NovelToon NovelToon

การเกิดใหม่ของราชาปีศาจ

การเริ่มต้นใหม่

ณ ดวงดาวแห่งความโกลาหล ที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความชั่วร้าย มอนสเตอร์ ปีศาจ ฯลฯ พวกปีศาจได้ทำการโจมตีและยึดครองเมืองของมนุษย์มานานกว่าหลายร้อยปี เหลือเพียงอาณาจักรไอรินเป็นสถานที่สุดท้าย ที่ได้ยืนหยัดต่อสู้กับพวกปีศาจมาอย่างยากลำบาก บัดนี้เทพแห่งการรังสรรค์ผู้สร้างทุกสรรพสิ่ง"อาเฟทีเรีย" ได้เห็นถึงความพยยามของเหล่ามนุษยชาติ จึงได้สร้างดาบแห่งแสงโดโรตี้ให้กับเหล่ามนุษย์ และได้มอบพรแห่งพระเจ้าให้กับผู้ที่ถูกเลือกทั้ง 5 คน เพื่อที่จะสามารถจัดการกับราชาปีศาจซาเดนได้

1 วันกาอนที่เหล่ามนุษย์และ 5 ผู้กล้าจะบุกมาสังหารราชาปีศาจ ณ ปราสาทของราชาปีศาจ

ราชาปีศาจซาโดนที่นั่งเหม่ออยู่บนบัลลังก์ก็ได้แต่ครุ่นคิด

ราชาปีศาจซาเดน “เมื่อไหร่ไอ้สงครามบ้านี่จะจบลงสักทีน้าา ชักเริ่มเบื่อขึ้นทุกวัน วันๆเอาแต่งนั่งนิ่งบนบัลลังก์ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย งานต่างๆก็ให้พวก จอมมารทั้งสี่จัดการ เฮ้อออ ถ้าได้เริ่มต้นขีวิตใหม่อีกครั้งคงจะดี คราวนี้จะปล่อยตัวตามใจให้เต็มที่เลย” และก็มาถึงวันที่เหล่ามนุษย์ ที่นำทัพโดยเหล่า 5 ผู้กล้าบุกมาถึงปราสาทของซาเดน

ในที่สุดศึกตัดสินก็ได้เริ่มขึ้น การต่อสู้อันดุเดือดได้กินเวลาถึง 7 วัน ในที่สุดก็เหลือเพียงราชาปีศาจซาเดนเพียงตนเดียวแล้วว

โดริลล์ (ผู้ถือครองดาบแห่งแสงโดโรตี้และพรของเทพแห่งดาบ) “ในที่สุดก็มาถึงตัวแกสักทีราชาปีศาจซาเดนวันนี้และเหล่ามนุษยชาติจะทวงความสงบสุขคืนมา”

ราชาปีศาจซาเดน “ถ้าอยากได้ขนาดนั้นก็มารับไปสิจัดการข้าเลย ข้างเองก็เบื่อเต็มทนกับเรื่องๆบ้าๆพวกนี้”

พลทหารเอ "มันจะง่่ายเกินไปรึป่าว หรือว่ามันวางกับดักเอาไว้”

พลทหารบี “ใช่ๆ อย่าไปเชื่อมัน ข้าว่ามันต้องมีแผนการอะไรสักอย่างแน่”

มหาปราชญ์เอลวิส (ผู้ถือครองพรขฃองเทพแห่งเวทมนตร์) “ข้าคิดว่าเจ้านั้นไม่ได้พูดโกหกหรือมีแผนการอะไรปิดบังไว้ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงจิตสังหารของมันได้เลย”

นักบุญแอนเน่ (ผู้ถือครองพรของเทพแห่งความเมตตา) “งั้นข้าขอถามเจ้าราชาปีศาจซาเดน ถ้าเจ้าเบื่อสงครมนี้ ทำไมเมื่อ 700 ปีก่อนเจ้าต้องสั่งให้พวกปีศาจมาโจมตีเมืองของมนุษย์ด้วย”

ราชาปีศาจซาเดน "เรื่องที่ผ่านมาแล้วข้าไม่สนใจที่จะพูดถึงมันอีก เลิกพูดจาได้แล้ว รีบสังหารข้าซะ ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ หรือพวกเจ้าอยากให้มีการสูญเสียมากกว่านี้) หลังจากสิ้นเสียงของราชาปีศาจ เหล่าผู้กล้าก็ได้ใช้พลังทั้งหมดโจมตีใส่ราชาปีศาจ

ราชาปีศาจซาเดน “ อ่าา ในที่สุดก็จบแล้วสิน่ะ เหตุผลที่ข้าสั่งให้ปีศาจโจมตีมนุษย์งั้นหรอ ข้าจะไปรู้ได้ไงเล่าหลังจากที่ข้าลืมตาขึ้นมาสงครามมันก็เริ่มไปแล้ว ช่างเถอะยังไงก็จบลงไปแล้วล่ะ หวังว่าข้าจะได้เริ่มใหม่อีกครั้ง” ……

“ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง” เสียงที่ดังก้องในจิตวิญญาณของซาเดน

ซาเดน “นั้นเสียงใคร เจ้าเป็นใคร”

“ตอนนี้เจ้ายังไม่จำเป็นต้องรู้เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง เจ้าจงใช้โอกาสสุดท้ายที่ข้ามอบให้ ช่วยมิติแห่งนี้ไว้ด้วยเถิด จงไปสะสักวันเราจะต้องได้พบกันแน่”

ซาเดน “เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนซิ !!!”

