NovelToon NovelToon

รักนะ..ยายจอมแก่น

แรกเจอ

ณ.มหาวิทยาลัยแห่งหนื่งใจกลางกรุงเทพ

“แคท..มายด์..ทางนี้” มีเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง

แคทกับมายด์หันกลับไปมองก็เห็นปรางยืนโบกมือเรียกอยู่ไม่ไกล แคทกับมายด์ยกมือตอบแล้วเดินเข้าไปหา

“มานานแล้วเหรอ” มายด์ถาม

” สักพักแล้วจ้า…แล้วทำไมมาช้าจังล่ะ” ปรางถาม

“รถติดมากกกก..” แคทพูด

” กรุงเทพก็อย่างนี้แหละ…แถมวันนี้มหาลัยเปิดวันแรกด้วย มาอยู่ตั้งหลายวันแล้วยังไม่ชินอีกเหรอ” ปรางบอก

แคททำหน้าย่นแล้วส่ายหัว มายด์กับปรางก็เลยขำ

แคท มายด์และปรางบังเอิญเจอกันที่โรงเรียนกวดวิชานิสัยคล้ายกันก็เลยทำให้สนิทกันมาก

แคทกับมายด์มาจากโรงเรียนเดียวกัน พ่อแม่ของทั้งคู่รู้จักกัน

พ่อของมายด์เป็นเกษตรอำเภอส่วนแม่เป็นแม่บ้าน ฐานะปานกลาง มายด์มีน้องอยู่หนึ่งคนเป็นผู้ชายเรียนอยู่โรงเรียนประจำจังหวัด มายด์เป็นคนรูปร่างสมส่วน สูง165ซม. นน.54กก.ผิวสีน้ำผึ้งออน่ ไว้ผมยาวถึงกลางหลังชอบปล่อยผมสยาย ผมตรงดำเป็นเงา เป็นคนตรงพูดน้อยหน้าตาน่ารัก

ส่วนแคท พ่อเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำอยู่ที่โรงเรียนที่น้องของมายด์เรียนอยู่ส่วนแม่เป็นแม่บ้านเหมือนกัน ฐานะทางบ้านก็ปานกลาง แคทมีน้องชายหนึ่งคนเหมือนมายด์แต่น้องของแคทโตกว่าน้องของมายด์ ตอนนี้น้องของแคทได้ทุนไปเรียนอยู่ที่สิงคโปร์ แคทเป็นคนหุ่นนางแบบเลยคือสูง170ซม.นน.52กก.ผิวขาวออกเหลือง ไว้ผมยาวประมาณกลางหลังผมแคทจะหยักเป็นลอนดูมีน้ำหนักแต่ไม่เคยปล่อยผมเลย แคทจะม้วนผมและใช้ปิ่นปักไว้เสมอจึงไม่มีใครรู้ว่าผมเธอยาวแค่ไหนนอกจากมายด์ แคทเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดี หน้าตาสวยคมโดยเฉพาะตา ตาแคทจะคมมากแต่บางครั้งก็น่ากลัวสำหรับปราง

พ่อของปรางเป็นนักธุรกิจมีบริษัทเป็นของตัวเองส่วนแม่อยู่บ้านเฉยๆ ฐานะทางบ้านถือว่าร่ำรวยทีเดียว ปรางมีพี่ชายหนึ่งคนอายุ30ปีแล้วตอนนี้ทำงานแทนพ่ออยู่ที่บริษัท ปรางเป็นคนรูปร่างสมส่วนเหมือนกับมายด์ สูง165ซม.นน.52กก.ผิวขาวมากจนเห็นเส้นเลือด ไว้ผมยาวประบ่าผมสีน้ำตาลชอบปล่อยผมเหมือนมายด์ปรางจะเป็นคนพูดเก่ง ยิ้มง่ายและใจเย็น

เปิดเทอมวันแรกคนเยอะมากในมหาลัย แคท มายด์และปรางสอบติดคณะเดียวกันคือเลขานุการเอกภาษาต่างประเทศ แคทเก่งภาษาอยู่แล้ว

เพราะพ่อส่งให้เธอไปเรียนภาษาตั้งแต่ตอนปิดเทอมม.ต้น แต่ส าหรับมายด์กับปรางถือว่าพอใช้ได้ที่เลือกมาสอบคณะนี้ก็เพราะไม่อยากจากเพื่อน

สามสาวยืนมองไปรอบๆ ก่อนที่ปรางจะบอกว่า

” ไปที่ตึกคณะกันดีกว่า” แคทกับมายด์พยักหน้าเห็นด้วย

ทั้งสามคนเลยเดินมุ่งหน้าไปทางตึกด้านใน

ในที่สุดก็เดินมาถึงตึกคณะบริหารธุรกิจ ด้านหน้าตึกมีรุ่นพี่แต่ละแผนกเอาป้ายมาปักไว้ให้น้องปีหนึ่งของแต่ละแผนกได้ไปเข้าแถวเพื่อรายงานตัว

พอสามสาวเดินเข้าไปทุกคนก็หันมามองเป็นตาเดียวกันเลย เพราะว่าแคทเด่นกว่าคนอื่น อาจจะด้วยความสูงและก็หน้าตาของเธอ ก็บอกแล้วว่าหุ่นนางแบบ

“เขามองอะไรกันล่ะ?” แคทหันมาถามเพื่อน

” ก็มองเธอนั่นแหละ” ปรางพูดพร้อมกับยิ้ม

” ทำไมอ่ะมันมีอะไรผิดปกติหรือไง?” แคทพูดพร้อมกับทำหน้าแปลกๆ

” เขามองคนสวยไง…หึหึ” มายด์พูดบ้าง

” ใครสวย? ตกลงเขามองมายด์กับปรางใช่มั้ย” แคทพูดพร้อมกับมองไปที่เพื่อน

” มองเธอนั่นแหละ” คราวนี้มายด์กับปรางพูดพร้อมกันและก็หัวเราะ

แคทชี้มือมาที่ตัวเองแล้วยิ้มน้อยๆ พร้อมกับเดินนำไปนั่งหน้าป้ายแผนก

แคทไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนสวยไม่ว่าจะมีใครพูดก็ตาม

ในที่สุดก็ผ่านการรับน้องมาจนถึงตอนเย็น ปรางมีคนมารับกลับบ้านส่วนแคทกับมายด์กลับด้วยกันเพราะอยู่ด้วยกัน ทั้งคู่พักอยู่ที่บ้านของป้ามายด์

ป้าของมายด์ชื่อป้ามล ป้ามลไม่ได้แต่งงานเลยพักอยู่คนเดียว ป้ามลทำงานธนาคารถือว่าสบายเลยทีเดียวที่บ้านป้ามลอยู่กันทั้งหมด3คนมีป้ามล น้าสมกับน้าสี

น้าสมกับน้าสีเป็นคนที่ป้ามลจ้างให้มาช่วยทำงานบ้าน

บ้านป้ามลเป็นบ้านสองชั้นมีสนามหญ้า มีสระว่ายน้ำมีรั้วโดยรอบ

“กลับมากันแล้วเหรอลูก” ป้ามลถามทันทีที่เห็นแคทกับมายด์

“เป็นไงบ้างลูก..เปิดเทอมวันแรก” ป้ามลถาม

” สนุกค่ะ..แต่ก็เหนื่อย” มายด์บอก

” แล้วแคทล่ะลูก…เป็นไงบ้าง” ป้ามลหันไปที่แคท

” วุ่นวายมากกว่าค่ะ” แคทพูดแล้วก็นั่งลงที่โซฟา

” แคทได้เป็นดาวคณะด้วยล่ะค่ะ..ป้า” มายด์บอก

ป้ามลเดินมาลูบหัวแคท

” ก็บอกแล้วว่าหลานป้าสวย” ป้ามลพูด

” ไม่สวยสักหน่อย..มายด์กับปรางสวยกว่าอีก…แคทไม่อยากเป็นเลยค่ะ” แคทบอกพูดจบก็ทำหน้าแบบขัดใจมาก

ป้ามลหัวเราะออกมาเพราะเอ็นดู

” ไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกัน” ป้ามลพูด

” ค่ะ” แคทกับมายด์พูดพร้อมกัน

ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วสำหรับชีวิตการเรียนในมหาลัย

เย็นวันนี้จะมีประชุมกันในคณะเรื่องกีฬาของมหาลัยที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

ผลการประชุมออกมาว่าแคท มายด์และปรางต้องเป็นดรัมเมเยอร์ของคณะ ซึ่งจะต้องมีซ้อมกันในตอนเย็นของทุกวัน

” โอ้ย! ทำไมต้องเป็นพวกเราล่ะนี่” แคทบ่น

” เพราะเธอเป็นดาวคณะไงล่ะ…ทำให้ช้ันกับมายด์เลยโดนไปด้วย” ปรางพูดแบบยิ้้มๆ พลางมองแคทที่ทำท่าเหมือนอยากหายตัวได้

” จะโวยวายทำไม? ยายแคท….ตอนอยู่รร.เก่าก็เคยเป็นนะ” มายด์พูดบ้าง

” แต่นี่มันมหาลัยนะ..ถ้าพลาดไปได้อายทั้งคณะแน่” แคทพูดพลางเกาหัว

” น่าสนุกดีออกนะ..ดีที่เราเป็นด้วยกัน” ปรางพูด

” แล้วเขาจะเริ่มซ้อมกันเมื่อไรล่ะ” แคทหันไปถาม

” เห็นว่า..เดี๋ยวพี่ๆ จะบอกอีกทีอ่ะ” ปรางตอบ

” ป่ ะ…กลับบ้านกันเถอะ” แคทพูด

วันจันทร์ถัดมาตอนเช้า

” เย็นนี้จะเริ่มซ้อมกีฬาและซ้อมหลีดกับดรัมนะคับ…น้องๆ ที่เป็นนักกีฬา เป็นหลีดและเป็นดรัมเย็นนี้เจอกันที่โรงยิมใหญ่ตอน5โมงเย็นนะคับ” เสียงของรุ่นพี่ที่เป็นประธานคณะพูดผ่านไมโครโฟน ประธานคณะเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเรียนเอกคอมเคยเป็นเดือนของคณะเมื่อปีที่แล้วชื่อ ศิวา

ตกเย็นในโรงยิมก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมาก ทั้งนักกีฬา ทั้งหลีดและพวกดรัมเพราะต้องประชุมกันก่อนแยกย้ายไปซ้อมตามที่ต่างๆ

พอประชุมเสร็จในโรงยิมก็เหลือแค่พวกหลีด กับดรัมและนักกีฬาวอลเล่ย์บอลกับบาสเกตบอลเท่านั้น

” แคท..ชั้นว่าพี่ศิวามองแกบ่อยๆ นะ” ปรางพูด

” ไม่หรอกมั้ง..พี่เขาก็มองไปทั่วๆ แหละเขาเป็นประธานก็ต้องดูแลทุกคนนะ” แคทหันไปมอง

” แต่..ชั้นว่าปรางพูดถูกนะ” มายด์พูดบ้าง

” ชั้นเห็นเขามองมาทางแกอย่างบ่อย เวลาแกเผลออ่ะ” ปรางบอก

” ซ้อมต่อเถอะ” แคทพูด เธอรู้สึกเฉยๆ

หลังจากซ้อมเสร็จแล้ว สามสาวเปลี่ยนชุดแล้วและกำลังจะเดินออกจากโรงยิม

” น้องแคทคับ..” มีเสียงเรียกมาจากข้างหลังสามสาวหันกลับไปมองพร้อมกัน ศิวานั่นเอง เขากำลังวิ่งเข้ามาหา

ปรางกับมายด์หันไปมองหน้าแคท

” ค่ะพี่” แคทตอบ

” มีอะไรคะ..พี่ศิวา” แคทถาม เมื่อศิวามาถึง

” พี่จะบอกว่า…พรุ่งนี้ตอนพักกลางวันเขานัดประชุมดาวและเดือนปีนี้นะ” ศิวาบอก

“ที่ไหนคะ” แคทถาม

” ที่หอประชุมกลางคับ” ศิวาพูด

” ตรงไหนเหรอคะ..พอดีแคทยังไม่ค่อยได้ทำความคุ้นเคยกับมหาลัยสักเท่าไรค่ะ” แคทพูดพร้อมกับหันมาทางปรางกับมายด์ซึ่งก็ส่ายหน้าทั้งคู่

” งั้น…พรุ่งนี้ไปพร้อมกับพี่ก็ได้เพราะยังไงพี่ก็ต้องไปอยู่แล้ว” ศิวาพูด

แคทหันไปมองหน้าเพื่อน

” ก็ได้ค่ะ” แคทพูด

” งั้นพรุ่งนี้…พี่จะคอยอยู่ที่หน้าคณะนะคับ” ศิวาบอก

“ค่ะ..พี่” แคทตอบ

” โอเค..กลับบ้านกันดีๆ นะคับ” ศิวาพูด

“ค่ะ..ขอบคุณนะคะ” แคทพูด

แล้วศิวาก็หันหลังเดินกลับไป

วันรุ่งขึ้นตอนพักกลางวันแคท มายด์และปรางก็เดินออกมาที่หน้าคณะก็เห็นว่าศิวามารออยู่แล้ว

” ขอโทษนะคะที่ต้องให้รอ…พอดีอาจารย์ปล่อยช้าค่ะ” แคทบอกกับศิวา

” ไม่เป็นไรคับ พี่ก็เพิ่งมา” ศิวาพูด

“ปรางกับมายด์ไปดูด้วยได้มั้ยคะ” ปรางถาม

” ได้สิคับ” ศิวาพูดยิ้มๆ

ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าสามสาวนี้ตัวติดกันอย่างกับอะไรดี พูดจบศิวาก็เดินนำสาวๆ ไปยังหอประชุมกลาง

การซ้อมดรัมผ่านมาได้ 1อาทิตย์แล้ว ตอนนี้คนที่อยู่ซ้อมในโรงยิมต่างก็พูดกันไปว่าศิวากำลังตามจีบดาวคณะอยู่

” แคท…ชั้นว่าพี่ศิวาเขาจีบแกแน่ๆ เลยว่ะ” ปรางพูด

” ชั้นก็ว่าใช่” มายด์ช่วยพูด

แคททำหน้าเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลย

” แก..ไม่สนใจพี่เขาบ้างเหรอ” ปรางถาม

“ไม่ล่ะ” แคทตอบแล้วส่ายหัว

” ทำไมล่ะ…พี่เขาก็หล่อ นิสัยก็ดีนะ” ปรางพูด

” ถ้าแกชอบก็เอาไปดิ…ให้” แคทพูดหน้าตาเฉย

” ยายบ้า…ชั้นแค่อยากรู้” ปรางว่า

“ก็มันไม่ใช่…จะให้ชอบได้ไงล่ะ” แคทตอบ

” แล้วแกจะเอาไงล่ะ” ปรางพูดต่อ

” ก็ไม่เอาไงหรอก…ปล่อยไปงั้นแหละพี่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเดี๋ยวนานไปเขาก็รู้เอง” แคทบอกกับปราง

ส่วนมายด์ไม่พูดอะไรเพราะรู้นิสัยแคทดี เธอคบกันมานาน

หลังซ้อมเสร็จแล้วระหว่างกำลังเดินออกจากโรงยิม

” วันนี้กลับกับชั้นนะแคท มายด์” ปรางพูด

” วันนี้พี่ชายชั้นมารับนะ” ปรางพูดต่อ

” พี่ที่ว่าไปดูงานที่อเมริกาอ่ะนะ กลับมาแล้วเหรอ” แคทถาม

” ใช่…กลับมาได้หลายวันแล้วจะได้แนะนำให้รู้จักกัน” ปรางพูด

” จะไม่รบกวนพี่เขาเหรอ…ที่ต้องไปส่ง” มายด์พูด

” ไม่หรอก…ต่อไปนี้พี่เขาต้องไปรับไปส่งชั้นทุกวันตามคำสั่งของแม่น่ะ” ปรางพูดไปขำไป

