แปลกไหมที่ฉันเป็นเลขาที่ไม่สนิทกับเจ้านายตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว...
มันเป็นความผิดของเราทั้งคู่ที่ต่างรู้ดีว่าเราอยู่ในฐานะอะไร แต่เราก็ยังกล้าทำให้มันเกินเลยไปมากกว่านั้นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่อีกประเด็นคือเราไม่หักห้ามใจตัวเองเสียมากกว่า
ฉันกับเขาก็เลยได้เป็นวันไนท์สแตนกันภายในคืนนั้น และคืนเดียว...
เขาขอให้ฉันลืมเรื่องนี้ไปทำเหมือนกันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และฉันก็ทำมันได้ดี ดีเสียจนมันทำให้เราเป็นเจ้านายและลูกน้องที่ไม่สนิทกัน
แม้ว่าฐานะในที่ทำงานเราควรเข้าใจกันมากที่สุด
แต่ก็นั่นแหละ ฉันทำตามหน้าที่ของฉันอย่างดี ไม่มีข้อบกพร่อง และฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตามรังควานผู้ชายที่มีอะไรด้วยหรอกนะ มันดูไม่ใช่ตัวฉันเลย
แต่ใครจะไปรู้เมื่อจู่ๆ เกาะทางใต้ที่เจ้านายไปประมูลมาได้ก็มีเหตุที่ต้องเจ้าไปแก้ไข โดยที่จริงแล้วเขานั้นเลือกที่จะไปคนเดียวก็ได้ แต่... ไม่เลย
เขาเลือกฉัน
มันไม่แปลกหรอกที่เขาจะเลือกเลขาไปด้วย แต่จิตใต้สำนึกของฉันบอกว่ามันไม่ดีสักเท่าไหร่ เหมือนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
" ที่ฉันให้เธอไปด้วย ฉันไม่ได้คิดอะไรพวกนั้น " จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมาในระหว่างที่ฉันกำลังเตรียมเอกสาร
" ค่ะบอส แคลร์รู้ดีค่ะ มันเป็นหน้าที่นี่คะ " ฉันหันไปส่งยิ้มบางๆให้กับเขา แต่ก็ไม่ได้รับรอยยิ้มกลับคืนแต่อย่างใด
มันเป็นปกติ ไม่เคยมีใครได้รับรอยยิ้มจากเขา ไม่รู้ว่ามาทำธุรกิจที่ต้องเข้าหาคนเยอะไปได้ยังไงกัน มนุษยสัมพันธ์ก็แทบไม่มี
" หวังว่าเธอจะทำหน้าที่ได้ดี และไม่รื้อฟื้นเรื่องวันนั้น " ฉันรอบถอนหายใจ แต่ว่าเหมือนเขาจะได้ยิน สายตาที่เย็นชาก็ได้จ้องมองมาที่ฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
" เหตุผลอะไรที่ทำให้เธอไม่พอใจ " ใครว่าฉันไม่พอใจ...
" ฉันรู้ดี แต่ว่าการที่ฉันถอนหายใจไม่ได้แปลว่าฉันไม่พอใจนะคะ " ครั้งนี้ฉันหันไปจ้องหน้าเขาเหมือนกัน ฉันน่ะไม่ใช่คนยอมคนง่ายๆนะ ยิ่งเขามีอารมณ์มาแบบนั้น ฉันยิ่งใจเย็นไม่เป็น
เขาไม่ตอบเพียงแต่เดินออกจากห้องทำงานไป ปล่อยให้ฉันยืนอยู่กับอากาศในห้อง