100 ปีผ่านไป หลังจากการตายของราชาปีศาจซาเดน

แอนดริว “เอเรีย เราได้ลูกชายล่ะ เราจะตั้งชื่อเค้าว่าอะไรดี”

เอเรียล “ชื่อของลูกเราคือ อลัน อลัน แอดดิสัน คุณคิดว่าไง แอนดริว”

แอนดริว “เป็นชื่อที่ดีมากเลยล่ะ อลัน ลูกชอบชื่อนี้มั้ย เอ่ย อลัน อลัน อลัน”

“อลัน นั้นชื่อใครกัน หืม เจ้าพวกนี้มันเป็นใคร ดะ.. เดี๋ยวก่อนนาะนี่ข้ายังไม่ตายหรอ อ้ากกก ปวดหัว ถ้าจำไม่ผิดข้าถูกพวกผู้กล้าฆ่่าตายแล้วและจากนั้นก็ได้ยินเสียง (ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เจ้าจงใช้โอกาสสุดท้ายที่ข้ามอบให้ ช่วยมิติแห่งนี้ไว้ด้วยเถิด) นี่ข้าได้เกิดใหม่อีกครั้งจริงๆหรอ แล้วเสียงนั่น เป็นของใครกัน ทำได้ขนาดนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน แถมยังมีเนื่องวุ่นวายอย่างช่วยมิติอะไรอีกเฮ้อออ ช่างเถอะคิดไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ รอให้ข้าโตกว่านี้ก่อนค่อยหาข้อมูลล่ะกัน ตอนนี้ทำได้เพียงค่อยๆรวบรวมมานารอบๆเพื่อสร้างแก่นมานาก่อนอันดับแรก ชีวิตนี้ข้าจะเป็นยังไงต่อไปน่ะ น่าสนุกจริงๆ”

ภัยร้ายที่คืบคลาน

เวลาได้ล่วงเลยผ่านไป อลันอายุ 1 ขวบ ผมสีแดงและดวงตากลมโตบวกกับใบหน้าอันน่ารักสมวัยของเขาเป็นที่ชื่นชอบของคนในบ้านอย่างมาก อลันมีพี่สาวที่อายุห่างกัน 5 ปีอยู่คนนึง เธอชื่อไอริช แอดดิสัน นัยน์ตาสีฟ้ากับผมสีเขียวอ่อนๆของเธอช่างสวยงาวราวกับดอกไม้ที่บานสพรั่งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย แม้เธอจะอายุเพียง 6 ขวบ แต่เธอแข็งแรงและเชี่ยวชาญวิชาดาบมาก จนสามารถชนะผู้ใหญ่บางคนในหมู่บ้านได้ วันนี้คือวันเกิดของไอริช

แอนดริวและแอเรียลจึงแอบซื้อดาบที่ทำจากเขี้ยวและกรงเล็บของไวเวิร์นให้เธอ ทันทีที่เธอรู้และได้เห็นดาบเล่มนั้นเธอดีใจมากและกระโจนเข้ากอดทั้งสองคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ดีใจได้เดี๋ยวเดียวเธอก็ขออนุญาติแอนดรีว เพื่อที่จะไปฝึกกับอารีม่าเพื่อที่จะได้คุ้นชินกับดาบเล่มใหม่ (อารีม่าคือเพื่อนสนิทของแอนดรีวที่ไปล่าสัตว์ด้วยกันบ่อยๆ)

ไอริช “นี่ป่ะป๊า หนูขอไปฝึกกับลุงอารีม่าได้มั้ย ได้ดาบใหม่มาทั้งทีหนูอยากใช้ให้มันคล่องเร็วๆนะ น่ะน่ะน่ะน้าา”

แอนดริว “ก็ได้ ก็ได้ แต่ระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บล่ะเข้าใจมั้ย”

ไอริช “เข้าใจแล้วค่าา”

แอเรียล “ฝึกเสร็จแล้วรีบกลับมาล่ะวันนี้แม่จะทำอาหารฉลองวันเกิดให้ลูกเต็มที่เลยนะไอริช”

ไอริช “หนูจะรีบกลับค่ะ ม่าม๊า”

ในขณะเดียวกันไม่มีใครทันสังเกตุเห็นอลันเลยสักคนว่าเขากำลังแอบคลานไปที่ห้องเก็บหนังสือ เพราะทุกคนคิดว่าอลันกำลังหลับอยู่ และกำลังวุ่นกับการเตรียมงานวันเกิดให้ไอริช

อลันที่สามารถหลุดรอดสายตาของแอเรียลได้ก็ได้แค่บ่นในใจ

อลัน “หึหึหึหึหึ ในที่สุดก็ได้เป็นอิสระสักที ปกติต้องโดนแอเรียลอุ้มไปมาจนแทบไม่ได้หาความรู้พื้นฐานของโลกใบนี้เลย วันนี้แหละข้าจะหาข้อมูลมาให้หมดเลย ฮิฮิฮิฮิฮิ” รอยยิ้มตอนนี้ของอลันดูน่ากลัวนิดมันไม่น่าจะเป็นรอยยิ้มของเด็ก 1 ขวบได้เลย

หลังจากเข้ามาในห้องเก็บหนังสือได้ไม่นานอลันก็ได้ทำความเจ้าใจเกี่ยวกับดาวดวงนี้ได้บางส่วนแล้ว

ดาวดวงนี้มีชื่อว่า “สตินโน่มอร์เฟียร์” มีทั้งหมดสามทวีป ได้แก่ทวีปปีศาจ “ดินแดนทมิฬ” ทวีปเอลฟ์ “เอนเดรสฟอเรสต์” และทวีปมนุษย์ที่อลันอาศัยอยู่ “เกวนดอล” ซึ่งต่างจากโลกเก่าที่อละเคยอยู่ที่มี 4 ทวีป และอีก 5 เผ่าพันธุ์

โลกปัจจุบันนั้นไม่มีภูติและมนุษย์สัตว์ จึงทำให้อลันแปลกใจเล็กน้อย

อลัน “ตอนนี้ก็พอเข้าใจคร่าวๆได้แล้ว ที่ๆข้าอยู่ตอนนี้คือ หมู่บ้านเล็กๆ ในอณาจักรเคทลิน” และในทวีปเกวนดอลยังมีอีกอาณาจักรที่เรียกได้ว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมายาวนานนั่นคือ อาณาจักร “มัวเรลล์” ซึ่งทุกๆสามปีจะมีการส่งตัวแทน 5 คนออกมาประลองกัน เพื่อวัดกันว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน ในบางครั้งก็ทำสงครามกันเพราะความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนทึ่จะรุนแรงถึงขั้นทำลายอาณาจักรอีกฝั่งเลยแม้แต่ครั้งดียว นั่นก็เพราะว่ามีจักรพรรดิเวทย์มนต์อเมลเรีย ที่ไม่ขึ้นตรงต่ออณูาจักรไดคอยยับยั้งเหตุการก่อนที่จะบานปลายมาโดยตลอด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งนี้ได้สักที

