"แม่คิดดีแล้วเหรอ? แล้วผมกับน้องต้องอยู่กันตามลำพังเหรอ? " หยวนลูกชายวัยสิบสี่ปีของฉันถามขึ้น
"ให้อยู่กับพี่หยวนตามลำพังหยาต้อวอดตายแน่ๆ" หยาลูกสาววัยสิบเอ็ดปีส่ายหน้าช้าๆ
"แม่บอกให้ยายมาอยู่เป็นเพื่อนลูกๆแล้ว" ฉันโกหกแม่กับลูกว่าจะไปติดต่อลูกค้าด่วนที่บาหลี
"อีกไม่กี่วันก็ปีใหม่แล้ว แม่เลื่อนไปหลังปีใหม่ไม่ได้เหรอ? หยาอยากไปดิสนีย์แลนด์"
"ไม่ได้หรอกเขามีกำหนดไปสิ้นปีพอดี แม่จำเป็นต้องหาเงินให้ได้เร็วที่สุด ลูกๆก็รู้สถานะของพวกเราในตอนนี้ดีไม่ใช่เหรอ?"
...สองเดือนที่ผ่านมา...
'หยก! ผมว่าเราสองคนคงไปด้วยกันไม่รอดแล้วล่ะ'
'คุณหมายความว่าไง?'
'ผมจะขอหย่า!'
'คุณคิดจะทิ้งฉันกับลูกๆไปทั้งที่กำลังลำบากอย่างนี้เหรอ ใจคุณทำด้วยอะไร?'
'ผมตามแก้ปัญหาให้คุณมามากพอแล้ว จบสิ้นกันเสียที'
ธุรกิจสปาของฉันกำลังจะล้มเพราะการท่องเที่ยวชะงักจากการเกิดโรคระบาด แถมสามีจะขอหย่าอีก คงอยากไปอยู่กับนังแพทยานั่นเต็มที ฉันรู้อยู่เต็มอกรู้มานานแต่แกล้งทำเป็นโง่เองเพราะสงสารลูกๆ สันดานผู้ชายลำบากมาด้วยกันพอสบายเข้าหน่อยก็ติดลมบน ลืมตัวลืมตนลืมคนที่เคยร่วมทุกข์กันมา จะทิ้งให้ฉันต้องรับกับปัญหาและภาระเพียงลำพัง ภพชาติก่อนฉันคงเคยได้สร้างเวรกรรมบางอย่างเอาไว้มันถึงตามกลับมาสนองแบบนี้ ฉันบอกความจริงกับลูกๆว่าฉันจะหย่ากับพ่อของพวกเขา ลูกๆรับไม่ได้และขออยู่กับฉันแต่เพียงคนเดียว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉันเลิกสนใจเรื่องของสามี คอยมองหาแต่ช่องทางที่จะสามารถทำรายได้ให้กับครอบครัว(ที่เหลืออยู่)
ในสถานการณ์ที่มืดมิดและไร้ทางออกนั้น กลับมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาจากปลายทางของอุโมงค์ให้ฉันได้มีความหวัง
...!!!ถ้าคุณกล้าเราขอท้า!!!...
...พีลีแกนเรียลลิตี้มิติใหม่ของการผจญภัย...
...13วันบนเกาะร้างชิงเงินรางวัล400,000บาท...
...ไม่มีกติกาขอแค่ใจกล้าและทักษะเอาตัวรอด...
...*สอบถามและกรอกใบสมัครได้ที่www.pilican.net*...
...(รับเพียง13คน อย่าช้าคลิกเลย!)...