แล้วไง ฉันชินแล้ว
บทที่ 1
ฉันต้องรีบทำเอกสารของบประมาณที่เราจะไปแก้ไขเกาะทางใต้ที่ทางบริษัทไปประมูลมาได้ เพราะว่าตอนนี้เวลาได้บีบรัดเข้ามาแล้ว อีกอย่างเจ้านายก็เร่งให้ฉันทำให้เร็วที่สุด
แนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยแล้วกัน ฉันน่ะชื่อ แคลร์ มานิตา แวดสว่างกลู อายุยี่สิบห้าปีเต็ม ทำงานเป็นเลขาของบริษัทซีทราวน์ จำกัด เป็นบริษัทเกี่ยวกับทางทะเลทั้งหมด
และฉันก็เป็นเลขาที่มีความสัมพันธ์ที่เรียกว่า วันไนท์สแตนกับเจ้านายตัวเอง
ช่างมันเถอะ ฉันควรลืมเรื่องนั้น
ส่วนในเรื่องของเอกสารนั้นฉันทำเกือบจะเสร็จหมดแล้วเหลือแค่เพียงขอลายเซ็นต์ของเจ้านาย คริสเตียน ดอนร์
ฉันต่อสายโทรศัพท์ไปยังห้องของผู้เป็นเจ้านายเพื่อถามความสะดวก ไม่นานนักปลายสายก็รับโทรศัพท์แต่มีเพียงเสียงเงียบ นั่นก็เพราะต้องการให้ฉันพูดก่อนสินะ
" แคลร์นะคะ... "
" เข้ามา " ฉันยังพูดไม่ทันจบปลายสายก็พูดแทรกประโยคดังกล่าวขึ้นมา
เอกสารสามถึงสี่ฉบับอยู่ในมือของฉันเป็นที่เรียบร้อย หลังจากวางสายฉันก็รีบเข้าไปภายในห้องทันที
ร่างสูงของเจ้านายยืนรอฉันอยู่ที่หลังประตู ฉันแอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นอย่างนั้น ฉันสูงแค่เพียงกลางอกของเขาเท่านั้น เขาจึงไม่เห็นสีหน้าของฉันตอนนี้ และเช่นกันฉันก็ไม่เห็นใบหน้าของเขา
" บอสคะ คือว่าแคลร์เอาเอกสารมาให้เซนต์น่ะค่ะ "
เขาหยิบเอกสารทั้งหมดออกไปจากมือชงฉันโดยที่ไม่พูดอะไร ร่างสูงหย่อนตัวนั่งที่เก้าอี้ของผู้บริหารอย่างสง่า ปลายปากกาบรรจงเซนต์ลงบนกระดาษอย่างตั้งใจ
ฉันจดจ้องการกระทำนั้นอยู่นาน นาน... เท่าไหร่ไม่รู้ พอรู้ตัวอีกทีก็มีเสียงดีดนิ้วของคนตรงหน้าดังขึ้น
ปิ้ง!
ฉันสะดุ้งและกลับเข้าสู่โหมดจริงจัง
" เธอจะห้ามใจตัวเองได้ยังไง แค่นี้เธอยังเผลอใจไปกับฉันเลย " โอ๊ะ! ไปเอาความหลงตัวเองแบบนี้มาจากไหนนะ
" เดี๋ยวนะคะ แคลร์ว่าบอสต้องเข้าใจอะไรแคลร์ผิดไป " ฉันหลอกตามองบน " แคลร์กำลังคิดเรื่องงาน ไม่มีเวลาคิดอะไรแบบที่บอสคิด "
เขายกยิ้ม ฉันน่ะช่างเกลียดรอยยิ้มแบบนี้จริงๆ ไม่ใช่แค่เขานะ แต่เป็นกับผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ ฉันไม่มีความจำเป็นที่ต้องเจาะจงเกลียดเขาสักนิด
จริงไหม!
