันคิดว่า ฉันจะมีเพื่อนไปเสียอีก!!!
“จริงหรอ น้ำหวาน”บอสตั้นพูดเสริม
“จริงสิบอสตั้น เนี่ยขนาดผิงผิง ที่อยู่ห้อง1อ่ะ ยังอยากไปไม่แพ้เราเลย แต่ก็ไปไม่ได้ เหตุผลก็ตามที่เราบอกเลย”น้ำหวานพูดต่อ
“เลิกคลาสแล้วหนิ แกรีบไปหาอาจารย์เถอะ เดี๋ยวจะโดนดุเอา”บอสตั้นพูดขึ้นทันที
“โอเคๆ รอฉันแปปนึงนะ เดี๋ยวเราจะได้ไปกินข้าวพร้อมกัน”ฉันหันไปบอกบอสตั้น ก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไป
...ณ ห้องพักครู...
ก๊อกๆก๊อก
“ขออนุญาตค่ะ อาจารย์”ฉันเคาะประตู ก่อนจะเรียกอาจารย์ เพื่อขออนุญาตก่อนเข้าไป
“เชิญครับ คือว่า เธอจะได้ไปอาทิตย์หน้านะ แล้วก็นี่เป็นใบขออนุญาต ให้ผู้ปกครองเธอเซ็นต์อนุญาตหรือไม่อนุญาตมาด้วยนะ ส่วนรายละเอียด อยู่ในใบที่แนบอยู่แผ่นหลังกระดาษอีกอันนะ”อาจารย์อธิบายพร้อมยืนกระดาษแผ่นหนึ่งให้ ซึ่งเป็นกระดาษใบตัดสินที่จะให้ฉันไปหรือไม่ไป โดยที่ฉันจะได้ไปหรือไม่ไปนั้นขึ้นอยู่กับแม่ของฉันที่เป็นคนตัดสินใจเอง
“อ๋อ โอเคค่ะ ขอบคุณค่ะ”ฉันพูดจบ ก่อนจะเดินออกไปจากห้องพักครู พร้อมอ่านรายละเอียดคร่าวๆก่อนจะไปกินข้าวกับเพื่อนๆ
...ห้อง 5/4...
“เป็นไงบ้าง อาจารย์ว่าไงบ้าง”บอสตั้นถามด้วยความอยากรู้
“อาจารย์ก็แค่ให้ใบเซ็นต์อนุญาตจากผู้ปกครองและใบรายละเอียด แค่นั้นเอง”ฉันตอบบอสตั้น พร้อมยื่นใบที่ฉันได้มาจากอาจารย์ให้บอสตั้นดู
“โหดีว่ะ แกจะได้ไปเมืองเฉิงตูด้วยว่ะ เมืองแห่งแฟชั่นนะเว้ยเพื่อน”บอสตั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นบวกกับโผลกอดฉันจนเพื่อนแซว
“นี่ ปล่อยก่อนดิวะ ฉันรู้ว่านายอยากไปใช่ป่ะ”ฉันถามบอสตั้น ด้วยความที่ว่าฉันรู้อยู่แล้ว ว่าบอสตั้นอยากไป
“เอออยากไปดิ ต่อไปกูจะตั้งใจเรียนเว้ย กูไม่น่าห่วงแต่เล่นเลยว่ะ”บอสตั้นพูดตัดพ้อตัวเอง ก่อนจะน้ำตาคลอเบ้า
“ไม่เป็นไรเว้ยเพื่อน เดี๋ยวไว้กูจะโทรหามึงบ่อยๆละกัน เคป้ะ”ฉันตอบเพื่อน พร้อมตบไล่มันเบาๆ
“เออๆ ก็ได้วะ มึงอย่าผิดคำพูดนะเว้ย”บอสตั้นพูด พร้อมกับแสดงสีหน้าว่า ถ้าผิดคำพูดมันจะโกรธฉันมาก
“เออๆกูรู้แล้ว กูไม่ผิดคำพูดอยู่แล้วหน่า แต่ตอนนี้ไปกินข้าวก่อนเถอะว่ะ ไส้กูจะขาดละ”ฉันพูดพร้อมกับทำท่าหิวจนใจจะขาด
“เออๆ ปะๆ”บอสตั้นตอบก่อนจะเดินนำฉันไปที่โรงอาหาร
...ณ โรงอาหาร...