อลันอ่านหนังสือได้สักพักก็ได้ยินเสียงดังขึ้น

ปัก ปัก ตุ้บ ตั้บ !!!! เสียงการฝึกดาบของไอริชเล็ดบอดเข้ามาทางหน้างต่างที่แง้มไว้ในห้องเก็บหนังสือ อลันที่ได้ยินจึงพยายามปีนขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

อลัน “โถ่เว้ย ด้วยร่างกายเล็กๆนี่คงไม่สมารถปีนขึ้นไปได้แน่ ไม่มีทางเลือกคงต้องลองใช้เวทย์มนต์สะแล้วล่ะแต่จะไหวมั้ยน้าา เวทย์ Fly ใช้มานาเยอะกว้าเวทย์ทั่วไปด้วยสิ ช่างเถอะยังไงข้าก็ใช้เวลา 1 ปีที่ผ่านมาค่อยไปรวบรวมมานานจนสร้างแก่นมานาได้สำเร็จแล้วนิ ไม่ลองก็ไม่รู้”

ทันใดนั้นอลันก็ใช้เวทย์ Fly เพื่อที่จะดูว่ามีใครที่กำลังสู้กันอยู่

อลัน “งั้นเริ่มเลยแล้วกัน Fly โอว โอ้ว โอ้ว ทำได้จริงด้วย แต่เหนื่อยชะมัด แค่ลอยขึ้นมาบนเก้าอี้ยังใช้มานาขนาดนี้เลยหรอ ยากเอาการเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเสียงที่ข้าได้ยินนั่นคือ …. อ๋อ เจ้าอารีม่ากำลังฝึกดาบให้ยัยหนูไอริชนี่เอง แต่ยัยหนูไอริชก็ทำได้ดีมากเลยนะ ขนาดโลกเก่าข้าอายุเท่านี้ทำได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นอัจฉริยะเลยล่ะ”

ทันใดนั้นเองแอเรียลที่เป็นอดีตนักเวทย์แรงค์เอ ก็ได้สัมผัสถึงกระแสมานาที่แปลกไปหลังจากที่อลันใช้เวทย์ Fly

เธอจึงรีบเดินไปจุดที่กระแสมานาแปลกไปมากที่สุด ซึ่งคือห้องเก็บหนังสือที่อลันอยู่

แอเรียล “เอ๊ะ !!! นี่มันอะไรกัน ทำไมจู่ๆกระแสมานาถึงเปลี่ยนไปกระทันหันแบบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้น ต้องรีบไปตรวจสอบแล้ว” แอเรียลรีบวิ่งมายังห้องเก็บหนังสือทันทีแม้ระยะทางจากห้องตรัวมานร่จะไม่ไกลมากแต่ด้วยความเร่งรีบและกังวลจึงทำให้เธอค่อนข้างเหนื่อย

แอเรียล “แฮก แฮก แฮก ถึงซะที มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” ทันทีที่มาถึงแอเรียลรีบเปิดประตูเข้าไปภาพที่เธอเห็นทำให้เธอแปลกใจมาก ทุกๆอย่างปกติดี มีแค่เพียงกระแสมานาทีไหลผ่านรอบตัวอลันเท่านั้นที่แปลกไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดนอกจากความกังวลเรื่องมานาที่แปลกไปเธอเป็นห่วงอลันมากกว่าจึงรีบวิ่งไปอุ้มอลันออกมาจากห้องด้วยความรวดเร็ว

แอเรียล “อลันลูกมาอยู่นี่ได้ไง ไม่เจ็บตกไหนใช่มั้ยลูก อย่าแอบออกมาคนเดียวอีกน่ะเข้าใจมั้ย”

หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อลันก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าผู้คนบนโลกใบนี้มีการพัฒนาทางเวทย์มนต์ที่ค่อนข้างช้า จึงทำให้มานาในอากาศหนาแน่นกว่าโลกเก่าของเขามาก ทำให้คนที่เชี่ยวชาญเวทย์มนต์สัมผัสมานาที่เปลี่ยนไปได้ง่าย

อลัน “ข้าลืมไปเลยว่าตอนนี้ข้ายังเด็กเกินไป และมานาในบรรยากาศก็ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้แม่ข้าสัมผัสถึงมานาถึงไหลเปลี่ยนไปได้ ถึงจะเป็นคนตลก ร่าเริงแบบนี้ก็เถอะ แต่เธอเป็นถึงอดีตนักเวทย์แรงค์เอ เธอจะรู้สึกได้ก็ไม่แปลก”

พอตกดึกทุกคนในบ้านก็ฉลองวันเกิดให้ไอริช อย่างสนุกสนาน มีเพื่อนบ้านหลายคนนำของขวัญมาให้ไอริช ทุกคนต่างยินดีกับไอริชที่โตขึ้นอีีกปี เวลาได้ล่วงเลยไปจนปาร์ตี้จบ เพื่อนบ้านแต่ละคนก็เริ่มทะยอยกันกลับจนหมด ส่วนไอริชก็พาอลันไปนอนในห้องกับเธอ เหลือเพียงแอเรียลและแอนดริวเท่านั้นที่ยังนั่งกันอยู่ แอเรียลจึงบอกเเอนดรีวที่สัมผัสมานาไม่ได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แอเรียล “คุณคะ ช่วงบ่ายวันนี้ ฉันสัมผัสได้ถึงมานาที่แปลกไปจากห้องเก็บหนังสือจึงรีบไปตรวจดู สภาพทุกอย่างดูปกติ แต่ที่แปลกคือ อลันไปอยู่ในนั้นได้ยังไง แถมมานารอบตัวอลัน ยังไหลเป็นระเบียบล้อมรอบตัวอลันไว้ ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะมานาของโลกใบมัันไหลแบบยุ่งเหยิงไปหมด ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ อลันเค้าใช้เวทย์มนต์”