” งั้นก็ได้…” แคทเป็นคนสรุปเพราะนี่ก็มืดแล้ว

“แคทคับ”

พอเดินมาได้อีกหน่อยก็มีเสียงเรียกแคทดังมาจากด้านข้าง ทุกคนหันไปมองศิวานั่นเอง

“มีอะไรคะพี่ศิวา” แคทถาม

” พี่มีเรื่องจะคุยกับแคทหน่อยคับ” ศิวาพูด

แคทหันไปมองหน้าเพื่อน

” มายด์กับปรางไปก่อนนะ..เดี๋ยวเราตามไป” แคทบอก มายด์ดึงมือปรางให้เดินออกไป

“ปล่อยให้อยู่กับพี่ศิวาอย่างนั้นจะดีเหรอ” ปรางพูดเพราะห่วงแคท

” ไม่ต้องห่วงแคทมันหรอกน่า…ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก” มายด์พูดแล้วยิ้ม

” ทำไมล่ะ…แคทเป็นผู้หญิงนะถ้าพี่ศิวาทำอะไรขึ้นมาจะทำไง” ปรางพูดไปหันหลังไป คราวนี้มายด์ถึงกับขำออกมา

” ปรางยังไม่รู้อะไร….แคทน่ะเป็นทั้งยูโด เทควันโดและมวยไทยเลยนะ ถ้าพี่ศิวาจะทำอะไรจริงๆ ชั้นว่ายังไม่รู้เลยว่าใครจะเจ็บ555” มายด์บอก

พอปรางได้ยินก็หันไปมองหน้ามายด์ทันที” จริงอ่ะ” ปรางถาม มายด์พยักหน้า

” แคทแอบพ่อเรียนตอนอยู่ม.ต้น ตอนนั้นไปอยู่กับป้า ไม่มีใครรู้จนกระทั่งได้รับเลือกให้ไปแข่งในระดับภาค” มายด์เดินเล่าไปเรื่อยๆ

” พอป้ากับพ่อรู้ลมแทบจับ ไม่ใช่แค่นั้นนะยังไปเรียนยิงปืนทั้งแบบเป้านิ่งและเป้าบิน แถมลงแข่งได้เหรียญทองระดับภาคด้วย”

ปรางฟังไปแบบอึ้งๆ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าแคทที่ดูบอบบางจะเป็นนักกีฬาประเภทนี้ ้” แคทเล่นกีฬาเก่งหลายอย่างนะทั้งวอลเล่ย์บอล บาสเกตบอลเป็นนักกีฬาของรร.เลย"มายด์พูด

"แล้วทำไมปรางถึงไม่เคยเห็นแคทเล่นกีฬาอะไรเลยล่ะมายด์?” ปรางหันมาถามมายด์เพราะสงสัย  มายด์มีสีหน้าเศร้าลง

” เกิดอุบัติเหตุขึ้นตอนอยู่ม.5ช่วงปิดเทอมพอดี แคทไปตลาดกับพ่อและแม่ พอดีมันเห็นเด็กเล่นลูกบอลแล้วบอลมันกลิ้งไปที่ถนน เด็กคนนั้นวิ่งตามบอลไปกลางถนน” มายด์หยุดพูด

“แล้วเกิดอะไรขึ้น” ปรางรีบถาม

” แคทเห็นว่ามีรถกะบะวิ่งมาพอดี และกำลังจะชนเด็กก็เลยวิ่งไปอุ้มเด็กหลบแต่ตัวเองถูกรถชนเต็มๆ เลย” มายด์เล่า

“แล้วไงอีก” ปรางเร่ง

” แคทนอนอยู่ไอซียูนาน2อาทิตย์หมอบอกว่ากระดูกข้อมือ ข้อเท้าหัก แขนก็หักตั้งแต่หัวไหล่ลงมา พอแคทฟื้นหมอก็บอกว่าไม่สมควรจะเล่นกีฬาอีก พอแคทหายดีพ่อก็เลยขอให้เลิกเล่นแคทสงสารพ่อ เลยรับปากพ่อว่าจะไม่เล่นกีฬาหรือทำอะไรที่จะมีผลต่อแขนขาอีก” มายด์พูดจบ  ปรางอ้าปากค้างเพราะตกใจ

” อ้าว! แล้วตอนนี้แคทยังจะทำอะไรใครได้ล่ะ” ปรางพูด

“แคทดื้อจะตาย แขนกับขากลับมาใช้งานได้แล้วเพียงแต่ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วก็ต้องไม่ให้พ่อรู้อย่างเด็ดขาด แคทไม่อยากให้พ่อห่วงมาก เป็นไงทีนี้หายห่วงได้หรือยัง” มายด์พูด

” ถึงว่าทำไมพ่อถึงได้ห่วงแคทมาก” ปรางพูด

” แต่ก่อนแคทเป็นคนใจร้อน วู่วามพ่อก็เลยส่งไปฝึกสมาธิกับป้าจะได้เป็นคนใจเย็นขึ้น แต่เชื่อมั้ยพอแคทกลับมาพ่อกลับบอกว่าคิดผิด”มายด์พูด

“ยังไงล่ะ” ปรางถามอีก

” ก็แคทกลายป็นคนเข้าถึงยาก ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาแต่กลับอ่านความคิดคนอื่นได้แบบทะลุปรุโป่รงอ่ะดิ พ่อบอกว่ายิ่งน่ากลัวกว่าเก่าอีก” มายด์บอก

“เออ..ใช่อันนี้เห็นด้วยกับพ่อเลย บางครั้งชั้นยังกลัวเลยเพราะไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่” ปรางพูดบ้าง

สองสาวเดินคุยกันมาจนกระทั่งเห็นรถเก๋งจอดเรียงกันอยู่ 3 คัน

“พี่ปรินทางนี้ค่ะ” ปรางเรียก

ปรินหันมาเมื่อได้ยินเสียงเรียก ปรินเป็นหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเหมือนปรางหน้าตาคมเข้มหล่อเหลา ปรินสูง185ซม. เขาเดินเข้ามาหาปรางแล้วเอามือลูบหัว

” มานานแล้วเหรอคะ แล้วทำไมพี่ชยากับพี่เอกถึงมาด้วยล่ะคะ” ปรางทักพี่ชายแล้วถามไปถึงผู้ชายอีกสองคนที่ยืนคุยกับปรินอยู่

” หวัดดีคับน้องปราง” ชยากับเอกทักทายปราง

ชยากับเอกเป็นเพื่อนสนิทของปรินทำงานอยู่ที่บริษัทของพ่อปรินนั่นแหละ ชยาและเอกตัวเตี้ยกว่าปรินนิดหน่อย ผิวขาวทั้งคู่ หน้าตาหล่อพอใช้ได้

” สวัสดีค่ะพี่ชยา พี่เอก” ปรางหันไปยกมือไหว้

” อ้าว! .....ลืมแนะนำไปเลยนี่เพื่อนสนิทปรางค่ะ ชื่อมายด์ …มายด์นี่พี่ปรินพี่ชายเราและนี่พี่ชยากับพี่เอกเพื่อนสนิทของพี่ปริน” ปรางบอก

“สวัสดีค่ะพี่ปริน พี่ชยา พี่เอก” มายด์ยกมือไหว้ทั้งสามคน

” สวัสดีคับน้องมายด์” ปริน ชยาและเอกยกมือรับไหว้

“เพื่อนน้องปรางน่ารักนะคับ สงสัยพี่ต้องมารับน้องปรางเป็นเพื่อนเจ้าปรินบ่อยๆ แล้ว” เอกพูดขึ้นมาทันที

” น้อยๆ หน่อยเพื่อน เก็บอาการบ้าง” ชยาพูด

” ถ้าจะจีบเพื่อนปรางก็ต้องผ่านปรางก่อนนะคะพี่เอก” ปรางพูดแล้วก็ขำ  ส่วนมายด์ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาอะไร

“แล้วจะกลับกันได้หรือยังเรา” ปรินหันไปถามปราง

” เดี๋ยวค่ะ พี่ปรินรอเพื่อนปรางอีกคนก่อนแล้วพี่ต้องไปส่งเพื่อนปรางด้วยนะคะ”ปรางบอก

” ได้สิ ไม่มีปัญหาแล้วเพื่อนเราอีกคนล่ะอยู่ไหน?” ปรินถามพลางหันมอง

ปรางกับมายด์หันกลับไปมองทางที่เพิ่งเดินมาแล้วก็เห็นเงาคนสองคนกำลังเดินมา

“แคท..ทางนี้” ปรางตะโกนบอกเพื่อน

แคทหันมาแล้วหันกลับไปพูดกับคนที่เดินมาด้วยกัน

” แคทไปก่อนนะคะ พี่ศิวา” แคทบอก

“คับแคท” ศิวาพูดแล้วมองดูแคทเดินไปหาเพื่อน

“ขอโทษนะปรางที่ทำให้รอ” แคทรีบเดินมาหาปรางทันที

” ไม่เป็นไร เออ! นี่พี่ปรินพี่ชายเราและก็พี่ชยากับพี่เอกเพื่อนพี่ปรินน่ะ” ปรางแนะนำ

“สวัสดีค่ะพี่ๆ ขอโทษนะคะที่ทำให้รอค่ะ” แคทยกมือไหว้พร้อมกับก้มหัวเพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนต้องรอ

ปริน เอกและชยายกมือรับไหว้ พอแคทเงยหน้าขึ้นมาสามหนุ่มถึงกับอึ้งไปเลย แต่ที่อึ้งมากก็คือปริน ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นคนสวย เขาเห็นมามากทั้งไทยและต่างชาติแต่กับคนตรงหน้ามันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ผู้หญิงคนนี้มีดวงตาที่สวย กลมโต และคมมากๆ จมูกโด่งเป็นสันจนเหมือนลูกครึ่งมากกว่าคนไทยแท้ๆ ปากเป็นกระจับสวยได้รูปสีชมพูธรรมชาติ คิ้วเข้มสีดำ ผมสีน้ำตาลธรรมชาติถูกขมวดไว้กลางหัวอย่างดี ที่ตอนนี้หลุดลงมาห้อยอยู่ข้างๆ หน้าแต่ก็ทำให้น่ามองมากขึ้น เธอสูงกว่าปรางกับมายด์จนเกือบจะเท่ากับเขา ผิวเธอขาวขนาดที่ตอนนี้มืดแล้วยังมองออกว่าเธอขาวมาก หุ่นเหมือนนางแบบในนิตยสารที่เขาเคยดู

แต่ปรินชอบดวงตาของเธอมากที่สุด เป็นดวงตาที่มองดูว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ และน่าจะดุมากถ้ามองเฉยๆ แต่เขากลับรู้สึกว่ามันน่าค้นหาอย่างมาก

ปรินบอกกับตัวเองเลยว่าเธอคนนี้แหละใช่คนที่เขารอมาตลอดจนป่านนี้

แคทเมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นปรินมองอยู่ เธอไม่ได้คิดอะไรกับสายตาที่เขามองมา เพราะปรางเคยบอกว่าปรินมีนิสัยคล้ายกับแคทหลายอย่าง เขามีผู้หญิงมาชอบและติดพันหลายคนแต่ปรินก็ไม่เคยสนใจใครสักคนและอยู่เป็นโสดมาจนอายุ30ปีแล้ว เขาเป็นคนตัวสูงมากน่าจะ180กว่าๆ รูปร่างกำยำ แข็งแรงแบบคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ น่าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี คิ้วหนาเข้ม ตาคม จมูกโด่ง ผิวขาวเหมือนกับปราง รวมๆ แล้วเป็นผู้ชายที่หล่อมากสมแล้วที่จะมีผู้หญิงแย่งกันจีบมากมาย

แคทอ่านนิสัยของเขาผ่านทางหน้าตาว่า น่าจะเป็นคนยิ้มยาก ใจเย็น สุขุมรอบคอบสมกับที่เป็นประธานบริษัทที่จะต้องควบคุมคนจำนวนมาก

“ไป กลับกันได้แล้ว” ปรินบอก หลังจากที่เห็นแคทมองมาที่เขา

” งั้นพรุ่งนี้เจอกันเพื่อน” เอกพูดแล้วเดินไปขึ้นรถ

” กลับก่อนนะเพื่อน กลับก่อนนะน้องปราง” ชยาพูดกับปรินแล้วก็หันไปพูดกับปราง

” ค่ะ พี่ชยาขับรถดีๆ นะคะ” ปรางพูดกับชยา

ปรินเดินไปขึ้นรถปรางเดินไปนั่งข้างหน้า แคทนั่งข้างหลังคนขับส่วนมายด์นั่งข้างหลังปราง พอรถเคลื่อนออกปรางก็หันมาที่แคททันที

” พี่ศิวาเขาคุยอะไรกับแคทล่ะ” ปรางถาม

” ไม่มีอะไรนี่” แคทบอก

“เป็นไปไม่ได้ ต้องมีอะไรแน่ๆ หรือพี่เขาสารภาพรัก” ปรางถามตรงๆ

ปรินที่ขับรถอยู่มองผ่านกระจกหลังเห็นแคททำหน้าเฉยๆ เหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร มันก็ไม่แปลกหรอกที่จะมีคนมาสารภาพรักก็สวยน่ารักขนาดนี้

” ว่าไงจ๊ะ ยายแคท บอกมาเดี๋ยวนี้เลย” ปรางชักเริ่มหงุดหงิดก็คนถูกถามเฉยจนรำคาญ

” ตามนั้นแหละ” แคทตอบแบบขอไปที

“จริงๆ อ่ะ” มายด์หันมาทันที

” แล้วแกว่าไง…ตกลงมั้ย” ปรางรีบพูด

ปรินเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าสาวที่เขามองว่าสวยจะมีแฟนหรือยัง

” ไม่..” แคทตอบพลางส่ายหัว

ปรินยิ้มมุมปากนิดๆ

” หมายความว่าไง ไม่” ปรางถามต่อ

“ก็ไม่ตกลงไงจ๊ะ” แคทพูดหน้าตาปกติมาก

” แล้วพี่ศิวา เขาว่าไงบ้างล่ะ” มายด์ถามบ้าง

” เขาก็ถามว่ามีแฟนแล้วเหรอ ก็บอกเขาว่ายังไม่มี เขาเลยบอกว่างั้นเขาก็จะไม่ยอมแพ้หรอกนะ เขาจะจีบต่อไป” แคทพูด เธอมองไปนอกรถ พลางถอนหายใจ สายตาของเธอว่างเปล่า

ปรินแอบมองท่าทางของแคทเขาต้องยอมรับว่ามองไม่ออกว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจและรู้สึกยังไง

“โอ้โห! สุดยอดเลยอ่ะ พี่ศิวาเนี่ยใจใช้ได้เลย” ปรางพูดแล้วก็หัวเราะ

มายด์เอาแต่อมยิ้มแล้วก็มองหน้าแคท มายด์รู้ดีว่าถ้าแคทบอกว่า “ไม่” ก็คือ” ไม่” ต่อให้ทำอะไรมากแค่ไหนก็เปลี่ยนใจเพื่อนไม่ได้แน่นอน นี่แหละนิสัยแคทล่ะ

/////////////////////////

ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ

ส่งคำติชมมาได้นะคะ

ถ้าชอบฝากติดตามจนจบด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ความลับ

ผ่านมาได้3อาทิตย์แล้วกับการซ้อมดรัม ปรินมารับปรางกลับบ้านในตอนเย็นทุกวันโดยมีเพื่อนเขามาด้วยและมักจะมาพูดคุยกับแคทและมายด์ทุกวัน ทำให้ทุกคนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น

ชยามองก็รู้ว่าชอบปรางแน่นอน ส่วนเอกก็เหมือนจะมาจีบมายด์ ส่วนปรินคอยแอบๆ มองแคทโดยที่เธอไม่เคยรู้เลย