“เราจะกินไรกันดีอ่ะ ปลายฝน”น้ำหวานพูดขึ้นพร้อมกับหันหน้ามาถามฉัน
“อืม....เค้าว่าเค้าจะกินผัดกะเพรารวมอ่ะ”ฉันหันหน้าไปตอบน้ำหวาน
“แล้วแกล่ะบอสตั้น”น้ำหวานหันหน้าไปถามบอสตั้น
“ก็คงเป็นก๋วยเตี๋ยวว่ะ”บอสตั้นหันหน้ามาตอบน้ำหวาน พร้อมชี้ไปทางร้านขายก๋วยเตี๋ยว
“งั้นเดี๋ยวเค้าไปจองโต๊ะนั้นรอนะ น้ำหวาน”ฉันบอกน้ำหวานพร้อมชี้ไปทางโต๊ะข้างๆรุ่นพี่ม.6
“โอเคๆ เดี๋ยวเค้าซื้อไปให้”น้ำหวานตอบฉันก่อนจะเดินไปซื้อข้าวกับบอสตั้น
“สวัสดีครับน้องปลายฝน”รุ่นพี่ม.6คนหนึ่งทักฉัน ฉันยิ้มให้ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ
“น้องอยู่ม.ไหน ห้องไหนหรอครับ”รุ่นพี่ม.6 ถามฉันอีกครั้ง
“ม.5/4ค่ะ”ฉันหันหน้าไปตอบรุ่นพี่ม.6ก่อนน้ำหวาน และบอสตั้นจะเดินมาทางฉัน เพื่อมานั่งโต๊ะ
“อ๋อครับ คือว่า...พี่ขอเฟสน้องได้ป้ะ”รุ่นพี่ม.6 ยังถามฉันต่อ แต่ฉันไม่อยากจะตอบเพราะฉันไม่รู้จักพี่เขา น้ำหวานจึงทำตาขวางใส่รุ่นพี่ม.6คนนั้น แทนฉัน
“เอาไว้พี่จะไปหาเราที่ห้องเรียนนะครับ ไว้เจอกันครับ น้องปลายฝน”รุ่นพี่ม.6เดินออกจากโต๊ะกินข้าว ก่อนจะหันมาทำตาวิ้งๆใส่ฉัน แต่ฉันก็ไม่ได้มองเพราะฉันหิวข้าว และไม่ได้คิดที่จะยุ่งกับใคร
“นี่แก คราวหลังนะฉันจะไม่ให้แกมานั่งคนเดียวละนะ”น้ำหวานบอกฉัน พร้อมหันหน้าไปมองรุ่นพี่ม.6คนนั้น
“ทำไมอ่ะ”ฉันทำหน้างง ทำไมน้ำหวานถึงบอกฉันแบบนี้
“ก็แกเนื้อหอมเกินไง พี่เขาจะจีบแก แกไม่รู้ตัวหรอ”
บอสตั้นพูดเสริม
“รู้ แล้วไงอ่ะ”ฉันตอบน้ำหวานและบอสตั้น พร้อมตักข้าวใส่ปาก
“แล้วไงหรอ ก็พี่เขาเป็นนักเลงประจำโรงเรียนนี้อะดิ แกไม่กลัวหน่อยหรอ”บอสตั้นพูดขึ้น
“ก็เฉยๆอ่ะ”ฉันตอบบอสตั้นทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก
“แต่กูเป็นห่วงเว้ย!”บอสตั้นตอบฉันพร้อมกับใส่อารมณ์ น้ำหวานถึงกับอึ้งและรับรู้ถึงคำว่าเป็นห่วง ที่ไม่ได้หมายถึงห่วงแบบเพื่อน แต่ห่วงมากกว่านั้น ฉันรู้อยู่แล้วว่าบอสตั้นแอบชอบฉัน แต่ฉันไม่ได้สนใจ เพราะฉันเห็นเขาเป็นเพื่อนที่สนิท และเป็นเพื่อนที่ฉันไว้ใจที่สุด แล้วฉันก็พึ่งรู้มาไม่นานมานี้ว่าน้ำหวานแอบชอบบอสนั้นอยู่
