...สวัสดีฉันชื่อ “ฟาริน” อายุ19ปี เรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่2 คณะสังคมศาสตร์ ฉันถูกขนานนามจากเพื่อนว่า “เชอร์รี่” ที่มาก็มาจากตอนมัธยมต้น ตอนนั้นอายุ13เห็นจะได้
...
...6 ปีที่แล้ว
...
...โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ในต่างจังหวัด เป็นวันแรกที่ฟารินได้ย้ายโรงเรียนมาจาก กรุงเทพฯ
...
...ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2
...
...นักเรียนชายหญิงกำลังจับกลุ่มพูดคุย หลังจากถูกปล่อยแถวหน้าเสาธงเสร็จ แต่ในไม่ช้าเสียงทั้งหมดก็เงียบสงบลงเนื่องจากมีอาจารย์เดินเข้ามา พร้อมกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ดวงตาและสีผมดำเงางาม ผิวสองสีนวลเนียน
...
...“เอาล่ะวันนี้เราจะมีเพื่อนใหม่มาเรียนเพิ่มด้วย1คนนะคะ แนะนำตัวได้เลย” ครูหันมาส่งสายตาบอกเป็นสัญญาณหลังจากพูดจบ
...
...“สวัสดีเราชื่อ ฟาริน ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” ฉันพูดพร้อมส่งยิ้มแป้นออกไปด้วยความจริงใจ
...
...“เอาละฟารินเดี๋ยวหนูไปนั่งโต๊ะว่างข้างหน้าต่างนั้นนะ” ครูบอกพร้อมชี้นิ้วไปทางโต๊ะว่างติดกับหน้าต่าง
...
...“ค่ะ” ฉันรีบเดินเข้าไปนั่งทันที ในห้องเรียนนี้จะถูกจัโต๊ะแบบแยกเดี่ยวไม่มีครู
...
...“เฮ้~ ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กใหม่ เราชื่อต้น” เด็กผู้ชายร่างสมส่วนที่นั่งฝั่งทางโต๊ะด้านขวาเอยทักทายเสียงเบา
...
...“สวัสดีต้น”
...
...“สวัสดีนะเรา จุ๋ม” เด็กผู้หญิงตัวสูงทางโต๊ะหน้าหน้าเอนหลังเข้ามาทักทาย
...
...“สวัสดีจุ๋ม”
...
...หลังจากเวลนั้นพวกเราเริ่มเรียนไปจนทะทั่งถึเวลาพักเที่ยง
...
...ติ๊ง! ต๋อง!
...
...เสียงเตือนกริ่งโรงเรียนดังขึ้นเป็นสัญญาณพักกลางวัน
...
...“ปะไปกันเถอะ” ต้นยื่นขึ้นด้วยความไว
...
...“ไปกัน ฟารินไปกับพวกเราไหม” จุ๋มหันมาถาม
...
...“ไปด้วย” ฉันตอบ
...
...“งั้นไปกัน” ต้นตอบพร้อมยกขาสูงเตรียมเดินออกจากห้อง
...
...โรงอาหาร
...
...พวกเราสามคนเดินมาต่อแถวซื้ออาหารเสร็จ ก็เดินถือถาดอาหารมานั่งยังโต๊ะเก้าอี้ภายในโรงอาหาร
...
...“เออ! เราจะไปกดตู้น้ำอัดลมพวกเธอเอาไหม” ต้นเอยถาม
...
...“เอาสิ” จุ๋มยื่นเงินเหรียญให้ต้น
...
...“เธอไม่เอาหรอฟาริน” ต้นหันมาถามฉัน
...
...“ไม่อะเราไม่กินน้ำอัดลม” ฉันตอบพร้อมส่ายหน้าไปมา
...
...“ถึงว่าละหุ่นสวยเชียว เพราะไม่กินของพวกนี้เอง ไม่เหมือนพวกเรากินจนพุงป่องแล้ว” จุ๋มแซว
...
...“แกอยากหุ่นสวยเหมือฟารินไหมละ ก็เลิกดื่มน้ำอัดลมสิ”
...
...“ก็อยากหุ่นสวยนะ แต่ฉันคงลงแดงก่อน แกรีบเดินไปซื้อมาเลย” พูดจบต้นก็รีบเดินออกไป ไม่ตอนจุ๋มก็ลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว ทำเอาฉันตกใจหมดเลย
...
