The illusion of love มารยายั่วรัก
ผู้ประพันธ์ รัตน์ภิญญาธร
ราคา 279 บาท
พิมพ์ครั้งที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557
พิมพ์ครั้งที่ 2 พฤศจิกายน 2562
เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 978-616-565-153-0
@ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช 2557 ห้ามดัดแปลงบทความ คัดลอก หรือนำไปใช้บางส่วน เเละนำไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2537
บรรณาธิการเล่ม :ปรียาทิพย์ จันทนารักษ์
ออกแบบปกและเล่ม : Li_la
ภาพประกอบปก : ธัญญา พิบูลธรรมนนท์ และ XIAN
ภาพประกอบในเล่ม : FreePik
พิสูจน์อักษร : DaRas_Ha
จัดพิมพ์และจำหน่ายโดย Mamaya Book
ติดต่อประชาสัมพันธ์พูดคุยได้ที่ FB Page : Mamaya writer
ติดตามผลงานผ่านทางเพจได้ที่
Mamaya Writer / 赵美英 - Zhào Měiyīng
มารยายั่วรัก เคยออกกับสนพ.มาแล้วนะคะ ตอนนี้ลงให้อ่านในฉบับปรับปรุงแก้ไขสำนวนที่ยังบกพร่องค่ะ สำหรับพล็อตและการดำเนินเรื่องไม่ได้ปรับแก้ไขแต่อย่างใด อาจมีการเปลี่ยนเนื้อหาในบางส่วนให้สมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้นค่ะ สำหรับเรื่องนี้อาจจะไม่ดีเท่างานปัจจุบันนะคะ แต่พยายามแก้ออกมาให้ดีที่สุดค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
___________________________________________________________________
นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นจากจิตนาการของนักเขียนเท่านั้น เนื้อเรื่อง สถานที่ตัวละครไม่มีอยู่จริง
ผู้อ่านที่น่ารักโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ หากไปตรงกับบุคคลใด ต้องขออภัยณ. ที่นี้ด้วยค่ะ
พิมพ์คำอธิบายที่นี่
บทนำ
แสงไฟสลัว ๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกลางดูเงียบสงบไร้เสียงพูดคุยมีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกและเสียงกำไลที่ดังขึ้นเป็นระยะจากการสลับเรียบไพ่ ใบหน้าเหี่ยวย่นของหญิงสาววัยกลางคนถูกแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางจับจ้องมองแม่หมอตรงหน้าที่ก้มหน้าพลิกไพ่ยิปซีแต่ละใบอย่างใจจดใจจ่อ พลางระแวงกลัวผลที่จะออกมาไม่ดี
สายตาเริ่มแสดงถึงความกังวล นิ้วเรียวที่มีรอยเหี่ยวย่นจิกบนกระเป๋าหนังราคาแพง เมื่อเห็นแม่หมอส่ายหน้าด้วยความเครียดพร้อมก้มมองไพ่สิบใบที่ถูกพลิกออกมาถูกจัดเรียงตามตำราอย่างเรียบร้อย
“เป็นอย่างไรบ้างคะ”
เพ็ญรตีถามด้วยน้ำเสียงร้อนใจ เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย
“ผลทำนายของลูกชายคุณ”
“ลูกชายของดิฉัน....”เพ็ญรตีถาม พลางมองหน้าแม่หมออย่างรอคำตอบ เธออยากรู้ว่าชะตาของลูกชายว่าเป็นอย่างไร เพราะกำลังอยู่ในช่วงวัยเบญจเพสพอดี
“ลูกชายของคุณอาจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นกับเขา ทั้งดีและไม่ดี”
“เรื่องอะไรคะ” หล่อนถามอย่างสงสัยพลางจ้อมองรอคำตอบด้วยความหมาดกลัว ทว่าแม่หมอกลับส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“เขาจะพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ที่คุณไม่อาจแก้ไขได้ เรื่องอื่นนอกจากนี้ฉันไม่อาจบอกได้”
เมื่อได้ยินเพ็ญรตีมีสีหน้ากังวลคิดห่วงลูกชาย “แม่หมอบอกหน่อยไม่ได้หรอ ฉันจะได้ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น ”
เพ็ญรตีถอนหายใจออกมาเมื่อได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าแทนคำพูด “แม่หมอคะ”
“ทุกอย่างล้วนถูกกำหนดไว้แล้ว...”