" เหรอ "
ถามจริง เขาคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ติดเซกส์ขอฃเขาอย่างนั้นเหรอ ไม่เลย ฉันลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันรู้สึกยังไง อีกอย่างเราต่างคนก็ต่างเมาจะไปจำรายละเอียดอะไรได้มากขนาดนั้น
เขาเองนั่นแหละที่ควรลืม และไม่ควรพูดถึงมันอีก
" แคลร์ต้องรีบไปสรุปรายงานต่อค่ะ " ฉันว่าแค่นั้นแล้วออกมาจากห้องของเขา ไม่รู้ว่าหลังจากที่ฉันออกมาแล้วเขาจะพูดอะไรลับหลังหรือเปล่า แต่ช่างเถอะ คงจะเป็นคำพูดของคนขี้เพ้อแบบเขาอยู่แล้ว
" ฮาย เลขาแคลร์คนสวย รู้สึกยังไงบ้างจ๊ะที่จะได้ไปเกาะกับบอส~ " ฮันนี่ทำเสียงสยิวกิ้ว ส่วนฉันก็มองบนรัวๆ
" ก็ไม่ยังไง มันหน้าที่เลขา ถ้าเธออยากไปก็ไปบอกบอสให้ไล่ฉันออกแล้วเธอก็มาเป็นแทนสิยะ " ฉันพูดแทรกขำ เพื่อไม่ให้มันดูเป็นการประชด
แต่การที่ฉันพูดแบบนี้มันก็น่าเสี่ยงมากเลยล่ะ เพราะผู้หญิงล้านเปอร์เซ็นต์ของบริษัทก็อยากจะกินเจ้านายตัวเองทั้งนั้น
" บ้าเหรอ ทำแบบนั้นจะคุ้มอะไร " ฮันนี่วางใบงบประมาณอีกส่วนหนึ่งลงให้กับฉัน แต่ที่จะได้สรุปผลพร้อมกัน
" ฮันนี่ ถ้าเธออยากกินบอส เย็นวันศุกร์เธอก็ลองไปผับเอ็กซ์บาร์สิ ได้กินสมใจแน่ "
ฉันแนะนำเพราะคิดว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ยังไงเจ้านายคนเก่งคนดีก็ไม่ได้คิดอะไรเหมือนกันนี่นา การที่เขาจะหน้ามืดตามัวเอาลูกน้องอีกสักคน คงไม่ใช่เรื่องแปลก แค่บอกให้ฮันนี่ปิดปาก เธอก็ไม่หลุดคำพูดออกมาหรอก ฉันรู้....
บทที่ 2
คริสเตียน
ผมกับเลขาที่ชื่อแคลร์อะไรนั่น ไม่มีโกรธหรือมีปัญหาส่วนตัวกันหรอก แค่มีความสัมพันธ์บางอย่างที่ผมอยากจะให้เธอลืมมันไป และดูเหมือนว่าเธอจะทำมันได้ดี
แม้บางครั้งต่อหน้าผมเธอจะมีอาการหลุดลอยราวกับว่าคิดถึงเรื่องคืนนั้น
ผมรู้ ว่าไม่มีใครลืมรสชาติเซกส์ของผมได้ลงสักคน และทุกครัังจะมีคนเรียกร้องให้ผมทำมัน แต่กลับกันผมก็ไม่ได้ทำให้ใครง่ายๆ ถือว่าเลขาที่ชื่อแคลร์มีบุญที่ได้นอนกับผมน่ะนะ
ส่วนตัวผมก็ควรจะลืมมันไปเพราะไม่อยากให้มันกระทบกับเรื่องงานเสียเท่าไหร่ ตอนนี้ผมกับเธอก็แทบจะไม่สนิทกัน บางส่วนก็มาจากเรื่องนั้น
ผมไม่ได้อยากสานสัมพันธ์ต่อ แต่ไม่ใช่เพราะว่าเธอไม่ตรงตามความต้องการของผมนะ เธอมีครบทุกอย่างตามที่ผมอยากได้มาเป็นคู่ชีวิตเลย เพียงแต่ผมคิดว่าเราควรหยุดแค่นี้
ผมกับเธอต้องไปทำงานที่เกาะทางใต้ด้วยกันเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือน นั่นอาจจะทำให้เราสนิทกันมากขึ้นในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง มีอะไรเธอจะได้เอ่ยปากบอกผมบ้าง ทุกวันนี้เธอเบี่ยงที่จะพูดเรื่องงานกับผมหลายครั้ง และส่งตัวแทนมาพูดคุย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจ...
