หลิงหลิง:เป็นคนที่สวยงานเเละฉลาดหลักเเหลมที่สุดในบรรดาองค์หญิงหรือเเม้กระทั่งฮองเฮานางชอบช่วยเหลือผู้อื่นเห็นประโยชน์เเก่ส่วนรวมเเต่เรื่องน่าเศร้าก็เกิดขึ้นกับตะกูลของนางตะกูลนางถูกคำสาปเเละนางต้องการที่จะหาคู่รักมาเพื่อสืบทอดตระกูลของนาง
หลิงลี่:เป็นน้องของหลิงหลิงมีนิสัยขี้อิจฉาเเละขอบเบ้าข้างบรรเาขุนนางนางชองเที่ยวเล่าชอบดื่มสุราชอบค้าตัวเองนิสัยเจ้าเลห์เเละนางได้เข้ามาในวังนางเห็พี่ของตนเป็นฮองเฮาเลยอิจฉาเเละอย่กได้ตำเเหน่งนั้นนายเลยเป็นคนพวกเดียวกันบรรดาองค์หญิงที่จ้องจะเล่นงานฮองหรือพี่ของตัวเองมาโดยตลอดเวลาเเละนางก็ไม่เคยเห็นความดีของใครเพศยาไปวันๆจนนางกำลังจะถูกถอดยศ
เสี่ยวเหมย:เป็นเพื่อนสนิทกับหลิงหลิงเเละชอบเเบ่งปันอาหารเอาให้กับหลิงหลิงเวลาที่จะต้องออกเดินทางออกจากวันไปหลายวันเมื่อเพื่อนสนิทของเขารู้สึกเศร้าก็จะเข้ามาปลอบใจอยู่บ่อยๆเเละคอยให้กำลังใจอย่างสม่ำเสมอ
เอ่อหนาน:เป็นฮ่องเต้หลงรักหลิงหลิงเเต่ถูกท่านเเม่ของตนห้ามไม่ให้รักหรือชอบหลิงหลิงเพราะตะกูลโดนคำสาปเเต่เขาก็ยังจะดื้อรั้นที่จะรักเเม้ว่าจะต้องโดนคำสาปตามไปด้วยก็ตามเเต่ท่านเเม่ก็จะให้ไปเเต่งงานกับคนที่รวยเเละสละสลวยไม่มีคำสาปและอยู่ที่อื่นเขาก็ปฏิเสธว่า”ไม่ข้ารักหลิงหลิวเเล้ว”
สนมเสี่ยวหลาน:เป็นสนมในวังชอบเที่ยวเล่นนิสัยเหมือนหลิงลี่เเละชอบฮ่องเต้มานานเเต่เมื่อนางเห็นฮ่องเต้ไม่ได้ชอบนางเเละนางเห็นว่าหลิงหลิงชอบฮ่องเต้เลยคิดจะทำร้ายให้ตายกันไปข้างเดียวเเละอยากจะได้ตำเเหน่งฮองเฮาเป็นอย่างมาก
เข้าเรื่อง
เช้าวันที่เงียบสงบหลิงหลิงได้ตื่นเเละเดินเล่นอยู่ที่สวนดอกไม้เเละอ่านหนังสือพลางจิบชาไปจนเรื่องไม่ขาดคิดได้เกิดขึ้น
“หลิงหลิงเจ้านะคิดจะทำอะไรกันเเน่อยู่ดีๆเจ้าก็ชอบมาเเตะเนื้อต้องตัวข้าบางครั้งเจ้าก็ชอบเเย่งของๆข้า”(สนมเสี่ยวหลาน)
“อะไรกันข้ายังไม่ได้เเย่งของๆเจ้าไปเลยเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ”
ทันใดนั้นน้องสาวของหลิงหลิงก็ได้เดินเข้ามาต่อว่าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เจ้านี่ไม่รู้อะไรเลยเจ้าชอบเเกล้งนางตลอดเวลาเจ้ามันเป็นพี่ที่เเย่มากตั้งเเต่เจ้าเป็นฮองเฮาหลงในอำนาจ”(หลิงลี่)
ทันใดนั้นหลิงหลิงก็คิดว่าตนเองเป็นคนที่เเย่ยังไงเเต่ด้วยนางไม่ชอบฟังคำกล่าวของใครนางเลยพูดออกไปว่า