...“เป็นอะไรจุ๋ม ทำไมสีหน้าไม่ดีเลย”
...
...“ข้าศึกบุก” หลังจากนั้นจุ๋มก็วิ่งหน้าตั้งออกไปด้วยความเร็ว
...
...หลังจากนั้นฉันก็นั่งทานอาหารในถาดต่อไม่ได้คิดอะไร แต่เหมือนว่าวันนี้ดวงคงไม่ดีเท่าไหร่ จู่ๆก็มีฝาแฝดสองคนเดินเข้ามาทัก
...
...“เฮ้! ยัยหน้าสวย” แฝดคนหนึ่งพูดตะคอกจากทางด้านหลัง ด้วยความที่ฉันไม่ได้ใส่ใจตึกไม่รู้ว่าเขาหมายถึงฉัน
...
...“หูตึงหรือไง!” แฝดอีกคนตะโกนใส่ข้างหูจนฉันต้องรีบเอามือปิด ด้วยความแสบแก้วหู
...
...“อะไรของพวกเธอเนี่ย” ความหงุดหงิดของฉันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
...
...“ได้ข่าวว่าเป็นเด็กใหม่หรอ”
...
...“ใช่ค่ะพวกคุณมีอะไร ฉันจะทานข้าวไม่อยากเสียเวลาด้วย”
...
...“นี้แกไม่รู้หรือไงว่านี้ถิ่นใครอะ”
...
...“ทำไมคะ? ทำรอยฉี่ไว้ในโรงอาหารหรือไง!”
...
...“พี่ขา มันว่าพวกเราเป็นหมา” แฝดที่อยู่ข้างๆโวยวาย
...
...“แล้วเป็นหรือเปล่าคะ ถ้าไม่ได้เป็นก็อย่าร้อนตัว”
...
...“แก คิดว่าสวยแล้วจะพูดอะไรก็ได้หรอ”
...
...“เป็นคำด่าที่ขอบคุณมากเลยนะคะ” ฉันทำหน้ากวนพร้อมหันกลับไปทานอาหารต่อ
...
...“กล้าดียังไงเมินใส่พวกเรา!” พูดจบคนที่ดูเหมือนจะเป็นแฝดพี่ กดหน้าของฉันลงในถาดอาหารที่กำลังทานอยู่
...
...“!!!” ฉันดิ้นเงยหน้าขึ้นมา แม้ว่าจะมีข้าวติดที่ใบหน้าเเละผม ด้วยความโกรธแสดงออกจากใบหน้าทำให้พวกนั้นเหมือนจะกลัว คนในโรงอาหารต่างจับจ้องมาที่ฉัน
...
...“กะ... แก... แกหาเรื่องก่อนนะ”
...
...“ฉันนี้นะหาเรื่องก่อน ฉันให้พูดใหมอีกที” ถาดที่อยู่บนโต๊ะสองใบลอยไปขยี้บนหัวสองฝาแฝดพี่น้อง โดยฝีมือของฉันเอง ฟารินจะขยี้ให้แหลกเลย นึกหรอว่าฟารินคนนี้ไม่สู้คน
...
...“หยุดกันเดี๋ยวนี้นะยัยชะนี!”
...
...เสียงผู้ชายแตกสาวดังขึ้นมาพร้อมกำลังเดินดิ่งมาที่ฉัน
...
ส่วนสูงประมาณ 162เซนติเมตร ตัวผอมร่างบาง ผิวขาว หน้าสวยมาก ถ้าไม่เห็นว่าตัดผมสั้นและใส่ชุดนักเรียนชายฉันนึกว่า นางฟ้า! ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย ทุกอย่างมันตราตรึงใจไปหมดเหมือนโลกกำลังหยุดหมุนเลย
“ทะเลาะอะไรกันชะนี โรงเรียนก็โรงเรียนเดียวกัน กัดกันเป็นหมาตัวเมียแย่งหมาตัวผู้ไปได้!” เขายืนเท้าเอวสีหน้าท่าทางโมโหมาก
“ก็มันมาหาว่าพวกเราเป็นหมาก่อน”
“ใช่ พวกเราแค่กะว่าจะเดินมาทักทายเฉยๆเท่านั้นเอง” คู่ฝาแฝดโต้ขึ้นโดยโบ้ยความผิดมาให้ฉัน ความรู้สึกแบบอิหยังว่ะ!