ทั้งที่ตำแหน่งของเธออยู่ใกล้ผมมากที่สุดแล้ว
" บอสคะ คือบอสสะดวกพักห้องรวมหรือว่าห้องแยกคะ "
ผมว่าจะออกไปทานข้าวด้านนอกกับลูกค้าแต่พอมาถึงเพียงแค่หน้าลิฟท์ก็โดนฮันนี่หนึ่งในพนักงานบริษัทเพื่อนของแคลร์มาดันหน้าไว้เสียก่อน
อีกอย่าง เรื่องแบบนี้ไม่ใช่หน้าที่เธอที่จะมาถามผม คนที่ควรถามนั่งอยู่หน้าห้องทำงานผมต่างหากล่ะ
ผมมองเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งไร้คำตอบ
" เอ่อ... แคลร์ฝากถามค่ะ " คนอย่างแคลร์น่ะเหรออยากจะรู้อะไรพวกนี้ เธอมันสันโดดจะตาย
" ถ้าเพื่อนเธอฝากถามจริงๆ ฉันจะเอาคำตอบไปบอกเอง " เธอยิ้มเจื่อนให้กับผมพร้อมกับเดินเบี่ยงตัวออกไป
ก่อนจะออกมาผมก็ไม่ลืมที่จะปรายตามองที่เลขาว่าเธอนั้นจะมีกระจิตกระใจถามผมสักนิดหรือเปล่าว่าจะออกไปไหน กลับเมื่อไหร่ เหมือนที่เลขาคนอื่นทำกัน แต่ไม่เลย เธอนิ่งเสียยิ่งกว่าอะไร
" ฉันจะไปทานข้าวกับลูกค้า " ผมพูด
" ค่ะ แต่วันนี้จะมีแขกมาพบตอนสี่โมง " เธอพูดทั้งที่ดวงตากลมโตยังจ้องมองอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ว่ามีธุระหรืองานอะไรนักหนาเพราะผมไม่เคยให้งานพนักงานที่นี่เยอะเลยด้วยซ้ำ
" ก็ถ้าฉันกลับมาไม่ทัน เธอก็เลื่อนนัดให้ฉันแล้วกัน " เธอหันมากรอกตาใส่ผมพร้อมกับถอนหายใจตามสเต็ป
" บอสเลื่อนแขกรายนี้มาสามครั้งแล้วนะคะ " ก็จริง
แต่แล้วยังไงก็ธุระตรงนี้ของผมมันสำคัญกว่าการมานั่งตื้อให้ยอมขายที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผมไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด ผมวางแผนไว้หมดแล้วว่าจะเปิดกิจการอะไร จะขยายพื้นที่ค้าขายแบบไหน
ทำเลตรงนั้นถือว่าดีมาก ถ้าใครได้ไปก็ยิ่งกว่าถูกหวย
" ฉันสั่ง " ผมเอ่ยเสียงเรียบ
เธอไม่ตอบอะไรเพียงแต่หันหน้ากลับไปสนใจงานของเธอต่อ ผมก็ไม่พูดอะไรเช่นกันเพราะตอนนี้ลูกค้าก็รอนานมากแล้ว
ไม่นานนักผมก็มาถึงโรงแรมที่นัดกับลูกค้าไว้ ผมคุยงานกันในชั้นธุรกิจที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ผมไม่ได้มาสายไปแต่อย่างใดเพราะทางลูกค้าก็เพิ่งมาถึง
คุยงานเบ็ดเสร็จก็ห้าโมงครึ่ง ปานนี้แขกรายนั้นที่จะมาคุยกับผมคงกลับไปแล้ว และตอนนี้พนักงานบริษัทก็ทยอยกันกลับบ้านแล้ว ส่วนผมก็เคลียร์งานอีกนิดหน่อยแล้วจะกลับช้ากว่าทุกคน
แต่ผมต้องยกความดีความชอบในการทำงานให้กับเลขาของผมนะ เพราะขนาดเวลาเลิกงานเธอยังมัวแต่ทำงานอยู่เลย
" เลิกงานแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้าน " เธอไม่แม้แต่จะสนใจผม
" กลับยังไง " ผมถามในฐานะเจ้านายที่เป็นห่วงลูกน้อง แต่ดูเหมือนเธอยังก็เมินอยู่ดี " มานิตา! "
" แคลร์ก็ได้ค่ะ " เล่นมุขนี้ทีไรได้ผลทุกที
" ก็เธอไม่ตอบฉัน "
" ฉันต้องสรุปเล่มภายในวันนี้บอสสั่งเองตั้งแต่เช้า และฉันนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านค่ะ " ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ว่าแต่ผมสั่งงานเธอไปผมก็ลืมไปแล้วเหมือนกัน
" งั้นเดี๋ยวฉันไปส่ง แล้วสรุปค่อยเอามาให้ฉันพรุ่งนี้ "
" มะ... "
ไม่รอให้เธอพูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมไปยังลานจอดรถเพื่อที่จะไปส่งเธอ ผมรู้ว่าเธอจะปฏิเสธ และผมไม่ชอบให้ใครปฏิเสธความตั้งใจของผม
เพราะผมไม่ได้ใจดีบ่อย...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!