“ข้าไม่ได้เป็นพี่ที่ไม่ดีใครกันที่เป็นคนที่เ้ย่หลงเเต่ผู้ชายงานการไม่ทำชอบมั่ซุ้มกับผู้ชายไปเรื่อยเป็นคนเพศยาไปวันๆเมื่อรู้ว่าตระกูลโดนคำสาปเเละข้าเป็นฮองเฮา”(หลิงหลิง)
เมื่อหลิงลี่ได้ยินคำนั้นนางก็เลยโกรธมากเเละคิดในใจว่าพี่เราก็พูดถูกเป็นบางครั้งเเต่นางเยียดหยามข้าชอบว่าข้าเป็นเพศยาเล่ล่อนไปวันๆนางเลยเดินออกไปกำมือ2ข้างนางโกรธเเค้นเเละหันมาบอกว่า
“ท่านพี่จะต้องเสียใจสักวันนึงท่านจะต้องตายเพราะปาก”(หลิงลี่)
หลิงหลิงไม่ได้โต้ตอบอะไรเเละนั่งอ่านหนังสือพลางจิบชาไปจนถึงตอนบ่ายฮ่องเต้ก็ได้เดินมาหา
“วันนี้เป็นวันที่สดใสเหมาะเเก่การไปเดินตลาดสนใจไปกับข้ารึไม่”
หลิงหลิงรู้ตั้งนานเเล้วว่าฮ่องเต้นั้นเเอบมองเเละหังมาตลอดเลยไม่ได้คิดจะพูดเลยพูดว่า
“ไปสิเพคะ”
ที่ตลาด
ทั้งร้านค้าเเละตลาดสุดเเสนจะเงียบเง้าทางท่าเรือก็ว้าเว้เเละเปล่าเปลี่ยวเป็นอย่างมากเเละทันใดนั้นมีเฒ่าแกคนนึงมาบอกว่า
“ช่วยด้วยๆฮองเฮาที่นี่มันร้างมานานมากเเล้วไม่มีผู้ใดมาเดินที่นี่เเละกล่าวหาว่าที่นี่มีผีที่ดุร้ายเป็นอันมาก”(เฒ่าเเก่)
ทันใดที่หลิงหลิงเเละฮ่องเต้ได้ยินคำนั้นก็เลยเอ่ะในกันว่าที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นจนอยากคิดว่าอยากจะช่วยทันใดนั้นหลิงๆได้ถามเข้าไปว่า
“ที่นี่เกิดอะไรขึ้นคะเเล้วทำไมจึงมีคนกล่าวหาว่าที่นี่ผีร้ายกัน”(หลิงหลิง)
ทันใดนั้นเฒ่าเเก่ก็บอกว่า
“ที่นี่น่ะร้างไปตอนที่พวกนางสนมได้มาเดินตลาดเเห่งนี้พอเดินนางก็ติของพวกเราเป็นอย่างมากจนเจ้าที่หรือผีที่นี่ไม่พอใจจัดการทุกคนเเละหลอกหลอนคนที่นี่จนลูกจ้างนายจ้างพากันหนีออกไปค้าขายที่อื่น”(เฒ่าเเก่)
ทั้งที่สองคนฟังครั้งเเรกไม่เชื่อเเต่หลิงหลิงก็ใช้ความคิดเเละคิดวิเคราะห์อย่างถีถ่วนเเละจึงไม่เเตกตื่นเ้ละได้บอกกับเฒ่าเเก่ไปว่า
“ท่านไม่ต้องกลัวนะข้าจะจัดการความเรียบร้อยนี้เอง”(หลิงหลิง(
ทันใดนั้นฮ่องเต้ก็ตกใจกับคำพูดหลิงหลิงเป็นอย่างมากว่าเราไม่เก่งด้านการไขปริศนาเเละเมื่อฮ่องเต้จะพูดหลิงหลิงก็รู้ว่าจะพูดเลยขัดคำพูดไปว่า
“ไม่เป็นไรคะเดี๋ยวข้าจัดการเองได้ท่านไม่จำเป็นต้องห่วงคะ”
ด้วยความที่ฮ่องเต้เป็นห่วงเลยบอกไปว่า
“ไม่เป็นไรข้าจะอยู่เป็นเพื่อนนี่ก็ใกล้ค่ำเเล้วเรากลับกันดีกว่า”
เมื่อหลิงหลิงได้ฟังคำพูดก็เลยคิดว่าผีน่ะจะปรากฏให้เห็นในเวลาโพล้เพล้เเละพลบคะเท่านั้นนางเลยจึงคิดว่าไม่ตัดสินใจจะกลับวังก่อนเเละนางยืนยันที่จะอยู่ที่นี่จนจะได้รู้ว่าสถานที่เหล่านี้เกิดอะไรขึ้น