ปรินต้องขับรถไปส่งแคทกับมายด์กลับบ้านในตอนเลิกซ้อมทุกวันเพราะปรางบอกว่าห่วงเพื่อนที่ต้องกลับบ้านมืดทุกวัน วันนี้ก็เช่นกัน ขณะนั่งรถกลับเสียงโทรศัพท์ของแคทก็ดังขึ้นครืด..ครืด

“ค่ะ…พ่อ” แคทรับสาย

ปรินถึงกับต้องมองผ่านกระจกเลยทีเดียว เพราะเสียงที่พูดอยู่ตอนนี้แตกต่างจากเวลาปกติมาก

“กำลังกลับบ้านค่ะ…ปรางให้พี่ชายขับรถไปส่งค่ะ…ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ พ่อกับแม่สบายดีนะคะ…หนูสบายดีค่ะ…พ่อจะมาเหรอคะ…วันไหนคะ..ค่ะ…แล้วเจอกันค่ะพ่อ….รักพ่อกับแม่นะคะ” แคทวางสายไปแล้ว

” พ่อจะลงมาวันไหนเหรอ” ปรางถาม

ปรางคุ้นเคยกับพ่อแม่ของแคทและมายด์ดีพอๆ กับที่แคทและมายด์ก็คุ้นเคยกับพ่อแม่ของปราง เพราะเคยไปเที่ยวบ้านปรางตั้งแต่ตอนเรียนกวดวิชา ตอนนั้นปรินไปต่างประเทศก็เลยไม่เคยเจอกัน

“พ่อจะมาวันเสาร์ตอนเช้านี้ล่ะ” แคทบอก

” แล้วพ่อมายด์มาด้วยป่าว” ปรางถามอีก

” มาสิคะ…ก็มาพร้อมกันแหละ” แคทตอบ

“งั้น…วันเสาร์นี้ชั้นมาเที่ยวหาพ่อกับแม่ดีกว่า คิดถึงอาหารที่แม่ทำอร่อยมาก” ปรางพูดไปยิ้มไป

” เราจะมายุ่ง วุ่นวายล่ะสิ” ปรินพูด

“ป่าวสักหน่อย…แม่แคททำกับข้าวอร่อยมากต่างหาก พี่ปรินมาเที่ยวด้วยมั้ยล่ะ” ปรางหันไปถามปริน

ปรินมองผ่านกระจกหลังเหลือบมองหน้าแคท

” จะรบกวนหรือป่าว…พี่ไม่ได้คุ้นเคยเหมือนเรานี่” ปรินพูดไปมองคนนั่งหลังไป

ปรางมองพี่ชายอยู่ก็เลยอมยิ้ม ปรางอยากให้เป็นอย่างที่เธอกับแม่อยากให้เป็น นั่นคือลุ้นให้ปรินชอบแคท แม่ของปรางรักแคทมากจนอยากได้เป็นลูกสะใภ้ ปรางเองก็อยากได้แคทมาเป็นพี่สะใภ้เหมือนกัน

” ไม่รบกวนหรอกค่ะ..พ่อก็อยากขอบคุณพี่ปรินเหมือนกันค่ะที่คอยมาส่งทุกวัน” แคทพูด เธอยิ้มผ่านทางกระจกให้ปริน

ปรินเห็นยิ้มนั้นแล้วถึงกับอึ้ง เขาไม่เคยเห็นแคทยิ้มแบบนี้มาก่อนเลยตั้งแต่เขามารับส่ง เพิ่งจะได้เห็น นี่ขนาดไม่ค่อยยิ้มเขายังได้ยินปรางบอกว่ามีคนมาตามจีบแคทแทบทุกวัน แต่โดนปฎิเสธไปทุกรายตอนนี้ที่เหลือก็แค่คนที่ชื่อ"ศิวา"ที่ยังตามตื้อแคทอยู่

” ถ้าไม่รบกวน งั้นวันเสาร์พี่มาส่งปรางเองก็แล้วกัน” ปรินหันไปพูดกับปราง

” ค่ะ…ดีใจนะเนี่ยปกติชวนไปไหนไม่เคยจะว่างล่ะ งานเยอะตลอด” ปรางว่ายิ้มๆ

ปรินเอามือมาขยี้หัวปราง” พูดมากนะเรา” ปรินว่า

ปรางหัวเราะพลางนึกอยู่ในใจว่าเดี๋ยวจะต้องถามปรินให้รู้เรื่อง

แคทกับมายด์มองดูพี่น้องเล่นกันแล้วก็อมยิ้ม

พอส่งแคทกับมายด์ลงที่บ้านป้ามลแล้วปรางก็หันหน้าไปหาปริน

” พี่ปริน…ชอบแคทใช่มั้ยคะ?” ปรางถาม

ปรินได้ยินปรางถามเขาเลยทำหน้าไม่ถูก นี่เขาแสดงออกจนปรางรู้เลยเหรอ

” ถ้าพี่ปรินไม่พูด ปรางก็ช่วยพี่ปรินไม่ได้หรอกนะแต่บอกไว้ก่อนเลยถ้าจะมาจีบเล่นๆ ล่ะก็ไม่ต้องเลยนะคะ” ปรางว่า

“ปรางเห็นพี่เป็นคนยังไงเนี่ย” ปรินหันขวับมาถามน้องสาวทันที

” ก็แล้วตกลงว่าไงล่ะคะ พี่ปรินชอบแคทใช่มั้ย?” ปรางยังคงถามต่อ

” อืม…ก็ใช่” ปรินตอบ

” ไชโย! ...ปรางดีใจจริงๆ แม่ต้องดีใจมากแน่ๆ” ปรางว่า ปรินมองหน้าน้อง

” เกี่ยวอะไรกับแม่ล่ะ” ปรินพูด

“พี่ปรินไม่รู้อะไร แม่ชอบแคทมากอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ บ่นกับปรางบ่อยๆ กลัวว่าพี่จะไปเอาบรรดาสาวๆ ที่มาติดพันพี่มาเป็นลูกสะใภ้” ปรางบอก

ปรินถึงกับอึ้ง แม่คิดว่าเขาไม่มีความคิดหรือยังไงเขาไม่เคยชอบผู้หญิงที่มาตามเขาสักคน ตั้งแต่เข้าวัยหนุ่มมาเขาไม่เคยคบกับใครเลยสักคน มีเพื่อนปรางคนนี้แหละเป็นคนแรกเลยที่ทำให้เขาคิดถึงและอยากเจอหน้าทุกวันแม้เจ้าตัวจะไม่รู้ก็ตาม

” ปรางเองก็อยากได้แคทมาเป็นพี่สะใภ้นะคะ แคทนิสัยดี สวย ไม่เหมือนสาวๆ ของพี่ปริน” ปรางพูด

“สาวๆ ของพี่ที่ไหน เราก็พูดไป” ปรินหันมาพูด

” เอาล่ะ ถ้าพี่ปรินชอบแคทจริงๆ ปรางก็จะช่วยแต่แคทจะชอบพี่ปรินหรือป่าวปรางก็ไม่รู้หรอกนะ” ปรางว่า

“อ้าว! ทำไมงั้นล่ะ” ปรินพูด

” บอกตรงๆ นะคะพี่ปริน…ปรางเองก็ดูไม่ค่อยออกว่าแคทคิดอะไร หรือรู้สึกอะไรก็อย่างที่พี่ปรินเห็นนั่นแหละ แต่ถ้าจะจีบแคทพี่ปรินจะเข้าไปจีบตรงๆ ไม่ได้หรอกนะคะ ต้องค่อยๆ ทำความคุ้นเคยให้สนิทกันก่อนแล้วค่อยจีบ” ปรางค่อยๆ พูดให้พี่ชายฟัง

” แล้วถ้ามีคนไปจีบแคทก่อน พี่ไม่แย่เหรอ” ปรินบ่น

” ทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้วล่ะค่ะคนที่มาจีบแคทน่ะ แล้วถ้าแคทจะจีบง่ายขนาดนั้น คงมีแฟนเป็นโหลแล้วมั้งคะ” ปรางพูด

ปรินเงียบ มันก็ใช่แคทเป็นคนที่เข้าถึงยากมากเท่าที่เขารู้จักมา เธอเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีแต่ไม่ค่อยให้ใครเข้าใกล้ได้ง่ายๆ

” เอาตามนั้นก็ได้ แต่ยังไงปรางก็ต้องช่วยพี่นะ” ปรินสรุปให้ปรางฟัง

” ต้องช่วยอยู่แล้ว ไม่ช่วยพี่ปรินจะไปช่วยใครล่ะคะ” ปรางพูดแล้วก็อดขำพี่ตัวเองไม่ได้

เช้าวันเสาร์ พ่อแม่ของแคทกับมายด์มาถึงตั้งแต่ตี5เพราะกลัวรถจะติด พ่อแม่ของทั้งสองสาวไม่ได้ขับรถมาเองแต่เช่ารถตู้มาเพราะลูกสาวทั้งคู่สั่งห้าม

7โมงเช้าแล้วพ่อของแคทกับมายด์นั่งกันอยู่ที่โต๊ะหน้าบ้าน ส่วนแม่ๆ และลูกสาวรวมทั้งป้ามลกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว

สักพักได้ยินเสียงรถมาจอดในบ้าน เสียงรถสองคันแคทกับมายด์ออกมาดูก็เห็นปรางกำลังแนะนำพี่ชายกับพวกเพื่อนของพี่ชายให้พ่อของแคทกับมายด์รู้จัก แคทกับมายด์เดินออกไปยกมือไหว้ทักทายทุกคน

ปรินมองดูแคทที่วันนี้ดูแปลกๆ กว่าทุกวัน เพราะวันนี้แคทไม่ได้ขมวดผมไว้ข้างบนเหมือนทุกวันที่เขาเคยเห็น แต่แคทเอายางรัดไว้เฉยๆ ทำให้ดูน่ามองมากขึ้นไปอีก

ปรินไม่กล้ามองแคทมากนักเพราะปรางบอกว่าพ่อแคทหวงแคทมาก รักและห่วงยิ่งกว่าไข่ในหินอีก

แคทกับมายด์และปรางเดินกลับเข้าไปในครัวต่อหลังจากนั้นก็ออกมาตามทุกคนเข้าไปกินอาหารเช้า

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จต่างก็แยกย้ายไปนั่งตามที่ต่างๆ พ่อมายด์ขอตัวไปนอน ส่วนป้ามลกับแม่ของมายด์กับแคทเตรียมอาหารมื้อกลางวัน

ชยา เอก ปรางและมายด์นั่งคุยกันที่ข้างบ่อปลา พ่อของแคทนั่งอยู่ที่ซุ้มกระดังงากับปริน

แคทเห็นพ่อนั่งคุยอยู่กับปรินเลยยกจานผลไม้ไปให้ ปรางหันมาเห็นก็เลยเดินตามมาด้วย

“ผลไม้ค่ะพ่อ พี่ปริน” แคทพูดพลางนั่งลงข้างๆ พ่อ

“ขอบใจนะลูก” พ่อบอกพลางเอามือลูบผมของแคท ปรางเดินไปนั่งข้างๆ ปริน

” คุยอะไรกันอยู่คะพ่อกับพี่ปริน” ปรางถาม ปรางเรียกพ่อแคทว่าพ่อตามที่แคทเรียก

“พ่อกำลังขอบใจพี่ชายของหนูที่คอยมาส่งแคทกับมายด์ที่บ้านทุกวัน และก็ต้องขอบใจปรางด้วยนะลูก” พ่อตอบ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ แคทกับมายด์เป็นเพื่อนสนิทของหนู แล้วอีกอย่างก็เป็นทางผ่านด้วยค่ะ” ปรางบอก

“ขอบใจนะลูกปราง ปรินด้วยนะ” พ่อแคทพูด

“คับคุณอา” ปรินบอก

“ค่ะพ่อ อ้าว!!มายด์มานั่งนี่เร็ว” ปรางบอก  มายด์เดินมาที่ทุกคนนั่งอยู่ปรางจึงเรียก

พ่อแคทหันมามองแคทตรงๆ แล้วเอามือมาลูบผมที่แคทรวบไว้

” เมื่อไรหนูจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีล่ะ มันก็นานมากแล้วนะ” พ่อถาม

“ก็เหมือนเดิมแล้วนี่คะ หนูสบายดีค่ะไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้ว” แคทหันไปพูดกับพ่อแล้วเอามือไปบีบมือพ่อเบาๆ

ปรินกับปรางไม่เข้าใจในเรื่องที่พ่อกับแคทพูดกันจึงฟังเฉยๆ

” มายด์ แคทยังขมวดผมไปมหาลัยใช่มั้ยลูก” พ่อหันไปถามมายด์

“ค่ะ..พ่อ” มายด์ตอบ

” พ่อคะ..ที่แคทขมวดผมเพราะว่ามันร้อนต่างหากล่ะ ไม่มีอะไรจริงๆ นะคะ” แคทพูดพร้อมกับเอาแขนไปโอบรอบเอวของพ่อ  พ่อเอามือลูบหัวแล้วยิ้ม

” เราก็เป็นแบบนี้ทุกทีล่ะ…เอาล่ะงั้นพ่อจะไปนอนเอนหลังสักหน่อยนะ พวกลูกๆ คุยกันไปเถอะ” พ่อพูดพลางลุกขึ้น

” หนูไปส่งค่ะ” แคทบอกแล้วเดินกอดเอวพ่อไป

เมื่อแคทกับพ่อเดินลับไปแล้วปรางก็หันมาถามมายด์ถึงเรื่องที่พ่อกับแคทและมายด์คุยกัน

“ยังมีอะไรที่ปรางยังไม่รู้ใช่มั้ยมายด์” ปรางถาม

มายด์มองหน้าปรางแล้วพยักหน้าแทนคำตอบ

” ถ้ายังเห็นว่าเราเป็นเพื่อนกันก็เล่ามา” ปรางพูด  มายด์เหลือบมองไปที่ปริน

“ไม่เป็นไร ปรางว่าจะบอกมายด์อยู่เหมือนกันว่าพี่ปรินชอบยายแคทน่ะ” ปรางบอก

ปรินหันมามองหน้าปรางรวมถึงมายด์ด้วย

” เรื่องจริง พี่ปรินจะกลัวอะไรดีซะอีกเราจะได้มายด์มาเป็นพวกอีกคน มายด์รู้จักแคทมากกว่าปรางนะคะ” ปรางพูดพลางหันไปบอกพี่ชาย

มายด์อมยิ้ม ก่อนจะเล่าให้ปรางกับปรินฟัง

” ตอนม.ปลายแคทมีเพื่อนที่สนิทอีกคนชื่อ เอ๋ เอ๋มีแฟนแล้วและแฟนเอ๋ก็มาเป็นอ.ฝึกสอนที่รร.ตอนแรกก็รักกันดีแฟนเอ๋ชื่อว่า ชัย ชัยก็รู้จักเราและก็แคทดีเพราะไปไหนกับเอ๋บ่อย ต่อมาพอดีมีกิจกรรมในวันเสาร์เอ๋ เราและแคทก็ไปรร.ไปทำกิจกรรมและก็เพราะว่าเป็นวันหยุด แคทมันก็เลยปล่อยผมไปรร. พอพี่ชัยเห็นแคทตอนปล่อยผมก็ชอบ เลยเปลี่ยนใจจากเอ๋จะมาจีบแคทแทน เพราะแคทเวลาปล่อยผมเหมือนคนละคนเลย ทีนี้พอเอ๋รู้พี่ชัยกลับโทษแคท หาว่าแคทไปออ่ยพี่ชัย เอ๋หลงแฟนมากก็เลยเชื่อ ก็มาว่า มาด่าแคทและไม่ฟังที่แคทพูดเลย แคทเสียใจมากตอนนั้นคิดจะตัดผมทิ้งเลยนะ ทั้งๆ ที่แคทรักผมมาก แคทบอกว่าเพราะผมทำให้เสียเพื่อนไป ช่วงนั้นทุกคนรอบข้างแคทต้องคอยดูตลอดกลัวแคทจะตัดผมของตัวเอง แคทไม่พูดไม่คุยกับใครเก็บตัวอยู่คนเดียว พ่อกลุ้มมากจนต้องพาแคทไปหาหมอจิตเวช แต่พอดีขึ้นแคทก็ไม่เคยปล่อยผมอีกเลย โดยเฉพาะเวลาที่ต้องออกไปนอกบ้าน เรื่องก็เป็นอย่างนี้ล่ะ” มายด์เล่าจบ ปรางที่นั่งฟังอยู่ถึงกับถอนหายใจ