“กูรู้ว่ามึงเป็นห่วง แต่มึงจะโมโหทำไม จะใส่อารมณ์ทำไม”ฉันหันหน้าไปถามบอสตั้นอย่างใจเย็น แต่สายตากลับดุบอสตั้นแทน เพราะฉันจะไม่ดุคนที่คำพูด แต่ฉันจะใช้สายตาที่คมกริบเหมือนกับมีดดุแทน
“เค้าอิ่มแล้วนะ”น้ำหวานพูดขึ้นและเดินออกจากโต๊ะไป
“กูขอโทษนะ กูไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”บอสตั้นพูดกับฉัน ก่อนจะก้มหน้ารับผิด ซึ่งบอสตั้นทำแบบนี้ประจำเมื่อบอสตั้นมีความผิดเพราะตอนเด็กๆบอสตั้นเคยไปมีเรื่องกับเด็กบ้านข้างมาฉันเห็นว่ามีเรื่องกันฉันตึงเข้าไปช่วยบอสตั้นและใช้สายตามองไปที่บอสตั้น และวิ่งผ่านไปตีและใช้มือทุบเด็กข้างบ้านนั้นจนสลบ แต่ในขณะที่ฉันจะวิ่งไปตีและทุบเด็กข้างบ้านนั้นบอสตั้นคิดว่าฉันจะไปตีบอสตั้นเพราะเห็นสายตาที่คมและดูหน้ากลัวของฉันจึงหลับตาปรือไว้ จากนั้นบอสตั้นก็ไม่กล้าสบตากับฉัน เพราะเวลาที่ฉันมองบอสตั้น บอสตั้นบอกกลัวสายตาที่ฉันมอง
“อือ กูไม่เป็นไรหรอก มึงรีบไปดูน้ำหวานเถอะกูว่าน้ำหวานเสียใจไม่น้อย”ฉันบอกบอสตั้น ก่อนจะหันไปมองน้ำหวานที่เดินเอาจานไปคืนร้านค้าอยู่ และฉันก็เดินออกมาจากบอสตั้น ที่ยืนงงคำพูดของฉันอยู่
หลังจากที่เราทานข้าวเสร็จก็ขึ้นมาเรียนตามปกติตาตารางภาคบ่าย
“น้ำหวาน แกไปไหนมาอ่ะ”ฉันหันหน้าไปถามน้ำหวานที่พึ่งไปไหนมาก็ไม่รู้พร้อมกับเป็นห่วง
“เค้าไปห้องสมุดมาน่ะ”น้ำหวานตอบฉันและไม่มองหน้าฉัน
“อ๋อ ไปไหนบอกเค้าด้วยนะ เค้าเป็นห่วงอ่ะ”ฉันพูดพร้อมกับยิ้มให้
...แชท:น้ำหวานเพื่อนรัก...
^^^ปลายฝน:เค้าไม่ได้บอกบอสตั้นนะ ว่าแกเป็นอะไรอ่ะ^^^
น้ำหวาน:โอเค ขอบใจนะเพื่อน❤️
ปลายฝน:เรียนกันเถอะ
น้ำหวาน:โอเคๆ
หลังจากที่เรียนเสร็จคาบบ่ายทุกวิชา ก็ได้เวลาที่จะต้องกลับบ้าน บอสตั้นก็ไม่กล้ามองหน้าฉันเลย จะถามก็ไม่กล้าถาม เพราคิดว่าฉันยังโกรธอยู่
“นี่บอสตั้น แกเป็นไร”ฉันเริ่มเปิดประเด็นถามก่อน
“เปล่านี่”บอสตั้นตอบ แต่ก็ยังไม่มองหน้า
“นี่ กูไม่ได้โกรธแล้ว แต่มึงจำไว้นะเพื่อนยังมีอีกคนที่คิดกับมึงมากกว่าเพื่อน ที่ไม่ใช่กู”ฉันบอกบอสตั้นก่อนจะขึ้นรถโดยสารกลับบ้าน ซึ่งระยะทางก็ไกลมาก และบอสตั้นก็ยังยืนงงอยู่เหมือน
...แชท:น้ำหวานเพื่อนรัก...