“ข้าอยากจะอยู่ที่นี่มห้ได้เบาะเเสไปบ้างข้าขออยู่ที่นี่ไม่เกินค่ำมากนักข้าอยากจะขอดูเเละสาเหตุของที่นี่”
เมื่อฮ่องเต้เป็นห่วงนางมากกลัวว่านางจะเป็นอะไรเลยตอบสวนกลับไปว่า
“ไม่เป็นไรข้าอยากจะช่วยเจ้าด้วยเพื่อจะได้สืบหาข้อมูลเเละสาเหตุได้เร็วยิ่งขึ้น”
พอสองคนได้คุยกันเเละหันไปดูกลับไม่พบเจอเฒ่าเเก่คนนั้นเเล้วเเละได้นินเสียงหมาหอนเเละนกที่กำลังบินกลับรังทันใดนั้นก็มีผู้หญิงผมยาวชี้หน้าเเละกล่าวคำว่า
“ออกไปสะ”
ทำให้ทั้งสองคนตกใจเป็นอย่างมากเลยวิ่งหนีจนไปชนกลับสิ่งที่ไม่ขาดคิดนั่นคือ!!!!
“ศพนี่นา”(หลิงหลิง)
ทั้งสองคนได้เห็นสภาพศพที่เเขวนคอเเละศพนั่นคือเฒ่าเเก่ที่ได้พูดกับเขาสองคนเมื่อกี๊!!!
ทันใดนั้นสองคนก็รีบวิ่งออกจากที่นี่ก่อนที่จะมึดไปมากกว่านี้จู่ๆก็มีวิญญาณมาปรากฏต่อหน้าเป็นผู้หญิงใส่กิโมโนสีดำอมทุกสวดอพไรสักอย่างอยู่หน้าพวกเขาเเล้วจู่ๆเขาก็พุ่งเข้าไปหาทั้งสองคนเเละทำเสียงเเปลกปะหลาดเเบบนี้อยู่ตลอดจนเอาทั้งสองคนต้องเอาชัวิตรอดจากทีนี่ทั้งสองคนหลบอยู่ในกีะท่อมเเห่งหนึ่งจู่ๆก็มีเสียงเครื่องคนตรีชนิดหนึ่งดังขึ้นเรื่อยๆเเละจู่ๆก็มีเสียงดังจากประตูดังจากข้างนอกเหมือนคนกำลังพังประตูเข้ามาทั้งสองคนพยายามเงียบเเละเก็บตัวจนถึงตอนเช้า
“เช้าเเล้วเเหละเพคะ”(เหลิงหลิง)
“งั้นเราออกไปกันเถอะ”(ฮ่องเต้)
ทั้งสองคนย่องออกไปเงียบๆเเละรีบกลับเข้าวังจรทุกคนเอ้ยเเละตะโกนบอกว่าฮ่องเต้กับฮองเฮามาเเล้วเพคะทุกคนต่างตกใจเพราะเมื่อคืนต่างหาทั้งสองคนไม่เจอเเละทุกคนได้รับการพักพ่อนจนถึงตอนบ่ายที่ห้องของหลิงหลิงก็ได้มีคนเข้ามานั่นคือสนมเสี่ยวหลาน
“เจ้าไปทำอะไรกันมาเมื่อคืนพวกเราต่างตามหากันเเถบเเย่รู้รึไม่ว่าเจ้าทำให้คนอื่นเดือดร้อน”
เมื่อหลิงหลิงได้ยินก็คิดว่าทุกคนคงเป็นห่วงเเต่จู่ๆนางก็กลับมาต่อว่าอีกว่า
“เจ้านี่มันตัวที่ไร้ค่าสิ้นดีพาเเต่ความอลเวงให้กับบ้านเมืองมาตลอดตำเเหน่งข้าก็ถูกเเย่งไปมันเป็นเพราะหน้าไร้ยางอ่ายอย่างเจ้า”(สนมเสี่ยวหลาน)
เมื่อหลิงหลิงได้ยินก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรกับนอนเหมือนเดิมเพราะนางคิดว่าทางนางพูดออกไปการทเลาะกันครั้งนี้ไม่จบกันง่ายๆเเน่นางเลยคอดอย่างดีเเละเวลาก็ผ่านไปถึงตอนค่ะนางได้เดินไปที่คลาดเเห่งนั้นคนเดียวโดยทีนางพกไปเเค่เทียนไขเพียงเท่านั้นเเละกระดาษที่สำหรับเอาไหวจดจ่างๆทั่งๆที่ฮ่องเต้ไม่รู้เเต่คนรับใช้นางรู้นางเลยบอกคนรับใช้ไปว่า