แอนดรีว “มันจะเป็นไปได้ยังไง อลันพึ่งจะขวบเดียวเองนะไม่มีทางที่จะใช้เวทย์มนต์ได้หรอก ขนาดอัจฉริยะที่สุดของประเทศนี้กว่าจะรวบรวมมานาได้ก็ 10 ขวบแล้ว คุณคิดมากไปเองรึเปล่า”

แอเรียล “ก็จริงของคุณ ถ้าและนทำได้ตั้งแต่ยังเด็กขนาดนี้ อนาคตคงสามารถครองโลกนี้ได้แน่ ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องของอลันไว้แค่นี้ก่อนละกัน ที่ฉันกับวลอีกเรื่องคือ มันมีโอกาสที่เกท จะเปิดขึ้นในห้องเก็บหนังสือของเรา จนถึงตอนนี้ มานาในห้องนั้นยังหมุนวนเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน ฉันคิดว่าอีกเดือนนึงเกทจะต้องเปิดแน่ๆเลย”

ทันทีที่แอเรียลพูดจบแอนดรีวตกใจในสิ่งที่ได้ยินมาก เพราะเกทที่แอเรียลพูดถึง มันคือประตูที่เชื่อต่อกับมิติอื่น มีอสูตรที่แข็งแกร่งมากมายอยู่ข้างในนั้น มันเป็นภัยคุกคามระดับโลกที่ทั้งสามทวีปต้องช่วยกันหยุดมัน กทแรกที่เปิดขึ้นคือในทวีปเอนเดรสฟอเรส เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นทีมสำรวจแรงค์เอของเหล่าเอลฟ์จำนวน10คน และแรงค์เอส1คน ได้เข้าไป แต่กลับเหลือเพียงแรงค์เอสามคนเท่านั้นที่เหลือรอดกลับมา คนที่รอดกลับมาได้เล่าว่า ภายในเกทนั้นมีอสูรอยู่มากมาย มันแข็งแกร่งอย่างมาก มันสามารถฟื้นฟูบาดแผลเล็กๆน้อยๆได้ทันที การที่จะจัดการมันตัวนึงต้องใช้แรงค์เอถึง 5 คน แต่สำหรับแรงค์เอสถือว่า ไม่ลำบากเท่าไหร่ พวกเขาโล่งใจและคิดว่าคงสำรวจที่แห่งนี้เสร็จได้ไม่ยาก แถมในถ้ำแห่งนี้มีแร่ธาตุมากมายที่พวกเขาไม่รู้จักพวกเขาหวังว่าจะนำแร่ธาตุพวกนี้ไปวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆในอนาจักร จนกระทั่งพวกเขาไปถึงสุดทางของถ้ำ พวกเขาเจอกับศัตรูที่น่าหวาดกลัว จิตสังหารของมันที่แผ่ออกมา ถึงขนาดทำให้แรงค์เอสยังตัวสั่น ตอนแรกดูเหมือนมันหลับอยู่ พวกเราจึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจอย่างเงียบๆ แต่แล้วจู่ๆมันก็ลืมตาขึ้นมา และจับดาบที่อยู่ข้างกายของมันโจมตีพวกเรา เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวทำให้แรงค์เอ 7 คน ตายในทันที เหลือแค่สามคนที่อยู่ไกล้แรงค์เอสเท่านั้นที่ยังรอด หลังจากจบการโจมตีนั้นแรงค์เอสที่เป็นหัวหน้าทีมจึงบอกให้พวกเขารีบออกไปนำกำลังเสริมแรงค์เอสเท่สนั้นเข้ามา เขาจะต้านมันไว้เอง หลังจากพวกเขาออกมาจึงรีบ ขอความช่วยเหลือจากทวีปต่างๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก แต่ทวีปต่างไปรู้ดีว่าเหล่าเอลฟ์จะไม่ยุ่งกับเผ่าพันธ์อื่นเลยถ้าไมาจำเป็น เรื่องนี้แม้กระทั่งดินแดนทมิฬ ยังให้ความรวมมือเพื่อต้้องการตรวจสอบ แต่กว่าการช่วยเหลือจะมาถึงทำให้ผเหล่าเอลฟ์เสียแรงค์เอสที่มีเพียงน้อยนิดไป ในตอนนั้นหารจะกำจัดอสูรตนนั้นต้องใช้เเรงค์เอสถึง 7 คน และยังตายไปอีกสองคน ตลอด 70 ปี ที่ผ่านมา มีเหตุ เปิดใาแล้วทั้งหมด 23 ครั้ง เพราะมีประสบการณ์จากครั้งแรกจึงมีความสูญเสียค่อนค้างน้อย พวกเราได้แบ่งระดับของเกทไว้สามระดับตามสีของเกท สีเขียว คือ ปลอดภัย ที่แม้แต่แรงค์ดียังเข้าไปเดินเล่นได้ สีส้มคืออันตราย เข้าได้เฉพาะ เเรงค์เอขึึ้นไปเท่านั้น และสุดท้ายสีแดง เกทแรกที่เปิดในทวีปเอนเดรสฟอเรส เข้าได้เฉพาะแรงค์เอส จำนวนของอสูรภายในนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของเกม ยิ่งเกทใหญ่มากเท่าเราอสูรก็จะมากเท่านั้น นั่นคือเกท

แอนเดรีย “ถ้าสิ่งที่คุณบอกเป็นความจริง เราต้องรีบอพยพชาวบ้าวและแจ้งไปยังเมืองหลวงแล้วสิ”

แอเรียล “ ฉันว่าอย่างพึ่งบอกชาวบ้านดีกว่า แค่รีบแจ้งให้สำนักเวทย์แห่งอาณาจักรมาตรวจสอบให้แน่ใจก่่อนจะดีกว่า เดี๋ยวชาวบ้านจะแตกตื่นเอา”