” เฮ้อ! แคทนี่ชีวิตเจอแต่เรื่องที่แย่ๆ ทั้งนั้นแล้วทุกวันนี้ เอ๋กับแฟนเขาเป็นไงบ้างล่ะ” ปรางหันมาถามมายด์

” เลิกกันไปตั้งแต่ยังเรียนไม่จบม.ปลายเลย” มายด์ตอบ

” แล้ว เอ๋กลับมาคบกับแคทอีกหรือป่าว” ปรางถาม

” ไม่มาหรอก ถึงอยากมาก็มาไม่ได้แคทให้อภัยได้แต่คนรอบข้างแคท ไม่มีวันยอมหรอก” มายด์พูดพร้อมทำหน้าจริงจังมาก

” ดีแล้วล่ะ เพื่อนแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน นี่แสดงว่าพ่อคงอยากให้แคทกลับมาปล่อยผมเหมือนเมื่อก่อนใช่มั้ย?” ปรางถามต่อ

” ใช่..ตั้งแต่เกิดเรื่องจนทุกวันนี้แคทจะระวังตัวมากในทุกเรื่อง ปรางก็เห็นนี่” มายด์พูด

” เราว่าที่แคทเป็นอย่างทุกวันนี้ก็ดีขึ้นมากแล้วล่ะ” มายด์พูดจบ ปรางพยักหน้าเห็นด้วย

ปรางหันไปมองหน้าพี่ชาย ปรินมองปรางแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะพยักหน้าให้

ตกเย็นมีการทำบาร์บีคิวกินกัน พวกผู้ใหญ่นั่งกินกันที่โต๊ะส่วนหนุ่มๆ สาวๆ ก็ย่างบาร์บีคิวกันมีเสียงพูดคุยกันสนุกสนาน หลังกินเสร็จก็ช่วยกันเก็บทำความสะอาด

พ่อแคทนั่งอยู่ที่ม้าหินออ่นคนเดียว ปรินเห็นจึงเดินเข้าไปคุยด้วย

” คุณอามีอะไรไม่สบายใจเหรอคับ บอกผมได้นะคับ เผื่อผมจะพอช่วยได้” ปรินถาม  พ่อแคทหันมาแล้วยิ้มให้

” ขอบใจนะ แต่อาอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ แคทโตแล้วแทนที่อาจะห่วงน้อยลงแต่มันกลับมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะเรื่องต่างๆ ที่เขาต้องเจอทำให้อดห่วงไม่ได้” พ่อแคทพูดจบก็มองออกไปข้างหน้า

“อาอยากให้เขาเจอใครสักคนที่ดีที่จะคอยดูแลเขาได้ แต่แคทก็ไม่เคยคิดจะมีใครสักคน พอถามทีไรเขาก็มักจะบอกว่าอาไม่รักเขาแล้วเลยอยากให้เขามีใคร ฟังพูดเข้า” พ่อแคทเล่าให้ปรินฟัง

”อาเคยถามมายด์ว่ามีคนมาจีบแคทบ้างมั้ย!? มายด์บอกว่ามีมามากมายแต่ยายแคทไม่สนใจใครสักคน ระวังตัวแจแถมทำตัวเหมือนเด็กผู้ชาย อาล่ะกลุ้มกับลูกอาจริงๆ” พอเล่าจบพ่อแคทก็ถอนหายใจ

“คุณอาคับ ผมมีเรื่องที่อยากเรียนให้คุณอาทราบคับ ไม่ทราบว่าผมพูดไปแล้วจะทำให้คุณอาโกรธหรือเปล่า” ปรินพูด พ่อแคทหันหน้ามา

“ปรินพูดมาเถอะ อามีเหตุผลพอและพร้อมจะรับฟังเสมอ” พ่อแคทบอกยิ้มๆ

” คือ..ผมชอบลูกสาวคุณอานะคับ แต่ลูกสาวคุณอายังไม่รู้นะคับ ผมยังไม่ได้บอกเธอเพราะผมกลัวว่าเธอจะปฎิเสธผมเหมือนที่ทำกับคนอื่นๆ” ปรินบอก

” ใจกล้าดีนะเรา มาบอกพ่อก่อนบอกเจ้าตัวนี่นะหึ หึจริงๆ แล้วอาก็พอจะเห็นนะว่าปรินมองยายแคทแปลกๆ นี่มาชอบลูกสาวอาเหรอ” พ่อพูด

” คับคุณอา แล้วถ้าคุณอาไม่ว่าอะไร ผมอยากจะขอดูแลแคทแทนคุณอาได้มั้ยคับ” ปรินพูดเสียงจริงจัง

” อาไม่ได้รังเกียจอะไร ดีใจเสียอีกที่มีคนจะมาช่วยอาดูแล เพียงแต่ว่าเราจะทำให้เจ้าตัวยอมให้ดูแลได้หรือป่าว ถ้าแคทตกลงอาก็ไม่มีปัญหาหรอก” พ่อแคทมองหน้าปรินตรงๆ

“ขอบคุณคับ คุณอา ผมจะพยายามทำให้ได้คับ” ปรินยิ้ม

” อย่าทำให้ลูกสาวอาเสียใจก็แล้วกัน…ไม่งั้น..” พ่อแคทพูดพลางจ้องหน้าปรินแบบจริงจัง

” ผมไม่มีวันทำให้คนที่ผมรักเสียใจคับคุณอา” ปรินพูดและมองสบตากับพ่อแคทตรงๆ

” อาหวังว่าจะมองคนไม่ผิดนะ…ยังไงก็ฝากปรินดูแลแคทด้วยล่ะกันตอนที่อาไม่อยู่” พ่อแคทบอก

“ผมจะดูแลแคทให้ดีที่สุดคับ” ปรินรับปากพ่อของแคท

เขาโล่งใจไปได้อีกเปาะเหลือแต่เจ้าตัวที่เป็นปัญหาใหญ่และใหญ่ที่สุดสำหรับเขาเลย

พ่อแม่ของแคทกับมายด์กลับไปแล้วตอนนี้แคทกับมายด์นั่งคุยกันอยู่ที่ริมอ่างปลาข้างบ้าน

” คิดอะไรอยู่ล่ะ…แคท” มายด์ถามเพราะเห็นแคทนั่งเงียบเหมือนมีอะไรในใจ

” แค่สงสัย…ว่าก่อนพ่อจะกลับทำไมต้องพูดกับพี่ปรินแบบนั้นอ่ะสิ” แคทพูด

” พ่อว่าอะไรเหรอ” มายด์ถาม

“ก็…พูดว่าฝากด้วยนะ ฝาก…ฝากอะไร…งง! พ่อฝากอะไรพี่ปริน” แคทพูดแล้วทำหน้างงๆ ใส่มายด์

มายด์อมยิ้มเพราะรู้อยู่แล้ว ปรางโทรมาเล่าให้ฟังว่าปรินได้สารภาพกับพ่อแคทแล้วว่าชอบแคท และพ่อแคทก็ไฟเขียวให้แล้วด้วย

” ก็คงฝากให้ช่วยดูแลเราสองคนน่ะสิ แกก็รู้ว่าพ่อห่วงแกจะตาย” มายด์พูดแคททำหน้าคิดแล้วก็ยิ้มออกมา

” เออ! น่าจะใช่ พ่อก็จริงๆ เลยชั้นดูแลตัวเองได้ ใครจะกล้ามาทำอะไรจริงมั้ย” แคทพูด

” จ้า..แม่คนเก่งแต่อย่าลืมสิว่าพ่อไม่รู้ว่าแกดูแลตัวเองได้ แม้จะไม่เท่าเดิมก็ตาม” มายด์พูดเตือนแคท

“มันก็ใช่..เอาเถอะถ้ามันจะทำให้พ่อสบายใจ ป่ะไปนอนกันดีกว่าพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า” แคทพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินเข้าบ้าน

มายด์มองตามหลังแคทแล้วยิ้มต่อจากนี้คงจะได้เห็นอะไรดีๆ แน่ จะดูสิว่าปรินจะปราบแคทได้มั้ย

ตอนสายของวันอาทิตย์ในอาทิตย์ถัดมาปรางชวนปริน ชยากับเอกมาหาแคทกับมายด์ที่บ้านป้ามล

“สวัสดีค่ะ ป้ามล” ปรางยกมือไหว้

“สวัสดีคับ ป้ามล” ปริน ชยากับเอกยกมือไหว้เหมือนกัน

“ไหว้พระเถอะลูก มาหาแคทกับมายด์เหรอหนูปราง” ป้ามลรับไหว้แล้วถาม

“ค่ะป้ามล แล้วแคทกับมายด์อยู่มั้ยคะ” ปรางถาม

“ป้าเห็นอยู่หลังบ้านกับน้าสม ว่าจะไปสอยมะม่วงมาทำน้ำปลาหวานกินกันน่ะ พวกเรามาก็ดีแล้วจะได้อยู่กินด้วยกันเลย” ป้ามลบอก

“ค่ะป้า งั้นหนูขอไปหาแคทกับมายด์ที่หลังบ้านก่อนนะคะ” ปรางบอก

“ตามสบายเลยลูก แล้วหนุ่มๆ ล่ะจะไปด้วยหรือนั่งคอยที่นี่ก่อน” ป้ามลถาม

“พวกผมขอไปกับปรางก็แล้วกันคับ” ปรินหันไปมองชยากับเอกแล้วพูด

“จ๊ะ ตามใจนะ” ป้ามลบอก

ปริน ชยากับเอกจึงเดินตามปรางไปที่หลังบ้านป้ามล ที่มีต้นมะม่วงอยู่2-3ต้นใกล้กับรั้วบ้าน

“หนูแคทคะ ลงมาเถอะค่ะ เดี๋ยวตกลงมานะคะ” น้าสมยืนเรียกแคทอยู่ที่โคนต้นมะม่วง

“น้าสมอย่าเสียงดังสิคะ เดี๋ยวป้ามลได้ยินค่ะ” แคทบอกมาจากบนต้นมะม่วง

“แคทรีบลงมาเลย ได้มะม่วงพอแล้ว” มายด์แหงนหน้าบอกแคท

“ขอเก็บอีก 2 ลูกนะแล้วจะรีบลงไปเลย” แคทบอก

ปราง ปริน ชยากับเอกเดินมาทางหลังบ้านก็ได้ยินเสียงมายด์ แคทกับน้าสมคุยกันจึงเดินมาตามเสียง จนเห็นมายด์กับน้าสมยืนอยู่ที่โคนต้นมะม่วงต้นหนึ่ง ทุกคนจึงเดินเข้าไปหา

“สวัสดีค่ะ/คับ น้าสม” ทุกคนยกมือไหว้น้าสม

“สวัสดีค่ะ หนูปราง คุณปริน คุณชยา คุณเอก” น้าสมรับไหว้

“อ้าว! ปราง สวัสดีค่ะพี่ปริน พี่ชยา พี่เอกมาได้ยังไงคะ ทำไมปรางไม่เห็นโทรมาบอกก่อนว่าจะมาล่ะ” มายด์ยกมือไหว้พี่ๆ

“เราอยากมาหาแคทกับมายด์ ก็เลยให้พี่ๆ มาส่งน่ะ ที่ไม่โทรมาก่อนเพราะรู้อยู่แล้วว่าพวกเธอไม่ได้ออกไปไหนกัน” ปรางบอก

“มายด์ แล้วไหนแคทล่ะ เมื่อกี้พี่ว่าได้ยินเสียงแคทด้วยนะ” ปรินหันมองไปรอบๆ

ชยา เอกกับปรางก็หันมองหาเหมือนกัน มายด์อมยิ้มแล้วชี้นิ้วไปบนต้นมะม่วง

“แคท กำลังเก็บมะม่วงอยู่บนต้นค่ะ” มายด์บอก

ทุกคนจึงแหงนหน้าขึ้นมองไปตามที่มายด์ชี้

ปรินเห็นแคทกำลังปีนกิ่งมะม่วงไปที่ปลายๆ กิ่งเพื่อจะเก็บมะม่วง

แคทได้ยินเสียงคนคุยกันแต่เธอไม่ได้สนใจจะก้มมาดูเพราะห่วงแต่จะไปเก็บมะม่วงที่เธอมองไว้

ปรินทั้งตกใจและแปลกใจที่เห็นแคทปีนต้นไม้ได้เก่ง เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะปีนป่ายต้นไม้ได้โดยมองจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ อีกอย่างเขาไม่เคยเห็นสาวๆ สมัยนี้จะทำอย่างที่เธอทำอยู่ขณะนี้

ชยากับเอกเองก็คิดเหมือนกัน พวกเขาไม่คิดว่าผู้หญิงที่สวยและดูดีแบบเธอจะชอบห้อยโหนแบบผู้ชายอย่างนั้

“ยายแคท!! ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ลงมาเลย เธอเป็นผู้หญิงนะ ทำไมชอบทำอะไรที่เขาไม่ทำกัน” ปรางบ่นแล้วเรียกแคทเสียงดัง

แคทได้ยินเสียงปรางจึงก้มมาดู เธอเห็นปราง ปริน ชยากับเอกยืนอยู่ข้างๆ มายด์กับน้าสม และกำลังแหงนหน้ามองเธออยู่

“อ้าว! ปรางมาตั้งแต่เมื่อไหร่ สวัสดีค่ะพี่ๆ แล้วมาทำอะไรกันคะ” แคทพูด เธอทักทายทุกคน แต่ยังไม่ลงมาจากต้นมะม่วง

“ไม่ต้องมาสวัสดีใครทั้งนั้น รีบๆ ลงมาเลย” ปรางว่า

“หนูแคท รีบลงมาเถอะค่ะ ถ้าคุณมลรู้เอาน้าสมตายแน่ๆ” น้าสมบอก

“รู้แล้วค่ะ แคทเก็บ 2 ลูกนี้แล้วก็จะลงไปเลยค่ะ น้าสม” แคทบอก เธอปีนไปเก็บมะม่วงที่มองไว้อีก 2 ลูกทันทีที่พูดจบ

“แคทระวัง เอามะม่วงใส่ในตระกร้อก่อน แล้วค่อยๆ ลงมาไม่ต้องรีบ เดี๋ยวตก” มายด์กำชับ

“จ้า รู้แล้ว” แคทบอก

ทุกคนมองดูแคทที่ค่อยๆ ปีนลงมาอย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งเธอลงมายืนที่พื้นอย่างปลอดภัย ทุกคนพากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ปรินคิดว่าเพราะเธอเป็นแบบนี้พ่อถึงได้ว่าทำตัวเหมือนผู้ชาย แต่เขาคิดว่าแคทเก่งกว่าผู้ชายอีก เพราะเขาเองยังไม่กล้าปีนต้นไม้ขึ้นไปแบบนี้เลย

“หนูแคทคะ ทีหลังไม่ทำอย่างนี้แล้วนะคะ น้าสมหัวใจจะวาย” น้าสมเดินมาจับตัวแคททันทีที่เธอลงมาถึงพื้น

“น้าสมคิดมากค่ะ ตอนที่อยู่บ้านแคทก็ปีนต้นไม้บ่อยๆ ค่ะไม่ตกหรอก” แคทยิ้ม

“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ค่ะ เป็นสาวเป็นนางมาปีนต้นไม้แบบนี้ ถ้าคุณมลรู้ได้บ่น3วันไม่เลิกแน่ค่ะ” น้าสมถอนใจ