“ข้าจะไม่อยู่สักหลายชั่วโมงข้าจะไปเยี่ยมญาติที่ท้ายตลาดหน่อย”(หลิงหลิง)
“เพคะ”(คนรับใช้)
ไม่ทันไรนางก็ถึงตลาดนางพยายามไม่ให้เกิดเสียงมากที่สุดเเละพยายามมีสติอยู่กับตนทันใดนนั้นนางได้เห็นเงาอันเเปลกปลาดผ่านหน้าไปนางได้ตกใจเพียงเล็กน้อยเเละเดินค่อไปนางได้เดินจนเผลอเหยียบอะไรบางอย่างนั่นคือเลือด!!!
“อะไรกันเลือดพวกนี้มาได้ไงต้อง้กิดเรื่องไม่ดีเเน่เลย”(หลิงหลิง)
นางได้เดินเข้ากระท่อมไปเเล้วเจอกับจดหมายบางอย่างทันใดนั้นนางได้เปิดอ่าน
ข้อความในจดหมาย
ถึง ซิงเอ่อ ข้าอยากจะบอกว่าข้าทนทุกข์ทรมานกับที่นี่ไม่ได้จึงขอออกไปจากที่นี่ทุกวันข้าได้ยินเสียงพังประตูเเละได้ยินเสียงเครื่องดนตรีดีงขึ้นเรื่อยๆเเม่ของเราเคยเป็นนักปราบผีเรียกง่ายๆว่าหมอผีวันนึ่งท่านเเม่เราเคยเจอลูกค้าคนนึ่งนางถูกผีที่เรียกว่าผีเครื่องดนตรีนางได้เล่าสาเหตุของเครื่องดนตรีที่เป็นประวัติมาก่อนเเต่วันนั้นมันเกิดความผิดพลาดพิธีเกิดความล้มเหลวขึ้นเลยปดปล่อยผีออกมาเลยทุกคนถูกฆ่าตายกันหมดข้าขอโทษที่ข้าบอกช้าไปโปรดอภัยให้ข้าด้วย จากหลิงซู
เมื่อหลิงหลิงได้อ่านจดหมายเเล้วทำให้เจานึกว่าสิ่ที่เขาประสบเมื่อคืนคงจะเป็นผีตนนี้นางเลยเดินเข้าไปในส่วนของห้องทำพิธีในนั้นมีทั้งเลือดเเละเชือกนางมองไปข้างบนเห็นลุคคลที่อยู่ในจดหมายนั่คือหมอผีถูกเเขวนคอลงมาจากฉันบนนางเอามือปิดปากเเละเดินขึ้นข้างบนไปเมื่อนางได้ยินเสียงเหมือนมีคนเดินอยู่ด้านบนทันใดนั้นนางก็ได้เตอกับผีที้กำลังดีดเครื่องดนตรีนางพยายามหนีเเตะประตูดันปิดหลิงหลิงก็ได้พูดออกไปว่า
“เจ้าต้องการอะไรเเละทำไมเจ้าจึงต้องออกมาหลอกหลอน”
พี่ร้ายเลยตอบกลับไปว่า
“ข้า...ไม่เคยที่จะได้รับส่วนบุญอะไรเลยข้าต้องติดอยู่ในนรกต่อไป”
เมื่อหลิงหลิงได้ยินคำนั้นเลยคิดอยากจะช่วยเลยตอบกลับไปว่า
“งั้นข้าจะทำบุญไปให้เจ้าเเต่เต้าจะต้องเลิกหลอกหลอนที่นี่เข้าใจไหม”
“ได้”
ทางผีที่กำลังดีดเครื่องดนตรีนั้นก็ปล่อยหลิงหลิงออกไปเธอคิดว่านางคงไม่มีบุญเเละสิ่งที่นางทำมันผิดพลาดนางเลยคิดอยากจะหาคนที่กล้ามากพอที่จะช่วยนางได้สินะเมื่อหลิงหลิงกลับถึงวังฮ่องเต้เป็นห้วงอย่างมากเลยวิ่งเข้ามากอด