ฝนตกฟ้าร้องอย่างหนักในยามเย็น แสงอาทิตย์ค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไปตามเวลา รถยนต์แล่นอยู่บนท้องถนนนอกตัวเมืองด้วยความเร็วสูง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง หญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานชำเลืองมอง เอื้อมมือไปหยิบขึ้นมา นิ้วเรียวกดรับโทรศัพท์ที่หน้าจอก่อนจะเสียบบูลทูธที่หูขึ้นพร้อมยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อรู้ว่าคนปลายสายคือใคร
[มนต์อยู่ไหนครับ ภัทรเป็นห่วง]
น้ำเสียงทุ้มจากปลายสายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ใกล้เข้าเมืองแล้วค่ะ ภัทรไม่ต้องห่วงมนต์นะ มนต์มาบ่อยค่ะ” สายตาจับจ้องมองไปที่ท้องถนน พลางยิ้มอย่างมีความสุข นึกถึงเมื่อได้กลับไปพบคนรัก
[จะให้ภัทรไปรับไหมครับ]
“ไม่ต้องหรอก อีกแค่สองสามชั่วโมงมนต์ก็ถึงแล้วค่ะ”
[มนต์ แต่ภัทรว่า ...]
“ภัทรไม่ต้องห่วงมนต์นะ”
[ครับ งั้นขับรถดี ๆ นะ ภัทรรอมนต์อยู่นะ]
“ค่ะ แล้วพบกันนะคะ”
[ครับ]
ทันทีที่วางสาย มือซ้ายแกะบูลทูธออกวางไว้ที่เดิมดวงตากลมเบิกกว้างมองไปยังถนนกว้างด้วยความตกใจ รถบรรทุกขนาดสิบล้อขับมาด้วยความเร็วสูง ตัวรถเซไปเซมาทำให้เบี่ยงหลบไม่ทัน หญิงสาวกำพวงมาลัยรถแน่นด้วยความกวาดกลัว ไม่ละพยายามบิดหักคันรถหลบรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้ามาหาทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว
“ กรี๊ดดดดด !”
โครม !!
ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะคะ
เรื่องนี้มีจำหน่ายฉบับอีบุ๊คเเล้วนะคะ รอระบบอนุมัติ 3-5 วันค่ะ
บทที่ 1
แสงไฟสลัวภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ร่างของชายหนุ่มนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ใบหน้าคมเต็มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมออกมา เปลือกตาบีบหนารัดแน่น มือเกร็งยกขึ้นเพื่อคว้าบางสิ่งที่กำลังเดินจากไป
“มนต์ อย่าไปจากภัทร”
ชายหนุ่มละเมอพร้อมยกมือขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว
“มนต์ กลับมา กลับมา!”
เขาสะดุ้งตื่นขึ้นพร้อมเสียงลมหายใจหอบ สายตาคมมองไปรอบ ๆ ห้องที่คุ้นเคย ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกเต็มไปด้วยเหงื่ออย่างเหนื่อยล้า
ฝันถึงอีกแล้ว ความเจ็บปวดยังคงซ้ำเหมือนเดิมไม่มีวันหาย อีกแค่วันเดียวทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งแบบนี้ ทำไมต้องพรากพิศชามนต์ไปด้วย
งานแต่งงานถูกจัดเตรียมมาเป็นอย่างดีร่วมสามเดือนขาดแต่เพียงเจ้าสาวในวันแต่งงาน จากงานแต่งกลับกลายเป็นงานอำลา ถ้าคืนนั้นไม่เกิดขึ้น ในเวลาแบบนี้เขาคงกอดพิศชามนต์อยู่ในอ้อมกอดทุกคืน ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง สองเท้าก้าวยาวเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
สายน้ำจากฝักบัวค่อยไหลสู่ร่างกายแกร่งผิวสองสี ยกมือลูบใบหน้ากอนจะเอื้อมมือไปปิดฝักบัว กำปั้นแขนซ้ายยกขึ้นทุบกำแพงอย่างแรง หยดน้ำตาของลูกผู้ชายค่อย ๆ ไหลออกมา ห้าปีผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังทำใจรับกับการจากไปของคนรักไม่ได้ การจากไปที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น...