แอนดรีว “ โอเค แบบนั้นคงจะดีกว่า”

หลังจากปรึกษากันเสร็จทั้งสองก็ไปเขานอน พอรุ่งเช้าแอนดริวก็ชวนอารีม่าไปเมืองหลวงเพื่อแจ้งข่าวเกี่ยวกับเกท

มางสำนักเวทย์มนต์ที่ได้รู้ข่าวจึงรีบเข้ามาตรวจสอบทันที พวกเขาใช้เวลาเดือนนึงเต็มๆในการตรวจสอบแต่ก็ไม่เจออะไรผิดปกติ พวกเขาจึงบอกว่ามันเป็นแค่ปรากฏการมานาหมุนวนธรรมดา หลังจากนั้นพวกเขาจึงกลับไป แต่ในใจของแอเรียลกลับคิดว่ามันไม่ใช่แค่นั้น เพราะตอนที่เธอไปถึงห้องนั้น ใานาปั่นป่วนเกินที่จะเป็นมานาหมุนวน แต่ก็มำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บไว้ในใจ

แอเรียล “หวังว่ามันจะเป็นแค่มานาหมุนวนจริงๆนะ”

ปล. มานาหมุนวนคือปรากฏการณ์ที่มานาควบแน่นกันจนเห็นเป็นสีต่างๆตามธาตุหลักที่อยู่บริเวณนั้น มันจะหมุนวนกันจนเป็นวงกลมและแตกสลายไปเอง ไม่มีอันตรายและยังทำให้พืชพันธุ์บริเวณนั้นจะเจริญเติบโตได้ดีด้วย

ตอนที่ 3 เวทมนตร์ของอลัน

   หลังจากเหตุการณ์มานาหมุนวนที่เกิดขึ้น ทางสำนักเวทย์ของอณจักรก็ไม่ได้นิ่งนอนใจตลอด 4 ปี ที่ผ่านมาก็ได้ส่งนักเวทย์ระดับเอส กับนักรบระดับเอมาคอยตรวจสอบความผิดปกติมาตลอด แต่ก็ยังไม่พบความผิดปกติอะไรมากนัก ที่มีก็แค่เกิดมานาหมุนวนบ่อยจนเกินไป ทำให้แม้กระทั่งพวกวัชพืชโตเร็วมาก พวกชาวบ้านจึงต้องทำการกำจัดพวกมันอยู่บ่อยๆ จากการตรวจสอบที่ผ่านมาพบแค่ว่า มานาในอากาศของหมู่บ้านนี้หนาแน่นกว่าปกติถึง 3 เท่า นั้นอาจทำให้เกิด มานาหมุนวนอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำใมจู่จู่ มานาในหมู่บ้านวิลด์เน่แห่งนี้ถึงได้หนาแน่นขึ้นกระทันหัน 

ลิกซ์(นักรบแรงค์เอ) “เห้อออออ เมื่อไหร่ไอ้การตรวจสอบบ้าๆนี่มันจะจบๆไปสักทีน้า พวกเราอยู่ที่บ้านนอกแบบนี้มา 4ปี แล้วนะ ก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น น่าจะยกเลิกการตรวจสอบให้มันจบๆไปซ่ะ จะได้กลับไปเมืองหลวงซะที”

อลิซาเบท(นักเวทย์ระดับเอส) "เลิกบ่นได้แล้วน่าลิกซ์ ถึงจะน่ารำคาญแต่นี่มันเป็นงานที่สำคัญนะ ถ้าบังเอิญเรากลับไปแล้วเกทเกิดขึ้นพอดีล่ะ มันคงจะสายเกินแก้ ที่ทำได้ตอนนี้คือต้องทนตรวจสอบอยู่ที่นี่อีกสัก 2-3 ปีเพื่อความแน่ใจเห้ออ น่าเบื่อชะมัด”

ลิกซ์ “ครับ คร้าบ ตามบรรชาขอรับนายหญิง”

อลิซาเบท “เลิกแซวฉันแล้วมาช่วยกันเดินตรวจได้แล้วน่า”

ลิกซ์ “ไปแล้วๆ อย่าโกรธไปเลยน่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

ถึงแม้จะมีความกังวลอยู่บ้างแต่ชาวบ้านที่นี่ก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ตอนนี้หน้าหนาวไกล้เข้ามาแล้วแอนดรีวกับอารีม่าจึงชวนกันออกไปล่าสัตว์เพื่อตุนส สเบียงไว้

อารีม่า “นี่แอนดรีว นายเตรียมตัวเสร็จรึยังไกล้จะได้เวลาไปแล้วน่ะ ถ้ายังชักช้าอีก ฉันจะทิ้งแกไว้แล้วไปคนเดียวแล้วะนเฮ้ยย”

สิ้นเสียงตะโกนของอารีม่าแอนดรีวก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับไอริชที่หน้ามุ่ยเกาะเอวของเขาไม่ยอมปล่อย

แอนดรีว “โทษที โทษที พอดีไอริชเอาแต่เซ้าซี้ขอไปด้วยกับพวกเราน่ะซี้ เลยช้าไปหน่อย” 

อารีม่า “พาไปด้วยก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยน่า ถึงยัยหนูไอริชจะยังเด็กอยู่ แต่เรื่องฝีมือดาบของเธอเราสองคนก็รู้กันดีนิ วันนี้ถือส่ะว่าพาเธอไปหาประสบการณ์ล่ะกัน”

ไอริช "เห็นมั้ยคะ คุณพ่อลุงอารีม่ายังเห็นด้วยเลย ปีนี้หนูก็อายุ 10 ขวบแล้วนะ หนูดูแลตัวเองได้อยู่แล้วน่า