“เราก็อย่าให้ป้ามลรู้สิคะ นะคะน้าสม” แคทกอดแขนน้าสม

“ค่ะ แต่แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะคะ ต่อไปห้ามหนูแคทปีนไปเก็บเองอีก” น้าสมบอก

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” แคทยิ้ม

“งั้น เดี๋ยวน้าเอามะม่วงไปทำน้ำปลาหวาน แล้วจะยกออกมาให้ที่หน้าบ้านนะคะ” น้าสมบอก

“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” มายด์บอก

“แคทนี่จริงๆ เลย ตกลงว่าเธอเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ ถึงได้ปีนต้นไม้อย่างนี้” ปรางหันมาถามแคททันทีที่น้าสมเดินเข้าบ้านไปแล้ว

“ปราง นี่แค่เล็กๆ เท่านั้น เธอต้องไปเห็นตอนที่แคทเรียนอยู่ม.4 ยิ่งกว่านี้อีก” มายด์ขำ

“ยังไงเหรอมายด์ ยังมียิ่งกว่านี้อีกเหรอ” ชยาถาม

“ใช่ แค่นี้พี่ก็ว่าเหนือความคาดหมายแล้วนะ” เอกพูด

“ไม่ต้องเล่าเลยมายด์” แคทปรามดุๆ

“เล่ามาเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่เล่าเราโกรธจริงๆ ด้วย” ปรางทำหน้างอน

“มันไม่ได้มีอะไรน่าเล่าเลย อย่างอนเลยนะ” แคทจับแขนปราง ทุกคนพากันขำ

“ถึงไม่มีก็อยากรู้ จะเล่าหรือไม่เล่า” ปรางเสียงแข็ง

“โอเคจ้า เล่าก็ได้ งั้นให้มายด์เล่าก็แล้วกัน” แคทถอนใจนิดๆ

“ตอนนั้นที่โรงเรียนมีงาน พ่อแม่บางคนก็พาเด็กเล็กๆ มาเที่ยวที่โรงเรียนด้วย แล้วเกิดมีเด็กคนหนึ่งทำลูกโป่งหลุดมือลอยไปติดอยู่ที่ต้นจามจุรี แล้วเด็กคนนั้นก็ยืนร้องไห้อยู่ที่ใต้ต้นไม้ไม่ยอมไปไหน เรากับแคทเดินผ่านไปเห็น พอเข้าไปถามเด็กคนนั้นจึงได้รู้ แคทบอกกับเด็กว่าจะไปซื้อให้ใหม่แต่เด็กคนนั้นไม่ยอมจะเอาแต่ลูกโป่งที่ลอยไปติดอยู่อย่างเดียว แม่เด็กก็มาช่วยพูดแต่ไม่ว่ายังไงเด็กก็ไม่หยุดร้องไห้” มายด์เล่า

“นี่ อย่าบอกนะว่าแคทปีนขึ้นไปเอามาให้อ่ะ” ปรางถาม

“ใช่ที่สุดเลย แคทปีนต้นจามจุรีขึ้นไปเอาลูกโป่งให้เด็ก แล้วคิดดูนะต้นจามจุรีสูงมากๆ สูงพอๆ กับที่มหาลัยเรามีอ่ะ ที่นี้พออาจารย์รู้ก็เลยวุ่นวายกันใหญ่ เพราะกลัวว่าแคทจะตกลงมาจึงต้องให้กู้ภัยเอาเบาะลมมาวางไว้ที่โคนต้น ดีว่าแคทลงมาได้อย่างปลอกภัยแถมเอาลูกโป่งลงมาให้เด็กคนนั้นได้ด้วย เด็กหยุดร้องไห้แม่เด็กก็เดินมาขอบใจแคท แต่อาจารย์เรียกแคทไปอบรมที่ห้องตอนพักกลางวัน 1อาทิตย์เต็มๆ” มายด์ยิ้ม

พอมายด์เล่าจบ ทุกคนก็หันมามองหน้าแคทเหมือนกัน ต่างทำหน้าทั้งแปลกใจ ทั้งอึ้ง และตกใจที่เธอทำอะไรไม่ค่อยจะห่วงตัวเองสักเท่าไหร่

“ทำไมมองแคทแบบนั้นล่ะคะ พี่ๆ ปรางด้วย แคทก็แค่อยากให้เด็กหยุดร้องไห้แค่นั้น” แคทบอก

“พี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อถึงได้เป็นห่วงแคทมาก” ปรินพูด

“ขนาดพี่ไม่ได้เห็นเอง ยังรู้สึกตกใจเลยนะ” ชยาบอก

“พี่ไม่คิดว่าแคทจะทำอะไรอย่างนี้ได้นะเนี่ย” เอกบอก

“มายด์ ตกลงว่ายายแคทนี่เป็นผู้หญิงใช่มั้ย” ปรางถาม

“ปราง แคทเป็นผู้หญิงที่มีนิสัยไม่เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปก็เท่านั้น” มายด์ขำ

“ถึงว่าพ่อแคทบอกกับพี่ว่า แคทชอบทำตัวเหมือนผู้ชาย” ปรินพูด

“พี่ๆ คะ ปรางด้วย แคทไม่ได้อยากทำตัวเหมือนผู้ชาย แคทแค่ไม่อยากให้พ่อต้องมาเป็นห่วงเพราะว่าแคทเป็นผู้หญิง พ่อกลัวแต่ว่าจะมีคนมาเอาเปรียบ มารังแกหรือมาทำร้าย แคทก็เลยพยายามทำให้พ่อเห็นว่าแคทดูแลตัวเองได้แค่นั้นค่ะ” แคทบอก

“แต่พี่ว่า เหมือนพ่อจะห่วงแคทมากกว่าเดิมนะ” ปรินพูด

“ใช่ค่ะ ไม่ว่าแคทจะพยายามทำแค่ไหน พ่อก็ไม่เคยจะห่วงน้อยลงเลย” แคททำหน้าเศร้า

“พี่ว่าไม่แปลกหรอก ถ้าพี่เป็นพ่อแคทก็ต้องเป็นห่วงแบบนี้เหมือนกัน” ชยาบอก

“นั่นสิ มีลูกสาวสวยอย่างนี้ จะไม่ห่วงได้ยังไง” เอกพูด

“แคทไม่สวยหรอกค่ะ ปรางกับมายด์สวยกว่าอีก จริงๆ นะคะ” แคทบอกยิ้มๆ

ชยากับเอกหันไปมองปรางกับมายด์แล้วก็พากันยิ้ม

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยยายแคท ไปค่ะพี่ๆ แล้วก็ปรางด้วย เข้าบ้านกันค่ะป่านนี้น้าสมคงทำมะม่วงน้ำปลาหวานเสร็จแล้วล่ะค่ะ” มายด์บอก เธอทำหน้าเขินๆ เมื่อถูกเอกมอง

“จ้า ไปกันปราง ไปกันค่ะพี่ๆ” แคทยิ้มเธอเดินจับมือปรางกับมายด์แล้วเดินเข้าบ้าน ปริน ชยากับเอกจึงเดินตามเข้าไป

ปรินมองข้างหลังแคท วันนี้เธอขมวดผมเหมือนตอนไปมหาลัยสวมกางเกงขายาว ใส่เสื้อยืดแขนสั้นท่าทางทะมัดทะแมง เขาไม่คิดว่าเธอจะปราดเปรียวและทำอะไรที่ตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอกของเธออย่างมาก ถ้าคนที่ไม่ได้คุ้นเคยจะไม่มีทางรู้เลยว่าเธอมีนิสัยคล้ายผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เธอเป็นคนพูดตรงๆ ไม่ออ่นหวาน เธอไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไปที่เขาเคยรู้จัก แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขายิ่งสนใจเธอมากขึ้นไปอีก ผู้หญิงที่เขาแอบชอบไม่เหมือนใครเลยจริงๆ

ห่วง

ตอนเย็นวันหนึ่งหลังจากเลิกซ้อมดรัมแล้ว สาวๆ พากันเดินออกมาที่หนุ่มๆ รออยู่ แต่แคทถูกพี่ตี๋ รุ่นพี่ปี4คณะวิศวะฯ ขอคุยด้วย ปรางกับมายด์จึงเดินออกมากันก่อน

“มายด์ ปรางว่าพี่ตี๋ไม่ค่อยน่าไว้ใจเลยนะ ได้ข่าวว่าพี่เขาเป็นเพลบอยด์ตัวพ่อเลย แล้วเราปล่อยแคทไว้กับพี่ตามลำพังอย่างนั้นจะดีเหรอ” ปรางถาม เธอเป็นห่วงแคท

“เราก็คิดเหมือนกัน แต่แคทบอกว่าไม่เป็นไร แล้วเราจะทำยังไงได้ล่ะ” มายด์บอก

มายด์กับปรางเดินมาจนถึงที่ปริน ชยากับเอกรออยู่

“ทำไมทำหน้ากันอย่างนั้นล่ะ แล้วแคทไปไหน ทำไมไม่มาด้วยกัน” ปรินถาม

“แคทถูกพี่ตี๋ พี่ปี4ขอคุยด้วยค่ะพี่ปริน” ปรางบอก ปรินทำหน้าเครียดๆ ทันที

“ก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ แคทก็มักจะมีคนมาขอคุยด้วยออกบ่อยไป” ชยาบอก

ตั้งแต่เขารู้จักแคท กับมายด์มา แคทก็มักจะมีคนมาขอคุยด้วยแทบทุกวัน

“มันก็ใช่ค่ะ แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน พี่ตี๋เป็นเพลบอยด์ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า เจ้าชู้ขั้นเทพและเป็นประเภทมือไวด้วยค่ะ มายด์กับปรางก็เลยเป็นห่วงแคทอยู่ค่ะ” มายด์บอก

“แล้วทำไมมายด์กับปรางไม่อยู่เป็นเพื่อนแคทล่ะคับ” เอกถาม

“แคทบอกว่าไม่เป็นไรค่ะและให้ออกมาก่อน แล้วเอายังไงกันดีคะ” ปรางถามน้ำเสียงร้อนรน

“แล้วแคทไปคุยกับรุ่นพี่ที่ไหน พวกเราพาพี่ไปดูทีสิ” ปรินเป็นห่วงแคทมาก

“ตรงข้างโรงยิมน่ะ พี่ปรินตามปรางมาเลยค่ะ” ปรางกับมายด์เดินนำหน้าไป

ปริน ชยากับเอกเดินตามปรางกับมายด์มาที่ข้างโรงยิม

ปรินเห็นแคทยืนคุยอยู่กับผู้ชายหน้าตาดีแต่ดูจากท่าทางก็รู้ได้เลยว่าเป็นคนกระล่อนและเจ้าชู้เหมือนที่มายด์บอก

ทุกคนมายืนดูอยู่ห่างจากที่แคทกับตี๋คุยกันอยู่ไม่ไกลมากนัก ดังนั้นจึงได้ยินเรื่องที่แคทกับตี๋คุยกันได้ทุกคำ และที่ๆแคทกับตี๋ยืนคุยกันก็ค่อนข้างสว่างทำให้มองเห็นได้อย่างชัดเจน

“พี่ตี๋คะ แคทคบกับพี่ไม่ได้หรอกค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่พี่มีให้แคท” แคทพูด เธอมีสีหน้าเรียบเฉย

“พี่ว่าแคทอย่าทำเล่นตัวไปหน่อยเลย พี่ไม่เชื่อหรอกว่าแคทจะปฎิเสธพี่จริงๆ” ตี๋พูด เขาคิดว่าเธอเล่นตัวเพราะว่าตัวเองสวย

“ถ้าพี่ตี๋พูดอย่างนี้ แคทก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้วค่ะ” แคทหันหลังกลับทันที

“จะไปไหนล่ะ พี่ว่าแคทยอมเป็นแฟนพี่ดีๆ จะดีกว่านะ พี่ไม่อยากทำอะไรรุนแรงกับแคท” ตี๋คว้ามือของแคทไว้ตอนที่เธอหันหลัง

ปรินเห็นตี๋จับมือของแคท เขากำมือแน่นมากและเดินออกมาจากที่ๆ ยืนดูอยู่ ชยา เอก มายด์กับปรางก็เดินตามมาด้วย

“พี่ตี๋ ปล่อยมือค่ะ” แคทเน้นเสียงเรียบๆ และสายตาเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าทันที

“พี่ไม่ปล่อย เราอย่าเล่นตัวนักเลยมาให้พี่จูบเสียดีๆ” ตี๋ดึงมือของแคทเข้ามาหาตัวเขา

แคทเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เมื่อตี๋ดึงมือเธอก็เลยพลิกมือขึ้นแล้วจับมือของเขาแทน แล้วแคทก็บิดแขนของตี๋ทันทีเต็มแรง

“โอ้ย! เจ็บนะ! ปล่อย!! บอกให้ปล่อย!!” ตี๋ร้องเสียงดัง

ปริน ชยา เอก มายด์กับปรางได้ยินเสียงตี๋ร้องจึงหยุดเดินแล้วมอง จึงเห็นว่าตี๋โดนแคทจับบิดแขนไปข้างหลังกำลังร้องโอดครวญอยู่

“จบมั้ยคะ!? ถ้าพี่ตี๋ยอมจบดีๆ แคทก็จะปล่อยค่ะ” แคทถามเสียงเรียบๆแต่ตาที่มองนิ่งและน่ากลัวมาก

“จบ! จบก็ได้” ตี๋พูดเสียงสั่นๆ เขาไม่คิดว่าจะโดนผู้หญิงทำร้ายได้

“จริงนะคะ ถ้าพี่ตี๋ผิดคำพูด แคทรับรองได้ว่าพี่ตี๋ได้เจ็บมากกว่านี้แน่ๆ” แคทพูด น้ำเสียงและแววตาบอกให้ตี๋รู้ว่าเธอทำจริงแน่ๆ ถ้าเขาผิดคำพูด

“พี่ไม่ผิดคำพูดแน่” ตี๋บอก หน้าตาบอกว่าปวดแขนมาก

“ตามนั้นค่ะ” แคทบอก เธอปล่อยแขนของตี๋ลง

ตี๋เดินหนีไปทันทีที่แคทปล่อยแขนของเขา

แคทจึงเดินตรงไปที่ๆ รถของปริน ชยากับเอกเคยมาจอดรอ เพราะเธอคิดว่าทุกคนคงรออยู่ที่นั่น

“อ้าว! ปราง มายด์ พี่ปริน พี่ชยา พี่เอก มาทำอะไรกันตรงนี้คะ!? ทำไมไม่รออยู่ที่รถล่ะคะ” แคทถาม เธองงๆ ที่เห็นทุกคนมายืนอยู่ไม่ไกลนัก

ปริน ชยา เอกกับปรางและมายด์เห็นและได้ยินสิ่งที่แคทพูดและทำกับตี๋ทั้งหมด หนุ่มๆ พากันคิดว่าโดยปกติก็ว่าเธอเข้าถึงยากและดูน่ากลัวแต่พอมาได้เห็นอย่างนี้ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีกเท่าตัว มีแค่มายด์คนเดียวที่ไม่รู้สึกอะไรเพราะเธอเคยเห็นบ่อยๆ แล้ว

“เรากับปรางแล้วก็พี่ๆ เป็นห่วงเธอน่ะ เลยพากันเดินเข้ามาดู” มายด์บอก

“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะ ปรางกับมายด์ด้วยขอบใจนะ แต่ไม่มีอะไรหรอก กลับกันเถอะ” แคทพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้้น

“แคททำให้พวกพี่แปลกใจอยู่เรื่อยๆ เลยนะ” ชยาพูด

“ไม่ใช่แค่แปลกใจนะ แต่น่ากลัวด้วย” เอกพูดตรงๆ

“กลัวอะไรคะ แคทไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” แคทงงๆ

“ก็ตาที่แคทใช้มองกับคำพูดที่ใช้ พี่ไม่คิดว่าจะได้ยินผู้หญิงที่ไหนพูดกับผู้ชายตัวโตแล้วทำให้เขากลัวได้แบบนี้หรอกนะ” ปรินบอก เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