ปลายฝน:น้ำหวานเค้ากลับบ้านแล้วนะ ขอโทษที่ไม่ได้รอนะ เค้ารีบอ่ะเดี๋ยวมันจะค่ำก่อน
น้ำหวาน:โอเค เค้ารู้แล้ว กลับบ้านดีๆนะ
ปลายฝน:โอเคค้าบ
พอถึงบ้านฉันก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และทำอาหาารอพ่อกับแม่ และคุณตา บ้านฉันก็ไม่หรูหรา หรือถึงขั้นรวย แต่พออยู่ พอกิน พอใช้ บางคนก็หาว่าฉันสวย น่ารัก นิสัยดี เพอร์เฟคทุกอย่างแต่จน แต่ฉันก็ไม่ได้ต่อว่าพวกเขาเลย เพราะฉันคิดว่าก็ดีกว่าไม่มีสมองที่จะคิดอะไรไม่เป็นถึงพูดแต่เรื่องของคนอื่น เม้ามอยคนอื่นไม่เว้นวัน พอพ่อกับแม่ของฉันเลิกงาน ฉันจึงรีบหยิบเอกสารที่อาจารย์ให้ฉันมาให้พ่อกับแม่ดู
“แม่คะ หนูมีอะไรให้แม่ดู นี่ค่ะ”ฉันพูดพร้อมยื่นกระดาษที่อาจารย์ให้มา ให้พ่อกับแม่ดู
“อะไรอ่ะลูก”พ่อฉันถาม ก่อนจะหยิบไปดู
“อยากไปไหมล่ะ”แม่ฉันถามพร้อมกับมองหน้าฉัน
“อืม...อยากไปอยู่นะคะ แต่พ่อกับแม่จะให้ไปไหม”ฉันตอบแม่กลับ
“คิดว่าจะดูแลตัวเองได้มั้ยล่ะ”แม่ฉันถามต่อ
“ไม่ลองก็ไม่รู้นะคะ หนูคิดว่าหนูดูแลตัวเองได้ค่ะ เพราะโตแล้ว แต่หนูกังวลอย่างนึงคือ พ่อกับแม่จะมีเงินส่งหนูไปไหม”ฉันคิดหนักมาก เพราะเรื่องฐานะของฉัน มันพอมีอยู่ก็จริง แต่ฉันก็อดห่วงพ่อกับแม่ไม่ได้ ถ้าเงินนี้มันจะทำให้ครอบครัวของฉันลำบากฉันจะไม่ไป
“ใครบอกว่าไม่มี มีอยู่แล้ว ลูกไม่ต้องห่วงพ่อกับแม่หรอกนะ ลูกต้องคิดว่าอนาคตลูกสำคัญที่สุด”แม่ฉันตอบ ก่อนจะเข้ามากอดฉัน และให้พ่อเซ็นต์อนุญาตให้ในใบ
“ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ”ฉันกอดแม่ตอบ และร้องไห้ทั้งดีใจทั้งเสียใจ เพราะไม่เคยห่างพ่อกับแม่ ไม่เคยไปไหนไกล
1อาทิตย์ต่อมา
ณ สนามบิน เพื่อนๆในให้ทุกคนมาส่งฉันที่สนามบินทั้งหมด พ่อกับแม่ฉันก็มากับฉันด้วย ทุกคนฝากความหวังไว้ที่ฉัน เพราะฉันเป็นคนที่สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนมาตลอด หลังจากที่ฉันกอดพ่อและแม่เสร็จ อาจารย์ก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ฉัน มันคือที่พัก พร้อมสมุดแผนที่การเดินทางต่างๆในประเทศจีน
“ขอบคุณค่ะ อาจารย์”ฉันรับกระดาษแผ่นนั้นมา พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ
“เดินทางปลอดภัยนะ ครู เพื่อนๆ และทุกคนในโรงเรียนฝากความหวังไว้ที่เธอนะปลายฝน”อาจารย์พูดกับฉัน ก่อนจะตบไหล่ฉันเบาๆ