“พวกเธอต่างหากที่มาหาเรื่อง มาถามฉันว่ารู้ไหมว่านี่ถิ่นใคร ฉันก็เลยถามไปเฉยๆเอง ว่าที่นี่มีรอยฉี่หรือไง”
“เห็นไหมๆ!! ดูมันพูดสิพี่เบติน”
“หยุดเลยยัยคู่แฝดชะนีนรก พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้จริงๆหรอว่าที่ผ่านๆมาก็ฝีมือพวกเธอ ที่เอาแต่ชอบหาเรื่องเด็กใหม่ ในฐานะที่ฉันเป็นรองประธานนักเรียน ขอสั่งให้พวกหล่อนหยุดพฤติกรรมอย่างนี้ได้แล้ว” ฝาแฝดที่ยืนฟังถึงกับหน้าเสียไปเลย แต่ก็สมน้ำหน้าแหละ
ฟุบ!
อยู่ขาก็หมดแรงไปเองจนตัวฉันล้มไปกองอยู่กับพื้น แถมปวดหัวมากๆด้วย โรงอาหารหมุนไปหมดเลย ภาพสุดท้ายที่จำได้อย่างเลือนลางคือพี่เบตินวิ่งดข้ามาประคองและเรียกฉัน
“ชะนีน้อย! เธอเป็นอะไรอย่าหลับนะ”
ห้องพยาบาล
เปลือกตาค่อยกะพริบลืมตาขึ้น มองสำรวจไปรอบๆด้วย ที่นี่คงจะเป็นห้องพยาบาลสินะ ว่าแล้วฉันก็ยกตัวขึ้นนั่ง
“แม่ชะนีน้อย ปวดหัวอยู่ไหม” พี่เบคอนเดินเข้ามาใกล้นั่งบนขอบเตียงข้างๆ
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ว่าแต่ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?”
“นี้เธอจำไม่ได้เลยหรอ”
“ค่ะ”
“ก็เธอนะทะเลาะกับพวกแฝดนรกอยู่ จู่ก็เป็นลมไปฉันจึงอุ้มเธอมานี้ รู้ไหมฉันตกใจแทบแย่เลยนะ”
“เป็นห่วงฟารินหรอคะ” จู่ๆฉันก็เผลยิ้มแก้มปริออกมาไม่รู้ตัว
“เปล่า! มันเป็นความรับผิดชอบของฉัน ถ้าเป็นอะไรไปฉันก็ถูกลงทันนะสิ”
“โห่ว~” ฉันถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง ไม่นานนิ้วชี้เรียวยาวของพี่เบติน ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีจิ้มมาที่หน้าผากของฉัน
“หลงตัวเองจริงๆยัยชะนีน้อย” เสียงหัวเราะออกมาจากในลำคออย่างเอ็นดูคนที่ หน้าบึ้งตึงตรงหน้า
รอยยิ้มเสียงหัวเราะเล็กไปมันถูกตราตรึงไปหมดเลย ตั้งแต่วันนั้นมาฉันพยายามทำทุกอย่างที่ให้พี่เขาสนใจ ทั้งสมัครเป็นนักบาสเกตบอลหญิง ขึ้นแสดงดนตรีบนเวทีตำแหน่งมือกีต้า เคยแม้กระทั่งตัดผมรองทรงให้ดูเหมือนผู้ชาย ชอบเดินไปหาเวลาพักเที่ยง แต่....