แอนดรีว “ก็จริงอยู่ที่ลูกโตแล้วและเก่งเรื่องดาบเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะเก่งยังไง หรือจะโตแค่ไหน สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่แล้ว ลูกๆก็ยังเป็นเด็กที่พวกเราอยากปกป้องเสมอ เอาล่ะถ้าช้ากว่านี้ก่อนนจะไปถึงคงมืดซะก่อน พ่อจะพาไปด้วยก็ได้แต่ต้องสัญญากับพ่อก่อนนะ ว่าจะทำตามที่พ่อกับลุงอารีม่าสั่งทุกอย่าง เข้าใจมั้ย”

ไอรีช “ค่าาาา ขอบคุณลุงอารีม่านะคะ มี่ช่วยพูดกับพ่อให้หนู” 

อารีม่า “เรื่องเล็กน้อยน่ายัยหนู” 

หลังจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางเข้าไปในป่าทางตอนเหนือของหมู่บ้าน ส่วนอลัน ที่อยู่บ้านไม่ได้ไปไหนก็แอบฝึกเวทมนตร์อยู่ริมแม่น้ำหลังหมู่บ้านตามเคย อลันแอบมาฝึกเวทมนตร์ตรงนี้ได้สองปีแล้วและตอนนี้ก็ค่อนข้างเชี่ยวชาญแล้วด้วย จึงทำให้การใช้เวทย์แต่ล่ะครั้ง รุนแรงมากขึ้น ตอนนี้การแอบฝึกเวทมนต์ของอลันกำลังจะถูกเปืดเผย เพราะอลิซาเบทสัมผัสได้ถึงพลังเวทที่อลันใช้ เธอจึงค่อยๆเดินไปยังทิศทางที่เธอสัมผัสได้ 

อลิซาเบท “สัมผัสแบบนี้มัน มีคนแอบใช้เวทย์แถวนี้นิ นักเวทย์ในหมู่บ้านนี้น่าจะมีแค่แอเรียลคนเดียว คนที่กำลังใช้เวทย์อยู่เป็นใครกันแน่ ลิกซ์นายเดินตรวจไปคนเดียวซักพักนะ ฉันสัมผัสอะไรบางอย่างได้น่ะ” 

ลิกซ์ “ เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ เธอจะรีบวิ่งไปไหนน่ะ จะทิ้งให้ฉันทำงานคนเดียวแล้วแอบไปพักรึไง”

อลิซาเบท “เลิกบ่่นแล้วเดินตรวจไปซ่ะ ต้องนีบไปดูแล้วว่าตรงนั้นมีใครอยู่กันแน่”

 หลังจากบอกลิกซ์อลิซาเบทรีบวิ่งปรี่ ไปยังทิศทางทีมานาไหลไปรวมกันอยู่ ภาพที่เธอเห็นทำให้เธอหยุดชะงัก เด็กหนุ่มผมสีแดง นัยน์ตาสีน้ำตาลอายุราวๆ 5-6 ขวบ กำลังร่ายเวทย์อยู่ และเวทย์นั่นเป็นเวทย์ที่เธอไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนแม้แต่อาจารย์ของเธอก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง วงเวทย์ที่แปลกประหลาดซ้อนทับกันสามชั้น มานาค่อยๆไหลมารวมกันที่วงเวทย์นั่น และค่อยๆหลอมรวมกันกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง จากนั้นก้อนน้ำแข็งนั่นก็พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว ทิศทางที่มันพรุ่งไปถูกแช่แข็งในพริบตา ในหัวของอลิซเบทตอนนี้นอกจากความสงสัยแล้วยังมีความกลัวเล็กน้อย เธอคิดในใจว่า เด็กที่อยู่ตรงหน้าเป็นใครกันแน่ แล้วเวทย์ที่เขาใช้ มันคืออะไร อลิซาเบทกลืนน้ำลาย แล้วค่อยๆเดินเข้าไปช้าๆ แต่อลันก็รู้สึกตัวทันที จึงเผลอปล่อยแรงกดดันแบบที่ทำกับำวกปีศาจในชีวิตเก่าไปนิดหน่อย

อลัน “ฟู่วววว ตอนนี้ได้เต็มที่แค่นี้สินะ แค่เวทย์ระดับ 5 ยังเหนื่อยขนาดนี้ คงต้องใช้เวลาอีกสักปี ถึงจะใช่เวทย์ระดับ 7 ได้ แต่ก็ดันพลาดทำให้คุณรู้ตัวจนได้สินะ คุณอลิซาเบท” 

อลันพูดพร้อมหันไปทางที่อลิซาเบท กำลังเดินมาอย่างช้าๆ แววตาที่เย็นชาจ้องไปที่เธอ พร้อมกับท่าทางที่สุขุมเงียบกริบ ทำให้เธอเงื่อตกและหยุดเดินโดยที่ไม่รู้ตัว และแรงกดดันที่อลันปล่อยออกมาทำให้ความกลัวของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับเหยื่อที่ถูกนักล่าจ้องเอาไว้ เธอรู้สึกเหมือนจะถูกกลืนกินทัันทีที่เธอขยับตัว เธแได้แต่ยืนนิ่งและก้้มหน้ามองลงต่ำไม่กล้าสบตากับอลัน อลันจึงได้เอ่ยถามเธอว่า 

อลัน “แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่งั้นหรอ คุณอลิซาเบท…”

น้ำเสียงที่นุ่มลึกที่เธอได้ยิน ทำให้เธอไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไป อลันจึงย้ำกับเธอว่า

อลัน “ถ้าคุณยังเงียบและไม่ตอบคำถามของผมแบบนี้ต่อไป ผมจะตัดสินว่าคุณเป็นศัตรูและกำจัดคุณซะ” 

หลังจากอลันพูดจบเขาได้รวมมานาไว้ที่มือเพื่อเตรียมร่ายเวทย์ ด้วยความกลัวและตกใจของเธอจึงตอบแบบลนลานไปในทันควัน

อลิซาเบท “จะ..ใจเย็นๆก่อนสิอลัน นี่ฉันเองไงคนที่คอยตรวจตราหมู่บ้านนี้มาตลอด” 

อลัน “ผมรู้ แต่ที่ผมถามคือ คุณ..มา..ทำ..อะ..ไร..ที่..นี่ !!!”