ณัฐภัทรเดินลงมาจากบันไดด้วยสีหน้าที่หม่องคล้ำเช่นทุกวัน สองเท้าตรงไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลง เอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่เปิดอ่าน เพ็ญรตีมองใบหน้าคมลูกชายด้วยความเป็นห่วงและอดที่จะต่อว่าไม่ได้
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าให้หาลูกสะใภ้ใหม่ได้แล้ว นี่มันก็ผ่านมาห้าปีแล้วนะ แม่หาให้ภัทรก็บอกว่าไม่ชอบ บอกให้หาเองภัทรก็บอกว่ายังไม่พร้อม” เพ็ญรตีเอ่ยขึ้น เพราะตลอดที่ผ่านมาห้าปีเธอพยายามทาบทามลูกคุณหนูของเพื่อนสนิทให้หลายต่อหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จสักครั้ง
“ไม่ว่านานแค่ไหน ผมก็ไม่มีวันลืมมนต์ได้หรอกครับแม่” เขากล่าวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและคิดถึงคนรักที่จากไป
“แล้วเมื่อไหร่จะมีเหลนให้ย่าสักที”
ณัฐภัทรหันไปมองย่าและบิดาก้าวเข้ามาพร้อมนั่งลงบนโต๊ะอาหาร
“ผมยังทำใจไม่ได้ครับ” คำตอบที่ดูเหมือนคนหมดหวัง แต่คนเป็นย่าเมื่อฟังแล้วถึงกับโมโหขึ้นทันที
“ไม่ได้! ห้าปี มันนานเกินไปแล้ว จะให้ย่านอนตายตาหลับได้ยังไง” ณัฐภัทรยังคงนิ่งสงบ
“คุณแม่คะใจเย็น ๆ ค่ะ” เพ็ญรตีพูดห้ามด้วยความห่วง
“ใจเย็น ฉันเย็นมามากพอแล้ว! ต่อไปนี้จะไม่มีอีก!”
จินดารัตน์ผู้เป็นย่าพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด หากเต็มไปด้วยความห่วงหลานชายไม่แพ้กัน
“คุณแม่คะ” เพ็ณรตีเรียก
“ไม่ต้องเข้าข้างเลย แม่เพ็ญรตี” เงียบไร้เสียงตอบ
“วันนี้ไปกับย่า มีนัดดูตัว”
ณัฐภัทรถึงกับมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ ไม่ว่าอีกสักร้อยครั้ง พันครั้งก็
ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถแทนพิศชามนต์ได้!
“ผมไม่ไป วันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของมนต์ ผมคงไปกับคุณย่าไม่ได้หรอกครับ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งปนเศร้า
“หึ!”
“ถ้าเป็นวันนี้ยังไงก็เป็นคำตอบเดิม เพราะผมถือว่าคุณย่ารู้อยู่แล้ว” เขาตอบก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะอาหารไป ทั้งที่อาหารเช้ายังคงเต็มจานอยู่เหมือนเดิม
ใบหน้าเหี่ยวย่นของจินดารัตน์เต็มไปด้วยความโกรธ มองหลานชายเดินออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหันมามองหน้าลูกชายและลูกสะใภ้ด้วยความขุ่นเคือง
“ดูสิ...แม้แต่ฉันยัง...” จินดารัตน์พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห
“คุณแม่ครับ ก็เจ้าภัทร มันดื้อจะตายคุณแม่ก็รู้นี่ครับ แล้วนี่นัดเขาแล้วไม่ไปจะไม่น่ารังเกียจหรอครับแม่” ทศวรรษรู้ว่าหลังจากลูกชายเสียคนรักไปเมื่อห้าปีก่อน ก็ไม่คิดที่จะมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย แม้กระทั่งนัดดูตัวกับฝ่ายหญิงเพื่อหาลูกสะใภ้เข้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ผล ในทางกลับกัน ลูกชายเขายิ่งไม่ยอมฟังเข้าไปใหญ่ ทุกคนในครอบครัวก็ต่างเข้าใจว่าทำใจไม่ได้ แต่นี่นานเกินมากพอแล้ว
“ฉันพูดเล่นเฉย ๆ ยังไงก็รู้ว่าเจ้าภัทรไม่ยอมไปอยู่แล้ว” จินดารัตน์ถอนหายใจออกมาแล้วพูดต่อไปว่า “แต่เราจะต้องหาวิธี!”