เพราะฉันคือหนึ่งในสิบสามคนผู้โชคดี
แรงลมจากใบพัดเฮลิคอปเตอร์พัดเส้นผมที่รุ่ยร่ายมาปะแปะใบหน้าที่เหนียวเหนอะจากละอองเกลือในน้ำเค็มของมหาสมุทร หลังนั่งคลื่นเหียนกลางอากาศมาประมาณสี่ชั่วโมงกว่า ฉันกับผู้ร่วมทัวร์นาเม้นต์อีกสิบสองคนก็มาถึงเกาะกลางทะเลที่ไหนสักแห่ง ทุกคนได้สัมภาระประจำตัวคนละชุด มี เต็นท์1, ถุงนอน1, เสื้อชูชีพ1, มีดพก1, ไฟแช็ก1, ไฟฉาย1, หม้อสนาม1, กระติกน้ำ1, เบ็ดตกปลา1, และอาหารแห้งจำนวนหนึ่ง ส่วนเสื้อผ้าต่างคนต่างนำมาเอง ฉันคัดเอาแต่กางเกงยีนส์ขายาวกับเสื้อยืดมาห้าชุด เสื้อกันหนาวไหมพรมสองตัว และรองเท้าผ้าใบพื้นยางสามคู่
ก่อนที่ผู้ดำเนินรายการจะกลับไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์เขาได้ย้ำถึงเงื่อนไขให้พวกเราฟังอีกครั้ง
"ไม่มีกติกา,เอาตัวรอดให้ได้,ถ้าต้องการถอนตัวหรือมีเหตุฉุกเฉินให้ไปที่ประภาคารท้ายเกาะ มีใครสงสัยอะไรอีกหรือไม่? "
"แล้วกล้องถ่ายทำอยู่ตรงไหนบ้างคะ? "เด็กสาวผมม่วงดูท่าทางมั่นใจถามขึ้น
"ไม่มี! รายการของผมถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมสำหรับผู้มีทุนในการรับชมเท่านั้นไม่ถ่ายทอดสู่สาธารณะให้ดูฟรีๆ... เพราะฉนั้นขอให้พวกคุณตั้งใจกันอย่างเต็มที่ให้สมกับเงินรางวัลของผู้ร่วมลงทุน..ขอให้ทุกคนโชคดี!" เมื่อไม่มีใครข้องใจอะไรอีกผู้ดำเนินรายการและทีมงานพากันขึ้นเฮลิคอปเตอร์กลับทันที ทิ้งผู้เข้าแข่งขันให้ได้ดำเนินกิจกรรมของตัวเอง
ฉันได้ฟังแล้วรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มันก็แค่เรียลลิตี้โชว์แข่งขันชิงเงินรางวัลในแบบฉบับของพวกเศรษฐี
ผู้เข้าแข่งขันต่างแนะตัวเองต่อกัน
1.ใบตอง(ญ.25)
2.เอพริล(ญ.19)*เด็กผมม่วง*
3.นนท์(ช.21)
4.ภูผา(ช.34)
5.อนันต์(ช.34)
6.อันนา(ญ.28)*ลูกครึ่ง*
7.กวิน(ช.29)
8.หนิง(ญ.25)
9.แมท(ช.20)
10.มะลิ(ญ.23)
11.ธันวา(ช.30)
12.เพิร์ล(ญ.27)
13.หยก(ญ.42)*ฉัน*
"ใครแก่แล้วคิดว่าไม่ไหวจะสละสิทธิ์ตอนนี้เลยก็ได้นะ เดี๋ยวเป็นลมหน้ามืดขึ้นมาจะแย่" ยัยเอพริลพูดแซะแล้วปรายหางตามาทางฉัน ยัยเด็กไร้มารยาท.. ชิ! ฉันทำเป็นหูทวนลมลุกขึ้นแบกเป้สัมภาระออกไปหาทำเลที่ตั้งเต็นท์ก่อนตะวันจะหมดแสงเสียก่อน ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยอย่างนี้มักจะมีอันตรายแอบแฝงอยู่เสมอ
ฉันแบกสัมภาระ(อย่างทุลักทุเล)เข้าไปในป่า โดยพยายามเลาะเลียบไปตามแนวชายหาดเพื่อไม่ให้หลงเข้าไปในป่าลึกจนเกินไป ฉันเลือกเอาทำเลที่พักบริเวณหน้าผาหินเตี้ยๆใกล้กลับอ่าว ฉันกางเต็นท์ที่ใต้ต้นไทร(หรือต้นอะไรสักอย่างที่มันอยู่ในวงศ์ใกล้เคียงกัน) การกางเต็นท์ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้ แม้ว่ามันอาจจะเอียงไปบ้างนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าผ่าน
ฉันรีบมุดเข้าที่พักรื้อเอาข้าวของออกมาจัดไว้ให้เป็นระเบียบก่อนจะออกไปหาน้ำจืดและเก็บฟืนมาไว้ก่อกองไฟ
... วันแรก...ทุกอย่างถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี อีกสิบสองวันที่เหลือก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ฉันหยิบเอาสมุดไดอารี่ขึ้นมาเขียนทุกอย่างเอาไว้ก่อนจะยัดตัวเองเข้าถุงนอน อากาศที่นี่มันหนาวกว่าที่ฉันคิดเอาไว้