อลันพูดพร้อมกับปล่อยแรงกดดันที่มากกว่าเดิมทำให้เธอคุมสติแทบไม่อยู่ เธอกลัวจนถึงกับร้องไห้และตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา 

อลิซาเบท “ฉะ..ฉันแค่ สัมผัสได้ถึงการใช้เวทย์มนต์อยู่แถวนี้ ละ..เลยมาตรวจดู เพราะกลัวว่าจะมีใครร่ายเวทย์แปลกๆใส่หมูาบ้านนี่นึเปล่า แค่นั้นจริงๆนะ” 

อลัน “งั้นหรอ แล้วแม่ของผม กับคนที่มากับคุณเค้ารู้เรื่องนี้ด้วยรึเปล่า” 

อลิซาเบท “นะ…นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอก กะ..การที่จะสัมผัสมานาจากการใช้เวทย์ปกปิดแบบนี้ มีแต่นักเวทย์ระดับเอสเท่านั้นแหละ” 

พอได้ยินแบบนั้น อลันก็โล่งใจขึ้นนิดนึง เพราะเขาไม่ต้องการเผยความสามารถให้คนอื่นรับรู้โดยเฉพาะแม่ของเขา พอโล่งใจแล้วอลันจึงคลายแรงดดดันที่ปล่อยออดไป และบอกให้อลิซาเบทกลับไปทำหน้าที่ของเธอซะ ก่อนเธอจะไปอลันได้ขู่เธอไว้ว่า

อลัน “ถ้าคุฯเอาเรื่องที่ผมใช้เวทย์ได้ไปบอกคนอื่นละก็ ผมจะตามไปจััดการคุณทันที ผมจะทรมานคุณ จนกว่าคุณจะร้องขอความตายเอง และทำลายดวงวิญญาณของคุณซะ เข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย”

อลิซาเบท “ขะ…เข้าใจแล้ว ฉะ…ฉันจะไม่บอกใครและจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

หลังจากนั้นเธอจึงรีบกลับไปรวมตัวกับลิกซ์ ลิกซ์เห็นท่สทางเธอแปลกไปจึงได้เอ่ยถาม

ลิกซ์ “นี่ เธอเป็นอะไรรึเปล่า ดูหน้าซีดๆนะ”

อลิซาเบท “ลิกซ์ นายเคยเจอปีศาจที่แค่จ้องมาหาเราก็ราวกับว่าวิญญาณกำลังถูกกลืนกินไปเลยรึเปล่า”

ลิกซ์ “อะไรของเธอเนี่ย …. ถ้าถามว่าเคยเจอมั้ยหรอ ก็คงจะเป็นเจ้านั่นล่ะอสูรเพลิงทมิฬจากเกทสีส้มเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มันเป็นเกทที่ขนาดเล็กที่สุด แต่ก็เป็นเกมที่ น่ากลัวที่สุดของเกทสีส้มด้วย ในนั้นมีอสูรเพียงแค่ตัวเดียว ร่างกายอันปราดเปรียวที่ปกคลุมไปด้วยไฟสีดำ ทันทีที่ทุกคนเข้าไปก็รู้สึกถึงความตายได้ทันที สุดท้ายก็จัดการมันได้ละนะ แล้วเธอถามเรื่องแบบนี้ทำไมหรอ ไปเจออะไรมารึไง ?”

อลิซาเบท “เปล่าหรอก ฉันแค่ถามดูเฉยๆ วันนี้ฉันรู้สึกไม่สบาย ฉันขอตัวไปพักก่อนนะ”

ลิกซ์ “อะไรของเธอเนี่ย สุดท้ายก็ทิ้งให้ฉันทำคนเดียวพับพ่าสิ แล้วจะทำไงดีล่ะคนาวนี้ ฉันยิ่งสัมผัสมานาไม่ได้ด้วย เฮ้อเดินไปก็ไม่ได้อะไร นอนบ้างดีกว่า”

   ตัดมาที่อลัน หลังจากใจเย็นลงแล้วอลันจึงค่อยๆเรียบเรียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

อลัน “อืมมมมม....นี่ฉัันทำเกินไปรึเปล่า เธอแค่เดินเข้ามาตรวจดู แต่ฉันกลับขู่เธอไปแบบนั้น จะเป็นอะไรมั้ยนะ ดันเผลอทำแบบเดียวกับตอนที่พวกเมดปีศาจมาแอบดูตอนกินข้าวสะได้ ช่างเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว ค่อยไปเคลียร์กับเธอทีหลัง เธอน่าจะอยู่ที่นี่อีกนาน ลองเวทย์ที่แรงกว่านี้หน่อยดีกว่า แต่คราวนี้คงต้องกางบาเรียเพิ่มอีกชั้นสองชั้น”

พอตัดสินใจได้ อลัยจึงรีบกลางบาเรียเพิ่มอีกสี่ชั้นเพราะเวทย์ต่อไปนี้รุนแรงกว่าเมื่อกี้มาก อลันเริ่มใช้เวทย์ทันทีที่กลางบาเรียเสร็จ 

อลัน “โอ้ ความมืดมิดอันเป็นนิรันดร์ จงมาจุติในมือข้า จงทำลาย และกลืนกิน ทุกสิ่งทุกอย่างในทางที่เจ้าพุ่งไป แบล็คโนว่า" 

หลังจากจบคำร่าย ก้อนมานาขนาดจิ๋วสีดำสนิท ได้พุ่งขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็ว พอไปถึงระยะที่กำหนด มันก็ระเบิดออกเป็นวงกลมสีดำทมิฬขนาดมหึมาทันที ก้อนเมฆ อากาศ ไมเว้นแม้แต่มานา ทุกสิ่งทุกอย่างในวงกลมสีดำนั้น ถูกกลืนหายไปในความมืดทั้งหมด อานุภาพของมันทำให้อลันตกใจเป็นอย่างมาก

อลัน “อุหวาวว.. อิแบบนี้กางบาเรียไปคงไม่มีประโยชน์ ต่อให้เป็นคนธรรมดาก็คงรู้สึกได้ แต่มันจะแรงเกินไปรึเปล่า นี่เราพึ่งสร้างแก่นมานาได้ 5 ปี เองนะ ถึงจะเป็นเวทย์ที่ต้องร่ายก็เถอะ หรือนี่จะเป็นฝีมือของเสียงปริศนานั่นที่ทำอะไนกับการใช้เวทย์ของเรา....”