“แคทจะใช้สิ่งเหล่านั้นกับคนบางคนเท่านั้นแหละค่ะ ไม่ได้ใช้กับทุกคนหรอก พี่เอกไม่ต้องกลัวค่ะ” แคทยิ้ม

“ที่แคททำวันนี้น้อยลงกว่าเมื่อก่อนแล้วนะคะพี่ๆ” มายด์บอกยิ้มๆ

“แคทไม่กลัวเลยเหรอที่พี่ตี๋ทำแบบนั้น” ปรางถาม หน้าเธอยังตกใจอยู่

“ไม่กลัวหรอกจ้า จะกลัวไปทำไมพี่เขากับเรามี2มือ2เท้าเท่าๆ กันนะ” แคทบอกเสียงเรียบๆ แววตาเธอนิ่งมาก

“แคทไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายง่ายๆ หรอกปราง เรารู้ดี” มายด์พูด

“นี่ ถ้าคนที่จะมาจีบแคทเห็นหรือได้ยินที่พูดเมื่อกี้ จะไม่หนีกันไปหมดเหรอ” ปรินยิ้ม

“ก็ดีสิคะ แคทอยากให้มาเห็นกันมากๆ จะได้ไม่ต้องคอยปฎิเสธอยู่เรื่อยๆ” แคทพูดยิ้มๆ

ปรินอมยิ้มเมื่อได้ยินที่แคทพูด เขาก็อยากให้เป็นอย่างนั้น

“หมดเรื่องแล้ว กลับบ้านกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวจะดึก” ปรินบอก

“ค่ะ ไปกันเถอะแคท มายด์” ปรางเดินจับมือแคทกับมายด์แล้วออกเดินนำไปที่รถ ปริน ชยากับเอกเดินตามหลังไป

ปรินมองแคทแล้วคิดว่าเธอเก่งที่สามารถป้องกันตัวเองจากผู้ชายได้ แต่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี ตอนนี้ปรินรู้แล้วล่ะว่าพ่อแคทรู้สึกยังไง

วันศุกร์ตอนมืดหลังเลิกซ้อมดรัม ตอนนั่งรถกลับบ้านโดยมีปรินขับรถไปส่งเหมือนทุกวัน

” วันอาทิตย์ตอนเช้า..เดี๋ยวปรางแวะไปรับนะ จะได้ไปพร้อมกัน” ปรางพูด เธอหันหน้าไปมองแคทกับมายด์

” ไม่เป็นไร ไปเจอกันที่มหาลัยก็ได้” แคทบอก

” ไม่เอา..ไปพร้อมกัน” ปรางทำหน้างอ มายด์ขำ

” จ้า…ตามใจไปด้วยกันก็ได้ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นเลย” แคทพูด ปรางหัวเราะ

” ตกลงตามนั้น 8โมงเช้านะ” ปรางบอกเพื่อน  แคทกับมายด์พยักหน้า

” วันอาทิตย์ไปมหาลัยกันทำไมล่ะ ไม่ได้หยุดเหรอ” ปรินถาม

” วันจันทร์หน้าก็จะถึงงานกีฬาของมหาลัยแล้ว รุ่นพี่เขานัดซ้อมใหญ่กันค่ะ” ปรางบอก

” วันอาทิตย์นี้พี่ปรินว่างหรือป่าวคะ…ขับรถไปส่งปรางได้มั้ยจะได้ไม่ต้องกวนลุงยอดอ่ะ” ปรางถามปริน

” อืม..ก็ได้ ไปทั้งวันหรือป่าวล่ะให้พี่คอยมั้ย” ปรินพูดไปตาก็แอบมองคนข้างหลังไป

” ก็…ไม่แน่ใจค่ะอาจจะทั้งวัน ถ้าพี่ปรินไม่ได้ไปไหนจะอยู่คอยก็ได้นะคะ” ปรางพูด

” อย่าเลย รบกวนพี่ปรินเปล่าๆ มานั่งคอยทั้งวันรำคาญแย่” แคทรีบพูดเพราะเกรงใจ

ปรินมองหน้าคนพูดผ่านกระจกมองหลัง ระยะหลังแคทเริ่มที่จะพูดคุยกับเขามากขึ้นอาจจะเป็นเพราะเจอกันทุกวันและเขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีอะไรที่จะทำให้แคทคิดว่าเขามาจีบเธอ ตอนนี้แคทคงจะเห็นเขาเป็นพี่ชายอีกคนไปแล้ว ซึ่งเขาเองก็คิดว่าดีเหมือนกันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

” ไม่รำคาญหรอก เดี๋ยวพี่ชวน ชยากับเอกมาเป็นเพื่อนด้วย” ปรินบอก

” วันหยุดทั้งทีพวกพี่ๆไม่มีนัดกับสาวๆ บ้างหรือคะ…ห่วงแต่น้องระวังจะโดนแฟนทิ้งนะคะ” แคทพูดพลางหัวเราะ

ตอนนี้เธอเริ่มสนิทกับปรินและเพื่อนของเขามากขึ้นแล้วเพราะเจอกันทุกวันและพวกพี่ก็นิสัยดี เป็นห่วงเธอกับมายด์ดูแลเหมือนเธอกับมายด์เป็นน้องสาวของเขา แคทจึงกล้าที่จะแซวและพูดเล่นกับเขามากกว่าเดิม

ปรินมองหน้าคนพูดที่หัวเราะอยู่ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งบอกตัวเองว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ๆ คนอะไรยิ่งมองยิ่งสวยเวลายิ้มทีโลกสดใสขึ้นมาทันทีเลย

” พวกพี่ยังไม่มีแฟนกันหรอก ว่าจะมาจีบสาวมหาลัยนี่แหละ” ปรินพูดแล้วยิ้มมุมปาก

แคทมองหน้าปรินทางกระจก ปรินเป็นคนหล่อมาก หล่อกว่าศิวาอีก ยิ่งเวลาเขายิ้มก็ยิ่งหล่อแต่ว่าเขาไม่ค่อยจะยิ้มเท่าไร จากคำพูดเมื่อกี้ถ้าเป็นคนอื่นพูดเธอคงคิดว่าเขาจะมาจีบเธอกับเพื่อนแน่นอน แต่พอเป็นปรินพูดเธอเลยไม่ได้คิดอะไรเพราะเขาไม่เคยแสดงท่าทีว่าจะมาจีบมายด์หรือแม้แต่ตัวเธอเอง

"งั้นถ้าพี่ปรินสนใจคนไหนก็บอกนะคะ เดี๋ยวแคทจะช่วยเองแต่ระวังโดนเด็กหลอกนะคะ” แคทพูดแบบอารมณ์ดี

“ดีเหมือนกัน เอาไว้ถ้าพี่เจอคนที่ใช่แล้วจะบอกแคทคนแรกเลย” ปรินยิ้ม เขาคิดในใจว่า ก็ชอบคนที่พูดนี่ล่ะ

ปรางหันมายิ้มกับมายด์หลังจากที่ฟังแคทกับพี่ชายเธอคุยกัน

เช้าวันอาทิตย์ปรินขับรถมากับปรางแวะรับแคทกับมายด์ไปมหาลัย ส่วนชยากับเอกไปคอยที่มหาลัยแล้ว

เมื่อไปถึงมหาลัยสาวๆ ขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพละของมหาลัยปรางบอกให้พวกพี่ๆ ไปนั่งคอยที่อัฒจรรย์ข้างสนามกีฬา

สักพักก็เริ่มมีการซ้อมเดินเปิดสนามโดยมีดรัมเดินออกมาก่อน

ปรินนั่งมองเห็นแคทเดินมาคนแรกเพราะเป็นดรัมเอกตามมาด้วยปราง มายด์แล้วก็ตามด้วยพวกหลีดและนักกีฬาทั้งหมดของคณะ โดยเดินวนไปรอบสนามก่อนที่จะเดินเข้าไปหยุดที่กลางสนาม

“น้องแคทนี่โคตรเด่นเลยว่ะ!” เสียงเอกพูดขึ้น ปรินกับชยาหันไปมองหน้าเอก

” แล้วไงวะ!” ปรินพูด

“ตอนแรก กูอยากจะจีบแคทนะแต่ตอนนี้กูเปลี่ยนใจแล้ว” เอกพูด

“ทำไมล่ะวะ!?” ชยาถามบ้าง

” แคทสวย แต่น่ากลัวว่ะ!!เป็นคนที่เข้าถึงยากมากเวลามองทีงี้ถ้าไม่ยิ้มนะ น่ากลัวสุดๆ” เอกพูดแล้วเอามือลูบแขนตัวเองไปด้วย

” กูก็ว่างั้นเหมือนกัน สู้น้องปรางของกูไม่ได้พูดเก่ง ยิ้มเก่งน่ารักที่สุด” ชยาเห็นด้วยกับเอกแต่ตอนท้ายชมว่าที่แฟนตัวเอง

” น้อยๆ หน่อยไอ้ชยา นั่นน้องกูนะโว้ย!” ปรินท้วงแบบไม่จริงจังนัก

เขารู้ดีว่าชยาคิดยังไงกับน้องสาวเขาและปรางเองก็ชอบชยาด้วยเหมือนกัน

“เออ! กูรู้ แต่มึงก็รู้ว่ากูจริงใจกับน้องมึงคนเดียวนะ” ชยาพูดกับปริน ปรินไม่ได้ว่าอะไร

“แล้วมึงล่ะ! ชอบใครวะ” ชยาหันมาถามปรินบ้าง

” เฮ้ย! กูจองน้องมายด์นะโว้ย มึงไปจีบน้องแคทหรือไม่ก็ลูกสาวเพื่อนพ่อมึงไปก็แล้วกัน” เอกรีบพูดทันที

คำพูดของเอกทำเอาชยากับปรินหันหน้าไปมองพร้อมๆ กัน

” มึงชอบน้องมายด์เหรอวะ!?” ชยาถามเอก

” ใช่ว่ะ น้องเค้าน่ารัก เรียบร้อย อารมณ์ดีไม่ค่อยพูดตอนแรกๆ กูก็เฉยๆ นะแต่พอนานเข้าน้องเค้าก็เข้ามาอยู่ในใจกูแล้วว่ะ” เอกพูดแล้วอมยิ้ม ทำให้ปรินกับชยาถึงกับหัวเราะออกมาเลย

“เรื่องของพวกกูจบแล้ว ทีนี้เรื่องของมึงล่ะ” ชยาหันไปถามปรินบ้าง

” อะไร!?” ปรินถาม

“กูเห็นนะว่ามึงชอบแอบมองแคทเวลาที่น้องมันเผลออ่ะ…ว่าไง!?ไม่ต้องมาปิดพวกกูเลย” ชยาพูด เขาสังเกตุเห็นหลายครั้งแล้ว

” จริงเหรอวะ!?” เอกถามชยา

“เออสิ!!กูเห็นมานานแล้วว่าจะถามแต่ไม่ได้ถามสักที” ชยาพูด

ปรินถอนหายใจในที่สุดก็ปิดพวกมันไม่ได้ อย่างว่าแหละก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถมมันก็ต้องมองออกอยู่แล้ว

” ใช่! กูแอบชอบแคท แต่พวกมึงอย่าได้เที่ยวพูดไปนะ ปรางกับมายด์รู้แล้วเหลือแค่เจ้าตัวที่ยังไม่รู้ว่ะ” ปรินบอกกับเพื่อนตามตรง

” แล้วมึงจะรออะไรวะ ไม่บอกน้องมันไปเลยล่ะ” เอกพูด ปรินหันไปเอามือโบกหัวเอกเบาๆ

” มึงยังมองว่าแคทน่ากลัว มึงเลยไม่กล้าจีบแล้วนี่ถ้ากูบอกน้องมันไป หึ หึ รับรองได้แม้แต่พี่ก็ไม่ได้เป็น” ปรินพูด

” เออ! ใช่ว่ะ…แล้วมึงจะทำไงวะ จีบตรงๆ ก็ไม่ได้ บอกก็ไม่ได้อีกแล้วน้องจะรู้มั้ย ยิ่งถ้านานไปเกิดมีหมาคาบไปแดกจะทำไง” ชยาพูด คราวนี้ปรินหันไปโบกหัวชยาทันทีที่พูดจบ

” ปรางบอกว่าถ้าจะจีบแคทก็ต้องพยายามทำให้แคทคุ้นเคยด้วยก่อน ไม่ให้เข้าไปจีบตรงๆ ไม่งั้นรับรองว่าจะโดนเหมือนทุกคนที่เข้าไปจีบเค้านั่นแหละ แต่กูบอกพ่อเขาไปแล้วนะว่ากูจะจีบแคทอ่ะ” ปรินเล่าให้เพื่อนฟัง

” อะไรนะ นี่มึงกล้าบอกพ่อเขาแล้วเหรอวะ ใจกล้านะมึงอ่ะแล้วไม่กลัวพ่อเขาจะฆ่ามึงเหรอไง ว่าแต่พ่อเขาว่าไงบ้างวะ” ชยาพูดต่อ

“พ่อเขาว่าถ้าลูกสาวเขาตกลงเขาก็ไม่ว่าอะไร” ปรินพูด

” ก็ดีแล้วนี่หว่า พ่อไฟเขียวแล้วเหลือแต่ลูกเท่านั้น” เอกพูด

” นั่นแหละ ปัญหาใหญ่กว่าพ่อเขาอีก เฮ้อ!” ปรินพูดแล้วก็ถอนหายใจ

” เออ มึงก็พยายามเข้าเดี๋ยวพวกกูจะช่วยด้วย” ชยากับเอกเอามือมาตบบ่าปรินเบาๆ เพื่อให้กำลังใจเพื่อน

ตอนนี้ที่สนามทุกคนได้กระจายไปอยู่ตามมุมต่างๆ รอพี่ๆ จะเรียกซ้อมอีกครั้ง

ปรินกับเพื่อนนั่งมองดูสามสาวที่ยืนซ้อมเหวี่ยงคฑากันอยู่ข้างสนาม

ในสนามมีนักฟุตบอลกำลังซ้อมรับส่งบอลกันอยู่

“แคท ปรางจะเอาน้ำมั้ยเราจะไปเอาน้ำ” มายด์ถามเพื่อนที่ยืนซ้อมคฑากันอยู่

” เอาจ้า เอามา2เลยเผื่อแคทด้วย” ปรางตอบ

มายด์จึงเดินไปหยิบน้ำที่พวกพี่ๆ เตรียมมาให้

“แคทคับ..น้ำ” พี่ศิวาเดินเอาขวดน้ำมาส่งให้แคท  แคทมองก่อนจะส่ายหน้า

” ไม่เป็นไรค่ะพี่ศิวา มายด์เดินไปเอาให้แล้ว ขอบคุณนะคะ” แคทบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ศิวาพยักหน้ารับรู้แล้วหันหลังเดินกลับไป ปรางเดินมาข้างๆ แคท

” แกก็น่าจะรับไว้นะพี่เขาอุตส่าห์เอามาให้ ดูสิเดินคอตกกลับไปเลย” ปรางบอก

” อย่างนี้ดีแล้ว พี่เขาจะได้เลิกพยายามสักทีแล้วแกดูสิ แฟนคลับพี่เขามองมาขนาดนั้น ขืนชั้นรับน้ำไว้สักวันคงต้องโดนรุมแน่นอน” แคทพูด เธอพยักหน้าไปทางกลุ่มสาวๆ ที่ยืนอยู่อีกฝั่งของสนาม

“น้อง! ระวัง” มีเสียงดังมาจากกลางสนาม

แคทหันไปตามเสียงก็เห็นลูกฟุตบอลกำลังลอยมา มองจากสายตาแล้วมันต้องโดนหัวปรางแน่ๆ แคทกระโดดเข้าไปขวางโดยใช้มือจับลูกฟุตบอลไว้เหมือนโกล์วมืออาชีพ การที่แคทพุ่งออกไปอย่างนั้นทำให้ร่างของเธอชนปรางจนล้มลงไป และตัวเธอเองก็กลิ้งไปตามแรงของบอล

“แคท! ปราง!” มายด์ร้องอย่างตกใจพลางทิ้งขวดน้ำที่เธอถือมา แล้วรีบวิ่งไปที่เพื่อน

“เฮ้ย!!”