เสียงนกร้องเซ็งแซ่จนฉันทนนอนไม่ได้อีกต่อไปจึงลุกออกไปนอกเต็นท์ ฟ้ายังมืดอยู่มีเพียงแค่แสงจางๆอยู่ตรงเส้นขอบฟ้าเท่านั้น กองไฟที่จุดไว้เมื่อคืนมอดลงหมดไปแล้ว อากาศรอบๆตัวเป็นไอหมอกลอยเอื่อยจนเห็นได้ชัดเจนและมันหนาวมาก ฉันจึงจำใจที่จะต้องกลับเข้าไปนอนฟังเสียงนกต่อ
แสงแห่งรุ่งอรุณสาดจ้าสว่างไปทั่วทั้งผืนฟ้า ฉันจัดแจงพับถุงนอนเก็บ หยิบเอากระติกน้ำดื่มขึ้นมาสะพาย เอาอาหารกระป๋องสำเร็จรูปใส่เป้ เหน็บมีดพกไว้ที่เข็มขัด ฉันพร้อมทำภารกิจแล้ว อันดับแรกของวันนี้ฉันต้องหาแหล่งน้ำจืดให้เจอก่อนน้ำที่ทางทีมงานให้ไว้จะหมดลง
ฉันเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ มองหาสิ่งของต่างๆที่ลอยมาติดอยู่ตามริมหาดเผื่อว่าพวกมันจะใช้ประโยชน์ได้บ้าง ฉันไล่เก็บขยะไปเรื่อยจนแสงแดดเริ่มแรงจึงไปหยุดพักยังแนวชายต้นไม้ ฉันมองสำรวจไปรอบๆพบว่ามีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่เยอะมาก แต่จะมีปัญญากินมันไหมนี่แหละคือปัญหา ฉันเทของที่เก็บมาจากริมหาดออกมาจากกระสอบขาดๆ มีเศษขยะถุงพลาสติกหลากสี ขวดน้ำอัดลมหกขวด อวนขาดๆทีพันกับเชือกอยู่เป็นก้อน ฉันค่อยๆเอามีดพกตัดอวนทิ้งแล้วแก้เชือกออกมาผูกกับขวดน้ำอัดลมและมัดพวกมันรวมกันไว้เป็นพวงให้สะพายบ่าได้
ฉันไม่ยอมเสียเวลาทิ้งไปเปล่าๆรีบเดินเข้าไปสำรวจในป่าทันที โดยไม่ลืมที่จะใช้เชือกมัดเศษขยะถุงพลาสติกที่เก็บมาผูกไว้ตามต้นไม้เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ด้วย
แสงแดดแรงขึ้นเรื่อยๆท้องเริ่มส่งเสียงประท้วงว่าควรจะพักแล้วหาอะไรกินได้แล้ว ฉันตัดสินใจหยุดพักกินอาหารและคิดไปด้วยว่าบนเกาะแบบนี้แหล่งกำเนิดน้ำจืดมันจะอยู่ที่ไหนได้บ้าง
1.มาจากใต้ดิน ไม่! เปอร์เซ็นต์ต่ำเพราะล้อมลอบไปด้วยน้ำเค็ม
2.แอ่งที่กักเก็บน้ำจากฝนที่ตกลงมาตอนฤดูฝน ใช่! เปอร์เซ็นต์มีมากพอ แล้วจะดูจากอะไรเป็นจุดสังเกตดีล่ะ อืม! ตรงไหนมีน้ำอยู่ต้นไม้ก็ต้องหนาแน่นกว่าตรงอื่นสินะ แล้วจะดูยังไง?.... ฉันหันไปรอบๆเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีกิ่งก้านแผ่ออกมากมาย
ฉันค่อยๆปีนไต่ตามกิ่งต้นไม้ขึ้นมาเรื่อยๆยิ่งสูงขาก็ยิ่งสั่น มองลงไปข้างล่างใจสั่นยิ่งกว่าขาพาลจะทำให้หน้ามืดตาลาย กลัวขนาดใหนก็ต้องข่มใจเอาไว้ไต่ขึ้นไปจนเกือบถึงยอด ความสูงคงจะร่วมๆสิบกว่าเมตร ฉันมองสำรวจไปรอบๆอย่างพิจารณาห่างออกไปไกลๆมองเห็นประภาคารอยู่ลิบๆตรงนั้นก็คือท้ายเกาะ ฉันสังเกตว่าตรงอ่าวที่อยู่ถัดไปจากจุดที่ฉันอยู่ประมาณหนึ่งกิโลเมตรมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นและเขียวชอุ่ม ฉันไต่ลงมาจากต้นไม้ลงมาอย่างทุลักทุเลกว่าขาขึ้น และเดินเลียบหาดมุ่งไปทางนั้นทันที
แต่เมื่อมาถึงก็ได้รู้ว่ามันดูน่าอันตรายขนาดไหนเพราะเป็นหน้าผาหินปูนตั้งตะหง่านอยู่ชิดกับทะเลชายหาดเป็นโขดหินแหลมคมผุดขึ้นมาจากใต้น้ำมากมาย แถมคลื่นยังซัดโถมใส่อย่างบ้าคลั่งอยู่ตลอดเวลา ฉันตัดสินใจเดินกลับที่พักตั้งใจมาใหม่พรุ่งนี้แต่เช้ามืดในช่วงที่น้ำลง และลองเก็บลูกมะพร้าวแห้งที่หล่นอยู่กับมาที่พักด้วย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!