ตัดมาทางกลุ่มของแอนดริว มี่มาล่าสัตว์ในป่าทางเหนือ แต่ไม่รู้ทำไมพวกเขาไม่เจอเป้าหมายเลย

ไอริช “พ่อคะ เราก็เดินมากันตั้งไกลแล้วทำไมยังไม่เจออะไรเลยอ่า หนูอยากลองล่าสัตว์บ้าง”

อารีม่า “นั่นสิแอนดริว ฉันว่าปีนี้มันแปลกๆนะ กลับหมู่บ้านกันก่อนเถอะ

แอนดรีว “แต่ว่า ถ้าเรากับไปตอนนี้เสบียงมันจะไม่พอผ่านหน้าหนาวไปนะ...”

ช่วงทีาแอนดรีวหับอารีม่ากำลังตกลงกัน ไอริชที่บังเอิญมองไปบนท้องฟ้าพอดีทก็ได้เจอกับสิ่งที่น่าแปลกใจมาก

ไอริช  “พ่อ ลุงอารีม่า ทำไมก้อนเมฆแถวนั้นมันไม่มีเลยล่ะ ช่วงนี้ปกติ ท้องฟ้ามันต้องปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสิ”

ทั้งสองไม่เชื่อในสิ่งที่ไอริชพูดจนหันไปมองด้วยตัวเอง ทันทีที่ได้เห็นทั้งสองถึงกับชะงักไปพักนึง

แอนดรีว “กะ...ก้อนเมฆหายไปงั้นหรอมันเกิดอะไรขึ้น นี่มันเกี่ยวข้องกับการที่เราไม่เจอสัตว์ป่าสักตัวเลยรึเปล่า”

อานีม่า “อะ..แอนดรีวนั่นมันทางกลับหมูาบ้านนิ”

แอนดรีว “ไอริช อารีม่า รีบกลับหมู่บ้านเดี๋ยวนี้เลย หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ”

ตัดมาที่หมู่บ้าน ณ จุดที่อลันอยู่ อลันกำลังครุ่นคิดว่าจะทำไงต่อไปดี

อลัน “เอาไงต่อดี แบบนี้คงฝึกต่อไม่ได้ล่ะ ช่วงนี้คงต้องเน้นไปที่เวทย์พื้นฐาน กับการรวมมานาไปก่อน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น คงจะมีใครสักคนมาอธิบายเองละมั้ง”

หลังจากนั้นอลันก็กลับไปกินข้าวที่บ้านและเก็บตัวอ่านหนังสืออยู่ในห้อง

ผ่านไปสักพักพวกแอนดรีวก็กลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยล้า

แอนดรีว “อะ..แอเรียล อลัน พวกเธออยู่ไหน ทั้งสองคนปลอดภัยรึเปล่า”

แอเรียล “แอนดรีว คุณพูดอะไรของคุณนะ”

แอนดรีว “ทะ...ท้องฟ้า บนท้องฟ้าก้อนเมฆมันหายไป”

ทีแรกแอเรียลไม่เชื่อแอนดรีวจึงบอกให้เธอออกมาดูเอง ทันทีที่เธอออกมาเธอได้เห็นท้องฟ้าที่แจ่มใสเหมือนหน้าร้อนไม่มีผิดเธิแปลกใจกับเรื่องนี้มาก        แอเรียลได้แต่คิดในใจ

แอเรียล “เกิดอะไรขึ้นอีกเนี่ย หน้าหนาวกำลังจะเข้ามาแท้ๆแต่ท้องฟ้ากลับแจ่มใสแบบนี้มันจะไม่เกิดอันตรายใช่มั้ย”

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนทั้งหมู่บ้านรวมถึงหใู่บ้านไกล้เคียง ต่างตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และยังมีอีกคนที่สัมผัสได้

ณ ภูเขาแห่งหนึ่งที่ตั้งตรงสูงสง่าเชียดฟ้า ตั้งอยู่กลางตุดตัดของทั้งสามทวีป ที่ไม่มีเผ่าไหนกล้าอย่างกรายเข้ามาไกล้ มีสตรีคนนึงอาศัยอยู่ นั่นคือจักรพรรดิเวทมนตร์อเมลเรีย  เธอสัมผัสอะไรบางอย่างได้จากทวีปเกวนดอล

อเมลเรีย “สัมผัสมานาแบบนี้มัน... เวทย์ความมืดนิ ผู้คนบนดาวดวงนี้รู้จกการใช้เวทย์แค่ 4 ธาตุ เท่านั้นนิ เจ้าคนที่ใช้เวทย์นี้ มันเป็นใครกัน ต้องไปตรวจดูสะแล้วสิ นี่ก็จะ 20 ปีแล้วสินะ ที่ไม่ได้ลงจากเขาลูกนี้ หวังว่าคนที่ใช้เวทย์นี้ คงไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ ไม่นานเกินรอหรอก ข้าหาตัวเจ้าเจอแน่”

กลับมาทางหมู่บ้านวิลล์เน่ อลันที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับเวทย์พื้นฐานของดาวดวงนี้อยู่ ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีตัวอันตรายกำลังไกล้เข้ามา

อลัน “อะไรกันเนี่ย !!! ผู้คนบนดาวดวงนี้รู้จักแค่ 4 ธาตุงั้นหรอ พอเข้าใจ อลิซาเบทล่ะ ตอนที่เธอเห็นเราใช้เวทย์น้ำแข็งถึงได้ตกใจขนาดนั้น.. ใช้ได้แค่ 4 ธาตุงั้นหรอจะอ่อนแอเกินไปแล้ว แบบนี้ชีวิตนี้มันจะง่ายเกินไปรึเปล่า”

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!