ปรินและเพื่อนพูดออกมาพร้อมกันเพราะเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างพากันวิ่งมาที่ข้างสนามทันที

ศิวาเองได้ยินเสียงก็เห็นเหมือนกันเลยทิ้งขวดน้ำในมือรีบวิ่งมาที่สองสาวนอนอยู่

ปรางลุกขึ้นก่อนเพราะไม่ได้เป็นอะไรพอเห็นแคทล้มอยู่อีกทางแถมมือยังถือลูกฟุตบอลอยู่ในมือเลยรีบวิ่งไปที่แคท

“แคท! เป็นไงบ้าง” มายด์ ปรางและศิวามาถึงและพูดพร้อมกัน

แคทลุกขึ้นนั่งโดยมีมายด์กับปรางนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ

” ไม่เป็นไร” แคทบอกเพื่อนและเงยหน้าบอกทุกคนที่วิ่งมาดู

ปรางกับมายด์ช่วยกันพยุงแคทให้ลุกขึ้น ปรินกับเพื่อนวิ่งมาถึงตอนที่แคทลุกขึ้นยืนแล้ว

” เป็นอะไรหรือเปล่า ปราง แคท!!?” ปรินถามแต่สายตามองไปที่แคท

” ปรางไม่เป็นอะไรค่ะ แต่แคทต้องเจ็บแน่ๆ ทำไมเตะบอลไม่ระวังกันเลยล่ะคะ” ปรางตอบปริน เธอหันไปว่าพวกนักฟุตบอลที่ตอนนี้มายืนกันเต็มไปหมด

“พวกเราขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจเลยคับ” หนึ่งในนักบอลพูดขึ้นพร้อมกับก้มหน้า

” นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ ถ้าตั้งใจจะเจ็บแค่ไหน และนี่ถ้าแคทไม่จับบอลให้สงสัยหนูไม่ต้องไปโรงพยาบาลเลยเหรอ” ปรางพูดแบบโมโห

” ขอโทษคับ” คราวนี้นักบอลพูดพร้อมกันทั้งทีมเลย

“พอแล้ว ปรางเค้าไม่ได้ตั้งใจหรอกแล้วก็ไม่มีใครเป็นอะไรสักหน่อย” แคทพูดและจับมือปราง

” แต่แกเจ็บนะ ถ้าเป็นมากแล้วเป็นดรัมไม่ไหวจะทำไง” ปรางมองแคทพลางพูด แคทยิ้มแล้วส่ายหัว

” ไม่ได้เจ็บขนาดนั้น นี่ค่ะลูกบอลไปซ้อมกันต่อเถอะค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรหรอก” แคทบอกปราง เธอโยนลูกฟุตบอลคืนให้ นักบอลก้มหัวให้แล้วก็พากันไปซ้อมต่อ

“แคท ไปห้องพยาบาลดีกว่ามั้ย” ศิวาพูด

แคทก้มมองดูตัวเองดีที่ใส่กางเกงวอล์มขายาวเท่าที่เห็นก็มีแผลที่ข้อศอกทั้งสองข้างเพราะเสื้อแขนสั้นและมีแผลถลอกตามแขนเพราะไถลไปกับพื้น

“ใช่ แคทไปทำแผลก่อนดีกว่า” มายด์พูดสนับสนุนส่วนปรางพยักหน้าเห็นด้วย

” เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” ศิวาพูด

” ไม่เป็นไรค่ะ มีมายด์กับปรางไปเป็นเพื่อนแล้ว พี่ศิวายังมีงานต้องทำอีกนี่คะ ขอบคุณมากค่ะ” แคทปฏิเสธด้วยสีหน้าปกติ

” งั้น! เดี๋ยวพี่ตามไปดูนะ” ศิวาพูด แคทพยักหน้า

“ไป เดี๋ยวช่วยพยุง” ปรางพูด

” ไม่ต้องขนาดนั้น บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมากไง” แคทพูดกับปราง เธอเดินไปโดยมีปรางกับมายด์เดินขนาบข้าง

ปรินและเพื่อนๆ เดินตามไปเงียบๆ พลางฟังสาวๆ ที่เดินข้างหน้าคุยกันไป

” ขอบใจมากนะแคท ถ้าไม่ได้แกชั้นคงได้ไปนอนโรงพยาบาลแน่ๆ” ปรางพูด เธอทำหน้าเศร้าเพราะเพื่อนต้องมาเจ็บเพราะตัวเอง

” ก็เพราะชั้นไม่อยากต้องไปเยี่ยมแกที่โรงพยาบาลน่ะสิเลยต้องช่วยไง พูดเล่น!! อย่าคิดมากนะชั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย” แคทพูดแล้วเอามือมาลูบผมของปราง

แคทรู้ว่าปรางไม่อยากให้เธอต้องเจ็บแต่มันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น

” ถ้าพ่อรู้ล่ะก็ เรื่องใหญ่แน่!!” มายด์พูดบ้าง

” ห้ามให้พ่อรู้โดยเด็ดขาด เข้าใจใช่มั้ย ถ้าขืนรู้ว่าชั้นยังทำอะไรแบบนี้มีหวังได้กลับไปอยู่บ้านแน่ๆ” แคทพูดเสียงกังวลแล้วกำชับเพื่อน

ที่ห้องพยาบาลหมอทำแผลให้แคทที่นอนอยู่บนเตียง มายด์กับปรางยืนอยู่ข้างเตียงส่วนปรินกับเพื่อนคอยอยู่นอกห้อง

เมื่อทำแผลเสร็จแคทก็ลุกขึ้น แล้วปิ่นที่แคทปักผมอยู่ก็ล่วงไปที่พื้นหักเป็นสองชิ้น ผมที่ขมวดไว้เลยร่วงลงมา

” อ้าว! หักซะแล้ว” แคทอุทานพลางเอามือจับผมไว้

” ให้ผมมันได้หายใจบ้างก็ได้” ปรางพูด

” จะบ้าเหรอ นี่มันในมหาลัยนะ” แคทรีบบ่น  มายด์ขำกับท่าทีของแคท

” กระเป๋าของเราอยู่ไหนล่ะมายด์” แคทหันไปถามมายด์

” อยู่ข้างนอกอ่ะ” มายด์บอก

” ไม่เป็นไรในกระเป๋ามียางรัดผมอยู่” แคทพูดพลางลงจากเตียง

พอขาลงถึงพื้นแคทก็รู้สึกเจ็บแปร๊บ!!ที่ข้อเท้า

” เป็นอะไรหรือเปล่า?” มายด์ถามเมื่อเห็นแคททำหน้านิ่ว

” มันแปร๊บ!!ที่ข้อเท้าอ่ะ” แคทบอก พลางจับข้อเท้า

“หมอคะ เพื่อนหนูเจ็บที่ข้อเท้าค่ะ” มายด์รีบเดินไปบอกหมอทันที

หมอเดินกลับมาดูในขณะที่แคทกลับขึ้นไปนั่งบนเตียงแบบห้อยขาลงมา มีปรางที่ยืนหน้าเสียอยู่ข้างๆ หมอจับข้อเท้าพลิกไปพลิกมาแล้วบีบเบาๆ

” เจ็บมั้ย” หมอเงยหน้ามาถาม

” ไม่มากค่ะ” แคทตอบ

“น่าจะเจ็บเอ็นข้อเท้า เกิดจากที่ล้มผิดท่า เดี๋ยวเอายาไปกินกับทานะ แล้วเดินไหวมั้ย” หมอบอกอาการแล้วหันมาถาม

” น่าจะไหวค่ะ มันเจ็บไม่มาก” แคทบอกหมอ

” หมอคะแต่เพื่อนหนูเคยกระดูกข้อเท้าแตกนะคะ มันจะไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ” มายด์รีบถามหมอด้วยสีหน้าเป็นกังวลมาก

” เท่าที่ดู ไม่น่าจะเกี่ยวกันนะ แต่ถ้ามันบวมขึ้นก็ไปโรงพยาบาลให้เขาเอกซเรย์ดูก็ได้” หมอบอก

“ค่ะ…ขอบคุณค่ะหมอ” แคท มายด์และปรางยกมือขอบคุณหมอ

ประตูห้องพยาบาลเปิดออกแคทเดินออกมาโดยมีปรางกับมายด์พยุงออกมา สามหนุ่มมองมาที่แคทเป็นตาเดียวเพราะไม่เคยเห็นแคทปล่อยผมมาก่อน

แคทรีบเอามือหยิบกระเป๋ามาเปิดแล้วเอายางมารัดผมแล้วขมวดไว้เหมือนเดิม ไม่ได้กลัวว่าปรินกับเพื่อนเขาจะเห็นหรอก แต่เธอเห็นว่าศิวากำลังเดินมาทางนี้ต่างหาก

“แคท หมอว่าไงบ้าง!?” ศิวาถาม

มายด์กับปรางหันมามองแคทอย่างไวเพราะคิดว่าแคทยังปล่อยผมอยู่ แต่พอเห็นว่าขมวดผมแล้วก็พากันถอนหายใจเบาๆ

” ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ แค่แผลเล็กน้อยให้ยามากินกับทาค่ะ” แคทบอกกับศิวา

” แคทกับเพื่อนกลับก่อนได้เลยนะพี่บอกกับอาจารย์ให้แล้ว” ศิวาบอก

“ขอบคุณค่ะ” แคทพูด

“แล้วกลับกันยังไงล่ะ….ให้พี่ไปส่งมั้ย”ศิวาถาม

” ไม่รบกวนพี่ศิวาหรอกค่ะ เดี๋ยวปรางไปส่งแคทเองค่ะ” ปรางรีบพูด

” งั้นก็กลับไปพักนะ เดี๋ยวพี่ไปดูแลอย่างอี่นก่อนนะ กลับดีๆ ล่ะ” ศิวาพูดพลางมองหน้าแคท เขามองเลยไปที่ปรินกับเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ข้างหลัง แล้วหันหลังกลับไปที่สนามต่อ

“แคท…แกรัดผมตอนไหนอ่ะ! โคตรไวเลย ถ้าพี่ศิวาเห็นล่ะก็ยาวแน่ๆ” มายด์กระซิบถามหลังจากที่ศิวาเดินไปไกลแล้ว

“ชั้นเห็นพี่เขาเดินตรงมาก็เลยรีบคว้ากระเป๋ามาแล้วก็รัดเลยสิ เกือบไปเหมือนกัน” แคทบอกมายด์เบาๆ

” แล้วนี่แกกลัวพี่ศิวาจะเห็น แล้วแกไม่กลัวว่าพี่ปรินกับเพื่อนเขาจะเห็นเหรอ” มายด์พูดเธอเหลือบมองไปข้างหลัง

” เออ! ใช่ลืมไปเลย แต่ไม่เป็นไรมั้งพี่ชยาก็แลชอบปรางมาก พี่เอกถ้าชั้นมองไม่ผิดเหมือนเขาจะชอบแกนะมายด์” แคทพูดแซวเพื่อน

มายด์หน้าแดงระเรื่อยกมือขึ้นตีแคทเบาๆ

” แล้วพี่ปรินล่ะ แกคิดว่าไง” มายด์ลองถามเพื่อนดู

” พี่ปรินอ่ะ…เขาไม่มาสนใจสนใจคนอย่างชั้นหรอกจ้า ปรางบอกว่าเขามีสาวๆ มาให้เลือกมากมายอยู่แล้ว” แคทพูดอย่างที่ใจคิด

มายด์ยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะสามหนุ่มเดินมาพอดี

“แล้วเดินไหวมั้ยล่ะเรา..เห็นปรางบอกว่าเอ็นข้อเท้าอาจจะพลิก” ปรินถามทันทีที่เดินมาถึง

” ไหวค่ะ..พี่ปริน หมอให้กินยาแล้วก็ทายาแถมพันผ้าประคองมาให้ด้วยค่ะ” แคทตอบพลางก้มมองขาตัวเอง

“เราก็นี่นะ ทำอะไรไม่ค่อยห่วงตัวเองเลย” ปรินมองเท้าของแคทแล้วบ่น แคทมองหน้าปริน

” ก็ถ้าปรางโดนบอลลูกนั้นเข้าไป รับรองว่าเจ็บมากกว่านี้แน่ๆ แคทก็แค่ผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้น บ่นเหมือนพ่อไม่มีผิด” ตอนท้ายพูดเบาๆ ปรินก็ได้ยินเขายิ้มมุมปาก

” แคท..ปล่อยผมแล้วสวยออกทำไมไม่ปล่อยผมบ่อยๆ ล่ะ” ชยาพูด

” ใช่..พี่เห็นด้วย” เอกรีบสนับสนุน

” แคทรำคาญค่ะ แล้วมันก็ร้อนด้วย” แคทพูด

ปรางรีบดึงเสื้อของชยากับเอกถอยลงไปเดินข้างหลังทันที มายด์ก็เลยลงไปเดินข้างหลังกับพวกปรางด้วย ปล่อยให้แคทกับปรินเดินข้างหน้าไปด้วยกัน

เมื่อส่งแคทกับมายด์ที่บ้านแล้ว ปรินก็ขับรถกลับบ้าน เขาสังเกตุว่าปรางเงียบๆ ไป

” เป็นไรหรือป่าวปราง!? เงียบเชียว” ปรินถาม

” ปรางแค่เป็นห่วงแคทอ่ะ” ปรางพูด

” แคทก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ แค่ข้อเท้าพลิกสองสามวันก็หายแล้ว” ปรินบอก

“พี่ปรินไม่รู้อะไรก็พูดได้สิ” ปรางว่าปรินแล้วทำหน้างอ

” เราก็เล่าให้พี่ฟังสิ” ปรินพูด

ปรางเล่าเรื่องของแคทที่เธอรู้มาจากมายด์ให้ปรินฟัง

” เพราะอย่างนี้สินะ พ่อเขาถึงได้ห่วงนัก ห่วงแต่คนอื่นไม่ค่อยห่วงตัวเอง” ปรินพูด เขายอมรับเลยว่าพอรู้เรื่องเขาก็ยิ่งห่วงแคทมากกว่าเดิมอีก

” ปรางกลัวว่าจะไม่ใช่แค่ข้อเท้าพลิกน่ะสิ แคทปากแข็ง อดทนเก่งไม่ค่อยยอมพูดง่ายๆ แล้วชอบกลัวว่าจะทำให้คนอื่นเป็นห่วงก็เลยไม่พูด” ปรางพูดไปทำหน้ากังวลไป

ปรินกับปรางเดินเข้าไปในบ้านเห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกเลยเดินเข้าไปหา

“ทำไมกลับกันเร็วล่ะวันนี้” แม่ถามทันทีที่เห็นหน้าลูกๆ

ปรางนั่งลงข้างๆ แม่ส่วนปรินนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามกัน พ่อเงยหน้าจากหนังสือในมือมองหน้าปราง

” ทำไมหน้าเป็นอย่างนั้นล่ะยายปราง งอนอะไรมาอีกล่ะเรา” พ่อพูดพลางยิ้มแบบเอ็นดู

” ปรางเขาห่วงเพื่อนน่ะคับ” ปรินตอบแทนปราง

แม่กับพ่อมองหน้าปรางแล้วหันมาถามปริน

” ใครเป็นอะไรล่ะ!? ตาปริน” พ่อถาม

” หนูแคทหรือหนูมายด์ล่ะ” แม่ถามบ้าง

” แคทน่ะคับแม่” ปรินตอบ

” เกิดอะไรขึ้น หนูแคทเป็นอะไรตาปริน แล้วเป็นอะไรมากหรือป่าว!?” แม่เขาทำท่าทางตกใจมาก