หลังจากที่ร่ำลากันเสร็จฉันก็ขึ้นเครื่องบิน จากนั้นแอร์โฮสเตสก็คอยบริการฉันตลอดฉันเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง เพราะอยากจะเห็นวิวท้องฟ้า ว่ามันจะเป็นอย่าง และมันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้ขึ้นเครื่องบิน ทั้งกลัว ทั้งดีใจ แต่ที่นั่งข้างๆฉันมันว่าง น่าจะมีคนนั่งข้างๆฉัน ขอให้เป็นผู้หญิงด้วยกันเถอะ จะได้สบายใจ ผ่านไปสักพักคนก็เริ่มทะยอยขึ้นเครื่องมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาทางฉัน ซึ่งเขาเป็นคนที่ สูงน่าจะ180อัพได้ หุ่นดี หล่อมาก หน้าตาดูลูกครึ่งไทย-จีน เพราะตี๋ ขาว เพอร์เฟคมากๆ ขนาดคนบนเครื่องยังมอง ไม่ว่าจะเป็น เด็ก แอร์โฮสเตส แม้กระทั่งคนแก่ยังมองเลยอ่ะ ตอนนี้เขาเดินมานั่งใกล้ไปฉัน แต่กระเป๋าสะพายข้างรูปหมีฉันวางอยู่ข้างฉัน เขาจึงมองหน้าฉัน แล้วก็ถามฉันเป็นภาษาอังกฤษว่า
‘ขอโทษนะครับ คุณช่วยเอากระเป๋าออกหน่อยได้ไหมครับ’เขาถามฉันเป็นภาษาอังกฤษ อยู่นาน แต่ฉันก็ตะลึงในความหล่อเหลาของเขาอยู่นานเช่นเดียวกัน เพราะเขานั้นตรงสเปกของฉันทุกส่วน ตั้งแต่หน้าตา โครงหน้า เลือกกระเดือก หุ่น สีผิว ตรงสเปกฉันทุกส่วนจริงๆ และเขาก็ถามฉันอีกครั้งว่า
‘ขอโทษนะครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ’พอได้ยินอีกครั้ง ฉันก็สะดุ้ง และเรียกสติคืนมา จากนั้นฉันก็ดึงกระเป๋าสะพายข้างอันแสนน่ารักของฉันคืน
“เปล่าค่ะ ขอโทษ เชิญค่ะ”จากนั้นเขาก็นั่งลงข้างๆฉัน ส่วนฉันนั้นก็เขินหน้าแดงจนลืมกลัวเครื่องบินไปหมดเลย
จากที่นั่งเขินเขาอยู่นานฉันก็เริ่มง่วงเพราะฉันลุกขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวตั้งแต่ตี3ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอน ฉันจึงหลับตาลงเพราะความง่วงและคิดอีกนานกว่าจะถึง แต่ก็แอบกังวลว่าจะลงผิดที่ ฉันก็หันหน้าจะไปบอกกับผู้ชายที่เพอร์เฟคของฉันว่า ถ้าถึงปักกิ่งแล้วปลุกฉันด้วยนะ แต่ก็ไม่กล้า เพราะเขานั้นนั่งจิ้มแต่โทรศัพท์เขา ฉันนึกขึ้นได้ว่าฉันมีโพสต์อิทอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างของฉัน ฉันจึงหยิบออกมาและเขียนข้อความบางอย่างให้เขา แล้วยื่นให้เขาแล้วก็หลับไป ฉันเขียนในกระดาษโพสต์อิทเป็นภาษาอังกฤษว่า ถ้าถึงปักกิ่งแล้วปลุกฉันด้วย เขาก็เหมือนจะอ่านแล้วก็เงียบไป
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!