2 ปีผ่านไป
วันปัจฉิมนิเทศมัธยมศึกษาปีที่ 6และ3
เป็นวันที่สดใส่ คึกครื้น และเศร้าในเวลาเดียวกัน เพราะเป็นวันเรียนจบการศึกษา เป็นวันเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ฉันตั้งใจจะสารภาพรักวันนี้เพราะวันข้างหน้าเราไม่รู้ว่า จะเป็นอย่างไร ในอนาคตจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า เพราะฉะนั้นฉันจะบอกไปดีกว่าปล่อยให้ติดค้างไปตลอด
พี่เบตินเป็นรองประธานนักเรียนมาถึง2ปีซ่อน เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่จะมีคนรักมากมาย ฉันเดินถือช่อดอกไม้สีแดงสด ในช่อมีจำนวน9ดอก ความหมายของมันคือ ความอันลุ่มหลงและร้อนแรงที่ฉันมีให้พี่เขา หวังว่าเราจะได้เดินก้าวหน้าไปด้วยกัน
"ฟารินแกแน่ใจแล้วหรอ" ต้นรีบเข้ามาจับแขนหยุดฉันไว้ก่อน
"นั่นสิ แกรู้ใช้ไหมว่าแบบนี้แกมีโอกาสที่จะออกหัก 99.99%เลยนะ" ฉันรับรู้ได้ถึง น้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจังของจุ๋ม
พวกเขาคงเป็นห่วงแหละ แต่ฉันไม่สนหรอกยังไงวันนี้ก็จะบอกให้ได้ "ฉันแข็งแกร่งจะตาย ไม่ว่าจะคำตอบแบบไหนฉันก็จะรับไว้เอง"
จุ๋มตบบ่าของฉันเบา "ถ้างั้นฉันขอให้แกโชคดีกับคำตอบ"
"อืม!" ฉันกำหมัดแน่นไว้ที่หน้าอก แล้วรีบซอยเท้าถี่ไปหาพี่เบติน
"พี่เบติน ฟารินดีใจกับพี่ด้วยนะที่จบการศึกษาม.6แล้ว" คำยินดีและดอกไม้สีแดงสดถูกยื่นออกไป เจ้าตัวรีบรับช่อดอกไม้
"ขอบใจนะ แม่ชะนีน้อย" รอยยิ้มเบิกกว้างจนคนตรงข้ามยิ้มตามเป็นแถบๆ
"พี่เบติน"
"ว่าไง มีอะไรอีกหรือเปล่า"
ถึงแม้ว่าจะเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาเอาเข้าจริงๆกลับรู้สึกตื่นเต้นสุดๆเลย
"ไม่สบายหรอชะนีน้อย ทำไมเหงื่อตกแบบนี้" เบตินแตะหลังมือมาที่หน้าผากของฟาริน ความตื่นเต้นทำให้อุณหภูมิร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว "ตายจริง! ร้อนจี๋เลย!"
"คือว่าฟารินชอบพี่เบตินค่ะ!" ฉันหลับตาตะโกนออกไปสุดเสียง นักเรียนคนอื่นที่อยู่ในงานถึงกับเงียบและยืนอึ้งเป็นแถว ทุกสายตาจับจ้องมองมายัง เบตินและฟาริน
แต่ไม่นานนะเริ่มมีเสียงกลุ่มผู้ชายซุบซิบนินทาขึ้น
"โห~ อะไรว่าน่าเสียดายหว่ะ สวยๆอย่างฟารินไปชอบไอกะเทยนั้นได้ไง"
"เดี๋ยวนี้เขานิยมกันแบบนี้หรอวะ"
"ตายแหละผู้ชายดีๆไม่มีหรือไง ถึงได้ไปกินจำพวกเดียวกัน"
"ผู้หญิงนี้ก็นะ หน้าตาก็ดีแต่จิตวิปริตไปแล้ว"
โห!!! ไอเจ้าพวกนี้นี่มันจงใจพูดให้ได้ยินชัด ปากหมาไม่รับประทานจริงๆ อุณหภูมิในร่างกายเริ่มระอุขึ้นอีกครั้ง ด้วยความโมโห มันทำให้ฉันอยากจะหันหลังไปด่าไอพวกนั้น แต่ไม่ได้ไงฉันกำลังรอคำตอบอยู่
"ไม่! ชอบ! ชะ! นี!"
พี่เขาตอบกลับมาเสียงดังพร้อมกับรีบหันหลังวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที เหลือเพียงฉันที่ยืนมองคนที่แอบชอบวิ่งจากไป แม้จะมีเสียงหัวเราะมากมายขบขันใส่ แต่ก็เหมือนราวกับว่าหูอื้อไป
"นี่ล่ะนะฟารินเอ๋ย" ฉันถูกตบไหล่โดนใครสักคนหรือสองคนก็ไม่แน่ใจ ต้นและจุ๋มรีบวิ่งเข้ามาพาฉันเดินออกมาจากก น้ำตาที่ไหลออกอาบแก้มแบบไม่รู้ตัว
"ฉันพยายามไปเพื่ออะไรกันนะ" ใช่แล้วที่ผ่านมาพยามไปทำไมกันนะ
"อย่าคิดมากเลย ยังไงฉันกับไอต้นก็ยังอยู่กับแกนะ"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!