ปรินคิดในใจถึงเรื่องที่ปรางเคยบอกว่า แม่เขารักแคทมากจนอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้คงจะจริง

” ใจเย็นๆ คับแม่” ปรินบอกแม่

แล้วปรินก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้รวมทั้งเรื่องที่เขาเพิ่งรู้จากปรางเมื่อกี้ให้พ่อกับแม่ของเขาฟังอย่างละเอียด โดยมีปรางฟังอยู่และคอยเสริมเป็นบางครั้ง

” น่าสงสารยายแคท ต้องเจ็บตัวเพราะคนอื่นทุกทีเลย” แม่พูด

” หายากนะคนที่จะรักคนอื่น ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง หนูแคทนี่พ่อแม่เขาเลี้ยงลูกมาดีจริงๆ” พ่อพูด

” เพราะอย่างนี้ไง แม่ถึงอยากได้หนูแคทมาเป็นลูกสะใภ้” แม่บอก

” ถามลูกชายหรือยังว่าเขาชอบใครอยู่หรือป่าว” พ่อพูดแล้วมองหน้าปริน

“ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ปรางบอกให้ก็ได้ พี่ปรินเขาก็ชอบแคทเหมือนกัน ใช่มั้ยพี่ปริน” ปรางพูดแล้วหันไปหาพี่ชาย

” จริงเหรอ ตาปรินอย่าหลอกแม่ให้ดีใจนะลูก” แม่รีบพูด

ปรินยกมือเกาผมแก้เขินเมื่อถูกถามตรงๆ

” จริงคับแม่..แต่ผมยังไม่ได้บอกแคทนะคับ ยังไม่กล้าจีบตรงๆ ด้วยซ้ำ” ปรินบอก

” แม่แกคงจะปิดบ้านฉลองแน่ๆ ที่จะได้หนูแคทมาเป็นลูกสะใภ้ ว่าแต่แกเถอะทำไมถึงไม่กล้าจีบหนูแคทล่ะ เป็นผู้ชายแท้ๆ” พ่อขำและส่ายหัว

” ว่าแต่แม่ พ่อแกเองก็อยากได้หนูแคทมาเป็นลูกสะใภ้เหมือนกันนั่นแหละ บ่นอยู่ทุกวันว่าถ้าแกเอาบรรดาสาวๆ ที่มาติดพันแกตอนนี้มาเป็นเมีย สงสัยพ่อแกคงต้องไปอยู่วัดแทนแน่ๆ” แม่ว่าพ่อบ้าง พ่อได้แต่ยิ้มไม่ได้ว่าอะไรอีก

” ก็ถ้าพี่ปรินเดินเข้าไปจีบแคทตรงๆ นะหนูบอกได้เลยว่าโดนปฏิเสธแน่ๆ หนูรู้นิสัยแคทดีก็เลยบอกให้พี่ปรินเขาค่อยเข้าไปทำความคุ้นเคยกับแคทก่อนแล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ” ปรางบอกพ่อกับแม่

“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ” แม่หันไปถามปริน

” แคทเขาก็เริ่มพูดคุยกับผมมากขึ้นกว่าเดิม ยังแซวและพูดเล่นบ้าง ตอนนี้เขาคงเห็นผมเหมือนพี่ชายเขาคนหนึ่ง แต่ผมเคยเจอพ่อแคทครั้งหนึ่ง และผมก็บอกพ่อเขาไปแล้วว่าผมชอบลูกสาวเขาอ่ะ” ปรินพูด

แม่อ้าปากค้างเมื่อรู้ว่าลูกชายไปสารภาพกับว่าที่พ่อตาในอนาคตมาแล้ว

“แล้วพ่อหนูแคทว่าไงบ้างล่ะ” พ่อเขาหันมาถามทันที

” พ่อแคทเขารับรู้และไม่ได้ว่าอะไร พ่อเขาบอกว่าแล้วแต่แคทเลย” ปรินหันไปบอกพ่อ  พ่อกับแม่ถอนหายใจโล่งอก

“งั้น ตอนนี้ก็เหลือแค่ว่าเราจะจีบหนูแคทได้มั้ย ใช่หรือป่าว” พ่อพูดต่อ

” ใช่คับ..แต่นั่นน่ะคือเรื่องที่หนักกว่าเรื่องพ่อแคทอีกนะคับ” ปรินพูด

ทุกคนพากันหัวเราะปรินเพราะไม่เคยมีใครเคยเห็นเขาทำท่าทางหมดหวังแบบนี้มาก่อน

” ทำไมทำหน้าอย่างนั้นละไอ้เสือ เวลาไปเจรจาธุรกิจต่อให้คู่แข่งน่ากลัวแค่ไหน พ่อก็ไม่เคยเห็นแกจะทำท่าหมดแรงอย่างนี้เลย” พ่อพูดแล้วมองหน้าปริน

” เรื่องแคทนี่ยากสุดสำหรับผมแล้วล่ะคับพ่อ ให้ไปเจรจาเรื่องงานยังจะง่ายกว่าอีก แคทเป็นคนที่เก็บความรู้สึกเก่งมากๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ผ่านทางหน้าตาแต่เขากลับอ่านความคิดคนอื่นผ่านทางสีหน้าและดวงตาได้เก่งอีกต่างหากคับ” ปรินบอกพ่อ

“ใช่ค่ะพ่อ แคทเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ ตอนนี้เลยต้องค่อยๆ ให้พี่ปรินตีสนิทไปก่อนค่ะ” ปรางบอก

” เอาล่ะ งั้นเราก็มาช่วยๆ กันแล้วกันเรื่องหนูแคทอ่ะ แล้วเรื่องที่บาดเจ็บวันนี้เอาไงดีล่ะพ่อ” แม่หันไปถามพ่อ

” ในเมื่อหนูแคทไม่ค่อยจะยอมพูด งั้นปรางลูกก็ลองโทรคุยกับมายด์ แล้วถามอาการของแคทผ่านทางมายด์ดูแล้วกัน” พ่อเสนอความคิด แม่ก็เห็นด้วย

เมื่อขึ้นมาถึงห้องนอนปรางก็โทรหามายด์ทันที

” ฮัลโหล..มายด์ แคทเป็นไงบ้างล่ะ”

“กินยาแล้วก็นวดยาที่ข้อเท้าตอนนี้เข้านอนไปแล้ว” มายด์ตอบ

” แล้วมันบวมมั้ยที่ข้อเท้าอ่ะ” ปรางถามต่อ

” ที่เห็นก็ไม่บวมนะ เราคงคิดมากกันไปเองแหละ” มายด์พูด

” เดี๋ยวพรุ่งนี้ ปรางไปรับไปมหาลัยนะ” ปรางบอก

” แคทจะยอมเหรอ” มายด์พูด

” ก็อย่าบอกแคทสิ ธรรมดาออกจากบ้านกี่โมงล่ะ” ปรางถาม

” ก็ประมาณ8โมงอ่ะ” มายด์บอก

” งั้นพรุ่งนี้เจอกัน” ปรางพูดเสร็จก็วางสาย

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้อง ปรางเดินไปเปิดเห็นปรินยืนอยู่ที่หน้าประตู

“มีอะไรคะพี่ปริน” ปรางถาม

“แคทเป็นไงบ้าง” ปรินถามน้อง

“ไม่เป็นไงค่ะกินยา นวดขาแล้วก็นอนไปแล้ว” ปรางบอกพี่ชาย

“ปรางพี่ขอเบอร์แคทหน่อยสิ” ปรินพูด

“ไม่ได้ ถ้าแคทรู้เอาปรางตายแน่เลย” ปรางส่ายหัว

“แคทจะรู้ได้ยังไงว่าปรางบอกพี่” ปรินถาม

“แคทไม่เคยให้เบอร์กับใครเลยนะนอกจาก พ่อ แม่ น้องชายแล้วก็มีแค่มายด์กับปรางเท่านั้น ขนาดในโทรศัพท์ก็บันทึกไว้แค่นั้น ถ้าพี่ปรินมีเบอร์แคทก็คงไม่ต้องถามหรอกว่าได้มายังไง” ปรางบอก ปรินถึงกับอึ้ง

“ไหนเราบอกว่าจะช่วยพี่ไง นะ นะบอกมาเถอะ” ปรินอ้อนน้องสาว

ปรางมองหน้าพี่แล้วก็อดสงสารไม่ได้ สงสัยเธอต้องยอมโดนแคทว่าจริงๆ

“ก็ได้ค่ะ เห็นว่าเป็นพี่ปรินหรอกนะคะ เอามือถือมาค่ะเดี๋ยวกดให้” ปรางบอก ปรินยิ้มพลางส่งโทรศัพท์ให้ปราง

“แต่ วันนี้ห้ามโทรไปนะคะ แคทหลับไปแล้ว” ปรางพูดกับพี่พร้อมกับส่งโทรศัพท์คืนให้

“รู้แล้ว!!” ปรินพูด

“เออ! พี่ปรินพรุ่งนี้แวะไปรับแคทกับมายด์ที่บ้านด้วยนะ ต้องถึงบ้านมายด์ก่อน8โมงนะคะ” ปรางรีบบอกพี่

“โอเค งั้นเราก็รีบนอน เดี๋ยวจะตื่นไม่ทัน” ปรินบอก

เช้าวันรุ่งขึ้น แคทกับมายด์กำลังเตรียมจะออกจากบ้าน โดยมีเสียงป้ามลบ่นเพราะอยากจะไปส่งแคทกันมายด์ที่มหาลัยเพราะเห็นว่าแคทเจ็บขา ไม่อยากให้หลานไปรถเมล์แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงแคทก็ไม่ยอมแล้วป้ามลก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน

“ใครมาแต่เช้าล่ะสี” ป้ามลถามน้าสี

“คุณปรางกับคุณปรินมาคับ” น้าสีบอกปรางกับปรินเดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ป้ามล

“สวัสดีคับ..ค่ะป้ามล” ป้ามลรับไหว้

“ไหว้พระเถอะลูก มารับแคทกับมายด์เหรอ” ป้ามลพูด

“ใช่ค่ะ” ปรางเป็นคนตอบ

“ดีเลย ป้าอยากจะไปส่งเขาเหมือนกันเพราะยายแคทขาเจ็บ ป้าไม่อยากให้ไปรถเมล์แต่พูดแค่ไหนยายแคทก็ไม่ยอมท่าเดียว” ป้ามลบอก

“ดื้อเหรอเรา” ปรินหันไปพูดกับแคท

“แคทไม่ได้เป็นอะไรมาก ไปไหวค่ะแล้วอีกอย่างป้ามลก็ต้องไปทำงานด้วย ไม่ได้ดื้อสักหน่อย” แคทพูด  ตอนท้ายเสียงเบาๆ พูดแค่ให้ปรินได้ยิน

“งั้นไปพร้อมพี่กับปรางเพราะทางเดียวกันอยู่แล้ว” ปรินยิ้ม

“ไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะสาย” ป้ามลบอก

ทุกคนหันไปยกมือไหว้ป้ามลแล้วเดินออกมาขึ้นรถที่หน้าบ้าน

ปรางกับมายด์คอยเดินข้างแคทเพราะกลัวว่าแคทจะล้ม  แคทได้แต่ยิ้มขำเพื่อน

เมื่อมาถึงมหาลัย ปรินขับรถมาจอดส่งที่หน้าคณะเลยเพราะไม่อยากให้แคทต้องเดินไกล

“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง” แคทบอก ปรินยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร

พอลงจากรถแล้วสาวๆ ก็พากันเดินไปที่ตึกเรียน

“แคท! แคท!” ศิวาเรียกพร้อมทั้งเดินเข้ามาหา

“ดีขึ้นหรือยัง” ศิวาถาม

“ดีขึ้นแล้วค่ะ” แคทตอบ

“ดีแล้วล่ะ เย็นนี้ถ้ายังไม่ไหวก็งดซ้อมไปก่อนก็ได้นะ” ศิวาพูด

“ก็ว่าจะไปนะคะแต่คงไม่ได้ซ้อม ไปดูมายด์กับปรางอ่ะค่ะ” แคทพูด

“งั้น ตอนเย็นเจอกันนะ” ศิวาพูดจบแล้วก็เดินไปทางตึกเรียน

“พี่ศิวานี่ตื้อจริงๆ เลยนะ มีความพยายามมากเลย” ปรางพูดแล้วก็พากันเดินเข้าห้องเรียน

ตอนพักกลางวันแคท มายด์และปรางนั่งกันอยู่ที่ม้าหินออน่หน้าตึกเรียน

ปิ๊งเสียงไลน์ในโทรศัพท์แคทดังเตือนว่ามีคนทักมา แคทหยิบขึ้นมาดูว่าเป็นใคร

"ปรินเพิ่มคุณเป็นเพื่อนจากหมายเลขโทรศัพท์" แคทอ่านจบหันไปมองหน้าปรางทันที

“ปราง นี่ให้เบอร์ชั้นกับพี่ปรินเหรอ” แคทถามถาม  ปรางหันมาทำหน้าสำนึกผิด

“ก็พี่ปรินเขาบอกว่าเผื่อจะเอาไว้ถามเกี่ยวกับขาที่เจ็บอ่ะ เพราะเมื่อวานพอแม่ชั้นรู้ก็โวยวายบ้านแทบแตก แม่บ่นและก็บอกให้พี่ปรินมาคอยดูแลแก แม่บอกว่าแกต้องเจ็บก็เพราะช่วยชั้นเพราะอย่างนั้นต้องช่วยกันรับผิดชอบ” ปรางบอก

แคทถอนหายใจเพราะรู้จักแม่ของปรางดีว่าเป็นยังไงและก็รู้อีกด้วยว่าแม่ปรางค่อนข้างชอบเธอมาก

“ฝากบอกแม่ด้วยว่าชั้นไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่ต้องห่วง และอีกอย่างพี่ปรินเองก็ต้องทำงานถ้าต้องมาดูแลชั้นอีกเดี๋ยวพี่เขาจะยิ่งเหนื่อย” แคทบอกกับปราง

แคทก้มมองโทรศัพท์ในมือ จริงๆ แล้วเธอไม่ชอบรับใครมาเป็นเพื่อนมากนัก เธอจึงไม่เคยยอมให้เบอร์ของเธอกับใครนอกจากพ่อ แม่ น้องชายและก็มายด์กับปรางที่เป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น

สำหรับปริน แคทคิดว่าเขาก็คงแค่หวงเธอแบบปรางและอีกอย่างพ่อเธอก็ฝากให้เขาช่วยดูแลอีกด้วย เขาคงจะรู้สึกผิดถ้าดูแลไม่ดี แคทจึงรับเขาเป็นเพื่อนด้วยความเต็มใจ พอเธอกดรับก็มีข้อความเข้ามาทันที

ปริน : เป็นไงบ้างเรา ดีหรือยัง

แคท: ดีขึ้นมากแล้วค่ะ

ปริน: อย่าลืมกินยา และก็อย่าเดินมากนักล่ะ

แคท: ค่ะ พี่ปรินทำงานเถอะค่ะ

ปริน: ตอนนี้พักเที่ยงนะคับ แล้วกินข้าวหรือยัง

แคท: ทานแล้วค่ะ แล้วพี่ปรินทานหรือยังคะ

ปริน: ทานแล้วคับ งั้นเจอกันตอนเย็นนะ

แคท:ค่ะ

หลังจากนั้นอีกสองวันขาแคทก็หายเป็นปกติ แคทบอกกับปรางว่าไม่ต้องมารับตอนเช้าแล้วเพราะเธอเกรงใจแต่กลายเป็นว่าแม่ของปรางโทรมาหาเธอบอกว่าถ้าอยากให้แม่สบายใจก็ให้ไปกลับพร้อมกับปราง แคทขัดแม่ของปรางไม่ได้ก็เลยต้องทำตามนั้น

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!