ลูกชายและลูกสะใภ้หันมามองเป็นตาเดียวด้วยความสงสัย
“เราหรือคะคุณแม่” เพ็ญรตีถาม ไม่คิดว่าครั้งนี้แม่สามีจะเป็นคนเอ่ยปากหาคู่ให้ลูกชายเธอด้วยตัวเอง
“ก็ใช่นะสิ จะใครที่ไหน” จินดารัตน์ตอบ สายตาบ่งบอกถึงความตั้งใจเป็นที่สุด หากแต่ลูกชายและลูกสะใภ้กลับมองหน้ากันทำตาปริบ ๆ
จะรอดไหมงานนี้! เพราะหลายครั้งที่ผ่านมาล้มเหลวไม่เป็นท่า
“งั้นผมไปงานมอเตอร์โชว์ก่อนนะครับ”
ทศวรรษพูดพร้อมลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร คนเป็นแม่ได้ยินแล้วเฉย ๆ แต่คนเป็นภรรยาได้ยินถึงกับควันออกหู
“คุณจะไปหาเด็กสาว ๆ ใช่ไหม!” เพ็ญรตีรีบพูดดักคอสามี
“เปล๊า ผมก็แค่ไปดูรถ ไอ้พริตตงพริตตี้ไม่เคยมองสักครั้ง”
ทศวรรษตอบเสียงสูงพร้อมส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
“ไม่มองแต่จ้องซะนาน คุณคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง! หา!”
เพ็ญรตีเดินเข้าไปลากหูของคนเป็นสามีนั่งลงกับโต๊ะ
“โอ๊ย! เจ็บนะคุณ” ทศวรรษร้องอวดโอย
“กินข้าวซะ ไม่ต้องไปกินอาหารตา!”
จินดารัตน์ส่ายหน้าหัวเราะ ทว่าถ้าไปงานมอเตอร์โชว์ล่ะก็ จะมีลูกคุณหญิง คุณนายสวยๆ ถ้าเกิด ... ได้มาเป็นหลานสะใภ้สักคน ก็คง ...
“ฉันจะไปงานมอเตอร์โชว์” เสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นด้วยความแน่วแน่ ทศวรรศและเพ็ญรตีหันมามองพร้อมกันด้วยความสงสัย
“คุณแม่จะไปทำไมคะ” เพ็ญรตีถามด้วยความสงสัยเพราะตั้งแต่เธอมาเป็นลูกสะใภ้เธอไม่เคยเห็นแม่สามีออกปากไปงานมอเตอร์โชว์สักครั้ง
“ฉันจะไปหาลูกสะใภ้!” จินดารัตน์ตอบ
“หาลูกสะใภ้!” ทศวรรษและเพ็ญรตีอุทานพร้อมกัน มองใบหน้าของผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาอย่างมีแผน
“ใช่แล้ว!”
“เออ... แล้วคุณแม่คงไม่เอาพริตตี้มาเป็นลูกสะใภ้หรอกนะคะ” เพ็ญรตีถามอย่างกล้ากลัว ๆ
“ใครจะไปเอา ฉันจะไปดูว่าคุณหญิงคุณนายมาบ้างไหมจะได้ทาบทามได้” จินดารรัตน์พูด มองหน้าลูกสะใภ้พลางนึกถึงคิดในใจเงียบ ๆ
“อ้อ เพ็ญก็นึกว่าคุณแม่ ...”
“แต่ฉันว่าจะเป็นพริตตี้ก็ดีนะ” จินดารัตน์เผลอพูดความคิดของเธอออกมาอย่างพอใจ แต่คนเป็นลูกสะใภ้กลับร้องห้ามทันที
“ไม่ได้นะคะคุณแม่ ผู้หญิงพวกนั้นไม่คู่ควรกับตาภัทรค่ะ” น้ำเสียงดูแคลนของเพ็ญรตี ทำให้จินดารัตน์มองหน้าด้วยความไม่พอใจ
เธอต้องการที่ให้ลูกชายของเธอแต่งงานกับผู้หญิงที่ดีพร้อมเท่านั้น!
“ถึงจะเป็นผู้ดีตระกูลสูงหรือจน ฉันก็ยินดีรับเป็นหลานสะใภ้ หากทำให้เจ้าภัทรยอมแต่งงานด้วย!”
ฝากคอมเม้นต์ด้วยนะคะ จะทยอยมาอัปให้ค่ะ
ติดตามผลงานผ่านทาง Facebook : Mamaya writer ได้นะคะ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!