“หลิงหลิงรู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเเถบเเย่ที่เจ้าไปคนเดียวโดยไม่มีข้า”
ความรู้สึกนั้นมันส่งผลดีต่อตัวข้าเป็นอย่างมากเเละจู่ๆสนมเสี่ยวหลานก็ได้มาเห็นเลยตบเเละดึงจนหลิงหลิงล้มหัวกระเเทกพื้นอย่างเเรง
“เสี่ยวหลานเจ้าทำอะไรลงไป”
“ข้าเห็นนางเเล้วหึข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่านางจะเพศยาเช่นนี้ตระกูลโดนคำสาปเเล้วยังจะทำตัวหน้าเวทนา”
เมื่อฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้ก็โกรธเป็นอย่างมากเเละอุ้มหลิงหลิงไปที่ห้องของเธอโดยที่ไม่สนสนมเสี่ยวหลานเลยเเหมเเต่น้อย
“เดี๋ยวสิเพคะข้าอุตส่าห์สั่งสอน”
เมื่อฮ่องเต้ได้ยินเช่นนั้นเลยหันจอบกลับไปว่า
“พรุ่งนี้เจ้าได้โดนเลื่อนยศเป็นเเน่เเละใครกันที่ต้องโดนสั่งสอนข้าจะทำให้เจ้าเห็นกับตาจากการกระทำที่เจ้าทำ”
เมื่อสนมเสี่ยวหลานได้ยินเลยโกรธเป็นอย่างมากทันใดนั้นหลิงหลิงก็ได้สลบไปทั้งคืนจนกระทั่งตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
“หลิงหลิงเจ้าเป็นอย่างไรบ้างอาการดีขึ้นไหมยังปวดหัวอยู่รึใหม่”
เมื่อหลิงหลิงตื่นขึ้นมาก็จำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้เเละได้บอกกับฮ่องเต่ว่า
“เกิดอะไรขึ้นเพคะ”
“ไม่เป็นไรเจ้าจำไม่ได้เเต่เจ้าไม่มีอาการอะไรอีกเเล้วใช่ไหมละ”
“เพคะ”
เมื่อหลิงหลิงพอที่จะลุกขค้นได้นางเดินไปที่ห้องครัวเเละเตรียมดอกไม้ธูปเทียนเเละเครื่องที่จะทำบุญเพื่อเตรียมไปที่สักใกล้ๆวัง
“นี่เจ้าจะไปไหนรึ”ฮ่องเต้ได้ถาม
“ข้าจะไปทำบุญเพคะให้เเก่หญิงคนนั้น”
เมื่อฮ่องเต้ได้ยินก็เลยกำลังจะพูดเเต่หลิงหลิงได้บอกเหตุการณ์เมื่อคืนไปว่าตนเองนั้นเหือบเอาชีวิตไม่รอดเเละได้ทราบเเละรู้เหตุผลว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นนับตั้งเเต่บัดนี้เป็นต้นไปที่นั่นก็จะไม่ใช่สิ่งที่เป็นอะไรเเล้วเมื่อสิ้นสุดคำพูดนางก็ค่อยๆเดินไปมี่ลานวัดเมื่อทำบุญเสร็จก็ได้สั่งทหารเอาไหวว่า
“เจ้าจงไปช่วยเก็บกวาดที่ท้ายตลาดเเห่งนั่นเเละช่วยนำศพคนที่ตายเเล้วไปที่วัดเพื้อทำการทางพิธีด้วย”
เหล่าทหารที่ยืนอยู่ก็ตอบรับเ้ละรีบไปทำตามหน้าที่ของตนเมื่อเสร็จธุระฮ่องเต้ก็เรียกสนมเสี่ยวหลานมาคุยเรื่องเมื่อวานเเละก็ถูกลงโทษถูกทอดยศตำเเหน่งจนได้รับผลไปตามกรรม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!